ผญา คติสอนใจประจำวันที่ 26 เมษายน 2568:: อ่านผญา 
อย่าได้คิดโลภเลี้ยวเป็นเกี่ยวหลายคม ให้มันเป็นคมเดียวต่อสันกับด้าม แปลว่า อย่าได้มีใจคดเคี้ยว โลเลเหมือนเคียวหลายคม ขอให้เป็นเหมือนเคียวคมเดียว ตรงสันกับด้าม หมายถึง ไม่ควรมีจิตใจโลเล คดเคี้ยว ปากอย่างใจอย่าง

นิทานพื้นบ้านอีสาน  

เซียงเมี่ยง...กองฟอนไม้ลังตัง (นิทานพื้นบ้าน---อีสานจุฬาฯ)
เซียงเมี่ยง..บั้นปลาย

  หน้าก่อน หน้าถัดไป
๗๕.กองฟอนไม้ลังตัง


เว้ามาฮอดบั้นท้าย ปลายนิทาน ความจาต้าน ใกล้สิม่อ รอท่าฟัง ตอนจบบั้น หันหน้า อ่วยมา แหน่แหม...

เอ๋า.... มาฟังกันต่อ สะล่ะล่ะ...

ขุนศรีฯ ได้ฟังคำของพระราชาเว้าจั่งซั่นแล้ว กะฮู้ว่า พระราชาเว้าแล้ว ต้องเฮ็ดแน่นอน กะคึดว่า ถึงแม้จะของตายไปแล้ว กะสิบ่ยอมให้ผู้ได๋ มาเหยียบย่ำได้ ตามอำเภอใจ... ต้องวางแผนรับมือ....

ขุนศรีฯ สั่งเมียว่า

"คันข้อยตายไปแล้ว ให้เฮ็ดกองฟอนหม่องเผา อยู่โพนหัวนา แล้วกะให้หาไม้ลังตัง มาเป็นฟืนไม้กองฟอนเด้อ..."

จากนั้นอีกบ่ดน ขุนศรีฯ กะตาย นอนตายอยู่กระท่อมน้อยปลายนา...

เมียขุนศรีฯ กะจัดการหาไม้ลังตัง มาเฮ็ดกองฟอน เผาขุนศรีฯอยู่โพนหัวนา ตามคำสั่งเสียของขุนศรีฯ ทุกอย่าง เผายามแลง จนฮอดเซ้า ไฟกะมอด เหลือแต่ขี้เถ้า กับกระดูก

ฝ่ายพระราชา กะสั่งให้พวกสนมคู่อริขุนศรีฯ ตื่นแต่เซ้า ไปเยี่ยวใส่กองกระดูกขุนศรีฯ ตามที่เคยลั่นวาจาไว้...

พวกนางสนม ฮู้อยู่แล้ว ตื่นเซ้ามา กะพากันอดเยี่ยวไว้ รอท่าไปเยี่ยวใส่ กองกระดูกขุนศรีฯ ว่าซั่นเถาะ พอได้เวลา กะพากันไป ฮื้อซิ่น ยืนเยี่ยว นั่งเยี่ยว ใส่กองกระดูก กองขี้เถ้า จนเปียกมอดยอด

ขี้เถ้า มันเป็นขี้เถ้าของไม้ลังตังเนาะ พอแต่พวกสนมไปเยี่ยวใส่ ฝุ่นขี้เถ้า กะลอยมาถืก .....นำหมู่นั่นล่ะ..... เลาะๆ นั่นล่ะ..... พวกนางสนม พากันคัน ไปตามๆ กัน ปานไปบู๋ป่าบักตำแย เอาโลด กะยังว้ากะยังว่า...เหอๆ

"โอ้ย.. คัน ๆ ๆๆๆๆ"

"โอ้ย.. ขุนศรีฯเอ้ย... ตายไปแล้ว กะยังมาหลอกมาหลอนตูข้อยน้อ"

"อย่ามาหลอกมาหลอนกันเด้อ... ย่านแล้ว ย่านแล้ว"

พากันแล่นหนี เปิดอาดหลาด... เอาโลด....

ต่อจากนั้นมา พวกนางสนม กะบ่กล้าไปตอแยกับ กองขี้เถ้า กองกระดูกขุนศรีฯอีกเลย...

  หน้าก่อน หน้าถัดไป

 
Creative Commons License

ชมรมอีสานจุฬาฯ... นิทานพื้นบ้านอีสาน