ผญา คติสอนใจประจำวันที่ 26 เมษายน 2568:: อ่านผญา 
ตกกะเทินว่าได้สู้ บ่ถอยหลังให้เขาว่า นับแต่มื้อสิก้าว ไปหน้าบ่ถอย แปลว่า เมื่อได้ตกลงใจว่าสู้แล้ว ไม่ท้อถอย มีแต่จะเจริญก้าวหน้าไปเรื่อย หมายถึง เมื่อได้ลงมือทำแล้ว ให้เพียรพยายาม อย่าท้อถอย

นิทานพื้นบ้านอีสาน  

เซียงเมี่ยง... ไฟไหม้บ้าน (นิทานพื้นบ้าน---อีสานจุฬาฯ)
เซียงเมี่ยง..บั้นต้น

  หน้าก่อน หน้าถัดไป
๑๖.ไฟไหม้บ้าน


หลังจากนั้น... มื้อนึง ขุนงายกะไปประชุมหารือราชการคือเก่า อยู่หม่องเก่านั่นล่ะ ส่วนเซียงเมี่ยง กะเฮ็ดงานอยู่บ้าน (เหมิดสิทธิ์ได้ถือกะต่าหมากแล้วเนาะ)

พอดี มื้อนั้น เซียงเมี่ยงเลากวาดขี้ฝอย ต้อมไว้เป็นกอง ๆ แล้วกะจุดไฟ เผากองขี้ฝอยเด้ มีอยู่กองนึง เลาผัดกวาดต้อมกองไว้เลาะเฮือน พอจุดไฟเผา ไฟมันเลยลุก ลามไปไหม้บ้านขุนงาย เด้บาดตาทีเนียะ

เฮือน มันเป็นเฮือนไม้เนาะ มันกะลุกดีอย่างคักแหล่วเว่ย....

เมียขุนงายให้เซียงเมี่ยงไปบอกขุนงายอยู่เฮือนหอประชุม...

เซียงเมียง เลายังจื่อ ยังจำ คำสอนสั่งของขุนงายได้ยุเนาะ (สิเฮ็ดใส่-เฮ็ดประชดนำกะบ่จัก) เลากะบ่ฟ้าวแล่นไปเด้ ย่างไปซ้า ๆ ย่างเชียมคัก ฮ้ายกั่วพระบิณฑ์บาต พุ่นล่ะแหม พอไปฮอดเฮือนหอประชุม กะคลานซ้าๆ แต่ไกลๆ พุ่นน่ะ ซัวสิไปฮอดใกล้ ๆ ขุนงาย.. โฮ้.. ดนอย่างคักแหล่วเว่ย

พอคลานเข้าไปฮอด กะเอามือป้องปาก เว้าค่อย ๆ เลาะ ๆ หูขุนงาย (เซิม-ซัม นั่นล่ะ)

“ ไฟไหม้บ้านท่านขุน ” (เว้าค่อยอย่างคัก จนบ่ได้ยิน)

“ หา..?? แมนหยังเกาะ ”

“ ไฟไหม้บ้านท่านขุน ” (เว้าแฮงขึ้นมาจักหน่อย แต่ว่ากะยังบ่ฮู้ยิน)

“ หา??? แมนหยังเกาะเดียวหนิ เว้าแฮง ๆ กั่วนี้ แหน่เป็นหยัง ”

“ ไฟไหม้บ้านท่านขุน ” (เว้าแฮง พอฮู้ยินอยู่)

เว้าเทื่อทีสาม ขุนงายจั่งค่อยฟังฮู้เรื่อง พอฮู้เรื่องแล้ว กะขอโตกลับไปเบิ่งบ้าน... พอกลับฮอดบ้าน.... ไฟไหม้บ้านจนเหมิดแล้ว กะเลยด่าเซียงเมี่ยงว่า

“ เรื่องสำคัญจั่งซี้ เป็นหยังบ่ฟ้าว ๆ แล่นไปบอก ”

“ กะท่านขุน บอกให้ค่อยๆ ไป ผู้ข้าฯ กะเลยค่อย ๆ ไป ตามคำสั่งของท่านขุน ทุกประการ”

ขุนงายอึ้ง... ปากบ่ออก... แฮ่งเว้าหลาย แฮ่งเฮ็ดใส่ตั้ว เซียงเมี่ยงนี่กะดาย... ทางที่ดี คือทางลาดยาง... บ่แมน... ทางทีดี เงียบ ๆ ไว้ดีกั่ว... ซั่นแหล่ว

ขุนงาย กะเลยถามเซียงเมี่ยงว่า

“ ต้นไฟมันอยู่ไส ไฟมันมาจากหม่องได๋ ”

เซียงเมี่ยง กะเลย ย่างไปในครัว ของเฮือนอีกหลังนึง (กะเลาไปต่อไฟมาจากหม่องฮั่นเนาะ) ไปยกขิงไฟมา บอกว่า

“ นี่ล่ะต้นไฟ ไฟมันมาจากขิงไฟนี่ล่ะ ”

( “ ????..บ่แมนจั่งซ้าน หมายถึงว่า สาเหตุที่ไฟไหม้ นั่นหนา... ” ) กะบอกแล้ว ว่า กับเซียงเมี่ยงน่ะ อย่าสะเว้าหลาย...บอกบ่เชื่อ กะต้องเจออีกดอก ล่ะตี้...

ขุนงาย ปากบ่ออก... ขี้คร้านปาก ขี้คร้านเว้า นั่นล่ะหวา

  หน้าก่อน หน้าถัดไป

 
Creative Commons License

ชมรมอีสานจุฬาฯ... นิทานพื้นบ้านอีสาน