เมืองธานี มีนกแก้วโตนึง เว้าเก่งคัก เว้าได้ปานคน กะยังว้ากะยังว่า เอานกแก้วโตนี้ ไปประกวดโต้วาที (..โฮ้ โต้วาทีปานคนเอาโลด เด้เดียวหนิ นกกะดาย...)
ไปประกวดเว้า นั่นล่ะ แข่งอยู่ไส กะชนะ เด้
เจ้าเมืองธานี อยากประกาศศักดา ให้เมืองทวาลีได้รับรู้ว่า เมืองธานี กะมีดี หลายคัก กะเลยให้คนพานกแก้ว ไปเมืองทวาลี พร้อมกับจดหมายท้าประลองว่า นกแก้วโตนี้ เป็นนกแก้วเมืองธานี มีความสามารถเว้าเก่งคัก เมืองทวาลี มีนกเว้าเก่งจั่งซี้บ่ ว่าซั่น
พระราชา กะประชุมเสนาอำมาตย์ทั้งหลาย ให้พากันเสาะแสวงหานกที่เว้าเก่งๆ เพื่อที่สิเอามาแข่งขัน พวกเสนาอำมาตย์ น้อยใหญ่ กะตีฆ้องร้องป่าว ประกาศหา นกที่สามารถเว้าได้เก่งๆ ... กะบ่มีนกบินมารับสมัครจักโตเอาโลด (เอ๋า..เว้าไปทั่วไปทีบ นกจั่งได๋ สิฮู้ภาษาคนปานนั่นเดียวหนิ?) ... หมายถึงว่า ให้คนผู้เป็นเจ้าของนก พานกมา ซั่นดอก....
นั่นล่ะ กะพากันเอานก มาประกวดหลายโตอยู่ตั้วล่ะ เทิงนกแก้ว นกขุนทอง นกเอี้ยง นกแขกเต้า นกสาลิกา พอประกวดแล้วแล้ว ขนาดโตที่ชนะเลิศ ในเมืองทวาลี กะยังเว้าได้บ่เก่ง ท่อนกแก้วเมืองธานี เด้เดียวหนิ
เสนาอำมาตย์ ที่ไปจอบซอมเบิ่งนกแก้วเมืองธานีเว้า กะมาบอกพระราชาว่า
เหมิดเมืองทวาลี บ่มีนกที่เว้าได้เก่ง ท่อนกแก้วเมืองธานีดอก ขนาดนกที่เว้าเก่งที่สุด ของเมืองทวาลี ยังเว้าได้บ่เก่งท่อเลย สิเฮ็ดจั่งได๋ดีล่ะ พะเจ้าข้า
พระราชา คิดแล้วคิดอีก กะคิดบ่ออก สิบ่แข่งกะบ่ได้ ถ้าแข่งแล้ว สิแพ้กะบ่ดี บ๋า..บ๋า.. เอ็ดจั่งได๋ดีล่ะ ตาทีเนียะ...
จนใจแล้ว พระราชาเหมิดทางเลือก เหลือแต่เอิ้นเซียงเมี่ยง มาช่วย แก้ไข ซั่นแหลว ...
พระราชา กะเลยเอิ้นเซียงเมี่ยง มาปรึกษาหารือ เซียงเมี่ยง กะรับอาสาสิเป็นคนจัดการเรื่องนี้เอง ให้พระราชาสำบายใจได้เลย ว่าซั่นเด้
เซียงเมี่ยง เลาสิเฮ็ดจั่งได๋ล่ะหือ???
เซียงเมี่ยง เลากะไปหา นกกะซุมหัวล้านโตบักใหญ่นึง แล้วกะเอามาเลี้ยงไว้ เอานกเอี้ยง นกแก้ว ให้มันกิน จนมันฮู้จักกินนก นั่นล่ะ
จากนั้น กะกำหนดมื้อกำหนดเว็น ในการแข่งโต้วาทีนก.. แข่งให้นกเว้านั่นล่ะ
พอฮอดมื้อนั้นเนาะ คนเมืองธานี กะเอานกแก้วออกมาจับคอน กลางสนามประลอง เรียบร้อย นกแก้วกะเริ่มเว้าจ้อยๆ ปานเด็กน้อย ท่องสูตรคูณ พุ่นล่ะแหม เว้าเก่งคัก เว้าบ่หยุดเลย
ฝ่ายเซียงเมี่ยง กะอุ้มนกกะซุมหัวล้านโตนั้นออกมา ชาวประชาเหลียวเห็น กะหัวเยาะ พองเย้ย คนเมืองธานีพร้อม กะหัวย่าม กะหยิ่มใจ นกกะซุมผู้ฮ้ายใหญ่ จั่งได๋น้อ สิปากเป็น ว่าเด้....
เซียงเมี่ยง เห็นคนหัวเราะเยาะ เลากะทำเสย แก้โตไปว่า
นี่บ่แมนนกกะซุมเด้อ นี่คือนกสาลิกาหลวง เป็นสาลิกาลิ้นเงิน ที่หายากที่สุด หมู่เจ้าอาจสิบ่เคยเห็น เลยบ่มีไผฮู้จักล่ะตี้ แล้วกะเว้ากับนกกะซุมว่า
ไป ไปท้าว ฟ้าวไปเว้าแข่ง แข่งให้มันสู้สู้ ให้เขาฮู้พิษสง เจ้าเด้อ
แล้วกะปล่อยนกกะซุมหัวล้าน ไปเลาะ ๆ นกแก้ว
นกแก้ว เหลียวเห็นนกกะซุม กะท้วงว่า
นกกะซุมหัวล้าน ปากกืก... นกกะซุมหัวล้านปากกืก ๆๆๆๆ ๆๆๆๆๆ
นกกะซุม กะบ่ปากอีหยังจักคำ ย่างเข้าไปหานกแก้ว แล้วกะเอาปากจิกหัว จ๊ก... เอาตีนเหยียบ จิกฉีกกินเสย
นกแก้วเว้าเก่ง กะเลยเดดสะมอเร่ ตอยจ้าย ตายจ้อย ซั่นแหล่ว...
คนทั้งหลายกะตะลึง... เงียบ ปากบ่ออก...
คนเมืองธานี บ่พอใจอย่างแฮง ที่นกแก้วถืกนกกะซุมกิน กะทูลพระราชา ขอความเป็นธรรม เซียงเมี่ยงกะเลยแก้ต่างว่า
นกแก้วอีหยัง ปากบ่ดี เว้าบ่ม่วน บ่ฮู้จักที่ต่ำที่สูง มันสมควรแล้ว ที่ต้องถืกลงโทษ นกสาลิกาลิ้นเงินโตนี้ เป็นนกของพระราชาองค์เหนือหัว นกแก้วเมืองธานี บังอาจมาเว้าว่า นกกะซุมหัวล้าน ปากกืก' ถือว่าเป็นการดูถูกพระราชา มันสมควรตายอยู่แล้ว นกสาลิกาลิ้นเงิน มันแสดงความจงรักภักดีต่อพระราชา กะเลยลงโทษนกนำกัน... สาลิกาลิ้นเงินโตนี้ มันเฮ็ดถืกต้องแล้ว สมควรแล้ว
คนเมืองธานี เถียงบ่ได้ ปากบ่ออก ได้แต่แบกความเจ็บช้ำใจ กลับไปเมืองธานี ซั่นแหลว
เซียงเมี่ยง กะซ่อยแก้หน้าให้เมืองทวาลีได้ จั่งซี้ล่ะ...
|