แต่งงานกับนางสีไวลูกสาวนายสำเภา |
พอเรือสำเภาแล่นมาจนฮอดเมืองจำปาแล้ว นายสำเภา กะเว้าถึงเรื่องไปค้าเทื่อนี้ให้ลูกเมียฟังว่า ไปค้าเทื่อนี้ นับว่าโชคดี ได้เด็กหนุ่มเมืองพาราณสีมานำคนนึง เป็นคนขยันขันแข็ง เอาการเอางานดีขนาด เสียอย่างเดียว เว้าแต่เรื่องไร้สาระ ถามคำถามปัญญาอ่อน คือคนบ่เต็มบาท นี่ล่ะ
จากนั้น กะเว้าถึงคำถามที่เสียวสวาดถาม ให้ลูกเมียฟัง
ลูกสาวนายสำเภา ชื่อว่านางสีไว เป็นคนมีปัญญาฉลาด พอได้ฟังคำถามปัญญาอ่อนของท้าวเสียวสวาดจากพ่อ กะบอกพ่อว่า
คำถามที่ท้าวเสียวสวาดถามนั้น บ่แม่นคำถามปัญญาอ่อนดอก คำถามเหล่านั้น เป็นปัญหา ถ้าบ่ฮินตรอง กะบ่เห็น บ่เข้าใจ
เป็นปัญหาแนวได๋ ลูกลองอธิบายให้พ่อฟังดู้
ลูกสาวกะเลยอธิบายให้ผู้พ่อฟังว่า
ที่เลาถามว่า แก่งนี้ มีหินบ่ นั้น เลาหมายถึงว่า ในแก่งนั้น มีเพชรนิลจินดาบ่... ที่เลาถามว่า ดงนี้ มีต้นไม้บ่ นั้น เลาหมายถึงว่า ในดงนั้น มีต้นไม้จันทน์ที่มีราคาแพงบ่... ที่เลาถามว่า บ้านนี้มีคนอยู่บ่ นั้น เลาหมายถึงว่า บ้านนั้น มีคนที่มีวิชาความรู้ในศิลปศาตร์ต่างๆ และศีลธรรมหรือบ่... ที่เลาถามว่า เมืองนี้ มีเจ้าเมืองบ่ นั้น เลาหมายถึงว่า เมืองนั้น มีเจ้าเมืองที่ตั้งมั่นในทศพิธราชธรรมหรือบ่... ที่เลาถามว่า ผู้เฒ่า มีสามขาหรือบ่ นั้น เลาหมายถึงว่า ผู้เฒ่า ยึดมั่นในพระรัตนตรัยหรือบ่... ที่เลาถามว่า วัดนี้ มีพระบ่ นั้น เลาหมายถึงว่า วัดนั้น มีพระภิกษุสงฆ์ที่ประพฤติดีปฏิบัติชอบ รอบรู้พระธรรมวินัยหรือบ่... เลาเว้าเป็นปัญหาลักษณะนี้ล่ะพ่อ บ่ได้ถามคำถามปัญญาอ่อนดอก
ผู้เป็นพ่อได้ฟังคำอธิบายจากลูกสาวแล้ว กะยอมรับ แล้วกะฮู้ว่าท้าวเสียวสวาด เป็นคนมีปัญญาเฉลียวฉลาด... ต่อมา กะยกลูกสาวเจ้าของชื่อว่่านางสีไว ให้เป็นภรรยาท้าวเสียวสวาด
|