มื้อต่อมา เซียงเมี่ยงเลาจัดตกแต่งเฮือนทองเลา บ่ทันแล้วดีเนาะ เลากะหาข้าวของ มาตกแต่งเฮือนเด้ ไปสั่งช่างให้เฮ็ดแหน่ ไปหาย่างซื้อตามตลาดแหน่ นั่นล่ะ กะบ่ค่อยได้เข้าเฝ้าพระราชาอีก
พระราชา บ่เห็นเซียงเมี่ยงเข้าเฝ้า กะสงสัยว่า เซียงเมี่ยงมันหายหัวไปไส จั่งค่อยบ่มาเข้าเฝ้า? กะเลยให้คนไปตามเซียงเมี่ยง มาเข้าเฝ้า พอเซียงเมี่ยง มาฮอด กะถามว่า
เมี่ยง หลายมื้อมานี้ เฮ็ดหยังอยู่ คือบ่มาเข้าเฝ้า ว่าซั่น
ข้าพระองค์ ไปบอกหนังสือพระสังฆราช พะนะ เซียงเมี่ยงว่า
พระราชา ได้ฟังแล้ว กะสงสัยว่า เอ พระสังฆราช เพิ่นกะเก่งหนังสือคักอยู่น๊า... เซียงเมี่ยงมันเก่งปานนั้นบ้อ ถึงขนาดเป็นอาจารย์พระสังฆราชได้หนิ พระราชาเลาบ่เชื่อ กะเลยให้คนไปนิมนต์พระสังฆราชมา ถามเอาความจริง ถ้าบ่เป็นความจริง สิได้ลงโทษเซียงเมี่ยงให้เข็ดหลาบ โทษฐานขี้ตั๋ว นั่นหนา
หลังจากพระสังฆราช มาฮอดแล้ว พระราชากะเล่าให้ฟัง ตามที่เซียงเมี่ยงว่านั่นล่ะ แล้วกะถามว่า
เซียงเมี่ยง เป็นอาจารย์บอกหนังสือท่านพระสังฆราช อีหลีบ้อ
พระสังฆราช ได้ยินได้ฟังจั่งซั่น กะ โมโหเป็นฟืนเป็นไฟ ว่าเซียงเมี่ยง บังอาจลบลู่เจ้าของ พร้อมกับตอบว่า
เซียงเมี่ยง บ่เคยบอกหนังสืออาตมาดอก แล้วกะนั่งออก ฮ้อนออกฮน ด้วยความโมโห
พระราชากะว่า
เห็นบ่ล่ะบักเซียงเมี่ยง มึงบังอาจลบหลู่พระสังฆราช จนเพิ่นโมโหเป็นฟืนเป็นไฟ อยู่นั่นน่ะ
เซียงเมี่ยงได้ฟังจั่งซั่น กะเลยเอาคนโทน้ำ ที่วางอยู่ข้าง ๆ เจ้าของ ไปเทน้ำฮดพระสังฆราช จนเปียกมอดยอด เอาโลด ทางปากกะเว้าว่า
มอด มอด ดับ ดับ
พอถืกถามว่า เป็นหยังจั่งเฮ็ดจั่งซั่น กะตอบว่า
พระสังฆราช โมโหเป็นฟืนเป็นไฟ ข้าพระองค์ ย่านไฟไหม้พระราชวัง กะเลยต้องเอาน้ำ ฮดต้นตอของไฟ ซั่นดอก พะเจ้าค่า
พระราชา สิเอาผิดประเด็นนี้กะบ่ได้ กะเลยถามประเด็นเก่าว่า
พระสังฆราช เพิ่นบอกว่า มึงบ่ได้บอกหนังสือเพิ่น แสดงว่ามึงขี้ตั๋ว แมนบ่ มึงสิว่าจั่งได๋..
เซียงเมี่ยงเลยเล่าให้ฟังว่า
มื้อวานนี้ ย่างไปเลาะกุฏิพระสังฆราช เห็นหนังสือผูกนึง ตกอยู่ กะเลยไปบอก พระสังฆราช
แล้วกะเหลียวไปทางพระสังฆราชถามว่า แม่นบ่ หลวงพ่อ
พระสังฆราชกะตอบว่า แมน
เซียงเมี่ยงกะเว้าต่อว่า
ที่บอกว่า บอกหนังสือพระสังฆราช ' น่ะ บ่ได้หมายถึง สอนพระสังฆราช เป็นอาจารย์พระสังฆราชเด้ แต่หั่งหมายถึง บอกพระสังฆราชว่าหนังสือตก ซั่นดอก พะเจ้าค่า
พระราชา กะเอาผิดเซียงเมี่ยงบ่ได้ ซั่นแหล่ว
|