ภาษาถิ่นที่สูญหาย ความตายของวัฒนธรรม --- เว็บบอร์ดอีสานจุฬาฯ

คห.ที่0) ประวัติศาสตร์อีสาน [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]

อนุเซียนผู้อมตะ

ภูมิลำเนา : มุกดาหาร
เข้าร่วม : 13 ก.ย. 2552
รวมโพสต์ : 5168
ให้สาธุการ : 3230
รับสาธุการ : 9872650
รวม: 9875880 สาธุการ

คือว่าอยากรู้เรื่องประวัติศาสตร์อีสาน เอาตั้งแต่ก่อนสมัย ร.5 นะครับ เพราะว่าเรื่องราวทางอี-

สานส่วนมากเริ่มกล่าวถึงจากเมื่อไม่นานมานี้เอง เรียนท่านผู้รู้ตอบด้วยครับ...

สาธุการบทความนี้ : 657 ครั้ง
จากสมาชิก : 0 ครั้ง
จากขาจร : 657 ครั้ง

20 ต.ค. 2552 เวลา 20:41:05

โพสต์โดย

89) ลายดนตรี (อีสาน)

คห.ที่0) ลายดนตรี (อีสาน) [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]

อนุเซียนผู้อมตะ

คำว่า ลาย เป็นคำเรียกทำนองการบรรเลงดนตรีของคนอีสาน บางแห่งบางที่ก็เรียกว่า ทาง
เช่น ลายน้อย ก็เรียกว่า ทางน้อย เป็นต้น ส่วนทำนองการลำนั้นก็เรียกว่า ทาง เหมือนกันแต่
ไม่ได้เรียกว่า ลาย เหมือนการเล่นดนตรี เช่น ลำทางสั้นทางยาวหรือทางเต้ย เป็นต้น
และก็อยากจะรู้เรื่อง ชื่อลายการบรรเลงดนตรี การลำประเภทต่างๆ ช่วยให้ความรู้ด้วยครับ

สาธุการบทความนี้ : 568 ครั้ง
จากสมาชิก : 2 ครั้ง
จากขาจร : 566 ครั้ง

15 ก.ย. 2552 เวลา 11:42:49

โพสต์โดย

คห.ที่443) [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]

อนุเซียนผู้อมตะ

เว้าเรื่องเบิ่งหนังแล้ว.....

....มีหนุ่มสาวคู่หนึ่ง คบกันกะบ่นานปานใดหรอก พากันไปเที่ยวงานแห่งหนึ่ง ซึ่งในงานนั้นกะมีหนังฉายให้เบิ่ง เรื่องหยังบ่ฮู้ เพราะว่าบ่ได้ไปนำ

หนังกำลังหม่วน ฝ่ายผู้หญิงปวดเบาขึ้นมา ปวดหรือบ่ปวดอันนี้กะบ่ฮู้อีกล่ะ ก็เลยบอกฝ่ายชายว่า

...อ้ายพาข้อยไปเหยี่ยวแหน่...

ฝ่ายชายกำลังอินกับหนัง ก็เลยตอบว่า...

...ไปจั่งใด๋ หนังกำลังหม่วน....ว่าซ้าน

หลังจากมื้อนั้นมา ฝ่ายหญิง ก็เลยมีผู้บ่าวใหม่ พะนะ...

..............จบครับ...ขำบ่ขำคิดเอาเองเด้อ อย่าคิดหลายมันเป็นนิทาน.......

สาธุการบทความนี้ : 559 ครั้ง
จากสมาชิก : 2 ครั้ง
จากขาจร : 557 ครั้ง

31 ก.ค. 2553 เวลา 19:24:44

โพสต์โดย

741) วงดนตรีตลกอีสาน

คห.ที่0) วงดนตรีตลกอีสาน [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]

อนุเซียนผู้อมตะ

แต่ก่อนเคยได้ฟังเทปตลกคณะ เพชรพิณทอง หม่วนหลายครับ สมัยนั้นวงเผิ่นดังหลาย
มีนักร้อง หมอลำดังๆหลายคนก็เกิดมาจากคณะนี้ ชุดที่เคยฟังก็มี บัณฑิตป.4 หนิงหน่องยานตาย หนิงหน่องย้านเมีย นิทานก้อม ลุงหนวดเล่านิทาน ฯลฯ คักหลายครับ คิดฮอดสมัยนั้น
กะเลยมาเว้าสู่ฟังนอครับ บ่ว่าสิเป็น ลุงแนบ พ่อใหญ่นพดล หนิงหน่อง จ่อย จุกจิก แท็กซี่ ใหญ่ หน้ายาน อีเจ้ย ทองใส ทับถนน ชัย ชุมแพ สุนทร คางแพะ ฯลฯ กะบ่รู้ว่าแต่ละคนหาย
หน้าหายตาไปนอครับ ไผมีข้อมูลกะมาเว้าสู่ฟังแหน่เด้อ รวมทั้งคณะอื่นๆนำเด้อ...

สาธุการบทความนี้ : 536 ครั้ง
จากสมาชิก : 0 ครั้ง
จากขาจร : 536 ครั้ง

07 พ.ย. 2552 เวลา 18:52:14

โพสต์โดย

770) กลอนผญาคำสอน (บุญ)

คห.ที่5) ผญาคำสอน(ต่อ) [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]

อนุเซียนผู้อมตะ

เว้าต่อเนื่องเรื่องก่อบุญกุศล   ฝูงคนเฮาให้ค่อยเพียรทำไว้
ให้ค่อยพากันสร้างศีลธรรมพระเจ้าใหญ่   ไผผู้ทำก่อไว้บุญสิค้ำช่อยเหลือ
ยามเมื่อเฮาตกใต้บุญสิแล่นนำเพือ        ยามเมื่อเฮาตกเหนือบุญสิแล่นนำค้ำ
บุญสินำเฮาขึ้นบ่มีทางตกต่ำ              กรรมบ่ข้องเวรนั้นก็ห่างไกล

จั่งว่ามื้อนี้ได้เวลาดีอันประเสริฐ          เกิดความคิดกล่าวแก้มาเว้าเที่ยววอน
มาต่อกลอนญาอ้ายพี่ชายชื่อมังกร      แสนออนซอนเผิ่นกล่าวแจงแถลงใว้
บอกให้ฝูงเฮาทราบบุญบาปทั้งหลาย  บรรยายมาสู่ประการหลายด้าน
เผิ่นหากมาจาต้านไขขานวานบอก      คำว่าบุญบุญนั้นคือแท้อย่างใด

เผิ่นกะอธิบายให้ว่าไปหลายอย่าง    ผลแห่งบุญว่านั้นขยายเว้าว่ามา
เสริมปัญญาให้คนเฮาผู้มาอ่าน        ช่อยกันเตือนกันต้านเหลนหลานผู้เกิดใหม่
อย่าให้ไกลจากข้อคุณเจ้าแห่งธรรม  จึงได้เทียวมาย้ำคำบอกเทียวสอน
แต่งเป็นกลอนคำเว้าอีสานเฮาเด้อท่าน  ไผผู้มาอ่านพ้อบุญเจ้าจั่งแหม่นหลาย

สาธุการบทความนี้ : 529 ครั้ง
จากสมาชิก : 1 ครั้ง
จากขาจร : 528 ครั้ง

15 ธ.ค. 2552 เวลา 02:11:20

โพสต์โดย

110) กลอนลำภูไท

คห.ที่0) กลอนลำภูไท [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]

อนุเซียนผู้อมตะ

โอ่เด้.....ล่ะหม่อมผู้สาวเอย....

(ชาย)  โอ่ยนอ พอแต่มาเถิงนี้เสียงภูไทสิได้หย่าว ถามผู้สาวต่างบ้านสบายบ้างแหน่บ่นอ
          น้องเอย
          อ้ายนี้ อ้ายกะเป็นคนทุกข์ว่าอยากมาขอม้น อ้ายกะเป็นคนจนว่าอยากมาขอเผิ่ง
          อ้ายขอซ้นตาหล่างเล้าสิขอเข้าตาหล่างเฮือน หล้าเอย
          อ้ายนี้ ว่าอยากขอกินข้าวเซาเฮือนสิได้บ่ หรือว่าพ่อแม่น้องชังอ้ายบ่าวพี่ชาย
          น้องเอย
(หญิง)  โอ่ยนอ...ล่ะบ่าวพี่ชายเอย...
           ฟังเสียงบาดยาวๆ ฟังเสียงคราวเยิ้นๆพี่ชายเอิ้นใส่อีนาง  อ้ายเอย...
          โอ่ยนอ อ้ายเจ้าว่าเป็นคนทุกข์จั่งได้มาขอม้น เป็นคนจนจั่งได้มาขอเผิ่ง
          มาขอซ้นตาหล่างเล้า มาขอเข้าตาหล่างเฮือน
          มาขอเซากินข้าวขอเซาพักแหว่ ส่วนพ่อแม่อีน้องบ่ชังอ้ายหน่ายแหนง
          หรอกนาอ้ายเอย
(ชาย)  โอ่ยนอ..คันน้องเว้าจั่งซั้น กะสิบส่วนบุญสวน อวนอ้ายมีบุญหลายจั่งได้มาพานพ้อ
          อ้ายนี้นอ พอแต่มาเห็นแล้ว สังงามหลายเลิศหมู่ อ้ายขอถามหม่อมชู้ มีแฟนช้อน
          แล้วบ่นาง  มีผู้ถางคันนาเฮื้อโพนกกเกลือ ปลูกหมากถั่ว มีผู้คัวผู้คั้น มีผู้ยั้นเข้าใส่ฝา
          หล้าเอย...
(หญิง) โอ่ย..เด้...ล่ะบ่าวพี่ชายเอย
          น้องนี้หนา น้องกะนอนในห้อง คนเดียวบ่มีคู่ คันแหม่นชู้กะแหม่นเจ้าคันแหม่นแฟน
          กะแหม่นอ้าย สิไปช้อนเผิ่นผู้ได๋ อ้ายเอย
          น้องนี้หนา พอแต่เป็นสาวขึ้นบ่มีแฟนช้อนคู่ พัดแต่เป็นพุ่มไม้เครือสิเกี้ยวกะบ่มี
         อ้ายเอย

         ........................
ท่อนี้ก่อนเด้อ  มื้อหลังสิต่อใหม่ จั่งได๋กะติชมแหน่เด้อ
กลอนอ่านเป็นอีสาน เวลาลำกะใช้สำเนียงภูไทเอา....

สาธุการบทความนี้ : 499 ครั้ง
จากสมาชิก : 2 ครั้ง
จากขาจร : 497 ครั้ง

06 ธ.ค. 2552 เวลา 21:35:20

โพสต์โดย

คห.ที่337) เรื่องไฟไหม้ [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]

อนุเซียนผู้อมตะ

เรื่องนี้ กะบ่เกี่ยวกับไผคือกัน เป็นนิทานซื่อๆเด้อ....

    มีหมู่บ้านหนึ่ง  มีพ่อใหญ่หนึ่ง เป็นคนมักเหล้าเมายา อยู่กับเมียเผิ่นสองคน
ลูกหลานพากันไปทำการทำงานทางอื่น ก็เลยกันตามประสา
   มื้อหนึ่งในหมู่บ้านมีงานเลี้ยง แกก็ไปร่วมในงานนั้น ก็มีการเลี้ยงเหล้ายาปลาปี้ง
แกก็เมากลับมา ในคืนนั้นระหว่างที่นอนหลับอยู่นั้น แกก็นอนดิ้นหลาย จนเอาหัวมุดเข้าไปในผ้าถุงของเมียแก สงสัยสิคิดว่าเป็นผ้าห่มนี้ละ ส่วนเมียผิ่นกะบ่ฮูเมื่อคือกันต่างคนต่างนอน
     แต่ว่าในคืนนั้น บังเอิญว่า บ้านที่อยู่ข้างเคียงกันกับบ้านแก ถูกไฟไหม้ เสียงคนร้องบอกกันให้มาช่อยดับไฟ

"ไฟไหม้ ๆๆๆๆๆ ซ่อยแน่..."

ส่วนพ่อใหญ่กับเมียนอนอยู่เฮือนเจ้าของทั้งหลับทั้งฝัน ตื่นขึ้นตกใจ ร้องออกไปว่า

"พี้มาทางพี้แน่เด้อ ทางพี้กะไหม้คือกัน เหม็นคักฮ้าย กูว่าอยู่มันเหม็นหยัง ซ่อยแน่เด้อ" ทั้งเว้าทั้งฟ้าวมุดออกจากผ้าถุงเมีย......

ส่วนเมียเผิ่นทั้งอยากฮ้ายอยากหัว ด่าในใจว่า เฒ่าห่าผีปอบมึงเอ้ย  ....

         จบตอนพะนะ สิหัวหม่องได๋กะแล้วแต่เด้อ...เหม็นหลาย ว่าซ้าน...

สาธุการบทความนี้ : 478 ครั้ง
จากสมาชิก : 1 ครั้ง
จากขาจร : 477 ครั้ง

24 ม.ค. 2553 เวลา 14:48:50

โพสต์โดย

คห.ที่330) ลุกอยู่บ้อ [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]

อนุเซียนผู้อมตะ

ณ หมู่บ้านหนึ่ง พ่อใหญ่สี แกเป็นผู้ใหญ่บ้าน เมียแกชื่อว่า แดง
อยู่ต่อมามีการประชุมในหมู่บ้านนั้น ผู้ใหญ่สีเป็นประธานออกมากล่าวกับลูกบ้าน
ในที่ประชุมนั้น จัดให้นั่งบนเกาอี้ ลูกบ้านหลายคนกะมาร่วมประชุม รวมทั้งแม่ใหญ่แดง เมียผู้ใหญ่บ้าน การประชุมดำเนินการไปเรื่อยๆ
แม่ใหญ่แดงแกกะเลยนั่ง ไม่สำรวมเผลอนั่งเปิดหวอ ผู้ใหญ่สีมองเห็นจั่งซั้น ถ้าสิบอกเมียกะอายคนอื่นหรือย้านคนอื่นเห็น บ่ฮู้สิเฮ็ดจั่งได๋ ก็เลยแกล้งบอกให้ทุกคนในที่ประชุมนั้นลุกขึ้น แต่เมียผู้ใหญ่บ้านกะยังบ่ฮู้เมื่อเจ้าของอยู่ว่า ตัวเองนั่งอ้าจ่างป่าง แกกะอาจสิถือตัวว่า เป็นเมียผู้ใหญ่กะเลยคิดไม่ลุกเหมือนกับคนอื่น ผู้ใหญ่สีเห็นดั่งนั้นก็เลยมองหน้าเมียตัวเอง ยายแดงแกก็ทำหน้างง พูดถามไปว่า

"อิฉัน ก็ต้องลุกอยู่บ่ค่ะ"

ผู้ใหญ่สีโมโหหลาย ก็เลยตอบไปว่า

"มึงนั้นแหล่ะ ตัวการ สมควรสิลุกก่อนหมู่"

แม่ใหญ่แดงก็เลยได้แต่ งงง....งงงง

จบทิทานก้อมท่อนี้ ติดตามตอนต่อไป.....

สาธุการบทความนี้ : 474 ครั้ง
จากสมาชิก : 1 ครั้ง
จากขาจร : 473 ครั้ง

14 ม.ค. 2553 เวลา 06:59:10

โพสต์โดย

คห.ที่336) เรื่องเสียงดัง [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]

อนุเซียนผู้อมตะ

เรื่องนี้ บ่เกี่ยวกับพ่อเฒ่าลูกเขยพะนะ
   เรื่องมีอยู่จั่งซี้ซั้นหรอก ...ณ หมู่บ้านหนึ่ง ซุมหมู่พวกผู้ชายพากันไปหาปลา งมปลาหว่านแหอยู่ห้วยพู้นล่ะ ตามริมห้วยกะมีต้นไผ่กอไผ่หลาย
ในระหว่างที่หาปลากันนั้น กะเว้าคุยกันกันหม่วนตามประสาของผู้ชาย สับเพเหระมีหมด แต่ว่ากะมีพ่อใหญ่หนึ่งเว้าว่า  "สูเชื่อบ่ว่า ขนาดของคนเฮานี้มันสิใหญ่ตามเสียง บ่ว่าผู้หญิงหรือผู้ชาย" พวกหมู่รุ่นกันบางคนกะได้แต่ขำ แต่ว่า รุ่นน้อยหรือผู้บ่าวน้อยส่ำหนึ่งที่เขาไปหาปลานำกัน บางคนกะสงสัยสิตั้งใจถามหรือแกล้งถามต่อกะบ่ฮู้ เขาเลยถามต่อว่า
  "มันแม่นอีหลีบ่พ่อใหญ่ มันสิเกี่ยวกันอยู่บ้อ"

    บัดนี้กล่าวถึง ริมฝั่งซึ่งมีกอไผ่ป่าไผ่นั้น ก็มีแม่ใหญ่หนึ่ง กำลังหาหน่อไม้อยู่ ใกล้ๆกันกับพวกหาปลานั้นล่ะ เรื่องที่เขาคุยกันแกได้ยินได้ฟังทั้งหมดโดยตลอด
แต่ว่าพวกหาปลานั้นบ่เห็นแก เพราะว่ามันบังกอไผ่ บ่รู้ว่าแม่ใหญ่เผิ่นสิมาหาหน่อไม้หรือได้ยิน หน่อยหนึ่งแกก็โผล่หน้าออกมา ว่าสิมาเบิ่งว่าเขาหาปลาได้หลายบ่พะนะ..
     พอดีพวกหาปลามองไปเห็นแก ก็มีคนเอิ้นถามว่า "เป็นจั่งได๋แม่ใหญ่ ได้หลายบ่หน่อไม้"

แม่ใหญ่แกก็เลยตอบเสียงใหญ่ๆดังๆว่า "บ่" .........

จบท่อนี้ อ่านแล้วห้ามหัวเราะคนเดียว ถ้าบ่เข้าใจก็กลับไปอ่านใหม่อีกสัก 3 รอบ...

สาธุการบทความนี้ : 471 ครั้ง
จากสมาชิก : 3 ครั้ง
จากขาจร : 468 ครั้ง

24 ม.ค. 2553 เวลา 10:13:26

910) การประกวดวงดนตรีพื้นบ้านโปงลาง ชิงถ้วยพระราชทานฯ ประจำปี 2553

โพสต์โดย

คห.ที่79) [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]

อนุเซียนผู้อมตะ

ขอแสดงความยินดีกับวงที่ได้รับรางวัล
ขอเป็นกำลังใจให้ทุกวง ที่ได้ร่วมกันสืบทอดศิลปวัฒนธรรมให้ดำรงอยู่ต่อไป
พรุ่งนี้ เป็นการประกวดรุ่นใหญ่ เสียดายไม่มีโอกาสไปชม ได้แต่เป็นกำลังใจให้ทุกวงครับ

สาธุการบทความนี้ : 471 ครั้ง
จากสมาชิก : 0 ครั้ง
จากขาจร : 471 ครั้ง

09 ส.ค. 2553 เวลา 23:19:26

โพสต์โดย

770) กลอนผญาคำสอน (บุญ)

คห.ที่0) กลอนผญาคำสอน (บุญ) [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]

อนุเซียนผู้อมตะ

บัดนี้
จักได้จากล่าวต้านจาต่อความดี  พอให้มีหัวข้อผู้รอฟังถ้าอ่าน
ผู้ได้ผ่านพบพ้อมาเข้าเว็ปเฮา    ฟังเอาเด้อพี่น้องพวกท่านทั้งหลาย
ทั้งหญิงชายสู่คนภายพื้น        อย่าได้โลภหลื่นข้อพระสัมมาตรัสกล่าว
บอกให้ชาวพี่น้องถือหมั้นแห่งศีล  ตลอดหมดทุกสิ้นให้ตั้งต่อทำดี

อย่าได้พากันทำก่อกรรมทำชั่ว         ให้พากันตั้งตัวไว้ในธรรมอย่าประมาท
ให้พากันฉลาดฮู้เอาตนข้ามฝั่งกระแส  สังขารเฮาบ่แท้แปรเปลี่ยนบ่หมั้นเที่ยง
มีแต่เอียงเหงี่ยงค้อยไปจ้อยบ่อยู่ยัง  ไผผู้หวังข้ามพ้นวัฏฏะวนเวียนเกิด
ให้พากันก่อสร้างทำแท้แต่บุญ        บุญสิหนุนเฮาขึ้นนีระพานบ่อนข่อง

กรรมบ่ข้องเวรนั้นหากบ่มี       เผิ่นว่าบุญบุญนี้มีความหมายจั่งได๋แหน่
ฟังเอาเด้อแม่ป้าลุงตาเฒ่าแก่   ทั้งหมู่เด็กหนุ่มหน้าทั้งสาวน้อยบ่าวคะนอง
ลองมาฟังดูบ้างพระธรรมาสอนสั่ง ลางเทื่อผลส่งให้นำยู้เมื่อลุน
คำว่าบุญนี้พระสัตถาเผิ่นเทศน์บอก แจกออกคือดั่งนี้ตนเจ้าให้ค่อยฟังฯ.....

.....ถึงญาอ้ายมังกรฯ พอสิแต่งต่อได้บ่ครับ เอาเรื่องบาปบุญนี้หล่ะ ช่อยกันแต่งคนละวรรคละตอน เผื่อให้เป็นหิตะประโยชน์โผดปะนะสัตว์ทั้งหลายเอาบุญ ถ้ามีเวลาเด้อ.....

สาธุการบทความนี้ : 461 ครั้ง
จากสมาชิก : 1 ครั้ง
จากขาจร : 460 ครั้ง

13 ธ.ค. 2552 เวลา 00:43:30

4) แสดงความคิดเห็น เสนอแนะ เพื่อพัฒนาปรับปรุงเว็บไซต์

โพสต์โดย

คห.ที่239) [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]

อนุเซียนผู้อมตะ

ถ้าเป็นไปได้ ให้มีห้องหมอลำเก่าๆ ที่เป็นอมตะ หรือหมอลำดังๆยอดนิยมในอดีต ให้ฟังกะดีเด้อ เช่นว่า ลำเรื่องต่อกลอน ลำยาว ลำล่อง ฯลฯ
ขอบคุณครับ....

สาธุการบทความนี้ : 456 ครั้ง
จากสมาชิก : 1 ครั้ง
จากขาจร : 455 ครั้ง

12 ม.ค. 2553 เวลา 21:34:25

โพสต์โดย

คห.ที่439) [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]

อนุเซียนผู้อมตะ

คุณkenjimaru:

คุณบ่าวหน่อ:
จริงๆแล้วซือปิ่นลมนี่กะโหล อยู่คือกันเด้ แนะนำให้เปลี่ยนเป็นบริสุทธิ์เด้อ

มื้อนึงเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นจากค่ายตะหาร

กรึ๊งงงงงงงงง

ตะหารเกณฑ์ผลัดสอง ทำหน้าที่รับสาย

ตะหารเกณฑ์ : ฮัลโหล สวัสดีครับ ขอสายใครครับ
บ่าวหน่อ : คุณบริสุทธิ์อยู่หรือเปล่าครับ (ถามหาบ่าวปิ่นลม)
ตะหารเกณฑ์ : เอ่อ.... เอ่อ.. จะตอบยังไงดี
บ่าวหน่อ : ก็ตอบมาสิ ว่าคุณบริสุทธิ์ อยู่หรือเปล่า เร็วๆผมรีบ
ตะหารเกณฑ์ : ก็บริสุทธิ์ เป็นบางเวลาครับ อย่างตอนี้ก็บริสุทธิ์ครับ เมื่อคืนน่าจะเสียความบริสุทธิ์ไปแล้ว

บ่าวหน่อ : ..ฮ่วย.... คนถามว่า ตะหารที่ซือว่า บริสุทธิ์ ซือเล่นว่า ปิ่นลม นั่นหนา เลาอยู่บ่ บ่ได้ถามว่าเจ้ายังบริสุทธิ์อยู่บ่เด้หล่ะ

ตะหาร : โอ๊ยยยยยยยยย.... พลาดแล้ว

55555555555 กร้ากกกกกกกกๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ เอิ้กกกกกๆ 5555555555555555555555555555555555555555
5555555555555555555555555555555555555555

(จังซี่เขาเอิ้นหัวเตอะหัวเติ่น ) หัวจนเจ็บท้องน้อย มาซ่างคึดได้แท้น้อ อ้ายบ่าวหน่อเอ้ย

คางกะไตค้าง ซะล่ะ มมันสิยากพาไปปัว อีกหล่ะ เอิ้กกกกกก...ๆๆ

สาธุการบทความนี้ : 454 ครั้ง
จากสมาชิก : 0 ครั้ง
จากขาจร : 454 ครั้ง

18 ก.ค. 2553 เวลา 20:08:17

โพสต์โดย

110) กลอนลำภูไท

คห.ที่2) ลำภูไท(ต่อ) [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]

อนุเซียนผู้อมตะ

(ชาย) โอ่เด้..ล่ะหม่อมผู้สาวเอย หม่อมผู้สาวเอ้ย
          โอ๋นอ อ้ายกะฟังเสียงน้อง สาวภูไทมาเว้าต่อพี่ชายนอ หล้าเอย
          อ้ายนี้ อ้ายกะคองหาเจ้า เหงาในใจอ้ายนั่งจ่ม
          แพงเอย อ้ายกะมีแต่เศร้า หลงเว้าต่อเเต่ลม
          คิดเห็นคีงกลมน้อง ผู้มาแนมเนานั่ง
          เฮาฝากฝังฮักไว้ แต่คราวกี้พี่บ่ลืม ล่ะหนา น้องเอ้ย
(หญิง) โอ่ยเด้...ล่ะบ่าวพี่ชายเอย
         โอ้ยหนอ ให้น้องไลลืมอ้าย อย่าหวังเด้อสิลืมง่าย
         แหม่นสิตายเป็นผี อยากฮ่วมโลงลายแต้ม
         โอ้ยเด้ จิตใจนางยังหมายสร้าง นำพี่ชายบ่ไกลห่าง
         สองคนเฮาบ่ฮ้าง ไกลข้างห่างกัน อ้ายเอย
(ชาย) โอ้ยนอ ล่ะหม่อมผู้สาวเอย
         คันเจ้าเว้าจั่งซั้นกะสาธุโมทนา
        โอ่เด้ ย้านแต่มาลวงอ้าย พี่ชายลำให้ตกหล่ม
         ย้านแต่ลวงหลอกอ้ายให้ตายถิ้มอยู่ผ็เดียว
         โอ้ยเด บ่ได้เจ้าชาตินี้ ตายไปอ้ายบ่เน่า
         ไปทาวไยคือดั่งม้อนไปนอนน้ำคือดั่งควาย
         จั่งว่าท้ายเจ้าหล่าม หม่อมผู้ไทคนงามเอ้ย..
(หญิง) โอ่ยเด้ อ้ายเอย
         น้องนี้ ตกกะเทินได้เว้าแล้ว แข้วหล่อนบ่มีหนี
         ตายเป็นเผดกะสินำไปยี ตายเป็นผีกะสินำไปคั้น
         ตายเป็นน้ำส้างจั้น เอามือนั้นกอบกิน อ้ายเอย
        น้องนี้ น้องกะคองคอยอ้าย เดือนสิบเอ็ดแม่น้ำของพวมขึ้น
       เดือนสิบสองแม่น้ำของพวมแก่ง บาดนี้น้ำแห้งแล้วคอยอ้ายกะบ่เห็น อ้ายเอย
(ชาย) โอ่ยเด้ หม่อมผู้สาวเอ้ย
         โอ้ยเด้ ให้น้องเมือสมสร้าง เฮือนพี่ชายเลี้ยงม้อนแผ่ พุ้นเดอ
         ฝักดอกเอยท่อหมากมี้ อันไข่บี้ท่อหมากนาว หล้าเอย
         โอ่ยเด้ สาวไทไกล ตายเป็นข้าวเขียวคือเทาอ้ายบ่เกี่ยว
         สาวผู้ไทเฮาเอย ตายเป็นข้าวหมากกล้า แกมหญ้ากะสิเล็ม
         คันแหม่นเล็มบ่ได้ กะสินุ่งเสื้อฮิ้ง สินอนกลิ้งเกลือกเอา เจ้าเอย...

สาธุการบทความนี้ : 446 ครั้ง
จากสมาชิก : 2 ครั้ง
จากขาจร : 444 ครั้ง

08 ธ.ค. 2552 เวลา 10:22:26

735) เทียบเคียงภาษาลาว-ไทยอีสาน

โพสต์โดย

คห.ที่8) [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]

อนุเซียนผู้อมตะ

คุณน้องนาง:
อุปโลกน์-อุปลา

คำเหล่านี้บ่แหม่นคิดเว้าเอาเอง เป็นคำที่มีใช้อยู่จริง โดยเฉพาะบางคำแถวบ้านผมก็ใช้อยู่ คำต่างๆเหล่านี้อ้างอิงภาษาจากแขวงสะหวันนะเขต สปปล.ครับ ซึ่งปัจจุบันนี้วัยรุ่นลาวรุ่น
ใหม่ก็นิยมจะพูดลาวแบบอีสานหรือแบบไทยเพราะได้รับอิทธิพลจากการดูหนัง โทรทัศน์ไทย แต่ในภาพรวมแล้วขนบธรรมเนียมประเพณีก็ยังดีกว่าของเราครับ ที่ไปเลียนแบบต่างชาติซะเป็นส่วนใหญ่...

สาธุการบทความนี้ : 443 ครั้ง
จากสมาชิก : 0 ครั้ง
จากขาจร : 443 ครั้ง

31 ต.ค. 2552 เวลา 01:38:55

โพสต์โดย

คห.ที่489) [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]

อนุเซียนผู้อมตะ

นิทานบ่าวชัย หม่วนดีเนาะ ขำดี มาเว้าต่อเด้อ สิถ้าอ่านครับ

คุณบ่าวหน่อ:
เด็กน้อยคนนั้น กะคือ จารย์ใหญ่่นี่เอง

เรื่องนี้เป็นเรื่องจริง แต่ขอยืนยันว่าเด็กน้อยคนนั้น บ่แหม่นจารย์ใหญ่ครับ

สาธุการบทความนี้ : 441 ครั้ง
จากสมาชิก : 0 ครั้ง
จากขาจร : 441 ครั้ง

18 ต.ค. 2553 เวลา 21:45:49

โพสต์โดย

คห.ที่459) ไผหูตึง [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]

อนุเซียนผู้อมตะ

.....มีสองตายาย อยู่นำกันมาหลายปีแล้ว
แต่ว่ามาฮอดปีนี้ เผิ่นกะเฒ่าหลายกว่าแต่เก่า พักหลังตามีความสงสัยยายว่าเป็นหยัง เวลาตาเว้านำยาย ยายสิบ่ค่อยตอบหรือเว้านำคือแต่เก่า หรือว่ายายหูตึง ตาเผิ่นคิดในใจ ว่าแล้วต้องพิสูจน์ว่าซั้น

ว่าแล้วกะเลยฮ้องถามยายว่า "ยายเจ้าได้ยินเสียงข้อยบ่"

ตากะยังบ่ได้ยินเสียงตอบ หรือว่ายายเลาบ่ได้ยิน ว่าแล้วกะขยับเข้าไปใกล้อีก กะยังเป็นคือเก่า แกกะเลยเข้าใกล้ๆยายฮ้องถามอย่างดัง "เจ้าได้ยินเสียงข้อยบ่"

ยายสูนหลาย กะเลยฮ้องตอบอย่างดังกลับไปว่า "เจ้าหูหนวกติ ข้อยตอบเจ้าตั้งแต่เจ้าถามทีแรกแล้ว เฒ่าผีบ้า มาฮ้องใส่หูข้อยเฮ้ดหยัง"

............จบจ้อย...............พะนะ

ลป.... เรื่องนี้ฟังเขาเล่ามาคือกันครับ

สาธุการบทความนี้ : 436 ครั้ง
จากสมาชิก : 3 ครั้ง
จากขาจร : 433 ครั้ง

09 ก.ย. 2553 เวลา 11:43:03

โพสต์โดย

คห.ที่474) พ่อเฮ็ดนำบ่ได้ [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]

อนุเซียนผู้อมตะ

สมัยก่อน....

คนบ้านนอกบ้านนาส่งลูกมากรุงเทพฯ นานไปพ่อแม่คิดฮอดลูกกะไปเยี่ยมลูกจักเทื่อหนึ่ง

มีพ่อใหญ่หนึ่งคือกัน ส่งลูกชายมาเรียนอยู่กรุงเทพหลายปี คึดฮอดก็เลยมายาม

มาฮอดมาเห็นลูกชายแล้วดีใจหลาย ลูกชายก็เลยพาพ่อออกไปข้างนอก หากินข้าวกินน้ำ

ไปฮอดร้านข้าว กะมีคนหลายเต็มร้าน กะเลยพากันไปนั่งกินข้าวกัน เห็นแต่เขาสั่งโอเลี้ยงกาแฟ พ่อใหญ่บ่จักสิสั่งจั่งใด๋ บ่จักชื่อ ได้แต่บอกเขาว่า "เอาอย่างเขาหนึ่งโจก"

ลูกชายพากินอ้อย แต่ตอนคายมันค่อยคายเปลือกบ่ให้เห็น พ่อกะนึกว่าเขาพากันกินจั่งซี้ หมายถึงกินหมดเปลือก แกก็เลยกลืนเปลือกอ้อยไปนำ

ต่อมาพากินขนมจีน ลูกชายเห็นพ่อที่ทำอะไรไม่ถูกอึดอัดไปหมด ก็ขำสำลักเส้นขนมจีนออกทางจมูก พ่อเห็นดังนั้น ก็เลยบอกลูกชายว่า.....

"ลูกเอย พ่อฮู้อยู่หรอกว่าในเมืองเขาบ่คือบ้านนอกเฮา พ่อกะพยายามสิเฮ็ดนำอยู่หรอก เจ้าพาพ่อกลืนขี้อ้อย พ่อกะพอทนสิเฮ็ดนำได้อยู่ แต่ว่าเอาเส้นข้าวปุ้นออกทางดังนี้ พ่อเฮ็ดนำบ่ได้ พ่อยอมอีหลี"

เสียงผู้เป็นพ่อบอกลูกชาย..................

........จบส่ำนี้ล่ะ ........

สาธุการบทความนี้ : 436 ครั้ง
จากสมาชิก : 2 ครั้ง
จากขาจร : 434 ครั้ง

28 ก.ย. 2553 เวลา 10:38:25

892) งานพบปะสังสรรค์อีสานจุฬาแฟนคลับ 2553 (กำหนดใหม่)

โพสต์โดย

คห.ที่152) [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]

อนุเซียนผู้อมตะ

คุณkenjimaru:

คุณเผด็จศึก:
งานหน้าผมสิขอเป็นหมอลำฝ่ายซายให้ พะนะ 555

ทักทายครับ ทักทาย  งานหน้าอ้ายขอเองเด้   น้องบ่เป็นตัวช่วยเด้อครับ

เอาซ้างมาดึงน้องกะบ่ขึ้นเวทีเเล้วเด้อครับบาดนิ

บ่ถืกกับไมค์  555555555555+

จำบ่ได้ว่ามื้อนั้น เคนจิมารุ ร้องเพลงใดฮึ

สาธุการบทความนี้ : 436 ครั้ง
จากสมาชิก : 0 ครั้ง
จากขาจร : 436 ครั้ง

18 มิ.ย. 2553 เวลา 22:36:13

โพสต์โดย

คห.ที่332) กู้พริก(พ่อเฒ่ากับลูกเขย) [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]

อนุเซียนผู้อมตะ

มื้อต่อมา มื้อได๋กะบ่ฮุ้ เพราะว่ามันหลายมื้อ
พ่อเฒ่ากับลูกเขยพากันไปทำนา ซึ่งห่างออกไปจากบ้านไกลเติบอยู่ อยู่นานั้นกะมีเถียงนาใช้เป็นที่พักที่เซา ข้างเถียงนานั้นกะมีโพนปลูกผักแน่ หมากพริกแน่ว่าซั้น
พริกหลายกะเก็บตากไว้ ข้างโพนนั้นล่ะ
พ่อเฒ่ากับลูกเขย ไปนาแต่เช้า ปกติลูกสาว(เมียลูกเขย)สิเป็นคนไปส่งข้าวทุกวันบ่ได้ขาด
ส่วนว่าสองคนพ่อเฒ่าลูกเขยพากันดำนาอยู่ พอดีลูกสาวมาส่งข้าวเหมือนเดิม
ส่วนว่าลูกเขยนั้น ถ้าเห็นเมียมาถึงตอนใดกะสิบอกพ่อเฒ่าว่า "พ่อไปตากพริกก่อนเด้อ"
เป็นประจำ...  คู่มื้อ
       มื้อนั้น สองคนกะดำนาอยู่คือเก่า ผู้มาส่งข้าวกะมาคือเก่า ลูกเขยกะไปตากพริกคือเก่า
พ่อเฒ่าสงสัย กะเลยตามไปจอบเบิ่ง กะเลยเห็นว่าบักลูกเขยมันบ่ได้ไปตากพริกอยู่โพน แต่ว่าย่างขึ้นไปเถียงหาเมีย พ่อเฒ่าตามไปแอบเบิ่งเห็นเขานอนนำกัน ก็เลยคิดในใจว่า อันนี้บ้อมันว่าไปตากพริก กะเลยกลับไปดำนาต่อ
       มื้อต่อมา ทุกอย่างกะดำเนินไปตามปกติ ผู้มาส่งข้าวกะมาคือเก่า บักลูกเขยพอแต่เห็นเมียมาส่งข้าว ก็เลยสิไปคือเก่า พ่อเฒ่าก็เลยพูดดักว่า "บักทิด มึงสิไปไส"
ลูกเขยตอบว่า "สิไปตากพริก"
พ่อเฒ่ามันคือ "มึงบ่ต้องไป กูตากแล้ว มื้อได๋กะตากพริก มันเฮ็ดหยังอยู่กลางค่ำกลางคืนบ่  ตาก"
ลูกเขย "ผีบ้าตี้ ไผเขาสิตากพริกยามกลางคืน" ว่าแล้วกะดำนาเฉยต่อไป

        แต่ว่ามื้อนั้น ผู้มาส่งข้าวบ่แม่นลูกสาวสาแหล่ว เป็นแม่เฒ่า ทางฝ่ายพ่อเฒ่าสังเกตเห็นว่าเมียมาส่งข้าว กะเลยคิดอยากตากพริกซั้นแหล่ว.....กะเลยหยุดดำนาแล้วกะเดินมุ่งหน้าไปทางโพนหมากพริกพู้นล่ะ
ลูกเขยเห็นก็เลยแกล้งถามพ่อเฒ่าว่า "สิไปไสล่ะพ่อ คือจั่งว่าตากแล้วพริกกะดาย"
พ่อเฒ่าก็เลยหันหน้ามาตอบว่า "ตากพริกกะเรื่องของมึง กูสิไปกู้พริก"..........

จบตอนท่อนี้ คอยถ้าฟังต่อไป ฟังแล้วอย่าคิดหยังหลาย โดยเฉพาะตากพริกกู้พริก พะนะ...

สาธุการบทความนี้ : 427 ครั้ง
จากสมาชิก : 3 ครั้ง
จากขาจร : 424 ครั้ง

15 ม.ค. 2553 เวลา 20:44:32

โพสต์โดย

คห.ที่476) [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]

อนุเซียนผู้อมตะ

คุณบักต๊อก:
นี้ละครับ ความซื่อของคนบ้านนอก แต่ผมว่ามันกะซื่อเคดเล็ดคั่กโพ้ด

อ้อยซางบ่คาคอตายเนาะ 555555

จั้งเพิ้นว่าละครับ ซื่อกินไม่หมด คดกินไม่นาน

เส้นข้างปุ้นออกดัง กะเอามากินใหม่ได้ครับ 5555

สิบปีบ่ทันพอเคลื่อน หลายเดือนคึดฮอดอยู่
เจ้าหากหนีป๋าหมู่ ทั้งหมู่ชุมพี่น้อง ปานนี้จั่งค่อยมา
มีหลายคนคองคอยถ้า ถามหาว่าเห็นบ่
มาแล้วน้ออวนอ้าย ผู้หายหน้าห่างหาย

อย่าถิ้มโดนหลายเด้ออ้าย อดมายามพี่น้องแหน่
อดมาแหว่ยามเยี่ยม เทียวเข้าแวะมา
มื้อนี้มามาแล้ว หากยินดีชมชื่น
มาเดิ๊กดื่นปานนี้ ดีใจแท้เจ้าอ่วยมา อ้ายเอย...

สาธุการบทความนี้ : 426 ครั้ง
จากสมาชิก : 1 ครั้ง
จากขาจร : 425 ครั้ง

28 ก.ย. 2553 เวลา 22:50:34

โพสต์โดย

คห.ที่329) พ่อเฒ่า กับลูกเขย (อีกแล้วเด้อ) [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]

อนุเซียนผู้อมตะ

พ่อเฒ่ากับลูกเขย เป็นคู่ปรับกันตลอดเนาะครับ
    มื้อหนึ่ง สองคนเผิ่นพากันไปไฮ่ไปสวน ก่อนสิไปแม่เฒ่ากะบอกว่ามื้อแลงสิต้มไก่สู่กิน ว่าซั้น
    พอแต่แลงลงแล้วพ่อเฒ่าลูกเขย กะพากันกลับบ้าน เหมื่อยกะเหมื่อย หิวกะหิว
ส่วนแม่เฒ่านั้น กะต้มไก่ไว้ให้กินอีหลี พอมาถึงบ้านลูกเขยก็เลยไปอาบน้ำ พ่อเฒ่าหิวหลายกะเลยกินข้าวก่อน พอแต่อิ่มแล้วกะเลยมีความคิดสิแกล้งลูกเขย กะเลยเอาต้มไก่ไปเสื่องไว้ แล้วกะมานั่งสูบยาอยู่ชานบ้าน อย่างมีความสุข
     พอแต่ลูกเขยอาบน้ำแล้ว ก็มาหาข้าวกิน แต่ว่าบ่เห็นมีต้มไก่ ก็คิดในใจว่าคงสิถูกพ่เฒ่าแกล้งแล้วล่ะ ก็ไปตักเอาปลาแดกมานั่งจ้ำกินเฉยอยู่ ส่วนว่าพ่อเฒ่ามองเห็นลูกเขยกินข้าวกับปลาแดก  ก็เลยแกล้งร้องถามว่า

"ทิด คือกินข้าวกับปลาแดก คือว่าแม่มึงต้มไก่ไว้ให้กินอยู่"

ลูกเขยรู้แล้วว่าโดนแกล้ง ก็เลยเว้าตอบพ่อเฒ่าว่า

"จักเด้ บ่ฮู้คือกัน สงสัยหมาสิคาบไปแดกก่อนแล้วละ"

พ่อเฒ่าพอได้ยินจั่งซั้น ทั้งสูนทั้งเคียดหลาย แต่บ่จักสิเฮ็ดจั่งได๋ ได้แต่หงำไว้ในใจ

จบสาก่อนเด้อ ถ้าฟังตอนต่อไป

สาธุการบทความนี้ : 417 ครั้ง
จากสมาชิก : 1 ครั้ง
จากขาจร : 416 ครั้ง

14 ม.ค. 2553 เวลา 06:38:19

โพสต์โดย

770) กลอนผญาคำสอน (บุญ)

คห.ที่3) [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]

อนุเซียนผู้อมตะ

สุดยอดครับ ตรงตามที่คิดไว้เลยครับ คือว่าผมไม่มีข้อมูลเรื่องบุญ เพราะว่าจำหัวข้อหรือข้อมูลต่างๆไม่มี ก็เลยแต่งต่อไม่ได้ ขอบคุณหลาย ต่ออีกเด้อญาอ้าย....

สาธุการบทความนี้ : 417 ครั้ง
จากสมาชิก : 0 ครั้ง
จากขาจร : 417 ครั้ง

14 ธ.ค. 2552 เวลา 19:41:04

โพสต์โดย

คห.ที่402) [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]

อนุเซียนผู้อมตะ

คุณปิ่นลม:

อ้ายจารย์ อย่าเล่นหนักหลาย เลข ฮั่น
เป็นห่วงเด้อ เก็บเงินเล่นเลขไว้ ซื้อ โน๊ตบุค
ปานนี้ ได้ เป็น สิบเครื่องแล้ว.. ( เว้าหยอกเด้อ)

ขอขอบคุณญาอ้าย แม่นความคือว่าล่ะ

ผู้หมุนอยู่บางกอก ผู้บอกอยู่ภูจ้อก้อ เลยบ่พ้อ........มันหยัง

กะยังว่า แต่ว่างวดหน้านี้ บอกแม่นๆแน่เด้อ

สาธุการบทความนี้ : 411 ครั้ง
จากสมาชิก : 0 ครั้ง
จากขาจร : 411 ครั้ง

08 มิ.ย. 2553 เวลา 04:25:59

โพสต์โดย

คห.ที่340) ไคแหน่... [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]

อนุเซียนผู้อมตะ

ขอรวบรัดตัดตอน ฮอนเอาแต่บั้นหม่วนเนาะ...

เรื่องมีอยู่ว่า ....

แม่ใหญ่สี แกไปธนาคาร เพื่อไปรับเงินกลุ่มฌาปนกิจศพ ของสามีแก ที่เสียชิวิตไปแล้ว

เมื่อไปถึงธนาคาร ก็พอดีไปพ้อกันกับหมู่แกอีกคน ชื่อแม่ใหญ่มี ก็เลยพูดจาทักทายกันตามประสาคนรู้จักกัน

แม่ใหญ่มี "เป็นจั่งได๋น้อสีเอ้ย สบายดีบ่ มาหยังล่ะ"

แม่ใหญ่สี  "สบายดีอยู่  มารับเงินฌาปนกิจ พ่อใหญ่ผู้เผิ่นเสียไปแล้วนั้นล่ะ"

แม่ใหญ่มี   "ไคแหน่เนาะเจ้า คือสิได้หลาย ผู้เผิ่นอยู่เฮือนนั้นตี้ บ่จักว่ามื้อได๋หรอก"

  ว่าแล้วนิทานกะจบลงท่อนี้ โปรดติดตามตอนต่อไปในโอกาสหน้า บ่ต้องคิดหยังหลายครับ มันเป็นนิทานพะนะ...

สาธุการบทความนี้ : 404 ครั้ง
จากสมาชิก : 2 ครั้ง
จากขาจร : 402 ครั้ง

19 ก.พ. 2553 เวลา 02:29:01

โพสต์โดย

คห.ที่357) มักม่องใด๋ [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]

อนุเซียนผู้อมตะ

มีหนุ่มสาวคู่หนึ่ง คุยกันอยู่ตามประสาสาวบ่าว........
คุยกันไปกันมา ทางผู้บ่าวก็เลยถามผู้สาวว่า...

"เจ้าว่า ข้อยมักเจ้าม่องใด๋"

ทางฝ่ายหญิง คิดไปฮอดไสกะบ่ฮู้ จักสิตอบว่าจั่งใด๋ ก็เลยเว้าตอบว่า

"ฮูขี้นี้" ว่าซ้าน

ทางฝ่ายชาย งึดหลาย ก็เลยเว้าต่อว่า

"สุยยย" พะนะ...........

...........จบจ้อย เพราะว่า มันก้อม.....
อ่านแล้วให้ยิ้มให้หัว บ่ต้องคิดมาก เพราะว่ามันเป็นนิทาน .....พ่อเฒ่า...ยาน...พะนะ

สาธุการบทความนี้ : 401 ครั้ง
จากสมาชิก : 5 ครั้ง
จากขาจร : 396 ครั้ง

09 พ.ค. 2553 เวลา 06:09:46

โพสต์โดย

1014) อีสานจุฬาพาแลง 2553

คห.ที่165) [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]

อนุเซียนผู้อมตะ

ซ้อมเตรียมความพร้อม

สาธุการบทความนี้ : 401 ครั้ง
จากสมาชิก : 0 ครั้ง
จากขาจร : 401 ครั้ง

28 พ.ย. 2553 เวลา 12:32:19

โพสต์โดย

)

คห.ที่3) กลอนผญาคำสอน [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]

อนุเซียนผู้อมตะ

บัดนี้
จักได้จากล่าวต้านจาต่อความดี  พอให้มีหัวข้อผู้รอฟังถ้าอ่าน
ผู้ได้ผ่านพบพ้อมาเข้าเว็ปเฮา  ฟังเอาเด้อพี่น้องพวกท่านทั้งหลาย
ทั้งหญิงชายสู่คนภายพื้น  อย่าได้โลภหลื่นข้อพระสัมมาตรัสกล่าว
บอกให้ชาวพี่น้องถือหมั้นแห่งศีล  ตลอดหมดทุกสิ้นให้ตั้งต่อทำดี
อย่าได้พากันทำก่อกรรมทำชั่ว  ให้พากันตั้งตัวไว้ในธรรมอย่าประมาท
ให้พากันฉลาดฮู้เอาตนข้ามฝั่งกระแส  สังขารเฮาบ่แท้แปรเปลี่ยนบ่หมั้นเที่ยง
มีแต่เอียงเหงี่ยงค้อยไปจ้อยบ่อยู่ยัง  ไผผู้หวังข้ามพ้นวัฏฏะวนเวียนเกิด
ให้พากันก่อสร้างทำแท้แต่บุญ   บุญสิหนุนเฮาขึ้นนีระพานบ่อนข่อง
กรรมบ่ข้องเวรนั้นหากบ่มี     เผิ่นว่าบุญบุญนี้มีความหมายจั่งได๋แหน่
ฟังเอาเด้อแม่ป้าลุงตาเฒ่าแก่ ทั้งหมู่เด็กหนุ่มหน้าทั้งสาวน้อยบ่าคะนอง
คำว่าบุญนี้พระสัตถาเผิ่นเทศน์บอก แจกออกคือดั่งนี้ตนเจ้าให้ค่อยฟังฯ.....

.....ถึงญาอ้ายมังกรฯ พอสิแต่งต่อได้บ่ครับ เอาเรื่องบาปบุญนี้หล่ะ ช่อยกันแต่งคนละวรรคละตอน
เผื่อให้เป็นหิตะประโยชน์โผดปะนะสัตว์ทั้งหลายเอาบุญ ถ้ามีเวลาเด้อ.....

สาธุการบทความนี้ : 400 ครั้ง
จากสมาชิก : 0 ครั้ง
จากขาจร : 400 ครั้ง

13 ธ.ค. 2552 เวลา 00:40:15

794) ร่วมอวยพรปีใหม่ กับชาวสมาชิกเว๊บบอร์ด ชมรมอีสานจุฬาฯ

โพสต์โดย

คห.ที่1) ร่วมอวยพรปีใหม่ ๒๕๕๓ [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]

อนุเซียนผู้อมตะ

บัดนี้ ใกล้หม่อแล้วปีใหม่สิมาถึง  ธันวาจ้อ มกราสิมาต่อ
      เป็นจั่งไดนอพี่น้องสบายบ้างแหน่บ่นอ
      มื้อนี้ผมขอกล่าวเว้าเอาพรมาว่า
     ขอให้สดชื่นหน้าจุฬาเฮาทุกท่าน
     ทังผู้ไกลจากบ้านก็โดยด้ามดั่งกัน
     ขอให้ยืนยาวหมั้นความสัมพันธ์คือเก่า
     ความหมองหม่นโศกเศร้าให้หนีเว้นห่างหาย
     ทังหญิงชายถ้วนหน้ามวลหมู่ชมรม
     กระผมขออวยพรทุกทุกคนเด้อท่าน
     ให้เบิกบานกายเนื้อ สำราญทุกเทื่อ
     ยามเมื่อนอนตื่นขึ้นให้เงินเจ้าอั่งกระเป๋า
     ให้สมพรผมเว้าคือความผมว่า
     ให้เจริญก้าวหน้าสมมุ่งปรารถนา ฯฯ

สาธุการบทความนี้ : 400 ครั้ง
จากสมาชิก : 1 ครั้ง
จากขาจร : 399 ครั้ง

28 ธ.ค. 2552 เวลา 15:28:01

752) พันธุ์ข้าวพื้นเมือง(อีสาน)

โพสต์โดย

คห.ที่0) พันธุ์ข้าวพื้นเมือง(อีสาน) [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]

อนุเซียนผู้อมตะ

พันธุ์ข้าวแต่ก่อนของอีสานเฮา ก็มีหลายพันธุ์หลายชื่อ บางพันธุ์ก็เริ่มสูญหายไป เพราะว่าสมัยนี้เผิ่นนิยมปลูกพันธุ์ของทางการเผิ่นแนะนำ เช่น กข เป็นต้น พันธุ์ข้าวอีสานเฮา สิแบ่งเป็น 2
ประเภทได้แก่ ข้าวงัน กับ ข้าวดอ ข้าวงันเอาไว้ปลูกนาลุ่ม ข้าวดอเอาไว้ปลูกนาเทิง(ที่ดอน)
ข้าวงัน คือข้าวที่แก่ช้าเหมาะแก่นาในที่ลุ่มมีน้ำเพียงพอ ส่วนข้าวดอเหมาะที่จะปลูกในที่ดอนน้ำน้อย เป็นข้าวที่แก่เร็วให้ผลเร็ว แต่เป็นคนละอันกับข้าวไฮ่(ไร่)ทีปลูกในไร่โดยไม่ต้องมีน้ำ

ชื่อพันธุ์ข้าวพื้นเมือง เช่น ข้าวหางนาค ข้าวหางหมาจอก ข้าวหมากยม ข้าวหางยี ข้าวสาวลาว ข้าวเศรษฐี ฯลฯ จำได้เท่านี้ ที่อื่นใครเรียกชื่ออย่างไรหรือมีพันธุ์อะไรบ้างก็เล่าให้ฟังหน่อยเด้อ

สาธุการบทความนี้ : 397 ครั้ง
จากสมาชิก : 1 ครั้ง
จากขาจร : 396 ครั้ง

24 พ.ย. 2552 เวลา 04:39:27

โพสต์โดย

1014) อีสานจุฬาพาแลง 2553

คห.ที่163) [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]

อนุเซียนผู้อมตะ

ซ้อมจักหน่อยก่อนน๊า

สาธุการบทความนี้ : 391 ครั้ง
จากสมาชิก : 0 ครั้ง
จากขาจร : 391 ครั้ง

28 พ.ย. 2553 เวลา 11:56:33

โพสต์โดย

คห.ที่503) [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]

อนุเซียนผู้อมตะ

คุณบ่าวตั้ม เมืองศรีฯ:

คุณบ่าวต้น:

คุณบ่าวชัยเมืองอุดร:
สงสัยเพินพากันหนีไปเล่น facebook เหมิดแล้ว..

คือสิแม่นอยู่เนาะครับ

ยากนำเลี้ยงหมู พะนะ

นึกว่ายากนำไปเท็กซัส...

สาธุการบทความนี้ : 389 ครั้ง
จากสมาชิก : 0 ครั้ง
จากขาจร : 389 ครั้ง

25 มิ.ย. 2554 เวลา 21:34:01

โพสต์โดย

คห.ที่335) [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]

อนุเซียนผู้อมตะ

คัมภีร์ นิทานก้อม นี้หายากอยู่ครับ บ่ค่อยมี ที่นำมาแสดงออกให้เบิ่ง ก็เป็นการได้ยินได้ฟังมาสืบต่อกันมา หลายยุคหลายสมัย
คัมภีร์นี้ให้ผลในด้านสำราญเฮฮา บ่มีพิษภัย แต่ว่าถ้าฝึกหลายอาจจะเป็นอันตรายธาตุไฟเข้าแทรก ถึงขั้น คางกะไตค้างได้ ว่าซั้น....
ฉะนั้น ใครมีเพลงยุทธิ์นี้ อย่าเก็บไว้คนเดียว เอามาแสดงออกต่อยุทธภพได้....

สาธุการบทความนี้ : 388 ครั้ง
จากสมาชิก : 1 ครั้ง
จากขาจร : 387 ครั้ง

21 ม.ค. 2553 เวลา 20:45:24

514) ไปเที่ยวลาว กันดีบ่จ้า

โพสต์โดย

คห.ที่49) [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]

อนุเซียนผู้อมตะ

คุณรุทธิ์ (E-เกียแดง):
มื้อนี่หล่ะเป็นทรงนอนหลับยากครับ บ่มีหยั๋งเฮ็ดกะเข้ามาชมรมคือเก่า แต่มื้ออื่นกะต้องเฮ็ดงานอีกหามื้อหยุดบ่ทันได้จั๊กเทือลุยมาจนสิสองเดือนเต็มแล้ว ยามกลางเว็นกะหลอยเข้าช่วงเบรคพักกินข้าวเอา ชีวิตลูกจ้างคนไกลบ้าน เดดดดด

เป็นตะรวยเนาะ สู้เข้าไปอย่าถอย.....นี้แหล่ะชีวิต

สาธุการบทความนี้ : 386 ครั้ง
จากสมาชิก : 0 ครั้ง
จากขาจร : 386 ครั้ง

13 ธ.ค. 2552 เวลา 02:11:14

892) งานพบปะสังสรรค์อีสานจุฬาแฟนคลับ 2553 (กำหนดใหม่)

โพสต์โดย

คห.ที่139) [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]

อนุเซียนผู้อมตะ

นับถือ ๆๆ ญาอ้ายมังกรนี้ เดาใจผมถืกไปหมดล่ะเนาะ คือว่าล่ะครับ
แต่กินข้าวกับหมู่อยู่ที่ทำงาน แค้นข้าว หมู่บอกว่า คือบ่ไปกินน้ำ
ก็เลยตอบไปว่า บ่มีผู้ตักให้กิน
หมู่เขาก็เลยตอบมาว่า .........บ่สมควรสิได้กินหรอก น้ำนั้น ....

แนวคนมันเคยติดนิสัยมาเนาะ อิอิ

สาธุการบทความนี้ : 379 ครั้ง
จากสมาชิก : 0 ครั้ง
จากขาจร : 379 ครั้ง

18 มิ.ย. 2553 เวลา 00:55:52

โพสต์โดย

คห.ที่499) [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]

อนุเซียนผู้อมตะ

คุณบ่าวลำชี:
ผู้ได๋เคยฟังเรื่อง บักแหมบ กับอีฮา แหน่ 55555 เว้าให้ฟังแหน่ครับ

พอรู้อยู่ครับ...แต่ถ้าเล่าแล้วมันบ่ผ่านเซ็นเซอร์ครับ ขอผ่านเนาะ...

สาธุการบทความนี้ : 378 ครั้ง
จากสมาชิก : 0 ครั้ง
จากขาจร : 378 ครั้ง

13 มี.ค. 2554 เวลา 06:41:43

โพสต์โดย

89) ลายดนตรี (อีสาน)

คห.ที่24) [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]

อนุเซียนผู้อมตะ

คุณอ้ายโอ๊ต:

คุณจารย์ใหญ่:
ผมว่า การขับ การลำ มันก็ไม่ต่างกันเท่าไรหรอก ต่างกันแต่ชื่อเรียก ลำประเภทต่างๆก็คงจะเกิดมาพร้อมๆกัน นั่นแหล่ะ แรกๆก็คงเป็นการเล่าเรื่องเล่านิทาน หรือสวดอ้อนวอน การอบรมสั่งสอนหรือในพิธีกรรม อาจจะพูดเป็นภาษาธรรมดา ต่อมาก็พูดเป็นกาพย์เป็นกลอน เมื่อมันเป็นกลอนแล้วก็มีการเอื้อนการโอ่ เมือมีการเอื้อนโอ่แล้วก็มีการนำดนตรีเข้าประกอบ..............
...............ที่พระอ่านกลอนนิทานหรือคำสั่งสอนให้พ่อออกแม่ตน (ญาติโยม) ได้ฟัง เป็นการเทศนาสั่งสอนอีกวิธีหนึ่งนอกจากการเทศน์แหล่ แต่ก็คล้ายๆกันนั้นแหล่ะ การลำทุกอย่างแบบดั้งเดิมจะมีแคนประกอบเป็นส่วนมาก ยกเว้น การแหล่ การเทศน์ลำ เพราะว่าผู้แสดงเป็นพระ เห้นด้วยหรือไม่อย่างไร ก็โพสต์มาโสกันเด้อ........ขะน้อย

ข้อแตกต่างของการเทศน์ของพระกับหมอลำคือ หมอลำจะมีการโอ่ ขึ้นก่อน แต่พระจะขึ้นต้นด้วย นโมตัสสะ ฯ ซึ่งเป็นสิ่งที่แตกต่างกันตามจุดประสงค์ในการเทศน์และการลำครับ

ถูกต้องแล้วครับ เห็นด้วย

สาธุการบทความนี้ : 378 ครั้ง
จากสมาชิก : 1 ครั้ง
จากขาจร : 377 ครั้ง

29 ต.ค. 2552 เวลา 20:55:37

โพสต์โดย

1014) อีสานจุฬาพาแลง 2553

คห.ที่174) [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]

อนุเซียนผู้อมตะ

ผูกแขนพี่น้อง ฮักแพงหมั้นยืน

สาธุการบทความนี้ : 375 ครั้ง
จากสมาชิก : 0 ครั้ง
จากขาจร : 375 ครั้ง

28 พ.ย. 2553 เวลา 14:53:55

804) งานนมัสการพระธาตุพนม ประจำปี 2553 : 23 - 31 มกราคม 2553

โพสต์โดย

คห.ที่1) [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]

อนุเซียนผู้อมตะ

สำหรับผม บ้านอยู่กะบ่ใกล้บ่ไกล (มุกดาหาร) แต่กะบ่เคยได้ไปไหว้พระธาตุพนมจักเทื่อครับ หรือว่าบุญบ่ฮอดกะบ่จัก อยากไปอยู่ครับ....

สาธุการบทความนี้ : 372 ครั้ง
จากสมาชิก : 0 ครั้ง
จากขาจร : 372 ครั้ง

12 ม.ค. 2553 เวลา 20:43:00

718) โฮมตุ้มผลงานของอ้ายโอ๊ต

โพสต์โดย

คห.ที่18) ผลงานของทุกท่าน [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]

อนุเซียนผู้อมตะ

ผลงานของอาจารย์กะคักขนาด ของลูกศิษย์ก็ดี แต่ภาพสิออกไปทางสมัยใหม่เนาะ

ถ้ามีอีกกะเอามาให้เบิ่งหลายๆเด้อ

สาธุการบทความนี้ : 371 ครั้ง
จากสมาชิก : 0 ครั้ง
จากขาจร : 371 ครั้ง

10 ต.ค. 2552 เวลา 16:51:55

1) ฟังลายแคนเฒ่าเก่าที่นี่

โพสต์โดย

คห.ที่24) ขอลายแคน [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]

อนุเซียนผู้อมตะ

ถึงญาอ้ายมังกรฯ บ่มีลายแคน ลำภูไท ลำตังหวาย ลำคอนสวรรค์ แหน่บ่ เอามาลงให้ฟังแหน่ หายากครับ
และกะอีกลายหนึ่ง ลายลำเรื่องทำนองกาฬสินธุ์ เคยฟังจากลำเรื่องผาแดงนางไอ่ คณะฟ้าสีคราม หม่วนหลายครับ เสียงแคนกะคัก เท่าที่จำได้ คณะนี้นำโดยพ่อใหญ่ขวัญชัย แสงยศ พิศมัย เพชรลมโชย บุญมี เสียงทอง บ่รู้ว่าคณะนี้ยังอยู่บ่น้อ...

สาธุการบทความนี้ : 365 ครั้ง
จากสมาชิก : 0 ครั้ง
จากขาจร : 365 ครั้ง

21 ธ.ค. 2552 เวลา 02:10:38

โพสต์โดย

734) หมอลำดังในอดีต

คห.ที่0) หมอลำดังในอดีต [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]

อนุเซียนผู้อมตะ

หมอลำดังๆในอดีต เช่น หมอลำคูณ หมอลำเคน หมอลำบุญยัง หมอลำทองคำ หมอลำบุญ

เพ็ง ฯลฯ หมอลำเหล่านี้ เป็นหมอลำที่มีชื่อเสียงทั้งที่ล่วงลับไปและยังมีชีวิตอยู่ ใครพอจะรู้

ว่า นอกจากท่านที่กล่าวมายังมีใครอีกบ้าง ก็เชิญโพสต์มาเล่าสู่กันฟังหน่อยครับ...

หรือจะเป็นคณะหมอลำดังในอดีตก็ได้นะครับ... หมอแคนด้วยก็ดีเด้อ...

สาธุการบทความนี้ : 361 ครั้ง
จากสมาชิก : 0 ครั้ง
จากขาจร : 361 ครั้ง

27 ต.ค. 2552 เวลา 06:19:48

735) เทียบเคียงภาษาลาว-ไทยอีสาน

โพสต์โดย

คห.ที่3) [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]

อนุเซียนผู้อมตะ

ตำอิด ทำอิด-ทีแรก

ขุดไง้ จก-จอบ

ตักไง้-พลั่ว

ไขกองประชุม-เปิดการประชุม

อัดกองประชุม-ปิดการประชุม

มอดเครื่อง-ปิดเครื่อง

อัดสถานี-ปิดสถานี

พัวพัน-ติดต่อ

ซีมัง-ซีเมนต์

กาแลม-ไอติม

เฝอ-ก๊วยเตี๋ยว

หมากบาน-ฟุตบอล

กะต้อ หมากหวาย-ตะกร้อ

ตาหน่าง-ตาข่าย

ประดับประดาเอ้ย้อง-ตกแต่ง

ซิง-ตาชั่ง

แอบ-ฝึกหัด

บัวระบัติ-บำรุง รักษา ปรนนิบัติ

ปัวพยาธิ-รักษาโรค

หล้าหล้า-เฉยๆ

ฮ้านกินดื่ม-ร้านอาหาร คาราโอเกะ

ฯลฯ...

สาธุการบทความนี้ : 361 ครั้ง
จากสมาชิก : 0 ครั้ง
จากขาจร : 361 ครั้ง

30 ต.ค. 2552 เวลา 01:52:35

514) ไปเที่ยวลาว กันดีบ่จ้า

โพสต์โดย

คห.ที่61) [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]

อนุเซียนผู้อมตะ

"จั๊วน้อยอย่าลืมกลับมายามแนเด้อ"
ปานนี้ สิจื่อกันได้บ่น้อ แหม่นได้กลับไปยามเผิ่นจักเทื่อบ่ล่ะ ผู้หนึ่งไปฮอดเกาหลีพู้นน่ะ...

สาธุการบทความนี้ : 358 ครั้ง
จากสมาชิก : 0 ครั้ง
จากขาจร : 358 ครั้ง

02 ม.ค. 2553 เวลา 14:15:46

817) ภาษาถิ่นที่สูญหาย ความตายของวัฒนธรรม

โพสต์โดย

คห.ที่8) [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]

อนุเซียนผู้อมตะ

ผมเห็นว่า คำว่าอีสานนี้ เป็นคำเลี่ยงที่จะเรียกคนในภาคนี้ว่าลาว ซึ่งเป็นการดูถูกหรือมองว่าด้อยกว่า และคำว่าภาษาอีสาน คงมีกำเนิดมาจากสาเหตุนี้ รวมทั้งหลีกเลี่ยงอื่นๆที่จะไม่ใช้ตรงๆ
เรื่องการมองชนชาติอื่นว่าด้อยกว่าตนนี้ เป็นความเชื่อมาแต่อดีต เช่น ฝรั่งชาติตะวันตกมองเอเซียว่าด้อยกว่า จีนสมัยก่อนมองว่า คนอื่นด้อยกว่า ไทยมองลาว เขมร ว่าด้อยกว่า ลาวก็มองว่า พวก ข่า ชาวป่าชาวเขาด้อยกว่า อย่างนี้เป็นต้น
และเหตุผลที่อักษรโบราณอีสาน(ลาว)หรือภาษาลาวอีสาน เสื่อมไปหรือถูกวัฒนธรรมไทยกลืนกินก็เพราะว่า เหตุผลทางด้านการปกครองการรวมเป็นรัฐชาติ
ทำให้นโยบายที่ออกมาเป็นการทำลายวัฒนธรรมท้องถิ่นไปโดยปริยาย....

สาธุการบทความนี้ : 352 ครั้ง
จากสมาชิก : 0 ครั้ง
จากขาจร : 352 ครั้ง

28 ม.ค. 2553 เวลา 14:37:40

โพสต์โดย

89) ลายดนตรี (อีสาน)

คห.ที่37) [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]

อนุเซียนผู้อมตะ

การร้องการลำก็เปลี่ยนไปตามยุคตามสมัย สะท้อนวิถีชีวิตหรือสังคมในยุคต่างๆกัน
แต่ก่อนก็สะท้อนสมัยก่อน สมัยนี้ก็สะท้อนสังคมสมัยนี้ แต่หลักๆใช้เพื่อความบันเทิงหรือสื่อสารเผยแพร่ก็มี พิธีกรรมก็มี

สาธุการบทความนี้ : 346 ครั้ง
จากสมาชิก : 0 ครั้ง
จากขาจร : 346 ครั้ง

29 ก.ย. 2553 เวลา 11:52:29

735) เทียบเคียงภาษาลาว-ไทยอีสาน

โพสต์โดย

คห.ที่0) เทียบเคียงภาษาลาว-ไทยอีสาน [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]

อนุเซียนผู้อมตะ

เทียบเคียงภาษาลาว-ไทย บางคำ

น้ำก้อน-น้ำแข็ง

ฝุ่น-ปุ๋ย

ขี้เหยื่อ-ขยะ

กระตุกซุกยู้-ส่งเสริม

พยาธิ-โรค

พยาธิถอกท้อง-โรคท้องร่วง

ไปถอกท้อง-ไปหนัก

ถือพามาน-ตั้งท้อง

ห้องการ-ที่ทำการ สำนักงาน

สอบเส็ง-สอบไล่

ปัว-รักษา

ฯลฯ เท่าที่คิดได้ตอนนี้ ก็มีเท่านี้ ใครมีคำอื่นๆอีก ก็โพสต์มาให้อ่านแหน่เด้อ....

สาธุการบทความนี้ : 343 ครั้ง
จากสมาชิก : 0 ครั้ง
จากขาจร : 343 ครั้ง

29 ต.ค. 2552 เวลา 23:55:40

โพสต์โดย

757) รำลึกพระคุณพ่อแม่

คห.ที่3) [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]

อนุเซียนผู้อมตะ

อุกาสะ วันทาก้มหมอบ
นบนอบนิ้ว เกล้าเกษเกษา
คุณบิดา  มารดาผู้เลิศ
ผู้ประเสริฐ  เลี้ยงลูกหวังผล

ผู้เกินคณน์ นับคุณเทียมได้
ผู้รักใคร่  ลูกยิ่งชีวี
ผู้ปราณี อบรมสอนลูก
ผู้แปลงปลูก ศีลธรรมอันดี

พระคุณมี ล้ำเลิศเหลือหลาย
ทั้งหญิงชาย จดจำเอาไว้
จงตั้งใจ ทดแทนบุญคุณ
ผู้การุณย์ ต่อลูกบุตรา

สาธุการบทความนี้ : 340 ครั้ง
จากสมาชิก : 0 ครั้ง
จากขาจร : 340 ครั้ง

02 ธ.ค. 2552 เวลา 11:58:28

โพสต์โดย

คห.ที่484) แซมพูปลอม [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]

อนุเซียนผู้อมตะ

ยังมีพ่อใหญ่หนึ่ง เลาไปอาบน้ำในห้องน้ำ ในห้องน้ำกะมีสบู่ยาสีฟันยาสระผม
พอดีมื้อนั้น มีเด็กน้อยมาแล่นเล่นแถวนั้น ห้องน้ำแกกะอยู่นอกบ้านเนาะ เด็กน้อยแล่นเล่นบักลี้ อยู่แถวนั้นโดนเติบ แต่ว่ามีเด็กน้อยผู้หนึ่งขี้ดื้อหลาย มันบีบแซมพูสระผมออกเกือบหมด แล้วกะเหยี่ยวใส่ในขวดแซมพู แล้วกะวางไว้ที่เดิม

บาดนี้พ่อใหญ่เข้ามาอาบน้ำ
ในขณะที่แกบีบยาสระผมมาสระผมนั้น เฮ็ดจั่งใด๋มันกะบ่มีฟอง หรือมีกะมีน้อยบ่คือเก่า แกกะสงสัยอยู่ในใจว่า สงสัยสิแหม่นแซมพูปลอมเนาะ ว่าแล้วกะฮ้องไปบอกเมียว่า

"แซมพูยี้ห้อนี้ เจ้าอย่าซื้อมาใช้เด้อ สงสัยสิเป็นแซมพูปลอม ฟองกะน้อย กลิ่นคือจั่งเหยี่ยวจั่งใด๋บุ"

เลาจ่มแล้วกะบอกเมียเลา ว่าซั้น...............

สาธุการบทความนี้ : 339 ครั้ง
จากสมาชิก : 1 ครั้ง
จากขาจร : 338 ครั้ง

09 ต.ค. 2553 เวลา 00:05:35

817) ภาษาถิ่นที่สูญหาย ความตายของวัฒนธรรม

โพสต์โดย

คห.ที่2) [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]

อนุเซียนผู้อมตะ

แต่ผมว่า ภาษาอีสาน คงไม่ตายง่ายๆหรอกครับ เพราะว่าคนอีสานเราไปอยู่กันทุกที่ทั่วโลกก็ว่าได้ การที่เราไปอยู่ทั่วไปในที่ต่าง ๆ ก็เป็นการเผยแพร่ภาษาไปในตัวด้วยครับ...

สาธุการบทความนี้ : 336 ครั้ง
จากสมาชิก : 0 ครั้ง
จากขาจร : 336 ครั้ง

21 ม.ค. 2553 เวลา 07:41:38