ผญา คติสอนใจประจำวันที่ 25 เมษายน 2568:: อ่านผญา 
คันว่าความเฮาเว้าขมในอย่าได้จ่ม ลางเทื่อขมขี้เพี้ยภายหน้าหากสิดี แปลว่า คำพูดจาที่ขมหู ไม่ถูกใจ อย่าได้บ่น บางครั้ง คำพูดขมๆนี่แหละ ทำให้เจริญได้ หมายถึง คำสอน คำแนะนำ ตักเตือน ควรใส่ใจ นำไปปฏิบัติ

นิทานพื้นบ้านอีสาน  

นิทานก้อมชุดเป็นตาสิฮาก... กินข้าวจี่.. (นิทานพื้นบ้าน---อีสานจุฬาฯ)
เรื่องเป็นตาสิฮาก

  หน้าก่อน หน้าถัดไป
กินข้าวจี่


อาหารที่ขึ้นชื่ออย่างนึง ของคนอีสานกะคือ ข้าวจี่

ผู้ได๋เป็นคนอีสาน ใหญ่อยู่อีสาน คือสิมีหน่อยคนอยู่ดอก ที่บ่เคยกินข้าวจี่

ถึงขนาดว่า มีเทศกาลงาน บุญข้าวจี่ เป็นงานบุญประเพณีนึงของทางอีสาน

ข้าวจี่ทาไข่

ข้าวจี่ทาน้ำอ้อย

ข้าวจี่โฮยเกลือ

ข้าวจี่ธรรมดา

ข้าวจี่ไส้ปลาแดกบอง

ฯลฯ

แล้วแต่ผู้ได๋สิเฮ็ด แล้วแต่วัตถุดิบ ว่านเถาะไป๋

แต่ส่วนใหญ่แล้ว มักสิเฮ็ด ข้าวจี่โฮยเกลือ เพราะว่า เกลือ มันหาบ่ยาก แต่ว่าบางเทือ คันบ่มีเกลือ กะเฮ็ดข้าวจี่ธรรมดา กะมี ดอกว๋า เฮ็ดแล้วแล้ว เอาไปบิจั้มปลาแดกบอง กะมีเด้เดียวหนิ

วัตถุดิบสำคัญ กะคือ ข้าวเหนียวหนึ่งสุก (ข้าวเย็น เยือยๆ... มันปั้นบ่ได้เด้อ ...ข้าวฮ้อนเกินไป...มันกะโหยด..)

อุปกรณ์สำคัญ กะคือ ไม้ หรือว่า ลำไม้น้อยๆ (สำหรับ ปั้นข้าวจี่ แล้วกะเอาไปขางไฟ).....

ซึ่งวิธีการเฮ็ดข้าวจี่ ในปัจจุบันอาจสิบ่ต้องใช้ไม้กะได้ ดอกว๋า...

แล้วกะ ที่สำคัญอีกอย่างนึง กะคือ ไฟ เด้อ ไฟที่เป็นถ่านแดงๆ แฮ่งดี

พอทุกอย่างครบเรียบร้อย กะจัดการกันเองโลดเด้อ ตามบาย ตามบาย (ตามสำบาย นั่นล่ะ)

เฮ็ดแล้วแล้ว กะอย่าสะกินผู้เดียวเด้อล่ะ เดี๋ยวงูเขียวสิเกี้ยว (ผู้เฒ่าเพิ่นว่า) กะเอาไปแจก ไปปัน ไปแบ่ง ให้ผู้อื่นกินนำเด้อ....

*-*-*-*-*-*-*-*-*

 

เรื่องกินข้าวจี่ ที่สิเว้าเถิงนี่ มันกะเกิดขึ้น ย่อนคนอีสาน มักสิเฮ็ดข้าวจี่กิน ยามมีโอกาส มีบรรยากาศ นั่นล่ะ

เรื่องมีอยู่ว่า...

หน้าหนาว ข้าวใหม่ ประมาณเดือนธันวา เนาะ

อยู่บ้านหลังนึง ผู้หนุ่ม ผู้สาว บ่าวสำน้อย สำใหญ่ หลายคนเติบ พากันตื่นแต่เดิก ลุกแต่เช้า มาซ่อยกันนึ่งข้าว (นึ่งข้าวไปงานหยัง ไปเฮ็ดหยัง กะซางเถาะเนาะ)

ซุมนึงนึ่งข้าว ซุมนึงล้างหม้อ ล้างถัง ...ล้างสำปะปิ นั่นล่ะ

นึ่งข้าวสุกแล้ว บ่าวนึง คึดอยากกินข้าวจี่ (ฮองท้อง)

ข้าวหนึ่งสุก กะมีแล้ว

ไฟ กะมีแล้ว

เหลือแต่ ไม้ ยังบ่ทันมี......

เลากะเลยย่างหาลำไม้ ...พอดีไปพ้อไม้ไผ่ลำนึง ใหญ่ประมาณนิ้วโป้ตีนนี่ล่ะ ทางปลายไม้ไผ่ มันกะฉีกแตก ยาวเติบ เด้... ไม้ไผ่กะไม้ไผ่เก่าๆ ดอก เก่าจนวะ ติวไม้ไผ่ เกือบสิหายเหมิดแล้ว

อยู่แถวนั่น มันกะมีไม้อยู่ซั่มนั้นเนาะ ไม้หายากเด้ (เอ...ไม้คือจั่งหายากนอ??) เลากะเลย ถือเอาไม้ไผ่เก่า ลำนั่นล่ะมา จัดการเอามือฉีกไม้ไผ่ หม่องที่มันแตกนั่นล่ะ ออกให้มันเป็นลำน้อยๆ พอดี แล้วกะเอามาปั้นข้าวใส่ โฮยเกลือเรียบร้อย ขางไฟ สุกตามใจแล้ว...

เหลืองแหน่ ไหม้แหน่ นั่นล่ะ เลากะบิ มาซิม

เลาเป็นคนใจดี เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ กะเลย ถือข้าวจี่ ไปบิ๋ แจกผู้บ่าว ผู้สาว ที่ล้างหม้อ ล้างถังอยู่ คนมันหลายเนาะ มันกะบ่พอกิน เลากะไปขางอีก ไม้เก่าขางแล้วมันไหม้ เลากะอุตส่าห์ ไปหักเอามาใหม่ มาปั้นข้าวจี่ขางอีก แล้วกะเอามาแบ่งกันกิน แซบนัว หัวม่วน ตามปะสานั่นล่ะ

เจ้าของเฮือน ย่างมาเห็น คึดในใจว่า

“ เอ แถวนี้ มันบ่มีไม้น๊า แมนพากันเอาไม้มาแต่ไสนอ” กะเลยถามว่า

“ แมน ได้ไม้ไสล่ะมาขางข้าวจี่ ”

“ ได้ไม้ไผ่ ที่วางซันอยู่กกไม้ นั่นน่ะ”

“ เอ๋า... ไม้ลำนั่น มันเป็นไม้ แหย่ถังส้วม ตั้ว ....พอดีมื้อวาน ส้วมมันเต็ม กะเลยให้เขามาดูดส้วม เขากะเลยเอาไม้ลำนี้ แหย่หยั่งลงไปว่า โบกส้วมลึกซั่มได๋ มีขี้หลายปานได๋ สิได้คึดเงินถืก เขากะเอาไม้นี้ล่ะ แหย่ไปแหย่มา ทั่งไปทั่งมา... บ่เห็นติ ปลายมันแตกๆ เขาแหย่จนปลายมันแตก ...แล้วกะเอาวางซันไว้ต้นไม้.. แต่ว่าฮอดมื้อนี้ ขี้มันกะแห้งติดไม้แล้วล่ะว๋า...”

อีหลีแล้ว ขี้ที่ติดไม้ มันกะอาจสิติดข้าว ที่อยู่ทางในปั้นข้าวจี่ เนาะ บิ๋กินทางนอก คือสิบ่เป็นหยัง

แต่ว่า คึดเบิ่งดีๆ เด้อ ตอนที่ผู้บ่าวนั่น เลาปั้นข้าวใส่ไม้ล่ะ มือเลาจับไม้เต็มๆ ตั้งแต่ขั้นตอนเตรียมไม้ มือเลาติดขี้พอแฮงแล้ว เลากะบ่ได้ล้างมือจ้อย....

เว้ามาเป็นตา ขี้เดียด ...

เป็นตา ขี้เดียด จั่งได๋ ว่ะติ๊....

....เอ๋า.... กะขี้ขางไฟ .....ขี้กะอ้อน..... ฮ้อนแล้ว..... ขี้กะเดียด..... กะเลยเป็น..... ขี้เดียด .....นั่นตั๊ว

คนทั้งเหมิด ที่กินข้าวจี่ ลงไป พากันอยากจกคอฮาก กันเป็นแถว...

  หน้าก่อน หน้าถัดไป

 
Creative Commons License

ชมรมอีสานจุฬาฯ... นิทานพื้นบ้านอีสาน