"นิทานแลง" เป็นคำที่ผู้ข้าฯตั้งขึ้นเอง " แลง" หมายถึงช่วงเวลาค่ำ (กะเวลายามมื้อแลงนั่นล่ะ) "นิทานแลง" กะเลยหมายถึงนิทานที่เว้าให้กันฟังยามค่ำๆ ยามแลงๆ (หลังกินข้าวแลงแล้ว)
ในสมัยที่ยังบ่มีไฟฟ้าใช้ บ่ทันมีโทรทัศน์น้อ หลังกินข้าวแลงแล้ว คนเฮือนใกล้เคียงกัน มักสิมาชุมนุมกัน อยู่เดิ่นบ้านของผู้ได๋ผู้นึง นั่งโสเหล่กัน ย่อยอาหารไปนำ เสริมเย็นไป ชมดาวชมอีเกิ้งไปนำ และในช่วงนี้เองที่คนเฒ่าคนแก่ มักจะนำนิทานต่างๆ มาเว้าสู่กันฟัง มาเว้าสู่เด็กน้อยฟัง หรือฮาลังเทื่อ กะเล่นทายปริศนาคำทวยกันกะมี
หรือบางเทื่อ กะคนในครอบครัวเดียวกันเอง หลังกินข้าวแลงแล้ว อาจสิมานั่งเล่นอยู่นอกชาน แล้วกะผู้เป็นพี่ พ่อแม่ ปู่ย่า ตายาย ไผกะตามหละ กะสิเว้านิทานให้เด็กน้อยฟัง เด็กน้อย กะนอนเบิ่งดาว เบิ่งอีเกิ้ง ไปนำ ฟังนิทานไปนำ
นิทานต่างๆ ที่มักเว้าให้กันฟังกัน ในยามแลง ผู้ข้าฯกะเลยเอิ้นนิทานซุมนี้ว่า "นิทานแลง"
|
|
|
สมบัติ |
ศรีสิงห์ |
|
พฤศจิกายน |
๒๕๔๖ |
|