ข่าวเณรป่อง ซ่อยเป็นที่ปรึกษาให้นายฮ้อย จนสามารถให้ขุนศรีฯแพ้คดี ได้แพร่กระจายไปอย่างรวดเร็ว ข่าว ซ่าไปฮอดไส เณรป่องกะดังไปฮอดหั้น ขุนศรีฯ กะอับอายไปฮอดหั้น คือกัน
เณรป่อง บวชเณรมากะโดดเติบ จนใหญ่เป็นบ่าวแล้วเนาะ... ซื่อเสียงทางปัญญาตัดสินคดี กะโด่งดังไปจนฮอดหูพระราชา พระราชากะคึดอยากได้เณรป่อง มาซ่อยงานด้านตัดสินคดี กะเลยให้คน ไปนิมนต์สึกมารับราชการ เด้
เณรป่อง ตกลง สึกออกมา เป็น เซียงป่อง รับราชการอยู่ฝ่ายตัดสินคดี ซั่นแหล่ว....
มีแม่ใหญ่อั่นนึง (เอิ้นเลาว่าแม่ใหญ่แตน ซะเนาะ) แม่ใหญ่แตน ถึงเลาสิบ่ได้เป็นเศรษฐี แต่เลากะเป็นคนพอมีพอกินอยู่ ว่าซั่นเถาะ เลาได้ข่าวว่า มีผู้ตัดสินคดีคนใหม่ ตัดสินอย่างถืกต้องยุติธรรม กะเลยไปร้องทุกข์ว่า
"ขุนศรีฯได้ยืมเงินไป ห้าร้อยบาท บอกว่า จักสองเดือน สิคืนเงินให้ นี่กะเลยสองเดือนมาเป็นปีแล้ว ไปทวงยามได๋ กะบอกว่า ยังบ่ทันได้ครบสองเดือน จนฮอดเท่าซุมื้อนี้ ยังบ่ทันได้เงินคืนเลย"
เซียงป่องได้ฟังแล้ว กะเข้าใจแจ่มแจ้งจนเหมิด แล้วกะบอกแม่ใหญ่แตนว่า บ่ต้องห่วง สิตัดสินคดีให้อย่างยุติธรรม แล้วกะกำหนดนัด มื้อพิจารณาคดีเป็น ตอนค่ำของมื้อขึ้นสิบห้าค่ำ ........ จากนั้น กะส่งใบบอก ไปแจ้งขุนศรีฯ ให้มาฟังคดี
พอฮอดมื้อ ฮอดเวลานัดหมาย แม่ใหญ่แตน กับขุนศรีฯ กะมาพร้อมกัน อยู่ศาลาตัดสินคดี เด้ หลังจากให้ทั้งสองคน เว้าเหตุการณ์ให้ฟังแล้ว เซียงป่องกะเว้าว่า
"ว่าจั่งได๋ขุนศรีฯ เจ้ายังบ่ทันได้เอาเงินคืน ให้แม่ใหญ่แตน ตามที่แม่ใหญ่เว้าแม่นบ่"
"แม่นยุ... กะตามสัญญา ตกลงกันว่า ครบสองเดือน สิคืนเงินให้ ตอนนี้ยังบ่ทันได้ครบสองเดือน ยังบ่ทันถึงเวลาคืนเงินดอก"
เซียงป่องกะเลยว่า
"อืม..สัญญา บอกว่า ครบสองเดือน สิคืนเงิน วะติ ?"
"แม่นแล้ว" ขุนศรีฯ ยืนกราน
"ถ้าครบสองเดือน กะสิคืนเงินให้ ตามสัญญา แม่นบ่?"
"แม่นแล้ว"
จากนั้นเซียงป่อง กะหันไปถามแม่ใหญ่แตนว่า
" จากมื้อที่เจ้าให้ขุนศรีฯยืมเงิน จนฮอดมื้อนี้ ได้จักเดือนแล้ว"
" ดนอย่างคัก ได้สิบสองเดือนแล้ว " แม่ใหญ่แตนตอบ
" แม่ใหญ่แตนบอกว่า สิบสองเดือนแล้ว เจ้าสิว่าจั่งได๋ ขุนศรีฯ"
" สิบสองเดือนอยู่ไส ? จนฮอดมื้อนี้ กะยังเดือนเดียวคือเก่า บ่เคยมีสองเดือนจักเทื่อ"
"คำว่า เดือน ที่เจ้าว่า หมายถึง อีเกิ้ง แม่นบ่"
"แม่นแล้ว จากมื้อนั้น จนฮอดมื้อนี้ เดือน มีแค่เดือนเดียว บ่เคยมีสองเดือนจักเทื่อ"
"เจ้าว่า บ่เคยมีสองเดือนวะติ"
"แม่น... คันบ่เชื่อ ออกไปเบิ่งกะได้"
จากนั้น ทุกคนกะออกจากศาลา ไปเบิ่งอีเกิ้งเต็มดวง กำลังลอยนวลเด่นอยู่เทิงฟ้า....
" นั่นเด้ เดือนมีเดือนเดียว บ่เห็นมีสองเดือนเลย" ขุนศรีฯ ยังเล่นสำนวนต่อ ... แบบว่าเจ้าของชนะแน่นอน ...
เซียงป่อง กะย่างไปอีกมุมนึง ทางหน้ามีสระน้ำ แล้วกะเอิ้นทุกคน รวมทั้งขุนศรีฯนำนั่นล่ะ ให้มาเบิ่งจากหม่องนี่ แล้วกะว่า
"อยู่เทิงฟ้า มีเดือน ดวงนึง แล้วกะ..นั่น.. อยู่ในน้ำ มีเดือนอีกดวงนึง.... รวมเป็นสองเดือน ทุกคนเห็นบ่?"
ทุกคนเหลียวเบิ่งเดือน พร้อมทั้งพยักหน้าเห็นตามที่เซียงป่องเว้า
"ตอนนี้ ครบสองเดือน ตามที่สัญญากันไว้แล้ว... เป็นเวลาที่ขุนศรีฯ ต้องคืนเงิน ให้แม่ใหญ่แตนแล้ว"
ขุนศรีฯ ปากบ่ออก หาทางแก้โตกะบ่พ้อ กะยังว้ากะยังวะ
ในที่สุด กะต้องคืนเงินให้แม่ใหญ่แตน สะล่ะล่ะ
|