ผญา คติสอนใจประจำวันที่ 26 เมษายน 2568:: อ่านผญา 
ขุดดินดั้นประสงค์หาแต่บ่อนกิ่ว แนวสิ่วไม้ประสงค์ไง้แต่บ่อนบาง แปลว่า ขุดดิน เลือกหาแต่ที่ขุดง่ายๆ ใช้สิ่วเจาะไม้ เลือกหาแต่ที่เหลือบางๆ หมายถึง ไม่ควรมีอคติ เลือกที่รัก ผลักที่ชัง

นิทานพื้นบ้านอีสาน  

เซียงเมี่ยง...หลวงพ่อเคียดให้ปลา (นิทานพื้นบ้าน---อีสานจุฬาฯ)
เซียงเมี่ยง..บั้นต้น

  หน้าก่อน หน้าถัดไป
๙.หลวงพ่อเคียดให้ปลา


หลวงพ่อฮู้โตว่า เสียฮู้เณรเมี่ยง เลากะสิสูนเติบอยู่ล่ะว๋า คึดในใจว่า เดี๋ยวกลับไปฮอดวัดก่อน จั่งค่อยจัดการลงโทษเณรเมี่ยง พอแบกย่างไป ได้อีกจักหน่อย ฮู้ว่าแบกกลับไป บ่ฮอดวัดคัก ๆ กะเลยคึดสิเอาเซี่ยงไว้แถวๆ นั่นก่อน จั่งค่อยพาเณรเมี่ยง กลับมาเอาทีหลัง ว่าซั่นเถาะ...

หลวงพ่อเหลียวหา หม่องเซี่ยงไปนำ ย่างไปนำ พอดี เห็นกอไผ่บง อยู่ข้างทาง กะเลยเอากะทอเกลือ ไปเซี่ยงไว้ เอาใบไผ่แห้งปกไว้พร้อมพุ่นล่ะแหม๋

พอย่างถอยออกมา เลากะคึดได้ว่า
“ เอ ... ขี้ขโมยสิบ่มาลักเอาบ้อนอ?? เอ .. สิมีคนเห็นบ่นอ?? เอ ... ขนาดเฮาเฒ่าแล้วยังเห็น ผู้อื่นกะสิเห็นคือกันนั่นตั้ว... บ่ได้ บ่ได้ เซี่ยงไว้หม่องนี้บ่ได้ ต้องเอาไปเซี่ยงไว้หม่องอื่น”

คึดได้แล้ว กะเลยไปแบกเอากะทอเกลือ ย่างต่อ ไป เห็นป่าหญ้าคาฮก ๆ เลยเอาเข้าไปเซี่ยงไว้อีก ก่อนสิย่างไป กะคึดคือเก่าอีก กะไปแบกเอาอีก

หลวงพ่อเลาย่านขี้ขโมย มาลักเกลือเลาคักนอ หาหม่องเซี่ยงแล้ว เซี่ยงอีก บ่ว่าสิเอาเซี่ยงไว้หม่องได๋ จะของกะเห็นคือเก่า เลยเซี่ยงบ่สำเร็จทักเทื่อ กะเจ้าของเป็นคนเซี่ยงเนาะ สิบ่เห็นจั่งได๋เว่ย หลวงพ่อกะดายยยย ...

พอดีย่างมาฮอดเลาะห้วย พ้อบวก บวกหนึ่ง เลากะคึดได้อย่างชาญฉลาดว่า
“ เอ้อ ...ได้การล่ะ หาอยู่ตั้งว่ะโดน เอาเซี่ยงไว้ในน้ำนี่ล่ะ น่าสิปลอดภัยดี”

หลวงพ่อกะเลย เอากะทอเกลือลงไปเซี่ยงไว้ในน้ำ กลับขึ้นมา เหลียวเบิ่ง กะบ่เห็นทอเกลือเลย น้ำในบวกมันกะบ่ค่อยใสเนาะ เลยเหลียวบ่เห็น เลากะส่วงใจว่า
“ เอ้อ .. เซี่ยงไว้หม่องนี่ไคแหน่ ขนาดเฮายังบ่เห็น คือสิบ่มีผู้อื่นเห็นดอกตี้ ”

หลวงพ่อกะเลยย่างกลับวัด อย่างสำบายใจ พอฮอดวัด ฮ้องหาเณรเมี่ยง ว่าเณรเมี่ยงหลอกตั๋วเลา แล้วกะฟ้าวขี้ม้าแล่นหนี บ่ท่าเลา เณรเมี่ยงกะบอกว่า
“ บ่ได้หลอกตั๋วหลวงพ่อดอก กะมันสำบายอีหลี แล้วกะบ่ได้ฟ้าวขี่ม้าแล่นหนีดอก นั่งอยู่หลังม้าซื่อๆ ม้ามันฟ้าว กลับวัดของมันเอง ฮ้องบอกให้หยุด ท่าหลวงพ่อมันกะบ่หยุด คันสิทำโทษ กะให้ไปทำโทษม้าเด้อครับ” ว่าซั่นว่า

“ เอ้อ .. คันจั่งซั่นกะแล้วไป แต่ว่ากะทอเกลือ หลวงพ่อแบกมาบ่ไหว มันหนัก หลวงพ่อเอาเซี่ยงไว้เลาะห้วยพู้น ปะ สิพาไปเอา”

เณรเมี่ยง กะเลยต้องกลับไปกับหลวงพ่อ สิไปเอากะทอเกลือ พอย่างไปฮอดบวกนั่น หลวงพ่อกะบอกว่า
“ เนี่ยเมี่ยง กะทอเกลือ หลวงพ่อเอาเซี่ยงไว้ในบวกนี่ล่ะ ไป ไป ลงไปงุมเอาขึ้นมา ไปไวไว”

เณรเมี่ยงเหน็บหางกะเตี่ยวขึ้น ลงไปงุมหากะทอในบวก
“ หลวงพ่อ พ้อแล้ว พ้อแล้ว ” ยกกะทอขึ้นมา บ่เห็นมีเกลือจักเม็ด เลยบอกหลวงพ่อว่า
“ หลวงพ่อ หลวงพ่อ ในกะทอบ่มีเกลือจักเม็ด สงสัยปลาในบวกนี่ มันลัก กินเกลือหลวงพ่อคักๆ .... ปาดทิโธ ปลาซุมนี่ บังอาจมาลัก กินเกลือหลวงพ่อติหือ...”

หลวงพ่อเลาสูนให้ปลาในบวก

“ ปาดโธ้ ปลาซุมนี้แมะ กูอุตส่าห์แบกเกลือมาตั้งไกล อุตส่าห์เซี่ยงไว้อย่างดี มาลักกินจนได้”
เลาเลยสั่งเณรเมี่ยงว่า “เมี่ยงเอ้ย กลับไปเอาคุมาสาปลา ไป ปลาซุมนี้ ควรสิถืกทำโทษ”
(หลวงพ่อกะดายเนาะ เกลือมันละลายในน้ำกะบ่ฮู้เรื่องเสย คึดว่าปลามาลักกินเสย เด้เดียวหนิ)

เณรเมี่ยง เลยกลับไปเอาคุมาสาปลา พอสาแห้งแล้ว กะมีปลาหลายยุตั้วล่ะ จับได้ปลาค่อ กะเอาฝ่ามือฟาดหน้ามัน ฮ้องว่า
( ผัวะ ) “ นี่ มึงมาลักกินเกลือหลวงพ่อกู ” จับได้โตได๋ กะเอาฝ่ามือฟาดหน้า ผวัะ

“ นี่ กินเกลือหลวงพ่อติ ”…

“ นี่ บังอาจกินเกลือหลวงพ่อ ”…

“ นี่ ... นี่ ..”

หลวงพ่อ เห็นเณรเมี่ยงตีปลา เป็นตาม่วน เป็นตามันมือคัก เทิงเลาสูนให้ปลา นำนั่นล่ะหว๋า คันมือ อยากตบหน้าปลา ให้หายแค้น กะเลยบอกเณรเมี่ยงว่า
“ เมี่ยง เมี่ยง โตต่อไป โยนมาให้ฟาดนำแหน่เด้อ ”


เณรเมี่ยงจับได้ปลาค่ออีก กะโยนขึ้น ไป “ หลวงพ่อ ได้แล้ว เอ๋า ..”

...ฟิววว …….. ผวัะ

“ เอาอีกเมี่ยง เอาอีก ” ….

“ เอ๋า หลวงพ่อ ” ...

.... ฟิววว ... ผวัะ
“ เอาอีกเมี่ยง ยังบ่หายแค้น ”

พอดี เณรเมี่ยงจับได้ปลาดุกล่ะตี้ อีตาทีเนียะ “ หลวงพ่อ ... เอ๋า ”

.... ฟิวว ... ผวัะ !!!

“ เออะ ... โอ้ย .. โอ้ยยยย .. เจ็บ ..”

หลวงพ่อถืกเยี่ยงปลาดุกปักฝ่ามือ เข้าบักเลิ่ก จนปลาดุกติดมือเลาอ้อนต้อน

หลวงพ่อ กะเสียทีเณรเมี่ยงอีกตามเคย


  หน้าก่อน หน้าถัดไป

 
Creative Commons License

ชมรมอีสานจุฬาฯ... นิทานพื้นบ้านอีสาน