ผญา คติสอนใจประจำวันที่ 26 เมษายน 2568:: อ่านผญา 
คันได้ขึ้นนั่งบ้านเป็นเอกสูงศักดิ์ อย่าได้โวๆ เสียงลื่นคนทั้งค่าย แปลว่า หากได้เป็นใหญ่ปกครองคน อย่าได้หลงอำนาจ ไม่ฟังความเห็นคนอื่น หมายถึง เป็นผู้นำ ควรรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น

นิทานพื้นบ้านอีสาน  

เซียงเมี่ยง...เซียงเมี่ยงติดคุกเย็น (นิทานพื้นบ้าน---อีสานจุฬาฯ)
เซียงเมี่ยง..บั้นกลาง

  หน้าก่อน หน้าถัดไป
๒๖.เซียงเมี่ยงติดคุกเย็น


พระราชาเจ้า ในหลวงผู้ยศใหญ่ พร้อมทั้งอำมาตย์ไท้ เสียทีที่ได้ดมตด...

พระราชา ถืกเซียงเมี่ยงตั๋วให้ดมตด กะโมโหอย่างคัก ถึงเซียงเมี่ยง สิอธิบายแก้โตได้อย่างน้ำขุ่น ๆ แต่ว่าตดกะได้ดมไปแล้ว สิบ่ลงโทษมัน เดี๋ยวมันสิย่าม กะเลยสั่งลงโทษเซียงเมี่ยงว่า

“ ทหาร เอาบักเซียงเมี่ยง ไปขังไว้ในคุกเย็น เป็นเวลาหนึ่งคืน เดียวนี้”

คุกเย็น เป็นคุกที่สร้างพิเศษ เพื่อขังทรมานคนผู้ทำความผิด อยู่ในคุกเย็น มันกะเย็นจ้อย ๆ จนผู้ที่ถืกขัง เย็นหนาวสั่นไป พุ่นแหล่ว ซัวสิได้ออกจากคุกเย็น กะพากันแหล่ซีดไปตาม ๆ กัน นั่นแหล่ว

ปกติแล้ว ผู้ได๋ได้ยินคำตัดสิน ให้ถืกขังคุกเย็น กะต้องย่านอย่างคัก หน้าถอดสีพุ่นล่ะไป๋ แต่ว่าเซียงเมี่ยง เลาเฮ็ดหน้าเสย คือจั่งบ่ย่านคุกเย็นนี่ล่ะ (ฮึแมนเฮ็ดใจดีสู้เสือ.. ทำทรงตีหน้าเสย ไปซือ ๆ บุล่ะหวา)

กะจั่งว่านั่นล่ะเนาะ...

ทุกปัญหา ย่อมมีทางออก ........... (สำหรับคนฉลาดคิด)

ทุกทางออก ย่อมมีปัญหา .......... (สำหรับคนบ่ฉลาดคิด)

ทหาร กะพาเซียงเมี่ยง ย่างไปจนฮอดคุกเย็น แล้วกะถอดเสื้อผ้าเซียงเมี่ยงออก เอาผ้าขาวม้าบาง ๆ ให้ไว้ผืนนึง สำหรับนุ่ง แล้วกะเอาเซียงเมี่ยง เข้าขังคุกเย็น ปิดประตู ใส่กุญแจเรียบร้อย

เซียงเมี่ยง นุ่งผ้าขาวม้าบาง ๆ ย่างเข้าคุก... อากาศกะเย็นจ้อย ๆ เนาะ …

มื้อนั่น ในคุกเย็นห้องนั้น มีนักโทษ ติดคุกอยู่ก่อนแล้วสองคนเด้ สองคนนั้น พากันนั่งอยู่คนละมุม เอาผ้าขาวม้าสำหรับนุ่งขึ้นมาห่ม แล้วกะนั่งเฮ็ดขดจ่องหง่อง สั่นทด ๆ เป็นตาหลูโตนซาดคือหยัง นี่ตั้ว

เซียงเมี่ยง กะเริ่มรู้สึกหนาวใน ๆ ใจสะท้าน ซั่นแหล่ว เอามือกอดเอิ่กแล้ว กะบ่หายหนาว ..... โอ.. สังมาคิดฮอดผ้าห่มหนา ๆ เด้.. สังมาคิดฮอดกองไฟอุ่นๆ เด้... สังมาคิดฮอดผู้สาวเด้ .... (เอ้อ คิดไปโลด คิดแล้วมันกะบ่หายหนาวดอกเด้อ)...

เซียงเมี่ยง เลากะเลยเหน็บหางกะเตี่ยวดี ๆ แล้วกะกะโดดโลดเต้น แล่นไปแล่นมา ชกลม ตีอากาศเล่นอยู่ผู้เดียว จนร่างกายเริ่มอุ่นขึ้น

เลาเหลียวแนมเบิ่งอีกสองคน ที่นั่งหนาวสั่นอยู่ กะหลูโตน ... เทิงจะของเล่นอยู่ผู้เดียว กะเบื่อนำล่ะหวา... กะเลยชวนสองพะหน่อนั่น มาเล่นบักป้ำกัน สะล่ะล่ะ

เซียงเมี่ยงกับสองพะหน่อ เล่นป้ำกัน จนฮอดเซ้ากั๊ก กะยังว้ากะยังว่า

พอฮอดเซ้า ทหารกะมาเปิดประตู เห็นทั้งสามคน กอดป้ำกันมะลึ่งตึ่งตั่ง อยู่ กะเข้าใจว่า นักโทษทะเลาะกัน ตีกัน กะฟ้าวแล่นเข้าไปห้าม ไปแยกออก

เซียงเมี่ยงกะหัวร่อ บอกว่า “บ่ได้ทะเลาะกัน บ่ ได้ตีกันดอก เล่นกันม่วน ๆ ออกกำลังกายแก้หนาว ซื่อๆ”

จากนั้น ทหารกะนำโตเซียงเมี่ยง ไปเฝ้าพระราชา ก่อนปล่อยกลับบ้าน

พระราชาคาดหวังว่า สิเห็นเซียงเมี่ยงหน้าซีด ปากซีด โตซีด จนย่างบ่ได้ เด้... พอเซียงเมี่ยงมาฮอด มันบัดบ่เป็นจั่งซั่น ผัดเห็นเซียงเมี่ยง หน้าตาสดใส เหงื่อไหลพร้อม กะเลยถามทหารว่า

"บ่ได้เอาบักเซียงเมี่ยงไปขังคุกเย็นตี้?”

ทหารกะเลยเว้าให้ฟัง..... พระราชากะคึดในใจ “บักเซียงเมี่ยงน้อบักเซียงเมี่ยง เอาโตรอดจนได้.. บักอั่นนี้ คือสำมะคันแท้ว้า ” จากนั้น กะออกกฎว่า

“ คุกเย็น ห้ามขังนักโทษไว้นำกันเกินหนึ่งคน ”

แล้วกะปล่อยเซียงเมี่ยงกลับเมือเฮือน

  หน้าก่อน หน้าถัดไป

 
Creative Commons License

ชมรมอีสานจุฬาฯ... นิทานพื้นบ้านอีสาน