ผญา คติสอนใจประจำวันที่ 29 เมษายน 2568:: อ่านผญา 
อย่าได้กดเขาย้องยอโตผิดฮีต อย่าได้หวีดหวีดเว้าประสงค์ขึ้นข่มเขา แปลว่า อย่าได้อวดอ้างตนว่าดี แต่กดข่มผู้อื่น อย่าได้พูดเอาแต่ดีเข้าตัว ชั่วให้ผู้อื่น หมายถึง ไม่ควรยกตนข่มผู้อื่น


  ล็อกอินเข้าระบบ  
ชื่อ ::
รหัสผ่าน::
*จำสถานะ
 
  รวมมิตรปลาร้านอกไห  
  สวัสดีครับ

     แทบจะไม่มีใครล่วงรู้อย่างลึกซึ้งเลยว่า มีเรื่องราวที่คุณไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่า ในภาคอีสานของประเทศไทยนั้น หลายอย่างมีความเป็นมาอย่างไร หลายอย่างได้เกิดขึ้นแล้วและยังคงอยู่ หลายอย่างเกิดขึ้นแล้ว และได้เลือนลางหายไปแล้วในอดีต เราและทีมงานปลาร้านอกไห จะนำพาคุณผู้ชม จูงมือเดินไปเรียนรู้วิถีชีวิตพื้นบ้านอีสานในแง่มุมต่างๆ เพื่อเปิดโลกทัศน์และมุมมองว่า ทำไมคนภาคอีสานจึงเป็นอย่างนี้ ทำไมต้องใช้ชีวิตกันอย่างนี้ และสิ่งหนึ่งที่จะลืมเสียไม่ได้ก็คือ การสร้างความเป็นไทยที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรม หลากหลายทางเชื้อชาติ หลากหลายประเพณี เพื่อที่เราจะได้เรียนรู้และอยู่ได้กันอย่างสันติ อย่างสงบ ไม่มีความดูถูกเหยียดหยามคนไทยด้วยกันเอง

     ทีมงานปลาร้านอกไห ขอขอบคุณทุกเสียงทุกแรงใจที่มอบให้เรา เราสัญญาว่า เราจะเป็นส่วนหนึ่งที่จะสร้างสรรค์สังคมให้จรรโลงใจ
พร้อมเสมอ
ทีมงานปลาร้านอกไห

กระทู้ธรรมดา... มีข้อความโพสต์ใหม่

  หน้า: 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 22 23 24 25 26 27 28 29 30 31 ตอบกระทู้  
  โพสต์โดย  
สารานุกรม แมงไม้ ใน อีสาน (คลิกอ่านบทความต่อเนื่อง)
 
  ลุ่มดอนไข่    คห.ที่204)  
  อนุเซียน

ภูมิลำเนา : บึงกาฬ - หนองคาย
สมาชิกภาพ : สมาชิกทั่วไป
เข้าร่วม : 15 มิ.ย. 2553
รวมโพสต์ : 1,601
ให้สาธุการ : 2,855
รับสาธุการ : 4,226,460
รวม: 4,229,315 สาธุการ

 
ตอนเป็นเด็กน้อยเลี้ยงควาย...ตามประสาเด็กน้อย
เคยสร้างกรรมไว้ยู่คับ
จับแมงแคงได้กะหักขาโป้งออกเคิ่งขา
เด็ดเอาก้านดอกหญ้าคาเสียบ....
หล่ะกะป่อยให้บิน คับ

 
 
สาธุการบทความนี้ : 441 ครั้ง
ให้สาธุการบทความนี้
 
 
  05 ก.ค. 2555 เวลา 12:51:08  
    MySite  offline ติดต่อหลังเวที ติดต่อโดยเมล์ ตอบอ้างอิง  
 
  ลุ่มดอนไข่    คห.ที่205)  
  อนุเซียน

ภูมิลำเนา : บึงกาฬ - หนองคาย
สมาชิกภาพ : สมาชิกทั่วไป
เข้าร่วม : 15 มิ.ย. 2553
รวมโพสต์ : 1,601
ให้สาธุการ : 2,855
รับสาธุการ : 4,226,460
รวม: 4,229,315 สาธุการ

 
คุณป้าหน่อย:
                                        ผักโคกกระออม( ทางอุบลฯเอิ้นผักสะไหล่น้ำ)
คุณลุ่มดอนไข่:
คุณป้าหน่อย:
เอาผักลูบลีบ ( ผักสะไหล่น้ำ )หย่องๆ เอาน้ำถูทา ๆ
มันสิย้าน แล้วบินหนี คือแมงหมี่่ บ่อฮึ


เป็นต้นจั่งได๋ครับป้า
อันนี่กะ...เฮาก่อนเคยได้ยินคือกันครับ....


ผักลูบลีบ ผักแมงหวี, ผักสะไหล่น้ำ
บ้านไผเอิ้่นแนวได๋ เว้าสูฟังแหน่ ที่แน่ๆ กินกับลาบเป็ด แซ่บบักคัก


ขอบคุณคับป้า
ขั่นหว่าผักกระออมฮู้จักยู่คับ

 
 
สาธุการบทความนี้ : 458 ครั้ง
ให้สาธุการบทความนี้
 
 
  05 ก.ค. 2555 เวลา 12:54:23  
    MySite  offline ติดต่อหลังเวที ติดต่อโดยเมล์ ตอบอ้างอิง  
 
  ป้าหน่อย    คห.ที่206)  
  เซียน

ภูมิลำเนา : อุบลราชธานี
สมาชิกภาพ : สมาชิกทั่วไป
เข้าร่วม : 05 ธ.ค. 2552
รวมโพสต์ : 2,169
ให้สาธุการ : 3,415
รับสาธุการ : 5,166,790
รวม: 5,170,205 สาธุการ

 
คุณลุ่มดอนไข่:
คุณป้าหน่อย:
                                        ผักโคกกระออม( ทางอุบลฯเอิ้นผักสะไหล่น้ำ)
คุณลุ่มดอนไข่:
คุณป้าหน่อย:
เอาผักลูบลีบ ( ผักสะไหล่น้ำ )หย่องๆ เอาน้ำถูทา ๆ
มันสิย้าน แล้วบินหนี คือแมงหมี่่ บ่อฮึ


เป็นต้นจั่งได๋ครับป้า
อันนี่กะ...เฮาก่อนเคยได้ยินคือกันครับ....


ผักลูบลีบ ผักแมงหวี, ผักสะไหล่น้ำ
บ้านไผเอิ้่นแนวได๋ เว้าสูฟังแหน่ ที่แน่ๆ กินกับลาบเป็ด แซ่บบักคัก


ขอบคุณคับป้า
ขั่นหว่าผักกระออมฮู้จักยู่คับ


เขาเอิ้นว่า ผักโคกกระออม เด้ ล่ะ

 
 
สาธุการบทความนี้ : 329 ครั้ง
ให้สาธุการบทความนี้
 
 
  05 ก.ค. 2555 เวลา 15:02:13  
      offline ติดต่อหลังเวที ติดต่อโดยเมล์ ตอบอ้างอิง  
 
  ปิ่นลม    คห.ที่207)  
  เซียน

ภูมิลำเนา : สกลนคร
สมาชิกภาพ : สมาชิกชมรมฯ
เข้าร่วม : 16 มี.ค. 2553
รวมโพสต์ : 2,213
ให้สาธุการ : 180
รับสาธุการ : 5,444,640
รวม: 5,444,820 สาธุการ

 
คุณป้าหน่อย:
ป้าคือบ่อเคยกิน คั่วมาฝากแหน่เปี๋ยงหยัง บ่าวปิ่น


ทางบ้านจารย์ใหญ่ มีหลายครับ  ส่วนทางบ้านผม "โม่ม" เบิ๊ดแล้ว บ่พอฝากพี่น้องจ้อย

 
 
สาธุการบทความนี้ : 341 ครั้ง
ให้สาธุการบทความนี้
 
 
  05 ก.ค. 2555 เวลา 16:14:08  
      offline ติดต่อหลังเวที ติดต่อโดยเมล์ ตอบอ้างอิง  
 
  จารย์ใหญ่    คห.ที่208)  
  อนุเซียนผู้อมตะ

ภูมิลำเนา : มุกดาหาร
สมาชิกภาพ : สมาชิกทั่วไป
เข้าร่วม : 13 ก.ย. 2552
รวมโพสต์ : 5,168
ให้สาธุการ : 3,230
รับสาธุการ : 9,881,800
รวม: 9,885,030 สาธุการ

 
คุณปิ่นลม:
คุณป้าหน่อย:
ป้าคือบ่อเคยกิน คั่วมาฝากแหน่เปี๋ยงหยัง บ่าวปิ่น


ทางบ้านจารย์ใหญ่ มีหลายครับ  ส่วนทางบ้านผม "โม่ม" เบิ๊ดแล้ว บ่พอฝากพี่น้องจ้อย


ทางนี้กะ "โม่ม" หมดเเล้วคือกัน

 
 
สาธุการบทความนี้ : 343 ครั้ง
ให้สาธุการบทความนี้
 
 
  05 ก.ค. 2555 เวลา 23:02:05  
      offline ติดต่อหลังเวที ติดต่อโดยเมล์ ตอบอ้างอิง  
 
  ป้าหน่อย    คห.ที่209)  
  เซียน

ภูมิลำเนา : อุบลราชธานี
สมาชิกภาพ : สมาชิกทั่วไป
เข้าร่วม : 05 ธ.ค. 2552
รวมโพสต์ : 2,169
ให้สาธุการ : 3,415
รับสาธุการ : 5,166,790
รวม: 5,170,205 สาธุการ

 
คุณจารย์ใหญ่:
คุณปิ่นลม:
คุณป้าหน่อย:
ป้าคือบ่อเคยกิน คั่วมาฝากแหน่เปี๋ยงหยัง บ่าวปิ่น


ทางบ้านจารย์ใหญ่ มีหลายครับ  ส่วนทางบ้านผม "โม่ม" เบิ๊ดแล้ว บ่พอฝากพี่น้องจ้อย


ทางนี้กะ "โม่ม" หมดเเล้วคือกัน


ป้าเคยกินแต่ล่ะงัม กับ แมงก้องแขน ฮู้จั๊กบ่อล่ะ
ผู้ได๋บ่อฮู้จัก ย้อนกลับไปอ่านตั้งแต่ต้น ฮ่าๆๆๆ

 
 
สาธุการบทความนี้ : 491 ครั้ง
ให้สาธุการบทความนี้
 
 
  06 ก.ค. 2555 เวลา 19:21:39  
      offline ติดต่อหลังเวที ติดต่อโดยเมล์ ตอบอ้างอิง  
 
  ปิ่นลม    คห.ที่210) แมงดา  
  เซียน

ภูมิลำเนา : สกลนคร
สมาชิกภาพ : สมาชิกชมรมฯ
เข้าร่วม : 16 มี.ค. 2553
รวมโพสต์ : 2,213
ให้สาธุการ : 180
รับสาธุการ : 5,444,640
รวม: 5,444,820 สาธุการ

 



ขอบคุณเจ้าของภาพ  ตาม URL ในภาพครับ


ชื่อภาษาไทย    แมลงดานา
ชื่อท้องถิ่น          แมงดา
วิทยาศาสตร์ Lethocerus indicus Lep.-Serv.
ชื่อสามัญ Giant water bug
ชื่อชั้น Insecta
อันดับ Hemiptera
ชื่อวงศ์ Belostomatidae

ลักษณะทางกายภาพ



แมลงดานาเป็นจำพวกมวนน้ำที่มีขนาดใหญ่ที่สุด ตัวโตเต็มที่มีขนาดประมาณ 3-4 นิ้ว ตัวผู้มีขนาดเล็กกว่าตัวเมีย
มีลำตัวยาวเป็นรูปไข่ ด้านท้อง และทางด้านหลังมีลักษณะแบน หัวสีน้ำตาลแก่ปนเขียว ตาลสีดำ

จากประสบการณ์ งมแมงดา ตามท้องไร่ท้องนามา กว่า 15 หยก ๆ  16 หย่อน ๆ  ในประเทศไทย มีแมงดานาอยู่ 3 ชนิด
แมงดานา ชนิดสีน้ำตาลดำ  ชนิดขอบปีก ลาย   และแมงดาปีกทอง
ชนิดที่เราเห็นจนชินตา คือ ชนิดสีน้ำตาลดำ พวกนี้ตัวใหญ่ที่สุด  ชนิดขอบปีกลาย คือ มีลายที่ขอบของปีก ตัวเล็กที่สุด
ในจำนวนทั้งหมด  ส่วนชนิดสุดท้ายคือแมงดาปีกทอง  คือมีสีออกเหลือง ๆ ไม่มีลายที่ขา เรียกได้ว่า แมงดาปีกทอง
มีกลิ่น หอมที่สุดในบรรดาแมงดาทั้งหมด  แต่หาได้ยาก


ปากเป็นแบบเจาะดูด ลักษณะเป็นท่อยาวออกมาจากด้านหน้าของส่วนหัว และเก็บซ่อนไว้ด้านล่างของหัว
ปลายปากมีลักษณะคล้ายหนามแหลม ภาษาอีสานเรียกว่า “ไล” ใช้แทงเข้าไปในร่างกายเหยื่อแล้ว
ฉีดเอนไซม์ เยื่อเนื้อเหยื่อเพื่อดูดกินน้ำเหลวๆในตัวเหยื่อ อาหารของแมลงดานา ได้แก่ ลูกกบ ลูกอ๊อด  
หรือ ฮวก ในภาษาอีสาน ลูกอึ่งอ่าง ปู ปลา กุ้ง เขียด และแมลงน้ำต่างๆ


ภาพการกินเหยื่อของแมงดา


วงจรชีวิต
แมงดาเจริญเติบโตแบบ การลอกคราบ (moulting, ecdysis)  หรือ การเจริญเติบโตแบบไม่มีการเปลี่ยนแปลงรูปร่าง
(ametabola, non-metamorphosis)  แมงดานา มีอายุขัย ประมาณ 1.5 ปี ไม่นับพวกที่โชคร้าย เจอฤาษีใหญ่ ผู้บูชาไฟ
“ตึกแห” หรือ งมเอาไปกิน  ตัวนั้นอายุไขไม่นาน เพราะโดน “หักไล”  
เมื่อต้นฤดูฝน แมงดาที่อุ้มท้องจะตระเวนหาแหล่งน้ำที่เหมาะสมในการวางไข่  โดยจะอาศัยความมืดบินเสาะหาแหล่งน้ำ
เมื่อตาประกอบของมัน แลเห็น พื้นน้ำ “ขาวมาบ ๆ “ ด้วยสะท้อนกับแสงจันทร์  จึงพุ่งเข้าหาเต็มแรง เต็มสปีด
“ ปัง..!.”
“ เป้ง.....ปัง  ปุ๊ก  ปุก ปุก ! “   แมงนาท้องแก่ถึงกับ สลบไสล
นึกว่าพุ่งเข้าหาพื้นน้ำ ที่แท้ชนกับ หลังคา สังกะสี 5 ห่วง ของจารย์ใหญ่ ที่เพิ่งซื้อมาจากอำเภอมามุงเสร็จหมาดๆ อย่างจัง
เหตุการณ์เช่นนี้มักเกิดประจำเมื่อต้นฤดูฝน  โดยเฉพาะเมื่อเรามุงหลังคาเถียงนาใหม่ๆ สังกะสี ยังขาววับ

ครับ แมงดามักบินหาแหล่งน้ำใหม่อยู่เสมอ โดยมากจะเดินทางในเวลากลางคืน  เพราะเมื่อแสงกระทบตามัน
จะทำให้มันสับสนเรื่องทิศทาง  ปฏิกิริยาจะกระตุ้นให้มันหันหน้าเข้าหาแสงทันที



เอ้านอกเรื่องมานานแล้ว เข้าเรื่องต่อดีกว่าเนาะ

แมงดานับตั้งแต่ออกจากไข่ มันจะลอกคราบ 5 ครั้งเพื่อเติบโตเป็นตัวเต็มวัย มีรูปร่างไม่ต่างจากพ่อแม่
ตัวเมียวางไข่ในช่วงต้นของฤดูฝน วางไข่ตัวหนึ่งประมาณ 150 ฟอง  โดยจะวางไข่ตามยอดหญ้า ที่สูงพ้นน้ำ
เมื่อวางไข่เสร็จ จะผลัดกันเผ้าไข่ กับตัวผู้ที่จับคู่กัน  ใครว่าแมงดาตัวผู้ไม่มีความรับผิดชอบนั้น ผิดถนัดเลยครับ
ใช้เวลาประมาณ 2 อาทิตย์ ก็จะฟักเป็นตัว  


ภาพลูกแมงดาออกจากไข่

แมงดานาที่จะการลอกคราบเพื่อเติบโตประมาณ 5 ครั้ง คือ ครั้งแรกเมื่อมีอายุได้ 2 สัปดาห์
ครั้งที่สองหลังจากนี้ประมาณ 5-7 วัน และอีกเท่า ๆกัน สำหรับการลอกคราบครั้งที่ 3-4 และ5
ใช้เวลา ประมาณ 1 เดือน เป็นตัวโตเหมือนพ่อแม่  มีอายุตราบวายชนม์ได้ 1 ปี กว่า ๆ


ภาพการลอกคราบแต่ละครั้ง ก่อนเต็มวัย

แมงดาตัวผู้ผลิตสารที่มีกลิ่นฉุน  สำหรับมนุษย์ผู้กินแมงดาแล้ว ช่างมีกลิ่นหอมยวนใจ
สารที่มีกลิ่นน่าจับมากินนี้ เป็น สื่อในการหาคู่ของมันครับ  แมงดาตัวผู้ จะมีกลิ่น “ ฮ๊อก”
ส่วนตัวเมียไม่มี  เด้อ แมงดาในภาคอีสาน วางไข่ ปีละ 1 ครั้ง ในช่วงต้นฤดูฝน
ส่วนในภาคกลาง ชุ่มน้ำมากกว่าทางอีสาน จึงวางไข่ได้ 2 ฤดู คือ ต้น พ.ค. และ เดือน ต.ค.
ปัจจุบัน เทคโนโลยีการเกษตร ก้าวหน้า มีการ นำเอาแมงดานา มาเลี้ยงเป็นสัตว์เศรษฐกิจ
เนื่องจาก แมงดา ในธรรมชาตินั้นหายาก พอๆ กับคนที่มีใจเสียสละ



ความเกี่ยวเนื่องกับวิถีอีสาน
ในฤดูลงนา หรือ แรกแย้มแห่งวสันต์  ฝนตกมา พืชต่าง ๆ ก็งอกเงย  ในท่งนามีน้ำขัง “เอ๊าะเจ๊าะ
ตามต้นหญ้า พุ่มไม้ปริ่มน้ำตามท้องนา มักจะพบเห็น ไข่แมงดา  โผล่เหนือน้ำ
ว่าแล้ว ก็ หา “งมแมงดา” เพื่อทำแจ่วแมงดากินเป็นอาหาร  คนอีสานกับแมลง
มีความสัมพันธ์ในการบริโภคค่อนข้างมาก  และเป็นอาหารที่หาได้แทบทุกฤดู

บางรายลงทุกแบกแห “หาตึกแมงดา”  เพราะความแซบของแมงอันนี้  บ้างก็อาศัยช่วงว่าง
จาการไถนาฮุด หาส่อนแมงดา นำไปแจ่วใส่ กบเขียด แซบบ่มีแนวคือ

เมื่อตะวันลงลา ยอดไม้เย็นย่ำ ม่านเมฆด้านตะวันตก แซมสีเหลืองส้มแดง
ผักกะแยงบ่งยอดใหม่ แวมไหวในม่านน้ำ  เขียดจะนาน้อย ลอยคอ พรรณนาความเมื่อยยาก
ควันไฟโรยจากคิงไฟเถียงนาเนิ้ง  เสียงโขลกตำอาหารบ้านทุ่ง หอมกลิ่นแมงดาเจืออัสดง

เหนื่อยล้าปนหิวหอด ดังทิพรส แต้มเติม “ป่นแมงดาใส่เขียดน้อย” ให้เป็นอาหารเลิศล้ำ
จ้ำแจ่วคำได๋  วิญญาณเจือจางในสายลมร่ำทุ่ง   จนหลงลืมในจริต............

 
 
สาธุการบทความนี้ : 569 ครั้ง
ให้สาธุการบทความนี้
 
 
  13 ก.ค. 2555 เวลา 18:22:30  
      offline ติดต่อหลังเวที ติดต่อโดยเมล์ ตอบอ้างอิง  
 
  มังกรเดียวดาย    คห.ที่211)  
  มหาเซียน

ภูมิลำเนา : ขอนแก่น
สมาชิกภาพ : สมาชิกชมรมฯ
เข้าร่วม : 03 มี.ค. 2550
รวมโพสต์ : 3,640
ให้สาธุการ : 8,145
รับสาธุการ : 6,184,200
รวม: 6,192,345 สาธุการ

 
ฟังเว้าแล้ว กะคิดฮอดแจ่วพริกดิบใส่แมงดาเนาะ
เอาพริกดิบหน่วยพอท่าวๆ (บ่เอาพริกไทยเด้อ) เสียบไม้ขางไฟพอสุกหอมห่่วนๆ ตำแจ่วใส่แมงดา เนาะ.. ข้าวเหนียวฮ้อนๆคุ้ยบาดหนิ.. บ๋า....

 
 
สาธุการบทความนี้ : 397 ครั้ง
ให้สาธุการบทความนี้
 
 
  13 ก.ค. 2555 เวลา 19:15:30  
  www    offline ติดต่อหลังเวที ติดต่อโดยเมล์ ตอบอ้างอิง  
 
  ลุ่มดอนไข่    คห.ที่212)  
  อนุเซียน

ภูมิลำเนา : บึงกาฬ - หนองคาย
สมาชิกภาพ : สมาชิกทั่วไป
เข้าร่วม : 15 มิ.ย. 2553
รวมโพสต์ : 1,601
ให้สาธุการ : 2,855
รับสาธุการ : 4,226,460
รวม: 4,229,315 สาธุการ

 
คึดพ้อ...เป็นเด็กน้อย
ฮอดยามนี่...พวมไถนาฮุด(ตามประสาเด็กน้อยหว่า)
หน้าที่เด็กน้อยเลี้ยงควายจั่งผู่ข้ากะมีสิโอกาสหางมแมงดา
สังเกตุขั่นมีไข่แมดายู่ตามติดไม้ ใบหญ้หม่องได๋
กะสิมีโตแมงดามุดน้ำซุ่มโตยู่แถวนั้นหล่ะ
ยามงมแมงดา ต้องระวัง"ไล"เป็นพิเศษ
เพราะหว่าขั่นถีกตอดกะปวดคักน้องๆถืกเงี่ยงปลาดุกปักพุ้นแหล่ว...

 
 
สาธุการบทความนี้ : 386 ครั้ง
ให้สาธุการบทความนี้
 
 
  13 ก.ค. 2555 เวลา 19:39:29  
    MySite  offline ติดต่อหลังเวที ติดต่อโดยเมล์ ตอบอ้างอิง  
 
  บ่าวภูไท เมิงสกล    คห.ที่213)  
  ศิษย์ใหม่ไร้วรยุทธ์

ภูมิลำเนา : สกลนคร
สมาชิกภาพ : สมาชิกทั่วไป
เข้าร่วม : 22 ก.ย. 2553
รวมโพสต์ : 6
ให้สาธุการ : 10
รับสาธุการ : 6,340
รวม: 6,350 สาธุการ

 
โอ้ย อันแมงดานี้บ่ถืกกันคักเด้อคับ ผิดกะบูร ได้กลิ่นแล้วปวดหัว แต่กะมักไปงมไปส่อนยุคับ บ่กินกะหาให่ผุอื่นกิน 555

 
 
สาธุการบทความนี้ : 444 ครั้ง
ให้สาธุการบทความนี้
 
 
  13 ก.ค. 2555 เวลา 20:33:18  
      offline ติดต่อหลังเวที ติดต่อโดยเมล์ ตอบอ้างอิง  
 
  ปราร้านอกไห   ตอบเต็มรูปแบบ || Quick Reply  
  หน้า: 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 22 23 24 25 26 27 28 29 30 31

   

Creative Commons License
สารานุกรม แมงไม้ ใน อีสาน --- ปลาร้านอกไห (ปลาร้านอกไห --- อีสานจุฬาฯ)