มื้อนึงขุนงาย มีประชุมด่วน แต่เช้า เลากะเลยฟ้าวออกจากบ้านแต่เช้ามืด ไปประชุม กับพวกเสนาอำมาตย์ทั้งหลาย นั่นล่ะ ข้าวเช้า เลากะเลยบ่ทันได้กิน
ฝ่ายเมียขุนงาย กะเตรียมข้าวต้มเปียก ไว้ท่าผัวเด้ พอเฮ็ดเรียบร้อย ก๋าเวลาว่า น่าสิเลิก หรือพักประชุมแล้ว กะเลยให้เซียงเมี่ยง แล่นไปบอกขุนงาย ให้กลับมากิน ข้าวต้มเปียก อยู่บ้านเด้อ ว่าซ้าน
ไป ไป เซียงเมี่ยง ฟ้าวไป เดี๋ยวมันสิสวยก่อน พะนะ
(ขออธิบายถึงคำว่า ข้าวต้มเปียก จักหน่อยเนาะ.... ข้าวต้มเปียก ความหมายนึง กะคือ ข้าวต้มเปียก นั่นล่ะ เป็นของกิน หรือว่าแนวกินอย่างนึง เด้อ ข้าวต้มเปียก อีกความหมายนึง มันเป็นคำแสลง ตั้ว หมายเถิง ของสำคัญของผู้ญิง นั่นหนา.... "กินข้าวต้มเปียก มันกะเลยเป็นคำสองแง่สองง่าม ความหมายนึงกะคือ กินข้าวต้มอีหลี อีกความหมายนึงกะคือ ...จุด จุด...จุด.. ผู้อ่านฉลาดกะด้อ เข้าใจอยู่ดอกเนาะ) |
เซี่ยงเมี่ยง ฟ้าวแล่นไปอย่างหัน ตามคำสั่ง จนฮอดเฮือนหอประชุม กะฟ้าวโดดขึ้นคันได แล้วกะแล่นเหยียบแป้นเฮือน เติ้ง ต้าง เติ้ง ต้าง ฮ้องมาแต่ไกลๆ พุ่นน่ะ จักแมนฟ้าวคักฟ้าวแหน่ เด้เดียวหนิ
เสนาอำมาตย์ทั้งหลาย กะกำลังนั่งโสเหล่่กันอยู่ เซี่ยงเมี่ยงกะแล่นพรวดพราดเข้าไป คือจั่งมีเหตุด่วน เหตุสำคัญคักแหน่ เด้เดียวหนิ ฮ้องไปนำแล่นไปนำ ว่า
ท่านขุน ท่านขุน
แล้วกะหยุดเซ่าแฮบ ๆ แล้วกะเว้าแฮง ๆ ว่า
ท่านขุน... เมียท่านขุนบอกว่า คันเลิกประชุมแล้ว ให้กลับไปกิน ข้าวต้มเปียก อยู่บ้าน ว่าซั่น
ฮ่า ฮ่า ฮ่า.....
ซุมเสนาอำมาตย์ที่นั่งอยู่หั่น ได้ยินกะพากันหัวร่อ จนท้องแข็ง กะยังว้ากะยังว่า
โฮ้ ขุนงาย ห่างเมียบ่ได้น้อ ห่างแหน่จักหน่อย ผัดให้คนรับใช้มาเอิ้น ไปกินข้าวต้มเปียก
หว่างมื้อคืนนี่ บ่ได้กินข้าวต้มเปียกบ้อ ขุนงาย
หมู่พวก พากันหัวร่อ แล้วกะเว้าหยอกเลา จนเลาอยากอายอย่างคัก กะยังว่า เด้เดียวเนียะ
ขุนงายกะเลยจ่มให้เซียงเมี่ยง ด่าพร้อมล่ะว้า แล้วกะสอนสั่ง กำชับว่า
ฮู้จักมีมารยาทแหน่เด้อ สิไป สิมา กะให้ค่อยไป ค่อยมา ฟ้าวแล่นเติ้งต้าง เติ้งต้าง แบบนี้ มันบ่แมนแนว สิแจ้งเหตุให้ผู้หรับผู้ใหญ่ กะให้ค่อยๆ คลานเข้ามา ฮอดใกล้ๆ แล้ว กะเว้าค่อยๆ เด้อ ฮ้อง แฮงๆ จั่งซี้ มันบ่แมนแนว.. จื่อไว้ จำไว้เด้อ เซียงเมี่ยง.. อย่าเฮ็ดจั่งซี้อีก..
เซียงเมี่ยง รับคำ ขะน้อย ขะน้อย
แล้วกะจื่อไว้ จำไว้
|