ผญา คติสอนใจประจำวันที่ 3 มิถุนายน 2567:: อ่านผญา 
วาจาเว้า ของซุมเฮาอย่าได้ห่าง ถึงสิอยู่ต่างบ้าน ความเว้าอย่าห่างกัน แปลว่า วาจาพูดคุย ของพวกเราอย่าได้เหินห่าง แม้กายจะอยู่ไกลกัน แต่คำพูดอย่าห่างกัน หมายถึง ให้ไปมาหาสู่กัน อยู่เสมอ สานสัมพันธ์กันไว้


  ล็อกอินเข้าระบบ  
ชื่อ ::
รหัสผ่าน::
*จำสถานะ
 
  รวมมิตรปลาร้านอกไห  
  สวัสดีครับ

     แทบจะไม่มีใครล่วงรู้อย่างลึกซึ้งเลยว่า มีเรื่องราวที่คุณไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่า ในภาคอีสานของประเทศไทยนั้น หลายอย่างมีความเป็นมาอย่างไร หลายอย่างได้เกิดขึ้นแล้วและยังคงอยู่ หลายอย่างเกิดขึ้นแล้ว และได้เลือนลางหายไปแล้วในอดีต เราและทีมงานปลาร้านอกไห จะนำพาคุณผู้ชม จูงมือเดินไปเรียนรู้วิถีชีวิตพื้นบ้านอีสานในแง่มุมต่างๆ เพื่อเปิดโลกทัศน์และมุมมองว่า ทำไมคนภาคอีสานจึงเป็นอย่างนี้ ทำไมต้องใช้ชีวิตกันอย่างนี้ และสิ่งหนึ่งที่จะลืมเสียไม่ได้ก็คือ การสร้างความเป็นไทยที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรม หลากหลายทางเชื้อชาติ หลากหลายประเพณี เพื่อที่เราจะได้เรียนรู้และอยู่ได้กันอย่างสันติ อย่างสงบ ไม่มีความดูถูกเหยียดหยามคนไทยด้วยกันเอง

     ทีมงานปลาร้านอกไห ขอขอบคุณทุกเสียงทุกแรงใจที่มอบให้เรา เราสัญญาว่า เราจะเป็นส่วนหนึ่งที่จะสร้างสรรค์สังคมให้จรรโลงใจ
พร้อมเสมอ
ทีมงานปลาร้านอกไห

กระทู้ธรรมดา... มีข้อความโพสต์ใหม่

  หน้า: 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 22 23 24 25 26 27 28 29 30 31 32 33 34 35 36 37 38 39 40 41 42 43 44 45 46 47 48 49 50 51 52 53 54 55 56 57 58 59 60 61 62 63 64 65 66 67 68 69 70 71 72 73 74 75 76 77 78 79 80 81 82 83 84 85 86 87 88 89 90 91 92 93 94 95 96 97 98 99 100 101 102 103 104 105 106 107 108 109 110 111 112 113 114 115 116 117 118 119 120 121 122 123 124 125 126 127 128 129 130 131 132 133 134 135 136 137 138 139 140 141 142 143 144 145 146 147 148 149 150 151 152 153 154 155 156 157 158 159 160 161 162 163 164 165 166 167 ตอบกระทู้  
  โพสต์โดย  
นิยายชีวิตอีสาน เรื่อง โสกฮัง - ตาดไฮ ( โดย บ่าวปิ่นลม พรหมจรรย์ ) (คลิกอ่านบทความต่อเนื่อง)
 
  ปิ่นลม    คห.ที่1421)  
  เซียน

ภูมิลำเนา : สกลนคร
สมาชิกภาพ : สมาชิกชมรมฯ
เข้าร่วม : 16 มี.ค. 2553
รวมโพสต์ : 2,213
ให้สาธุการ : 180
รับสาธุการ : 4,969,600
รวม: 4,969,780 สาธุการ

 


อดใจถ่าจั๊กคราวเด้อครับ  นิยายตอนใหม่  
ตอนต่อไป สิออกแนว ดราม่า จั๊กหน่อย
คนเขียนกำลัง ทำอารมณ์ อยู่  บ่ด่นดอก ขะน้อย
อย่าฟ้าวอูด... อิอิ

 
 
สาธุการบทความนี้ : 217 ครั้ง
ให้สาธุการบทความนี้
 
 
  08 ก.พ. 2554 เวลา 15:36:11  
      offline ติดต่อหลังเวที ติดต่อโดยเมล์ ตอบอ้างอิง  
 
  ปิ่นลม    คห.ที่1422) ตอน ข้าวขี้ลาน  
  เซียน

ภูมิลำเนา : สกลนคร
สมาชิกภาพ : สมาชิกชมรมฯ
เข้าร่วม : 16 มี.ค. 2553
รวมโพสต์ : 2,213
ให้สาธุการ : 180
รับสาธุการ : 4,969,600
รวม: 4,969,780 สาธุการ

 

ภาพจาก อินเตอร์เน็ต




หมอกขาวโรยเป็นสาย อากาศหนาวคืบคลานทั่วท้องทุ่ง ตอเฟียงไฮ่นาที่เกี่ยวเสร็จ เกิด “ลูกข้าว”  
ป่งยอดใหม่ จากตอข้าว แม้ถูกเก็บเกี่ยวไปแล้ว รากที่หยั่งลงผืนดิน ยังอาศัยความชุ่มชื้นของน้ำค้าง ดำรงชีพ
นกแตดแต้ ( นกกระแต้แว๊ด)  บินข้ามปลายไผ่ ที่กำลังทิ้งใบโปรยปรายตามสายลมส่า
น้ำค้างพร่างพรมยอดหญ้าแบ่งปันความแช่มชื้น  ก่อนจะระเหิดมลายสิ้น ไปกับตะวันอุเทนแสง
หมากบวบแห้ง ตายค้างคาเถา ดากโกนจึ่งบึ่ง เหลือเพียงซากผลแห้งกรัง บนยอดจั่วเถียงนา



เสียงแคนงันกองข้าวแว่วหวิวมากับสายหมอกตอนย่ำรุ่ง จังหวะขึ้นลงเจื้อยแจ้ว ดังลมหนาวพัด
เสียงคนตีข้าว ดังตู๊มตั๊บ ดุจเสียงกลองเส็ง  ควบคุมจังหวะวิถีชาวนา หมาบักแดงนอนเกียกขี้เถ้ากองไฟ
ที่มอดมอนลงตั้งแต่ตอนดึก อาศัยเถ้าถ่านเป็นเครื่องบรรเทาความเย็นระเยือก จมูกเปียกชื้นสีดำเข้ม
บัดนี้เป็นสีเทา ด้วยคลุกขี้เถ้าจนมอมแมม  มันนอนหลับตาพริ้มเมินเฉยต่อโลก เสพสุขวิมานขี้เถ้า
เหลือเพียงหูสองข้างตั้งชันไว้ เงี่ยฟังเสียง ตุ๊บตั๊บ ระคนเพลงแคนแห่งทุ่งสวรรค์


บ่าวเซียงน้อย ลุกตั้งแต่แต่ตี3 มองดาวเพ็กตั้ง แหงนคอมองเพียงบ่า  ตีข้าวในลานข้าวจนได้
ร่วม 1,000 มัดกล้า  จวบรุ่งอรุณเป็นวันใหม่  เม็ดเหงื่อผุดขึ้นโทรมกาย ขับไล่ความหนาวเหน็บ มลายสิ้น
บ่าวเซียงใจร้อนรน รีบสู้งาน “ตีข้าว” ( ฟาดข้าว )  เพื่อเร่งให้เสร็จก่อนใคร เพราะตาแบะผู้เป็นพ่อ
ทาบทามนายฮ้อยค้าข้าวไว้แล้ว ว่าจะรีบขายข้าวที่ได้ เพื่อสมทบเป็นค่าสินสอด ขอสาวจันเพ็ญ
แนมเบิ่ง อีเกิ้งค้างฟ้ายามรุ่งอรุณแล้ว หัวใจพลางนึกถึงใบหน้ายิ้มหวาน ของผู้สาวในวาบความคิด


“ เซามีแฮงก่อนกะได้ดอกบักเซียง “
ยายอ่อนเดินลงมาจากเถียงนา ร้องเตือนลูกชาย
“ ฟ้าวเร่งตีข้าวปลูกไว้ให้มันแล้ว อีแม่  “  
เซียงน้อยซัดมัดข้าวลอยละลิ่ว ไปกองรวมกันไว้ด้วยความชำนาญ
“ เอ้อๆ ..กูสิเมี้ยนข้าวปลูก ใส่กะทอไว้เองดอก  เดี๋ยวสิเมี้ยนเอาข้าวขี้ลานก่อน “

ว่าพลางเอากระด้งใหญ่มาวางข้างๆ ลานข้าว เอามัดข้าวที่ลูกชายตีเสร็จแล้ว มาแก้ตอกที่มัดไว้ออก
วางใส่กระด้ง เอาไม้แส่ ฟาดเพื่อให้เม็ดข้าวที่ยังหลงเลือ ร่วงลงสู่กระด้ง
ข้าวที่หลงเหลือจากการตี ( ตีข้าวสะนุ ) ต้องเอามาแก้ใส่กระด้ง แล้วลงมือ เฆี่ยนตี ให้ร่วงอีกครั้ง
เพื่อให้แน่ใจว่า ทุกเม็ดถูกเก็บกำ รู้คุณค่าของดอกเหงื่อ แรงงาน
ข้าวที่ได้จากกระบวนการนี้ เรียกว่า “ข้าวขี้ลาน” ส่วนมาก ชาวนาแต่ก่อน มักเก็บไว้ เลี้ยงเป็ดไก่
หรือขายใช้สอยประโยชน์อื่นนอกเหนือจาก ผลผลิตบนลานข้าวหลัก แสดงถึงหลักการใช้สอย
ข้าวทุกเม็ดให้เกิดประโยชน์สูงสุด ไม่ยอมทิ้งขว้างแม่โภสพ  เทพเจ้าแห่งชาวนา
ความคิดที่จะปล่อยให้เม็ดข้าวร่วงหล่น สูญเสียโดยเปล่าประโยชน์ ไม่มีในประมวลสันดาน

“ อีแม่..อีพ่อ สิไปทาบทาม ขอสาวจันเพ็ญให้ข่อยเมื้อได๋ “
บ่าวเซียงน้อยถามยิ้ม ออกอาการเหนียมเล็กน้อยด้วยเกรงใจแม่
“ อย่าสุฮ้อนกว่าไฟ ให้พ่อมึงขายข้าวได้สาก่อน จั๊กสิพอหรือบ่พอดอก เงินคำกะดาย “
แกตอบลูกชาย พลางเบือนหน้าหนี หลบซ่อนอาการหวาดหวั่น  เพราะไม่อยากให้ลูกชายเสียกำลังใจ
“ พอแม๊ะ ! กองข้าวที่ยังบ่ทันตีกะหลายอยู่ ขายได้เหยียบหมื่น พู้นหน่ะ “
เซียงน้อยชำเรืองมองกองข้าว ที่จัดมัดข้าวเรียงกันไว้ ข้างลาน ปีนี้ข้าวกล้างามได้ผลเห็นได้ชัด

“ ลำพังขายข้าว บ่ได้ปานได๋ดอก ต้องจ่งไว้กินปีหน้านำ  กูว่าสิขายงัวอีโต่น ป้อมใส่นำ “


ยายอ่อนลำพันให้ลูกชายฟัง จังหวะการลงแส้ ตีข้าวขี้ลาน ย่นย้อ ดังจิตประหวั่นสั่นคลอน
งัวอีโต่น ที่ถนุถนอมเลี้ยงไว้ กะให้ ออกแม่แผ่พันธุ์เป็นทุนฮอนยามยาก จำต้องขายทุ่มให้ลูกชาย
“ เอ้า..! นั่นมึงสิไปไส..”
ยายอ่อนถามลูกชายเมื่อเห็นเซียงน้อนโตนลงกองข้าว กะวีกะวาด
“ ไปจอบพุสาวตักน้ำก่อน “
ว่าแล้วก็หัวเราะร่วน เดินดุ่มๆลงท่งไปทาง ”ส่างน้ำ” กลางท่ง ผิวปากเป็นเพลง
.......................................................................................

ตะวันทอแสงอ่อนกล่อมท่งให้อุ่นอบ ขัดเกลาไอเย็นให้บรรเทา เขียดขาคำมุดลง”เขิบ” หลบซ่อนลี้ภัย
เดินนาเต็มไปด้วยหญ้าตายแห้งสีเหลืองซีด กระนั้นที ยังมีสีเขียวชอุ่มของ “ต้นผักพา” ที่บ่งยอดงาม
ขัดแย้งกับฤดูกาล ในขณะกอหญ้าใบไม้ชนิดอื่น ทอดทิ้งใบเหี่ยวแห้ง “ผักพา” กลับอาศัยช่วงนี้เติบโต
แม้อาศัยเพียงความชุ่มชื่นของน้ำค้างยัง งอกงามเขียวเด่น ตัดกับสีเหลืองซีดของหญ้าตามเดิ่นนา
ตามพื้นริมหนองน้ำลำห้วยเก่า ที่ แตกเขิบน้ำแห้งผาดไปแล้ว ยังมี “ ผักไฮไก่” แผ่ก้านใบระนาบกับพื้น
แตกใบเขียวอุ่ม อาศัยเพียงความชื้นเล็กน้อยค้ำยันชีวา


บักลม มุดตัวออกจากซุ้มนอน ที่ก่อขึ้นจากฟางมัดข้าวข้างลาน  กระท่อมน้อยติดดินที่ทำขึ้นจาก
มัด”โค่นเฟียง” ( ฟางข้าที่มัดเป็นกลุ่มใหญ่ ๆ )  ตั้งเรียงรายกัน มุงหลังคาต่ำๆ ด้วยมัดข้าวที่นวดแล้ว
กองสุมกัน จนกลายเป็น ซุ้มนอนที่ทำจากฟางข้าวอันแสนอบอุ่น
เมื่อล้างหน้าล้างตาเสร็จแล้ว ก็เดินไปปล่อย “เป็ดลาด” ออกจากคอกใต้ถุนเถียงนา พลางหาเก็บไข่
ที่เป็ดตัวเมียไข่ทิ้งไว้ ได้ 4 ฟอง หอบเสื้อยืดที่ใส่ ทำเป็นแอ่งรองรับไข่ ออกมาจากคอกเป็ด

“ อ้ายๆ...จี่ข้าวจี่เกียไข่ เนาะ “
บักกุ้นผู้เป็นน้องออกความคิด เมื่อเห็นอ้ายหอบไข่ออกมา
“ ดีคือกัน โตไป จุไฟไว้เด้อ “ บักลมยิ้มดีใจพลางบอกน้อง ดำเนินการตามแผน
ว่าแล้วเด็กน้อยก็เดินไปที่กองไฟที่มอนลงแล้ว จุฟืนเข้าเอาเชื้อไฟถั่งโถม เสียงเป่าไฟดังฝู่ๆ แต่เช้า

“ อืมม...ลูกมึงนี่กะปึกเนาะสู เฮียนหนังสือแนวได๋ ได้แต่ เกรด4 “

เสียงน้าสาวเหนาโสกันกับยายยมแม่บักลมข้างลานข้าวตั้งแต่แดดพวมอุ่น
ว่าพลางพลิก “หนังสือใบเกรด” หรือ หนังสือแสดงผลการเรียนที่ครูประจำชั้น
ส่งมาให้ผู้ปกครองลงความเห็น

“ ลูกมึงเฮียนเก่งซั้นติ “ ยายยมถาม
“ โอ้ย...อีเอ้น..กับบักทิดดำ ลูกกู เฮียนได้แต่เกรด 1 ผู้หนะ ได้ 1 เบิ๊ดทุกวิชา อ้อยต้อย ! “

น้าสาวเหนายิ้มๆ ภาคภูมิใจ
“ โฮ้..คือเก่งแถะ ได้ 1 เบิ๊ด พะนะ  สมัยกูเฮียน ไผได้ที่ 1 นี่ ป่องบ่มีแนวคือ “
ยายยมอุ้มมัดข้าววางลงใส่กระด้ง พลางท้วงด้วยความตื่นเต้น
“ บักลมกู คือ ซั่วแถะซั้น ได้แต่ 4  บ่เป็นตาได้ไปบวชเฮียนนำเพิ่นดอก “ ยายยมหัวเราะเสียงดัง
“ ข่อยกะตกใจอยู่ ลูกข่อย อีเอ้นกับบักทิดดำ  แม่นมันป่องได้ไผ เฮียนได้แต่ เกรด 1 “
น้าสาวเหนาคุยพลาง ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่

*** สมัยก่อนการเรียนระดับปถมศึกษา สอบไล่ปลายภาคแล้ว จะมีใบเกรด หรือ ใบแสดงผลการเรียน
แต่ละวิชา แบ่งออกเป็น 5 เกรด ได้แก่ เกราด 0 คือ ตก  เกรด 1 คือ ผ่าน  เกรด 2  พอใช้  เกรด 3 คือ ดี
ส่วนเกรด4 คือ ดีมาก  สมัยก่อนหน้านั้นอีก ( สมัยแม่บักลมกับน้าสาวเหนา ) ไม่มีใบเกรด มีแต่ ใครสอบได้
ลำดับที่เท่าไหร่ เช่นที่ 1  คือ สุดยอด  ไล่มาเรื่อยจนถึงที่โหล่  ตามความเข้าใจแกคือ 1 ย่อมดีกว่า 4 ******


บักลมนั่งปั้นก้อนข้าวจี่อยู่ข้างกองไฟ หัวขวัญจนขี้มูกแตก
“ จะแม่นมันป่องคัก อีเอ้น...อีหวึ่งโนนหมาว้อ  ดีเปียงมันบ่ตก”  

บักลมพึมพำระคนหัวร่อจนปั้นข้าวจี่หลูดมือลงคลุกขี้เถ้า  


( ตอนนี้ยังไม่จบ ขะรับ เรื่องมันยาว กำลังปั่น เอาใจ สมาชิก ย้านหนีไป เฟสสะบุ๊ก เบิ๊ด )

 
 
สาธุการบทความนี้ : 262 ครั้ง
ให้สาธุการบทความนี้
 
 
  08 ก.พ. 2554 เวลา 18:18:22  
      offline ติดต่อหลังเวที ติดต่อโดยเมล์ ตอบอ้างอิง  
 
  จารย์ใหญ่    คห.ที่1423)  
  อนุเซียนผู้อมตะ

ภูมิลำเนา : มุกดาหาร
สมาชิกภาพ : สมาชิกทั่วไป
เข้าร่วม : 13 ก.ย. 2552
รวมโพสต์ : 5,168
ให้สาธุการ : 3,230
รับสาธุการ : 9,006,130
รวม: 9,009,360 สาธุการ

 
ลูกข้าว
ข้าวขี้ลาน
ป้อมใส่
....................

จี่ข้าวจี่เกียไข่ คำนี้คุ้นๆเนาะ

......ยังอยู่ครับ ส่วนหนึ่งกะกองเอ้เล้ อยู่พุ้นอีหลีเด๊...

 
 
สาธุการบทความนี้ : 198 ครั้ง
ให้สาธุการบทความนี้
 
 
  08 ก.พ. 2554 เวลา 19:06:02  
      offline ติดต่อหลังเวที ติดต่อโดยเมล์ ตอบอ้างอิง  
 
  ลุ่มดอนไข่    คห.ที่1424)  
  อนุเซียน

ภูมิลำเนา : บึงกาฬ - หนองคาย
สมาชิกภาพ : สมาชิกทั่วไป
เข้าร่วม : 15 มิ.ย. 2553
รวมโพสต์ : 1,601
ให้สาธุการ : 2,855
รับสาธุการ : 3,813,420
รวม: 3,816,275 สาธุการ

 
อ้ายปิ่นเว้ามาฮอดตอนนี่ เฮ็ดให้ผู่ข้าคึดฮอดควมเก่าควมหลังหลายอย่างเติบ
คึดพ้อ...วิถีชีวิตตอนอยู่บ้านเฮาเหนาะ การตีข้าวสมัยก่อนที่ถืกแทนที่ด้วยการใช้รถสี รถเกี่ยว
ตามยุคสมัยนี่ ที่เขาเอิ้นหว่าการพัฒนาหว่าซั้น
คึดพ้อ....วิถีชีวิตผู่บ่าวผู่สาวสมัยก่อนที่เผิ่นยึดมั่นในประเพณี เชื่อพ่อแม่ เข่าตามตรอกออกตามประตู เถิงบ่ค่อยมีเงินค่าสินสอดทองหมั้นแต่หว่าเผิ่นกะพยายามหาอย่างเต็มที่ เอิ้นหว่ามียังกะขายป้อมใส่ เพื่อสืบฮอยตาวาฮอยยาย
แต่ที่คึดพ้อคักกะแหม่น....รสชาดควมแซ่บของแกงผักไฮไก่ใส่ปลาค่อ แซบอีหลีน้ำแกงสิออกสีเขียวจักหน่อย รสสีขมอำหล่ำ...ซดฮ้อนๆเหนาะ บะเว้ามาแล้ว...หิวข้าวรอบเดิก  

 
 
สาธุการบทความนี้ : 256 ครั้ง
ให้สาธุการบทความนี้
 
 
  09 ก.พ. 2554 เวลา 00:10:31  
    MySite  offline ติดต่อหลังเวที ติดต่อโดยเมล์ ตอบอ้างอิง  
 
  ป้าหน่อย    คห.ที่1425)  
  เซียน

ภูมิลำเนา : อุบลราชธานี
สมาชิกภาพ : สมาชิกทั่วไป
เข้าร่วม : 05 ธ.ค. 2552
รวมโพสต์ : 2,169
ให้สาธุการ : 3,415
รับสาธุการ : 4,682,260
รวม: 4,685,675 สาธุการ

 
( ตอนนี้ยังไม่จบ ขะรับ เรื่องมันยาว กำลังปั่น เอาใจ สมาชิก ย้านหนีไป เฟสสะบุ๊ก เบิ๊ด)

กะว่าอยู่ดอก คันป๋าให้สาวจันทร์เพ็ญฮ้าง
ย้านได้ป๋าหนี แท้ๆล่ะ

 
 
สาธุการบทความนี้ : 355 ครั้ง
ให้สาธุการบทความนี้
 
 
  09 ก.พ. 2554 เวลา 08:00:26  
      offline ติดต่อหลังเวที ติดต่อโดยเมล์ ตอบอ้างอิง  
 
  มังกรเดียวดาย    คห.ที่1426)  
  มหาเซียน

ภูมิลำเนา : ขอนแก่น
สมาชิกภาพ : สมาชิกชมรมฯ
เข้าร่วม : 03 มี.ค. 2550
รวมโพสต์ : 3,640
ให้สาธุการ : 8,145
รับสาธุการ : 5,694,050
รวม: 5,702,195 สาธุการ

 
จักแม่นบรรยายได้ดีคักเนาะ

คึดฮอดท่งนาป่าเฟียง เด้ เนาะ

 
 
สาธุการบทความนี้ : 0 ครั้ง
ให้สาธุการบทความนี้
 
 
  09 ก.พ. 2554 เวลา 08:53:07  
  www    offline ติดต่อหลังเวที ติดต่อโดยเมล์ ตอบอ้างอิง  
 
  บ่าวหน่อ    คห.ที่1427)  
  อภิมหาเซียน

ภูมิลำเนา : ร้อยเอ็ด
สมาชิกภาพ : สมาชิกชมรมฯ
เข้าร่วม : 03 มี.ค. 2550
รวมโพสต์ : 4,206
ให้สาธุการ : 185
รับสาธุการ : 6,596,430
รวม: 6,596,615 สาธุการ

 
คิดฮอดใบเกรดครับ สมัยตะกี้ ครูสิแจกใบเกรด แล้วเอาไปให้อีพ่ออีแม่เซนต์

ย้านพ่อแม่ฮู้ผลการเรียน จนได้ปลอมลายเซนต์ พู้นหน่ะ

 
 
สาธุการบทความนี้ : 234 ครั้ง
ให้สาธุการบทความนี้
 
 
  09 ก.พ. 2554 เวลา 12:49:14  
  www    offline ติดต่อหลังเวที ติดต่อโดยเมล์ ตอบอ้างอิง  
 
  ปิ่นลม    คห.ที่1428)  
  เซียน

ภูมิลำเนา : สกลนคร
สมาชิกภาพ : สมาชิกชมรมฯ
เข้าร่วม : 16 มี.ค. 2553
รวมโพสต์ : 2,213
ให้สาธุการ : 180
รับสาธุการ : 4,969,600
รวม: 4,969,780 สาธุการ

 

ในใบเกรด เขียนว่า

ด.ช.หน่อ  ซ่วยงานบ้านดี เลิกเรียนแล้ว ตักน้ำส่างใส่แอ่ง
เลี้ยงงัว เลี้ยงค๋วย  เกียไก่ และ เจ๊ะน้องไปเล่นวัด

 
 
สาธุการบทความนี้ : 189 ครั้ง
ให้สาธุการบทความนี้
 
 
  09 ก.พ. 2554 เวลา 15:00:55  
      offline ติดต่อหลังเวที ติดต่อโดยเมล์ ตอบอ้างอิง  
 
  บ่าวหน่อ    คห.ที่1429)  
  อภิมหาเซียน

ภูมิลำเนา : ร้อยเอ็ด
สมาชิกภาพ : สมาชิกชมรมฯ
เข้าร่วม : 03 มี.ค. 2550
รวมโพสต์ : 4,206
ให้สาธุการ : 185
รับสาธุการ : 6,596,430
รวม: 6,596,615 สาธุการ

 
คุณปิ่นลม:

ในใบเกรด เขียนว่า

ด.ช.หน่อ  ซ่วยงานบ้านดี เลิกเรียนแล้ว ตักน้ำส่างใส่แอ่ง
เลี้ยงงัว เลี้ยงค๋วย  เกียไก่ และ เจ๊ะน้องไปเล่นวัด


ของแท้ เว้าปานเป็นครูประจำซั้นเน๊าะ

 
 
สาธุการบทความนี้ : 196 ครั้ง
ให้สาธุการบทความนี้
 
 
  09 ก.พ. 2554 เวลา 15:09:47  
  www    offline ติดต่อหลังเวที ติดต่อโดยเมล์ ตอบอ้างอิง  
 
  จารย์ใหญ่    คห.ที่1430)  
  อนุเซียนผู้อมตะ

ภูมิลำเนา : มุกดาหาร
สมาชิกภาพ : สมาชิกทั่วไป
เข้าร่วม : 13 ก.ย. 2552
รวมโพสต์ : 5,168
ให้สาธุการ : 3,230
รับสาธุการ : 9,006,130
รวม: 9,009,360 สาธุการ

 
ใบเกรดผม เก็บไว้ตั้งแต่ ป.1-ป.6 สูญหายน่าสิเป็นของ ป. 2
เข้าใจว่าที่บ้านน่าสิหลงเหลือครบหมด รวมทั้งใบเกิด และสายแห่
แต่ตอนนี้ บ่แน่ใจว่า ยังอยู่บ่ ถ้าได้เมือบ้านสิลองค้นเบิ่ง...
สิถ่ายรูปมาให้เบิ่งนำครับ

 
 
สาธุการบทความนี้ : 232 ครั้ง
ให้สาธุการบทความนี้
 
 
  09 ก.พ. 2554 เวลา 16:29:36  
      offline ติดต่อหลังเวที ติดต่อโดยเมล์ ตอบอ้างอิง  
 
  ปลาร้านอกไห   ตอบเต็มรูปแบบ || Quick Reply  
  หน้า: 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 22 23 24 25 26 27 28 29 30 31 32 33 34 35 36 37 38 39 40 41 42 43 44 45 46 47 48 49 50 51 52 53 54 55 56 57 58 59 60 61 62 63 64 65 66 67 68 69 70 71 72 73 74 75 76 77 78 79 80 81 82 83 84 85 86 87 88 89 90 91 92 93 94 95 96 97 98 99 100 101 102 103 104 105 106 107 108 109 110 111 112 113 114 115 116 117 118 119 120 121 122 123 124 125 126 127 128 129 130 131 132 133 134 135 136 137 138 139 140 141 142 143 144 145 146 147 148 149 150 151 152 153 154 155 156 157 158 159 160 161 162 163 164 165 166 167

   

Creative Commons License
นิยายชีวิตอีสาน เรื่อง โสกฮัง - ตาดไฮ ( โดย บ่าวปิ่นลม พรหมจรรย์ ) --- ปลาร้านอกไห (ปลาร้านอกไห --- อีสานจุฬาฯ)