ผญา คติสอนใจประจำวันที่ 25 เมษายน 2568:: อ่านผญา 
คันสิเทียวทางเวิ้งหาทิงบั้งใหญ่ คันสิขึ้นต้นไม้ให้หาท้างปล่องลง แปลว่า ถ้าจะเดินทางไกลกันดาร ให้เตรียมกระบอกน้ำ ถ้าจะขึ้นต้นไม้ ให้มองหาทางลงก่อน หมายถึง จะทำกิจการใดๆ ควรวางแผนเตรียมข้าวของอุปกรณ์ให้พร้อม

นิทานพื้นบ้านอีสาน  

ท้าาวคูน (นิทานพื้นบ้าน---อีสานจุฬาฯ)
นิทานแลง

  หน้าก่อน หน้าถัดไป
ท้าวคูน


ท้าวคูนเป็นคนจิตใจดี ชอบช่วยเหลือผู้อื่น บ่รังแกผู้อื่น บ่รังแกสัตว์ทั้งหลาย...

ท้าวคูน อยากเรียนรู้โลกกว้าง ว่าสิเป็นจั่งได๋ กะเลย ออกเดินทางร่อนเร่พเนจร ผจญภัยไปเรื่อยๆ มื้อหนึ่ง ขณะที่ท้าวคูน ย่างเล่นอยู่เลาะแม่น้ำ เลากะเห็นปลาตะเพียนน้อยโตนึง โดดตั๊บๆ อยู่ขี้ดิน พยายามสิโดดลงน้ำ แต่กะลงบ่ได้ จนใกล้สิเหมิดแฮงแล้ว ว่าซั่นเถาะ ท้าวคูนหลูโตน กะเลย ไปเก็บเอาปลาตะเพียนโตนั้น แล้วกะเอาไปปล่อยลงในน้ำ พร้อมทั้งเว้าว่า

“ ไป ไป ไปลอยเล่นในน้ำ เด้อ อยู่เทิงบก เดี๋ยวสิถืกมดเอาไปกิน แล้วกะระวังอย่ามาเลาะฝั่งอีกเด้อ เดี๋ยวน้ำสิถืกน้ำซัดขึ้นบกอีก”

พอปล่อยปลาแล้วแล้ว ท้าวคูน กะย่างเล่นต่อ... บ่ทันดน กะมีเสียงผู้ชายฮ้องเอิ้นอยู่ทางหลัง ท้าวคูนหันไปเบิ่ง กะเห็นลุงคนนึง กวักมือเอิ้นเจ้าของ.... กะเลยหยุด แล้วกะคุยกัน

พ่อลุงคนนั้น บอกว่า

“ ข้อยเป็นคนรับใช้ของเจ้าเมืองบาดาล... ปลาที่เจ้าช่วยชีวิตไว้ หว่างฮั้น อีหลีแล้ว คือลูกสาวเจ้าเมืองบาดาล.. เจ้าเมืองบาดาล ต้องการขอบคุณเจ้า กะเลยให้ข้อยมาเชิญเจ้าไปเที่ยวเมืองบาดาล ”

ท้าวคูนกะเลยว่า

“ ข้อยเป็นคน จั่งได๋สิลงไปได้ ”

“ บ่เป็นหยัง ให้เจ้าขี่หลังข้อยไป ”

ท้าวคูน อยากเห็นเมืองบาดาลคือกัน กะเลยตอบตกลง แล้วกะขี่หลังลุงคนนั้นไป... ระหว่างทาง ลุงคนนั้นกะเว้าถึงเมืองบาดาลให้ฟัง แล้วกะว่า

“ อยู่เมืองบาดาล มีของวิเศษสำคัญอยู่อย่างนึง คือหมวกวิเศษ ซึ่งหมวกวิเศษนี้ ถ้าใส่แล้ว กะสิสามารถฟังเสียงสัตว์คุยได้ฮู้เรื่อง ฟังภาษาสัตว์เข้าใจ... ถ้าเจ้าเมืองถามว่า ‘ต้องการอีหยังเป็นสิ่งตอบแทน' ให้เจ้าบอกว่า ‘ ต้องการหมวกวิเศษ ' เด้อ ”

 

พอไปฮอดเมืองบาดาล เจ้าเมืองบาดาลกะจัดงานเลี้ยงขอบคุณ หาแนวกินแซบๆ ต้อน กินข้าวกันอิ่มแล้ว เจ้าเมืองบาดาล กะกล่าวขอบคุณท้าวคูน ที่ซ่อยเหลือลูกสาวให้รอดพ้นจากความตาย จากนั้นกะเว้าว่า

“ เจ้ามีบุญคุณกับข้อย กับลูกสาวข้อย กับเมืองบาดาล หลาย เจ้าอยากได้หยังเป็นของตอบแทน ให้บอกมาเลย แก้ว แหวน เงิน ทอง เครื่องประดับ เจ้าอยากได้หยัง ”

ท้าวคูน จำคำของลุงคนนั้นได้ กะเลยว่า

“ แก้ว แหวน เงิน ทอง ข้อยบ่อยากได้ดอก ข้อยอยากได้หมวกวิเศษ ”

เจ้าเมือง ได้ยินจั่งซั้น ถึงสิบ่อยากให้ แต่กะเห็นถึงความดีของท้าวคูน กะเลยตกลงมอบหมวกวิเศษให้ท้าวคูน

จากนั้น ลุงคนนั้น กะพาท้าวคูนมาส่งไว้ริมแม่น้ำ....


ท้าวคูน กะย่างพเนจรต่อ พอเมื่อย กะนั่งพักเซาอยู่ใต้ฮ่มไม้ริมแม่น้ำ ทอดทะเนิ้งลงนอนเล่น พอดีมีนกสองโต อยู่เทิงต้นไม้ ฮ้อง จิ๊กๆ จ๊อกๆ .... ท้าวคูนอยากฮู้ว่ามันคุยอีหยังกัน กะเลยเอาหมวกวิเศษ มาใส่ กะได้ยินนกมันคุยกันว่า

“ มนุษย์คนนี้ กะดายเนาะ คุยว่าเจ้าของเก่ง เจ้าของฉลาด กว่าสัตว์ทั้งหลาย บัดทีแท้ โง่ขนาด”

“ เอ้อ..แมนยุ... เฮากะว่าจั่งซั้นล่ะ... เบิ่งตี้ นั่น ที่เหลียวเห็นพ้นโก่โด่อยู่ในแม่น้ำนั้นน่ะ มนุษย์คนเข้าใจว่าเป็นหินก้อนหนึ่ง... หารู้ไม่ว่า ที่แท้ มันคือก้อนทองคำ...”

“ แมนล่ะ กะก้อนทองคำ มันถืกน้ำพัด จนขี้ไคน้ำจับ ดำๆ เขียวๆ กะพากันเข้าใจว่าเป็นหินน้อ มนุษย์น้อ”

ท้าวคูนได้ยินจั่งซั้น กะเลยย่างลุยน้ำไปงัดเอาหินก้อนนั้นขึ้นมา แล้วกะเอาน้ำล้าง เอาขี้ดินขัดถูออกดีๆ กะเป็นก้อนทองคำ อีหลี ตามที่นกคุยกันเลย ท้าวคูนกะเลยเอาทองคำก้อนนั้น ใส่ผ้า สะพายเดินทางต่อไป


มื้อต่อมา ขณะที่ท้าวคูน นั่งพักอยู่ใต้ต้นไม้ กะได้ยินกาสองโตฮ้อง กา กา กะเลยเอาหมวกมาใส่แล้วกะฟังเบิ่ง กะได้ยินการคุยกันว่า

“มนุษย์คนนี้ กะดายเนาะ คุยว่าเจ้าของเก่ง เจ้าของฉลาดกว่าสัตว์ทั้งหลาย บัดทีแท้ โง่ขนาดเนาะ”

“เอ้อ แมนยุ... จั่งเรื่องที่องค์หญิงป่วย กะคือกัน หมอว่านหมอยา กะให้มาเหมิดทุกคนโลด รักษาจั่งได๋กะบ่หายดอก... เพราะโรคอันนี้ บ่แมนโรคที่รักษาด้วยว่านด้วยยา”

“แมนล่ะ... สิมีไผฮูบ่ว่า ตอนที่พระราชาให้ซ่อมปราสาทน่ะ มีงูโตหนึ่งถืกขังไว้ใต้หลังคา งูมันออกบ่ได้ กะเลยสาปให้องค์หญิงป่วย”

“ น้อ... กะแค่ไปปล่อยงูออกมา องค์หญิงกะหายป่วยแล้ว”

ท้าวคูนได้ยินจั่งซั้น กะเลยเดินทางไปในวัง เข้าเฝ้าพระราชา ขออาสารักษาองค์หญิง พระราชากะอนุญาต ท้าวคูนกะเลยบอกว่า

“ ตอนที่พระองค์ให้ช่างมาซ่อมปราสาท ช่างได้มุงหลังคาปิดทางออกของงู งูโตหนึ่งถืกขังไว้ในนั้น งูโตนั้นเลยสาปให้องค์หญิงป่วย ขอให้พระองค์ให้คนไปเปิดหลังคา ปล่อยงูโตนั้นออกมา โรคขององค์หญิงกะสิหาย”

พระราชา ถึงสิยังบ่ค่อยเชื่อ แต่กะบ่มีทางเลือก เพราะรักษามาดนแล้วลูกสาวกะบ่หายจากโรค กะเลยให้คนไปเปิดหลังคาปราสาท กะเห็นงูโตหนึ่ง ถืกขังอยู่ในนั้น อีหลี งูโตนั้น อดอาหารมาหลายมื้อ จนจ่อยผอมโซปางตาย พระราชากะเลยให้คนเอางูปล่อยในป่า เอาอาหารให้กิน... จากนั้น อาการขององค์หญิงกะค่อยๆ ดีขึ้น จนหายเป็นปกติ

พระราชา กะขอบอกขอบใจท้าวคนอย่างหอง แล้วกะสิมอบข้าวของรางวัลต่างๆ ให้ แต่ว่าท้าวคูน บ่ได้ต้องการข้าวของเงินทอง ต้องการแค่ช่วยเหลือผู้อื่นเป็นสำคัญ กะเลยบ่เอาอีหยัง แล้วกะขอลาพระราชาเดินทางผจญภัยในโลกกว้างต่อไป ซั่นแหล่ว 

จบจ้อย

  หน้าก่อน หน้าถัดไป

 
Creative Commons License

ชมรมอีสานจุฬาฯ... นิทานพื้นบ้านอีสาน