ผญา คติสอนใจประจำวันที่ 29 เมษายน 2568:: อ่านผญา 
คันได้เป็นใหญ่แล้วอย่าลืมคุณพวกไพร่ คันหากไพร่บ่พร้อมสิเสียหน้าบ่ฮุ่งเฮือง แปลว่า หากได้เป็นใหญ่แล้ว อย่าลืมคุณพวกไพร่ เพราะหากไพร่ไม่ทำให้ จะเสียหน้า ไม่รุ่งเรือง หมายถึง ได้ดีแล้ว อย่าลืมตัว อย่าลืมผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จ


  ล็อกอินเข้าระบบ  
ชื่อ ::
รหัสผ่าน::
*จำสถานะ
 
  รวมมิตรปลาร้านอกไห  
  สวัสดีครับ

     แทบจะไม่มีใครล่วงรู้อย่างลึกซึ้งเลยว่า มีเรื่องราวที่คุณไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่า ในภาคอีสานของประเทศไทยนั้น หลายอย่างมีความเป็นมาอย่างไร หลายอย่างได้เกิดขึ้นแล้วและยังคงอยู่ หลายอย่างเกิดขึ้นแล้ว และได้เลือนลางหายไปแล้วในอดีต เราและทีมงานปลาร้านอกไห จะนำพาคุณผู้ชม จูงมือเดินไปเรียนรู้วิถีชีวิตพื้นบ้านอีสานในแง่มุมต่างๆ เพื่อเปิดโลกทัศน์และมุมมองว่า ทำไมคนภาคอีสานจึงเป็นอย่างนี้ ทำไมต้องใช้ชีวิตกันอย่างนี้ และสิ่งหนึ่งที่จะลืมเสียไม่ได้ก็คือ การสร้างความเป็นไทยที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรม หลากหลายทางเชื้อชาติ หลากหลายประเพณี เพื่อที่เราจะได้เรียนรู้และอยู่ได้กันอย่างสันติ อย่างสงบ ไม่มีความดูถูกเหยียดหยามคนไทยด้วยกันเอง

     ทีมงานปลาร้านอกไห ขอขอบคุณทุกเสียงทุกแรงใจที่มอบให้เรา เราสัญญาว่า เราจะเป็นส่วนหนึ่งที่จะสร้างสรรค์สังคมให้จรรโลงใจ
พร้อมเสมอ
ทีมงานปลาร้านอกไห

กระทู้ธรรมดา... มีข้อความโพสต์ใหม่

  หน้า: 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 22 23 24 25 26 27 28 29 30 31 ตอบกระทู้  
  โพสต์โดย  
สารานุกรม แมงไม้ ใน อีสาน (คลิกอ่านบทความต่อเนื่อง)
 
  อีเกียแดง {แห่งรัตติกาล}    คห.ที่255)  
  อนุเซียนผู้อมตะ

ภูมิลำเนา : บุรีรัมย์ @ขอนแก่น
สมาชิกภาพ : สมาชิกทั่วไป
เข้าร่วม : 07 เม.ย. 2552
รวมโพสต์ : 5,431
ให้สาธุการ : 4,145
รับสาธุการ : 12,652,790
รวม: 12,656,935 สาธุการ

 
คุณบ่าวแก่นนคร:
หากมีใครไม่เห็นด้วยจงทักท้วงขึ้นท่ามกลางที่ประชุมนี้เถิด
ถ้าไม่มีใครทักท้วงแล้วไซ้   จงสาธุการขึ้นให้พร้อมกันเพื่อ
ความสิ้นไปแห่งอธิกรณ์นี้เถิด

สาธุ


เว้าปานอุปโลกน์กฐินเนาะน้อง ฮ่าๆๆ

 
 
สาธุการบทความนี้ : 408 ครั้ง
ให้สาธุการบทความนี้
 
 
  30 ม.ค. 2556 เวลา 18:37:10  
    MySite  offline ติดต่อหลังเวที ติดต่อโดยเมล์ ตอบอ้างอิง  
 
  ปิ่นลม    คห.ที่256) แมงตด  
  เซียน

ภูมิลำเนา : สกลนคร
สมาชิกภาพ : สมาชิกชมรมฯ
เข้าร่วม : 16 มี.ค. 2553
รวมโพสต์ : 2,213
ให้สาธุการ : 180
รับสาธุการ : 5,444,640
รวม: 5,444,820 สาธุการ

 



ชื่อพื้นบ้าน :  แมงตด   ( อีสาน )  แมงแต๊บ  ( เหนือ ) แมงขี้ตด ( ใต้ )
ชื่อสามัญ  Bombardier beetles
ชื่อวิทยาศาสตร์  Pherosophus
Phylum: Arthropoda
Class: Insecta
Order: Coleoptera
Family: Carabidae

ข้อมูลทั่วไป  
กล่าวกันว่า แมงตด คือ เจ้าแห่งนักรบเคมีชีวะ  ด้วยความสามารถเฉพาะตัว  พ่นตดเป็น "ไฟเย็น"ได้
ส่วนมนุษย์ผู้ขี้คร้าน หรือ "ผู้นอนเว็น"  ก็ให้ระวัง " ไฟเย็น"   สะเดิดโด่ง  เพราะเพื่อนๆ แกล้งเอา
โดยจำเพาะ ญาคูต้องแล่ง  ฉันเพลแล้ว เรียนคาถา " กรนิน " ( อ่านว่า กอละนิน กินแล้วนอน )
มักสิถืกจัวน้อย "วางไฟเย็น" เป็นประจำ  อันนี้กะหยอกกันเล่นดอกครับ   สุมื้อนี้ เพิ่นเป็นฮอด ผอ.แล้ว
ไผสิกล้า แม่นบ่ครับ ท่าน ผอ.พระยืน 4


ภาพแสดงโครงสร้างทางกายภาพ แมงตด

ลักษณะทั่วไป
แมงตด  เป็นแมลงจำพวกเดียวกันกับ "ด้วงดิน " เป็นแมลงปีกแข็ง มีลำตัวยาว 17-21 มม. กว้าง 6.5-8 มม
ในโลกนี้นี้ ว่ากันว่ามีกว่า 500 ชนิด แตกต่างกันไป แต่ชนิดที่พบในภาคอีสาน และในประเทศไทย  มีอยู่ 2 ชนิด คือ Pherosophus javanus และ Pherosophus occipitalis  แม้เป็นแมลงขนาดเล็ก  แต่ก็วิวัฒนาการ
ตัวเองให้มีพิษสง ไว้สำหรับป้องกันตัว โดยสร้างสารกรดพิษ " ตดไฟเย็น" ที่มีส่วนประกอบของ
ไฮโดรควินโนน และ ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ เย็นแต่เผาไหม้ พุพอง ลวกมดแดง ตายเป็นทาง พะนะ
เวลามันปล่อยแก๊สพิษ จะมีเสียงดังคล้าย "ตด"  จึงได้ชื่อว่า แมงตด   ตัวผู้มีจะมีเกล็ดแข็งใต้ท้อง 8 ปล้อง
ส่วนตัวเมียมี 7 ปล้อง



ชีวิตความเป็นอยู่
แมลงตดอาศัยอยู่บนบกและบางครั้งพบตามริมแอ่งน้ำเล็ก ๆ อาศัยจับแมลงและสัตว์เล็ก ๆ อื่น
กินโดยไม่เลือก ภาษาอีสานว่า " กินบ่ฮิ" ได้แก่ ไส้เดือน หนอนของแมลงต่าง ๆ รวมไปถึง เพลี้ย
ส่วน "ขี้เพี้ย" ให้ผู้บ่าวพวมแวง กิน พะนะ

ส่วนมากวางไข่เป็นกลุ่มอยู่ใน โพรงใต้ดิน กองหิน หรือใต้เปลือกไม้ หรือขอนที่ตายที่ล้ม
โดยทั่วไปจะเป็นกลุ่มเล็ก ๆ ไม่ถึง 10 ฟอง
ตัวหนอนมีลำตัวยาวค่อนไปทางแบนและแข็งตลอดหัว กรามโค้งยาว และปลายแหลมยื่น
ตัวหนอนค่อนข้างว่องไว
  เมื่อตัวยังเล็กมักจะกินไข่ของแมลงต่าง ๆ ที่วางอยู่ใต้ดิน โตขึ้นกินอาหารแบบเดียวกับตัวเต็มวัย
เมื่อโตเต็มที่จะเปลี่ยนเป็นดักแด้ในดิน แล้วลอกคราบออกมาเป็น แมงตด พวกนี้อยู่ตาม"เขิบไม้"
ปกติแล้ว ชอบอยู่ตามพื้นที่ชื้น  ศัตรูตามธรรมชาติของมัน คือ "ขี่โก๊ะ"  แมงเงา  ขี่เข็บ  และบึ้ง
นกกดแดง นกกะลาง  ไก่ป่า พร้อมกับ แมงเลี้ยงน้อง



ความเกี่ยวพันกับวิถีชีวิตชาวอีสาน
แมงตด มักแพร่กระจายพันธุ์ในช่วงฤดูฝน  มักจะเห็นมันไต่ เกะกะตามเดิ่นดอน เพราะมันเป็นสัตว์
ที่หากินอยู่กับพื้นดิน อยู่กับพื้นที่ชุมชื้น เวลาไปเลี้ยงวัวควาย มักจะเจอบ่อย คนอีสานโบราณนิยม
ปลูกเรือนให้สูง เพื่อให้หลีกเลี่ยงกับการทักทาย สัตว์มีพิษต่างๆ รวมทั้ง  แมงตดอันนี้ด้วย
เพราะหากลูกหลานไปพบเจอจับมันเล่น เพราะมีสีสันสวยงาม เมื่อโดนมันตดใส่ เกิดอาการแสบร้อน
ทำให้เด็กน้อยเกิดอาการ "ลัง"  ( งอแง )  แม้แต่ผู้ใหญ่หากถูกมันพ่นกรดใส่ อาจลุกลามเป็นแผลเป็นได้

ในสมัยปัจจุบัน การนิยมปลูกเรือนสูง ถูกปรับเปลี่ยนตามกาลสมัย  หันมานิยมปลูกเรือนทรงต่ำ
หรือที่ทางอีสานเรียกว่า " เฮือนต่ำ "  แป๋ ขี้ดิน  จึงควรระวังสัตว์มีพิษเหล่านี้เอาไว้บ้าง
หากถูกพิษของมันให้ หาสบู่ล้างน้ำออก พร้อมท่องคาถา " โอม สะหัมติด " รับรองหายเป็นปลิดทิ้ง
เอวังด้วยประการฉะนี้  สะหละหล่ะ




ข้อมูลอ้างอิงจาก
http://en.wikipedia.org/wiki/Bombardier_beetle

 
 
สาธุการบทความนี้ : 406 ครั้ง
ให้สาธุการบทความนี้
 
 
  01 ก.พ. 2556 เวลา 11:40:50  
      offline ติดต่อหลังเวที ติดต่อโดยเมล์ ตอบอ้างอิง  
 
  มังกรเดียวดาย    คห.ที่257)  
  มหาเซียน

ภูมิลำเนา : ขอนแก่น
สมาชิกภาพ : สมาชิกชมรมฯ
เข้าร่วม : 03 มี.ค. 2550
รวมโพสต์ : 3,640
ให้สาธุการ : 8,145
รับสาธุการ : 6,184,200
รวม: 6,192,345 สาธุการ

 
บ่ฮู้ว่าแมงตด ในทางนิเวศวิทยา มันมีประโยชน์แนวได๋แหน่น้อ

แมลงทุกอย่าง มันน่าสิมีประโยชน์เด้เนาะ บ่อย่างได๋กะอย่างนึง

 
 
สาธุการบทความนี้ : 740 ครั้ง
ให้สาธุการบทความนี้
 
 
  01 ก.พ. 2556 เวลา 12:58:42  
  www    offline ติดต่อหลังเวที ติดต่อโดยเมล์ ตอบอ้างอิง  
 
  ป้าหน่อย    คห.ที่258)  
  เซียน

ภูมิลำเนา : อุบลราชธานี
สมาชิกภาพ : สมาชิกทั่วไป
เข้าร่วม : 05 ธ.ค. 2552
รวมโพสต์ : 2,169
ให้สาธุการ : 3,415
รับสาธุการ : 5,166,840
รวม: 5,170,255 สาธุการ

 
คุณมังกรเดียวดาย:
บ่ฮู้ว่าแมงตด ในทางนิเวศวิทยา มันมีประโยชน์แนวได๋แหน่น้อ

แมลงทุกอย่าง มันน่าสิมีประโยชน์เด้เนาะ บ่อย่างได๋กะอย่างนึง

พ่อลุงมาเห็น เพิ่นว่า บ้านเพิ่นเอิ้น แมงตดปูดดด ว่าซ้านน ...

 
 
สาธุการบทความนี้ : 436 ครั้ง
ให้สาธุการบทความนี้
 
 
  01 ก.พ. 2556 เวลา 14:11:57  
      offline ติดต่อหลังเวที ติดต่อโดยเมล์ ตอบอ้างอิง  
 
  อีเกียแดง {แห่งรัตติกาล}    คห.ที่259)  
  อนุเซียนผู้อมตะ

ภูมิลำเนา : บุรีรัมย์ @ขอนแก่น
สมาชิกภาพ : สมาชิกทั่วไป
เข้าร่วม : 07 เม.ย. 2552
รวมโพสต์ : 5,431
ให้สาธุการ : 4,145
รับสาธุการ : 12,652,790
รวม: 12,656,935 สาธุการ

 
คุณป้าหน่อย:
คุณมังกรเดียวดาย:
บ่ฮู้ว่าแมงตด ในทางนิเวศวิทยา มันมีประโยชน์แนวได๋แหน่น้อ

แมลงทุกอย่าง มันน่าสิมีประโยชน์เด้เนาะ บ่อย่างได๋กะอย่างนึง

พ่อลุงมาเห็น เพิ่นว่า บ้านเพิ่นเอิ้น แมงตดปูดดด ว่าซ้านน ...


ลุงเพินเอิ้นคือกันกับบ้านผม แสดงว่าใกล้กัน ไปนำกันได้

ลุงคับ: ไปเที่ยวร้อยเอ็ดอย่าลืมเอิ้นแนเด้อคับ คิดฮอดแข่น้อยในบึงพลาญชัย
  

 
 
สาธุการบทความนี้ : 432 ครั้ง
ให้สาธุการบทความนี้
 
 
  01 ก.พ. 2556 เวลา 20:43:03  
    MySite  offline ติดต่อหลังเวที ติดต่อโดยเมล์ ตอบอ้างอิง  
 
  ปิ่นลม    คห.ที่260) แมงภู่  
  เซียน

ภูมิลำเนา : สกลนคร
สมาชิกภาพ : สมาชิกชมรมฯ
เข้าร่วม : 16 มี.ค. 2553
รวมโพสต์ : 2,213
ให้สาธุการ : 180
รับสาธุการ : 5,444,640
รวม: 5,444,820 สาธุการ

 

ขอบคุณเจ้าของภาพครับ

ชื่อพื้นบ้าน         แมงภู่
ชื่อภาษาไทย       แมลงภู่ภมร
ชื่อสามัญ          carpenter  bees
ชื่อ วิทยาศาสตร์  Xylocopa varipuncta
Phylum           Arthropoda
Subphylum     Hexapoda
Class              Insecta
Inflaclass        Neoptera
Superorder     Endopterygota
Order            Hymenoptera
Suborder      Aprocrita
Family          Xylocopidae

หึย..ประสาแมงภู่ ซือ ๆพะนะลังคนอ่านแล้วกะดาย   แมงภู่กะสิว่า หึย..ประสาคนซือ ๆ
เพราะฉะนั้น ด้วยเหตุและผลเดียวกัน  เราจึงควรศึกษาทำความเข้าใจ จะได้รู้ว่าแมลงชนิดนี้
มีความเกี่ยวพันกับ วิถีมนุษย์ วิถีธรรมชาติอย่างไร  อย่าให้แมงภู่ว่าให้เฮาได้
ว่าเกิดเป็นคนซือ ๆ

กล่าวนำ
ครั้งเมื่อ ขงเบ้ง ผู้ฉลาดบันลือโลกใกล้สิ้นลมเพราะสังขาร ในขณะที่ทำการศึกกับ สุมาอี้ ในดินแดนวุ่ยก๊ก
ได้สั่งเสียกับ เกียงอุย ศิษย์เอกไว้ว่า  เมื่อตัวเราตาย จงหาหม้อมา จับแมงภู่ลงไปขังไว้ 100 ตัว
แล้วมัดศพเราในท่านั่งอ่านตำราบนหม้อนั้น จัดขบวนทัพเหมือนเดินทัพอย่างใจเย็น อย่าหวาดหวั่น
แล้วค่อยๆ ถอยทัพกลับเมืองไป  เมื่อทำดังนี้แล้ว สุมาอี้จะไม่กล้าไล่ติดตาม เหตุเพราะคิดว่าเรายังมีชีวิตอยู่
นั่นคือ สามก๊ก  สุดยอดตำนานของจีน  บงเบ้งยังต้องพึ่งแมงภู่  เขามิได้ดูแคลนแมลงชนิดนี้เลย

หันกลับมาดู "เซียงเมี่ยง" เจ้าปัญญา วรรณกรรมอีสาน  เจ้าพญานั่งเมือง ใส่ยาพิษที่ปรุงเอง ให้เขากิน
ก่อนเขาตายได้สั่งให้เมีย ทำแบบเดียวเหมือนกับขงเบ้ง  คือนั่งบนหม้อที่ขังแมงภู่ไว้หลายร้อยตัว
ทำท่าอ่านหนังสือ  เสนาอำมาตย์ที่มาสังเกตการณ์ กลับไปรายงานพระยาว่า
" บักเซียงเมี่ยง ยังบ่ตาย  นั่งอ่านหนังสือเสย พะนะ"
เจ้าพญาเกิดแคลงใจในยาพิษ จึงทดลองดื่ม ตกตายไปตามกัน

พระสุตตันตปิฎก เล่ม 19 ขุททกนิกาย ชาดก ภาค 1 - หน้าที่ 225
อัฏฐสัททชาดก  ว่าด้วยนิพพาน
[1131] ดูก่อน มหาบพิตร คติของกระพี้ไม้นั้นมีอยู่เพียงใด กระพี้ไม้ทั้งหมด แมลงภู่เจาะกินสิ้นแล้วเพียงนั้น แมลงภู่หมดอาหารแล้ว ย่อมไม่ยินดี ในไม้แก่น


ท่านคงรู้จัก สุนทรภู่  กวีเอกของชาวไทย  เดิมมีนาว่า "ภู่" หมายถึง แมลงภู่ ซึ่งแม่ท่านตั้งชื่อให้
เพราะตอนอุ้มท้อง แพ้ท้อง อยากกิน " บีแมงภู่ " ( ดีแมงภู่ )

สำหรับ อีเกียแดง , จารย์ใหญ่ และอ้ายมังกร ล้วนเคยกิน "บีแมงภู่ " เนื่องจากมีรสหอมหวาน
สำหรับ อ้ายต้องแล่ง จี่กินเบิ๊ดทั้งตัวเลย  จึงมีมันสมองเป็นเลิศ  สอบเป็น ผอ.ได้ ประการฉะนี้แล



ลักษณะทางกายภาพ
แมลงภู่ เป็นแมลงขนาดใหญ่   ลำตัวอ้วนป้อม    มักมีสีดำและมีปีกสีเข้มบางชนิด    
มีสีเขียว  แกมน้ำเงิน  เป็นมันวาว   มีขนละเอียดสีเหลือง  สีเทาหรือ สีน้ำตาล  
เป็นกระจุกที่บริเวณอกด้านบน ของส่วนท้องเกลี้ยงเป็นมันไม่มีขน  ลำตัวยาวประมาณ 2.0 - 3.5 ซม.
บางชนิดมีขนาดเล็กเพียง 6 มม.   ปัจจุบันพบแล้ว ประมาณ  500  ชนิดทั่วโลก  
ปากเป็นแบบกัดเลีย(chewing – lapping type)
  มีฟันกรามขนาดใหญ่เป็นแมลงวงศ์เดียวกันกับผึ้ง




นิสัยและความเป็นอยู่
แมงภู่เจริญเป็นตัวเต็มวัยในช่วงฤดูหนาว  จะพบแมลงภู่บินตอมดอกไม้ ในเดือนเมษายน  -  พฤษภาคม เพื่อหาน้ำหวานเป็นอาหาร  มีเสียงดังคล้ายผึ้งหึ่ง ๆ น่ากลัว  
แมลงภู่เพศผู้จะไม่มีเหล็กใน มีเพียงแมลงภู่เพศเมีย เท่านั้น  ที่มีเหล็กใน สามารถต่อยให้ได้รับบาดเจ็บได้
    
โดยปกติแล้วแมลงภู่จะไม่กลัวคนหรือสัตว์อื่นๆ     มักจะบินวนเวียนไปมารอบๆ    
แต่ถ้าหากเรา ไม่ทำอันตรายกับแมลงภู่แล้ว  มันจะไม่ทำอันตรายเรา



การหาอาหาร
แมงภู่กินน้ำหวานจากดอกไม้ ดอกพืชต่างๆ  กินเกสรดอกไม้  ดอกที่ชื่นขอบที่สุดของมันคือ
ดอกฟักทอง หรือ "ดอกบักอึ" ในภาษาอีสาน  รวมทั้งดอกบวบ  ดอกไม้เถาอื่นๆ


การสืบพันธุ์
แมงภู่จะผสมพันธุ์ในเดือน พฤษภาคม  ตัวเมียจะเจาะเนื้อไม้ให้เป็นรูในเนื้อไม้ที่แห้งตาย    
โดยการใช้ฟันกรามกัดแทะ เนื้อไม้  เพื่อทำรังจึงถูกเรียกว่า Carpenter  bees
ซึ่งแต่ละรังจะมี ทางเข้าออกได้เพียงทางเดียว ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 1.5 นิ้ว
ที่ชื่นชอบที่สุดของมันคือ ไม้ไผ่ และไม้ที่มีน้ำมันหอม เช่น ไม้กุง (พลวง)   ไม้ชาด ไม้สะแบง
เมือทำรังเสร็จ ตัวเมียจะปล่อย สารฟีโรโมน หรือ กลิ่นสืบพันธุ์  เมื่อตัวผู้ได้กลิ่น ก็จะมารุมตอม
และผสมพันธุ์กัน



จากนั้นมันจะวางไข่ในโพรงไม้ ที่ ใช้เป็นที่สำหรับอนุบาลตัวหนอน เก็บอาหาร(น้ำหวานและเกสร)  
  ไว้ใช้เลี้ยงตัวอ่อน



ในบางครั้ง แมงภู่ตัวเมียจะอยู่กันเป็นกลุ่มในโพรงเดียวกัน และมีตัวหนึ่งที่ทำหน้าที่ป้องกันรัง
ส่วนตัวผู้นั้นจะทำรังอยู่เพียงลำพังตัวเดียว
มันวางไข่ตัวละประมาณ  5- 10 ฟอง ใช้เวลา 4 เดือนในการฟูมฟัก จนลูกเติบโตเต็มวัย
จากนั้นมันก็จะย้ายรังใหม่ ทั้งหมดก็จะออกจากรัง ย้ายที่อยู่ไปเรื่อย  โดยเฉลี่ยแล้ว
มันมีอายุได้ 2 ปี


การเจริญเติบโต
แมงภู่ มีการเจริญเติบโต แบบการเปลี่ยนแปลงรูปร่างแบบสมบูรณ์ (complete metamorphosis)
นั่นคือครบทั้ง 4 ระยะคือ  ไข่  ตัวหนอน  ดักแด้ และตัวเต็มวัย



ประโยชน์ และหน้าที่บทบาทของมันตามธรรมชาติ
แมงภู่ช่วยในการผสมพันธุ์ให้พืช ผสมเกสร ช่วยให้ไม้ผลออกผลดี หากปราศจากพวกมัน
เราคงไม่ได้กินผลไม้  พืชก็ไม่อาจกระจายพันธุ์  หลายคนคิดว่า เมื่อเราปลูกไม้ผล
ปลูกไว้มันก็ติดผลเอง อันนี้ต้องคิดใหม่  
ผลหมากรากไม้เหล่านั้นต้องอาศัยแมลงสายพันธุ์นี้ จึงสามารถออกผลได้  
แมลงภู่กับดอกไม้ เป็นของคู่โลก คู่กันตามธรรมชาติ ประดุจชายคู่หญิง ในโลกา



ความเกี่ยวพันกับวิถีอีสาน
ในยุคสมัยที่ความพอเพียงยังอยู่ในวิถีของคนส่วนใหญ่ของประเทศ  ตามไร่นาต่างๆ
ของชาวนาอีสาน ต้องปลูก ฟัก แฟง หรือ บักโต่น   บักอึ (ฟักทอง) ไว้ตามไร่สวนเสมอ
ด้านข้างของเถียงนา จึงเต็มไปด้วยพืชชนิดนี้  ค้างบักโต่น  ค้างบักฟัก ค้างบักบวบ
เวลามันออกดอก ทั้งสีเหลือง สีขาวประดับประดาเถียงนา



คราลมพัดเอื่อยๆ หอมรวยริน  มากับเสียงหึ่งๆ ของแมลงชนิดนี้  ตอมดอกนั้นนั้นดอกนี้ที
บางครั้งก็เผ้าดูมันเจาะรู  บางครั้งก็เอามันมา กินบี เล่นๆ  เป็นที่สนุก  
บางรูมันแออัดกันอยู่  หาไม้มาแหย่ให้มันโกรธ แล้วพากันวิ่งหนี เฮฮา นั่นคือประสาเด็กน้อย




ขอบคุณ ข้อมูลจาก www.ca.uky.edu  www.malaeg.com

 
 
สาธุการบทความนี้ : 925 ครั้ง
ให้สาธุการบทความนี้
 
 
  05 ก.พ. 2556 เวลา 12:42:26  
      offline ติดต่อหลังเวที ติดต่อโดยเมล์ ตอบอ้างอิง  
 
  อีเกียแดง {แห่งรัตติกาล}    คห.ที่261)  
  อนุเซียนผู้อมตะ

ภูมิลำเนา : บุรีรัมย์ @ขอนแก่น
สมาชิกภาพ : สมาชิกทั่วไป
เข้าร่วม : 07 เม.ย. 2552
รวมโพสต์ : 5,431
ให้สาธุการ : 4,145
รับสาธุการ : 12,652,790
รวม: 12,656,935 สาธุการ

 






แมงภู่กับอีเกียบ่ค่อยสิถืกกันปานได๋ครับ พ้อกันยามได๋แม่นสิไล่ตอดกันโล้ด
  ผมสิบ่ค่อยมักนิสัยแมงภู่อยู่อย่างนึงคือ มันมักเจาะแข่งม้อนอีแม่ แฮ่งใช้ไม้ไผ่เฮ็ด รับรองพรุน..

 
 
สาธุการบทความนี้ : 473 ครั้ง
ให้สาธุการบทความนี้
 
 
  05 ก.พ. 2556 เวลา 19:55:19  
    MySite  offline ติดต่อหลังเวที ติดต่อโดยเมล์ ตอบอ้างอิง  
 
  ป้าหน่อย    คห.ที่262)  
  เซียน

ภูมิลำเนา : อุบลราชธานี
สมาชิกภาพ : สมาชิกทั่วไป
เข้าร่วม : 05 ธ.ค. 2552
รวมโพสต์ : 2,169
ให้สาธุการ : 3,415
รับสาธุการ : 5,166,840
รวม: 5,170,255 สาธุการ

 
อันเหลือง ๆ ที่แมงภู่ เก็บไว้ในฮู ฮั้น
บ้านป้าหน่อยเอิ้น บีแมงภู่

ยามเว็น อยู่นำเถียง คั่นแหม่นเห็น แมงภู่
เจาะฮู นำฮาวเถียง เีหลียวเห็นบิน หลบออก หลบเข้า ดู๋ๆ ละแหม่น หามีดโต้
ฟันโลดแหล่ว เอาบีแมงภู่ อ้นอยู่ในฮู ออกมากิน หวานๆ หอมๆ
บาดได๋แหม่น น้ำหวาน ที่เพิ่นหามาไว้เลี้ยงโตอ่อนเนาะ ....
    

 
 
สาธุการบทความนี้ : 526 ครั้ง
ให้สาธุการบทความนี้
 
 
  05 ก.พ. 2556 เวลา 21:51:54  
      offline ติดต่อหลังเวที ติดต่อโดยเมล์ ตอบอ้างอิง  
 
  บ่าวหน่อ    คห.ที่263)  
  อภิมหาเซียน

ภูมิลำเนา : ร้อยเอ็ด
สมาชิกภาพ : สมาชิกชมรมฯ
เข้าร่วม : 03 มี.ค. 2550
รวมโพสต์ : 4,207
ให้สาธุการ : 185
รับสาธุการ : 7,268,330
รวม: 7,268,515 สาธุการ

 
เว้าพื้นแมงภู่ บ่มักแต่เจาะฮูไม้หละครับ
เถียงนาข้าน้อยพังย้อนแมงภู่กะยังวา

 
 
สาธุการบทความนี้ : 0 ครั้ง
ให้สาธุการบทความนี้
 
 
  06 ก.พ. 2556 เวลา 09:25:28  
  www    offline ติดต่อหลังเวที ติดต่อโดยเมล์ ตอบอ้างอิง  
 
  มังกรเดียวดาย    คห.ที่264)  
  มหาเซียน

ภูมิลำเนา : ขอนแก่น
สมาชิกภาพ : สมาชิกชมรมฯ
เข้าร่วม : 03 มี.ค. 2550
รวมโพสต์ : 3,640
ให้สาธุการ : 8,145
รับสาธุการ : 6,184,200
รวม: 6,192,345 สาธุการ

 
สำหรับผมหรือแถวบ้านผมนะครับ
บีแมงภู กะคือ ดีแมลงภู่ ครับ
ก่อนกิน ต้องจับแมงภู่ให้ได้ก่อน (ใช้ไม้ตีด้วยความแม่นยำขณะแมงภู่บินกลางอากาศ จนแมงภู่เญาหรือตาย)
บาดนี้กะดึงหัวออกจากคอ ค้นหาบี... พ้อแล้วกะดึงออกมาโมม แล้วกะใช้ลิ้นลิเลียเพื่อละเลียดความหวานอันละเมียดละไม... (จับกินบีขนาดแท้ 555)    


กินแต่ตอนเป็นเด็กน้อยดอกหวา.. ใหญ่ขึ้นมาแล้ว บ่กล้ากิน ย้านบาป

 
 
สาธุการบทความนี้ : 422 ครั้ง
ให้สาธุการบทความนี้
 
 
  06 ก.พ. 2556 เวลา 12:52:59  
  www    offline ติดต่อหลังเวที ติดต่อโดยเมล์ ตอบอ้างอิง  
 
  ปราร้านอกไห   ตอบเต็มรูปแบบ || Quick Reply  
  หน้า: 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 22 23 24 25 26 27 28 29 30 31

   

Creative Commons License
สารานุกรม แมงไม้ ใน อีสาน --- ปลาร้านอกไห (ปลาร้านอกไห --- อีสานจุฬาฯ)