ผญา คติสอนใจประจำวันที่ 1 พฤษภาคม 2568:: อ่านผญา 
ชื่อว่าแนวความฮู้ศีลธรรมพระเจ้าใหญ่ คันแม่นเฮียนได้แล้วเป็นแก้วแก่นมโน แปลว่า ความรู้ในศีลธรรมพระพุทธองค์ หากเข้าใจดีแล้ว เหมือนเป็นแสงไฟสว่างส่องนำทาง หมายถึง ธรรมะของพระพุทธเจ้า คือแสงสว่างแห่งปัญญา

นิทานพื้นบ้านอีสาน  

เซียงเมี่ยง... เล่นทวยกัน (นิทานพื้นบ้าน---อีสานจุฬาฯ)
เซียงเมี่ยง..บั้นต้น

  หน้าก่อน หน้าถัดไป
๔.เล่นทวยกัน


มื้อนึง ชาวบ้าน มาซ่อยกันเฮ็ดงานอยู่วัด เฮ็ดงานไปคุยกันไป แล้วกะชวนกันเล่นทวยกัน

พ่อเฒ่านึง ถามว่า

“ แม่มันฮ้องอี้อี้ ลูกมันพี่ ลั่นตั้น ลั่นตั่น … แม่นหยัง? ”

พ่อเฒ่านึง ตอบว่า

“ หมูกินฮำ ” ....

" บ่แมน ” ...... บ่มีไผตอบได้...ทวยแก้ว่า

“ อี่น้อย ๆ แก่ไส้ลอดขอน...แมนหยัง? ”

“ มดขนไส้ขี้กะปอม ” พะนะ พอใหญ่นึงเลาตอบ...

.. บ่แมน ..ตอบบ่ได้..กะเฉลย

“ อี่น้อย ๆ แก่ไส้ลอดขอน กะคือ กระสวยต่ำหูก นั่นตั้ว ”

“ แม่มันฮ้องอี้อี้ ลูกมันพี่ ลั่นตั้น ลั่นตั่น กะคือ ไนปั่นด้าย นั่นเด้ ”

ทวยแก้กัน ได้คำตอบเรียบร้อยแล้วกะเริ่มคำทวยใหม่ว่า

“ ผู้ญิงไปได้หลาย ผู้ชายไปได้หน่อย เด็กน้อยไป บ่ได้จักเม็ด แมนหยัง? ”

บ่มีไผตอบได้จักคน กะยังว้า กะยังว่า แล้วกะบ่มีไผมีคำทวยแก้ซั่มแหม ทุกคนยอมแล้ว สิให้พ่อเฒ่านั่นเฉลย เลากะบ่เฉลย

พอดีเณรเมี่ยง ย่างมา ฟังคำทวยเรียบร้อยกะเลยตอบว่า

“ บักหญ้าฝืด (หญ้าเจ้าชู้) แมนบ่ ”…. (ผู้ญิงนุ่งซิ่นล่าม ๆ บักหญ้ามันปักหลาย, ผู้ชายนุ่งซ่งบักหญ้ามันปักหน่อย, เด็กน้อยมันบ่นุ่งอี่หยัง บักหญ้าเลยบ่มีบ่อนสิปัก)

“ แมน ” ....พ่อเฒ่านั่นเลยทวยต่อว่า

“ อยู่โคกสร้างถ้วย อยู่ห้วยสร้างมอง อยู่หนองกองก้น แมนหยัง ”

เณรเมี่ยงกะตอบว่า

“ อยู่โคกสร้างถ้วยกะคือ มดลิ้นเฮ็ดขวย ,อยู่ห้วยสร้างมอง กะคือ แมงย่างซิ้นเฮ็ดฮัง (แมงมุมชนิดหนึ่ง), อยู่หนองกองก้น กะคือ หอย แมนบ่ ”

“ แมน ” ....พ่อเฒ่านั่น กะทวยต่อว่า

“ นอนเว็น ขี้ค่ำ นอนต่ำขี้สูง แมนหยัง ”

เณรเมี่ยงกะตอบว่า

“ นอนเว็นขี้ค่ำ กะคือ กะต่าย , นอนต่ำขี้สูง กะคือ ขี้ไก่เดียน แมนบ่ ”

“ แมน ” ....พ่อเฒ่านั่น กะทวยต่อว่า

“ สี่ขายั้งธรณีแอะแอ่น อ้าปากขึ้นเทิงฟ้า คาบงา แมนหยัง ”

เณรเมี่ยงกะตอบว่า

“ ข้องใส่ปลา แมนบ่ ”

“ แมน ” ....พ่อเฒ่านั่น กะทวยต่อว่า

“ เฒ่าสองเฒ่า บังเล้า บ่เห็นกัน แมนหยัง ”

เณรเมี่ยงกะตอบว่า

“ หูสองข้าง แมนบ่ ”

“ แมน ” ....พ่อเฒ่านั่น กะทวยต่อว่า

“ นั่งสูงกว่ายืน แมนหยัง ”

เณรเมี่ยงกะตอบว่า

“ หมากะแมน แมวกะแมน ถืกบ่ ”

“ ถืก ” ....พ่อเฒ่านั่น กะทวยต่อว่า

“ หางอยู่ใต้ฮูดาก แมนหยัง ”

เณรเมี่ยงกะตอบว่า

“ หางกะเตี่ยว แมนบ่ ”

“ แมน ” ....พ่อเฒ่านั่น เริ่มอุกอั่งคิงฮ้อนแล้วเด้ ถามหยังกะตอบได้เหมิดเว่ย “คำทวยนี้ล่ะต้องอยู่หมัดแน่ ๆ เลย” กะทวยต่อว่า

“ กาบินไป กาฮ้อง กาบินมา กาหลง แมนหยัง ”

เณรเมี่ยงกะตอบว่า

“ กาหลง กะ กงหลา ท่อนั่นตั้ว ถืกบ่ ”

“ ถืกยุ ” ....พ่อเฒ่านั่น กะทวยต่อว่า

“ นั่งค่อม่อ มีแข้ว ล่ะ แมนหยัง ”

เณรเมี่ยงกะตอบว่า

“ นั่งค่อม่อ มีแข้ว.....กะต้องเป็น แมวขี้ แมนบ่ ”

“ แมน ” ....พ่อเฒ่านั่น เลาสิเหมิดคำทวยแล้ว กะเลยว่า

“ เอ้า มีแต่พ่อใหญ่ทวยฝ่ายเดียว เณรเมี่ยงลองทวยมาเบิ่งกะดู๊ ” ว่าซั่น

เณรเมี่ยงเลากะได้เรียนธรรมเรียนบาลีเนาะ กะเลยถามว่า

“ สัพพี สัพพัง ดังวา คุชลามิคา แมนหยังเอ๋า ”

พ่อเฒ่านั่น กะว่า

“ สัพพี กะคำพระสวดให้พรนั่นแหล่ว ”

“ บ่แมน มันบ่ง่ายปานนั่นดอก พ่อใหญ่เอ้ย..คึดเบิ่งใหม่ ”

พ่อเฒ่านั่น คึดแล้วคึดอีก กะคึดบ่ออก ตอบแล้วตอบอีก กะตอบบ่ถืก สิทวยแก้ เพื่อที่สิให้เณรเมี่ยงเฉลย เณรเมี่ยงกะตอบได้เหมิดเอาโลด

“ กลิ้งขู่หลู่ เห็นขี้หยุดจ่ะ แมนหยัง ”

“ กวักอักไหม หาขี้ไหม (พอเห็นขี้ไหมกะหยุดแล้วกะเอาขี้ไหมออก)

“ บ่กิน บ่ขี้ มีแต่ปี้ท่าเดียว แมนหยัง ”

“ บี้ (ฝักหลอกที่เอาไว้ทำพันธุ์แล้วมันเป็นแมงบี้นั่นหนา)

“ บักน้อย ๆ แก่ผ้าแดงลอดขอน แมนหยัง ”

“ แย้ (ท้องแย้ลายแดง ๆ คือผ้า)

“ เหล็กแดง แทงดิน แมนหยัง ”

“ มันแกวแดง ”

“ ดำคือหมี แฮ่งตี แฮ่งกัด ดำคือหมัด แฮ่งกัด แฮ่งตี แมนหยัง ”

“ ดำคือหมี แฮ่งตี แฮ่งกัด กะคือ สิ่ว ดำคือหมัด แฮ่งกัด แฮ่งตี กะคือ ค้อนตอกสิ่ว

“ โก่งโค้งโน่ง ข้วมท่ง สามแสน ผู้ได๋ทวยแม่น ให้แหวนวงนึง ”

“ ฮุ้งกินน้ำ ”

“ ต้นท่อเข็ม ใบเต็มน้ำ แมนหยัง ”

“ ผักแว่น ”

“ อ่อล่อ ท่อโป้มือ พือไปทั่วท่ง แมนหยัง ”

“ หน่วยตา ”

“ บักหัวโล้น โตนน้ำแต่เดิ่ก แมนหยัง ”

“ กะบวยตักน้ำ ”

“ บักน้อย ๆ โตนตั่งคอหัก หมาโตนสัก แมงวันแตก พืง แมนหยัง ”

“ ขี้ ”

“ สัตว์สี่ขา หน้าสั้น ฮ้องสนั่น เสียงไกล แมนหยัง ”

“ อึ่ง ”

“ ต้วยก้น บ่ให้ว่าต้นก้วย แมนหยัง ”

“ เช็ดขี้มูก ”

……….

ในที่สุด กะเลยบ่ฮู้คำเฉลย

เณรเมี่ยงกะบอกว่า คันอยากฮู้คำเฉลย กะให้หาแนวกินแซบ ๆ เฮ็ดลาบเทาแซบ ๆ มาถวาย เด้อ จั่งค่อยสิบอก พะนะ

นั่นล่ะ ชื่อเสียงของเณรเมี่ยง กะเลยเริ่มขจรขจายไกล ซั่นตี้ล่ะ

  หน้าก่อน หน้าถัดไป

 
Creative Commons License

ชมรมอีสานจุฬาฯ... นิทานพื้นบ้านอีสาน