ผญา คติสอนใจประจำวันที่ 26 เมษายน 2568:: อ่านผญา 
ป๋าสวนอ้มหนีไปชมหม้อปลาแดก ป๋าเล้าข้าวไว้หนีไปซ้นป่ากลอย แปลว่า ทิ้งสวนดอกอ้ม หนีไปชื่นชมหม้อปลาร้า ทิ้งยุ้งข้าว หนีไปเฝ้าป่ากลอย หมายถึง เมื่อโมหะเข้าครอบงำ มักจะตาบอด เห็นผิดเป็นถูก

ผญา กาพย์ กลอนอีสาน  

ผญาคติธรรมคำสอน --- อีสานจุฬาฯ
ผญาคติธรรมคำสอน


  หน้าก่อน หน้าถัดไป
หนูหาลูกเขย

กล่าวถึงหนูซิงคู่ สองผัวเมียครอบครัวนึง
ได้พากันสืบสร้าง ฮังน้อยที่อาศัย
อยู่กำแพงเฮือนไท้ เศรษฐีใหญ่แห่งตำบล
เหิงดนนาน ก็ตั้งครรภ์บุตรีน้อย
ผิวพรรณงามหยาดย้อย ขนปุยปอยนุ่มอ่อน
สองผัวเมียหาข้าวป้อน ถนอมเลี้ยงด้วยฮักแพง
หลายเซ้าแลงผันผ่าย ลูกเติบใหญ่เข้าวัยสาว
นาถนงเยาว์โฉมสะอาง งามเกินนางหนูทั้งสิ้น
ยามหากินแล่นเล่น ตามผนังกำแพงใหญ่
หนูซิงหนุ่มพอกายใกล้ หมายปองเจ้าเข้าฮ่วมฮัง แท้แหล่ว...

ฝ่ายว่าพ่อแม่ตั้ง ใจใหญ่ใฝ่ศักดิ์ศรี
หนูซิงหนุ่มประดามี บ่คู่ควรบุตรีน้อย
โสมศรีสร้อย บุตรีต้องครองคู่
กับชายหนุ่มผู้ฮู้ สูงล้ำเหนือแผ่นดิน
ตัดสินใจแน่แล้ว สองผัวเมียพร้อมพ่ำ
จึงจูงมือลูกน้อย เดินด้นหาคู่ครอง
หมายตาจ้อง หวังปองสุรีย์เทพ
พ่อจึงเหมบนอบน้อม นบนิ้วประกาศเสียง.. ขึ้นว่า

“ข้าแต่องค์เทพไท้ ผู้ยิ่งใหญ่ทั่วโลกา
ผู้เป็นจอมสุริยา ใหญ่สูงเทียมฟ้า
ผู้ข้ามีลูกน้อย โสภางามขนาด
ขอถวายเป็นบาทเบื้อง บัวระบาดแด่พระองค์”

สุรีย์เทพ.. พอได้ฟังคำต้าน จึงจาตอบยังหนู
“เฮานี่บ่คู่ควร นวลละออลูกสาวท่าน.. (ดอกเด้อ)
แสงสุรีย์ที่ส่องนั้น แยงไกลก็จริงอยู่
แต่ที่สู้บ่ได้ คือขี้ฝ่า เทพเมฆา
เมฆาเทพ ผู้ยิ่งใหญ่ในโลกา
บดบังแสงสุริยา เฮาบ่เทียมทานได้”

ฝ่ายหนูนั่น ได้ฟังคำต้านตอบ
เห็นชอบแล้ว จึงลาล่ำจากมา
ในเพลาตอนนั้น เมฆาก้อนใหญ่
ลอยกายใกล้ บดคุ้มบังแสง
หนูจึงแยงตาขึ้น ยอมือปากกล่าว
วาจาเว้า หมายหมั้นเทพเมฆา

“ข้าแต่องค์เทพไท้ ผู้ยิ่งใหญ่ทั่วโลกา
ผู้เป็นจอมเมฆา ใหญ่สูงเทียมฟ้า
ผู้ข้ามีลูกน้อย โสภางามขนาด
ขอถวายเป็นบาทเบื้อง บัวระบาดแด่พระองค์”

เมฆาเทพ.. พอได้ฟังคำต้าน จึงจาตอบยังหนู
“เฮานี่บ่คู่ควร นวลละออลูกสาวท่าน.. (ดอกเด้อ)
เงาที่เฮามีนั้น บดบังแสงก็จริงอยู่
แต่ที่สู้บ่ได้ คือลมผ่าย เทพพระพาย
พระพายเทพ ผู้ยิ่งใหญ่ในโลกา
พัดโบกโบยก้อนเมฆา เฮาบ่เทียมทานได้”

ฝ่ายหนูนั่น ได้ฟังคำต้านตอบ
เห็นชอบแล้ว จึงลาล่ำจากจร
จ้อนไต่ขึ้น จอมเนินโพนใหญ่
พอพระพายพัดต้อง ประกาศก้องสุระเสียง ขึ้นว่า..

“ข้าแต่องค์เทพไท้ ผู้ยิ่งใหญ่ทั่วโลกา
ผู้เป็นจอมพระพาย ใหญ่สูงเทียมฟ้า
ผู้ข้ามีลูกน้อย โสภางามขนาด
ขอถวายเป็นบาทเบื้อง บัวระบาดแด่พระองค์”

พระพายเทพ.. พอได้ฟังคำต้าน จึงจาตอบยังหนู
“เฮานี่บ่คู่ควร นวลละออลูกสาวท่าน.. (ดอกเด้อ)
ลมที่ผันพัดผ่าย แฮงหลายก็จริงอยู่
แต่ที่สู้บ่ได้ กำแพงบ้านท่านเศรษฐี
กำแพงบ้านที่ว่านี้ ยิ่งใหญ่ในโลกา
กั้นแฮงลมที่พัดพา เฮาบ่เทียมทานได้”

ฝ่ายหนูนั่น ได้ฟังคำต้านตอบ
เห็นชอบแล้ว จึงลาล่ำต่าวคืน
ยืนแท้แล้ ข้างกำแพงผนังใหญ่
นบนิ้วได้ ประกาศก้องสุระเสียง ขึ้นว่า..

“ข้าแต่กำแพงไท้ ผู้ยิ่งใหญ่ทั่วโลกา
ผู้เป็นจอมราชา ใหญ่สูงเทียมฟ้า
ผู้ข้ามีลูกน้อย โสภางามขนาด
ขอถวายเป็นบาทเบื้อง บัวระบาดแด่พระองค์”

กำแพงบ้าน.. พอได้ฟังคำต้าน จึงจาตอบยังหนู
“เฮานี่บ่คู่ควร นวลละออลูกสาวท่าน.. (ดอกเด้อ)
ลมที่ผันพัดผ่าย เฮากั้นบังก็จริงอยู่
แต่ที่สู้บ่ได้ คือแข้วของพวกหนู
หนูนั่นล่ะ ที่ยิ่งใหญ่ในโลกา
หนูคือจอมราชา เฮาบ่เทียมทานได้”

ฝ่ายหนูนั่น ได้ฟังคำต้านตอบ
เห็นชอบแล้ว จึงลาล่ำต่าวฮู
หนูจึงได้ฮ่ำฮู้ ฮิ่นตรองตามฮีต
คิดรอบคอบ กระจ่างแจ้งแจบใจ

ชาติที่โตเฮาได้ บังเกิดเป็นหนู
คู่ครองที่คู่ควร ต่างพงศ์บ่ควรแท้
แนวคู่ครองควรคู่ หนูคือกันมันจั่งแม่น
อยู่นำกันแข่นแข่น ตามเชื้อชาติเฮา

นี่ละน้อหมู่เจ้า ผญาเก่าคองโบราณ ความนิทานเพิ่นสอน กลอนผญาเพิ่นว่าไว้
“อย่าสิไลลืมถิ่มพงศ์พันธุ์พี่น้องเก่า อย่าสิละโคตรเซื้อ หลงย้องผู้อื่นดี”
ผญาธรรมมื้อนี้ จบลงน้อสาก่อน บ่มีพรแถมท้าย ให้พี่น้อง ฮิ่นตรอง เอาเด้อ ฯ

มังกรเดียวดาย
  หน้าก่อน หน้าถัดไป
 
Creative Commons License

ชมรมอีสานจุฬาฯ... ผญา กาพย์ กลอนอีสาน