ผญา คติสอนใจประจำวันที่ 25 เมษายน 2568:: อ่านผญา 
ให้เจ้าแปงตนไว้ ทำเนียมคือนกเจ่า ยามเมื่อบินเจิดเจ้ย สิขาวเปลื้องดังนกยาง แปลว่า ให้ดูนกเจ่าเป็นตัวอย่าง นกเจ่า เมื่อบินบนฟ้า มองเห็นเป็นสีขาวประหนึ่งนกกระยาง หมายถึง ให้รู้จักอ่อนน้อมถ่อมตน อย่าโอ้อวดว่าตนเก่ง

นิทานพื้นบ้านอีสาน  

ท้าวเสียวสวาด (นิทานพื้นบ้าน---อีสานจุฬาฯ)
นิทานแลง.. ท้าวเสียวสวาด

  หน้าก่อน หน้าถัดไป
เกริ่นนำ


     วรรณคดีของลาว ที่เป็นที่นิยมมานานกว่าสามร้อยปี เป็นนิทานสุภาษิตที่คนลาวให้ความสำคัญหลาย กะคือ วรรณคดีเรื่อง “ท้าวเสียวสวาด” หรือ “ศรีเสลียว เสียวสวาด” หรือแยกย่อยออกมาเป็น “ปัญหาเสียวสวาด” “ผญาเสียวสวาด”

     ท้าวเสียวสวาด ฟังชื่อผิวเผิน อาจสิเข้าใจว่า เป็นนิทานตลกโปกฮาไปทางลามก สองแง่สามง่าม แต่จริงๆ แล้ว บ่ได้เกี่ยวกับเรื่องลามกทำนองนั้นเลย ท้าวเสียวสวาด เป็นคนมีปัญญาฉลาดหลักแหลม แล้วกะใช้ปัญญาอันฉลาดนั้นช่วยแก้ไขปัญหาต่างๆ เป็นที่ปรึกษาของพระราชา จนเป็นที่ยอมรับของคนทั้งหลาย.... ถ้าสิเอิ้นให้เข้าใจง่ายๆ กะคือท้าวเฉลียวฉลาด นั่นล่ะ ...

     จากวรรณคดีเรื่อง ท้าวเสียวสวาด สิมีผญาสุภาษิตคำสอน ต่างๆ มากมาย ชาวบ้านชาวเมือง ทั้งลาวและไทยอีสาน ได้นำมาเป็นคำสอนและหลักปฏิบัติสืบมาดนเท่าดน (แต่ปัจจุบัน คนที่ฮู้ผญาเสียวสวาด มีหน่อยเท่าหน่อย... บางเทื่อผญาที่เอามาเว้ากัน กะมาจากผญาเสียวสวาด แต่กะบ่ฮู้ว่ามาจากผญาเสียวสวาด กะมี)

ตัวอย่างผญาเสียวสวาด เช่น

"นกอีเอี้ยงกินหมากโพธิ์ไทร แซวแซว เสียง บ่มีโตฮ้อง แซวแซวฮ้อง โตเดียวเหมิดหมู่.."


"..คำปากพ่อแม่นี้ หนักเกิ่งธรณี
ใผผู้ยำแยงนบ หากสิเฮืองเมื่อหน้า
ในให้เสมอน้ำ คุงคาสมุทรใหญ่
ให้เจ้าคึดถี่ถ้วน ดีแล้วจึงค่อยจา
อย่าได้เฮ็ดใจเพี้ยง เขาฮอขมขื่ม
ความคึดเจ้าอย่าตื้น เสมอหม้อปากแบน
สิบตำลึงอยู่ฟากน้ำ อย่าได้อ่าวคนิงหา
สองสะลึงแล่นมามือ ให้เจ้ากำเอาไว้
มีเงินล้นเต็มถง อย่าฟ้าวอ่งหลายเน้อ
ลางเทื่อ ทุกข์มอดไฮ้ เมื่อหน้าส่องบ่เห็น
เงินหากหมดเสียแล้ว ขวัญยังดอมไถ่
อันว่าผ้าขาดแล้ว แซงนั้นหากยัง
ฮักผัวให้ มีใจผายเผื่อ
ฮักผัวให้ฮักพี่น้อง แนวน้าแม่ผัว
ฟักเฮือไว้ หลายลำแฮท่า
หม่าข้าวไว้ หลายบ้านทั่วเมือง.."



     นิทานเรื่องท้าวเสียวสวาดเป็นเรื่องยาว มีรายละเอียดหลาย... นอกจากนั้นยังประกอบด้วยนิทานแยกย่อยออกไปอีกเป็นสี่สิบห้าสิบเรื่อง ซึ่งนิทานแยกย่อยนั้น กะคือนิทานที่เสียวสวาดนำมาเล่าประกอบคำอธิบาย นั่นเอง

     อยู่หม่องนี้ ขอนำมาเล่าแบบเป็นเรื่องย่อ บางตอน พอได้ฮู้เรื่องราวเนาะ... (อีหลีแล้ว กะฮู้เรื่องแค่นิดหน่อยนั่นล่ะหวา บ่เคยได้อ่าน เรื่องเต็ม ๆ จักเทื่อ)
ปล. ขออภัย ที่เล่าเป็นสำเนียงอีสาน


 

  หน้าก่อน หน้าถัดไป

 
Creative Commons License

ชมรมอีสานจุฬาฯ... นิทานพื้นบ้านอีสาน