โครงเรื่อง จากนิทานชาดก
กลอนผญาโดย มังกรเดียวดาย
อตีเต กาเล
อดีตกาลนานแล้ว นิทานเก่าเล่ามา
ยังมีนาโนนดอน ห่างนครเมืองบ้าน
นาโนนนั้น อุทุมพรต้นหมากเดื่อ
หมากสุกดกแดงเรื่อ เต็มต้นอุดมผล
ทางฟากโนนนากว้าง ดงดอนเลาะเหล่า
มีฝูงนกแขกเต้า ใหญ่แท้หนึ่งฝูง
หมายหน้ามุ่ง บินบ่ายหากิน
ผินโผผก วกวนเวียนเกี้ยว
นกก็เทียวหลายเที่ยว บินเทียวเซ้าค่ำ
กินอิ่มหนำแล้วก็เล่น เฮฮ้องฮ่ำฮอน
นกได้นอนเนาต้น อุทุมพรไม้หมากเดื่อ
มีผลสุกแดงเรื่อ เต็มต้นดาษดา
หิวก็หาหมากไม้ จิกกินแสนอร่อย
หมากเดื่อหวานแซบซ้อย ซิมเสพแสนสราญ
นกฝูงนั้น ได้อาศัยต้นหมากเดื่อ
กินผลสุกแดงเรื่อ ทุกเมื่อเซื่อวัน
ฤดูกาลผันปิ้น คือบักปิ่นวินหมุน
หนุนแต่ลมบ่มีฝน ดอนโนนนาแล้ง
ผืนดินแห้ง ระเหยแหงทุกแห่ง
แสงแดดฮ้อน โลมต้องสุวัน
นานดนนานผลสุกเรื่อ ก็บ่เหลือหมดเกี้ยงหล่อย
ยังแต่ใบน้อยน้อย เหลืองซ่านรสบ่หวาน
ความสำราญที่เคยได้ จากไม้ใหญ่อุทุมพร
เคยเป็นคอนเนาจับ หลับนอนสบายพ่าง
เคยเป็นฮ่มไม้กั้ง บังฝนหลบแดดส่อง
เคยได้กินอิ่มท้อง ผลพร่องหอดหาย
นกจึงได้ ลาไลไม้หมากเดื่อ
เหลือเพียงนกแขกเต้า หัวหน้าผู้จ่าฝูง
ใจหมายมุ่ง เนาคอนนอนถิ่น
ถึงสิอึดแนวกิน บ่ถวิลหมากไม้ ใจมั่นปณิธาน
จิกกินก้าน ใบเดื่อแทนผล
อดสาทนทานทุกข์ ค่ำแลงนอนแล้ง
ต้นหมากเดื่อเหลืองแห้ง เหมิดใบบ่มีป่ง
นกก็คงเนายั้ง ประทังชีพกินเปลือกแทน
แสนสิอุกอั่งเอ้า เนาอยู่เดียวดาย
แสนสิโทมนาทุกข์ บ่ละเพียรทนไว้
ใจตั้งมั่น บ่ละคอนสหายเก่า
ถิ่นเคยเนาสืบซ้น สหายฮ้อนสิละหนี ได้รือ..
บัดนี้ กล่าวถึงองค์เทพไท้ อินทาเทวราช
ศิลาอาสน์อ่อนนุ่ม ผัดเล่าฮ้อนกระด้างแข็ง
เทพจึงแยงทิพพเนตร สาดส่องสรญาน
เห็นเหตุการณ์ความทุกข์ ตบะเพียรนกแขกเต้า
จำเฮาต้องไขแก้ กรรมเวรปลดปล่อย
ซ่อยเหลือนกแขกเต้า ให้หายม้มมรณัง
คิดดังนั้น เทวราชอินตา
พร้อมสุชาดานาง มเหสีเสด็จด้วย
เหาะอ่วยหน้า สู่นาโนนเหล่า
หม่องอยู่นกแขกเต้า มะเดื่อไม้ไร้ใบผล
เทพก็ดลเสกให้ ไม้มะเดื่อยืนต้นตาย
เพื่อลองใจสอบตบะ ปณิธานนกแขกเต้า
นกก็ยังเนายั้ง กินขุยกะพี้ต่อ
บ่ปล่อยป๋าละทิ่ม มะเดื่อไม้ที่ตายลง
แต่นั้น เทพไท้ทรงดลให้ ไม้มะเดื่อเหลือแต่ตอ
นกก็ยังเกาะรอ อยู่ตอกินขุยไม้
บ่มีไลป๋าทิ่ม อุทุมพรคอนหมากเดื่อ
เหลือแต่ตอโคนเหง้า ก็ยังเฝ้าบ่เล่าไล
องค์เทพไท้ เห็นความเพียรตบะแกร่ง
จึงแปงเป็นหงส์ฟ้า ขาวคู่คู่งาม
บินฮอดก้ำ โคนมะเดื่ออุทุมพร
แล้วจึงวอนวอนถาม จาความคำต้าน
โอนอท่าน คือทนทานเนาอยู่
กินแต่ขุยตามฮู สังอดสูอยู่ได้ เป็นแท้เพราะหยัง?
อดีตก่อนเก่าครั้ง อุทุมพรไม้มะเดื่อ
มีผลสุกแดงเรื่อ หวานจ้อยดาษดา
มีใบหนาปกคุ้ม ปกคลุมป้องแดดส่อง
ป้องฝนและลมต้อง นกแขกเต้าได้อยู่เย็น
เป็นดั่งเช่น สหายมิตรที่เพิ่งพา
ยามทุกข์มีภัยมา ฮ่วมฝ่าฟันภัยฮ้าย
ยามสุขดีลาภได้ ฮ่วมสบายเสพสุขสิ่ง
คือมิตรจริงใจแท้ บ่แวเลี้ยวละหนี
ถึงมื้อนี้ อุทุมพรต้นหมากเดื่อ
สิเหลือเพียงตอไม้ เป็นขุยไง้ไง่ผง
เฮายังคงคอนไม้ สหายเก่าบ่ไลลา
บ่ละลืมสหายมิตร ที่เฮาเคยนอนซ้น
ถึงสิจนเข็นขอด หอดหิวท้องกิ่ว
ถึงสิหิวจนตายม้าง บ่ไลร้างมิตรสหาย ดอกเด้อ
เทวราชไท้ ได้ฟังคำต้านตอบ
กอปรด้วยตบะกล้า นกแขกเต้าประพฤติตน
ยอมจำนนเหตุฮ้อน ตบะธรรมอันกล้าแกร่ง
จึงแปลงคืนกายร่าง แห่งเทพจอมสวรรค์
แล้วจึงวาจาต้าน แถมพรข้อหนึ่ง
สิขอหยังกะได้ สำเร็จแท้ดั่งหวัง
ขอให้คือเก่าครั้ง อุทุมพรไม้หมากเดื่อ
มีผลสุกแดงเรื่อ เต็มต้นอุดมผล
หมากบ่พร่องจากต้น ดกดื่นทุกๆยาม
ต้นงอกงามฮ่มหนา สิ้นกาลนานพุ้น
ตบะคุณนกแขกเต้า ปณิธานกล้าแกร่ง
ได้สำแดงเดชกล้า อินทาไท้จอมสวรรค์
จึงบันดาลดลให้ อุทุมพรไม้หมากเดื่อ
มีผลสุกแดงเรื่อ เต็มต้นอุดมผล
หมากบ่พร่องจากต้น ดกดื่นทุกๆยาม
ต้นงอกงามฮ่มหนา ฝูงนกกาอาศัยซ้น
คือจั่งคนเฮานี้ ยามมั่งมีมิตรมาม่วน
บัดยามซวนเซล้ม ซมซ้อนห่อนบ่มี
อันมิตรดีสหายแท้ บ่มีแวละถิ่มปล่อย
มีทุกข์ก็ซ่อยแก้ สุขเสพฮ่วมกัน
นิทานธรรมมื้อนี้ จบลงน้อสาก่อน พรพระอินทร์แถมท้าย ขอได้หนึ่งประการ
(ก่อนสิขอว่านั้น ทำความดีไว้สาก่อน พรพระอินทร์จั่งสิได้ คือด้ามดั่งหวัง.. เด้อ)
มังกรเดียวดาย