ผญา คติสอนใจประจำวันที่ 26 เมษายน 2568:: อ่านผญา 
เก้าสิฆ่าสิบสิฆ่า ให้เอาแก่นคะยูงตี อย่าได้เอาบาลีต่อยตีตางค้อน แปลว่า จะฆ่าเก้าครั้งสิบครั้งก็ไม่ว่า ขอให้ใช้ไม้พะยูงตี ขออย่าได้เอาปัญญาความรู้มาตีแทนไม้ค้อน หมายถึง ไม่ควรใช้ปัญญาความรู้ของตน เอาเปรียบคนอื่น


  ค้นหาสาธุการ กระดานสนทนาชมรมอีสานจุฬาฯ  

หน้า: 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15  
  โพสต์โดย   77) อัลบั้มพิเศษ "หมอลำดอกหญ้า" ของ ต่าย อรทัย  
  ปังคุง    คห.ที่4)       [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]  
  จ้าวยุทธภพ

ภูมิลำเนา : _มณฑลเทศาภิบาลอุดร_
เข้าร่วม : 04 ม.ค. 2552
รวมโพสต์ : 1357
ให้สาธุการ : 900
รับสาธุการ : 1788320
รวม: 1789220 สาธุการ

 
เพลง  "เบิ่งนครพนม"

http://www.youtube.com/watch?v=nX2zF1XMvwk

เพลงนี้ผมฟังครั้งแรกจากราชินีหมอลำ  ชอบเสียงแกมาก  แต่ช่วงนั้นยังไม่ปฏิวัติและเอาใจใส่เรื่องเครื่องแต่งกายเท่าไหร่(นะ)  ดูมีเสน่ห์แบบเก่าๆ ดี  

ของเจ๊ต่ายทำออกมาดีมาก  ชอบเสียงปี่ลูกแคนตอนขึ้นมาก  เหมือนชักนำให้ใจน้อมเข้าหาความไพเราะของเพลง  มีการผสมลายเพลงอีสานเข้าไปในการบรรเลง  

เรื่องฉากโอเคมากเลยครับ  ได้มุมพระธาตุพนมที่ดูสง่าและงดงามมากครับ

http://www.youtube.com/watch?v=S9TAFzT1nrU

ของแม่บานเย็น  รากแก่น  ของอันนี้แหละครับ  ที่ผมเห็นเป็นครั้งแรก  รู้สึกว่าของเจ๊ต่าย  มีการปรับเปลี่ยนเนื้อร้องบางส่วน  ไม่ทราบเช่นกันว่าให้เข้ากับสังคมปัจจุบันหรือว่ายังไง  เนื้อเพลงบ่งบอกถึงความเก่าไว้ชัดเจน  จากสภาพการปกครองของจังหวัดนครพนมสมัยก่อน  ที่รวบจ.มุกดาหารเป็นหนึ่งในเขตการปกครอง  ชื่ออำเภอมุกดาหารมั้ง  อ.คำชะอีบ้าง  อ.ดอนตาลบ้าง  ส่วนคำว่าดงหลวง  ที่ถูกเปลี่ยนเป็น มุกดาหาร  อันนี้ไม่ทราบว่าทำไมครับ  วานผู้รู้ช่วยบอกด้วยนะครับว่า  "ดงหลวง" คือชื่อที่ไหน

 
 
สาธุการบทความนี้ : 750 ครั้ง
จากสมาชิก : 0 ครั้ง
จากขาจร : 750 ครั้ง
 
 
  20 ก.ค. 2552 เวลา 21:26:48  
   ขึ้นบน ลงล่าง  
 
         

  โพสต์โดย   723) ประวัติศาสตร์อีสาน  
  ปังคุง    คห.ที่2)       [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]  
  จ้าวยุทธภพ

ภูมิลำเนา : _มณฑลเทศาภิบาลอุดร_
เข้าร่วม : 04 ม.ค. 2552
รวมโพสต์ : 1357
ให้สาธุการ : 900
รับสาธุการ : 1788320
รวม: 1789220 สาธุการ

 
จากที่ผมอ่านในหนังสือบันทึกของรองศาตราจารย์ศรีศักร  วัลลิโภดม  ท่านเขียนเอาไว้เป็นปึ๊กเลยครับ

ส่วนใหญ่ไม่มีการจดบันทึกเรื่องราวของอีสานไว้เป็นลายลักษณ์อักษร  เพราะอีสานไม่มีเมืองใหญ่ของภูมิภาคมาแต่สมัยโบราณแล้ว  ดังนั้นเรื่องราวของอีสานยุคอยุธยาสืบมาสมัยปลายรัชสมัยพระเจ้าตากสิน  มักจะอยู่ในบันทึกพงศาวดารของล้านช้างซะมากกว่า  ต่อมาสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้นถึงยุค ร.5  เมืองสำคัญต่าง ๆ ก็เริ่มก่อกำเนิดขึ้นในอีสาน  เมืองเก่าก่อนหน้านั้นบางเมืองก็เริ่มขยับขยายฐานะ  ในอีสานใต้ก็เช่นเมืองอุบล  สุรินทร์  ศรีสะเกษ(ที่ขุขันธ์)  ขึ้นมาหน่อยก็  ร้อยเอ็ด  ขอนแก่น  เป็นต้น  อีสานเหนือก็เมืองสกลนคร(สกลทวาปี)  นครพนม  หนองหาน  บ้านหม้อ(กุมภวาปี)

 
 
สาธุการบทความนี้ : 655 ครั้ง
จากสมาชิก : 0 ครั้ง
จากขาจร : 655 ครั้ง
 
 
  20 ต.ค. 2552 เวลา 21:57:12  
   ขึ้นบน ลงล่าง  
 
         

  โพสต์โดย   56) อะไรคือ "กลองน้ำ"  
  ปังคุง    คห.ที่1)       [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]  
  จ้าวยุทธภพ

ภูมิลำเนา : _มณฑลเทศาภิบาลอุดร_
เข้าร่วม : 04 ม.ค. 2552
รวมโพสต์ : 1357
ให้สาธุการ : 900
รับสาธุการ : 1788320
รวม: 1789220 สาธุการ

 


  คร้าบผม  อัลบั้มใหม่ของนางฟ้าขวัญใจดอกหญ้า

"ต่าย  อรทัย"  ผมเองก็หลงใหลในน้ำเสียงของเจ๊เเกเหมือนกัน  ซิงเกิ้ลนี้  ชื่อ"หมอลำดอกหญ้า"ครับ  มีเจ๊ต่ายแกยืนฟ้อนที่ผาแต้มเป็นรูปปกซีดี  ชุดครีเอทได้โอเคครับ

ติดใจขนาดผมซื้อเก็บซะเลย  5555+  ช่วยกันอุดหนุนศิลปินบ้านเรานะครับ  พี่น้องอีสานทุกคน

นี่คือเพลง  "อีสานลำเพลิน"  ความจริงเพลงนี้เก่าแก่พอสมควร  ตั้งแต่สมัยแม่ผมยังเด็กโน  เคยฟังแต่ของ อังคนางค์  คุณไชย

เจ๊ต่ายเอามาร้องใหม่  ยังคงไว้ซึ่งความเป็นเอกลักษณ์อีสานได้จริงๆ ครับ

 
 
สาธุการบทความนี้ : 645 ครั้ง
จากสมาชิก : 0 ครั้ง
จากขาจร : 645 ครั้ง
 
 
  14 มิ.ย. 2552 เวลา 21:28:29  
   ขึ้นบน ลงล่าง  
 
         

  โพสต์โดย   82) แมงอันนี้ บ้านเจ้า เอิ้นว่าอีหยัง?  
  ปังคุง    คห.ที่8)       [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]  
  จ้าวยุทธภพ

ภูมิลำเนา : _มณฑลเทศาภิบาลอุดร_
เข้าร่วม : 04 ม.ค. 2552
รวมโพสต์ : 1357
ให้สาธุการ : 900
รับสาธุการ : 1788320
รวม: 1789220 สาธุการ

 
คุณมังกรเดียวดาย:
หมายเลข3
ภาพนี้ หามาจากเว็บไหน จำไม่ได้แล้ว... ขอบคุณช่างภาพ นะครับ



แมง...(แมงมุมน้ำ??) คึดซือบ่อออก โอ้ยยย จั่งได๋ ลืมน้อนอ.. บ่ได้เอิ้นดน เป็นจั่งซี้ล่ะ

แล้ว... บ้านหมู่เจ้าเอิ้นว่าหยัง??

    
ตอนผมเรียนชีวะ  แมงตัวนี้เค้าเรียกภาษาไทยกลางว่า จิงโจ้น้ำ  บ้านผมเอิ้นแมงมุมน้ำ ครับ

 
 
สาธุการบทความนี้ : 617 ครั้ง
จากสมาชิก : 0 ครั้ง
จากขาจร : 617 ครั้ง
 
 
  21 ต.ค. 2552 เวลา 18:38:55  
   ขึ้นบน ลงล่าง  
 
         

  โพสต์โดย   730) ขอเชิญเที่ยวงานลอยกระทง ม.มหาสารคาม ประจำปี 2552 วันที่ 31 พ.ย.52นี้  
  ปังคุง    คห.ที่35)       [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]  
  จ้าวยุทธภพ

ภูมิลำเนา : _มณฑลเทศาภิบาลอุดร_
เข้าร่วม : 04 ม.ค. 2552
รวมโพสต์ : 1357
ให้สาธุการ : 900
รับสาธุการ : 1788320
รวม: 1789220 สาธุการ

 

แต่พูดถึงขบวนแห่ผสมผสานเยอะแยะหลากหลายไปเลยนะครับ  ก็ถือว่าดูดีในส่วนนึง  แต่เรื่องเอารถบั้งไฟมามันก็แปลกนะครับ  หรือว่าผมรู้สึกไปเองหว่า...

อีกหน่อยม.สารคามก็จะเป็นมช.แห่งอีสานแล้วครับ  น่ายินดีนะครับที่นิสิตนักศึกษาออกมาทำกิจกรรมร่วมกับคนในชุมชน  แล้วก็ทางจังหวัดก็ให้การสนับสนุน  วัฒนธรรมประเพณีของไทยจะคงอยู่ได้ก็ด้วยการรู้จักนำเสนอได้ถูกแง่ถูกมุม  และการทำให้คนหมู่มากมีส่วนร่วมนี่แหละครับ

 
 
สาธุการบทความนี้ : 595 ครั้ง
จากสมาชิก : 0 ครั้ง
จากขาจร : 595 ครั้ง
 
 
  31 ต.ค. 2552 เวลา 01:38:24  
   ขึ้นบน ลงล่าง  
 
         

  โพสต์โดย   718) โฮมตุ้มผลงานของอ้ายโอ๊ต  
  ปังคุง    คห.ที่48)       [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]  
  จ้าวยุทธภพ

ภูมิลำเนา : _มณฑลเทศาภิบาลอุดร_
เข้าร่วม : 04 ม.ค. 2552
รวมโพสต์ : 1357
ให้สาธุการ : 900
รับสาธุการ : 1788320
รวม: 1789220 สาธุการ

 
คุณเด็กวิทลัย:
คุณอ้ายโอ๊ต:

    การแสดงชุดนี้เป็นการแสดงที่คิดเองเหรอคราฟ

    "...ผลงานการแสดงของตัวเองครับ ส่วนใหญ่เป็นเบื้องหลังไม่ค่อยได้แสดงออกเบื้องหน้านัก

การแสดงฟ้อนประยุกต์ หุ่นกระบอกพม่า ได้แนวคิดมาจากทางเชียงใหม่ครับ..."

ผลงานการแสดงของตัวเอง  ไม่ใช่ผลงานการแสดงที่คิดเองครับ  พี่โอ๊ตแกไปอยู่นั่นบ่อย  ฟ้อนตัวนี้เป็นฟ้อนที่ได้รับอิทธิพลจากหุ่นกระบอกพม่าครับ  ท่ารำก็สไตล์ชักหุ่นกระบอก  เป็นการเคลื่อนไหวของข้อต่อ  ดูงึก ๆ งัก ๆ แบบหุ่นเชิดพม่า

 
 
สาธุการบทความนี้ : 586 ครั้ง
จากสมาชิก : 0 ครั้ง
จากขาจร : 586 ครั้ง
 
 
  07 เม.ย. 2553 เวลา 11:48:22  
   ขึ้นบน ลงล่าง  
 
         

  โพสต์โดย   535) ขอเชิญเที่ยวงาน เทศกาลตักสิลามหาสงกรานต์  
  ปังคุง    คห.ที่4)       [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]  
  จ้าวยุทธภพ

ภูมิลำเนา : _มณฑลเทศาภิบาลอุดร_
เข้าร่วม : 04 ม.ค. 2552
รวมโพสต์ : 1357
ให้สาธุการ : 900
รับสาธุการ : 1788320
รวม: 1789220 สาธุการ

 
พูดถึงถนนยามสงกรานต์นี้หลากหลายข้าวจริงๆเลยเนาะ

อุดรมีข้าวเปียก

ขอนแก่นมีข้าวเหนียว

สารคามมีข้าวเม่า  เฮอะๆ  มีข้าวอื่นๆ ที่ไหนอีกมาบอกกันหน่อยนะครับ

 
 
สาธุการบทความนี้ : 567 ครั้ง
จากสมาชิก : 0 ครั้ง
จากขาจร : 567 ครั้ง
 
 
  04 เม.ย. 2552 เวลา 16:43:03  
   ขึ้นบน ลงล่าง  
 
         

  โพสต์โดย   579) ชุมนุมนาฏศิลป์ โรงเรียนเลยอนุกูลวิทยา อำเภอเมือง จังหวัดเลย  
  ปังคุง    คห.ที่9)       [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]  
  จ้าวยุทธภพ

ภูมิลำเนา : _มณฑลเทศาภิบาลอุดร_
เข้าร่วม : 04 ม.ค. 2552
รวมโพสต์ : 1357
ให้สาธุการ : 900
รับสาธุการ : 1788320
รวม: 1789220 สาธุการ

 
คุณไทด่าน:
มาโชความอะลังการหรือความไม่เข้าใจทางนาฏศิลป์ไง

มีทั้ง  รีวิว  มีทั่ง  หรีด  

ผมว่าถ้าเห็นเค้าไรมา โชแล้วมาโชบ้างเพื่อนแสดงความนะ
ผมว่าอย่าเอามาลงให้เค้า  วิจารเลย

มันเสียเบร์ดอ่ะ  ดูชื่อเวพด้วยนะค่ะ

    

แอบเห็นด้วยนิดนึง

 
 
สาธุการบทความนี้ : 564 ครั้ง
จากสมาชิก : 0 ครั้ง
จากขาจร : 564 ครั้ง
 
 
  14 มิ.ย. 2552 เวลา 21:44:47  
   ขึ้นบน ลงล่าง  
 
         

  โพสต์โดย   794) ร่วมอวยพรปีใหม่ กับชาวสมาชิกเว๊บบอร์ด ชมรมอีสานจุฬาฯ  
  ปังคุง    คห.ที่7)       [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]  
  จ้าวยุทธภพ

ภูมิลำเนา : _มณฑลเทศาภิบาลอุดร_
เข้าร่วม : 04 ม.ค. 2552
รวมโพสต์ : 1357
ให้สาธุการ : 900
รับสาธุการ : 1788320
รวม: 1789220 สาธุการ

 



ในวาระศุภวารดิถีปีใหม่

ข้าพเจ้า  ขออำนวยอวยพรแก่ทุก ๆ ท่าน  ทั้งสมาชิกเว็บไซต์และชาวไทยทุกเชื้อชาติ  ขอให้ท่านจงประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน  ความคิดใดอันเป็นกุศลเเละก่อให้เกิดประโยชน์  ทั้งแก่ตนเองและส่วนรวม  หากท่านคิดประสงค์หวัง  ก็จงสมดังความตั้งใจมั่น  

ขออาราธนาคุณพระศรีรัตนตรัย  สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายในสากลโลก  พระเทวานุภาพแห่งองค์พระสยามเทวาธิราช  พระบุญญาบารมีแห่งองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว  ได้โปรดอภิบาลให้ชาวไทยทุกคน  ประสบแต่ความร่มเย็น  รู้รักสามัคคี  ยึดถือปฏิบัติตนตามแนวเศรษฐกิจพอเพียง  เจริญด้วยสติปัญญา  อันขจัดอวิชชาได้ในที่สุด  พัฒนาสังคมประเทศชาติ  ให้เจริญก้าวหน้าได้  

ขอให้พี่น้องซาวอีสานของเฮา  จงเป็นผู้อายุมั่นขวัญยืน  อยู่ดีมีแฮง  คึดประสงค์หวังสิ่งได๋กะให้สมดังปรารถนา  นอนหลับกะได้ให้เงินพัน  นอนฝันกะให้ได้เงินหมื่น  นอนตื่นกะให้ได้เงินแสน  แบมือไปให้ได้แก้วมณีโชติ  โทษฮ้ายอย่ามาพาล  มารฮ้ายอย่าให้มี  อายุวัฒโก  วัณโณวัฒโก  พลวัฒโก  สาธุ  มีสติเทิง(ทั้ง)ปัญญาอันเลิศ  เป็นกำลังในการซอยยู้ซอยแปง  ซอยกันอนุรักษ์ฮักษาไว้  ซึ่งวัฒนธรรมท้องถิ่นอีสานเฮา  เย้อพี่น้องเอ้ย.....    


ป.ล. ภาพข้างบนยังวาดไม่เสร็จ  เห็นรูปพี่โอ๊ตสวยดีเลยลองวาดตาม อิอิ

 
 
สาธุการบทความนี้ : 562 ครั้ง
จากสมาชิก : 0 ครั้ง
จากขาจร : 562 ครั้ง
 
 
  01 ม.ค. 2553 เวลา 02:35:38  
   ขึ้นบน ลงล่าง  
 
         

  โพสต์โดย   542) เรื่องของกลองเส็ง ประเพณีแข่งเส็งกลอง อุดรธานี  
  ปังคุง    คห.ที่0) เรื่องของกลองเส็ง ประเพณีแข่งเส็งกลอง อุดรธานี      [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]  
  จ้าวยุทธภพ

ภูมิลำเนา : _มณฑลเทศาภิบาลอุดร_
เข้าร่วม : 04 ม.ค. 2552
รวมโพสต์ : 1357
ให้สาธุการ : 900
รับสาธุการ : 1788320
รวม: 1789220 สาธุการ

 
"กลองเส็ง" หรือ กลองกิ่ง หรือ กลองแต้ เป็นกลองคู่ประเภทหน้าเดียว ถือเป็นเครื่องดนตรีสำหรับใช้ในการบรรเลงดนตรีประกอบจังหวะ นิยมกันมากในภาคอีสาน

กลองเส็ง  ถือเป็นกลองโบราณที่มีประโยชน์หลายอย่างต่อชาวอีสาน  เนื่องด้วยเสียงกลองที่ดังกระหึ่มชนิดที่ว่า  "ดังข้ามคุ้มข้ามบ้าน"(ดังไปจนถึงหมู่บ้านข้างเคียง)  ชาวภูไทในเขตอ.ศรีธาตุ  อ.วังสามหมอ (ติดกับอ.คำม่วงของกาฬสินธุ์)  จะใช้กลองเส็งนี้ตีเพื่อขับไล่สัตว์ป่าที่เข้ามาบุกรุกพื้นที่ไร่  ตลอดจน  เสือ  ช้าง  ที่ลงจากภูมาเพ่นพ่านในหมู่บ้าน

ในนิทานโบราณของอุดรธานีเรื่อง  ผาแดง - นางไอ่  มีการกล่าวถึงกลองเส็งไว้อย่างชัดเจน  คือ "...ก่อนเถิงมื้อบุญบั้งไฟ  พญาขอมให้ชาวเมืองต่างแต่งพระนครเป็นการใหญ่  ให้มีการเฮ็ดข้าวปุ้นถวายพระ  มีการโอ่ลำ เกี้ยวพาราสีระหว่างพ่อชายหนุ่มและซุมแม่ญีง  มีการแข่งเส็งกลองกันซุมื้อบ่มิขาด..."  

ช่วงงานประจำปีทุ่งศรีเมืองอุดรธานี  ปีก่อน(2551)  ได้จัดให้มีการแข่งเส็งกลองกันระหว่างชาวบ้านจากจังหวัดต่างๆ  เชื่อหรือไม่ครับ  ผมอยู่ห่างจากทุ่งศรีเมืองราวๆ 2 กิโลเมตรกว่า  ได้ยินชัดเจน  เพื่อนๆ ต่างถามกันว่าเสียงอะไร  ผมเองก็สงสัย  จนกระทั่งไปงานทุ่งศรีเมืองถึงได้รู้

จุดประสงค์หลักของกลองเส็งคือ  ใช้สำหรับการแข่งขันประลองความดังหรือใช้สำหรับตีในงานบุญต่างๆ เช่น งานบุญบั้งไฟ เป็นต้น

การตีกลองเส็งจะต้องใช้ไม้ตีซึ่งนิยมใช้ไม้เค็ง (ไม้หยี) ไม้มุยด่อน ไม้นางขาม เพราะมีความเหนียวและทนทานกว่าไม้ชนิดอื่นๆ

ผู้เฒ่าผู้แก่ในอ.กุมภวาปี เล่าประวัติกลองกิ่ง ให้ฟังว่า กลองกิ่ง เป็นเครื่องดนตรีอีสานตั้งแต่ครั้งโบราณกาล ใช้แข่งขันกันในเทศกาลงานประเพณีต่างๆ เช่น งานบวชนาค งานบุญบั้งไฟ งานเข้าพรรษา งานออกพรรษา

โดยในสมัยก่อน ทุกหมู่บ้านจะมีการนัดแข่งกลองกิ่ง หากทางหมู่บ้านใดมีงานแข่งกลอง ทางเจ้าภาพผู้จัดงานจะต้องส่งหนังสือไปตามหมู่บ้านต่างๆ และกำหนดเวลาแข่งขันที่แน่นอน เมื่อได้รับหนังสือที่ส่งไปให้แล้ว จะเอากลองของตนมาตบแต่ง ขูดกลอง ชักหนังกลอง การเข้าน้ำ แล้วตีทดสอบดูว่าดังหรือไม่ หากยังไม่ดัง ต้องทำการแก้ไขใหม่จนเป็นที่พอใจ


เมื่อถึงวันนัดแข่งขัน จะมีพิธีกรรมที่สืบทอดกันมาแต่โบราณ คือ "การบูชาครูอ้อกลอง" "การเลี้ยงนางกลอง" "การสู่ขวัญกลอง" เมื่อเสร็จจากพิธีกรรมเหล่านี้ แต่ละหมู่บ้าน จะหามกลองและตีเตาะกลองไปตลอดทาง

ในสมัยโบราณ ไม่มีรถยนต์ ต้องใช้วิธีหามกลองไป แม้หนทางจะไกลหรือใกล้ก็ต้องยกพวกกันไปอย่างสนุกสนานจนถึงวัด

พอได้เวลาการแข่งขัน ให้นำเอากลองมาเรียงรายกันไว้ เพื่อตีแข่งกันเป็นหมู่บ้าน ก่อนคัดเลือกกลองที่เสียงดังเข้าแข่งขัน ตัดสินกันให้เป็นแพ้ชนะ โดยจะมีการตีแข่งเสียงกลองที่เป็นเสียงกิ่ง

ดังนั้น การเส็งกลองกิ่ง จึงเป็นถือเป็นการแข่งกีฬาโบราณ อย่างหนึ่งของคนอีสาน

"กลองกิ่ง" เป็นกลองหนังสองหน้า มีหน้าด้านบนใหญ่กว่าด้านล่าง ตัวกลองทำด้วยไม้สูงประมาณ 80-100 เซนติเมตร ไม้ที่ใช้ตีกลองจะมีตะกั่วหุ้มอยู่ที่ปลายด้านที่ใช้ตี

โดยทั่วไป วัสดุที่ใช้ในการทำกลองกิ่ง ประกอบด้วย


1.หนังควายเฒ่า (ควายที่ล้มตายด้วยอายุไข จะดีมาก) ใช้ทำเป็นหน้ากลองด้านบนและด้านล่าง

2.ไม้ที่จะมาใช้ทำตัวกลอง นิยมใช้ไม้ประดู่ สูงประมาณสะดือ และมีหน้ากว้างด้านบนประมาณ 1 ศอกกำ หน้ากว้างด้านล่างประมาณ 1 คืบ

3.หนังเส้น หรือเชือกไนลอน ใช้สำหรับผูกกลองด้านบน กับหนังกลองด้านล่าง (ในสมัยโบราณ นิยมใช้เชือกที่ทำจากหนังควาย เรียกว่า เชือกริว)

4.ไม้ตีกลอง ทำจากไม้นางขาม ไม้มุยด่อน ไม้เค็ง มีตะกั่วหุ้มด้านที่ใช้ตี ยาวประมาณ 40-50 เซนติเมตร

"พระครูพิพัฒน์วิทยาคม" เจ้าคณะตำบลหมากหญ้า และเจ้าอาวาสวัดโนนสว่าง ต.หมากหญ้า อ.หนองวัวซอ จ.อุดรธานี เป็นผู้มีประสบการณ์ในการเส็งกลองกิ่งมาตั้งแต่สมัยเด็ก

เมื่อครั้งบรรพชาเป็นสามเณร ได้มีความคิดริเริ่มที่จะอนุรักษ์ประเพณีโบราณนี้ ให้คงอยู่คู่เมืองอุดรธานีสืบไป

จากนั้น ท่านจึงได้ทำการฟื้นฟูประเพณีเส็งกลองกิ่ง โดยเริ่มจากในวัดและให้การสนับสนุนไปยังหมู่บ้านและอำเภอต่างๆ ให้นำเอากลองกิ่งมาแข่งขันกัน ในเทศกาลบุญประเพณีวันออกพรรษาเป็นประจำทุกปี

พระครูพิพัฒน์วิทยาคม ได้บอกเคล็ดลับการทำให้กลองกิ่งมีเสียงดังกังวาน ว่า ขึ้นอยู่กับการเข้าน้ำกลอง คือการหยอดน้ำในรูแพ เพื่อให้น้ำถูกหนังด้านในและตีเอาน้ำออกทันที เสียงกลองจะดังขึ้นเรื่อยๆ เมื่อพร้อมจะนำเข้าแข่งขันทันที ใครที่เข้าน้ำกลองกิ่งได้เก่ง ก็มีสิทธิ์ชนะคู่แข่งได้

นอกจากนี้ สิ่งสำคัญในการเส็งกลองกิ่ง ที่ขาดเสียไม่ได้ คือ การบูชาครูอ้อเพลง จะมีคำสวดบูชาที่ขึ้นต้นด้วยคำว่า "อมละลวย มหาละลวย กูสิรวยทั่งคิ้ว กูสิรวยทั่งตา กูสิรวยทั้งขา กูสิรวยเทิงขาเทิงแข้ง"

การเลี้ยงนางกลอง ด้วยดอกไม้ธูปเทียน อาหารคาวหวาน การสู่ขวัญกลอง ล้วนแต่มีความสำคัญทั้งสิ้น

แต่นับวัน เยาวชนคนรุ่นใหม่ จะไม่รู้จักกลองกิ่งโบราณมากยิ่งขึ้น

การสืบสานประเพณีเส็งกลองกิ่ง จึงเป็นเรื่องสำคัญเฉพาะหน้า ที่ควรจะส่งเสริมให้คนรุ่นหลังได้เรียนรู้และสืบทอดมรดกวัฒนธรรมอันดีงามนี้

ให้คงอยู่สืบไปจนถึงชั่วลูกชั่วหลาน

 
 
สาธุการบทความนี้ : 544 ครั้ง
จากสมาชิก : 1 ครั้ง
จากขาจร : 543 ครั้ง
 
 
  06 เม.ย. 2552 เวลา 13:29:29  
   ขึ้นบน ลงล่าง  
 
         

  โพสต์โดย   716) วงโปงลางอุดรพิทยานุกูล(ของปังคุง)_งานศิลปหัตถกรรมอุดรปีนี้  
  ปังคุง    คห.ที่52)       [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]  
  จ้าวยุทธภพ

ภูมิลำเนา : _มณฑลเทศาภิบาลอุดร_
เข้าร่วม : 04 ม.ค. 2552
รวมโพสต์ : 1357
ให้สาธุการ : 900
รับสาธุการ : 1788320
รวม: 1789220 สาธุการ

 


เล้ก ๆ น้อย ๆ เสริมนิดเสริมหน่อย  แล้วก็เม้าท์กันตามประสา

 
 
สาธุการบทความนี้ : 535 ครั้ง
จากสมาชิก : 0 ครั้ง
จากขาจร : 535 ครั้ง
 
 
  07 ต.ค. 2552 เวลา 13:59:35  
   ขึ้นบน ลงล่าง  
 
         

  โพสต์โดย   64) ลายเพลงโปงลาง มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี(สังข์เงิน)  
  ปังคุง    คห.ที่2)       [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]  
  จ้าวยุทธภพ

ภูมิลำเนา : _มณฑลเทศาภิบาลอุดร_
เข้าร่วม : 04 ม.ค. 2552
รวมโพสต์ : 1357
ให้สาธุการ : 900
รับสาธุการ : 1788320
รวม: 1789220 สาธุการ

 
ฟ้อนดอกบัว
เพลงอุบลราชธานี...(อยู่ในเพลงที่เผมเอามาให้โหลดมีครับ)
เพลงที่ใช้ประกอบการแสดงฟ้อนดอกบัว ประพันธ์คำร้องโดย อาจารย์ เทิด บุญรัตพันธ์ ทำนองโดย จ่าหวิง

เคยใช้วงแคนวงแสดงต่อหน้าพระพักต์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ และสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ เมื่อปีพ.ศ. 2498

การแต่งกายประกอบการแสดงมหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลฯ ได้จัดแต่งกายให้เป็นการแต่งกายสตรีลาว(แม่ญิงลาว) แถวหนึ่ง และแต่งกายเป็นไทยอีสานอุบลฯ ถือดอกบัวสัญลักษณ์ดอกไม้ประจำเมือง....








ฟ้อนขันหมากเบ็ง(คนละอันกับของนครพนม)

ขันหมากเบ็ง  เปรียบเสมือนขันธ์ ห้าของชาวอีสาน คำว่าเบ็ง เพี้ยนมาจาก เบญจะ ซึ่งหมายถึง ห้า เป็นขันธ์ที่ใช้สมมา (สัมมาคารวะ) คารวะสิ่งศักดิ์สิทธิ์หรือบุคคลที่เคารพนับถือเพื่อเป็นมงคล นำมาถวายด้วยศรัทธาบารมี.....






ฟ้อนเทียนใจ
เพลง โดยรองสมเด็จฯ พระพรหมวชิรญาณ เจ้าอาวาสวัดยานนาวา ท่านได้ประพันธ์ให้มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลฯ ให้ประกอบประเพณีบุญเดือน แปด แห่เทียนเข้าพรรษาในวโรกาสพระเจ้าอยู่หัวครองราชย์สมบัติครบ 50 ปี ในปีพุทธศักราช 2539

เพราะดีนะครับ  ฟังได้จากเว็ปนี้เลย
http://www.onsorn.com/forum/index.php?topic=6623.0

(เกริ่น) เอ่อ..............เอ๋ย......
เมื่อเยือนถิ่นไทยอีสานโอฬารพ้น
เมืองอุบลแดนนักปราชญ์เกษมสรรค์
ประเพณีระบือเล่านานนิรันดร์
เมื่อถึงวันเข้าพรรษาพาแห่เทียน

(ร้อง)
ทั้งหนุ่มสาวต่างแต่งตัวกันหลากสี
สวยงามตามประเพณีดนตรีเสถียร
ร่วมขบวนกันเป็นแถวแนวนักเรียน
พร้อมกันเวียนประทักษิณโบสถ์ศาลา

ต่างตั้งใจน้อมบูชาพระไตรรัตน์
ถวายวัดสถิตย์ไว้ในศาสนา
เสริมกุศล ทาน ศีลและภาวนา
เพื่อชาติหน้าชาตินี้มีโชคชัย

พระสงฆ์จุดเทียนทุกวันในพรรษา
พร้อมสวดมนต์ภาวนาศรัทธาใส
เทียนส่องแสงแวววับงามจับใจ
ขอชีวิตเราสดใสไร้มืดมน

อานิสงส์แสงเทียนพรั่งสว่างไสว
ให้เป็นดั่งมีเทียนใจอำไพผล
อธิษฐานอำนวยสุขแด่ทุกคน
ใครมาเยือนเมืองอุบลให้โชคดี







ขอบคุณภาพจาก
www.ubonguid.com
topicstock.pantip.com/.../O3231416/O3231416.html

 
 
สาธุการบทความนี้ : 534 ครั้ง
จากสมาชิก : 0 ครั้ง
จากขาจร : 534 ครั้ง
 
 
  29 มิ.ย. 2552 เวลา 16:47:32  
   ขึ้นบน ลงล่าง  
 
         

  โพสต์โดย   83) ลายลำพวน ชมรมนาฏศิลป์หนองคาย  
  ปังคุง    คห.ที่31)       [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]  
  จ้าวยุทธภพ

ภูมิลำเนา : _มณฑลเทศาภิบาลอุดร_
เข้าร่วม : 04 ม.ค. 2552
รวมโพสต์ : 1357
ให้สาธุการ : 900
รับสาธุการ : 1788320
รวม: 1789220 สาธุการ

 



การแสดงชุดตำนานเมืองอุดรในงานเทศกาลอุดรโลก  โดยนักศึกษาจาก ม.ราชภัฏอุดร  ดูมุมซ้ายสุดนะครับ  นั่นแหละคือพวกเธอทั้งหลาย  ในชุดชาวไทพวน

เป็นการฟ้อนของชาวไทพวนที่ฉลองการได้ถิ่นที่อยู่ใหม่  ซึ่งกรมหลวงประจักษ์ได้นำพวกเขามาที่อุดร...

 
 
สาธุการบทความนี้ : 519 ครั้ง
จากสมาชิก : 0 ครั้ง
จากขาจร : 519 ครั้ง
 
 
  28 ม.ค. 2553 เวลา 00:56:39  
   ขึ้นบน ลงล่าง  
 
         

  โพสต์โดย   633) ระบำที่เกี่ยวกับนางอัปสร  
  ปังคุง    คห.ที่63)       [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]  
  จ้าวยุทธภพ

ภูมิลำเนา : _มณฑลเทศาภิบาลอุดร_
เข้าร่วม : 04 ม.ค. 2552
รวมโพสต์ : 1357
ให้สาธุการ : 900
รับสาธุการ : 1788320
รวม: 1789220 สาธุการ

 


นาฏลีลาฟ้าหยาดผมคิดว่าควรจะออกแนวอย่างนี้ดีกว่า  ไม่ต้องโชว์เนื้อหนังเหมือนในรูป  แต่ลักษณะการแต่งกายควรออกมาประมาณนี้ดีกว่ามั้ยครับ  ผมคิดว่าสะดวกแต่งกว่าชุดเดิมยิ่งกว่า  ผมแสกออกมวยใช้เครื่องทองรัดเกล้าแบบออกแนวเขมรเล็กน้อย  สร้อยตาบ  กำไลแขน  กำไลเท้า  เท่านี้ก็โอเคแล้วครับ  ไม่หนักหัวด้วย  ดูแสดงความเป็นโบราณคดีอีสานได้มากกว่า  แล้วถ้ายิ่งใช้ผ้าทอแบบอีสาน  อย่างนี้จะเหมาะกว่านะครับ

 
 
สาธุการบทความนี้ : 518 ครั้ง
จากสมาชิก : 0 ครั้ง
จากขาจร : 518 ครั้ง
 
 
  15 ก.ย. 2552 เวลา 00:25:26  
   ขึ้นบน ลงล่าง  
 
         

  โพสต์โดย   608) ไทพวน  
  ปังคุง    คห.ที่34)       [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]  
  จ้าวยุทธภพ

ภูมิลำเนา : _มณฑลเทศาภิบาลอุดร_
เข้าร่วม : 04 ม.ค. 2552
รวมโพสต์ : 1357
ให้สาธุการ : 900
รับสาธุการ : 1788320
รวม: 1789220 สาธุการ

 
ครับผม  ได้เจอเมื่อไหร่เดี๋ยวจัดให้  มีหลายรูปแบบนะครับ  แบบผมมันเริ่มประยุกต์บ้างแล้ว  มีแบบโบราณจริงๆอย

จริงอย่างที่พี่โหวดว่านะครับ  บทบาทของชาวพวนที่มีต่อสังคมไทยเรา  ชาวไทพวนนี้เกือบเรียกได้ว่า  สูญชาติ  สูญวัฒนธรรมนะครับ  เพราะวัฒนธรรมชาวไทพวนกับชาวไทอีสานปัจจุบันช่างคล้ายคลึงกันจนไม่สามารถแยกออกได้เลยนะครับ  แล้วชาวพวนเองก็จัดเป็นกลุ่มชาวลาวอพยพเช่นเดียวกับเผ่าอื่นๆ  แต่กลับไม่ค่อยปรากฎเอกลักษณ์ที่สื่อความเป็นพวนเลย

ตามเอกสารของนักมานุษยวิทย์ของลาว  จากที่ผมศึกษามา  ไม่น่าเชื่อว่า   ชาวพวนเป็นคนมีอารยธรรมสูงมาก  มีคำประพันธ์ในรูปแบบโคลง  กาพย์และกลอนในลักษณะภาษาของตน  มีวรรณคดีของตน  มีภูมิความรู้และเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมประเพณีอันดีงามของตนด้วย  แต่เนื่องจากเคราะห์กรรมที่พวกเขาประสบกันมามาก  เช่น  เรื่องของสงคราม  จึงทำให้การดำรงอยู่ของวิถีชีวิตตลอดจนศิลปวัฒนธรรมของชาวไทพวนนั้น  แทบจะเดลือนหายจากสังคมแห่งอุษาคเนย์

ในอุดรธานี  คนพวนก็ถือได้ว่า  เป็นแรงขับเคลื่อนทางด้านสังคมและเป็นสื่อเอกลักษณ์ของจังหวัดอุดร  ผ้าทอดังๆ ของอุดรก็ของไทพวนเป็นส่วนใหญ่  บ้านเชียงนอกจากจะไปศึกษาอารยธรรมมนุษย์ยุคหินสู่โลหะกว่า 5000 ปีแล้ว  ยังได้สัมผัสกับวิถีชีวิตแบบชาวไทพวนได้อีก....


และผู้ว่าราชการของอุดรคนปัจจุบัน (นายอำนาจ  ผการัตน์)  ก็เป็นชาวบ้านเชียง  สืบเชื้อสายไทพวนซะด้วย  ถือว่าเป็น ผวจ.คนแรกของอุดร  ที่มาจากเลือดเนื้อของชาวอุดรเอง  

และเป็นศิษย์เก่าโรงเรียนผม (อุดรพิทยานุกูล)  ด้วยครับ ...

 
 
สาธุการบทความนี้ : 517 ครั้ง
จากสมาชิก : 0 ครั้ง
จากขาจร : 517 ครั้ง
 
 
  31 ก.ค. 2552 เวลา 17:23:18  
   ขึ้นบน ลงล่าง  
 
         

  โพสต์โดย   703) CLIP VIDEO^^^การแสดง creative classical dances ครั้งที่10 ประจำปี 2552^^^  
  ปังคุง    คห.ที่50)       [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]  
  จ้าวยุทธภพ

ภูมิลำเนา : _มณฑลเทศาภิบาลอุดร_
เข้าร่วม : 04 ม.ค. 2552
รวมโพสต์ : 1357
ให้สาธุการ : 900
รับสาธุการ : 1788320
รวม: 1789220 สาธุการ

 



จากหลาย ๆ รูปที่ดูมารู้สึกว่ามีเครื่องเงินของเหนือเยอะมากเลยนะครับ  อันที่จริงเครื่องเงินของเหนือกับอีสานก็มีความคล้ายกันมากเลยทีเดียว  พี่โอ๊ตกลับไปลองดีไซน์เครื่องเงินสไตล์ล้านช้าง - อีสาน ให้ออกนะครับ  แล้วเอามาปรับใช้ดู  ผมว่าโอเครมากเลยอ่าครับ  เพราะเเม้แต่เครื่องเงินเหนือยังสวยขนาดนี้  ถ้าเครื่องเงินอีสานแบบสไตล์โบราณได้เกิดละก็  นาฏยศิลป์อีสานก็จะยิ่งรุ่งและใกล้ความเป็นจริงมากขึ้นนะครับ

การแสดงละครสินไซ  ผมเคยดูแต่หมอลำ  ไม่เคยดูแบบนี้เลย  เสียดายจังที่ไม่ได้ไปวันนั้น(ย้อนติดสอบปลายภาค)  

คิดว่าวันมะรืนนี้คงเห็นพี่ ๆ ชาวบอร์ดหลายคนนะครับ  พี่โอ๊ตเองก็ด้วยแหละ  อย่าลืมเอาซีดีไปด้วยนะ(อย่างที่บอกใน M )  อิอิ

ที่อยากทราบนี้ก็คือคอนเส็ปต์การแสดงปีนี้อ่าครับ    

ป.ล.รูปด้านบนไม่เกี่ยว  เลียนแบบพี่โอ๊ตเฉย ๆ

 
 
สาธุการบทความนี้ : 504 ครั้ง
จากสมาชิก : 0 ครั้ง
จากขาจร : 504 ครั้ง
 
 
  06 ต.ค. 2552 เวลา 23:12:01  
   ขึ้นบน ลงล่าง  
 
         

  โพสต์โดย   20) ฟังนิทานก้อม หย่ำไนบักขามคั่ว  
  ปังคุง    คห.ที่308)       [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]  
  จ้าวยุทธภพ

ภูมิลำเนา : _มณฑลเทศาภิบาลอุดร_
เข้าร่วม : 04 ม.ค. 2552
รวมโพสต์ : 1357
ให้สาธุการ : 900
รับสาธุการ : 1788320
รวม: 1789220 สาธุการ

 
สาวเจ้ย  เป็นยอดหญิงกุลสตรี  เธอมีมารยาทเรียบร้อยงดงาม  

สามีเธอ  ก็ขยันเอาการเอางาน  คอยเอาใจใส่เมียอันเป็นที่รักยิ่งนัก  จนกระทั่งวันหนึ่ง

เธอเกิดล้มป่วยลง  คุณสามีก็กังวล  ไปตามหมอในบ้านมารักษา  

"เมียเจ้าเพิ่นสิหายดีในไวๆ นี้ล่ะ  แต่เจ้าอย่าเฮ็ดอิหยังเมียเจ้าเด้อ"
"หมายความว่าจั่งได๋"

"กะห่ามมีอิหยังนำเมียมึงฮั้นตั้ว" หมอบอกก่อนจัดยาสมุนไพรให้เมีย  เมียก็รับมาช้าๆ

....


อันผู้ผัวเมื่อกลับมาจากนา  ทำได้แค่หอมแก้มสาวเจ้ย  ในใจก็คึกขนาด  อยากสิฟาดเมียให้หนำใจ  แต่กะเฮ็ดบ่ได้  ย่านฟาดไปละเมียบ่ฟื้น

เฮ้ดจั่งได๋ดีน้อ....

คุณสามีกะทนมาเป็นเวลาหลายวัน  จิตกามสังวาสเริ่มทำร้ายร่างกายเจ้าของ  เวลาออกไปเฮ็ดไฮ่เฮ็ดนากะบ่มีเรี่ยวแรง  ด้วยไม่ได้กินข้าวจี่นำเมีย  

ผู้เมียกะสงสารคุณผัวสุดหัวใจ  ในที่สุด  เธอก็ตัดสินใจพูดกะผัวในคืนนั้น

"ให้ห้ามอ้ายเฮ้ดหยัง  อ้ายกะบ่ว่าเด๋  แต่อั่นห้ามมีอีหยังนำสาวนี้  อ้ายอดบ่ไหวอีหลี"  คุณสามีก็นอนกระวนกระวายในมุ้งข้างๆ สาวเจ้ยศรีภรรยา

"อ้ายจ๋า  ข้อยสงสารอ้าย  อ้ายบ่ต้องห่ามความอยากเจ้าของให้อดอยากทรมานดอกอ้าย  ข้อยมีเงินอยู่ 5 บาทนึง  อ้ายเอาไปมีความสุขนำแม่จ้าง(โสเภณี)ในอำเภอไป่อ้าย"  (ดูน้ำใจคุณเมียซิ...น่าสรรเสริญอิหลี)

"เจ้ย  เป็นหยังเจ้าจั่งเว้าจั้งซี้  นอกจากโต๋แล้วอ้ายบ่เคยคิดสิมีไผเลยเด๊"
"อ้ายจ๋า  คั่นให้น้องทนเห็นอ้ายทรมานนำน้อง  น้องกะอดสงสารบ่ได้คือกัน  มันบ่ผิดฮีตคองดอก  ถือว่าข้อยอนุญาต  อ้ายอย่าเป็นพะว้าพะวงเลย"

+กับความอยาก  คุณสามีก็เลยรับเงิน 5 บาท(สมัยก่อนมีค่านะ)  แล้วแต่งตัวโก้ออกจากบ้าน  โดยมีสาวเจ้ยเดินลงมาส่งด้วยสีหน้ามีความสุขขึ้น

ผู้บ่าวของเฮาก็เดินไปถ่ารถที่จะเข้าอำเภออยู่กลางบ้าน  

ซักพัก  สาวบัวศรี  เพื่อนซี้สาวเจ้ยก็หาบน้ำเดินผ่านมา

"อ้ายแก่น  อ้ายสิไปไส"  สาวบัวศรีร้องถามแฟนเพื่อน

"โอ๊ย  สิไปเที่ยวในเมือง"  บักอ้ายแก่น  สามีน้องเจ้ยตอบไป

"เที่ยวหยังน้ออ้าย..."  สาวบัวศรีถามอย่างรู้ทัน
"โอ๊ย..  กะอันนั้นหล่า"  บักอ้ายแก่นตอบเขินๆ  สาวบัวศรีเลยเดินเข้าไปซักความ  พอรู้ดังนั้น  เจ้าของก็เลยเกิดความคิดอันชั่วร้ายขึ้น  

เดี๋ยวมาต่อ...

 
 
สาธุการบทความนี้ : 503 ครั้ง
จากสมาชิก : 0 ครั้ง
จากขาจร : 503 ครั้ง
 
 
  17 ส.ค. 2552 เวลา 23:56:34  
   ขึ้นบน ลงล่าง  
 
         

  โพสต์โดย   20) ฟังนิทานก้อม หย่ำไนบักขามคั่ว  
  ปังคุง    คห.ที่271)       [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]  
  จ้าวยุทธภพ

ภูมิลำเนา : _มณฑลเทศาภิบาลอุดร_
เข้าร่วม : 04 ม.ค. 2552
รวมโพสต์ : 1357
ให้สาธุการ : 900
รับสาธุการ : 1788320
รวม: 1789220 สาธุการ

 
อีกเรื่องนึง

อันนี้ค่อนข้างประทับใจมาก  

ที่วัดแห่งหนึ่ง  เกิดเหตุสะเทือนขวัญหมู่บ้านขึ้นคือ

หนุ่มดัชชี่ของหมู่บ้าน  เกิดเบื่อทางโลก  จึงขอลาบวช  ศึกษาพระธรรม

และ   หญิงสาวป๊อปของหมู่บ้านเคียงข้าง  อดีตนางสงกรานต์ประจำอำเภอ  ก็เกิดเบื่อชีวิต  เมื่อพบว่า  สักวันหนึ่งหากตนแก่  ความงามก็ไม่ได้อยู่คงที่กับตนเสมอไป  เมื่อเกิดความเบื่อหน่าย  จึงออกบวชเป็นชี  




เดือนต่อมา  หลวงพี่สุดหล่อของเราก็มีอันต้องไปหมู่บ้านข้างๆ เพื่อช่วยงานออกแบบแปลนสิม  พอดีปะช่วงเข้าพรรษา  พี่แกเลยต้องอยู่ที่นั้นตลอดสามเดือน  ช่วงนั้นนั่นเองที่หลวงพี่เกิดปิ๊งแม่ชี  แม่ชีเองเมื่อพบหลวงพี่ก็เกิดรู้สึกว่า  เราจะรีบบวชไปทำไมกัน  


หลวงพี่เองก็นึกเสียใจมาโดยตลอด  ที่ตนไม่ได้ใช้ชีวิตฆราวาสให้คุ้มค่าเท่าที่ควร


วันต่อมา  ทั้งสองกวาดลานวัดใต้ต้นโพธิ์ใหญ่  พอดีลมบ้าหมูก็พัดมา  หลวงพี่ซึ่งนุ่งแต่สังฆาฏิก็ถูกลมพัดเปิด  แม่ชีสาวเลยเห็นพญานาคตัวเขื่องของหวงพี่  จึงหลงอุทานออกมาว่า  

"ว้าย  นรกแท้ๆ"

หลวงพี่เองก็เขิน  แม่ชีก็อาย  จึงรีบวิ่งหนีไป

ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา  แม่ชีก็ไม่มีสมาธิ  จะนั่งจะนอนก็นึกเห็นพญานาคอยู่ตลอด  

อีกวันหนึ่ง  หลวงพี่กลับจากบิณฑบาต  พอเดินผ่านต้นโพธิ์ก็ปะกับแม่ชี  แม่ชีเมื่อเห็นหน้าของสหายธรรมผู้มากกว่าสหาย  ก็สบตามอง  เดินถอยหลังสะดุดรากโพธิ์  ผ้าถุงเปิดอ้าทันที


เป็นเคราะห์(หรือบุญวะ)ของหลวงพี่  เมื่อได้มองเห็นรูพญานาค  ก็หลงอุทานออกมา

"โอ  มันคือสิ่งชั่วร้าย  มันคือกิเลสเครื่องมัวหมอง"  แล้วก็เดินผ่านไปด้วยอารมณ์กระสันต์

ทั้งพระหนุ่มและแม่ชีสาว  ต่างก็กระวนกระวายใจเป็นอย่างยิ่ง  ในที่สุดทั้งสองจึงตัดสินใจว่า  พรุ่งนี้เช้าจะต้องสึกได้แล้ว  เพราะแค่นี้ก็ถือได้ว่าทำบาปมหันต์เหลือเกิน


พอตอนเช้า  ทั้งสองจึงทำการสึก  หลังจากเปลี่ยนชุดกันแล้ว  ทั้งสองเดินออกพ้นโขงประตูวัด  ทิดจึงกล่าวกับหญิงสาวว่า

"ยังไงเราก็เห็นอะไรต่อมิอะไรแล้ว  ผมว่า  เราควรจับสิ่งชั่วร้าย  กิเลสเครื่องมัวหมองไปลงนรกกันเถอะ"



หญิงสาวเงยหน้ามองชายที่รักครู่หนึ่ง

"อือ"

 
 
สาธุการบทความนี้ : 499 ครั้ง
จากสมาชิก : 2 ครั้ง
จากขาจร : 497 ครั้ง
 
 
  07 มิ.ย. 2552 เวลา 01:42:36  
   ขึ้นบน ลงล่าง  
 
         

  โพสต์โดย   718) โฮมตุ้มผลงานของอ้ายโอ๊ต  
  ปังคุง    คห.ที่49)       [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]  
  จ้าวยุทธภพ

ภูมิลำเนา : _มณฑลเทศาภิบาลอุดร_
เข้าร่วม : 04 ม.ค. 2552
รวมโพสต์ : 1357
ให้สาธุการ : 900
รับสาธุการ : 1788320
รวม: 1789220 สาธุการ

 
ปกติพี่แกมีแต่ไปถ่ายคนอื่นฟ้อน  ไม่ค่อยได้ฟ้อนให้คนอื่นถ่าย  มีน้อยรูปจริง ๆ เท่าที่ผมเห็นก็เป็นภาพแกฟ้อนโก๋ยมือ  ฟ้อนเต้ยเกี้ยว  เป็นต้นครับ

 
 
สาธุการบทความนี้ : 499 ครั้ง
จากสมาชิก : 0 ครั้ง
จากขาจร : 499 ครั้ง
 
 
  07 เม.ย. 2553 เวลา 11:49:42  
   ขึ้นบน ลงล่าง  
 
         

  โพสต์โดย   718) โฮมตุ้มผลงานของอ้ายโอ๊ต  
  ปังคุง    คห.ที่69)       [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]  
  จ้าวยุทธภพ

ภูมิลำเนา : _มณฑลเทศาภิบาลอุดร_
เข้าร่วม : 04 ม.ค. 2552
รวมโพสต์ : 1357
ให้สาธุการ : 900
รับสาธุการ : 1788320
รวม: 1789220 สาธุการ

 


คงเป็นยุคโบราณจริง ๆ เนาะพี่โอ๊ต

ผมบางทรงดูฌป็นทวารวดีกับขอมไปเลย

เอ้อมันก็จริงที่ว่าทวารวดีมันอิทธิพลแนวมอญ ๆ กับเขมรนิ

 
 
สาธุการบทความนี้ : 496 ครั้ง
จากสมาชิก : 0 ครั้ง
จากขาจร : 496 ครั้ง
 
 
  06 พ.ค. 2553 เวลา 01:53:36  
   ขึ้นบน ลงล่าง  
 
         

  โพสต์โดย   111) วงโปงลางเพชรดอนจา โรงเรียนดอนเมืองจาตุรจินดา  
  ปังคุง    คห.ที่7)       [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]  
  จ้าวยุทธภพ

ภูมิลำเนา : _มณฑลเทศาภิบาลอุดร_
เข้าร่วม : 04 ม.ค. 2552
รวมโพสต์ : 1357
ให้สาธุการ : 900
รับสาธุการ : 1788320
รวม: 1789220 สาธุการ

 
สวยดีครับ  เน้น ๆ ผ้าอีสานจะเป็นการดี  เพราะการแสดงบางชุดถ้าใช้แค่เพลงอีสานมันก็คงไม่เรียกว่าการแสดงอีสาน

ถือว่าเด็กกรุงเทพเริ่มมีปฏิกิริยาต่อโปงลางแล้ว  หลาย ๆ โรงเรียนในกรุงเทพก็เริ่มตั้งวงโปงลางแล้ว  ดีใจนะครับ  ...

 
 
สาธุการบทความนี้ : 495 ครั้ง
จากสมาชิก : 0 ครั้ง
จากขาจร : 495 ครั้ง
 
 
  13 ธ.ค. 2552 เวลา 22:30:46  
   ขึ้นบน ลงล่าง  
 
         

  โพสต์โดย   20) ฟังนิทานก้อม หย่ำไนบักขามคั่ว  
  ปังคุง    คห.ที่307)       [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]  
  จ้าวยุทธภพ

ภูมิลำเนา : _มณฑลเทศาภิบาลอุดร_
เข้าร่วม : 04 ม.ค. 2552
รวมโพสต์ : 1357
ให้สาธุการ : 900
รับสาธุการ : 1788320
รวม: 1789220 สาธุการ

 
ฟังมาอีกต่อครับ

มีครอบครัวอันนึง  เฮ้ดไฮ่ไถนา  สมาชิกประกอบด้วย  พ่อ  แม่  ลูกสาวและเด็กทารกอีกคนนึง

ช่วงนั้นน้องชาย(เด็กทารก) เพิ่งถือกำเนิด  ทั้งบ้านเลยเห่อกันขนาด  อีพ่อก็ดีใจคักสั่นหวา  ได้ลูกชายเนาะ  อิ๊แม่ก็เช่นเดียวกัน  อุ้มน้องใหญ่เลย

อิ๊เด็กสาวมันก็เพิ่งจำเริญวัย  ด้วยความที่วัยเด็กต้องได้รับการเอาใจใส่จากผู้ใหญ่  แต่น้องหนูของเฮาเหมือนกะถูกไม่สนใจ

เพราะทั้งบ้านพุ่งเป้าไปยังเจ้าชายน้อยของบ้าน  

อีเด็กหญิงก็ร้องห่มร้องไห้  ด้วยความที่ไม่มีใครสนใจเจ้าของ  งานบ้านเจ้าของก็เลยได้เฮ้ดซ่อยพ่อ  อั่นแม่กะยากนำบักหล่า  พ่อกะเห่อลูกซายน้อย  วู้ย  ชีวิตลูกคนแรกทำไมทรมานยั่งงี้

วันหนึ่ง  อีเด็กแอบคิดแผนการร้าย  หนูแอบไปเอายาพิษที่อีพ่อซ่อนเอาไว้อาบลูกหน้าไม้ไว้ยิงพังพอน  มาทาหัวนมแม่ยามแม่กะลังนอนกลางวัน  

มึ้ง  บีกน้องชั่ว  บ่เหลือชีวิตแน่นอนมึง....  แล้วเธอก็ออกไปเล่นข้างนอกจนกระทั่งกลับมาถึงเรือน  พอเธอจะขึ้นเรือนก็ได้ยินเสียงอีแม่ไห่งึกๆ

อิอิ  สำเร็จละสู  ....

แต่....

เมื่อเธอขึ้นถึงเรือน  สิ่งที่เห็นต่อหน้าคือ  อีพ่อนอนน้ำลายฟูมปาก....

เป็นย้อนหยังคิดเอาเด้อ  อิออิอิ

 
 
สาธุการบทความนี้ : 475 ครั้ง
จากสมาชิก : 2 ครั้ง
จากขาจร : 473 ครั้ง
 
 
  17 ส.ค. 2552 เวลา 23:40:41  
   ขึ้นบน ลงล่าง  
 
         

  โพสต์โดย   81) ขอเพลงเอ้ไอ่คำ  
  ปังคุง    คห.ที่1)       [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]  
  จ้าวยุทธภพ

ภูมิลำเนา : _มณฑลเทศาภิบาลอุดร_
เข้าร่วม : 04 ม.ค. 2552
รวมโพสต์ : 1357
ให้สาธุการ : 900
รับสาธุการ : 1788320
รวม: 1789220 สาธุการ

 
ขออภัยสำหรับความล่าช้าครับผม

http://www.ziddu.com/download/6047852/Ei_Icam.mp3.html

เอ้ไอ่คำของม.สารคามนะครับ

 
 
สาธุการบทความนี้ : 466 ครั้ง
จากสมาชิก : 0 ครั้ง
จากขาจร : 466 ครั้ง
 
 
  14 ส.ค. 2552 เวลา 23:07:49  
   ขึ้นบน ลงล่าง  
 
         

  โพสต์โดย   20) ฟังนิทานก้อม หย่ำไนบักขามคั่ว  
  ปังคุง    คห.ที่270)       [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]  
  จ้าวยุทธภพ

ภูมิลำเนา : _มณฑลเทศาภิบาลอุดร_
เข้าร่วม : 04 ม.ค. 2552
รวมโพสต์ : 1357
ให้สาธุการ : 900
รับสาธุการ : 1788320
รวม: 1789220 สาธุการ

 
อารมณ์ดี  เลยมาเล่าให้ฟังครับ

อันนี้ก็มาจากอากงเช่นเคย  แกเคยบวชแกเลยได้เรียนรู้อะไรมาเยอะ  เรื่องมีอยู่ว่า

ที่วัดในหมู่บ้าน  มีพี่เณรที่พึ่งเลื่อนอุปสมบทเป็นพระภิกษุเต็มตัว  กะน้องเณรน้อยที่เพิ่งเข้ามาบวช  

น้องเณรน้อยแกก็บ้องแบ๊วเหลือเกิน  ทำอะไรก็ยังถือว่าเดียงสายังอ่อน  เลยได้แต่เป็นเบ๊ให้หลวงพี่ซะงั้น  คอยเสิร์ฟชา  ซักผ้าเหลือง  บีบนวดหรือทำงานเล็กๆ น้อยๆ ให้

วันหนึ่ง  ทั้งสองได้ออกไปบิณฑบาตที่หมู่บ้านข้างเคียง  สิ้นเสียงโปงลั่น  พระสงฆ์ต่างก็แยกย้ายกัน  คู่ดูโอของเราก็เช่นกัน


พอทั้งสองเดินรอบหมู่บ้านแล้ว  ก็ถึงเวลากลับสู่วัด  ในระหว่างเดินผ่านทุ่งนา  เห็นวัดอยู่ไกลๆ นั้น  หลวงพี่ของเราก็ดันเกิดปวดท้องอึอย่างรุนแรง

เณรน้อย: เป็นหยังเจ้า
หลวงพี่: กูปวดขี้แหม น้อย
เณรน้อย: คึบ่ขี้ตั้งแต่ตื่นพุ่น
หลวงพี่: เอ๋า  กะกูบ่ปวดเนาะ  บักห่า  โอ้ยๆๆๆ
เณรน้อย: คันสั่นสิเฮ็ดจังได๋ล่ะบาดนิ
หลวงพี่: กุสิขี้ข้างพงหญ้านี่ดอก  มึงแนมเบิ่งให้แหน่เด้อ  คั่นมีคนยางมากะบอกแน
เณรน้อย: อื้อ

หลวงพี่เกิดปวดขี้อย่างรุนแรง  จึงฝากบาตรกะน้องเณร  แล้วให้น้องเณรยืนอยู่ข้างถนน  โดยบอกว่า  ถ้ามีคนเดินมากะบอกด้วย


ซักพักมีกองเกวียนปลาแดกผ่านมา  เณรน้อยชะโงกหน้าไปหน้าเกวียน  เจอนายฮ้อย(คนคุม)ขี่ม้าผ่านมา  

เณรจึงกวักมือโบกม้า  นายฮ้อยก็ควบม้าเข้ามาหา  จังหวะนั้นเณรก็พูดขึ้น

"พ่อลุง  พระขี้"  แล้วจึงชี้มือไปที่หลวงพี่ซึ่งกำลังจะขึ้นสวรรค์  นายฮ้อยก็งงว่าเณรพูดถึงอะไร  เลยเดินไปแหวกพงหญ้าดู


ฮ่วยยยยย


ทั้งสองต่างก็ตกใจ  ลูกเกวียนนายฮ้อยเมื่อได้ยินเสียงนายฮ้อยก็กรูวิ่งเข้ามา  พบกับหลวงพี่นั่งยองย่อถกสบงมีอึเยิ้มอยู่  เณรน้อยก็เดินเข้ามาหา

"มึงไปเอิ้นคนมาเฮ็ดหยัง!!!"  หลวงพี่ถาม  เณรน้อยก็งง
"เอ๋า  กะเจ้าบอกข่อยว่าคั่นมีคนมาให้บอกเนาะ"
"บักห่าเมิงเอ๊นยยย!!!  กุหมายถึงให้บอกกู  บ่แม่นไปบอกคน!!!!!!!!!!!!!"






....  เสร็จกิจ  เณรน้อยกะถืกเตะจนคว่ำ  หลวงพี่ก็อับอาย  ส่วนนายฮ้อยเมื่อเข้าใจแล้ว  ก็จึงได้ถวายปลาแดกให้ไหหนึ่ง  ไว้ฝากแม่ครัวทำอาหารถวายทานที่วัด


เณรน้อยจึงเดินหอบไหปลาแดกกลับวัดทั้งน้ำตา  พร้อมๆ กับหลวงพี่ที่เดินเงียบไม่พูดอะไร

 
 
สาธุการบทความนี้ : 460 ครั้ง
จากสมาชิก : 2 ครั้ง
จากขาจร : 458 ครั้ง
 
 
  06 มิ.ย. 2552 เวลา 23:58:41  
   ขึ้นบน ลงล่าง  
 
         

  โพสต์โดย   143) ร้อยกรองกวีกานต์ ร้อยกลอนกวีกัน  
  ปังคุง    คห.ที่110)       [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]  
  จ้าวยุทธภพ

ภูมิลำเนา : _มณฑลเทศาภิบาลอุดร_
เข้าร่วม : 04 ม.ค. 2552
รวมโพสต์ : 1357
ให้สาธุการ : 900
รับสาธุการ : 1788320
รวม: 1789220 สาธุการ

 
ดึกดื่นลมเอื่อยโอ้        ใจหนาว
จำพรากจากแล้วคราว  เทื่อนี้
คะนึงคิดฮอดแม่สาว    งามจบ  ตูเอย
เจ้าหากคึดฮอดพี่        บ่น้อก้อนคำ

 
 
สาธุการบทความนี้ : 449 ครั้ง
จากสมาชิก : 0 ครั้ง
จากขาจร : 449 ครั้ง
 
 
  20 ก.พ. 2553 เวลา 20:38:46  
   ขึ้นบน ลงล่าง  
 
         

  โพสต์โดย   55) สุดสะแนน  
  ปังคุง    คห.ที่2)       [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]  
  จ้าวยุทธภพ

ภูมิลำเนา : _มณฑลเทศาภิบาลอุดร_
เข้าร่วม : 04 ม.ค. 2552
รวมโพสต์ : 1357
ให้สาธุการ : 900
รับสาธุการ : 1788320
รวม: 1789220 สาธุการ

 
ขอบพระคุณมากครับ

หลายหลายความเห็นนะครับ  เรื่องคำว่าสุดสะแนนเนี่ย


แต่ถึงอย่างไรก็ดี  ผมก็รู้สึกสับสนกับคำว่า  เสี่ยงสายหมิ่งสายแนนอยู่  

วอนขอคำอธิบายด้วยครับ

สงสัยมากกกกกกกกกก

 
 
สาธุการบทความนี้ : 448 ครั้ง
จากสมาชิก : 0 ครั้ง
จากขาจร : 448 ครั้ง
 
 
  07 มิ.ย. 2552 เวลา 16:31:52  
   ขึ้นบน ลงล่าง  
 
         

  โพสต์โดย   35) ฟ้อนกลองตุ้ม-ฟ้อนหมากกั๊บแก้บลำเพลิน  
  ปังคุง    คห.ที่7)       [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]  
  จ้าวยุทธภพ

ภูมิลำเนา : _มณฑลเทศาภิบาลอุดร_
เข้าร่วม : 04 ม.ค. 2552
รวมโพสต์ : 1357
ให้สาธุการ : 900
รับสาธุการ : 1788320
รวม: 1789220 สาธุการ

 
ขอบคุณข้อมูลมากนะครับพี่

เอ๊  ผมสงสัยอีกแล้ว

พี่ลูกแม่ศรีบอกว่า  สไนนี้ภาษาส่วยเรียกเสนงเกล  ชื่อออกจะพ้องกับปี่เขาสัตว์ที่ใช้ในพิธีโล้ชิงช้า  ที่ผมเรียนมาเขาเรียก เขนง  

มีส่วนเกี่ยวข้องรึป่าวเนี่ย

เออ -*-

 
 
สาธุการบทความนี้ : 447 ครั้ง
จากสมาชิก : 0 ครั้ง
จากขาจร : 447 ครั้ง
 
 
  29 เม.ย. 2552 เวลา 22:06:36  
   ขึ้นบน ลงล่าง  
 
         

  โพสต์โดย   64) ลายเพลงโปงลาง มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี(สังข์เงิน)  
  ปังคุง    คห.ที่0) ลายเพลงโปงลาง มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี(สังข์เงิน)      [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]  
  จ้าวยุทธภพ

ภูมิลำเนา : _มณฑลเทศาภิบาลอุดร_
เข้าร่วม : 04 ม.ค. 2552
รวมโพสต์ : 1357
ให้สาธุการ : 900
รับสาธุการ : 1788320
รวม: 1789220 สาธุการ

 
สืบเนื่องจากคราวที่แล้วที่ผมได้ซีดีมาจากรุ่นพี่ผมที่เรียนเบ็ญจะมะมหาราช(เขียนงี้จริงๆ)  และผมได้นำไปโพสท์ซักถามประวัติความเป็นมาของวงโปงลางมอราชภัฏอุบล  หรือสังข์เงิน  และได้รับคำตอบมามากมาย  เป็นพระคุณอย่างยิ่ง

ผมเคยสัญญาไว้ว่า  จะนำเพลงมาให้ฟัง  พอดีโปรแกรมแปลงไฟล์บ้านผมมันเจ๊ง  ผมไม่ค่อยมีโอกาสได้ทำอะไรซักที  จึงปล่อยเนิ่นมาจนถึงวันนี้  ผมเพิ่งลงโปรแกรมเสร็จเลยแปลงไฟล์และเอามาอัพโหลดให้ฟัง


ขณะนี้เอามาลงไว้ให้ส่วนหนึ่งแล้วนะครับ

เพลงที่เด่นชัดที่สุดในวงโปงลางม.ราชภัฏอุบลราชธานีคือ
เพลงฟ้อนบายศรีอุบล  ซึ่งมีทำนองและเนื้อร้องแตกต่างจายฟ้อนบายศรีสู่ขวัญของม.ราชภัฏอุดร  ดูมีเอกลักษณ์ไปอีกแบบ  หลายคนอาจเคยดูวิดีโอมาจากยูทูป  แต่อันนั้นเป็นของเก่าทำไว้นานมากแล้ว  ที่ผมกำลังจะเอามาให้ฟัง  ทำขึ้นเมื่อปี 35 (มั้ง)  ช่วงนั้นเฉลิมฉลองเมืองอุบลครบรอบ 200 ปีแห่งการก่อตั้ง    

มีลายเพลงอื่นๆ ผสมโรงอยู่ด้วยนะครับ  ความจริงผมมีเยอะอยู่  แต่เดี๋ยวมาลงให้อีกที  ตอนนี้เอาไปสองซิปก่อน


ดวน์โหลด  แล้วแตกซิปเปิดฟังได้เลยนะครับ

http://www.uploadtoday.com/download/?363066&A=823861
-เพลงอุบลราชธานี
-ฟ้อนบายศรีเมืองอุบล

http://www.uploadtoday.com/download/?363074&A=395683
-ลายศรีผไทสมันต์
-ลายมโหรีอีสาน



ไฟล์เก่ามาก  เสียงอาจไม่ค่อยดีนะครับ  แต่คงกลิ่นอายความศักดิ์สิทธิ์ของดนตรีอีสานไว้อย่างไม่เสื่อมคลาย  นี้แหละเค้าเรียกว่า  ยิ่งเก่ายิ่งขลัง  (ทำไว้ก่อนผมเกิดอีก)


โหลดได้ไม่ได้มาบอกกันนะครับ

 
 
สาธุการบทความนี้ : 445 ครั้ง
จากสมาชิก : 0 ครั้ง
จากขาจร : 445 ครั้ง
 
 
  28 มิ.ย. 2552 เวลา 10:24:48  
   ขึ้นบน ลงล่าง  
 
         

  โพสต์โดย   20) ฟังนิทานก้อม หย่ำไนบักขามคั่ว  
  ปังคุง    คห.ที่309)       [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]  
  จ้าวยุทธภพ

ภูมิลำเนา : _มณฑลเทศาภิบาลอุดร_
เข้าร่วม : 04 ม.ค. 2552
รวมโพสต์ : 1357
ให้สาธุการ : 900
รับสาธุการ : 1788320
รวม: 1789220 สาธุการ

 
ต่อครับ

สาวบัวศรีแอบมักผัวเพื่อนมานานแล้ว  อีกซังผัวเจ้าของ  กินแต่เหล้า  ตอนเช้าก๊ะออกไปหาปลา  ไม่มีเวลามานั่งทำการบ้านกะศรีภรรยา  เจ๊เลยเสนอเจ้าของ

"อ้ายจ๋า...  อ้ายไปในเมืองกะเสียค่ารถ  เมื่อยเปล่า  ได้แม่จ้างผู้เดียวคือกันแต่ได้เทื่อเดียว  มาเอาก๊ะข่อยนี่มา  ข่อยคิด 2 บาท  บ่แพง..."สาวบัวศรีให้ท่าทันที

ใช่ว่าสาวบัวศรีไม่สวยนะคับ  พี่แก่นของเราแกไม่ต้องคิดเลย  ได้ฟันสาวสวย  แล้วบ่เสียตังหลายนี่ใช่เลย

"แล้วผัวเจ้าเพิ่นบ่ว่าอ้ายบ้อ"
"เพิ่นบ่ค่อยอยู่บ้านดอกจ้า"

และแล้วเวลาแห่งความสุขก็ผ่านไปเรื่อยๆ  จู่ๆ  ก็มีเสียงถีบบานประตูดังขึ้น  คู่สวาทของเราถึงกับชะงัก  

"อีบัวศรี  อี๊หมู่ซั่ว.........."  เสียงสาวเจ้ยแผดร้องพร้อมกับฝ่ามือตบ  อีกทางหนึ่งก็ผัวสาวบัวศรียืนโกรธจนหน้าแดง  คู่ชู้ของเราถึงกับซีด

"มึงเอาผัวกูยังบ่ทันได้พอ...มึงยังสิเอาตังกูอีก  อีห่า!!"

"เจ้ย  กูบ่ได้ตั้งใจ"

"บ่ได้ตั้งใจจั่งได๋  หลักฐานคาตาจั่งซี้"  แล้วเจ๊ก็เสริมต่อว่า

"มึงฮู้ไว้เด้อ  ยามผัวมึงมาเอากูอยู่บ้านซาวเทือร้อยเทื่อ    กุบ่เคยคิดตังนำผัวมึงจั๊กเทือ!!!!!!"

จบคำพูด  อ้ายบ่าวแก่นก็ถึงกับเป็นลมคาหว่างขาสาวบัวศรี...

 
 
สาธุการบทความนี้ : 444 ครั้ง
จากสมาชิก : 1 ครั้ง
จากขาจร : 443 ครั้ง
 
 
  18 ส.ค. 2552 เวลา 00:06:06  
   ขึ้นบน ลงล่าง  
 
         

  โพสต์โดย   633) ระบำที่เกี่ยวกับนางอัปสร  
  ปังคุง    คห.ที่17)       [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]  
  จ้าวยุทธภพ

ภูมิลำเนา : _มณฑลเทศาภิบาลอุดร_
เข้าร่วม : 04 ม.ค. 2552
รวมโพสต์ : 1357
ให้สาธุการ : 900
รับสาธุการ : 1788320
รวม: 1789220 สาธุการ

 
ผมนึกว่าสมัยทวารวดี  มาก่อนสมัยขอมซะอีก  



แต่ยังไง นาฎลีลาฟ้าหยาดผมคิดว่าควรจะแต่งกายอย่างทวารดีนะครับ  เพราะเค้าอ้างอิงถึงเมืองฟ้าแดดสงยาง  แล้วโบราณสถานที่นั่นปรากฎในรูปแบบของสถาปัตยกรรมแบบทวารวดี  ชัดเจนกว่าขอมนะครับ

เรื่องการแต่งกาย  อย่างฮากับคำว่า "ไม่ให้คะแนนกับการเลือกใช้ผ้านะครับ"  ไม่มีตรงไหนแสดงให้เห็นถึงความเป็นอีสานเลย


เรื่องระบำลพบุรีพาเพื่อนผิด  เห็นด้วยอย่างยิ่ง
สมัยนั้น(ที่มีการคิดค้นระบำลพบุรี)เค้าคงไม่เน้นการแต่งกายเท่าไหร่  ว่ามากไปก็ไม่ดี(เครื่องประดับชุ่ยไปหน่อยมั้ยจ๊ะ)  แต่นั้นแหละคือสาเหตุที่ทำให้อนุชนรุ่นหลังเค้าเห็นผิดตามไปหมด

 
 
สาธุการบทความนี้ : 444 ครั้ง
จากสมาชิก : 0 ครั้ง
จากขาจร : 444 ครั้ง
 
 
  16 ก.ค. 2552 เวลา 19:28:33  
   ขึ้นบน ลงล่าง  
 
         

  โพสต์โดย   718) โฮมตุ้มผลงานของอ้ายโอ๊ต  
  ปังคุง    คห.ที่108)       [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]  
  จ้าวยุทธภพ

ภูมิลำเนา : _มณฑลเทศาภิบาลอุดร_
เข้าร่วม : 04 ม.ค. 2552
รวมโพสต์ : 1357
ให้สาธุการ : 900
รับสาธุการ : 1788320
รวม: 1789220 สาธุการ

 
ใช่แล้วครับ

ช่วงนี้ติดงานอย่างโน้นอย่างนี้

วุ่นวายมาก  ยังไงก็ตามเดี๋ยวถ้าผมได้โควต้ามอขอหรือติดที่ใฝ่ฝันซักที่จะมาถล่มบอร์ดนี้ไม่ให้เหลือพื้นที่ว่างเลย

จะได้หายคิดถึง  555+

 
 
สาธุการบทความนี้ : 440 ครั้ง
จากสมาชิก : 0 ครั้ง
จากขาจร : 440 ครั้ง
 
 
  09 ก.ค. 2553 เวลา 22:48:23  
   ขึ้นบน ลงล่าง  
 
         

  โพสต์โดย   716) วงโปงลางอุดรพิทยานุกูล(ของปังคุง)_งานศิลปหัตถกรรมอุดรปีนี้  
  ปังคุง    คห.ที่61) แสดงงานประจำปีทุ่งศรีเมือง 2552      [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]  
  จ้าวยุทธภพ

ภูมิลำเนา : _มณฑลเทศาภิบาลอุดร_
เข้าร่วม : 04 ม.ค. 2552
รวมโพสต์ : 1357
ให้สาธุการ : 900
รับสาธุการ : 1788320
รวม: 1789220 สาธุการ

 



น้องนุช  นักร้องประจำวง

 
 
สาธุการบทความนี้ : 437 ครั้ง
จากสมาชิก : 0 ครั้ง
จากขาจร : 437 ครั้ง
 
 
  03 ม.ค. 2553 เวลา 21:42:17  
   ขึ้นบน ลงล่าง  
 
         

  โพสต์โดย   82) แมงอันนี้ บ้านเจ้า เอิ้นว่าอีหยัง?  
  ปังคุง    คห.ที่7)       [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]  
  จ้าวยุทธภพ

ภูมิลำเนา : _มณฑลเทศาภิบาลอุดร_
เข้าร่วม : 04 ม.ค. 2552
รวมโพสต์ : 1357
ให้สาธุการ : 900
รับสาธุการ : 1788320
รวม: 1789220 สาธุการ

 
คุณมังกรเดียวดาย:
หมายเลข1
ภาพนี้ หามาจากเว็บไหน จำไม่ได้แล้ว... ขอบคุณช่างภาพ นะครับ



แมงอันนี้ ขอนแก่น บ้านข้อย เอิ้นว่า แมงหนวดโค้ง  เด้อ

บ้านท่านเรียกว่าอะไรกันบ้างน้อ???

    

บ้านผมเรียกแมงกินผม ครับ

 
 
สาธุการบทความนี้ : 436 ครั้ง
จากสมาชิก : 0 ครั้ง
จากขาจร : 436 ครั้ง
 
 
  21 ต.ค. 2552 เวลา 18:38:00  
   ขึ้นบน ลงล่าง  
 
         

  โพสต์โดย   71) ฟ้อนสาวหลอก  
  ปังคุง    คห.ที่21)       [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]  
  จ้าวยุทธภพ

ภูมิลำเนา : _มณฑลเทศาภิบาลอุดร_
เข้าร่วม : 04 ม.ค. 2552
รวมโพสต์ : 1357
ให้สาธุการ : 900
รับสาธุการ : 1788320
รวม: 1789220 สาธุการ

 
คุณมังกรเดียวดาย:
คุณบ่าวหน่อ:
ฟ้อนนี้ดูจากชื่อฟ้อนแล้ว มอบให้ต๊อกเลยครับ "ฟ้อนโดนสาวหลอก"


   โดนสาวหลอก
ถึงสาวหลอก ก็เต็มใจให้หลอก ต๊อกเคยบอกสาวเลย
สาวสวยๆ ใช่สาวขี้ขะเพย สาวหลอกเลย หลอกซ้ำ

ของสูงค่า อาวุโสมากหน่อย หือ..อร่อยได้หลายคำ
สาวสวยๆ ไม่กลัวเวรกรรม สาวหลอกซ้ำ หาใย

* เป็นบันได เป็นก้อนเส้า ให้เขาเอาสาวไหม
เขาต้มน้ำร้อน เอาฝักหลอกใส่ สาวได้แล้ว ลืมข่อย

**น้ำร้อนมาก ที่เขาใช้สาวหลอก ลวกอ้ายต๊อกจนผ่อย
ลวกทั้งหัวทั้งตัวเกลี้ยงหล่อย ดักแด้น้อย ใช้เวร


ซ้ำ*,**

ใช้เวลาดิฟ 30 นาที



คิดได้ไง  555+

 
 
สาธุการบทความนี้ : 433 ครั้ง
จากสมาชิก : 0 ครั้ง
จากขาจร : 433 ครั้ง
 
 
  16 ก.ค. 2552 เวลา 19:29:53  
   ขึ้นบน ลงล่าง  
 
         

  โพสต์โดย   835) วงโปงลางชมรมดนตรีและนาฏศิลป์ไทย มทส.  
  ปังคุง    คห.ที่95)       [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]  
  จ้าวยุทธภพ

ภูมิลำเนา : _มณฑลเทศาภิบาลอุดร_
เข้าร่วม : 04 ม.ค. 2552
รวมโพสต์ : 1357
ให้สาธุการ : 900
รับสาธุการ : 1788320
รวม: 1789220 สาธุการ

 
คุณเเคนลำโขง:
อยากเห็นรูปอ้ายโอ้ดโตจริงนิ
สิมีบุญพาวาสนาส่งบ่นอ
เพราะเห็นตั้งเเต่รูป การ์ตูน
เเงๆๆๆ  ผมเอารูปผมลงเเล้วเด้อ  
ตอนนี้อยู้ ม..6 เเล้ว  สิต่อสายดนตรี
อ้ายพอสิไห้คำเเนะนำอีหยังเเนได้บ่ครับ

    

รูปพี่โอ๊ตมีนะครับ  ลองไปซ่นหาในกระทู้อื่น ๆ ดู  เป็นคนผอม ๆ แห้ง ๆ หน้าคือคอเพื่อชีวิตนี่แหละครับ  ตามหาเอาโลด

ภาพผ้าด้านบนสวยดีนะครับ

 
 
สาธุการบทความนี้ : 432 ครั้ง
จากสมาชิก : 0 ครั้ง
จากขาจร : 432 ครั้ง
 
 
  06 เม.ย. 2553 เวลา 19:32:48  
   ขึ้นบน ลงล่าง  
 
         

  โพสต์โดย   83) ลายลำพวน ชมรมนาฏศิลป์หนองคาย  
  ปังคุง    คห.ที่32)       [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]  
  จ้าวยุทธภพ

ภูมิลำเนา : _มณฑลเทศาภิบาลอุดร_
เข้าร่วม : 04 ม.ค. 2552
รวมโพสต์ : 1357
ให้สาธุการ : 900
รับสาธุการ : 1788320
รวม: 1789220 สาธุการ

 
เป็นเรื่องที่น่ายินดีนะครับ  ที่ประเทศไทยเราได้แหล่งมรดกโลกเพิ่มอีกแห่งนึง  คือที่ภูพระบาท  หรืออุทยานประวัติศาสตร์ภูพระบาท  อ. บ้านผือ  จ.อุดรธานี

แต่ที่น่ายินดีที่สุดคือ  จ.อุดรธานีมีแหล่งมรดกโลกทางวัฒนธรรมของมนุษยชาติอยู่ถึง 2 แห่ง  คือบ้านเชียงและบ้านผือ

แห่งหนึ่ง  คือชุมชนโบราณกว่า 5000 - 7000  ปี  ที่มีอารยธรรมเป็นของของตน  รู้จักการกสิกรรม  งานหัตถกรรม  รู้จักถลุงเหล็กถลุงแร่  ผลิตเครื่องมือเครื่องใช้ในชีวิตประจำวัน  ตั้งแต่หอกมีด  ยันเครื่องประดับ  สื่อให้เห็นถึงความมีศิลปะในหัวคิดของคนในยุคนั้น  มีการปั้นหม้อ  และลงสีเป็นลายหรือที่เรียกว่าไหลาย  เป็นเอกลักษณ์ของตน  ไม่เหมือนใคร  และไม่มีใครเหมือน...

อีกแห่งหนึ่ง  เป็นภูเขาธรรมด๊าธรรมดา  ที่ครั้งหนึ่งเมื่อหลายล้านปี   เกิดการกัดซาะขนานใหญ่ของธารน้ำแข็ง  จนเกิดเพิงผารูปร่างประหลาด  มนุษย์ยุคหินได้กลายสภาพภูเขาแห่งนี้เป็นชุมชน  สีจากยางไม้คือสิ่งที่เขาใช้ถ่ายทอดความเป็นอยู่สมัยนั้นให้เราศึกษา  เป็นที่น่าสังเกตว่า ภูเขาแห่งนี้  มีผู้คนเข้ามาลงหลักปักฐานอยู่เสมอ  ต่อจากยุคหินลงมาถึงสมัยที่อารยธรรมพราหมณ์และพุทธ  เข้ามากำจัดอวิชชาของคนในพื้นที่  ที่นี่ก็ถูกดัดแปลงเป็นพุทธสถาน  ตั้งแต่ทวารวดียันสมัยขอม  พอยุคล้านช้างของลาว  ที่นี่ก็กลายเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ  และเป็นอีกที่หนึ่งที่วรรณกรรมเพชรน้ำเอกของอีสาน"อุรังคนิทาน"  ก็กล่าวถึง  ในฐานะที่พระพุทธองค์เคยเสด็จมาที่นี่เพื่อทรงสั่งสอนพญานาคให้ตั้งตนอยู่ในศีลธรรม

และความมหัศจรรย์อีกอย่างหนึ่งคือ  แหล่งมรดกโลกทั้ง 2 แห่งนี้  อยู่ในถิ่นของชาวไทพวนในจังหวัดอุดรธานีทั้ง 2 ที่

หรือว่านี่คือรางวัลจากสวรรค์  เพื่อตอบแทนความเหนื่อยยากที่บรรพบุรุษของพวกเขา  ได้ประสบมาแต่เมืองเชียงขวางตราบเข้ามาในแผ่นดินไทย  ใครเล่าจะรู้...

 
 
สาธุการบทความนี้ : 431 ครั้ง
จากสมาชิก : 0 ครั้ง
จากขาจร : 431 ครั้ง
 
 
  28 ม.ค. 2553 เวลา 01:12:06  
   ขึ้นบน ลงล่าง  
 
         

  โพสต์โดย   775) การประกวดวงดนตรีพื้นเมือง(โปงลาง)ระดับมัธยมศึกษา ชิงแชมป์ภาคอีสาน ครั้งที่ 2  
  ปังคุง    คห.ที่16)       [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]  
  จ้าวยุทธภพ

ภูมิลำเนา : _มณฑลเทศาภิบาลอุดร_
เข้าร่วม : 04 ม.ค. 2552
รวมโพสต์ : 1357
ให้สาธุการ : 900
รับสาธุการ : 1788320
รวม: 1789220 สาธุการ

 
คุณอ้ายโอ๊ต:
ต้องแข่งคัดเลือกวันนี้ก่อนครับ ถึงจะรู้ว่าพรุ่งนี้แข่ง 6 วงสุดท้าย คือวงอะไรบ้าง

ส่วนที่แน่ๆพรุ่งนี้แข่งเดี่ยวเครื่องดนตรีตอนเช้า ตอนเย็นถึงแข่งชิงชนะเลิศครับ

    

ข่าวใหญ่!!! ประกาศเลื่อนวันแข่งจากวันนี้ (7 มกรา)เป็น พรุ่งนี้  

เมื่อครู่ผมได้รับโทรศัพท์จากพี่โอ๊ตบอกว่า  พี่เเกเซงมากกกก  เนื่องจากวันนี้ฝนตกที่เมืองเลยตลอดทั้งวัน  (ว่าอยู่ว่าทำไมอุดรวันนี้หมอกลง  หาแดดก็ไม่เจอ  ครึ้มทั้งวัน)  เค้าเลยเลื่อนวันแข่งอะครับ  

มีโรงเรียนที่ได้แข่งก็คือ  นาเยียศึกษา  กับหนองคายพิทย  แต่ก็กลายเป็นการโชว์วงแค่นั้นไป  เพราะฝนตก ครับ

ทีมต่าง ๆ ก็ต้องจับฉลากใหม่พรุ่งนี้  พี่โอ๊ตบอกเซงโคตร ๆ  เพราะพรุ่งนี้พอดีมีสอบ  แกอุตส่าห์ลงทุนนั่งรถจากสารคามไปเชียงคานที่เมืองเลย  ติดแม่น้ำโขงพู้น


ก็ขอแสดงความเสียใจกะพี่โอ๊ตด้วยละกันนะครับ  อิอิ  ยังไงก็ขออวยพรให้พี่โอ๊ตเดินทางกลับสู่สารคามโดยสวัสดิภาพ  และโชคดีกับการสอบในวันพรุ่งนี้ด้วยนะครับ

^ ^

 
 
สาธุการบทความนี้ : 430 ครั้ง
จากสมาชิก : 0 ครั้ง
จากขาจร : 430 ครั้ง
 
 
  07 ม.ค. 2553 เวลา 20:09:58  
   ขึ้นบน ลงล่าง  
 
         

  โพสต์โดย   39) ฟ้อนบวงสรวงกรมหลวงประจักษ์  
  ปังคุง    คห.ที่27)       [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]  
  จ้าวยุทธภพ

ภูมิลำเนา : _มณฑลเทศาภิบาลอุดร_
เข้าร่วม : 04 ม.ค. 2552
รวมโพสต์ : 1357
ให้สาธุการ : 900
รับสาธุการ : 1788320
รวม: 1789220 สาธุการ

 


งานนี้ทหารจากกองบินยิบสาม  กับตำรวจตระเวนชายแดนก็มาร่วมงานนะครับ  ในชุดทหารอีสานสมัยร.5

งานนี้แหล่มจริง ๆ

 
 
สาธุการบทความนี้ : 427 ครั้ง
จากสมาชิก : 0 ครั้ง
จากขาจร : 427 ครั้ง
 
 
  02 มี.ค. 2553 เวลา 15:41:31  
   ขึ้นบน ลงล่าง  
 
         

  โพสต์โดย   84) ขอลายเพลงฟ้อนภูไทสกลนคร version ใหม่ ด้วยครับ  
  ปังคุง    คห.ที่17) เพลงฟ้อนภูไทเวอร์ชั่น 2      [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]  
  จ้าวยุทธภพ

ภูมิลำเนา : _มณฑลเทศาภิบาลอุดร_
เข้าร่วม : 04 ม.ค. 2552
รวมโพสต์ : 1357
ให้สาธุการ : 900
รับสาธุการ : 1788320
รวม: 1789220 สาธุการ

 


ขออภัยสำหรับความล่าช้านะครับ

http://v3.gushare.com/file.php?file=17352db39f483c262f05e92f3c68f636


จัดมาให้ละ  

ของสว่างแดนดินศิลป์อีสานนะครับ  ถ้าใครเคยไปดูแข่งระดับประเทศจะรู้จักชื่อโรงเรียนนี้(บ่ได้โฆษณานะ)

อันนี้เป็นฉบับที่เจ้เอิ้นขวัญ วรัญญา  เป็นคนร้อง  (คนที่ร้องเพลง  บ่กล้าบอกครู  แต่หนูกล้าบอกอ้าย)  สมัยเจ้แกเรียนที่สว่างอยู่

อันนี้ผมดูดมาจากซีดีผมนะครับ(นิสสัยไม่ดีเลย)  แต่สนองพี่โอ๊ตมั่ง  พี่แกเคยมอบเพลงให้ผม  ก็จัดให้มั่งนะ  พี่โอ๊ตนะ

ตอนท้ายจะเป็นการแสดงรำมวย  นานหน่อยนะครับ  ตามลิงค์เลย  

555+

 
 
สาธุการบทความนี้ : 425 ครั้ง
จากสมาชิก : 0 ครั้ง
จากขาจร : 425 ครั้ง
 
 
  13 ก.ย. 2552 เวลา 21:15:04  
   ขึ้นบน ลงล่าง  
 
         

  โพสต์โดย   256) <<< มานี มานะ >>>  
  ปังคุง    คห.ที่61)       [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]  
  จ้าวยุทธภพ

ภูมิลำเนา : _มณฑลเทศาภิบาลอุดร_
เข้าร่วม : 04 ม.ค. 2552
รวมโพสต์ : 1357
ให้สาธุการ : 900
รับสาธุการ : 1788320
รวม: 1789220 สาธุการ

 
เล่มปกหนูอ้วน ๆ เล่นสาดน้ำ  เล่มปกเมืองเก่า  แล้วก็ปกพญาฉัตรทันต์  ผมได้ใช้เรียนอยู่ครับตอนป.2 - ป.4  เป็นรุ่นสุดท้ายที่ได้ใช้เลยแหละ....



เล่มเก่ากว่านั้นก็เคยเห็นครับ  เคยอ่านอยู่  ผมชอบแบบเรียนภาษาไทยแบบนี้แหละครับ  ฝึกเด็กไทยจากรากฐานการออกเสียงได้ดี  ทำให้พูดไทยชัดเจนแล้วก็ติดเป็นนิสัย... 5 5

 
 
สาธุการบทความนี้ : 422 ครั้ง
จากสมาชิก : 0 ครั้ง
จากขาจร : 422 ครั้ง
 
 
  20 พ.ย. 2552 เวลา 19:05:16  
   ขึ้นบน ลงล่าง  
 
         

  โพสต์โดย   638) เอารูปน้องๆๆ วงกาฬสินธุ์พิทยาสรรพ์ งานประกวดที่หนองคายมาฝากจ้า...  
  ปังคุง    คห.ที่55)       [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]  
  จ้าวยุทธภพ

ภูมิลำเนา : _มณฑลเทศาภิบาลอุดร_
เข้าร่วม : 04 ม.ค. 2552
รวมโพสต์ : 1357
ให้สาธุการ : 900
รับสาธุการ : 1788320
รวม: 1789220 สาธุการ

 
คุณหนึ่ง:
ไม่ต้องท้อนะคับน้อง  กพส.  เราทำดีและจงรักษาวัฒนธรรมไว้ เป็นกำลังใจให้และติดตามชื่นชม  กาฬสินธุ์พิทยาสรรพ์  เสมอคับ  เจ๊งแล้วคับ..สู้ๆๆ

    

การลงวรรณยุกต์ผิด  จะทำให้คำบางคำมีความหมายเปลี่ยนไปได้นะครับ

ต้อง "เจ๋ง" สิครับ  ไม่ใช่ "เจ๊ง"

555+

 
 
สาธุการบทความนี้ : 416 ครั้ง
จากสมาชิก : 0 ครั้ง
จากขาจร : 416 ครั้ง
 
 
  28 ก.ค. 2552 เวลา 00:06:44  
   ขึ้นบน ลงล่าง  
 
         

  โพสต์โดย   1004) ผ้ามูลแต่พ่อแต่แม่ แพรโบราณ ภูษาแพรพรรณ ประชันความงาม  
  ปังคุง    คห.ที่351)       [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]  
  จ้าวยุทธภพ

ภูมิลำเนา : _มณฑลเทศาภิบาลอุดร_
เข้าร่วม : 04 ม.ค. 2552
รวมโพสต์ : 1357
ให้สาธุการ : 900
รับสาธุการ : 1788320
รวม: 1789220 สาธุการ

 
อันด้านบนผ้าของอาบ๋า(ย่า /ภาษาเวียดนาม)  ย่าผม  แกซื้อซิ่นเก็บไว้ส่วนหนึ่ง(หายไปเยอะมาก)  ตีนตัวนี้เป็นของไทลาวในกุมภวาปีเด้อพี่โอ๊ต  พอดีน้องไม่ได้เขียนไว้โทษที  อยากทราบจริง ๆ ว่ามีลายแบบนี้ในแถวไหนอีก  ถ้าไม่มีละก็ใครรับขิดบอกนำเด้อ  ตีนซิ่นเมืองอุดรแบบเเปลก ๆ มีเยอะ  ขอให้มีเวลาซอกก่อนจะหามาให้ดู

 
 
สาธุการบทความนี้ : 415 ครั้ง
จากสมาชิก : 0 ครั้ง
จากขาจร : 415 ครั้ง
 
 
  06 มิ.ย. 2554 เวลา 21:38:20  
   ขึ้นบน ลงล่าง  
 
         

  โพสต์โดย   643) ชุดการแต่งกายที่ไม่พึงควรและไม่ควรนำมาใช้สำหรับการแสดง  
  ปังคุง    คห.ที่38)       [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]  
  จ้าวยุทธภพ

ภูมิลำเนา : _มณฑลเทศาภิบาลอุดร_
เข้าร่วม : 04 ม.ค. 2552
รวมโพสต์ : 1357
ให้สาธุการ : 900
รับสาธุการ : 1788320
รวม: 1789220 สาธุการ

 
เค้ายังไม่มีความรู้ในด้านนี้ดีครับ  


 
 
สาธุการบทความนี้ : 414 ครั้ง
จากสมาชิก : 0 ครั้ง
จากขาจร : 414 ครั้ง
 
 
  22 ส.ค. 2552 เวลา 16:19:53  
   ขึ้นบน ลงล่าง  
 
         

  โพสต์โดย   20) ฟังนิทานก้อม หย่ำไนบักขามคั่ว  
  ปังคุง    คห.ที่310)       [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]  
  จ้าวยุทธภพ

ภูมิลำเนา : _มณฑลเทศาภิบาลอุดร_
เข้าร่วม : 04 ม.ค. 2552
รวมโพสต์ : 1357
ให้สาธุการ : 900
รับสาธุการ : 1788320
รวม: 1789220 สาธุการ

 
ศัพท์บางศัพท์อย่าง  กินข้าวจี่ยังเงี้ย  บ่ต้องอธิบายความหมายกะฮู้ๆ กันเนาะ  ใช้วิจารณญาณในการอ่านด้วยนะครับ

 
 
สาธุการบทความนี้ : 410 ครั้ง
จากสมาชิก : 0 ครั้ง
จากขาจร : 410 ครั้ง
 
 
  18 ส.ค. 2552 เวลา 00:07:02  
   ขึ้นบน ลงล่าง  
 
         

  โพสต์โดย   7) อยากได้ดนตรีมโนราห์เล่นน้ำครับ  
  ปังคุง    คห.ที่11)       [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]  
  จ้าวยุทธภพ

ภูมิลำเนา : _มณฑลเทศาภิบาลอุดร_
เข้าร่วม : 04 ม.ค. 2552
รวมโพสต์ : 1357
ให้สาธุการ : 900
รับสาธุการ : 1788320
รวม: 1789220 สาธุการ

 
พรานบุญโหดอิหลีพี่โอ๊ตเอ๋ย

5 5 5 เอาง่าไม้ฟาดนางกินรีซะบ่กล้าไปช่วยน้องมโนราห์เลย  เสร็จจากถ่ายบ่แม่นไปคิดบัญชีกันหลังกล้องเบาะ 5 5 5

 
 
สาธุการบทความนี้ : 409 ครั้ง
จากสมาชิก : 1 ครั้ง
จากขาจร : 408 ครั้ง
 
 
  06 ม.ค. 2553 เวลา 17:57:00  
   ขึ้นบน ลงล่าง  
 
         

  โพสต์โดย   555) ช่างฟ้อนวงโปงลางเลยพิทยาคม ในคาบต่างๆ ในงานกาชาดจังหวัดเลย  
  ปังคุง    คห.ที่16)       [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]  
  จ้าวยุทธภพ

ภูมิลำเนา : _มณฑลเทศาภิบาลอุดร_
เข้าร่วม : 04 ม.ค. 2552
รวมโพสต์ : 1357
ให้สาธุการ : 900
รับสาธุการ : 1788320
รวม: 1789220 สาธุการ

 
ขอบคุณรูปภาพสวยๆ จากพี่บาสคับผม  สุดยอดไปเลย  นางรำโรงเรียนพี่สวยดีนะครับ

งามสมเป็นสาวเลยจริงๆ  55+


พี่โอ๊ตก็ช่างสรรหารูปจริงๆ เลยนะครับ  รู้สึกว่ารูปที่พี่แกเก็บมาโพสแต่ละรูปมีแต่สวยๆ หายาก  แล้วก็มีคุณค่าด้วยครับ  อย่างรูปด้านบน


ผมชอบมากก  เอ  แล้วทำไมเขาบ่มิเอิ้นว่านางฟ้อนล่ะคับ


555+  ล้อเล่นๆๆ

 
 
สาธุการบทความนี้ : 409 ครั้ง
จากสมาชิก : 0 ครั้ง
จากขาจร : 409 ครั้ง
 
 
  02 พ.ค. 2552 เวลา 00:43:40  
   ขึ้นบน ลงล่าง  
 
         

  โพสต์โดย   39) ฟ้อนบวงสรวงกรมหลวงประจักษ์  
  ปังคุง    คห.ที่10)       [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]  
  จ้าวยุทธภพ

ภูมิลำเนา : _มณฑลเทศาภิบาลอุดร_
เข้าร่วม : 04 ม.ค. 2552
รวมโพสต์ : 1357
ให้สาธุการ : 900
รับสาธุการ : 1788320
รวม: 1789220 สาธุการ

 
คุณครูป๋อม:
คุณคุณล่วงหน้านะคับผม  เอาเป็นว่า ผมจะคอย ชมแล้วกานคับ
ตอนแรกกะจะเอา  รำบวงสรวงไปโชว์ชาว  อุบลชะหน่อยที่งาน  ทักษะวิชาการ
แต่คงคิดว่าไม่ทัน  เพราะลำพังคิดท่าเอง กลัวมันเพี้ยน     เพราะปีที่แล้วที่ไปแข่งที่โคราช เห็นแต่ละจังหวัดก็โชว์ จังหวัดตัวเองเสียเต็มที่   ใจผม อยากขออัญเขิญ กรมหลวง ไป บวงสรวงบนเวที เสียหน่อย คง  สวยงามอลังการ ไมแพ้จังหวัดใดแน่  เพราะสีดอกจาน สีส้ม ของอุดร  ขึ้นเวทีแล้วสุดยอด บวกผ้ามัดหมี่ย้อมคราม  แล้ว  โหสวยมาก     เอาเป็นฝากความหวังไว้ที่น้องแล้วกันนะคับ  แต่พอทราบใหมคับ ว่าคนออกแบบท่ารำเป็นใคร    

   คนเขาย้อง  ถึงถิ่นเมืองอุดร   ว่าเป็นตาออนซอนอยู่ทุกหมู่บ้าน  ว่ามีของโบราณ  อยู่เต็มฟายพื้น  เฮามาซอยกันสร้างฮักสาสืบต่อ  มรดกพ่อแม่นั้น อย่าไลทิ่มเปล่าดาย  เฮามาซอยกันสร้าง อุดรเฮาให้เฮืองฮูง  เขิญพ่อลุงแม่ป้า มาร่วมฮ่วมซอยกันเด้อพี่น้องเอย

    


ครับ  น่าชื่นชมจริง ๆ พูดถึงงานทักษะวิชาการที่อุบล  คงหมายถึงงานศิลปหัตถกรรมแน่เลย  ปีนี้โรงเรียนผม(อุดรพิทยานุกูล)  ก็คว้าไปหลายรายการเหมือนกันรวมทั้งผมเองก็ด้วย  ในส่วนของวงโปงลางและนาฏศิลป์พื้นเมืองสร้างสรรค์  โรงเรียนผมเองก็คว้าที่ 1 ในระดับเหรียญทองด้วยคะแนนที่สูงมากเชียว

ไม่ทราบว่าคุณครูป๋อมสอนที่โรงเรียนอะไรเหรอครับ  เป็นคนที่ไหนน้อ  เห็นว่าอุดรเหมือนกันแหละ  บ้านผมอยู่ ถ.ศรีชมชื่นหลังโรงเรียนอุดรพิทย์นะครับ  


ถือเป็นมิติใหม่ของการแสดงในอุดรพอสมควรเลย  สำหรับการเอาฟ้อนบวงสรวงกรมหลวงประจักษ์มาใช้แสดง  ผมเองก็เห็นด้วยครับ  เพราะถือเป็นการฟ้อนเอกลักษณ์ของจังหวัดที่ไม่มีในจังหวัดอื่นเลย


แล้วจะรอดูที่อุบลนะครับ ^ ^

 
 
สาธุการบทความนี้ : 403 ครั้ง
จากสมาชิก : 0 ครั้ง
จากขาจร : 403 ครั้ง
 
 
  16 ต.ค. 2552 เวลา 20:26:39  
   ขึ้นบน ลงล่าง  
 
         

  โพสต์โดย   608) ไทพวน  
  ปังคุง    คห.ที่31) เสื้อไทพวนของผม      [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]  
  จ้าวยุทธภพ

ภูมิลำเนา : _มณฑลเทศาภิบาลอุดร_
เข้าร่วม : 04 ม.ค. 2552
รวมโพสต์ : 1357
ให้สาธุการ : 900
รับสาธุการ : 1788320
รวม: 1789220 สาธุการ

 
    

นี่แหละครับที่ว่า  ยายผมตัดให้ใส่  กล้องมือถือไม่ดีเห็นลายไม่ชัดเจนนะครับ  เป็นเสื้อย้อมครามนะครับ  กระดุมเงินจีน(ไม่ได้ขัด สีเลยไม่วาว)  ไว้ใส่ตอนมีงานอะครับ  เป็นชุดสักษณะผู้ดี  ผมได้มาก็ใส่แค่ครั้งเดียวคือตอนปีใหม่  จากนั้นมาก็ไม่ได้ใส่อีกเลย  เพราะขี้เกียจซัก(มันซักมือ)  เอาไปซักแห้งมารอบเดียว  แล้วไม่ได้ใส่อีกเลย  อิอิ

 
 
สาธุการบทความนี้ : 403 ครั้ง
จากสมาชิก : 0 ครั้ง
จากขาจร : 403 ครั้ง
 
 
  29 ก.ค. 2552 เวลา 19:42:58  
   ขึ้นบน ลงล่าง  
 
         

  โพสต์โดย   930) มีรูปเกี่ยวกับพิธีกับมาฝาก  
  ปังคุง    คห.ที่27)       [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]  
  จ้าวยุทธภพ

ภูมิลำเนา : _มณฑลเทศาภิบาลอุดร_
เข้าร่วม : 04 ม.ค. 2552
รวมโพสต์ : 1357
ให้สาธุการ : 900
รับสาธุการ : 1788320
รวม: 1789220 สาธุการ

 
คุณบ่าวภูไท  นครฯ:
คุณท่านรอง:
เต็มพิธี


พิธีแกลมอเป็นพิธีทางอีสานใต้  แต่เห็นการเอ้แล้วคือเอาดอกฝ้ายทางภูไทไปเอ้น้อ

อันนี้ขอคำอธิบายเน้อ  บ่ฮู้อีหลี  หือว่ามีลักษณะของการเอ้แบบคล้ายคลึงกันหือบ่

    

ผมว่ารูปนี้ต่างคนต่างเมาจริง ๆ เมามันกับการฟ้อนมากก  การพลิ้วสะบัดของผ้ายังไม่ค่อยเป็นธรรมชาติเท่าที่ควรนะครับ

เรือมแกลมอนี้คือฟ้อนทรงผีใช่มั้ยครับ

 
 
สาธุการบทความนี้ : 400 ครั้ง
จากสมาชิก : 0 ครั้ง
จากขาจร : 400 ครั้ง
 
 
  12 ก.ค. 2553 เวลา 23:37:02  
   ขึ้นบน ลงล่าง  
 
         

  โพสต์โดย   675) การฟ้อนรำบวงสรวงองค์พระธาตุพนม  
  ปังคุง    คห.ที่19)       [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]  
  จ้าวยุทธภพ

ภูมิลำเนา : _มณฑลเทศาภิบาลอุดร_
เข้าร่วม : 04 ม.ค. 2552
รวมโพสต์ : 1357
ให้สาธุการ : 900
รับสาธุการ : 1788320
รวม: 1789220 สาธุการ

 
คุณอ้ายโอ๊ต:
สันนิษฐานว่าทั้ง 5คนนี้ จะแสดงเป็กษัตริย์ที่ร่วมสร้างองค์พระธาตุ ในชุดการแสดงตำนานพระธาตุพนม










.......................

ชุดล้าสมัยมากครับ ยิ่งเมื่อจับมาแต่งหน้าจัดๆ กลับดูแย่มาก ถ้าแต่งหน้าให้สีบางๆลงกว่านี้จะดูดีขึ้น
(คิดว่าชุดนี้ก็คงไม่ได้อ้างอิงการแต่งกาย จากภาพแกะสลักอิฐบนองค์พระธาตุ)

แถมขบวนถือธุงด้านหลัง ชุดเสื้อผ้าก็เชยสุดๆ

ชุดที่ผมวิจารณ์มานี้เมื่อ20 ปีก่อนมันคงจะดูสวยงามมากๆ
แต่ตอนนี้ชุดของผู้ชายก็มีการพัฒนารูปแบบไปแล้วครับ

ดังนั้นจึงถือว่าชุดแบบนี้คงมาจากร้านเช่าชุดถูกๆ(เชยๆ)เป็นแน่
..........



ในปัจจุบันชุดของผู้ชายได้มีวิวัฒนาการมาอย่างมาก ซึ่งเกิดจากการสร้างสรรค์แบบเสื้อผ้าขึ้นใหม่

โดยเฉพาะจากการเลียนแบบการแต่งกายในภาพจิตรกรรมฝาผนัง ในสมัยรัชกาลที่ 5

ทำให้เกิดเป็นรูปแบบของชุดผู้ชายที่เห็นได้จากภาพที่ผมที่จะเสนอต่อไปด้านล่างนี้ครับ.....

    

ใช่แล้วครับ  ภาพจำหลักบริเวณโดยรอบของพระธาตุพนมกะสมัยราวๆ ยุคทวารวดี - ขอม  ดังนั้นชุดไม่เป็นเช่นนี้แน่นอน  และความจริงหากจะอ้างอิงควรถือตามลักษณะท้าวพญาตามอุรังคนิทานจะดีกว่านะครับ  จะเห็นได้ถึงความแตกต่างและแยกประเภทได้อย่างชัดเจนมากกว่า  

เช่น  พญาอินทรปัตถนคร  ชุดควรจะออกแนว King เขมรโบราณสักหน่อย  เพราะอินทรปัตถ์คือเมืองเขมร

ภาพจำหลักโดยรอบพระธาตุพนมอันที่จริงไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับตำนานการสร้างพระธาตุหรืออุรังคนิทานนะครับ  แต่มีภาพพระวรุณทรงหงส์ศิลปะเขมรอยู่ตรงหน้าบันประตู(พระธาตุ)ทิศหนึ่ง(ไม่แน่ใจว่าตะวันตกมั้ย)  เราอาจนำรูปแบบการแต่งกายแบบนี้มาใช้ได้นะครับ  อันนี้เป็นความเห็นส่วนตัว  พี่ๆ คิดว่าอย่างไรบ้างคับ

 
 
สาธุการบทความนี้ : 397 ครั้ง
จากสมาชิก : 0 ครั้ง
จากขาจร : 397 ครั้ง
 
 
  23 ส.ค. 2552 เวลา 21:22:45  
   ขึ้นบน ลงล่าง  
 
         

  หน้า: 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15

   

Creative Commons License
การฟ้อนรำบวงสรวงองค์พระธาตุพนม --- เว็บบอร์ดอีสานจุฬาฯ