มื้อนึง พระราชา เพิ่นเสด็จประพาสทางชลมารค พร้อมทั้งพวกเสนาอำมาตย์ทั้งหลาย... นั่งเฮือไปเที่ยว ตางหาเบิ่งทุกข์สุข ของชาวบ้านชาวเมือง นำนั่นล่ะ... เซียงเมี่ยง กะได้ไปนำขาเจ้าคือกันเด้
นั่งเฮือไปเรื่อย เว้านัวหัวม่วนกันไปนำ แนมเบิ่งสองข้างฝั่งน้ำไปนำ เบิกบานสำราญใจกันไปน้อ... นั่งไปนั่งมา นั่งมานั่งไป กะไปฮอดหม่อง หม่องนึง.. แนมไปไกล ๆ เห็นเป็นทิวลิบลับอยู่ ... พระราชากะเลยถามเสนาอำมาตย์ทั้งหลายว่า
ที่แนมเห็นอยู่ไกล ๆ พุ้นน่ะ มันแมนอีหยังล่ะหือ?
เสนาอำมาตย์ทั้งหลาย เคยเทียวไปเทียวมาอยู่แล้ว กะฮู้ดีว่า มันคืออีหยัง กะเลยตอบว่า
ต้นตาล พะเจ้าค่า
เซียงเมี่ยงได้ยินจั่งซั่นกะเลยเถียงว่า
บ่แมนต้นตาลดอกพะเจ้าค่า
พระราชา กะเลยถามพวกเสนาอำมาตย์ทั้งหลายซ้ำอีกว่า มันแมนหยังกันแท้
เสนาอำมาตย์ทั้งหลาย กะตอบเป็นเสียงเดียวกันเหมิดว่า
ต้นตาล ของแท้แน่นอน
เซียงเมี่ยงกะเถียงคือเก่าว่า
บ่แม่นต้นตาล เด็ดขาด
พระราชากะเลยว่า
คันจั่งซั่น พนันกัน ดีบ่ ผู้ได๋แพ้ ต้องถืกจับโยนลงน้ำ ดีบ่.."
ทุกคน ตอบตกลงเป็นที่เรียบร้อยแล้ว กะให้คนพาย พายเฮือไปเบิ่งใกล้ๆ .... พอเข้าไปฮอดใกล้ ๆ
น่าน..น่าน..ต้นตาลอีหลี... เสร็จแน่ ๆ เซียงเมี่ยง คราวนี้ เสร็จแน่ๆ"
พวกเสนาอำมาตย์ ส่งเสียงดีใจเด้ แล้วกะทูลพระราชาว่า
มันกะคือต้นตาล ตามที่พวกข้าพระองค์บอก นั่นล่ะ พะเจ้าค่า
ว่าจั่งได๋เซียงเมี่ยง มีอีหยังสิเถียงบ่ พระราชาถาม
เซียงเมี่ยง กะเลยว่า
ที่เห็นอยู่หม่องนี้ ตอนนี้ มันกะแมนต้นตาลอีหลียุ บ่เถียงดอก.... แต่ว่า พระราชาถามว่า ที่แนมเห็นอยู่ไกลๆ พุ้นน่ะ มันแมนอีหยัง' แมนบ่ล่ะ..... แล้วกะอั่นที่เห็นจากหม่องพุ้น แนมเบิ่งจากหม่องพุ้น น่ะ มันเห็นเฉพาะยอดตาลเด้ บ่เห็นต้นตาล แมนบ่..
ทุกคน พากันเฮ็ดหน้างง แนมเบิ่งหน้ากันไปกันมา เฮ็ดตาล่อกแล่ก ปากบ่ออกจักควม
ฉะนั้น พวกเสนาอำมาตย์ทั้งหลายที่ตอบว่า ต้นตาล น่ะ ผิด... กะบอกแล้วว่า มันบ่แมนต้นตาล มันบ่แมนต้นตาล กะบ่เซื่อกันน้อ หมู่เจ้ากะดาย
พระราชา กะเห็นตามคำอธิบาย ของเซียงเมี่ยง ตัดสินให้ พวกเสนาอำมาตย์ทั้งหลาย แพ้พนัน
เสนาอำมาตย์ทั้งหลาย กะเลยถืกจับโยนลงน้ำ ทั้งชุดงาม ๆ นั่นล่ะ เปียกมอดยอดไปตาม ๆ กัน สะล่ะล่ะ
เล่นกับไผบ่เล่น มาเล่นกับเซียงเมี่ยง ... น้อ...
|