ผญา คติสอนใจประจำวันที่ 26 เมษายน 2568:: อ่านผญา 
ชื่อว่าแนวความฮู้ในเฮือนหายาก คันบ่ออกจากบ้านบ่มีได้ท่อใย แปลว่า ความรู้รอบ หายากในเรือน ถ้าไม่ออกจากบ้าน พบปะผู้คน ความรู้รอบย่อมไม่เกิด หมายถึง ความรู้ ประสบการณ์ วิสัยทัศน์ เรียนรู้ได้จากทุกๆ สิ่ง ทุกหนทุกแห่ง

นิทานพื้นบ้านอีสาน  

เซียงเมี่ยง... ยาวิเศษกินข้าวแซบ (นิทานพื้นบ้าน---อีสานจุฬาฯ)
เซียงเมี่ยง..บั้นต้น

  หน้าก่อน หน้าถัดไป
๑๘.ยาวิเศษกินข้าวแซบ


ขุนงาย แต่ผัดได้เซียงเมี่ยง มาอยู่นำ กะต้องปวดหัว อยู่เกือบซุมื้อ ซุเว็นเอาโลด ในที่สุด กะทนบ่ไหว ขี้คร้านเว้า ขี้คร้านเถียง ขี้คร้านเล่นสำนวนกับมัน คันสิไล่หนีไปซือ ๆ กะเกรงใจหลวงพ่อที่พามาฝาก คันสิเอาไปฝากไว้กับขุนนาง เสนาอำมาตย์ผู้อื่น กะย่านมันไปก่อเรื่องเดือดร้อนให้เขา เลยคึดว่า

“ ถ้าเอาไปให้อยู่กับพระราชา เซียงเมี่ยงคือสิบ่กล้าหือ กับพระราชาดอกตี้”

กะเลยพาเซียงเมี่ยงไปเฝ้าพระราชา เอาไปถวายพระราชา ให้เป็นมหาดเล็ก คนสนิทของพระราชา พระราชาจำเรื่องราวสมัยเณรเมี่ยงได้ เห็นว่าเป็นคนฉลาด มีไหวพริบดี น่าสิซ่อยราชการบ้านเมืองได้ กะเลยรับไว้เป็นมหาดเล็กคนสนิท

แต่ผัดนั้นมา เซียงเมี่ยง กะเลยได้เป็นมหาดเล็ก ของพระราชา ซั่นแหล่ว.... อยู่กับพระราชา ช่วงแรกๆ เซียงเมี่ยงเลากะเฮ็ดโตดีเด้ ซ่อยราชการบ้านเมือง ระดับเป็นนักปราชญ์ใหญ่ผู้นึง พุ่นล่ะไป๋......


ช่วงนึงเนาะ... พระราชาเฮ็ดเวียกเฮ็ดงานหลาย ประชุมกะหลาย หนังสือฎีกา ที่ต้องอ่าน ต้องลงชื่อ กะหลาย จนแทบสิบ่มีเวลาเฮ็ดอย่างอื่น ที่เป็นส่วนโต บ่ค่อยได้เล่นกีฬา บ่ค่อยได้ออกกำลังกาย ร่างกายมันกะอ่อนเพลีย กินข้าวกะบ่แซบ ขนาดอยู่ในวังมีแต่แนวกินแซบ ๆ พระราชา กะกินบ่แซบ มันบ่ค่อยหิว บ่ค่อยอยาก นั่นหนา นี่ล่ะเพิ่นจั่งว่า “บ่อึด.. บ่อยาก, อึด...อยาก”

พระราชา กะให้หมอหลวง ปรุงยากินข้าวแซบมาให้ กินมาตั้งวะหลายขนาน ยาฝนกะกินแล้ว (ยาพายุ ?ยาหิมะล่ะ?) ยาต้มกะกินแล้ว ยาฝุ่นกะกินแล้ว ยาลูกกลอนกะกินแล้ว (ยาบานพับล่ะ?) ยาดองเหล้ากะกินแล้ว กินซุแนวเอาโลด (ยาฮังลิน นั่นเด้ กินไป่?... ยาคุ นำเด้อ ) ... ยังบ่ได้กินแต่เบียร์นั่นล่ะ (..เอ้า..สมัยนั่น ยังบ่ทันมีเบียร์เดิก) พระราชา กะยังกินข้าวบ่แซบคือเก่า

เซียงเมี่ยง มหาดเล็ก กะเลยขันอาสา ... แอกกะแด้แอ๊ก ....บ่แมนขันจั่งซ่าน จู้ฮุกกรู จู้ฮุกกรู ซั่นดอก ...เอ๋า ๆ ผัดแฮ่งไปกันใหญ่เด้ตาทีเนียะ... เซียงเมี่ยงเลย รับอาสา สิเป็นคนปรุงยากินข้าวแซบ บอกว่า

“ มียากินข้าวแซบ ขนานวิเศษ รับรองผล กินข้าวแซบแน่นอน แต่ว่า ยาโตนี้ มันอยู่ไกล ถ้าสิเอามา กะต้องใช้เวลา ดน โตยากะสิระเหยออกเหมิด จนบ่เป็นยา พระราชาต้องเสด็จไปเสวยยา อยู่หม่องฮั่น ด้วยพระองค์เองเด้อ พะเจ้าค่า” พะนะ

พระราชา บ่มีทางเลือก เพราะเลือกมาเหมิดแล้ว กะเลยต้องเสด็จไปนำเซียงเมี่ยง

เซียงเมี่ยง กะพาย่างเลาะลัดท่ง แล้วกะไปปีนภู บอกว่า ยาโตนี้ มันอยู่เทิงภู พระราชากะถามอยู่เรื่อยว่า

“ ใกล้สิฮอดหม่องยาไป่ ฮอดแล้วไป่ ”

“ ยังบ่ทันฮอด ดอก พะเจ้าค่า … อีกไกลอยู่ พะเจ้าค่า ”

ย่างแต่เซ้า จนวะตะเว็นบ่าย พระราชากะว่า

“ เซียงเมี่ยง ใกล้ฮอดไป่ เฮาเมื่อยคักแล้ว เทิงเมื่อยเทิงหิวแล้ว ”

“ อีกจักหน่อย เดี๋ยวกะเถิงแล้ว พะเจ้าค่า ”

พอย่างฮอดพะลานหินหม่องนึง เซียงเมี่ยง เห็นว่าเป็นเวลาสมควรแล้ว กะเลยให้พระราชานั่งพัก แล้วกะเอาน้ำมาถวาย ... เซาเมื่อยจักหน่อยแล้ว กะชวนพระราชากลับวัง พระราชากะถามว่า

“ อ้าว..ยาวิเศษกินข้าวแซบ เด้ล่ะ ”

“ พระองค์เสวยไปแล้ว หว่างฮั่นเด้ พะเจ้าค่า ”

พระราชากะเข้าใจว่า “ยา คือสิอยู่ในน้ำกระบอกนั้น ล่ะมัง” กะเลยย่างกลับวังกับเซียงเมี่ยง

พอฮอดวัง กะอาบน้ำอาบท่า เตรียมกินข้าว กะคนมันเมื่อยน้อ มันกะหิวข้าว อย่างคักแหล่วเว่ย พวกนางสนม ยกอาหารมาโต๊ะ กะได้กลิ่น หอมฮวยๆ ท้องฮ้องจ้อกๆ เอาโลด

มื้อนั่นพระราชากะกินข้าวอย่างแซบนัว นอนกะหลับดีคัก กะยังว้า กะยังว่า.....

เซียงเมี่ยงกะบอกว่า

“ ถ้าอยากกินข้าวแซบอีก กะต้องเสด็จย่างไปฮั่นไปนี่ดู๋ ๆ ออกกำลังกายดู๋ ๆ เด้อ พะเจ้าค่า”

พระราชา เลยเข้าใจว่า “ยาวิเศษกินข้าวแซบ ที่ดีที่สุด กะคือการออกกำลังกายนี่เอง” แล้วกะพระราชทานรางวัล ให้เซียงเมี่ยงตามสมควร .... (โอ... บักสมควร มันได้รางวัลก่อนเซียงเมี่ยง ตั้วหนิ บะได๋)

  หน้าก่อน หน้าถัดไป

 
Creative Commons License

ชมรมอีสานจุฬาฯ... นิทานพื้นบ้านอีสาน