ผญา คติสอนใจประจำวันที่ 26 เมษายน 2568:: อ่านผญา 
ตกกะเทินว่าได้กำคอแข้บ่มีวางให้หางฟาด มีตั้งแต่สิเน้นคอแข้ใส่ตม แปลว่า เมื่อจับจระเข้แล้ว ไม่มีปล่อยให้หางมันฟาดเอา มีแต่จะจับให้แน่นขึ้น ไม่ให้หลุดมือ หมายถึง ทำอะไรแล้ว ให้ทำจริงๆ จังๆ ไม่พึงล้มเลิกกลางคัน

การละเล่นพื้นบ้านอีสาน  

บักปากกืก...การละเล่นพื้นบ้าน --- อีสานจุฬาฯ
  หน้าก่อน หน้าถัดไป
๒๑.บักปากกืก


เป็นการดึงลากคนของฝ่ายตรงข้ามที่ออกมาล่อ ให้เลยเส้นตาย หรือจับไว้ คล้ายๆ กับเล่น “อี” ต่างกันคือบ่มีการ “อี” หรือ บ่ต้องกลั้นหายใจ แต่ต้องบ่ปาก บ่เว้า บ่หัว


จำนวนผู้เล่น
: ๔ คนขึ้นไป

สถานที่และการเตรียม :

เดิ่นกว้าง ๆ พอสมควร.... ขีดเส้นขึ้นมาหนึ่งเส้น เป็นเส้นกลาง หรือเส้นแบ่งเขต ซึ่งเส้นนี้ กะคือ เส้นช่วยชีวิต จากนั้น กะก้าวนับจากเส้นกลางนั้นออกไปทั้งสองฟาก ฟากละประมาณ ๑๐ ก้าว (หรือระยะที่เห็นว่าพอเหมาะ) แล้วกะขีดเส้นแนวขนาน ขึ้นมาอีก ซึ่งเส้นนี้ กะคือ เส้นตาย นั่นเอง

 

 

การจัดไท : วิธีการ ปาว ปิ่ง ป้ง

การเลือกไทเล่นก่อน : วิธีการ ปาว ปิ่ง ป้ง


วิธีการเล่น
:

ผู้เล่นทั้งสองฝ่าย ไปยืนอยู่ด้านหลังเส้นตาย ของฝั่งไผฝั่งมัน ไทที่ได้เล่นก่อน ส่งโตแทนไปผู้หนึ่ง เป็นผู้ได๋กะได้ ออกไปล่อแต้มเอาฝ่ายตรงข้าม ซึ่งผู้ที่ออกไปล่อนี้ พอเลยเส้นแบ่งเขตหรือเส้นช่วยชีวิต ไป ถือว่าได้เข้าเขตฝ่ายตรงข้ามแล้ว ต้องอดเว้า อดหัวเราะไว้ ให้แสดงเป็นคนปากกืก

ขณะออกไปล่อแต้มแบบปากกืก อยู่นั้น ต้องพยายาม ไปล่อแต้มเอาฝ่ายตรงข้ามให้ได้ ซึ่งฝ่ายตรงข้าม กะต้องหลบ โดยการแล่นหลบ หรือหนีไปอยู่หลังเส้นตาย.. เพราะว่าผู้ล่อแต้ม เลยเส้นตายไปบ่ได้... พร้อมกันนั้น กะต้องพยายามเว้าเรื่องตลก เพื่อหลอกล่อให้ผู้ล่อแต้มหัวเราะ หรือเว้าหลอกล่อถามเพื่อให้ผู้ล่อแต้ม หลงเว้า หลงตอบ ... แล้วกะหาทาง จับเอาผู้ล่อแต้มให้ได้ จับได้แล้ว กะ หนิ่งซ่วงให้หัวเราะ กะได้ หรือสิถึงลาก ให้เลยเส้นตาย กะได้

ผู้ล่อแต้ม ถ้าแต้มเอาไผบ่ได้เลย เทิงเจ้าของ อยากเว้า อยากหัว กะต้องกลับเข้าเขตของเจ้าของ เพื่อรักษาชีวิตของเจ้าของไว้

จากนั้น กะถึงทีของอีกไทหนึ่ง เป็นฝ่ายออกมาล่อแต้ม ...ไทนั้น กะส่งโตแทน ออกมาหนึ่งคนคือกัน.. เฮ็ดปากกืก ออกไปไล่แต้มเอา คือกัน

กรณีที่ผู้ล่อแต้ม แต้มได้ฝ่ายตรงข้ามผู้ได๋กะตาม สิเป็นหนึ่งคน สองคน สามคน กะดี แล้วกะผู้ล่อแต้ม สามารถกลับเข้าเขต แตะเส้นช่วยชีวิตได้ โดยที่ยังบ่ทันเว้า บ่ทันหัวเราะ ผู้ที่ถืกแต้มได้เทิงเหมิด ต้อง “ตาย”

กรณีที่ผู้ล่อแต้ม แต้มได้ฝ่ายตรงข้ามผู้ได๋ผู้หนึ่งแล้ว ...ขณะที่กำลังสิแล่นกลับเข้าเส้นช่วยชีวิต ถืกจับไว้ โดยฝ่ายตรงข้ามคนเดียวหรือหลายคนก็ดี ถึงแม้ผู้ล่อแต้ม พยายามดิ้นรนหนีกลับเส้นช่วยชีวิต แต่ว่า ยังบ่ทันได้แตะเส้นช่วยชีวิต ถืกหนิ่งซ่วง อดหัวบ่ได้ หัวเราะออกมา ผู้ล่อแต้มนั้น นั้น ต้อง “ตาย” ...ส่วนผู้ที่สัมผัสกับผู้ล่อแต้มนั้น ทุกคน กะรอดชีวิต แล้วกะสามารถฆ่า ผู้ล่อแต้ม ซึ่งเป็นฝ่ายตรงข้าม ได้หนึ่งคน... ในทางกลับกัน ถ้าผู้ล่อแต้ม ดิ้นหนีไปแตะเส้นช่วยชีวิตได้ทันก่อนสิหัวเราะ หรือก่อนสิเว้า ผู้ล่อแต้ม นั้น กะบ่ “ตาย” แต่ผู้ที่ “ตาย” กะคือ ฝ่ายตรงข้ามทุกคนที่ มาสัมผัสกับผู้ล่อแต้ม นั้น

ผู้ล่อแต้ม “ ตาย ” ก็ดี ผู้ล่อแต้ม กลับเข้าเขต ก็ดี ถือว่าจบรอบนั้นๆ ต้องเปลี่ยนให้อีกฝ่ายหนึ่ง ออกมาเฮ็ดปากกืกล่อแต้ม..... ผลัดกันไป ผลัดกันมา อยู่จั่งซี้ล่ะ จนกว่าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง สิตายเหมิดทุกคน... ฝ่ายที่ตายเหมิดทุกคนก่อน เป็นฝ่ายที่แพ้ ต้องถืกทำโทษ โดยการถืกเขกเข่า หรือกุ่ง(กระเตง)อีกฝ่ายหนึ่ง


กติกา :

  • การเฮ็ด “ ปากกืก ” คือการบ่ปาก บ่เว้า บ่หัวเราะ
  • ผู้ออกไปล่อแต้ม ขณะอยู่ในเขตฝ่ายตรงข้าม ต้องเฮ็ด “ปากกืก” ตลอด จนกว่าสิกลับเข้าเขตเจ้าของ ถ้าเว้าก็ดี หัวเราะก็ดี ในเขตฝ่ายตรงข้าม “ตาย”
  • ผู้ล่อแต้ม ต้องบ่เลยเส้นตาย ที่อยู่ในเขตฝ่ายตรงข้าม บ่จั่งซั้น “ตาย”
  • ผู้ที่ถืกผู้ล่อแต้ม แต้มได้ โดยที่ผู้ล่อแต้ม สามารถกลับไปแตะเส้นช่วยชีวิตได้ทัน ก่อนสิหัวเราะ หรือก่อนสิเว้า ต้อง “ตาย”
  • ผู้ใด๋ถืกผู้ล่อแต้ม แต้มได้ แต่ว่าผู้ล่อแต้ม หัวเราะหรือเว้าออกมา ก่อนสิแตะเส้นช่วยชีวิต ผู้นั้นยังบ่ “ตาย” ยังมีสิทธิ์เล่นต่อได้ (ผู้ตาย กะคือ ผู้ล่อแต้ม)
  • การจับผู้ล่อแต้ม สามารถช่วยกันจับหลายๆ คนกะได้ ช่วยกันจักคน กะได้
  • ผู้ที่ “ ตาย ” ถือว่าเหมิดสิทธิ์ในการเล่น ต้องรอจนกว่าไทได๋ไทหนึ่ง สิตายเหมิด แล้วเริ่มต้นเล่นใหม่ จั่งค่อยสิมีสิทธิ์เล่นอีก
  • ฝ่ายที่ “ ตาย ” เหมิดก่อน ถือว่า แพ้

  หน้าก่อน หน้าถัดไป

 
Creative Commons License

ชมรมอีสานจุฬาฯ... การละเล่นพื้นบ้านอีสาน