ผญา คติสอนใจประจำวันที่ 9 พฤษภาคม 2567:: อ่านผญา 
ตกกะเทินว่าได้ฮ่ำเฮียนแล้ว ให้เฮียนเหมิดสู่ซ่อง เฮียนให้เพิ่นได้ย่อง เหมิดถ้วนคู่สู่แนว แปลว่า ในเมื่อได้ชื่อว่ามาร่ำเรียนแล้ว เรียนให้หมดให้ละเอียด หมายถึง ศึกษาเล่าเรียนให้รู้ถ่องแท้ช่ำชองในวิชาการที่ตนเรียน

นิทานพื้นบ้านอีสาน  

เซียงเมี่ยง...ให้หาม้าสีฟ้า (นิทานพื้นบ้าน---อีสานจุฬาฯ)
เซียงเมี่ยง..บั้นกลาง

  หน้าก่อน หน้าถัดไป
๓๓.ให้หาม้าสีฟ้า


พระราชา บ่สามารถลงโทษเซียงเมี่ยงได้ กะคึดในใจว่า

“ ฮื้อน้อ... กูน่าสิสั่งให้มันชัดเจนกั่วนี้ น่าสิระบุไปเลยว่า ต้องเป็นซ้างเป็นๆ มีชีวิต ย่างได้ ขึ้นขี่ได้.... เฮาบ่น่าใช้คำว่า ซ้างเผือก เล้ย น่าสิว่า ซ้างด่อน หรือซ้างขาว.... ฮื้อน้อ..... บ่เป็นหยัง เทื่อนี้ มันใช้ปัญญาหามาได้ เทื่อต่อไป อย่าหวังว่าสิหามาได้... เฮอะ..เหย..เจิ๊ด..” แล้วพระราชากะเลยเว้าว่า

“ เรื่องซ้างเผือกงาดำ กูยอมมึง กูบ่ลงโทษมึงกะได้... แต่ว่า มึงต้องหา ม้าสีฟ้าเป็น ๆ ที่มีชีวิต ย่างได้ ขึ้นขี่ได้ มาให้กู ภายในสามมื้อ นับแต่มื้อนี้ คันหามาบ่ได้ มึงต้องถืกลงโทษ”

พวกเสนาอำมาตย์ทั้งหลาย กะหัวย่ามในใจ “คราวครั้งนี้ บ่รอดแน่ๆ เซียงเมี่ยงเอ๋ย”

“ เอาอีกแล้ว พระราชาหาทางเล่นงานเฮาอีกแล้ว... ม้าสีฟ้า จักวะมันอยู่หม่องได๋เหล่ว เฮาสิไปหามาแต่ไส น้อนอ”

ฮอดยามแลง เซียงเมี่ยง พยายามคิดหาทางออก นอนมือก่ายหน้าผาก อยู่นอกชาน ตากะเหลียวเบิ่งดาว ไปพร้อมเด้

 

อีเกิ้งเดือนดาว ผู้สาวตำข้าว ผู้เฒ่าเป่าแคน ตั๊กแตนเป่าปี่ แมงหมี่สูบยา แมงดาฝั่นเชือก ฝั่นเชือกแล้ว สนเคาแมงหมี่ เต้นขึ้นขี่ เอาน้องกอดแอว เสียงแซวๆ เด็กน้อยแล่นเล่น...

 

“ หรือว่า สิไปหาม้าขาวมา แล้วกะหาสีมาย้อม...”

คึดออกแล้ว คึดออกแล้ว ....

มื้อลุนมา เซียงเมี่ยง กะออกจากบ้านแต่เซ้า ย่างเลาะหาม้าสีฟ้า ตามคอกม้า เทิงย่างหานำหม่องขาเจ้าเลี้ยงม้าขาย เด้

ย่างไปย่างมา (ย่างไปอย่างเดียว ดอกบะได๋) กะไปฮอดหม่องเลี้ยงม้า หม่องนึง มีม้าหลายคักเติบยุ เซียงเมี่ยง กะเข้าไปเลาะเบิ่ง เห็น ม้านิลผู้พ่วงพี พวมท่าว โตนึง ขนสีดำเหมิดตนเหมิดโต หนังกะดำนำ กะเลยขอซื้อม้านิลโตนั้น แล้วกะขี่กลับเมือเฮือน อาบน้ำ กินข้าว นอนขาขึ้นห้าง สำบายใจเฉิบ

พอดีมื้อนั้น กะเป็นข้างแรม คืนเดือนมืดเนาะ พอฮอดกลางคืน ไฟฟ้ากะบ่ทันมี มันกะมืดตึบ นั่นแหล่ว เซียงเมี่ยงกะจุดขี้กะบอง จูงม้าไปหาพระราชา เอาม้าผูกไว้นอกวัง แล้วกะเข้าไปเอิ้นพระราชา มาเบิ่งม้าสีฟ้า

“ ข้าพระองค์หาม้าสีฟ้าเป็น ๆ ได้แล้ว ตอนนี้ เอาไว้เดิ่นหน้าวังของพระองค์ ขอเชิญพระองค์ เสด็จไปเบิ่งโลดเด้อ พะเจ้าค่า”

พระราชา กะคึดในใจว่า “ม้าสีฟ้า มันบ่น่าสิมีอยู่ในโลกนี้ บักเซียงเมี่ยง มันสิไปหามาแต่ไส หรือว่า มันหาทางออกได้แล้ว.... บ๋า จั่งได๋กะต้องไปพิสูจน์เบิ่ง ให้เห็นกับตา ก่อนน๊า”

พระราชา พร้อมทั้งเสนาอำมาตย์ สนมนางกำนัล กะด่วนย่างไป

“ ไสล่ะ เซียงเมี่ยง ม้าสีฟ้า ที่เจ้าว่า ”

“ นั่นเด้ พะเจ้าค่า ยืนเคี้ยวเอื้องงับๆ อยู่นั่นเด้ ”

“ นั่นมันม้าสีดำตั้วนั่นน่ะ... กูให้มึงหาม้าสีฟ้าเป็นๆ บ่แมนม้าสีดำเป็นๆ เด้เดียวหนิ”

“ ใจเย็นก่อน พะเจ้าค่า ... พระองค์แนมขึ้นไป เทิงพุ่นเบิ่งดู้” เซียงเมี่ยง เว้าแล้ว กะซี้มือแจ่แด่ ขึ้นเทิงฟ้า

ทุกคน กะเงยหน้า ขึ้นแนมเบิ่งฟ้า... แล้วเซียงเมี่ยง กะถามต่อว่า

“ ตอนนี้ ฟ้า เป็นสีหยัง พะเจ้าค่า? ”

“ สีดำ ”

“ ฟ้ากะสีดำ ม้ากะสีดำ... ฟ้ากับม้า สีเดียวกันเลย.... ม้าโตนี้ล่ะพะเจ้าค่า คือม้าสีฟ้าเป็นๆ มีชีวิต ขึ้นขี่ได้ ย่างได้ ตรงตามที่พระองค์ สั่งให้หา ทุกประการ พะเจ้าค่า”

  หน้าก่อน หน้าถัดไป

 
Creative Commons License

ชมรมอีสานจุฬาฯ... นิทานพื้นบ้านอีสาน