ผญา คติสอนใจประจำวันที่ 26 เมษายน 2568:: อ่านผญา 
เขาฮักเขาก็ย่อง เขาซังเขาก็ว่า คือดั่งบักเค้าเม้า หมาเฒ่าเห่าแต่เขา แปลว่า เขารักเขาก็ชม เขาชังเขาก็ว่า อุปมาเหมือนหมาเฒ่าไม่ดูตัวเอง คอยเห่าแต่ผู้อื่น หมายถึง นินทา สรรเสริญ เป็นเรื่องธรรมดา อย่าได้ใส่ใจ

นิทานพื้นบ้านอีสาน  

เซียงเมี่ยง... หลวงพ่อแยคันทัน (นิทานพื้นบ้าน---อีสานจุฬาฯ)
เซียงเมี่ยง..บั้นต้น

  หน้าก่อน หน้าถัดไป
๖.หลวงพ่อแยคันทัน


พ่อใหญ่ผู้เลาทวยแพ้เณรเมี่ยง กะพยายามคิดหาคำตอบของคำทวยเด้ แต่ว่าคิดจั่งได๋กะคิดบ่ออก

“ สัพพี สพพัง ดังวา คุชลามิคา มันแมนหยังน้อนอ ” กลับมาถามเณรเมี่ยง เณรเมี่ยงกะบ่บอก กะบอกคือเก่าว่า ต้องหาลาบเทาแซบ ๆ มาถวาย เป็นการแลกเปลี่ยนเด้ ว่าซั่น

เฒ่าพ่อใหญ่นั่น กะเลยอดทนคองคอยท่าจนฮอดยามเทาเกิด เลากะไปหาทาวเทา ได้เทาอ่อนอั่วลั่วดี้ดี เลากะเอามาลาบใส่ป่นปลาค่อ ทุบหมากเขือขื่นใส่พร้อม ปรุงอย่างแซบนัว กะเอาไปถวายเณรเมี่ยง กับหลวงพ่อ

เณรเมี่ยงฉันลาบเทาเรียบร้อยแล้ว กะเลยมาเฉลยคำทวยให้ฟังว่า

“ สับพี กะคือ ไก่เอาปากสับอึ่ง อึ่งมันเลยพองโตขึ้น จนพี

สับพัง กะคือ บักจกถากขอบส่าง ขอบส่างมันกะพังย่าว

ดังวา กะคือ ดังช้าง หรือว่างวงช้างนั่นล่ะ มันยาวเป็นวา

ส่วน คุชลามิคา กะคือ คุฮั่ว...คุ กะคือ คุ ชลา กะคือน้ำ มิคา กะคือ บ่คา แปลว่า คุน้ำบ่คา กะคือ คุรั่ว นั่นเอง ”


หลวงพ่อฉันลาบเทา ฮู้สึกแซบคัก ถืกใจผู้เฒ่าคัก

พอฉันเพลแล้ว เลากะเลยถามเณรเมี่ยงว่า
“ เมี่ยง หว่างเพลฮั่น แนวกินอันเขียว ๆ น่ะ แมนอีหยังเกาะฮึ แซบดีคัก ”
“ ลาบขี้อ่อนงัว ครับหลวงพ่อ ”
“ โอ ... ติ ลาบขี้อ่อนงัววะติ แซบน้อ ขี้อ่อนงัวหนิ ” หลวงพ่อเลาว่า

มื้อลุนมา หลวงพ่อคึดอยากลาบขี้อ่อนงัวซั่นเด้บาดตาหนิ คองท่าให้โยมเอามาถวายอีกกะบ่มีไผเอามาถวาย คองแล้วกะคองอีก จนเลาทนบ่ไหว กะเลยถามเณรเมี่ยงว่า
“ เอ..เมี่ยง .. ขี้อ่อนงัวหนิ เขาไปเอามาแต่ไส เขาไปเอาบ่อนจั่งได๋มันฮึ ”

“ ขี้งัวนี่เนาะหลวงพ่อ ถ้าอยู่ในลำไส้เลิ่กๆ คัก ๆ กะคือ ขี้เพี้ย ถ้าอยู่ในท้อง ยังบ่ทันขี้ออกมา กะคือ ขี้อ่อน ถ้าออกมาจากท้องงัวแล้ว กะคือ ขี้แก่ ..... ขี้เพี้ย กะเอาไปใสลาบใส่ก้อย....ขี้อ่อนกะเอามาลาบกิน....ขี้แก่ บ่มีไผกิน ตั้วครับหลวงพ่อ ”

“ แล้วกะขี้อ่อนงัวหนิ เขากะไปจกเอาจากดากมันนั่นแหล่วหลวงพ่อ ” เณรเมี่ยงตอบ

พอสวย ๆ จักหน่อย หลวงพ่อกะเลยชวนเณรเมี่ยง ไปท่งนา สิไปหาจกเอาขี้อ่อนงัวว่าซั่นเถาะ พอเห็นงัวอยู่นำท่งนา หลวงพ่อกะบอกเณรเมี่ยงว่า

“ เมี่ยง ๆ ไป เจ้า เข้าไปจกเอามาให้หลวงพ่อแหน่ไป ”
“ ผมจกบ่เถิงดอกครับหลวงพ่อ งัวโตสูงปานหนิ หลวงพ่อจัดการโลดครับ ผมสิถือกะต่าให้ ”

หลวงพ่อกะเลยค่อย ๆ ย่องเข้าไปทางหลังงัว เอามือนุ่ยใต้หางมัน
“ นุ่ย ๆ ๆ ๆ ๆ ” วะซั่นว่า

งัวมันกะยกหางขึ้น ยืนหลับตามีแฮงแหล่วเนาะ ไปนุ่ยดากมันแมะ หลวงพ่อได้ที กะเลยเอามือจกดากงัว มันกะจกบ่เข้าเหล่ว ดากมันยุ่มอยู่แมะ งัวเทิงเจ็บเทิงตกใจ กะเลยดีดโด่งวะหนึ่ง ขาถีบถืกหลวงพ่อ ล้มป่างง่าง

“ เออะ ๆ ๆ ๆ... อู๊ย... เจ็บ ๆ งัวฮ่าเอ้ย ปะสาขี้ สำมาหวงคักหวงแหน่ แท้ว้า ”
“ กะมันยังบ่ทันได้เบ่งออกมา มันกะหวงนั่นตั้วครับ หลวงพ่อ กะเลือกเอา โตที่มันกำลังเบ่งออกมา แหน่แหม ” เณรเมี่ยงแนะนำ
“ บ้อเมี่ยง... เอ้อ...กะบอกกันจั่งซี้ แหน่แหม ”

หลวงพ่อกะย่างหางัวโตที่กำลังเบ่ง(ขี้) .....ไปพ้อพอดี เณรเมี่ยงกะเอามือชี้ท่วงว่า

“ นั่น ๆ หลวงพ่อ กำลังตูนพู่ยู่ พู่ยู่ ออกมาอยู่นั่น ฟ้าวจก ฟ้าวจก ”

หลวงพ่อย่านบ่ทัน ฟ้าวแล่นเข้าไป เอามือจกดากงัว มือเลากะหลูลัวะเข้าไป อุ่นย่วยวะหนึ่ง เลากะฟ้าวจกต่อเข้าไป จนมิดแขนศอก เอามือกำขี้งัวไว้

ฝ่ายงัว ตั้งใจสิขี้แซบ ๆ บัดมีแนวมากวน งัวมันตกใจ เทิงเจ็บนำล่ะตี้ กะเลยคาดลาดยุ่มดาก แล้วกะกระโดดโด่ง แล่นหนีเตลิดเปิดเปิง แขนหลวงพ่อถืกดากงัวยุ่มฮัดไว้ หลวงพ่อเลากะเลยถืกงัวลาก ตะดาดตะดาดไปตามไฮ่นา แต่ว่าเลากะยังบ่ปล่อยกำขี้งัวในมือเด้ ... กะเลาอยากได้เนาะ

“ เมี่ยง ๆ ซ่อยแหน่... ซ่อยแหน่ ”

“ แยคันทัน หลวงพ่อ แยคันทัน แยคันทัน ” เณรเมี่ยงเลาตกใจนำ ฮ้องบอกหลวงพ่อ

พอดีงัวมันลากหลวงพ่อไป เถิงคันแทนา หลวงพ่อกะเลยยันคันแทไว้ มือเลาเลยหลุดออกจากดากงัว
“ เมี่ยง ๆ ได้แล้ว ได้แล้ว ได้กำนึงแล้ว เอากะต่ามาใส่ เร็ว ๆ ”

เณรเมี่ยงถือกะต่ามา หลวงพ่อแบมือออกสิเอาขี้อ่อนงัวใส่กะต่า

“ ขี้งัวคือเหม็นแท้หว่า ..ฮ่วย มันขี้แก่งัวตั้วหนิ ” หลวงพ่อเลาว่า

“ สงสัย ขี้อ่อนงัวมันอยู่เลิ่ก ๆ ก่อนี้มั้งครับหลวงพ่อ ” เณรเมี่ยงเลายังตั๋วต่ออีกเด้เดียวหนิ
“ โฮ้ หลวงพ่อเก่งคักเนาะ สุดยอดเลย สู้งัวได้ ” เณรเมี่ยงเลาย่องต่อ

“ แล้วที่เจ้าว่า แยคันทัน แยคันทัน น่ะ มันแม่นหยังล่ะ เมี่ยง ”
“ แยคันทัน กะ ยันคันแท นั่นเด้หลวงพ่อ ”

“ ฮู้ย...เจ็บแอว เจ็บคิงเหมิดเอาโลด คันขี้อ่อนงัว มันเอายากปานนี้ ข้อยบ่เอานำเด้อ.. ยอมแพ้แล้วล่ะ ” พะนะ หลวงพ่อว่า


สรุปแล้ว หลวงพ่อกะบ่ได้ขี้อ่อนงัว บ่ได้กินลาบเทา แถมยังถืกเณรเมี่ยงต้ม หลอกให้ไปกำขี้งัวจนเกือบเอาซีวิตบ่รอดอีกซ้ำแม๋....

  หน้าก่อน หน้าถัดไป

 
Creative Commons License

ชมรมอีสานจุฬาฯ... นิทานพื้นบ้านอีสาน