ผญา คติสอนใจประจำวันที่ 26 เมษายน 2568:: อ่านผญา 
หมากส้มมอ ไปคาคอมั่ง มั่งบ่ขี้ สามมื้อกระต่ายตาย แปลว่า ลูกสมอไปติดคอละมั่ง ละมั่งไม่ขี้สามวัน กระต่ายตาย หมายถึง เหตุหนึ่งอย่าง อาจนำไปสู่ผลหลายๆ อย่าง ดังนั้น พึงระมัดระวังการกระทำของเราเอง


  ล็อกอินเข้าระบบ  
ชื่อ ::
รหัสผ่าน::
*จำสถานะ
 
  รวมมิตรปลาร้านอกไห  
  สวัสดีครับ

     แทบจะไม่มีใครล่วงรู้อย่างลึกซึ้งเลยว่า มีเรื่องราวที่คุณไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่า ในภาคอีสานของประเทศไทยนั้น หลายอย่างมีความเป็นมาอย่างไร หลายอย่างได้เกิดขึ้นแล้วและยังคงอยู่ หลายอย่างเกิดขึ้นแล้ว และได้เลือนลางหายไปแล้วในอดีต เราและทีมงานปลาร้านอกไห จะนำพาคุณผู้ชม จูงมือเดินไปเรียนรู้วิถีชีวิตพื้นบ้านอีสานในแง่มุมต่างๆ เพื่อเปิดโลกทัศน์และมุมมองว่า ทำไมคนภาคอีสานจึงเป็นอย่างนี้ ทำไมต้องใช้ชีวิตกันอย่างนี้ และสิ่งหนึ่งที่จะลืมเสียไม่ได้ก็คือ การสร้างความเป็นไทยที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรม หลากหลายทางเชื้อชาติ หลากหลายประเพณี เพื่อที่เราจะได้เรียนรู้และอยู่ได้กันอย่างสันติ อย่างสงบ ไม่มีความดูถูกเหยียดหยามคนไทยด้วยกันเอง

     ทีมงานปลาร้านอกไห ขอขอบคุณทุกเสียงทุกแรงใจที่มอบให้เรา เราสัญญาว่า เราจะเป็นส่วนหนึ่งที่จะสร้างสรรค์สังคมให้จรรโลงใจ
พร้อมเสมอ
ทีมงานปลาร้านอกไห

กระทู้ธรรมดา... มีข้อความโพสต์ใหม่

  หน้า: 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 22 23 24 25 26 27 28 29 30 31 32 33 34 35 36 37 38 39 40 41 42 43 44 ตอบกระทู้  
  โพสต์โดย  
เซิญแต่งนิทาน เรื่อง กุดจี่เบ้า โดยการเขียนกลอนแบบ เทียมแอก (คลิกอ่านบทความต่อเนื่อง)
 
  มังกรเดียวดาย    คห.ที่51) ท้าวเบ้าคำ.. (เอาตั้งแต่ต้นมารวมไว้ให้อ่าน)  
  มหาเซียน

ภูมิลำเนา : ขอนแก่น
สมาชิกภาพ : สมาชิกชมรมฯ
เข้าร่วม : 03 มี.ค. 2550
รวมโพสต์ : 3,640
ให้สาธุการ : 8,145
รับสาธุการ : 6,180,650
รวม: 6,188,795 สาธุการ

 


บัดนั้น ยังมีกุดจี่เบ้าโตหนึ่งพวมแวง     เนาในขวยดินแดงค่ำแลงนอนแล้ง   ................. ( ต้องแล่ง )
ผืนดินแห้งระเหยแหงทุกแห่ง    แสงแดดฮ้อนทนเอ้าอดเอา
แลงและเซ้าพักเซาหายเซ่า     กุดจี่เบ้าบ่ายหน้าสู่นา ............................( มังกรเดียวดาย )
ควยซ้างม้าไปไสมันว่า     บินจนล้าทังไกล้และไกล
ลุล่วงได้เข้าสู่ยามแลง       สุริโยแสงค่ำแลงยามแล้ง
แยงเมือบ้านเทิงเหงาท้องเปล่า   กุดจี่เบ้าใจเศร้าบ่เซา  ....................................( ต้องแล่ง )

แสนสิอุกอั่งเอ้าเอ้าอั่งในมโน             กุดจี่โสกาดูรคะนิงคำคุณค้ำ
คิดฮอดยามยังน้อยปู่สอนสารสั่ง       มื้อข้างหน้างัวควายม้าบ่มา
มื้อข้างหน้าท่งนาสิแปนเปล่า             หลานสิเอาหยังซ่นหลบส้นสืบสนธิ์
สิบ่มีหม่องม่นหมองหม่นทนทุกข์       สิอุกอั่งในใจหอดหิวโหยหิ้ว
ผิวลมตึงพัดต้องใบตองเอนอ่วย       ใบหญ้านวยนาดน้วยนาแล้งค่ำแลง
กุดจี่ท้องขอดแห้งกลับต่าวคืนขวย     กายโซเซขาราปีก-ล้า
อนิจจามื้อนี้โชคบ่หมานขอพักก่อน     นอนพักเซาซอดเซ้าให้หายล้าปีก-รา ........( มังกรเดียวดาย )

ทุกข์ย้อนล้าอดสากะพออยู่      ทุกข์บ่มีคู่ซ้อนซอนซู้ซ่อยซู
บุญบ่ยู้ให้ซายอยู่นอนเดียว     เทียวแต่ในสงสารดั่งเวรบ่มีเว้น
มีแต่เข็ญไปหน้าซาตาตกต่ำ    ทุกค่ำเช้าเทียวค้นย่านคน
มันหากจนใจข่อยกำพลอยใจผ่อย    กุดจี่น้อยคอยแล้งค่ำแลง    ............................ ( ต้องแล่ง )

อรุณแสงสางขึ้นข้ามคืนเข้ามื้อใหม่         กุดจี่ใจต่อตั้งเพียรสู้บ่อดสู
จิตหากคิดฮ่ำฮู้ออกจากฮูแสวงโชค       เทียวโลกกว้างภายพื้นทั่วผืน
ความขมขื่นข่มไว้ในใจอดไว้ก่อน           บินจากจรดั้นด้นผันผ่ายสู่ภาย
จรจากไกลเมืองบ้านเฮือนซานขวยขอด   ฮอดท่งกว้างนาข้าวเขตเขา
จึงได้เซาพักยั้งกายังให้หายเมื่อย         หลบใต้เฟือยฟางแห้งแงงหน้าเบิ่งนา
ถึงสิอิดอ่อนล้าโรยราหิวหอด             ถึงสิคิดฮอดบ้านขวยซ้นกะบ่สน
แล้วจึงออกสืบค้นนำท่งใหญ่นาทาม     จนพ้อผืนดินงามหากหลายแลงนอนแล้ง
แงงไปหน้าเห็นนาทามท่งใหญ่           ฝูงงัวควายกินหญ้ากะโหล่งก้องก่ายกอง
กุดจี่มองเห็นแล้วใจแววซมซื่น             สมใจบืนต่อสู้บินด้นเหิงดน
จึงรีบซอนซอกซ้นกองขี้งัวพวมสดใหม่       เสพเสวยแซบซ้อยจนอิ่มแป้ท้องแป ..........( มังกรเดียวดาย )


มันหากสุขคักแท้ลื่นโลกเมืองคน      คือสิจนบ่เป็นเข็ญหายบ่มีฮ้าย
สุขซำบายในเนื้อกายาเหมิดเมื่อย     ออกจากเฟือยล่วงเล่นเข็นเบ้าบ่เบา
ใจนั่นคิดฮอดเจ้าอยากเอาฝากพอพัน     ขนจนมันเต็มเกวียนบ่เบาแสนเบ้า
คึดอยากพาน้องเข้าพาขวัญป้อนไข่หน่วย   กล้วยและอ้อยทั้งส้มชื่นชม   ..........................( ต้องแล่ง )

ความสุขสมต่ำใต้ต้องไต่พากเพียร         จั่งสิเวียน-วนพบพ้อทางป่องท้าง
เยื้องบาทย่างก้าวหย่างบ่เซาหยุด         แสนสมุทรล้านนทีวอดเวรวายเว้น
เห็นจั่งกุดจี่เบ้าหนักเบาบ่เว้าจ่ม         พากเพียรก้มหน้าสู้บ่มีซู้ซ่อยซู
กุดจี่ได้ฮ่ำฮู้เหตุแห่งสมหวัง                ความเพียรคือพลังถักทอหายท้อ
ท้าวก็บินเลาะเล่นตระเวนเลาดอนเหล่า   หาหม่องเซาพักซ้นฮ่ำฮู้สืบฮู ......................( มังกรเดียวดาย )

ลุล่วงเข้าเถิงเขตยามวสันต์   ฝนตกฮำฮวยไหลใส่ดงแดนด้าว
ทาวทวยขึ้นในดงป่งใหม่    สรรพมวลหมู่ไม้ในดงซ้างป่าซาง
มันหากพากันอ้างดวงดอกมาลา หอมบุปผาเส็งแสงแข่งจันทร์จวนจั้น
นิทานฟังพวมฝั่นหันไปทางใหม่   กุดจี่ไฮ้พวมสิเว้นส่วงเวร

หล่านางเอ้ย อดสาฟังเบิ่งถ่อนอย่าฟ้าวหนีเมือนอนสาวน้อยอย่าฟ้าวหน่าย    
ยังอีกหลายกว่าเค้าเถิงเซ้าจั่งค่อยเซา

ยามนั้น ยังมีนาทามก้วงเฮียกซื่อหนองแสง    แม่นว่าแยงทางใด๋กะใหญ่ปานกุลาฮ้อง
มันหากปองเป็นเจ้าตนหลวงกุดจี่ใหญ่      ฝูงสนมข้าใช้พอฮ้อยแห่ฮอย
น้อยนาถน้อง-องค์เอกมเหสี      จักว่ามีเวรหยังจั่งด่วนไกลบ่มีไกล้
ป๋าให้มันนอนแล้งโตเดียวจนลูกใหญ่    เป็นพ่อหม้ายนอนแล้งค่ำแลง  
มีแฮงกายสำบายเนื้อทางใจหากอุกอั่ง    อนิจจังบ่เที่ยงแท้ทางหน้าสิเบิ่งนา
วาสนากุดจี่เบ้าบ่มีฮอดบุตตา    ไผสิมาหล่ำแยงสืบนาไปหน้า
คันหากบุญผลาสิ้นไลสินทิ่มปล่อย    บุตรีน้อยไปหน้าสิสืบนา  ได้รือ  

ลุล่วงเข้าฮอดยามไก่ขันกก      มวลหมู่สกุณานกดั่งกลองขันก้อง
ส่วนว่าเคหาห้องเตียงทองห้องใหญ่    ขาหน้าซ้ายก่ายหน้าบ่นอน
ค่อนสิแจ้งแยงเบิ่งหมู่สาวสนม    พากันงัวเงียนอนดั่งเดียวกับม้อน
ออนซอนบุตรีหล่าแพงตาน้อยอ่อน     ย้อนนางขาดคู่ซ้อนพ่อกะฮ้อนฮ่ำฮอน

กล่าวถึงกุดจี่หล่าแพงตาสลอนท่าว    ใหญ่เป็นสาวส่ำน้อยอ่อยฮ่อยหน้าคู่นา
ย้อนว่าเป็นกำพร้าพรากแม่มารดา     พระบิดาจั่งแพงดั่งตาสองก้ำ
เพิ่นหากนำฝูงข้าทาสาสนมท่าว      กับทั้งพระพี่เลี้ยงเฮียงหน้าหมู่หนา
ปานอยู่ในแดนฟ้าทิพย์เสพเทิงงัน     จั่งแม่นมันม่วนหลายบ่เบาเข็ญเบ้า
คันว่าเถิงยามเซ้าแพงตาสิเฝ้าพ่อ     พ้อหน้าเจ้ายามเซ้าจั่งค่อยเซา
ฟ้าวฮีบถ่อนเอื้อยหมู่สาวสนม     มันสิสวยเพลงายแดดหนาไปหน้า
เฮามาพากันย้ายพอดีแดดอ่อน    สาวสลอนออกหน้าพาดั้นด่วนเดิน .................. ( ต้องแล่ง )  


พากันเหยาะย่างเยิ้นย้ายย่างยอเยาะ   เลี้ยวลัดเลาะป่องฮูแหนฮู้
มุ่งหน้าสู่โผ่งกว้างเวียงวังฮูใหญ่         ทรามวัยน้อยนาถหล้าเถิงหม่องหล่ำมอง
สองมือนบนอบนิ้วประนมกรไหว้พ่อ     ขอให้บิดาเจ้าหายเว้นห่างเวร
มื้อนี้ลูกอยากไปเลาะเล่นตระเวนพอให้หายเบื่อ   พอให้หายฮ้อนเนื้อมโนข่ายผ่อนคลาย
ลูกบ่ไปไกลหม่องเขตปกครองของพ่อ   ขอให้บิดาไท้เห็นใจข่อยผู้คอย    เด้อพ่อเด้อ  

พ่อจึงออยเอาลูกบุตรีที่ฮักยิ่ง         มิ่งขวัญแก้วมณีค่าอนัคฆา
ไล้ลูบหน้าถึงกระหม่อมจอมเศียร     หลูโตนนางกรรมพากำพร้า
น้ำตาซึมหยาดย้อยฮวยฮดในมโน   โศกาดูรบ่วายทนไว้
คันแม่นแม่แก่นไท้เยาวมานยังอยู่     คงอิดูบุตรีน้อยคอยเว้าดังกาเวา

พ่อจึงวาจาเว้าสาส์นสั่งบุตรี           กรรมเวรมีแล่นมาคือม้า
ปาปังฮ้ายปุญญาผลาส่ง             กรรมแล่นต้องนำค้นสู่คน
ไล่นำก้นปานก่นหาปู                   ซอกซอนหานำฮูปานฮู้
ผู้สิหนีกรรมเว้นม้างเวรยากยิ่ง         เห็นแต่พุทโธเจ้าผู้เพิ่นเว้นม้างเวร
มันหากเป็นแนวนี้ธรรมดาสัตว์โลก     เป็นแนวนี้แลงเซ้าบ่เซา
กุดจี่เบ้าจั่งเฮาอดสาอยู่                 อาศัยฮูโผ่งน้อยคอยซ้นสืบซนม์
อดสาทนก้มหน้าขุดฮูโผ่งใหญ่         เพื่ออาศัยหลบลี้หลีกเว้นห่างเวร

เย็นทั่วก้ำเขตคามอาณาพ่อ           เย็นศิระปกเกล้าทั่วหน้าผืนนา
ชาวประชาทั่วค่ายอยู่สบายซมซื่น     บ่มีเหตุเดือดฮ้อนภัยฮ้ายห่างหาย
แต่ว่าใจลูกนี้ฮ้อนฮนกระวนฮ่วน       จึงได้ชวนเอื้อยน้องสนมหล่ามาล่ำลา   ซั่นดอกพ่อ

คันจั่งซั้น เอาจั่งซี้ เด้อลูกเด้อ
พ่ออนุญาตให้ลูกหล่าแพงตาของพ่อ   ไปหาเที่ยวเลาะเล่นท่งใกล้บ่ไกล
พวกคนใซ้สนมท่าวสาวถึก               ให้พากันติดตามป้องภัยผันพ่าย
ให้สบายคีงเนื้อมโนในใจซมซื่น       แล้วจึงคืนสู่บ้านตะวันค้อยค่ำคอย   ........( มังกรเดียวดาย )

ขอให้ลูกอ่อนน้อยฟังคำอย่าค่ำ         ไปนำทางเลาะเลี้ยวเทียวเข้าหว่างเขา
ตามใจเจ้าชมมาลาดวงดอก             ฝูงหมู่มวลแมกไม้ตามห่อมดวงหอม
ซอมดูดวงบานบ้างตามทางเลาะท้าง ให้เจ้าหวางเวรพ้นตามต้นต่อตน
อย่าได้เฮฮนฮ้อนให้สะออนลูกอ่อน     พ่อก็วอนว่อนเว้าบอกให้ฮ่ำไฮ

บัดนี้ได้กล่าวลูกบุตรี               กุดจี่ฟังฮับวาจาว่าจ้า
ข้าขอจดจำไว้ฟังคำพ่อสั่ง         ตามแต่ความพ่อบอกจำได้บ่ไล
ลูกสิไปใกล้ใกล้ชมไพรพร้อมไพร่   ไปหาชมด่านด้าวดงก้วงเบิ่งกวง
ว่าแล้วหล่วงดุ่งดั้นเดินดงพงป่า   อกอุราลูกหล้าหายล้าห่างลา


นับแต่มาชมไม้ชมไพรพร้อมไพร่       ก็หากไปเรื่อยเรื่อยกลายใกล้ห่างไกล
เลยเล่าไปถึงห้องแดนใดบ่ฮู้ห่อม     ได้แต่ซอมหมู่ไม้ไปหน้าดงหนา
จนเวลาล่วงได้ตาวันสิลับล่วง           ปวงสนมหนุ่มน้อยก็คอยค้อยค่ำคอย
คันสิถอยคืนโค้งหากหลงด้าวด่านดง   คงเป็นเวรบาปเจ้ากุดจี่พ้อบ่พอ

ไกลล่ะนอคราวนี้บิดาตนพ่อ               ลูกขอเอิ้นสั่งเจ้าอยู่กลางด้าวหมู่ดาว
คราวนี้มืดค่ำแล้วสินอนม้องบ่อนหมอง ย้านบ่คองคืนแล้วหลงป่าเลากลางเหล่า
ลูกบ่ฟังเชื่อเจ้าความข้ามบ่ขาม         ยามนี้ตกทุกข์ได้เฮโฮฮ้องโห่
โตนี้ซวยคักแท้ไผเด้สิซ่อย             ไผสิคอยซ่อยแก้นางน้องเนตรนอง..............( จารย์ใหญ่ )    

ยินเสียงลมพานต้องใบตองฮ้องโห่       โฮฮ่ำฮ้องโหยไห้ฮ่ำไฮ
ยินเสียงลมพานไม้ใบไผ่ใจหวิว           หวิวระทมโทยทุกข์จ่อมใจจีไจ้
ยินเสียงลมพานไม้คือใจสิแตกแล่ง       คือดั่งใจสิแตกแม้งโหยแห้งหอดแหง
คำแพงน้อยนาถหล่าแพงตาของอีพ่อ     ตั้งหน้าสู้บ่ท้อเถิงเซ้าพักเซา

กล่าวถึงกุดจี่เบ้าอีกโตหนุ่มพวมแวง     นิสัยชอบสำแดงเดชตนแต่ต้น
คนเขาเอิ้นอันธพาลนักเลงใหญ่           ลุแก่ใจตนตั้งใจร้ายจังไร
ท้าวได้บินกลายใกล้เถิงไพรดงไผ่      ได้ยินเสียงสะอื้นไห้ไผทุกข์ฮ้อนฮ่ำฮอน
ซอนตาจ้องเมียงมองตามเหล่า         ได้พบเห็นกุดจี่เบ้าคำแพงน้องเนตรนอง
คิดหมายปองเป็นซู้ซูซอนนอนฮ่วม       จึงบินกวมทับน้องด้วยแฮงกล้าดั่งกา

น้อยนาถหล่าผวาตื่นใจตะหนก           โฮเฮเสียงตะกุยดินพ่องดิ้น
หวังสิบินขึ้นฟ้าถลาไลหนีไกลห่าง       แต่แฮงนางมีน้อยเพียรพ้นบ่เป็นผล
จนใจแหล่วกรรมหยังน้อสังน้าวจ่อง     สังซ้ำเติมอีน้องให้หมองเศร้าบ่เซา
ดิ้นเร่าเร่าส่งเสียงลอยซ่อยข้อยแหน่     น่าหลูโตนแท้แท้คำแพงไห้ฮ่ำไฮ

ท่านผู้ฟังเอ้ย แพงตาฮ้องฮ่ำไห้  อันธพาลสิขืนใจ  เฮ็ดจั่งได๋สิพ้นผ่าน
ขอผู้ฟังทุกๆท่าน ติดตามบั้นหม่องออนซอน

หล่านางเอ้ย   อดสาฟังเอาถ่อน  อย่าฟ้าวหนีเมือนอน  อย่าฟ้าวแหนงอย่าฟ้าวหน่าย
ฟังพี่ซายสิจาเว้าจนเถิงเซ้าจั่งค่อยเซา

บัดนี้ กล่าวถึงกุดจี่เบ้าผู้พระเอกพวมแวง   สุริโยแสงค่ำคอยคีค้อย
ท้าวก็บินอิ่นอ้อยอ้อยอิ่นชมไพร           ปีกโผผินบินกายมาใกล้
ได้ยินเสียงเฮไห้ฮ่ำไฮซ่อยข้อยแหน่       ท้าวจึงแวล่องเลี้ยวเหลียวหม่องหล่ำมอง ........... ( มังกรเดียวดาย )

ท้าวก็เหลียวเห็นน้องมองมาบ่เป็นท่า   จักหาทางซ่อยซ้วนให้หายเว้นส่วงเวร
จึงได้ผันผายเต้นทะยานกายเข้าใส่       ม้างผ่าได้นำป้องซ่อยปอง
ฟังเสียงเตะต่อยต้องตามต่อตีนเตะ       เละสาเดอมึงเดอบักจังไฮคนไฮ้
มึงส่างทำลงได้บักเวรชาติชั่ว             สังบ่กลัวบาปฮ้ายทำได้จั่งได๋

ไววาถ้อนให้มึงหนีเว้นหลีก         ผีกจากนี้ทันทีจากที่
ต่อแต่นี้ให้เซาถ้อนอย่ากระทำ     ให้มึงจำจื่อแท้เฮาบอกได้อย่าไล
คันว่าไปภายหน้าเซาสาท้าวส่า     หากว่าทำอีกนั้นกูสิฆ่าตายคา
เทื่อนี้บุญนาเนื้อของมึงยังอยู่       กูบอกไว้คราวนี้ปราณี   ..............................(จารย์ใหญ่ )  

ส่วนว่ากุดจี่เบ้าพาโลโตใหญ่     มันหากไขปากต้านคำห้วนตอบกวน
มันว่าฝูงข่อยข้าของกูมีมาก      หากกูหวิดมื้อนี้มึงบ่ม้มมิดตม  
สมใจแล้วเป็นทีมึงมันว่า      ขอให้ฟ้าวฮีบฆ่ากูนี้บ่หนี
อิทธิพลของกูนี่เทวายังส่า   อย่าให้ฮอดมื้อหน้าสินำเมี้ยนฮอดเฮียน      

ส่วนว่าท้าวกำพร้าจาตอบควมมัน     มึงอย่าหาญมาคิดต่อกรกูถ่อน
บ่ออนซอนพอดี้ความมึงเว้าใหญ่     ไสหัวไปมื้อนี้อย่าสอนหน้าอยู่นา
แม่นสิพ้อมื้อหน้าบ่มีดอกความขาม     พยายามลงไปกะแหลกแหลวกินแห้ว
ท้าวว่าแล้วทางตีนกะถีบส่ง    อันธพาลใหญ่ฟ้งเด็นเข้าป่าเลา  .......( ต้องแล่ง )

มันก็เอาตนได้หายหนีเสียจาก   ฝากแต่แค้นเอาไว้สินำล้างเมื่อหลัง
ก็หากฝังใจเคียดทางในคึดต่อ   กูสิขอนำแก้คราวหน้าก่อนนา
มามื้อนี้เสียชัยถืกไล่               เจ็บในใจเคียดแค้นสินำท้วงตามทวง
สินำลวงนำล่อติดต่อตามติด       หมายมาเอาชีวิตสิบ่ไลมึงได้

บัดนี้พรรณนาให้ผญายาวพวมหย่าว     ฟังเด้อชาวพี่น้องผู้คอยคองความค่อง
ฟังทำนองแต่เค้าผญาเฮาแต่ครั้งเก่า     เว้าไปหลายย้านมันเยิ้นฟังนิทานนอท่าน
เอานิทานพื้นบ้านมาขานเว้าสู่ฟัง         หันมากล่าวอีกครั้งเว้าจี้กุดจี่
อันบุตรีองค์พระพ่อพญาได้หลุดพ้น       หนีจากมวลมารฮ้ายหวิดเว้นส่วงเวร

ก็หากเป็นนำท้าวบาบ่าวคนหาญ     หากนำมาซ่อยต้านมารฮ้ายห่างหาย
อวนองค์อ้ายกุดจี่เบ้าหล่อเหลา       ก็หากมีวาจาต้านถามคราวถึงข่าว
บาบุญเจ้านางน้องใจต้องต่อกัน     เป็นแต่สายแนนเกื้อสิเป็นชู้ซ่อยชู
เป็นนำบุญส่งยู้โฉมเฉลาทั้งคู่         สิได้เฮียงอยู่ซ้อนแนนเค้าคู่เขา  ...................( จารย์ใหญ่ )

นับแต่บาคานท้าวสบเนตรแพงตา   แนนนำพาจ่องในใจกระสันแสนชั้น
คือจั่งฟานถืกบ้วงนายพรานดิ้นดั่น    อย่าได้ฝันหลูดบ้วงเคียนแน่นแห่งแถน
แม่นเป็นบุพเพสร้างสองโตปางก่อน    บ่ห่อนหลุดดรอดบ้วงแถนห่างสู่ทาง
สร้างฮ่วมไว้บุญญาแสนชาติ     คาดคู่แล้วบ่หอนกั้นดั่งกัน   ..........................( ต้องแล่ง )

ว่าท่อนั้นสิพากันกลับต่าว             นำเอานวลนาถน้องคืนบ้านเบิกบาน
ท้าวก็นำความต้านทูลพญาองค์พ่อ   ขอเอาคำแพงล้านเป็นเมียซ้อนอยู่ซอน
เลยเล่าวอนวานไหว้ไขคำเว้าต่อ     พ่อพระเจ้าก็ชมเชยเว้าเอ่ย
มาเป็นเขยพ่อถ้อนดูกรบอกก่อน       เจ้าผู้คำก่ำก้อนก็ชมนายบ่หน่าย

ดีใจหลายลื่นล้นคนนี้มักแฮง           จึงได้แจงบอกแจ้งวันมื้อสิแต่งดอง
ให้เจ้าคืนเมือห้องนำทองของฝาก   ค่าดองหลายมากล้นมาต้อนพ่อเดอ
ท้าวก็รับว่าเอ้อโดยคำฮับพากย์       สิขอจากพ่อเจ้าสบายบ้างอยู่หวาง
วางลงแล้วขอลากลับต่าว             ท้าวก็ลาพ่อเจ้าให้รอข่าวคอยคราว.................( จารย์ใหญ่ )

ควมที่รับว่าเอ้อต่อพ่อแพงตา     ลูกสินำทองมาค่าดองของน้อง
ในใจหมองเหลือล้นแนวคนทุกข์ขมอด      คำฮอดฮ้อยสิหาได้จั่งใด๋
อุกในใจคราวนี้ไผนอสิไขซ่อย    กุดจี่น้อยใจเศร้าบ่เซา
แลงซอดเซ้านอนเซาบ่หายเซ่า    กุดจี่เบ้าคือไฟเอ้าอูดเอา

หกวันเข้าคนเหงาเอ้าอั่ง     ชลเนตรหลั่งย้อยคอยอ้ายบ่าวพี่ซาย
สัญญาไว้เจ็ดวันอ้ายสิต่าว    ป๋าคนเหงาถิ่มไว้ใจฝั่นห่างฝัน
คันเจ้าคิดฮอดอ้ายให้แนมเบิ่งจันทรา    อ้ายอย่าลืมคำจาได้ส่ำหูคนฮู้
ตู๋หลูหน้าแพงตาคิ้วก่อง    ได้แต่คองคอยอ้ายใจฝั่นเบิ่งจันทร์  ................( ต้องแล่ง )

ผู้ฟังเอ้ย    โจ๋บทบั้นควมนิทานไว้นี่ก่อน   บทสะออนแฮ่งจั้นกระสันห่าวอย่าหาว
บ่ซอดเซ้าอย่าได้ต่าวเมือนอน     บาดว่าตอนหน้าพู้นยังสิก้วงกว่าหลัง

กล่าวถึง  อินทาไท้จอมธรรมเทวราช    เนาอยู่ผาสาทก้วงเทิงชั้นอยู่สวรรค์
วันคืนค้อยเพลาผันผ่าย    หลายปีเข้าเนาค่ายอยู่สบาย
งายแลงเซ้าเสวยโภชน์แนวทิพย์    มโหรีบรรเลงเสพงันเทิงซั้น
สาวสวรรค์พร้อมทาสาหลายหลาก     คำมากล้นแสนตื้อโลกลือ
ทุกเผ่าเซื้อแนวหมู่สรรพสัตว์         อินทาแนมส่องเวรบ่มีเว้น
เข็ญหรือฮ้ายเฮโฮฮ้อนฮ่ำ            พระหล่ำเยี่ยมแนมพื้นทั่วผืน.......... ( ต้องแล่ง )

มื้อนี้มืนตาได้แยงลงโลกหลุ่ม เห็นหมู่ชุมส่ำเชื้อคนหลายแตกหล่าย  นับมื้อแต่ขี้หล้ายไปหน้ากว่าเดิม
มองเห็นคนก่อเริ่มแตกฝ่ายหลายภาย      ความฮ้อนตายฉิบหายสิเกิดมีในโลก
จักได้เกิดโศกเศร้าไฟเผาล้างเผ่า      ย้อนว่าชุมหมู่เจ้าบ่ฟังแท้ต่อกัน
มันก็ยึดถือหมั้นบ่ยอมกันกล้ากลั่น       วันเวลานับมื้อเมืองบ้านวุ่นวาย
ย้อนหลายคนหลายอ้างถือเอาคนอย่าง     ต่างว่าโตก็ถูกแท้ความเห็นนั้นว่าจริง พระก็หลิงดูแล้วสิซ่อยได้จั่งได๋
ใจเอยมนุษย์น้อยถอยลงทางต่ำ       จำต้องทำกลล่อพอสิเตือนให้ฮู้เหงื่อน
ปีเดือนนับมื้อจ้อสังเทียวส้อวุ่นวาย    ความตายนำแขวนข้องสังบ่ฮู้เมื่อตน

คนก็คนกันแท้หลายหลวงคนหล่วง    มีทั้งลวงหลอกล่อลมลายล้มหล่าย  หลายแต่ลมจาเว้าบ่มียั้งต่อหยัง
ทำให้ชังกันขึ้นวันคืนขมขื่น          (คืนและมื้อจาจ้ำต่อคำ) .....( จารย์ใหญ่ )

พระล่ำเยี่ยมเคียมท่งหนองแสง      แงงเบิ่งทางเขตผาเคียมฟ้า
เชิงผาล้านเขตเขาดอนเหล่า     ล่วงเขตเข้าดงไม้เบิ่งไพร        
พระจึ่งได้ฮู้เหตุความทุกข์           อุกทางในฮ้อนแฮงเห็นแจ้ง
หลายขวบแล้งเทวบุตรองค์อาจ    เชื้อชาติท้าวกุดจี่เบ้าอยู่เลา ......... ( ต้องแล่ง )

กุดจี่เบ้าโตหนุ่มพวมแวง                  พวมสิแปงทางฮักตามแนนจ่องแน่น
แนนจ่องน้าวสาวมาพวมหม่อ             พ้อหนามเสี้ยนคาข่องค่าดอง
ทองคำมากมวลหมู่มณีนิล                 ทั้งสินทรัพย์โภคภัณฑ์ขวางกั้น
สายแนนจั้นจ่องนำนี้หน่ำ                  บุญกรรมสร้างภายพุ้นบ่สูญ
บุญสร้างไว้ให้เคียงคู่แพงตา              วาสนาให้ฮ่วมหมอนเคียงซ้อน
ให้ได้นอนเคียงฮ่วมแพงตาทุกทุกชาติ  ท้าวเคยปรารถนาไว้ในครั้งเก่าหลัง

เอาล่ะ..
เฮาต้องซ่อยถางท้างแปงทางให้เกี้ยงม่อน  ซ่อยถูถอนหนามเสี้ยนให้เนียนเกี้ยงหล่ำเพียง.. ก่อนนา (มังกรเดียวดาย)

ว่าแล้วได้อินทาเทวราช                ยุรยาตรเยื้องบ่ายหน้าสู่นา
เหาะเหิรฟ้าลอยมาแว่งแว่ง            แปลงเป็นกุดจี่เฒ่าเข็นเบ้าบ่เบา
ปากก็เว้าครวญโอดและโอย          วัยเฮาโรยชราขาราพ่องล้า
อนิจจาคนเฒ่าลูกหลานสังป๋าปล่อย  คนชราจั่งข่อยทนไฮ้ฮ่ำไฮ

กุดจี่หนุ่มคนไฮ้กลายมาฮู้ฮ่อม         ดอมโดยด้วยเข็นเบ้าบ่เบา
เบ้าน้อยน้อยธรรมดาเข็นง่าย          เบ้านี้หมายเข็นกลิ้งผัดหยุดนิ่งบ่ติง
ท้าวก็พากเพียรกลิ้งเข็นอยู่หลายวัน  อัศจรรย์ใจหลายเข็นไปบ่มีได้
กุดจี่เฒ่าฮ้องฮ่ำไห้สงสารยายผู้รออยู่    ปานนี้ยายยอดซู้คงโหยหิ้วหอดหิว

ท้าวจึงนบนอบนิ้วขันแบกอาสา      ล่วงหน้าไปหายายผู้ฮ่ำไฮโหยไห้
ท้าวก็หยุมเอาได้โคมัยสดใหม่      บินบ่ายตามคำชี้กุดจี่เฒ่าผู้พักเซา
ผ่านนาข้าวถึงดงเลาดอนเหล่า        กุดจี่เบ้าก็เห็นโผ่งเป็นโพรง
ท้าวก็ลงไปฮอดห้องพักยายตา        เห็นยายผู้ชราอ่อนแฮงโหยแห้ง
ท้าวจัดแจงอาหารให้ยายกินพออิ่ม    แล้วจึงลายายเฒ่าไปเข็นเบ้าบ่เบา

กุดจี่เบ้ากำพร้าหนุ่มพวมแวง         อาศัยแฮงฉกรรจ์ไปไวบินไหว่
ไวฟั่งฟ้าวเฒ่าชราคงรออยู่              คิดฮ่ำฮู้เข็นเบ้าซ่อยเลา
เบ้าเคยน้อยกลับกลายเป็นเบ้าใหญ่   เบ้านี้หมายเข็นกลิ้งคงหยุดนิ่งบ่ติง
พอท้าวออกแฮงกลิ้งผัดเข็นเบากลิ้งง่าย   อัศจรรย์ใจหลาย เข็นไปไวแท้แท้เข็นได้จั่งได๋ ......( มังกรเดียวดาย )

อัศจรรย์ใจโอ้โงหัวสิถามเบิ่ง          เบ้าอันน้อยสังใหญ่ได้จั่งได๋
ทันใดนั้นมัวมืดกลบแสง               แงงดงเลาอูดแฮงเซาแจ้ง
คือดั่งแสงสูรย์สิ้นควันมัวมืดทั่ว    กุดจี่มั่วคลำเบ้าบ่เซา
คราวหนึ่งพ้นควันมืดเซาจาง         แสงสางทองสาดมาแฮงกล้า
แมงชราเฒ่ากลับเซากลายเพศ      เป็นอินทเรศเจ้าเขียวเหย่าทั่วเลา    
ส่วนว่าเบ้าอันใหญ่แนมเห็น           ก็หากเป็นเบ้าคำโลกลือแสนตื้อ
ทอแสงเหลื่อมใสงามระยับยิ่ง        พรายส่องแจ้งแงงเข้าทั่วเขา  ......... ( ต้องแล่ง )

อินทาเจ้าจึงวาจาต้านสั่ง      กุสลังตนเจ้ากุดจี่เบ้าบ่เบา
กุสลังที่เจ้าสร้างก่อในบุพเพ   ประดุจดั่งทะเลหนุนนำคือน้ำ
ทองคำนี้มณีนิลล้ำค่า           ย่อนบุญญาของเจ้าจึงเสกได้ดั่งใจ
ให้เจ้านำไปใช้เป็นสินสอดค่าดอง    ขอหญิงปองปานใจมโนมัยหมายไว้
ขอเทพไท้บารมีป้องฮ่ม        ให้เจ้าสมมาดแม้นมโนมั่นสู่อัน
เว้าส่ำนั้นอินทาก็ลาหล่ำ       เหาะเหิรขึ้นวิมานซั้นแดนสวรรค์

บัดนี้ ตัดเข้าสู่บ่อนบั้นอันธพาลกุดจี่หนุ่ม         สุมความแค้นดั่งไฟเอ้าอูดเอา
ได้ยินข่าวกุดจี่เบ้าคู่แค้นเก่าเป็นเศรษฐี   มีมณีนิลคำล่ำลือแสนตื้อ
แฮ่งกระพือความแค้นแสนสูนเอ้าอั่ง       ทั้งสมุนฮ่ำฮ้ายบ่ายหน้าสู่นา
หวังสิพากันปล้นมณีคำล้ำค่า               ให้มันจนไปหน้าทุกข์ไฮ้ฮ่ำไฮ
กูต้องได้เกิดเป็นใหญ่ในนา                 สิขโมยทองมาสร้างทางป่องท้าง
ไปขอนางนาถหล่าแพงตามาซ้อนบ่อน   นอนฮ่วมห้องคำแพงน้องต่อสอง
แล้วจึงปองเป็นเจ้าราชาแห่งกุดจี่        ได้การล่ะบาดนี้สมุนข้อยอย่าถอย.. ( มังกรเดียวดาย )

นี่ละน้อพุทโธเจ้าตรัสบ่อนมงคล       คนพาโลอย่าได้กายเคียมใกล้
เสวนาจพาลานังให้พาโตตกต่ำ     อันธพาลซ่ำเชื้อแนวใฮ้จังไฮ
บัณฑิตาพู้นจั่งแม่นควรคบ          โคดมสอนโผดผายกำจัดฮ้าย
โลกาก้วงคนหลายหมู่ใหญ่         ไลหลีกพ้นแนวฮ้ายห่างไกล

พอแต่มันว่าแล้วเกณฑ์ใหญ่โยธา   สมุนเอ้ยให้รีบมาอย่ามีช้า
ให้สูพากันเต้าฝูงแมงแฮงมาก      น้อยหนุ่มเน้าซุมนั้นหมู่ฉกรรจ์
พร้อมพ่ำแล้วมันขึ้นสู่เทิงเกย       เข็ญวาจาปลูกขวัญซุมนั้น
มันว่าเฮ็ดงานนี้สิเสร็จดีโดยง่าย         หงายพลิกนิ้วปานนั้นดั่งกัน  พู้นแหล่ว ..........  ( ต้องแล่ง )

ตะวันค้อยหลบเหลี่ยมโลกา         จันทาเพ็งสาดแสงนวลแจ้ง
แมงกำพร้านอนหลับอ้อยอิ่น         แมงฝูงฮ้ายหมายปล้นดั่งโจร
พากันขนเข็นเบ้าทองคำก้อนใหญ่   สมุนหลายบ่แพ้เข็นได้กะบ่ไป
พากันไง้พากันกื่งเหมิดคืน            ลืนลืนเสียงก่ายกองดังก้อง
ลองเหมิดแล้ววิธีได๋กะบ่เตื่อง        เบ้าทองคำบ่เตื้องหยุดนิ่งบ่ติง
เหมิดแฮงกลิ้งสมุนเซาพักเซ่า        อรุณเซ้าตะวันแจ้งสาดแสง

แมงกำพร้าตื่นนอนสดซื่น             ได้ยินลืนลืนก้องเสียงฮ้องแหบหอง
ตาแนมจ้องหลิงหล่ำแลเหลียว       เห็นโยธามากมายแซมไม้
พากันไง้ทองคำเบ้าใหญ่              สมุนหลายกะด้อเข็นไง้กะบ่ไหว
ท้าวจึงได้บินเหยียบเบ้าคำ           วาจาเสียงก้องนาทั่วหน้า

จงฟังข้าฟังก่อนเด้อสู                     หมู่บาปกรรมฝูงเวรควรเว้น
เวรบาปฮ้ายปาปังทำง่าย                ผลผัดฮ้ายฮนฮ้อนฮ่ำฮอน
ให้เดือดฮ้อนแก่ผู้ทำกรรม                นำก้นเฮาแผดเผาแลงเซ้า
ซุมหมู่เจ้าเซาถ่อนอย่าทำ                ผละกรรมดังเงาเทียมเหง่า
เซาสาถ่อนเซื่อคำเฮาว่า                  เวรบาปกล้าสิได้ห่างไกล
อันความจนทุกข์ไฮ้เข็ญใจต้อยต่ำ       ย่อนเวรกรรมบาปฮ้ายทำไว้แต่ได๋
ไผผู้ทำดีไว้สร้างก่อบุญกุศล              ผละบุญมากมีสืบนำคูณค้ำ
จึงควรทำดีไว้สร้างแต่ดีเด้อหมู่           สูสิได้ฮ่ำฮู้บุญสิยู้ซ่อยซู
เบิ่งแต่กูนั่นถ่อนกลายเป็นเศรษฐีใหญ่   มีเบ้าคำเสกได้เข็นไง้กะบ่ไป
เป็นย่อนบุญกูได้สร้างก่อความดี         จึงได้เป็นเศรษฐีมั่งมีวันนี้
มณีนิลแก้วเงินคำล้ำค่า                    องค์อินทาเสกให้ขโมยได้จั่งได๋
กูบ่ให้แม่นไผกะตามซ่าง                  บ่อาจหลอยเอาได้เข็นไง้กะบ่ไป
คันกูอยากเข็นไง้หากเข็นไปโดยง่าย    ใช้กำลังหน่อยหน่อยเข็นเบ้าแสนเบา

เว้าส่ำนั้นกุดจี่หนุ่มพวมแวง             หวังสำแดงเดชตนจึงโผคืนยังพื้น
ยอมือขึ้นเข็นคำเบ้าใหญ่                เบ้าก็ไหวเบากลิ้งดั่งเบ้าแสนเบา
กุดจี่เบ้าฝูงหมู่อันธพาล                  เห็นเหตุการณ์อัศจรรย์จึงอ่อนใจจีไจ้
แมงฝูงฮ้ายฟังคำคิดฮ่ำ                  ฮิ่นตรองคำกำพร้าก็เห็นแจ้งดั่งแจง ...... ( มังกรเดียวดาย )

แมงฝูงฮ้ายสมุนใหญ่อันธพาล             ยอมือก้มกราบกรานขอขมาหาญกล้า
ตนตูข้าพลั้งไปบ่ฮู้ฮ่อม                     ยอมศิโรราบแล้วอภัยข้อยผู้พลอย
ขอติดสอยตามส้นบัวระบาตเป็นสมุน     สั่งสมบุญกุศลสร้างความดีแต่นี้
เฮ็ดดีไว้สิได้ดีดั่งท่านว่า                   ผลาผลบุญนี้สิส่งยู้ซ่อยซู

แต่นั้น กุดจี่ได้ฮ่ำฮู้ฮิ่นตรองทางธรรม    น้อมนำมาสู่ตนโผดผายเวรพ่าย
ฝูงโหดฮ้ายหายจากใจเกลี้ยงหล่อย     มีแต่ดีอ้อยต้อยเวรฮ้ายหอดหาย
ท้าวกำพร้าได้สมุนใหม่มากมี             สมศักดิ์แห่งเศรษฐีผู้มีธรรมคุณค้ำ
ท้าวได้นำสมุนท้าวสร้างความดีสืบต่อ   เลาะหากุดจี่เฒ่าตามเบ้าดอนเลา
แลงและเซ้าเฝ้าส่งอาหาร                 ทำสักการบัวระบัตฝูงชราปีก-ล้า
ฝูงชรากุดจี่เฒ่าได้ส่วงเหงาหายหง่วม  ย่อนความดีกุดจี่เบ้าจึงหายเศร้าส่วงเซา ..( มังกรเดียวดาย )

กุดจี้ท้าวสร้างก่อปุญแปง          ฝูงแมงทุกข์อยู่สบายทั้งค่าย
โตได๋ไฮ้เฮฮนฮ้อนฮ่ำ               ท้าวล่ำเยี่ยมเถิงโผ่งฮอดโพรง
ทั่วเขตแคว้นฝูงราษฏร์ยอเยิน      สรรเสริญบาเกิ่งบิดรดับฮ้อน
ออนซอนท้าวพลนิกรยอยิ่ง         เป็นมิ่งแก้วธรรมค้ำหน่อคำ  
นับแต่บาคานท้าวครองซุมตุ้มไพร่      เคียมดงไม้นาข้าวเขตเขา
หลายขวบเข้าเซาเลาดงเหล่า          เนาอยู่ยั้งทั้งค่ายอยู่สบาย  .......... (ต้องแล่ง)

พี่น้องเอ้ย    ความดีนี้บ่ควรละลืมไล  ความดีนี้บ่ควรไกลเหินห่าง   ความดีควรแปงสร้างสั่งสมไว้ให้เต็มไห
กายมอดไหม้ความดีบ่หมองหม่น          คือดั่งคำค่าล้ำบ่หมองมั่วมืดมัว
ไผทำชั่วพาตัวตกต่ำ                        เวรกรรมฮ้ายคอยจ้องตามจอง
คือจั่งด่องไหมลืบไก่เต๋ม้างหมุ่น           ไหมคาข่องคาค้องตามจอง    สาแหลว

บัดนี้ หันมาเว้าถึงแพงตาน้อยอ่อน          แลงค่ำเซ้าคอยท้าวหง่วมเหงา
คิดฮอดท้าวบาบ่าวคนฮัก                    ท้าวหากมีมานะสร้างตนแต่ต้น
ได้ยินคนเขาย้องได้ยินคนเขาส่า            บาบ่าวท้าวพวมสร้างแปงทาง
สางความจนทุกข์ไฮ้เข็ญใจให้หายหอด   สางความขมอดไฮ้ให้หายเว้นส่วงเวร
กลายเป็นเศรษฐีท้าวเบ้าคำใหญ่พรพระอินทร์     มีมณีนิลคำโลกลือแสนตื้อ
คนส่าลือขานเอิ้น “ท้าวเบ้าคำ” เกิดนามใหม่      คิดฮอดหลายคิดฮอดเจ้าเบ้าคำท้าวบ่ส่วงเซา

เดือนดาวแจ้งแยงมาแสงส่อง        ลมพัดต้องใบหญ้าดงหนา
ปูนาน้อยหอยนาแลหล่ำ              เขียดฮ่ำฮ้องเสียงก้องดั่งกลอง
จ่านาฮ้องหาคู่ตามคู                   ฝูงงูปลาเลียบไลแนวไม้
งูไซเลื้อยหากินดมกลิ่น                ฝูงหมู่ฮิ้นบินต้อมพ่องตอม
ฝูงดาวล้อมแสงส่องยังนา            กาเหว่าวอนอิ่นออนออดอ้อน
นอนสาหล่าแพงตาน้องพี่              เสียงลมพัดหวี่หวี่มาคือเสียงพี่เอิ้นหาน้องผู้หล่ำมอง ............... (มังกรเดียวดาย)

ตกบทไกลฟังจารย์ใหญ่ไปเด้อป้า     ผมยังมากล่าวเว้านำเจ้าบ่เซา
เอาผลงานขนานแท้แวมาฝากน้องพี่   เรื่องกุดจี่หน่วยเบ้าคอยเฝ้าอ่านเอา
ในนิทานกำลังเข้าบทมันพวมกลั่น      มีหลายตอนบ่อนบั้นให้คอยจ้องหล่ำมอง
บ่อนใดกลอนบ่คล่องทำนองบ่ข่อง     ขอให้ปองซ่อยป้องลงเพิ่มซ่อยเติม

คุณต้องแล่งเป็นผู้เริ่มเว้าก่อนเขียนกลอน     แสนออนซอนนำเจ้าเอาผญาพาว่า
ผู้มาซอนต่อบั้นบทนั้นบ่แหม่นไผ              หากแหม่นอ้ายใหญ่แท้ผู้คอยแก้หล่ำแล
เทียวมาเขียนกลอนแก้แปลต่อคำขยาย      ชื่อมังกรเดียวดายพี่ชายอวนอ้าย
เฮียมข้านี้ก็เขียนนำลงหน่ำ                     ท้าวเบ้าคำสิต่อเรื่องนำเพิ่มค่อยเสริม

หันมาเติมต่อเรื่องในนิทานนอท่าน      กุดจี่เนาอยู่บ้านหลายวันนานพ้นผ่าน
กาลเวลาล่วงได้หัวใจมันคิดต่อ          คิดอยากไปกล่าวเว้าขอเจ้าแต่งเอา
ปานนี้โฉมเฉลาน้องสิคิดนำเช้าค่ำ       คิดฮอดชายพี่อ้ายหายหน้าบ่มา
ท้าวจึงวาจาต้านบริวารพวกไพร่         สมุนใหญ่น้อยไปเมืองน้องแต่งดอง

แต่งเอานางเมือนอนห้องนครทองงามข่อง    อ้ายคู่น้องให้ลือเลื่องฮุ่งเฮือง
ให้ไทเมืองเขาย้องสองเฮาเคียงคู่              อยู่สืบสร้างเมืองบ้านชื่นบาน
สุขสำราญไปหน้าชาวพาราน้อยใหญ่           ภัยเหตุฮ้ายบ่มีใกล้ห่างไกล
แสนสิดีใจท้าวสิเดินทางฟ้าวย่าง                มันก็ห่างแห่งห้องเมืองน้องให้ย่างไว........(จารย์ใหญ่)

ลีลาย้ายยาวโยชน์เป็นขบวน          มวลแมงกุดม่วนกลองดังก้อง
เสียงเฮฮ้องเหมิดหมองย่างคล่อง     แงงสู่ห้องเมืองน้องผู้คอง
คะนองหนุ่มเน้าเย้าหยอกหยิกสาว    ชาวแมงสุขม่วนยินเวรสิ้น
ยินสะนูฮ่าวเหมันต์อกสั่น             จิตกระสันสั่นเนื้อคนิงน้องผู้คอง  
ฝูงชะนีฮ้องก้องกูกแนวไพร               ยินดังไกลลอดไพรแนวไม้
ลมพานไม้ใบตองเอนอ่วย               นวยนาดน้วยตองกล้วยเอ่นกวย
อ่วยล่วงเข้าเหมันต์หนาวสั่น              มันฮ่ำฮ้องแนมจ้องคู่ครอง
อ้ายนั้นคิดฮอดหล่าแพงตาคิ้วก่อง       จั่งสิไปฮอดห้องบ่ให้น้องเนตรนอง....... (ต้องแล่ง)

เสียงเฮฮ้องเฮโฮฮ้องโห่                มโหรีจ้าวปี่แป้อีแอ
แอะแอ่นฟ้อนย้อนแอ่นเสสรวล         ขบวนปี่ไนไต่ขอนลำฟ้อน
ออนซอนเจ้าเขยหลวงตนใหญ่        ฝูงรักใคร่หลายล้นเกินคณน์
พ้นป่าไม้เขตเหล่าดงเลา               เข้าสู่นาเขตเขาดงข้าว
ลุฮอดเหย้าเวียงวังตนพ่อ              รออยู่ยั้งทางโผ่งป่องโพรง
เวียนโล้งโค้งเป็นวงล้อมป่อง         โฮฮ่ำฮ้องฮิวโห่สามโฮ
โห่ฮิโห่ฮิโฮ่โหฮีว                      ทิวถ่องแถวพร้อมฮีวโฮฮิ้ว
โห่ฮิโห่ฮิโฮ่โหฮีว                      ทิวถ่องแถวพร้อมฮีวโฮฮิ้ว
โห่ฮิโห่ฮิโฮ่โหฮีว                      ทิวถ่องแถวพร้อมฮีวโฮฮิ้ว

เสียงฮีวฮ้องฮีวโฮก้องสนั่น           ดนตรีงันเสพซ้องเสียงซ้อนเสพซอน
น้อยอ่อนหล้าแพงตายินเสียงโห่     มโนในใจน้องสุขล้นเปี่ยมกมล
น้อยก็แต่งตนตั้งเสมอดั่งเจ้าสาว     ผ่องสะกาวนวลใยหาได๋เทียมได้
ไฉไลหน้ากัลยาผุดผ่อง               อ่องต่องแก้มโอษฐ์อ้างอิ่มสะอาง            
เสียบแซมต้างต่องแต่งจอนหู        จูจีผมเสียบสอยปิ่นน้อย
คองคอยถ่าเวลาหลิงหล่ำ            ใจฮ่ำฮ้อนตื่นเต้นดั่งเล็น

ตาเว็นแจ้งแสงส่องยังนา            ได้เวลามงคลฤกษ์ดีพราหมณ์ชี้
กุดจี่เบ้าเข้าพิธีพร้อมพร่ำ             พราหมณ์ก็นำนั่งหน้าเพลานี้สิบายศรี ..... ( มังกรเดียวดาย )

ศรีศรี   มื้อนี้เป็นดิถีวันดี   ดิถีทองงามค่อง   ซุมพี่น้องทั้งผอง   หวังฮ่วมทองผืนเดียว   เทียวฮ่วมทางป่องท้าง   กั้งฮ่มฮ่วมพ่อพญา   บาเบ้าคำบ่าวท้าว   ตกแต่งเอาขันหมาก   มากเงินคำสินสอด   มณีนิลล้ำค่า   ขอแพงตากัลยา   เป็นภรรยาฮ่วมห้อง   ขอให้เจ้าทั้งสอง   มีความสุขล้นลื่น   อายุยืนซาวปี   บารมีแก่กล้า   ฝูงข้อยข้ายำเกรง   ฝูงนักเลงยำย้าน   คำจาต้านหนักแน่นดั่งผา  มีเมตตากูร์ณาทั่วหน้า  ให้หลานหล้าตั้งมั่นในธรรม  ละบาปกรรมฝูงเวรละเว้น  เห็นเหตุฮ้อนอย่านิ่งดูดาย  ซ่อยโผดผายประชาทั่วหล้า  ให้หลานหล้าลูกฮักทั้งสอง   ปองใจปักฮักเดียวโดยด้าม   ทำดังนี้ดีแท้อีหลี ฯ ..... (มังกรเดียวดาย)

โตกอันนี้เพิ่นว่าโตกไม้จันทน์               ขันใบนี้เพิ่นว่าขันไม้แก้ว
เฒ่าแก่ตกแต่งแล้วจังได้ยกยอมา          ขันมาลาหมากพลูเลาฮู้
ซูแขนท้าวสองมือป้อนไข่หน่วย            กล้วยและอ้อยทั้งส้มชื่นชม
เฒ่าจักเซิญขวัญหล่าแพงตาคิ้วก่อง       แม่นว่าตกแห่งฮ้องเนาใกล้ถิ่นใด๋
ขวัญเที่ยวเล่นตะเวนไพรพร้อมไพร่         ขวัญเจ้าไปอยู่ยั้งดงซ้างป่าซาง
ขวัญอยู่ค้างเนาอยู่ทางไกล                 เนาแนวไพรเบิ่งกวงดงก้วง
ขวงเขตก้ำนำเลาเลาะเหล่า                  ลุล่วงเข้านาข้าวเขตเขา
ให้มาเนาอยู่ยั้งกลับต่าวคืนหลัง             เนากายังสั่งไลแนวไม้
ไววาถ่อนสาวสะออนเนื้ออ่อน               ขวัญอย่านอนอยู่ค้างทางพู้นบ่คูณ ..... (ต้องแล่ง)

ปูนเฮจ้นคนปีบเอิ้นขวัญ                         ว่ามาเด้อขวัญเอ้ยฮีบมาอย่าซ้า
มาเด้อหล้าขวัญตาคีงกระหม่อม                มาดมดอมดอกไม้มาลัยห้อมดอกหอม
มากินอ่อมหอยห้วยปิ้งปลาเข็งต้มไข่หน่วย     กล้วยอีอองพ่องน้ำมิ้มซิมส้มซื่นซม
ว่า.. มาเด้อขวัญเอ้ย                                                                 ..... ( มังกรเดียวดาย )

พราหมณ์ได้บายศรีแล้วอวยพรอ้อนอ่วย     ป้อนไข่หน่วยนาถน้องนางหล้ากัลยา
ฟังเด้อหล้าแพงตาน้องพี่                       นับตั้งแต่มื้อนี้บ่ให้น้องเนตรนอง
สิดูแลปกป้องแพงตาของพี่                    ตราบจนชั่วชีวีธรณีบ่สิ้นฮักมั่นบ่เปลี่ยนผัน

เสียงเสพย์งันแซ่ซ้องงานกินดองผองซมซื่น  ทั่วผืนนาป่าข้าวเหล่าล้านดงลาน
ฉลองงันเจ็ดมื้อเจ็ดคืนทั่วผืนป่า                ม่วนสนุกเฮฮาชาวประชาเล่นเย้าถึงเซ้าจั่งเซา


พี่น้องเอ้ย..
เบ้าคำท้าวได้แต่งเอาภรรยา         มีนามว่าแพงตาธิดาสาวตนหลวงเจ้า
สองได้เข้าพาขวัญป้อนไข่หน่วย     ทวยราษฎร์พร้อมแหนห้อมฮักหอม
ผู้ฟังเอ้ย..
นิทานจ้อมจ้อจั้นบั้นเคิ่งลมวอยวอย                 อย่าฟ้าวหลอยเมือนอนก่อนดาวสิลาด้าว
อย่าฟ้าวแหนงหน่ายหน้ากลอนผญาหากบ่ม่วน   อดสาซมอดสาซ้วนผะอวนข้อยผญาพลอย  แหน่เด้อ.....( มังกรเดียวดาย )

 
 
สาธุการบทความนี้ : 283 ครั้ง
ให้สาธุการบทความนี้
 
 
  12 เม.ย. 2553 เวลา 11:04:29  
  www    offline ติดต่อหลังเวที ติดต่อโดยเมล์ ตอบอ้างอิง  
 
  จารย์ใหญ่    คห.ที่52)  
  อนุเซียนผู้อมตะ

ภูมิลำเนา : มุกดาหาร
สมาชิกภาพ : สมาชิกทั่วไป
เข้าร่วม : 13 ก.ย. 2552
รวมโพสต์ : 5,168
ให้สาธุการ : 3,230
รับสาธุการ : 9,873,050
รวม: 9,876,280 สาธุการ

 
ช่วงนี้ขอเวลาเที่ยวสงกรานต์ก่อน หลังจากนั้นสิมาต่อก่อนใหม่ จั่งได๋กะโปรดรอคอยภาคสองเด้อขะน้อย....

 
 
สาธุการบทความนี้ : 0 ครั้ง
ให้สาธุการบทความนี้
 
 
  13 เม.ย. 2553 เวลา 15:14:36  
      offline ติดต่อหลังเวที ติดต่อโดยเมล์ ตอบอ้างอิง  
 
  มังกรเดียวดาย    คห.ที่53)  
  มหาเซียน

ภูมิลำเนา : ขอนแก่น
สมาชิกภาพ : สมาชิกชมรมฯ
เข้าร่วม : 03 มี.ค. 2550
รวมโพสต์ : 3,640
ให้สาธุการ : 8,145
รับสาธุการ : 6,180,650
รวม: 6,188,795 สาธุการ

 
พี่น้องเอ้ย..
เบ้าคำท้าวได้แต่งเอาภรรยา         มีนามว่าแพงตาธิดาสาวตนหลวงเจ้า
สองได้เข้าพาขวัญป้อนไข่หน่วย     ทวยราษฎร์พร้อมแหนห้อมฮักหอม
ผู้ฟังเอ้ย..
นิทานจ้อมจ้อจั้นบั้นเคิ่งลมวอยวอย                 อย่าฟ้าวหลอยเมือนอนก่อนดาวสิลาด้าว
อย่าฟ้าวแหนงหน่ายหน้ากลอนผญาหากบ่ม่วน   อดสาซมอดสาซ้วนผะอวนข้อยผญาพลอย  แหน่เด้อ.....( มังกรเดียวดาย )


ลมวอยวอยล่วงเข้าหนาวเหมันต์สะท้านสั่น      หัวลมหันพัดต้องหัวลมล่องพัดตอง
หัวลมหล่องเอนอ้าข้าวในนาเหลืองอร่าม        โอนเอนตามลมต้องพานตึ้งพัดตึง
ดื้อดือดึงสะนูห่าวว่าวหองล่องลอยหล่อง        สาดแสงส่องยิบยับฟ้าดาราพร่ายพร่างพราย
ไก่ขันกกแจ้วจ้ายดาราพรายใกล้ลาหล่วง          หนาวในทรวงสั่นซ่านหนาวสะท้านเกินทัดทาน
ดื้อดือหวานสะนูห่าวถึงคราวลานภาหล่อง       น้ำหมอกโลมพัดต้องหัวลมล่องพัดตอง
หมุ่งหมุ่งฆ้องสังคะลีเพิ่นตีป่าว                    อรุณแสงสางเซ้าสาดฟ้าส่องนภา
น้ำค้างแคมยอดหญ้ามณีดินประกายส่อง        อรุณสางแสงต้องมณีแจ้งประกายแสง .... ( มังกรเดียวดาย )

 
 
สาธุการบทความนี้ : 248 ครั้ง
ให้สาธุการบทความนี้
 
 
  13 เม.ย. 2553 เวลา 17:37:28  
  www    offline ติดต่อหลังเวที ติดต่อโดยเมล์ ตอบอ้างอิง  
 
  ดอกคูนเมืองมหา    คห.ที่54)  
  ยอดฝีมือ

ภูมิลำเนา : มหาสารคาม
สมาชิกภาพ : สมาชิกทั่วไป
เข้าร่วม : 21 ม.ค. 2553
รวมโพสต์ : 356
ให้สาธุการ : 465
รับสาธุการ : 896,310
รวม: 896,775 สาธุการ

 
ติดตามอยู่ตลอดเด้อจ้า หม่วนหลาย ออนซอนคัก..เพิ่งเคยได้เห็นนี่ล่ะจ้า  

น้องสาวหล้า สาวส่าฯ ถ้าอยากแต่งผญาเป็นก็ลองอ่านหลายๆรอบ แล้วก็จะเห็นความงามของภาษา เวลาเฮาอยากแต่งกลอนผญามันก็จะออกมาเองนั่นล่ะหล้า ลองแต่งเบิ่งเด้อ เอื้อยก็เพิ่งมาแต่งเป็นนำขะเจ้าในชมรมจุฬาฯ นี่ล่ะ เอื้อยเอาใจซ่อย    

 
 
สาธุการบทความนี้ : 261 ครั้ง
ให้สาธุการบทความนี้
 
 
  14 เม.ย. 2553 เวลา 05:54:13  
      offline ติดต่อหลังเวที ติดต่อโดยเมล์ ตอบอ้างอิง  
 
  ต้องแล่ง    คห.ที่55)  
  ยอดปรมาจารย์

ภูมิลำเนา : ร้อยเอ็ด + ขอนแก่น
สมาชิกภาพ : สมาชิกทั่วไป
เข้าร่วม : 17 มี.ค. 2553
รวมโพสต์ : 787
ให้สาธุการ : 45
รับสาธุการ : 1,758,720
รวม: 1,758,765 สาธุการ

 
พี่น้องเอ้ย..
เบ้าคำท้าวได้แต่งเอาภรรยา         มีนามว่าแพงตาธิดาสาวตนหลวงเจ้า
สองได้เข้าพาขวัญป้อนไข่หน่วย     ทวยราษฎร์พร้อมแหนห้อมฮักหอม
ผู้ฟังเอ้ย..
นิทานจ้อมจ้อจั้นบั้นเคิ่งลมวอยวอย                 อย่าฟ้าวหลอยเมือนอนก่อนดาวสิลาด้าว
อย่าฟ้าวแหนงหน่ายหน้ากลอนผญาหากบ่ม่วน   อดสาซมอดสาซ้วนผะอวนข้อยผญาพลอย  แหน่เด้อ.....( มังกรเดียวดาย )


ลมวอยวอยล่วงเข้าหนาวเหมันต์สะท้านสั่น      หัวลมหันพัดต้องหัวลมล่องพัดตอง
หัวลมหล่องเอนอ้าข้าวในนาเหลืองอร่าม        โอนเอนตามลมต้องพานตึ้งพัดตึง
ดื้อดือดึงสะนูห่าวว่าวหองล่องลอยหล่อง        สาดแสงส่องยิบยับฟ้าดาราพร่ายพร่างพราย
ไก่ขันกกแจ้วจ้ายดาราพรายใกล้ลาหล่วง          หนาวในทรวงสั่นซ่านหนาวสะท้านเกินทัดทาน
ดื้อดือหวานสะนูห่าวถึงคราวลานภาหล่อง       น้ำหมอกโลมพัดต้องหัวลมล่องพัดตอง
หมุ่งหมุ่งฆ้องสังคะลีเพิ่นตีป่าว                    อรุณแสงสางเซ้าสาดฟ้าส่องนภา
น้ำค้างแคมยอดหญ้ามณีดินประกายส่อง        อรุณสางแสงต้องมณีแจ้งประกายแสง .... ( มังกรเดียวดาย )

เจ็ดขวบแจ้งสนุกม่วนงันวิวาห์          ชาวประชามีสุขม่วนยินทั้งสิ้น
ยินดีพร้อมทวยหอมทุกห่อม            แหนแห่ล้อมบาเบ้าบ่เซา
พระบาทเจ้าตนพ่อหากมีสุข            อุกทางไนให้ป่วยปีหายลี้
มีแฮงขึ้นวันคืนกะหายส่วง              กุดจี่หลวงพ่อเจ้าเซาไข้ส่วงหาย ........ (ต้องแล่ง)

 
 
สาธุการบทความนี้ : 250 ครั้ง
ให้สาธุการบทความนี้
 
 
  14 เม.ย. 2553 เวลา 07:29:32  
      offline ติดต่อหลังเวที ติดต่อโดยเมล์ ตอบอ้างอิง  
 
  ต้องแล่ง    คห.ที่56)  
  ยอดปรมาจารย์

ภูมิลำเนา : ร้อยเอ็ด + ขอนแก่น
สมาชิกภาพ : สมาชิกทั่วไป
เข้าร่วม : 17 มี.ค. 2553
รวมโพสต์ : 787
ให้สาธุการ : 45
รับสาธุการ : 1,758,720
รวม: 1,758,765 สาธุการ

 
พี่น้องเอ้ย..
เบ้าคำท้าวได้แต่งเอาภรรยา         มีนามว่าแพงตาธิดาสาวตนหลวงเจ้า
สองได้เข้าพาขวัญป้อนไข่หน่วย     ทวยราษฎร์พร้อมแหนห้อมฮักหอม
ผู้ฟังเอ้ย..
นิทานจ้อมจ้อจั้นบั้นเคิ่งลมวอยวอย                 อย่าฟ้าวหลอยเมือนอนก่อนดาวสิลาด้าว
อย่าฟ้าวแหนงหน่ายหน้ากลอนผญาหากบ่ม่วน   อดสาซมอดสาซ้วนผะอวนข้อยผญาพลอย  แหน่เด้อ.....( มังกรเดียวดาย )


ลมวอยวอยล่วงเข้าหนาวเหมันต์สะท้านสั่น      หัวลมหันพัดต้องหัวลมล่องพัดตอง
หัวลมหล่องเอนอ้าข้าวในนาเหลืองอร่าม        โอนเอนตามลมต้องพานตึ้งพัดตึง
ดื้อดือดึงสะนูห่าวว่าวหองล่องลอยหล่อง        สาดแสงส่องยิบยับฟ้าดาราพร่ายพร่างพราย
ไก่ขันกกแจ้วจ้ายดาราพรายใกล้ลาหล่วง          หนาวในทรวงสั่นซ่านหนาวสะท้านเกินทัดทาน
ดื้อดือหวานสะนูห่าวถึงคราวลานภาหล่อง       น้ำหมอกโลมพัดต้องหัวลมล่องพัดตอง
หมุ่งหมุ่งฆ้องสังคะลีเพิ่นตีป่าว                    อรุณแสงสางเซ้าสาดฟ้าส่องนภา
น้ำค้างแคมยอดหญ้ามณีดินประกายส่อง        อรุณสางแสงต้องมณีแจ้งประกายแสง .... ( มังกรเดียวดาย )

เจ็ดขวบแจ้งสนุกม่วนงันวิวาห์          ชาวประชามีสุขม่วนยินทั้งสิ้น
ยินดีพร้อมทวยหอมทุกห่อม            แหนแห่ล้อมบาเบ้าบ่เซา
พระบาทเจ้าตนพ่อหากมีสุข            อุกทางไนให้ป่วยปีหายลี้
มีแฮงขึ้นวันคืนกะหายส่วง              กุดจี่หลวงพ่อเจ้าเซาไข้ส่วงหาย

ใกล้ฮอดมื้อท้าวสิต่าวคืนเลา      เขาสิเอาแพงตาสู่ผืนดงพื้น
คืนไปยั้งนำเขาอยู่เหล่า          กุดจี่เฒ่าสิเนาแล้งค่ำแลง
แงงไปหน้าบุตตาสิหนีจาก        พรากพ่อไว้ไลเฒ่าพ่อเหงา
ควรสิเอาเขยไว้เนาในตุ้มไพร่     ว่าแล้วได้เสด็จโผ่งฮอดโฮง ........ (ต้องแล่ง)

 
 
สาธุการบทความนี้ : 228 ครั้ง
ให้สาธุการบทความนี้
 
 
  14 เม.ย. 2553 เวลา 08:08:12  
      offline ติดต่อหลังเวที ติดต่อโดยเมล์ ตอบอ้างอิง  
 
  ต้องแล่ง    คห.ที่57)  
  ยอดปรมาจารย์

ภูมิลำเนา : ร้อยเอ็ด + ขอนแก่น
สมาชิกภาพ : สมาชิกทั่วไป
เข้าร่วม : 17 มี.ค. 2553
รวมโพสต์ : 787
ให้สาธุการ : 45
รับสาธุการ : 1,758,720
รวม: 1,758,765 สาธุการ

 
พี่น้องเอ้ย..
เบ้าคำท้าวได้แต่งเอาภรรยา         มีนามว่าแพงตาธิดาสาวตนหลวงเจ้า
สองได้เข้าพาขวัญป้อนไข่หน่วย     ทวยราษฎร์พร้อมแหนห้อมฮักหอม
ผู้ฟังเอ้ย..
นิทานจ้อมจ้อจั้นบั้นเคิ่งลมวอยวอย                 อย่าฟ้าวหลอยเมือนอนก่อนดาวสิลาด้าว
อย่าฟ้าวแหนงหน่ายหน้ากลอนผญาหากบ่ม่วน   อดสาซมอดสาซ้วนผะอวนข้อยผญาพลอย  แหน่เด้อ.....( มังกรเดียวดาย )


ลมวอยวอยล่วงเข้าหนาวเหมันต์สะท้านสั่น      หัวลมหันพัดต้องหัวลมล่องพัดตอง
หัวลมหล่องเอนอ้าข้าวในนาเหลืองอร่าม        โอนเอนตามลมต้องพานตึ้งพัดตึง
ดื้อดือดึงสะนูห่าวว่าวหองล่องลอยหล่อง        สาดแสงส่องยิบยับฟ้าดาราพร่ายพร่างพราย
ไก่ขันกกแจ้วจ้ายดาราพรายใกล้ลาหล่วง          หนาวในทรวงสั่นซ่านหนาวสะท้านเกินทัดทาน
ดื้อดือหวานสะนูห่าวถึงคราวลานภาหล่อง       น้ำหมอกโลมพัดต้องหัวลมล่องพัดตอง
หมุ่งหมุ่งฆ้องสังคะลีเพิ่นตีป่าว                    อรุณแสงสางเซ้าสาดฟ้าส่องนภา
น้ำค้างแคมยอดหญ้ามณีดินประกายส่อง        อรุณสางแสงต้องมณีแจ้งประกายแสง .... ( มังกรเดียวดาย )

เจ็ดขวบแจ้งสนุกม่วนงันวิวาห์          ชาวประชามีสุขม่วนยินทั้งสิ้น
ยินดีพร้อมทวยหอมทุกห่อม            แหนแห่ล้อมบาเบ้าบ่เซา
พระบาทเจ้าตนพ่อหากมีสุข            อุกทางไนให้ป่วยปีหายลี้
มีแฮงขึ้นวันคืนกะหายส่วง              กุดจี่หลวงพ่อเจ้าเซาไข้ส่วงหาย

ใกล้ฮอดมื้อท้าวสิต่าวคืนเลา      เขาสิเอาแพงตาสู่ผืนดงพื้น
คืนไปยั้งนำเขาอยู่เหล่า          กุดจี่เฒ่าสิเนาแล้งค่ำแลง
แงงไปหน้าบุตตาสิหนีจาก        พรากพ่อไว้ไลเฒ่าพ่อเหงา
ควรสิเอาเขยไว้เนาในตุ้มไพร่     ว่าแล้วได้เสด็จโผ่งฮอดโฮง ........ (ต้องแล่ง)  

สามโมงเซ้าเลยงายสายแก่               ขุนแห่ล้อมเฮียงหน้าหมู่หนา
บาคานท้าวเนาเคียงน้อยอ่อน             สลอนคู่ท้าวเฮียงหน้าเกิ่งบา
ท้าวจาต้านเว้าต่อภูบาล                   นานหลายวันลูกไกลแนวไม้
คึดอยากไปยังบ้านเมือเลาดอนเหล่า     พร้อมพร่ำเจ้าแพงหล่าต่าวนา .......... (ต้องแล่ง)

 
 
สาธุการบทความนี้ : 252 ครั้ง
ให้สาธุการบทความนี้
 
 
  15 เม.ย. 2553 เวลา 14:14:47  
      offline ติดต่อหลังเวที ติดต่อโดยเมล์ ตอบอ้างอิง  
 
  จารย์ใหญ่    คห.ที่58)  
  อนุเซียนผู้อมตะ

ภูมิลำเนา : มุกดาหาร
สมาชิกภาพ : สมาชิกทั่วไป
เข้าร่วม : 13 ก.ย. 2552
รวมโพสต์ : 5,168
ให้สาธุการ : 3,230
รับสาธุการ : 9,873,050
รวม: 9,876,280 สาธุการ

 
ข้าขอลาเมือบ้านหลายวันนานพ้นผ่าน       สุขสำราญหม่วนแม้งหลายแลงจากแหล่ง
มาอยู่ห่างแห่งห้องบ่มีไผตุ้มไพร่             ลูกขอไลจากแล้วคราวนี้อยู่ดี
เต็มทีหลายน้อพ่อเจ้าคือสิเศร้าหง่วมเหงา  ขอให้อดเอาไว้ประชาไทตุ้มไพร่
ราษฎรใหญ่น้อยก็ใจค้อยพร่ำพลอย          ให้เจ้าคอยครองสร้างเมืองบ้านชื่นบาน

องค์พ่อเจ้าก็ต้านตอบจาขาน          อย่าไปนานเด้อเฮียมให้ค่อยคืนมาเยี่ยม
ให้เสงียมเอาไว้สายคอลูกพ่อ          ฮักกันน้อจั่งได้พ้อบุญยู้ซอยชู
ให้ดูแลเมืองบ้านภัยพาลพ้นผ่าน       ให้เบิกบานลื่นล้นหลุดเว้นเคราะห์เข็ญ
บ่อยากพลัดพรากเว้นเวรจองนำจ่อง  ขอให้สองลูกหล้ามายามบ้างเทื่อหลัง

คอยฟังเด้อแม่ป้านิทานมันพวมกลั่น       มาฮอดบทโศกกลั้นนำหากันหลายหลั่น
กรรมอันนั้นอันนี้สินำจี้บ่หนี                 ในคราวนี้เขยลาพ่อเฒ่ากลับนครบ้านก่อน
ค่อยฟังตอนสิโศกเศร้าเมียเจ้าห่างเพลา  คอยฟังเอาเมียหายพ่อตาตายภายท้าย
อันตรายสิได้ภัยหยังนอเกิดก่อ             อดใจรอเล็กน้อยกลอนข้อยค่อยคอย...(จารย์ใหญ่)

 
 
สาธุการบทความนี้ : 320 ครั้ง
ให้สาธุการบทความนี้
 
 
  17 เม.ย. 2553 เวลา 12:23:13  
      offline ติดต่อหลังเวที ติดต่อโดยเมล์ ตอบอ้างอิง  
 
  จารย์ใหญ่    คห.ที่59)  
  อนุเซียนผู้อมตะ

ภูมิลำเนา : มุกดาหาร
สมาชิกภาพ : สมาชิกทั่วไป
เข้าร่วม : 13 ก.ย. 2552
รวมโพสต์ : 5,168
ให้สาธุการ : 3,230
รับสาธุการ : 9,873,050
รวม: 9,876,280 สาธุการ

 
ร้อยต่อเรื่องเฮียมสิแปลงกลอนสาส์น       เป็นนิทานคำกลอนตอนกุดจี่นำจี้
ก็ยังมีมารฮ้ายกุดจี่แดงกล้าแกร่ง            มันนั้นแฮงเหลือแท้นอนดินแดงห้องแห่ง
มื้อนี้แยงจากห้องสิท่องเที่ยวทางเทียว    เป็นคือเกลียวหมุนเวียนบาปไกลนำใช้
สิสนองนำให้เบ้าคำพร้อมพร่ำ                กับทั้งคำหน่อหล้านางน้องส่งสนอง

กับทั้งเมืองพ่อน้องกองกรรมนำจ่อง     เผิ่นผู้เนาอยู่ห้องหนองแสงในแห่ง
เขาสิเข้ายาดแย่งแข็งข้อต่อพระองค์      เป็นแต่เวรลงใช้เวียนมานำไล่
นำใช้ชาติคราวนี้อีหลี                      ย้อนว่ามีกรรมข้องคราวพุ้นเมื่อลุน
ท้าวสิหมดบุญแล้วลาเมื่อลดชั่ว          ตัวเผิ่นเฒ่าแก่แท้สิหมดเว้นส่วงเวร.......(จารย์ใหญ่)

 
 
สาธุการบทความนี้ : 246 ครั้ง
ให้สาธุการบทความนี้
 
 
  17 เม.ย. 2553 เวลา 20:20:07  
      offline ติดต่อหลังเวที ติดต่อโดยเมล์ ตอบอ้างอิง  
 
  ต้องแล่ง    คห.ที่60)  
  ยอดปรมาจารย์

ภูมิลำเนา : ร้อยเอ็ด + ขอนแก่น
สมาชิกภาพ : สมาชิกทั่วไป
เข้าร่วม : 17 มี.ค. 2553
รวมโพสต์ : 787
ให้สาธุการ : 45
รับสาธุการ : 1,758,720
รวม: 1,758,765 สาธุการ

 
ข้าขอลาเมือบ้านหลายวันนานพ้นผ่าน          สุขสำราญหม่วนแม้งหลายแลงจากแหล่ง
มาอยู่ห่างแห่งห้องบ่มีไผตุ้มไพร่                ลูกขอไลจากแล้วคราวนี้อยู่ดี
เต็มทีหลายน้อพ่อเจ้าคือสิเศร้าหง่วมเหงา     ขอให้อดเอาไว้ประชาไทตุ้มไพร่
ราษฎรใหญ่น้อยก็ใจค้อยพร่ำพลอย             ให้เจ้าคอยครองสร้างเมืองบ้านชื่นบาน

องค์พ่อเจ้าก็ต้านตอบจาขาน            อย่าไปนานเด้อเฮียมให้ค่อยคืนมาเยี่ยม
ให้เสงียมเอาไว้สายคอลูกพ่อ           ฮักกันน้อจั่งได้พ้อบุญยู้ซอยชู
ให้ดูแลเมืองบ้านภัยพาลพ้นผ่าน        ให้เบิกบานลื่นล้นหลุดเว้นเคราะห์เข็ญ
บ่อยากพลัดพรากเว้นเวรจองนำจ่อง   ขอให้สองลูกหล้ามายามบ้างเทื่อหลัง

คอยฟังเด้อแม่ป้านิทานมันพวมกลั่น          มาฮอดบทโศกกลั้นนำหากันหลายหลั่น
กรรมอันนั้นอันนี้สินำจี้บ่หนี                    ในคราวนี้เขยลาพ่อเฒ่ากลับนครบ้านก่อน
ค่อยฟังตอนสิโศกเศร้าเมียเจ้าห่างเพลา     คอยฟังเอาเมียหายพ่อตาตายภายท้าย
อันตรายสิได้ภัยหยังนอเกิดก่อ                อดใจรอเล็กน้อยกลอนข้อยค่อยคอย

ร้อยต่อเรื่องเฮียมสิแปลงกลอนสาส์น          เป็นนิทานคำกลอนตอนกุดจี่นำจี้
ก็ยังมีมารฮ้ายกุดจี่แดงกล้าแกร่ง               มันนั้นแฮงเหลือแท้นอนดินแดงห้องแห่ง
มื้อนี้แยงจากห้องสิท่องเที่ยวทางเทียว      เป็นคือเกลียวหมุนเวียนบาปไกลนำใช้
สิสนองนำให้เบ้าคำพร้อมพร่ำ                  กับทั้งคำหน่อหล้านางน้องส่งสนอง

กับทั้งเมืองพ่อน้องกองกรรมนำจ่อง           เผิ่นผู้เนาอยู่ห้องหนองแสงในแห่ง
เขาสิเข้ายาดแย่งแข็งข้อต่อพระองค์           เป็นแต่เวรลงใช้เวียนมานำไล่
นำใช้ชาติคราวนี้อีหลี                           ย้อนว่ามีกรรมข้องคราวพุ้นเมื่อลุน
ท้าวสิหมดบุญแล้วลาเมื่อลดชั่ว               ตัวเผิ่นเฒ่าแก่แท้สิหมดเว้นส่วงเวร.......(จารย์ใหญ่)

กล่าวถึงกุดจี่ฮ้ายมวลหมู่แมงแดง          ขอแถลงความหลังอดีตมีคราวกี้
มันหากมีหัวหน้าครองเมืองแต่ก่อน         ตอนมันครองสืบบ้านแมงย้านทั่วสถาน
นานวันมื้อมันหากถืออวดเบ่ง               เหมบเต็งบ้านประชาไห่ฮ่ำไฮ
ผู้ได๋ไขปากต้านบ่เห็นด้วยควมมัน          ต้องมีอันเป็นผีบ่อาจมีทางลี้
ธรณีฮ้อนหนองแสงเป็นกลียุค              ทุกข์ทั่วหน้าประชาเศร้าบ่เซา
ตอนนั้นกุดจี่เบ้าโตหนึ่งพวมแวง           เนาหนองแสงหาแลงกินแจ้ง
แงงดูหน้าชาวประชาเหลืองหล่า          ท้าวผู้กล้าสิหยุดนิ่งบ่ติง    ได้รือ
ท้าวจึงรวมผู้กล้ามวลหมู่แมงกุด           ฉุดดึงมันจากบัลลังก์เคยยั้ง
แล้วจั่งเอาตนตั้งครองไพรตุ้มไพร่          เป็นใหญ่ขึ้นครองพื้นทั่วผืน
คืนเดือนข้ามหลายปีพ้นผ่าน                ความเกรงย้านหายเศร้าส่วงเซา
ตั้งแต่กุดจี่เบ้าโตใหม่ครองเมือง           ความฮุ่งเฮืองแพร่กระจายทั้งค่าย
ในมื้อนี้แมงดีกุดจี่ใหญ่                       หากแม่นบิดาไท้แพงตาหล่าครอบนา
ส่วนว่ากุดจี่ฮ้ายมันหากถืกไล่หนี           คือดั่งสัมพเวสีเสิ่นแฮงปานแฮ้ง
ขอแถลงยุคฮ้ายจังไฮเป็นใหญ่            ขอบอกไว้คือหลานหล่าว่ามา   นี่แหล่ว   ..... (ต้องแล่ง)

 
 
สาธุการบทความนี้ : 216 ครั้ง
ให้สาธุการบทความนี้
 
 
  18 เม.ย. 2553 เวลา 07:48:11  
      offline ติดต่อหลังเวที ติดต่อโดยเมล์ ตอบอ้างอิง  
 
  ปราร้านอกไห   ตอบเต็มรูปแบบ || Quick Reply  
  หน้า: 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 22 23 24 25 26 27 28 29 30 31 32 33 34 35 36 37 38 39 40 41 42 43 44

   

Creative Commons License
เซิญแต่งนิทาน เรื่อง กุดจี่เบ้า โดยการเขียนกลอนแบบ เทียมแอก --- ปลาร้านอกไห (ปลาร้านอกไห --- อีสานจุฬาฯ)