ผญา คติสอนใจประจำวันที่ 25 เมษายน 2568:: อ่านผญา 
แนวว่าทองคำนี้ ตกดินบ่หมองหม่น เอาผ้าฮ้ายห่อไว้ กะยังเลื่อมดังเดิม แปลว่า ธรรมชาติทองคำ ตกดินไม่หม่นหมอง ถูกห่อหุ้มด้วยผ้าขี้ริ้ว ก็ยังผุดผ่องดังเดิม หมายถึง คนจิตใจงาม มีศีลธรรม อยู่ที่ไหนก็งาม

นิทานพื้นบ้านอีสาน  

ท้าวเสียวสวาด (นิทานพื้นบ้าน---อีสานจุฬาฯ)
นิทานแลง.. ท้าวเสียวสวาด

  หน้าก่อน หน้าถัดไป
ปัญหา อะหังปิ ตัง ชานามิ


     พระราชากะถามอีกว่า “อะหังปิ ตัง ชานามิ ชานามิ  (เฮาฮู้ล่ะ เฮาฮู้เหตุล่ะ) หมายความว่าจั่งได๋”

     ท้าวเสียวสวาด กะอธิบายโดยยกนิทานเรื่องกุททาลบัณฑิตมาประกอบว่า

     มีชายหนุ่มคนนึง ชื่อว่ากุททาละ บ่มีทรัพย์สมบัติหยังติดโต ทรัพย์ติดโตมีแค่หมากจกอันเดียวกับเมล็ดพันธุ์พืช กุททาละ กะใช้หมากจก ถางหญ้าขุดดิน ปลูกข้าวโพด หมากอึ หมากแตง เป็นต้น หาเลี้ยงชีพ

     อยู่มามื้อนึง กุททาละ คิดว่า ใหญ่มาปานนี้แล้วกะยังบ่มีทรัพย์สมบัติอีหยัง มีแต่หากินไปมื้อๆท่อนั้น กะเกิดเบื่อหน่ายชีวิต คิดอยากบวชเป็นฤๅษี

     พอเหมิดหนาว เข้าหน้าฮ้อน กุททาละ กะเลยเอาหมากจกกับเมล็ดพันธุ์พืชทั้งหลาย ไปเซี่ยงเมี้ยนไว้อย่างดี แล้วกะบวชเป็นฤๅษี บำเพ็ญเพียรอยู่ในป่า

     ต่อมา เข้าหน้าฝน ฝนกะตกฮวยฮำให้ดินชุ่ม กุททาละกะคิดว่าฝนตกดีจั่งซี้ เป็นตาปลูกถั่ว ปลูกข้าวโพดงามดีคัก กะเลยถอดชุดฤๅษีสึกออกมา เอาหมากจกกับเมล็ดพันธุ์พืชไป ถางไฮ่ปลูกถั่ว ปลูกข้าวโพด เลี้ยงชีวิตจนเหมิดหน้าหนาว กะคิดคือเก่าอีก แล้วกะไปบวชอีก แล้วกะคิดคือเก่าอีก กะสึกอีก..

     กุททาละ สึกแล้วกะบวช บวชแล้วกะสึก อยู่จั่งซี้ ถึง 6 เทื่อ

     เทื่อที่เจ็ดก่อนสิบวช กะมาคิดฮินตรองว่า “ที่ เฮาบวชอยู่ได้บ่ดน กะย่อนหมากจกกับไนบักถั่ว ไนข้าวโพดซุมนี้ล่ะ อืม เฮาฮู้ล่ะ เฮาฮู้เหตุล่ะ.. คันซั้น งวดนี้ เฮาต้องเอาของซุมนี้ไปทิ้งซะ”

     คิดแล้ว กะถือหมากจกกับห่อเมล็ดพันธุ์พืช ย่างไปริมแม่น้ำ สิดึกโยนลงน้ำ ก่อนสิโยน กะคิดอีกว่า คันเฮาเห็นหม่องที่หมากจกตกลงน้ำ กะอาจสิกลับมา งมหาเอาอีก..

     คิดแล้ว กะเลยหลับตา หมุนโตสามรอบเหวี่ยงหมากจกกับเมล็ดพันธุ์พืชลงแม่น้ำ อย่างสุดแฮง ได้ยินแต่เสียงดัง ‘จุ๋ม’  แต่บ่ฮู้ว่าตกหม่องได๋ แล้วกะฮ้องดังๆว่า
“ชนะแล้ว ชนะแล้ว”

     ท้าวเสียวสวาด กะสรุปขมวดท้ายว่า กุททาละบัณฑิต ย่อนบ่ฮู้เหตุ กะบวช-สึกตั้งวะหกเทื่อ พอฮู้เหตุ กะบวชสำเร็จ อยู่ได้ตลอดรอดฝั่ง บำเพ็ญเพียรจนได้ฌานสมาบัติ.. นี่ล่ะ คนเฮา บางเทื่อ ติดขัดแค่เหตุเพียงเล็กๆน้อยๆ แต่ว่า หากฮู้ต้นเหตุชัดแจ้งแล้ว กะสามารถเฮ็ดได้สำเร็จ... อันคำว่า อะหังปิ ตัง ชานามิ ชานามิ กะมีความหมายจั่งซี้ล่ะ

 

  หน้าก่อน หน้าถัดไป

 
Creative Commons License

ชมรมอีสานจุฬาฯ... นิทานพื้นบ้านอีสาน