ท้าวเสียวสวาดกะว่า
อันว่าคนที่เข้าลักษณะเสนาหมากขี้กานี้ บ่ได้มีแค่ตอนนี้ท่อนั้น ในอดีตสมัยแต่กี้แต่ก่อน กะมีคือกัน
พระราชากะว่า เป็นจั่งได๋ เว้าให้ฟังเบิ่งแหน่
ท้าวเสียวสวาด กะยกนิทานเรื่องพรานเบ็ดกับกา มาเว้าประกอบว่า
อดีตกาลดนมาแล้ว มีพรานเบ็ดผู้นึง หาเลี้ยงชีพด้วยการวางเบ็ดตกปลาอยู่ลำห้วยแห่งนึง บางมื้อกะได้หลาย บางมื้อกะได้หน่อย อดๆอยากๆ
มื้อนึง ขณะกำลังนั่งตกปลาอยู่นั้น... กาใหญ่โตนึง โตใหญ่ประมาณควายน้อยเกิดได้1เดือน บินมาจากป่าหิมพานต์ มาหากินเลาะละแวกนั้น เห็นนายพรานเบ็ด กะเลยบินโฉบลงมา กระพือปีกหยุดพักอยู่กลางอากาศ ฮ้องเว้าว่า
เป็นจั่งได้น้อ ท่านนายพราน หากินหมานอยู่บ้อ
กะบ่หมานดอก บางมื้อกะได้หลาย บางมื้อกะได้หน่อย แล้วท่านล่ะ หมานบ่
กากะตอบว่า ข้อย กะบ่หมานดอก บางมื้อกะได้กินอิ่ม บางมื้อกะบ่อิ่ม... เอาจั่งซี้ซะเนาะท่านนายพราน เฮากะหาอยู่หากินคือกัน เฮามาเป็นหมู่กันสาเนาะ
นายพรานเห็นว่า กาโตนี้ บ่แม่นกาธรรมดา เป็นกาวิเศษ เว้าภาษามนุษย์ได้พร้อม น่าสิคบไว้เป็นหมู่เป็นพวก กะเลยยอมรับกาเป็นหมู่
กากะเลยบินลงมาหานายพราน จับอยู่พื้นดิน แล้วกะเว้ากับนายพรานต่อว่า หมู่เอ้ย เจ้าบ่เบื่อบ้อกับการวางเบ็ดหาปลาแบบนี้
เบื่อกะสิเฮ็ดจั่งได๋ล่ะน้อหมู่เอ้ย ถ้าบ่เฮ็ดอาชีพนี้ กะจักสิไปเฮ็ดหยังกิน
อยากเป็นพระราชาบ่ กาเว้า
อยากเป็นแหล่วเว่ย... เจ้ากะอย่าสะเว้าเรื่องที่มันเป็นไปบ่ได้เถาะเว่ย
คือจั่งซี้ สามมื้อที่แล้ว พระเจ้ากรุงพาราณสี เพิ่นตายแล้ว เมืองพาราณสีบ่มีคนสืบราชสมบัติ เดี๋ยวเฮาสิพาเจ้าไปเป็นพระราชาเมืองพาราณสี แต่ว่า ก่อนสิไป ต้องทดสอบบุญบารมีก่อนว่า เจ้ามีบุญได้เป็นพระราชาบ่
จากนั้น กา กะขี้หมากไม้ออกมาก้อนนึง บอกให้นายพรานไปหยิบก้อนขี้กามา แล้วกะเว้าว่า
หมากไม้นี้ ชื่อว่าหมากนิโครธ เป็นหมากไม้วิเศษ เกิดในป่าหิมพานต์ ข้อยไปขอกินนำฤๅษีในป่าหิมพานต์ พระฤๅษีเพิ่นไปเก็บหมากนิโครธกินซุมื้อ เพิ่นเมตตาสัตว์โลก เพิ่นถ่ายออกมา เพิ่นกะเอาขี้ไปตากให้แห้ง เก็บไว้ให้คนทั้งหลาย ขี้พระฤๅษีนี้เป็นยาวิเศษรักษาได้ทุกโรค ถ้าต้องการเงินกะเอาไปต้มใส่กับน้ำเยี่ยวใส่ตะกั่วลงไป ต้มจนน้ำแห้งกะสิกลายเป็นเงิน ถ้าต้องการทองคำกะเอาไปต้มใส่น้ำเยี่ยว เติมชินลงไป ต้มจนน้ำแห้ง กะสิกลายเป็นทองคำ... เจ้ากินเด้อ เสริมบุญบารมีให้ได้เป็นใหญ่ ถ้ากินแล้ว รสหวาน กะมีบุญได้เป็นพระราชา ถ้ารสขม กะมีบุญได้เป็นเสนาอำมาตย์
นายพราน กะบิมากิน ขมปี๋เลย พอฮู้ว่ามันขมแฮง กะเลยกินได้แค่เคิงเดียว เก็บอีกเคิงนึงไว้ในพกผ้า ถ้าสิตอบว่า ขม กะย่านกาบ่พาไปเป็นพระราชา กะเลยตอบว่า หวานดีแท้ๆ
กา กะดีใจที่นายพรานมีบุญได้เป็นพระราชา กะเลยเฮ็ดสัญญากับนายพรานว่า ถ้านายพรานได้เป็นพระราชา ขอให้ฆ่าควายให้กากินเดือนละโต นายพรานกะตกลง
จากนั้น กา กะให้นายพรานขึ้นขี่หลัง แล้วกะพาบินไปเมืองพาราณสี ไปพักเซาอยู่นอกโตเมือง รอถ่าจนค่ำมืด พอมืดแล้ว กากะบินเข้าไปในวัง ไปคาบเอาศพพระเจ้ากรุงพาราณสีออกมาจากโลง เอาไปทิ้งในป่าช้า แล้วกะพานายพรานไปนอนในโลงแทน พร้อมทั้งกำชับว่า อย่าลืมสัญญา
นายพรานนอนอยู่ในโลงน้อยๆอย่างทรมาน เมื่อยแขนขาจนทนบ่ไหว กะเลยขยับโต พลิกโต ในโลงกะดังกุ๊กกั๊กๆ คนที่เฝ้าอยู่ข้างนอกได้ยินเสียง เข้าใจว่าพระราชาฟื้นคืนชีพ กะจุดไฟ ประโคมดนตรี เอานายพรานออกจากโลงอาบน้ำอบน้ำหอม
นายพราน กะได้เป็นพระราชาเมืองพาราณสี
ขณะที่ออกว่าราชการอยู่ท้องพระโรง นายพราน กะเว้าให้เสนาอำมาตย์ฟังว่า ที่ฟื้นคืนชีพมาได้นี้ กะย่อนยาวิเศษของพระฤๅษี ที่รูปร่างและเสียงเปลี่ยนไป ความทรงจำเปลี่ยนไป กะย่อนยาวิเศษนี้ล่ะ ยานี้รสชาติหวานดี หมู่เจ้าลองเอาไปชิมเบิ่ง ว่าแล้ว นายพรานกะเอาขี้กาส่วนที่เหลือให้เสนาอำมาตย์ไปแจกกันชิม แล้วกะถามว่า เป็นจั่งได๋หวานดีบ่
เสนาอำมาตย์ ทั้งๆที่ขม แต่กะตอบว่า หวานดีพะยะคะ
นี่ล่ะเสนาขี้กา เว้าประจบสอพลอ บ่ตรงตามจริง
ฝ่ายกา รอถ่ากินควาย กะบ่ได้กิน ฮอดยามกลางคืน กะบินมาหานายพรานทวงสัญญา นายพราน กะจัดให้ตามสัญญา... ควายโตนึง กากินได้ เดือนนึง กา กะมีอาหารกิน โดยบ่ต้องไปหากินแบบอดๆอยากๆอีก
นายพรานเป็นพระราชา เสพสุขสำบาย จัดควายให้กากินได้บ่กี่เดือนกะลืมกา กา กะหิวโหย อดอยาก ต้องหากินแบบเก่า กาทนบ่ไหว กะเลยบินไปหานายพราน เว้าให้นายพรานฟังว่า ขณะบินไปหากิน ได้พ้อแก้วมณีวิเศษ ไผได้ครอบครองสามารถเหาะเหินเดินอากาศได้ แต่ว่ากามีบุญบ่พอ บ่สามารถแตะต้องได้ อยากพาพระราชาผู้มีบุญบารมีหลายไปเอา สิได้เสริมอำนาจบารมี
นายพรานได้ยินได้ฟัง กะอยากได้แก้วมณีวิเศษ กะเลยขึ้นขี่หลังกา ให้กาพาไปเอา
กา กะบินไปริมห้วยหม่องเก่าที่นายพรานเคยนั่งตกปลา แล้วกะปล่อยนายพรานไว้หม่องนั้น พร้อมกับเว้าว่า
เขาซ่อยให้ได้เสพสุขแล้ว ยังลืมบุญคุณเขา คนอกตัญญูลืมคุณคน บ่ควรครองเมืองบ้าน
แล้วกา กะบินหนีจากไป
|