เหมิดจากหนาว เข้าหน้าฮ้อน ลมวีวอน พัดขี้ดินง่องไง่ กวยกอไผ่ สีแอดแอ้ จอแจเผิ้งดูดน้ำหวาน ดอกงิ้วบาน ดอกม่วงออก ประดับป่า พนาไพร ฝนตกไล่โฮยฮำ ไอขี้ดินหอมกุ้ม ดอกกะเจียวน้อย เทิงผักหวาน ผักอีรอก พากันโป่งแตกต้น หน่อน้อย ใบอ่อนงาม ซั่นแหลว.....
อยู่วัดหม่องนึง มีหลวงพ่อผู้นึง เลาเป็นเจ้าอาวาสอยู่วัดนั้น เด้ แล้วกะวัดนั้น กะมีต้นบักม่วงอยู่ต้นนึง ช่วงหน้าฮ้อนเนาะ... บักม่วงต้นนั้น กะหน่วยดกค๊ากคัก แต่ว่า มันหั่งบ่ทันได้ใหญ่ เป็นบักม่วงน้อย หน่วยพอเป็นตาเอามีดปาดเคิ่ง แล้วกะคุ้ยแจ่ว หรือปลาแดกบอง กินแซบๆ นั่นล่ะ
มื้อนึง เซียงเมี่ยง ไปเฮ็ดธุระให้พระราชาอยู่แถวๆ นั้น แล้วกะย่างเลาะเล่น ไปเรื่อย จนไปฮอดวัดหม่องนั้น ช่วงนั้น แดดกะกำลังฮ้อนๆ เนาะ แดดฮ้อนๆ เหื่อไหลๆ เหลียวเห็นบักม่วงน้อย กะน้ำลายไหลคึดอยากซั่นแหล่ว
เซียงเมี่ยง กะเลยย่างเข้าไปในวัด ไปขอบักม่วงกับหลวงพ่อ หลวงพ่อเห็นว่า บักม่วงมันยังหน่วยน้อยอยู่ อยากเอาไว้กินหน่วยสุกมัน กะเลยว่า
“อย่าฟ้าวเอาไปกินเถาะโยมเอ้ย บักม่วงมันยังหน่วยน้อยๆ อยู่ จ่งไว้ให้มันสุก สาก่อน”
“ บักม่วงมันดกกะด้อ... บ่เอาหลายดอกหลวงพ่อ ขอจักห้าหกหน่วย พอยาอยาก จักหน่อย นี่หนา”
“ ห้าหกหน่วยกะบ่ได้... คันเจ้าเอาไปห้าหกหน่วย ผู้อื่นอีกห้าหกหน่วย.. หลายๆ คน บักม่วงข้อย กะเหมิดต้นท่อนแหล่ว”
“ ขอมาซิมจักหน่วย ซะเนาะ หลวงพ่อ”
“ หน่วยเดียวกะบ่ได้... คันอยากซิมอีหลี.. กะ..นั่นเด้ ซุมหล่นอยู่นั่นเด้”
“ ซุมมันหล่น มันบ่แซบเดิก หลวงพ่อ”
“ บ่แซบ กะเรื่องของเจ้าแหล่ว”
เซียงเมี่ยง ขอแล้วขออีก หลวงพ่อกะบ่ ให้ ในที่สุด กะเลยบ่ได้กินบักม่วงน้อย เทิงสูนให้หลวงพ่อกะพ่องกัน
“ หลวงพ่ออีหยัง มาขี้ถี่คักขี่ถี่แหน่ เดี๋ยว ต้องหาทางแก้แค้น...”
อยู่ต่อมา อีกดนเติบ เป็นช่วงใกล้ฮอดยามพระราชทานยศ เลื่อนขั้น ให้พระ ว่าซั่นเถาะ เซียงเมี่ยง กะแต่งเครื่องแบบมหาดเล็กเต็มยศ ไปหาหลวงพ่อวัดนั้นเด้ ทำทรงว่ามาราชการแถวนั้น แล้วกะเข้าไปเว้า พูดคุยกับหลวงพ่อ แล้วกะโฆษณาโตเจ้าของว่า เป็นหมอมอ ผู้ทำนายแม่น ทำนายอนาคตได้คิ้ว คัก พะนะ
หลวงพ่อ เห็นว่าแต่งโตดี เป็นมหาดเล็กของพระราชา เป็นตาน่าเชื่อถือ กะเลยให้เซียงเมี่ยง ลองทำนายให้ว่าซั่นเถาะ
“ คันจั่งซั่นเบิ่งให้หลวงพ่อแหน่ ว่าปีนี้สิได้เลื่อนยศ เลื่อนตำแหน่งบ่"
เซียงเมี่ยง กะทำทรงถามหา วันเดือนปีเกิด เวลาตกฟาก แล้วกะทำทรงงอนิ้ว นับข้อมือ คำนวณดวงชะตา เด้ จากนั้น กะเว้าว่า
“ ปีนี้ ดาวราหูเข้าแทรก พระจันทร์ และพระเสาร์ บ่ได้ครอบพระอาทิตย์ พระอาทิตย์ยังเจิดจ้าดียุ ดวงซาตาของหลวงพ่อ ปีนี้ น่าสิพุ่งแฮงอยู่ดอก เบิ่งตามการโคจรของดาวต่างๆ แล้ว หลวงพ่อ กะน่าสิได้เลื่อนขั้นอยู่ดอก”
พุ้นเด้ เซียงเมี่ยงกะดาย เลาเว้าปานหมอมออีหลี เด้เดียวนี่ แล้วกะเว้าต่อว่า
“ แต่ว่า การคำนวณดวงชะตาแบบนี้ คันบอกเวลาตกฟาก คลาดเคลื่อนไปหน่อยเดียว การทำนาย อาจคลาดเคลื่อนได้ ... ว่าแต่ว่า หลวงพ่อแน่ใจบ่ล่ะ ว่าเวลาตกฟาก ที่หลวงพ่อบอกมานั่นน่ะ มันตรงเป๊ะ...”
“ โอ้ย... บ่แน่ใจดอก พ่อแม่ เพิ่นบอกมาจั่งซั่น จักวะเพิ่นจำได้ดีปานได๋ กะบ่จักดอก”
“ นั่นตี้ล่ะ ... ฉะนั้นเพื่อให้แม่นขึ้น ต้องเบิ่งลายดาก เด้อหลวงพ่อ”
“ หา??? เบิ่งลายดากวะติ? บ่เคยได้ยินจักเทื่อดอก หมอมอเบิ่งลายดาก มีแต่เบิ่งลายมือนั่นล่ะ”
“ หมอมอเบิ่งลายมือน่ะ กะจอกเกินไป บ่คอยแม่น เชื่อบ่ค่อยได้.... ตำราเบิ่งลายดาก เป็นตำราโบราณ คนผู้ที่ฮู้ ตอนนี้กะมีอยู่บ่หลายแล้ว... การเบิ่งลายดาก สิสามารถทำนายอนาคตได้แม่นที่สุด... หลวงพ่อสนใจบ่ล่ะ”
“ กะสนแหล่วเว่ย.. คันมันแม่นปานนั้น กะดาย”
ตกลงกันเรียบร้อย หลวงพ่อกะโก่งคงขึ้น เปิดผ้าสบงออก ให้เซียงเมี่ยงเบิ่งลายดาก
เซียงเมี่ยง กะเอาขี้หมินหม้อ ที่พกมานำ ออกมาทาดากหลวงพ่อ จนวะดากดำปี้ๆ เอาโลด พอทาแล้วๆ กะฮ้องว่า
“ ฮู้ย ดากอีหยัง จั่งมาดำปานนี้ ดากดำจั่งซี้ เบิ่งบ่ได้เดิก”
แล้วกะเอาตีน ถีบดากหลวงพ่อ ล้มป่างหง่าง วะนึง จากนั้น กะหันหลัง ย่างหนีออกจากวัดเสย.. ปล่อยให้หลวงพ่อ งงกับดากดำจะของ ซั่นแหล่ว.....
|