ผญา คติสอนใจประจำวันที่ 1 พฤษภาคม 2568:: อ่านผญา 
คันได้กินลาบก้อย อย่าลืมแจ่วแพวผัก ได้กินภาช์เงินภาช์คำ อย่าสิลืมกะเบียนฮ้าง แปลว่า ถ้าได้กินอาหารดีๆ อย่าลืมน้ำพริกจิ้มผัก ได้กินด้วยถาดทองคำ ก็อย่าลืมถาดกระด้งเก่าๆ หมายถึง ได้ดีแล้วอย่าลืมตัว อย่าลืมผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จ

นิทานพื้นบ้านอีสาน  

หลวงพ่อกับเณรน้อย...หลวงพ่อเคียดให้ปลา (นิทานพื้นบ้าน---อีสานจุฬาฯ)
หลวงพ่อกับเณรน้อย

  หน้าก่อน หน้าถัดไป
ตอน:หลวงพ่อเคียดให้ปลา


หลวงพ่อฮู้โตว่า เสียฮู้เณรน้อย เลากะสิสูนเติบอยู่ล่ะว๋า คึดในใจว่า เดี๋ยวกลับไปฮอดวัดก่อน จั่งค่อยจัดการ ลงโทษเณรน้อย พอแบกย่างไปได้ อีกจักหน่อย ฮู้ว่าแบกกลับไป บ่ฮอดวัดคักๆ กะเลยคึดสิเอาเซี่ยงไว้ แถวๆ นั่นก่อน จั่งค่อยพาเณรน้อย กลับมาเอาทีหลัง ว่าซั่นเถาะ...

หลวงพ่อ เหลียวหาหม่องเซี่ยงไปนำ ย่างไปนำ พอดี เห็นกอไผ่บง อยู่ข้างทาง กะเลยเอากะทอเกลือ ไปเซี่ยงไว้ เอาใบไผ่แห้งปกไว้พร้อม พุ่นล่ะแหม๋

พอ ย่างถอยออกมา เลากะคึดได้ว่า
“ เอ ... ขี้ขโมย สิบ่มาลักเอาบ้อนอ??
  เอ .. สิมีคนเห็นบ่นอ??
  เอ ... ขนาดเฮาเฒ่าแล้วยังเห็น ผู้อื่นกะสิเห็นคือกันนั่นตั้ว...
  บ่ได้ บ่ได้ เซี่ยงไว้หม่องนี้บ่ได้ ต้องเอาไปเซี่ยงไว้หม่องอื่น”

คึดได้แล้ว กะเลยไปแบกเอากะทอเกลือ ย่างต่อไป เห็นป่าหญ้าคาฮกๆ เลยเอาเข้าไปเซี่ยงไว้อีก ก่อนสิย่างไป กะคึดคือเก่าอีก กะไปแบกเอาอีก

หลวงพ่อ เลาย่านขี้ขโมย มาลักเกลือเลาคักนอ หาหม่องเซี่ยงแล้ว เซี่ยงอีก บ่ว่าสิเอาเซี่ยงไว้หม่องได๋ จะของกะเห็นคือเก่า เลยเซี่ยงบ่สำเร็จทักเทื่อ กะเจ้าของเป็นคนเซี่ยงเนาะ สิบ่เห็นจั่งได๋เว่ย หลวงพ่อกะดายยยย ...

พอดีย่างมาฮอดเลาะห้วย พ้อบวก บวกหนึ่ง เลากะคึดได้อย่างชาญฉลาดว่า

“ เอ้อ ...ได้การล่ะ หาอยู่ตั้งว่ะโดน เอาเซี่ยงไว้ในน้ำนี่ล่ะ น่าสิปลอดภัยดี”

หลวงพ่อ กะเลยเอากะทอเกลือ ลงไปเซี่ยงไว้ในน้ำ กลับขึ้นมา เหลียวเบิ่ง กะบ่เห็นทอเกลือเลย น้ำในบวก มันกะบ่ค่อยใสเนาะ เลยเหลียวบ่เห็น เลากะส่วงใจว่า

“ เอ้อ .. เซี่ยงไว้หม่องนี่ไคแหน่ ขนาดเฮายังบ่เห็น คือสิบ่มีผู้อื่นเห็นดอกตี้

หลวงพ่อ กะเลยย่างกลับวัด อย่างสำบายใจ พอฮอดวัด ฮ้องหาเณรน้อย ว่าเณรน้อยหลอกตั๋วเลา แล้วกะฟ้าวขี้ม้าแล่นหนี บ่ท่าเลา เณรน้อยกะบอกว่า

“บ่ได้หลอกตั๋วหลวงพ่อดอก กะมันสำบายอีหลี แล้วกะ บ่ได้ฟ้าวขี่ม้าแล่นหนีดอก นั่งอยู่หลังม้า ซื่อๆ ม้ามันฟ้าว กลับวัดของมันเอง ฮ้องบอกให้หยุดท่าหลวงพ่อ มันกะบ่หยุด คันสิทำโทษ กะให้ไปทำโทษม้าเด้อครับ” ว่าซั่นว่า

“ เอ้อ .. คันจั่งซั่นกะแล้วไป แต่ว่ากะทอเกลือ หลวงพ่อแบกมาบ่ไหว มันหนัก หลวงพ่อเอาเซี่ยงไว้ เลาะห้วยพู้น ปะ สิพาไปเอา”

เณรน้อย กะเลยต้องกลับไปกับหลวงพ่อ สิไปเอากะทอเกลือ พอย่างไปฮอดบวกนั่น หลวงพ่อกะบอกว่า

“ เนี่ยน้อย กะทอเกลือ หลวงพ่อเอาเซี่ยงไว้ในบวกนี่ล่ะ ไป ไป ลงไปงุมเอาขึ้นมา ไปไวไว”

เณรน้อยเหน็บหางกะเตี่ยวขึ้น ลงไปงุมหากะทอในบวก

“ หลวงพ่อ พ้อแล้ว พ้อแล้ว ”

ยกกะทอขึ้นมา บ่เห็นมีเกลือจักเม็ด เลยบอกหลวงพ่อว่า

“ หลวงพ่อ หลวงพ่อ ในกะทอบ่มีเกลือจักเม็ด สงสัยปลาในบวกนี่ มันลักกินเกลือหลวงพ่อคักๆ ....ปาดทิโธ ปลาซุมนี่ บังอาจมาลักกิน เกลือหลวงพ่อติหือ...”

หลวงพ่อเลาสูนให้ปลาในบวก

“ปาดโธ้ ปลาซุมนี้แมะ กูอุตส่าห์แบกเกลือ มาตั้งไกล อุตส่าห์เซี่ยงไว้อย่างดี มาลักกินจนได้”

เลาเลยสั่งเณรน้อยว่า

“ น้อยเอ้ย กลับไปเอาคุ มาสาปลา ไป ปลาซุมนี้ควรสิถืกทำโทษ”

(หลวงพ่อกะดายเนาะ เกลือมันละลายในน้ำ กะบ่ฮู้เรื่องเสย คึดว่าปลามาลักกินเสย เด้เดียวหนิ)

เณรน้อย เลยกลับไปเอาคุ มาสาปลา พอสาแห้งแล้ว กะมีปลาหลายยุตั้วล่ะ จับได้ปลาค่อ กะเอาฝ่ามือฟาดหน้ามัน ผัวะ !!! ฮ้องว่า

“ นี่ มึงมาลักกินเกลือหลวงพ่อกู ”

จับได้โตได๋ กะเอาฝ่ามือฟาดหน้า ผวัะ !!!

“ นี่ กินเกลือหลวงพ่อติ ”

“ นี่ บังอาจกินเกลือหลวงพ่อ ”

“ นี่ ... นี่ ..”

หลวงพ่อ เห็นเณรน้อยตีปลา เป็นตาม่วน เป็นตามันมือคัก เทิงเลาสูนให้ปลานำ นั่นล่ะหว๋า คันมือ อยากตบหน้าปลา ให้หายแค้น กะเลยบอกเณรน้อยว่า

“ น้อย น้อย โตต่อไป โยนมาให้ฟาดนำแหน่เด้อ”

เณรน้อยจับได้ปลาค่ออีก กะโยนขึ้น ไป

“ หลวงพ่อ ได้แล้ว เอ๋า ..” ...

...ฟิววว …….. ผวัะ

“ เอาอีกน้อย เอาอีก ” ….

“ เอ๋า หลวงพ่อ ” ...

.... ฟิววว ... ผวัะ

“ เอาอีกน้อย ยังบ่หายแค้น ”

พอดี เณรน้อยจับได้ปลาดุก ล่ะตี้ อีตาทีเนียะ

“ หลวงพ่อ ... เอ๋า ”

.... ฟิวว ... ผวัะ !!!

เออะ ... โอ้ย .. โอ้ยยยย .. เจ็บ ..”

หลวงพ่อ ถืกเยี่ยงปลาดุกปักฝ่ามือ เข้าบักเลิ่ก จนปลาดุก ติดมือเลา อ้อนต้อน

หลวงพ่อ กะเสียทีเณรน้อยอีกตามเคย

  หน้าก่อน หน้าถัดไป

 
Creative Commons License

ชมรมอีสานจุฬาฯ... นิทานพื้นบ้านอีสาน