๗๓.สองปราชญ์ประลองปัญญาขั้นเด็ดขาด |
หลังจากขุนศรีฯ แพ้คดี เลากะอับอายอย่างคัก บ่เคยมีไผมาฉีกหน้าเลา จนหน้าแตกยับเยิน ปานนี้ แฮ่งคึดแฮงสูน
"บักเซียงป่อง เฮาสองคนต้องได้เห็นดีกัน ไผดีไผอยู่"
ขุนศรีฯ เข้าเฝ้าพระราชา ขออนุญาตจัดงาน ประลองปัญญาขั้นเด็ดขาด กับเซียงป่อง... ผู้แพ้ ต้องออกจากราชการ
พระราชากะอนุญาตตามที่ขอ
วิธีการประลองกะคือ การตอบปัญหา ในคำถามเดียวกัน ไผตอบถืก อยู่... ไผตอบผิด ไป ... ว่าซั่นเถาะ
พอฮอดมื้อประลอง กรรมการ กะเอาบักแตงโมมาหน่วยนึง ให้ขุนศรีฯ กับเซียงป่องเบิ่ง.... แล้วกะถามว่า
"แตงโมหน่วยนี้ ทางในสีหยัง"
(ปกติแล้ว บักแตงโม ถ้ายังบ่สุก ผ่าออกแล้ว สิเห็นเป็นสีขาว ถ้าสุก สิเป็นสีแดง เด้เนาะ.... แต่ว่าแตงโมกะมีหลายพันธุ์ ห่าลังพันธุ์ หน่วยสุก สีขาวกะมี สีเหลืองกะมี สีแดงกะมี เด้ล่ะเนาะ...)
เซียงป่อง พิจารณาแล้ว กะตอบว่า
"สีขาว"
ขุนศรีฯ พิจารณาแล้ว กะตอบว่า
"สีดำ"
... คือบ่มีผู้ตอบสีแดงล่ะหือ? ...พระราชา พร้อมทั้งคนที่มาเบิ่งการประลองปัญญา ต่างกะงงไปตามๆ กัน ว่า เป็นหยังขุนศรีฯ จั่งตอบจั่งซั่น... ต่างกะรอลุ้นอย่างใจหายใจคว่ำ...
จากนั้น กรรมการ กะเอามีดผ่าแตงโมออก กะเห็น ทางในแตงโมสีขาว ....
ท่านผู้ชม กะฮ้องว่า
"เซียงป่องชนะแล้ว เซียงป่องชนะแล้ว"
"ขุนศรีฯแพ้แล้ว ขุนศรีฯแพ้อีกแล้ว"
ขุนศรีฯ กะย่างออกไปยืนอยู่กลางลาน เว้าว่า
"คำว่า ทางใน มันหมายถึง ทางในของเนื้อแตงโมเข้าไปอีก ลองเบิ่งในแตงโมตี้ล่ะ สีหยัง"
กรรมการ กะจก ในแตงโมออกมา ชูให้คนเบิ่ง.... ปรากฏว่า ในแตงโม สีดำ จั่งที่ขุนศรีฯว่าอีหลี..
คนทั้งหลาย กะพากันตบมือให้ พร้อมทั้งฮ้องแซวๆ ว่า
"ขุนศรีฯชนะแล้ว ขุนศรีฯชนะแล้ว"....
ขุนศรีฯ กะยืนยืดอก อย่างสง่าผ่าเผย ว่าเจ้าของชนะ เด้
เซียงป่อง กะย่างออกไปกลางลาน ยกมือให้สัญญาณ บอกให้คนทั้งหลายเงียบสาก่อน ว่าซั่นเถาะ จากนั้นกะเว้าว่า
"คำว่า ทางใน มันบ่ได้หมายถึงแค่ทางใน ของเนื้อแตงโมดอก คำว่า ทางใน มันหมายถึง ทางในของในแตงโมเข้าไปอีก ...ลองผ่าในแตงโมเบิ่งดู้ล่ะ ทางในของในแตงโม สิสีหยัง"
กรรมการ กะเอาในแตงโมมาผ่าออกเบิ่ง ... ปรากฏว่า ทางในของในแตงโม สีขาว จั่งที่เซียงป่องว่าอีหลี ...
คนทั้งหลาย กะพากันตบมือให้ พร้อมทั้งฮ้องว่า
" เซียงป่องชนะแล้ว เซียงป่องชนะแล้ว "
" ขุนศรีฯแพ้แล้ว ในที่สุดขุนศรีฯ กะแพ้อีกแล้ว "
พอฮอดหม่องนี้ ขุนศรีฯ บ่มีทางสิไปต่อ หาหม่องหม่น หาป่องดุดบ่ได้ ในที่สุดกะยอมแพ้ อย่างบ่อยากยอม
บ่อยากยอม กะต้องยอมแหล่วเนาะ ...
ในที่สุด ขุนศรีฯ กะถืกล้ม... เพิ่นจั่งว่า เหนือฟ้า ย่อมมีฟ้า นั่นล่ะ
|