ผญา คติสอนใจประจำวันที่ 26 เมษายน 2568:: อ่านผญา 
เห็นหางยาวพ่วงพ้อย อย่าฟ่าวว่าปลาไหล ห่าเถื่อเป็นแนวงู สิตอดตายบ่ทันฮู้ แปลว่า แค่เห็นเพียงตัวกลมหางยาว อย่าเพิ่งว่าเป็นปลาไหล เพราะหากเป็นงูแล้วไซร้ มันจะขบกัดเอาได้ หมายถึง อย่าทำอะไรด้วยความผลีผลาม พลาดพลั้งไปจะแก้ไขไม่ทันการณ์

นิทานพื้นบ้านอีสาน  

เจ็ดหวดเจ็ดไห... ร้อยเกวียนติดกับยักษ์.. (นิทานพื้นบ้าน---อีสานจุฬาฯ)
นิทานแลง..เจ็ดหวดเจ็ดไห

  หน้าก่อน หน้าถัดไป
ร้อยเกวียนติดกับยักษ์


กล่าวเถิงนางยักษ์เฒ่า นมยาน ผมหงอก แข่วเกิ่กเซิ่ก ก่ากซ่าก ปานคราดคราดนา แท้เด้ ..
ลูกผัวนั่น เลาบ่มีนำเขาดอก อาศัยอยู่แดนด้าว ดงกว้างผู้เดียว ว่าเด้ ..
แนวกินเฒ่า คือสัตว์ป่าในดง คันมาติดกับดักเลา กะจับกิน เทิงขังไว้ ...

“ บ๋าาาา...มื้อนี่ ต้องรอคอยท่า สัตว์มาติดกับดักสาก่อน” ...(แคนย่าวถะแมะ)..

อยู่ในดงใกล้ ๆ หม่องที่สามพี่น้องพักอยู่หนั่น กะมีนางยักษ์เฒ่าตนนึง อาศัยอยู่ผู้เดียวเด้ ซุมื้อซุเว็น เลาบ่ค่อยออกไปไสดอก คองท่าสัตว์ป่า พวกซ้าง ม้า งัว ควาย กะปอมหลวง ฯลฯ มาติดกับดักที่เลาห้างไว้ เลากะสิจับมากินจนอิ่ม ส่วนที่เหลือกะเอาขังไว้ในกรงเหล็ก ในถ้ำ ไว้ท่ากินมื้อลุน

พอใกล้ค่ำ เลากะดังไฟไว้เป็นเหยื่อล่อคนนำเด้ แล้วกะแปลงร่างเป็นยายเฒ่า ผมหงอก นมยาน เป็นตาย่านคือหยังหนิ ฮาลางเทื่อ มีคน มีนายพรานย่างหลงป่ามา เห็นแสงไฟ คึดว่าแม่นบ้านคน สิมาขอพักอาศัย สิมาถามทาง กะมักสิถืกเลาจับกินเป็นอาหาร ว่าซั่นเถาะ
มื้อนี้ เลากะดังไฟไว้คือเก่านั่นล่ะ...

ตอนที่สามพี่น้องกำลังคึดหาทางสิกินขาจิ๊นายอยู่หนั่น กะเหลียวเห็นแสงไฟ วับแว็บ .. วับแว็บ อยู่ไกลๆ สามคนกะดีใจอย่างขนาด สิได้ไฟมาดังจี่ขาจิ๊นายกิน บักเจ็ดไหเลยบอกให้บักร้อยเกวียน แล่นไปขอไฟ

บักร้อยเกวียนแล่นกะโดดย่วย ย่วย ไปสามสี่เทื่อ กะฮอดหม่องฮั่น กะเลยหยุดแล่น ค่อยๆ ย่างเข้าไป ฮ้องถามเจ้าของบ้าน

“ มีไผอยู่บ่..มีไผอยู่บ่ ”

“ กู๊ก...แมนหยังน้อ... แมนผู้ได๋มาน้อ ” ( อ่านเสียงคือยายเฒ่าแหน่ล่ะ)

ยายยักษ์เฒ่ากะถือไม้เท้าย่างก่อมก้อย ก่อมก้อย ออกมา เอามือนึงค้ำไม้เท้าไว้ เอาอีกมือนึงกั้งโกบ เหลียวเบิ่ง

บักร้อยเกวียน คันสิเอ่ยปากขอไฟเลย กะอยากอายเนาะ กะเลยถามเลียบๆ เคียงๆ สาก่อน

“ แม่ใหญ่ ค่ำแล้ว เดิ่กแล้ว ดังไฟไว้เฮ็ดหยังน้อ ”

“ ดัง..ไว้.. สุม .. ฮิ้น .. อูด .. ยูง ..ตั้ว..หล่าเอ้ย” (อย่าลืมเสียงผู้เฒ่าเด้อ คนอ่านกะดาย)

“ บ้อ แม่ใหญ่ ...หลานน้อย ขอไฟไปดังแหน่เด้อ แม่ใหญ่”

“ เอ้อ เอาโลด สิเอาด้นได๋กะถือเอาโลดเด้อ ”

บักร้อยเกวียน กะเลยย่างเข้าไปเลาะกองไฟ กับดักที่ยักษ์ฮ่างไว้ กะปลิวมาแต่ไสบุ๊หนิ ตกตุ๊บวะนึง บักร้อยเกวียนฮู้โตอีกเทือ กะอยู่ในกรงเหล็กแล้ว พยายามสิดิ้นออก กะออกบ่ได้ พยายามใช้แฮงที่มีทั้งเหมิด หง่างเหล็กออก กะหง่างบ่ออก ย่อนว่าเหล็กแต่ละซี่ มันใหญ่คัก แข็งแรงคัก (กะของยักษ์เนาะ)

จากนั้น ยักษ์กะป่อนมือเข้าไป จับเอาบักร้อยเกวียนออกมา คือจั่งเฮาป่อนมือเข้าไปจับกบในข้องนั่นล่ะ กำแอว ..บั๊บ..ว่ะนึง..... จับออกมาแล้ว ซ้ำบ่หนำ มีการ ญิงแข่วกากซาก ใส่บักร้อยเกวียนอีกต่างหาก เด้เดียวหนิ แล้วกะเอาบักร้อยเกวียน ไปขังไว้ในกรงในถ้ำอีกทีนึง สำหรับเป็นอาหารมื้ออื่นเซ้า ...พะนะ... จากนั้น กะมานั่งสำบายใจอยู่นอกซาน คองท่าเหยื่อรายต่อไป

นางยักษ์เฒ่า ดีใจอย่างใหญ่ ยิ้มย่วย ย่วย จับได้มนุษย์คน นัวคักแท้ แนวกินงาย เซ้ามื้ออื่น สิเฮ็ดแจ่วแซบๆ เอามันจ้ำหย่ำกิน ว่าเด้ ... ย่ามใจแล้ว ฮ่างกับดักไว้อีก คองท่าจับเอาซ้ำ คนน้อยรายต่อไป ซั่นแหล่ว...

  หน้าก่อน หน้าถัดไป

 
Creative Commons License

ชมรมอีสานจุฬาฯ... นิทานพื้นบ้านอีสาน