ลาย ในความหมายว่า ทำนองเพลง นั้น ใช้สำหรับเรียกทำนองเพลงต่างๆ คือ เฉพาะทำนองล้วนๆ เรียกว่าลาย เช่น ทำนองเพลงแมงภู่ตอมดอก ก็เรียกว่าลายแมงภู่ตอมดอก ทำนองเพลงแม่ฮ้างกล่อมลูก ก็เรียกว่า ลายแม่ฮ้างกล่อมลูก เป็นต้น
ลายเพลงพื้นบ้านอีสาน (ที่เป็นลายโบราณจริงๆ) จะใช้โน้ต ๕ โน้ต ในหนึ่งลายเพลง ซึ่งสาเหตุที่เป็นเช่นนั้น คงเนื่องมาจาก เครื่องดนตรีที่ใช้ในการแต่งเพลง มีโน้ตไม่ครบสเกลดี หรืออาจเนื่องมาจากอารมณ์เพลงของผู้บรรเลงเอง เป็นอารมณ์แบบสนุกสนาน ร่าเริง โน้ตเพลง จึงออกมาแบบลักษณะโน้ตกระโดด เพลงที่ใช้โน้ตครึ่งเสียงจะมีน้อย
ที่มาของลายเพลง
ลายเพลงต่างๆ มักมีที่มาจาก ๔ ประการ คือ ธรรมชาติที่ปราฏเฉพาะ อารมณ์ความรู้สึก ประเพณีต่างๆ และวิถีดำรงชีวิต
๑ ธรรมชาติที่ปรากฏเฉพาะ
ผู้แต่งลายเพลง เมื่อได้เห็น ได้ยิน ได้สัมผัส กับธรรมชาติบางอย่าง เกิดความประทับใจ แล้วถ่ายทอดลักษณะของธรรมชาตินั้นๆ ออกมาเป็นดนตรี เป็นทำนองเพลง เช่น
- ลายแมงภู่ตอมดอก
จินตนาการถึงแมลงภู่ โผผินบินวน ตอมดอกไม้ จากดอกนี้ ไปดอกนั้น จากดอกนั้น ไปดอกโน้น ผสานกับดอกไม้ ลู่โอนเอนไหวไปมา ยามต้องลม เมื่อดอกไม้ลู่เอน แมลงภู่ ก็โผบินตามดอกไม้ ให้ภาพธรรมชาติที่สวยงาม
- ลายน้ำโตนตาด
จินตนาการถึงสายน้ำตก ที่กระโจนจากที่สูง ลงที่ต่ำ กระทบหินผาด้านล่าง บ้างก็กระทบน้ำที่อยู่ด้านล่าง น้ำกระเซ็น เป็นละออง ฟองฝอย กระจาย ประกอบกับเสียงน้ำไหล เสียงน้ำกระทบหินผา น้ำที่ไหลกระทบหินผา รวดเร็ว ต่อเนื่อง ไม่หยุดนิ่ง
- ลายลมพัดไผ่
จินตนาการถึงลำไผ่ ที่โอนเอนไหวตามลม ลำไผ่สูงเรียวยาว โอนเอนไปมา อย่างช้าๆ ประกอบกับ ใบไผ่ต้องลม พลิ้วโบกสะบัดงดงาม แรงลมหนักเบา โยกโอน จังหวะเพลงก็ โยกโอนดุจเดียวกัน
- ลายลมพัดพร้าว
จินตนาการถึงยอดมะพร้าว ซึ่งมีก้านมะพร้าวรายรอบ ยามลมโบกพัด ก้านมะพร้าว ไหวเอนนวยนาดไปตามลม ใบเรียวยาวที่เรียงอยู่สองฟากของก้านมะพร้าวสะบัดสั่นระริกน้อยๆ เริงระบำเล่นลม
๒ อารมณ์ความรู้สึก
ผู้แต่ง อาศัยอารมณ์ความรู้สึกของตนเอง หรืออาจจะจินตนาการถึงอารมณ์ความรู้สึกของผู้อื่น แล้วถ่ายทอดออกมาเป็นดนตรี เป็นทำนองเพลง เช่น
- ลายแม่ฮ้างกล่อมลูก
นอนซะแม่เยอ หลับตาซะแม่เยอ ผู้สาวเข็ญฝ้าย เดือนหงายถ่าผู้บ่าว... เสียงแม่หม้ายร้องเพลงกล่อมลูก ดังแว่วมาจากเรือนน้อย อันไกลห่างจากเรือนหลังอื่น...
ลายเพลงนี้ จินตนาการถึงแม่ฮ้าง (แม่หม้าย) ซึ่งยากจนอยู่แล้ว สามียังหนีหาย (หรือตายจาก) ทิ้งลูกน้อยไว้ให้เลี้ยง เมื่อแม่ฮ้างจะออกไปหาอหาร ไปทำงาน ไม่สามารถจะพาลูกน้อยไปด้วยได้ จำต้องกล่อมลูกให้นอนหลับก่อน ทั้งคิดถึงสามี ทั้งห่วงลูกน้อย ทั้งต้องหาเลี้ยงชีวิต... นี่คืออารมณ์ความรู้สึกของแม่ฮ้างขณะกล่อมลูกน้อย... อะไรจะโศกซึ้งปานนี้ อะไรจะรันทดใจ ปานนี้ อะไรจะว้าเหว่ใจปานนี้..
- ลายสาวคอยอ้าย
จินตนาการถึงความรักของสาวน้อยชาวบ้าน กับหนุ่มนายากไร้ ชายหนุ่มจำต้องเข้ากรุงเทพฯ หางานทำ หวังเก็บเงินไปแต่งงาน แต่ด้วยเหตุอะไรไม่ทราบ กลับหายไปนานปี ไม่มีข่าวคราว สาวน้อย ด้วยมั่นในรัก มั่นในสัญญา จึงตั้งตาเฝ้ารอคอย ณ บ้านน้อยปลายนา หวังเพียงว่า หนุ่มนาคนรัก สักวันจะหวนคืน ความรู้สึกนี้ คนที่เฝ้าหวัง คนที่รอคอย โดดเดี่ยว เดียวดาย จะเข้าใจดี
๓ ประเพณีต่างๆ
โดยมาก มักแต่งขึ้นเพื่อประกอบชุดรำ จำลองสถานการณ์ประเพณีต่างๆของอีสาน เช่น
- ลายเซิ้งบั้งไฟ... จำลองประเพณีบุญบั้งไฟ ซึ่งมีการแห่งแหนขบวนบั้งไฟ ก่อนนำไปจุด
- ลายตังหวาย (เพี้ยนมาจากตั้งไหว้)... เป็นการรำบูชาผีฟ้าพญาแถน โดยมีเครื่องเซ่นไหว้มาตั้งไว้ด้วย เพื่อให้พญาแถนเมตตา อำนวยความสุข ความอุดมสมบูรณ์ แก่ชาวประชา
- ลายผีตาโขน... จำลองประเพณีงานบุญผีตาโขน ของชาวอำเภอด่านซ้าย จังหวัดเลย
- ลายส่วงเฮือ
จำลองประเพณีงานบุญแข่งเรือ ของชาวอีสานแถบลุ่มแม่น้ำ
๔ วิถีดำรงชีวิต
ผู้แต่งอาจหยิบยกเอาการวิถีดำรงชีวิตอย่างใดอย่างหนึ่ง ที่เด่นๆ มีเอกลักษณ์ชัดเจน ถ่ายทอดได้ง่าย นำมาถ่ายทอดเป็นชุดการแสดง และแต่งทำนองดนตรีประกอบ เช่น
- ลายไทภูเขา... แสดงถึงการหาเลี้ยงชีพของชาวเขา โดยเฉพาะเผ่าผู้ไท โดยหยิบเอาการหาหน่อไม้ และเก็บเครือหญ้านาง มาเป็นประเด็น นำเสนอ ซึ่งหนุ่มสาวที่ขึ้นเขาหาหน่อไม้ ก็มีการเกี้ยวพาราสี หยอกล้อ สนุกสนานกันด้วย
- ลายแหย่ไข่มดแดง... แสดงถึงการหาอาหารของชาวอีสาน ช่วงหน้าแล้ง ซึ่งอาหารยอดฮิตคือ ไข่มดแดง บอกเล่าตั้งแต่เตรียมอุปกรณ์ ออกจากบ้าน ตระเวนหารังมดแดง แหย่ไข่มดแดง จนกระทั่ง กลับบ้าน ซึ่งนี่คือ หนึ่งในวิถีชีวิตของชาวอีสาน
- ไทภูพาน...บอกเล่าถึงเรื่องราวเกี่ยวกับชาวไทภูเขา แถบเทือกเขาภูพาน ว่ามีเผ่าอะไรบ้าง แต่ละเผ่ามีวิถีชีวิตความเป็นอยู่อย่างไร
|