หลังจากนั้น... มื้อนึง ขุนงายกะไปประชุมหารือราชการคือเก่า อยู่หม่องเก่านั่นล่ะ ส่วนเซียงเมี่ยง กะเฮ็ดงานอยู่บ้าน (เหมิดสิทธิ์ได้ถือกะต่าหมากแล้วเนาะ)
พอดี มื้อนั้น เซียงเมี่ยงเลากวาดขี้ฝอย ต้อมไว้เป็นกอง ๆ แล้วกะจุดไฟ เผากองขี้ฝอยเด้ มีอยู่กองนึง เลาผัดกวาดต้อมกองไว้เลาะเฮือน พอจุดไฟเผา ไฟมันเลยลุก ลามไปไหม้บ้านขุนงาย เด้บาดตาทีเนียะ
เฮือน มันเป็นเฮือนไม้เนาะ มันกะลุกดีอย่างคักแหล่วเว่ย....
เมียขุนงายให้เซียงเมี่ยงไปบอกขุนงายอยู่เฮือนหอประชุม...
เซียงเมียง เลายังจื่อ ยังจำ คำสอนสั่งของขุนงายได้ยุเนาะ (สิเฮ็ดใส่-เฮ็ดประชดนำกะบ่จัก) เลากะบ่ฟ้าวแล่นไปเด้ ย่างไปซ้า ๆ ย่างเชียมคัก ฮ้ายกั่วพระบิณฑ์บาต พุ่นล่ะแหม พอไปฮอดเฮือนหอประชุม กะคลานซ้าๆ แต่ไกลๆ พุ่นน่ะ ซัวสิไปฮอดใกล้ ๆ ขุนงาย.. โฮ้.. ดนอย่างคักแหล่วเว่ย
พอคลานเข้าไปฮอด กะเอามือป้องปาก เว้าค่อย ๆ เลาะ ๆ หูขุนงาย (เซิม-ซัม นั่นล่ะ)
ไฟไหม้บ้านท่านขุน (เว้าค่อยอย่างคัก จนบ่ได้ยิน)
หา..?? แมนหยังเกาะ
ไฟไหม้บ้านท่านขุน (เว้าแฮงขึ้นมาจักหน่อย แต่ว่ากะยังบ่ฮู้ยิน)
หา??? แมนหยังเกาะเดียวหนิ เว้าแฮง ๆ กั่วนี้ แหน่เป็นหยัง
ไฟไหม้บ้านท่านขุน (เว้าแฮง พอฮู้ยินอยู่)
เว้าเทื่อทีสาม ขุนงายจั่งค่อยฟังฮู้เรื่อง พอฮู้เรื่องแล้ว กะขอโตกลับไปเบิ่งบ้าน... พอกลับฮอดบ้าน.... ไฟไหม้บ้านจนเหมิดแล้ว กะเลยด่าเซียงเมี่ยงว่า
เรื่องสำคัญจั่งซี้ เป็นหยังบ่ฟ้าว ๆ แล่นไปบอก
กะท่านขุน บอกให้ค่อยๆ ไป ผู้ข้าฯ กะเลยค่อย ๆ ไป ตามคำสั่งของท่านขุน ทุกประการ
ขุนงายอึ้ง... ปากบ่ออก... แฮ่งเว้าหลาย แฮ่งเฮ็ดใส่ตั้ว เซียงเมี่ยงนี่กะดาย... ทางที่ดี คือทางลาดยาง... บ่แมน... ทางทีดี เงียบ ๆ ไว้ดีกั่ว... ซั่นแหล่ว
ขุนงาย กะเลยถามเซียงเมี่ยงว่า
ต้นไฟมันอยู่ไส ไฟมันมาจากหม่องได๋
เซียงเมี่ยง กะเลย ย่างไปในครัว ของเฮือนอีกหลังนึง (กะเลาไปต่อไฟมาจากหม่องฮั่นเนาะ) ไปยกขิงไฟมา บอกว่า
นี่ล่ะต้นไฟ ไฟมันมาจากขิงไฟนี่ล่ะ
( ????..บ่แมนจั่งซ้าน หมายถึงว่า สาเหตุที่ไฟไหม้ นั่นหนา... ) กะบอกแล้ว ว่า กับเซียงเมี่ยงน่ะ อย่าสะเว้าหลาย...บอกบ่เชื่อ กะต้องเจออีกดอก ล่ะตี้...
ขุนงาย ปากบ่ออก... ขี้คร้านปาก ขี้คร้านเว้า นั่นล่ะหวา
|