ผญา คติสอนใจประจำวันที่ 25 เมษายน 2568:: อ่านผญา 
ชื่อว่าจันทร์เพ็งแจ้งบ่ปานแสงสุริเยศ แสงกระบองหมื่นเล่มบ่ปานแจ้งแห่งเดือน แปลว่า แสงไฟจากกระบองหมื่นเล่ม ไม่เท่าแสงจันทร์ แสงจันทร์สว่าง ก็ไม่เท่าแสงอาทิตย์ หมายถึง แม้จะเก่ง ก็อย่าได้คิดว่าเลิศกว่าผู้อื่น พึงรู้จักเจียมตน อย่ายกตนข่มท่าน

นิทานพื้นบ้านอีสาน  

ท้าวเห็นอ้ม (นิทานพื้นบ้าน---อีสานจุฬาฯ)
นิทานแลง.. ท้าวเห็นอ้ม

  หน้าก่อน หน้าถัดไป
หนอนห้อยค้างปลายไม้


     อยู่มาวันหนึ่ง ท้าวสาลีใคร่จะลองปัญญาเขยทั้งหลายอีก จึงเรียกให้เขยทั้งหกมาเข้าเฝ้า แล้วรับสั่งว่า อยากกินของแซบๆ ให้เขยทั้งหกไปหา “หนอนห้อยค้างปลายไม้” มาให้

     เขยทั้งหก ไม่เข้าใจว่า “หนอนห้อยค้างปลายไม้” คืออะไร.... หลังจากปรึกษาหารือ ตกลงกันแล้ว ก็พากันไปฟันต้นไม้ หาตัวด้วง มาให้พ่อครัวทำอาหารถวายท้าวสาลี

     ท้าวสาลี ก็ทราบว่า เขยทั้งหก ด้อยปัญญา อีกเช่นเคย ไม่เข้าใจถึงนัยที่ซ่อนอยู่ในคำพูด... จากนั้น จึงให้เรียกนางสีดามาเข้าเฝ้า แล้วสั่งให้ไปบอกให้เจ้าเห็นอ้มไปหา “หนอนห้อยค้างปลายไม้” มาให้

     นางสีดา ก็กลับไปบอกท้าวเห็นอ้ม ตามนั้น

     ท้าวเห็นอ้ม ก็บอกว่า ไม่ต้องเป็นกังวลไปดอก จะไปหามาให้เอง... ท้าวเห็นอ้ม ให้นางสีดาพาตนออกไปส่งที่นอกเมือง แล้วให้นางสีดารออยู่ เช่นเดิม ... ส่วนตน เข้าไปในป่าตามลำพัง พอลับตาคน ก้กลับร่างเป็นชายหนุ่มรูปงาม ชักดาบออกจากฝัก บันดาลให้มีคนมากมายปรากฏขึ้นตรงหน้า

     ท้าวเห็นอ้ม ก็สั่งให้คนเหล่านั้น ไปหารังผึ้งมาให้... คนเหล่านั้น ก็ไปหารังผึ้งมา ... ชั่วครู่เดียว ก็ได้น้ำผึ้งมากมาย หลายพันไห... ท้าวเห็นอ้ม ก็สั่งให้คนเหล่านั้น แบกไหน้ำผึ้งไปส่งจนใกล้ถึงเขตที่นางสีดารออยู่ ก็เก็บดาบเข้าฝัก... คนทั้งหมดก็หายไป

    ในวันนั้นเอง ท้าวเห็นอ้ม ใคร่จะลองใจนางสีดา จึงยังไม่กลับร่างเป็นเห็นอ้ม แต่เป็นชายหนุ่มรูปงามอยู่เช่นเดิม ทำทีเดินทางผ่านไปพบนางสีดา และได้พูดจาเกี้ยวพาราสีนางสีดา ต่างๆ นานา นางสีดาก็ไม่สนใจ ซ้ำยังลุกขึ้นออกเดินทางร้องเรียกหาท้าวเห็นอ้ม เพราะนึกว่า ท้าวเห็นอ้มอาจจะหลงทาง

     ช่วงนั้นเอง ท้าวเห็นอ้ม พอลับตานางสีดา ก็กลับร่างเป็นเห็นอ้ม..... นางสีดาเดินตามหา และในที่สุดก็ได้พบท้าวเห็นอ้ม(ในร่างเห็นอ้ม) นั่งรอตนอยู่ในที่ที่ตนนั่งรออยู่ก่อนนี้

     ท้าวเห็นอ้ม ก็แกล้งถามว่า มัวไปคุยอยู่กับใครหรือ ถึงได้มาช้านัก หรือว่าเห็นตนเป็นเห็นอ้ม จึงเบื่อหน่ายซะแล้ว

     นางสีดาก็ตอบว่า ไม่ได้ไปคุยกับใครที่ไหนหรอก เห็นท้าวเห็นอ้มไปนานนัก ไม่กลับมาซะที นึกเป็นห่วง เกรงว่าจะหลงทาง จึงออกตามหา

     เมื่อท้าวเห็นอ้ม เห็นความซื่อสัตย์ของนางสีดาแล้ว ก็บอกนางสีดาว่า ตนได้ “หนอนห้อยค้างปลายไม้” ซึ่งคือน้ำผึ้งมาแล้ว มากมายหลายพันไห ให้นางสีดาไปแจ้งแก่ท้าวสาลี ให้หาคนมาขนเอาไป

     ท้าวสาลี ไม่เชื่อ ใช้ให้ทหารไปดู... ทหารที่ไปดูกลับมารายงานว่า มีน้ำผึ้งมากมายจริงๆ .... ท้าวสาลี จึงให้คนออกไปขนไหน้ำผึ้งเข้ามา และได้แจกแบ่งให้เสนาอำมาตย์ข้าราชบริพารทั้งหลายได้กินกันทั่ว


  หน้าก่อน หน้าถัดไป

 
Creative Commons License

ชมรมอีสานจุฬาฯ... นิทานพื้นบ้านอีสาน