ผญา คติสอนใจประจำวันที่ 20 พฤษภาคม 2567:: อ่านผญา 
อย่าได้ทำเพศเพี้ยงหัวเพียงเพศอึ่ง มันหากเหลือแต่ฮ้องความเว้าฆ่าโต แปลว่า อย่าได้ทำตัวเหมือนอึ่ง ที่ร้องประจานตน สุดท้าย ตายเพราะเสียงร้องตัวเอง หมายถึง ไม่พึงพูดพร่อยๆ พึงใคร่ครวญก่อนแล้วค่อยพูดวาจาที่ไพเราะ มีประโยชน์


  ล็อกอินเข้าระบบ  
ชื่อ ::
รหัสผ่าน::
*จำสถานะ
 
  วิถีชีวิตชาวอีสาน  
       ดินแดนอีสาน มีวัฒนธรรม ประเพณี เฉพาะตน มีวิถีชีวิตความเป็นอยู่ ที่เรียบง่าย ท่ามกลางความแร้นแค้น ชาวอีสาน มีความเป็นอยู่เช่นไร ใช้ชีวิตอยู่เช่นไร สร้างศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณีเช่นไรขึ้นมา

     แต่ละจังหวัด แต่ละสถานที่ อาจมีวิถีชิวิต ความเป็นอยู่ ที่แตกต่าง ตามลักษณะพื้นที่ หรือธรรมชาิติที่มีอยู่ แต่อย่างไรก็ตาม ทั้งหมด ล้วนคือวิถีชิวิตแห่งชาวอีสาน

     เชิญทุกๆท่าน ร่วมเขียนบทความ เรื่องสั้น เล่าวิถีชิวิต ความเป็นอยู่แห่งชาวอีสาน ได้แล้วครับ...



กระทู้ธรรมดา... มีข้อความโพสต์ใหม่

  หน้า: 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 ตอบกระทู้  
  โพสต์โดย  
นิยายชีวิตอีสาน เรื่อง โสกฮัง - ตาดไฮ ( โดย บ่าวปิ่นลม พรหมจรรย์ ) ฉบับผญา (คลิกอ่านบทความต่อเนื่อง)
 
  อีเกียแดง {แห่งรัตติกาล}    คห.ที่51)  
  อนุเซียนผู้อมตะ

ภูมิลำเนา : บุรีรัมย์ @ขอนแก่น
สมาชิกภาพ : สมาชิกทั่วไป
เข้าร่วม : 07 เม.ย. 2552
รวมโพสต์ : 5,431
ให้สาธุการ : 4,145
รับสาธุการ : 11,376,170
รวม: 11,380,315 สาธุการ

 
คุณจารย์ใหญ่:


โหดแท้....ให้พรมา สมปรารถนาทุกอย่างเลยขะน้อย ฮ่าๆๆๆๆ

สำหรับกลอนใจเย็นๆ

แต่ว่า บ่าวหมุน ต้องถอนคำสาป ให้สาก่อนเด้อ........
.
แม่นบ่น้อ คือได้ยินว่าแคนเพ กะยังบ่ช้ำใจท่อเข้าcamfog บ่ได้พะนะ
ฮิ๊วววว

 
 
สาธุการบทความนี้ : 194 ครั้ง
ให้สาธุการบทความนี้
 
 
  05 พ.ค. 2553 เวลา 06:05:13  
    MySite  offline ติดต่อหลังเวที ติดต่อโดยเมล์ ตอบอ้างอิง  
 
  ปิ่นลม    คห.ที่52)  
  เซียน

ภูมิลำเนา : สกลนคร
สมาชิกภาพ : สมาชิกชมรมฯ
เข้าร่วม : 16 มี.ค. 2553
รวมโพสต์ : 2,213
ให้สาธุการ : 180
รับสาธุการ : 4,935,320
รวม: 4,935,500 สาธุการ

 

เอ๋า  เล่นห้องได๋  แคมฟอ็ก นั่น
อย่าบอกเด้อ ว่าห้อง เกย์ ไทย

 
 
สาธุการบทความนี้ : 0 ครั้ง
ให้สาธุการบทความนี้
 
 
  05 พ.ค. 2553 เวลา 07:19:06  
      offline ติดต่อหลังเวที ติดต่อโดยเมล์ ตอบอ้างอิง  
 
  สาวส่า เมืองยโส    คห.ที่53)  
  เจ้ายุทธภพน้อยจ้า
ภูมิลำเนา : ยโสธร
สมาชิกภาพ : สมาชิกทั่วไป
เข้าร่วม : 01 ก.ย. 2552
รวมโพสต์ : 1,784
ให้สาธุการ : 155
รับสาธุการ : 2,996,410
รวม: 2,996,565 สาธุการ

 
คุณรุทธิ์  (อีเกียแดง):
แม่นบ่น้อ คือได้ยินว่าแคนเพ กะยังบ่ช้ำใจท่อเข้าcamfog บ่ได้พะนะ
ฮิ๊วววว


แม่นเพิ่นหรือแม่นจะของกันแท้น๊อ อ้ายเซียง
เห็นสายรายงานมาว่าดึกดื่นบ่หลับบ่นอน
แม่นเฮ็ดหยังอยู่ ถ่าบ่แม่นส่องกบ

 
 
สาธุการบทความนี้ : 329 ครั้ง
ให้สาธุการบทความนี้
 
 
  05 พ.ค. 2553 เวลา 09:53:42  
      offline ติดต่อหลังเวที ติดต่อโดยเมล์ ตอบอ้างอิง  
 
  จารย์ใหญ่    คห.ที่54) จัดให้ตามคำเรียกร้อง (เรื่องสั้น ฉบับผญา ตอนที่ ๑)  
  อนุเซียนผู้อมตะ

ภูมิลำเนา : มุกดาหาร
สมาชิกภาพ : สมาชิกทั่วไป
เข้าร่วม : 13 ก.ย. 2552
รวมโพสต์ : 5,168
ให้สาธุการ : 3,230
รับสาธุการ : 8,946,820
รวม: 8,950,050 สาธุการ

 
บัดนี้.....
ข้าจักพรรณาให้ ผญายาวสิได้หย่าว           ฟังเด้อชาวพี่น้องให้คอยจ้องอ่านเอา
อันนิทานสิได้เว้าเป็นมาจั่งได๋หน่อ             อดรอฟังผู้ข้าสิว่าเรื่องต่อกลอน
ขอกล่าวย้อนตอนแรกชื่อเรื่องสั้นอีสาน        ขนานนามมา ว่าซ่อยกันเด้อพี่น้อง
ก็หากมีในห้องปลาแดกบ่มีไห                  ไทยอีสานจุฬาฯ เวปเฮาเผิ่นพาเว้า

เริ่มแรกเค้าผู้เขียนเติมแต้มแต่ง               กล่าวแสดงบอกไว้ ปิ่นลม นั้นให้จื่อจำ
คำวาทะหม่วนแม้งแยงดูคักแน่               เขียนได้ดีแท้แท้หัวร่ออยู่บ่เซา
สรรหาคำมาเล่าเว้าเรื่องแต่ก่อน              ออนซอนหลายคิดฮอดบ้าน อ่านแล้วอยู่บ่เป็น
มีบทหัวหยอกเล่นขำขันบางแห่ง             อ่านแล้วเพลินแข่วแห้ง  ทั้งยิ้มพ่องหัว

ตัวข้านี้ สินำมาจากล่าว                    เล่าต่อเรื่องสืบเนื่องต่อนิทาน
เขียนไปอีกด้านเป็นผญาสิได้ว่า          หาเอาคำมาต้าน หว่านออกคือปุ๋ย
ลางเทื่อหลุยเลิกเลิ่นเด๋อด๋าบ่เข้าท่า     ขออภัยผู้ข้าเผิ่นพาเว้ากล่าวขาน
เว้าถึงเมืองและบ้านแดนอีสานแต่เก่า    เว้าแล้วคิดค่ำค้อยคณิงบ้านเก่าหลัง

ฟังเด้อพวกพี่น้องฝูงหมู่ทั้งหลาย                ทั้งหญิงชายสู่คนให้ฟังบั้น
หันมาเข้าในนิทานสาก่อน                       กล่าวบ่อนบั้นหนาวหน้าท่งนา
เดือนธันวาลมพัดส่าวตอเฟืองอยู่ไหว่ไหว่      กอไผ่บ้านสีกันเสียงส่ง
ลมพัดท่งวื่นวื่นทรายปลิวขึ้นไหง่               แนมทางได๋คือดั่งพรายภูตล่อง ลอยข้ามท่งนา....

มาบัดนี้พัดแต่ข้าวขึ้นเล้า          เถียงนากะแปนเปล่า
คนเข้าบ้านห่างเถียงนาลาจาก   ฟากท่งพุ้นยังแน่งัวควาย
ยายกันไปเลาะนากินหญ้า        จิกทั้งฮังป่าไม้ก็ใบร่วงหล่นขู
นกหนูฮ้องก็จางหายมิดหมี่       ยามนี้อีสานแล้งคือนิยายถืกสาป พุ้นแหล่ว

ฟังยินเสียงไก่ผู้คอกขันออกหากัน          ฟังดีดีความมันอยู่ไปก็รกโลก
ไก่ผู้โอกโวกเวกฮ้องชมแซวชู้ไก่          ต้มใส่หม้อแกล้มเหล้าคือสิแซบคักหลาย
กล่าวถึงเซียงน้อยอ้ายบ่าวแวงส่ำใหญ่   คนไค ต่อยหมากไม้ หมากตูมพุ้นอยู่โพน
ว่าจักเอาผลต้น ทำกาวติดว่าว             ว่าแล้วฟ้าวเก็บได้หน่วยหมากตูม

อันว่าเฮ็ดว่าวนี้ปูนซิเมนต์กระดาษเก่า      เอาตราเสือท่อนั้นเหลือหั้นบ่ดี
ตราอินทรีบ่ได้ขาดไวบ่เป็นท่า              หาเฮ็ดหางหากแม่นผ้าครูบาคักแน่
สูตรสำเร็จแท้แท้จีวรผ้าเผิ่นคลุม            ผ้าที่เผิ่นห่มตุ้มคลุมแล้วหากดีหลาย
ฉีกเป็นสายเป็นเส้นยาวยาวผูกใส่           อ่านแล้วจำจื่อไว้หางว่าวบ่าวเซียง

มีว่าวแล้วบ่มีเสียงมันบ่ข่อง           ติด สะนู น้อพี่น้อง เสียงลมต้องค่อยฟัง
เสียงดังว่าดื้อดีดื่อ ดื้อแล้วดัง         ฟังแล้วหม่วนหู   อันสะนูลมต้องเฮ็ดมาจากไสแน่
ฟังเด้อข้าสิแก้แปลให้สู่ฟัง             เริ่มแรกตั้งเหลาไม้เฮ็ดคัน
คือดังคันธนูศรเตรียมหามาไว้         ใบหมากขามบ่ได้ เอาใบตาลให้จำจื่อ
นอกนั้นคือขี้สูดกับด้ายใส่กัน          ใบตาลนั้นเหลาบางๆไว้บ้างเสียงนั้นจั่งสิดี
เว้าเรื่องนี้เซียงน้อยชำนาญ           ปานว่าเทพเข้าขั้น ยังนั้นแต่เรื่องเดียว

เรื่องสิว่าเว้าเกี้ยวคุยสาวบ่เป็นท่า                     เห็นหน้าสาวปานว่าพ้อเสือสิคาบงับคอ
จำเป็นเลยต้องเป็นโสด อดเอาคือว่า                 เต็มฝ่ามือเหื่อย้อยคันเห็นหน้าผู้สาว
คุยสาวนำเขาแน่ล่ะท้าว คุยนำสาวแน่ละบ่าว        กลายคราวย้านค้างบ้านเมียซ้อนบ่มี
เต็มทีเด้ ย้านเกเด่ อยู่คนเดียว                        สิบ่เหลียวมองไผแน่บ่น้อใจเจ้า            

เว้าว่าไปยังมีเว้นเซียงเห็นบ่สั่น     แม่นจันเพ็ญ น้องหล่าเชียงกล้าเข้าหา
ย้อนว่าอยู่ชิดใกล้เฮ็ดนาติดท่ง       เคยเข้าดงป่าไม้ขุดก่นหัวมัน
สองเคยไปนำกันแต่คราวยังน้อย    ไปขุดกลอยหัวสั้นขุดมันหัวใหญ่
ไปไต้กบก้านเขียดคราวพุ้นแต่หลัง   ทางโสกฮังฮ่องน้ำเคยคุยเว้าหนุ่มสาว

มาคราวนี้ เต็มทีใจมันค้อยเหงี่ยง              เซียงตะเกียงมอดมืด ตกระหว่างความฮัก  
จักสิทำฉันใดแท้ บ่ฮู้เมื่อคราวพอน้อย        ถึงแม่นคนคอยบอกบ่มีฮู้เมื่อคีง
ย้านแต่จริงคือเขาเว้าคือความเขาว่า          ฮู้ว่านางน้องหล่าเขาสิต้านกล่าวขอ
โอนอชีวิตฮ้างเซียงเอยเป็นตาหน่าย         ถ้าอ้ายขายข้าวได้ สายแล้วย้านบ่ทัน

โจ๋บทบั้น เซียงเอยตกฮ่อง               ตกหลุมรักฮอดก้นทนได้ย้านบ่ไหว
ย้อนหัวใจมันไห้สิทนทานจั่งได๋อยู่       อยู่กะอยู่บ่ได้ไห้กะไห้บ่ออก มันคาคอแค้นจ่อหล่อ
เขาสิขอเอาน้อง พี่นอนห้องพ่องน้ำตา   คิดเห็นความสาวหล่าอ้ายว่าเคยถาม
ยามเขาขอน้องหล้า อ้ายสิว่าแนวใด     พี่กะบอกบ่ได้หัวใจไห้อยู่ใน    

สายลมเอยพัดห้องจันเพ็ญทางหน้าต่าง      พัดพ่างคีงเป็นช่วงช่วงเย็นห้วงทั่วอณู
มองดูลมพานพร้าวแสงจันทร์เงาพาดผ่าน    ส่องหน้าต่างบานน้อยเห็นด้าวหมู่ดาว
สะนูว่าวดังแว่ววีแวแว้วีแว่                      ตามแต่ลมพัดพุ้นใสเรื่อยเข้าใส่หู
สะนูเอ้ยเซียงน้อยบ่เคยหยุดเสียงส่ง          ดังจากท่งฟากพุ้นความหลังข้อยอ่อยใจ

ความหลังฝังในใจจี้มีกังวลหลายอย่าง   นางจันเพ็ญนาทหล่าไผเด้นาสิซ่อยผ่อน
คราวนี้อิดอ่อนแล้วย้านแต่สู้อยู่บ่ไหว     สายป่านในถือไว้ลมเอยพัดโบก
โชคชาตาบ่ให้แสนสิฝั้นกะเล่ามาย       เสียดายเด้อ้ายผู้ฮักสิบ่ได้อยู่แฝง
เสียแฮงเด้ผู้ข้อยแพงสิบ่ได้อยู่ซ้อน       สิลาป๋าไกลห่าง..นางเอยเสียใจเอย

บัดนี้ เดิกกะเดิกมาแล้วไก่ขันวอนว่อน     ตอนนี้เย็นทั่วทีปเหมือยลงค้างอยู่
หญ้าแห้วหมูหน้าบ้านลานหน้าต่อเฮือน   ได้ยินเสียงแม่เอื้อนนึ่งข้าวเป่าไฟ
ควันในเตาลอยใหลเข้าฮูดังคือว่า           แม่นว่าคลุมห่อหน้าผ้าขี้งาปกห่อ กะตามถ้อน
นอนลุกได้จันเพ็ญมาซ่อยแม่                นึ่งเข้าเหนียวแต่เช้าคนสิเต้าหลั่งโฮม

เขาสิมาโอมเอาน้องทาบทามส่งล่าม    ยามนี้พ่อใหญ่ค้ำนำปล้ำไก่ยอง
เอาไว้ฮับพี่น้องการกินไว้ถ้าสู่             เฒ่ากระต่าอยู่พุ้นสิมาต้านกล่าวขอ
ขอเอานางหน่อหล่าจันเพ็ญคือว่า        หำเอ้ยหล่าลุกเด้อฟ้าวแน่
แม่บอกให้เอิ้นอาวสอนผู้ใหญ่             พ่อลุงใสพร่ำพร้อมให้ไปเอิ้นกล่าวขาน

ลมพานโบกสังกะสีตีงสั่น                 ยามนั้นฟ้าฮุ่งแล้วเหมือยลงหมอกหม่น
คลุมขาวบนหง่าไม้มื้อใหม่ยามสิสาย  มองเห็นไฟทางเดิ่นบ้านเผิ่นเผาจูดไฟผิง
หลายคนยังนอนนิ่งบ่มีตีงใต้ผ้าห่ม     บางคนชมชู้ช้อนบ่อนนอนในบ่อน
ออนซอนเด้พี่น้องผู้มีชู้หมู่ผู้สาว         แหม่นว่าหนาวคักแท้ก็ปานได้อุ่นไฟ

มองหมู่มวลแมกไม้ในฤดูขูหล่น           คนก็ปัดกวาดไว้สุมจูดไล่หนาว
ฟังเสียงว่าวสะนูเงียบมิดลงทางท่ง       คงบ่นานชีวิตบ้านชาวอีสานพวมหย่าว
อันว่าชาวพี่น้องสาวจันเพ็ญมารวมกลุ่ม  มาชุมกันอยู่ใต้ผิงไฟอยู่ตาหล่าง
ต่างคนต่างได้เว้าโสกันอยู่ลานเดิ่น       เตินกันมามื้อนี้มีเรื่องเว้าเขาสิเข้าสู่ขอ

เว้าต่อเรื่องน้องเจ้าบ่าวรถจกสิมาสู่      แหม่นอยู่บ้อข้อยว่าแหม่นบอข้อยว่า
จันเพ็ญนางอีหล่าสาวปีเดียวสิเป็นท่า  ไผสิเฮ็ดนาซ่อยเจ้าอาวสอนเว้าว่ามา
จาความต่อผู้อ้ายลุงใสผู้เป็นพี่            มันสิดีอยู่บ้อความเว้ากล่าวถาม
ยามนั้นแม่ใหญ่หล้าเอาสากะผั้นว่า      ฐานะดีกะด้อเอาโลดบ่ว่าหยัง

ฟังเสียงลุงคำเว้าตัดบทเว้าต่อ           แล้วแต่พ่อแม่หล้าจันเพ็ญเขาสิว่า
กล่าวแล้วเด่ไปหน้าผิงไฟมืออุ่น         มองดูทางฝ่ายพุ้นบูรพาพวมส่อง
แดดอ่อนพวมสาดต้องส่องแสงลงใส่   อาศัยแสงไล่ให้หนาวนี้จั่งสิไค
เฮ็ดจั่งได๋ในใจเจ้าจันเพ็ญคิดหุ่ม         หนักมาเป็นปุ้มปุ้มคราวนี้อยู่บ่เป็น

มาบัดนี้ เห็นหลายคนพวมขึ้นเทิงเฮือนพวมสินั่ง  หลายคนหลั่งดุ่งดั้นพวมฟ้าวย่างมา
เขาก็หาไว้ถ้าพันกอกยาคำหมาก            พญานาคไม้ขีดหาไว้ต้อนหมูฝูง
ลุงใสเผิ่นแต่งไว้หน้าที่จัดแจง              ของมีแฮงหากหามาเผื่อถอนตอนเช้า
หากแม่นตราฮวงข้าวเหล้าขาวขวดใหญ่  ลุงคำห่ายเป็กน้อยลงไส้ไล่หนาว

ทางอาวสอนกำลังฟ้าวเข้าครัวต้มไก่    หาเฮ็ดกินเตรียมไว้ไทพี่น้องหลั่งโฮม
ก้มเอ้ย ก้มหน้าก้มตำพริกน้ำแจ่ว         ซอยหอมยังบ่แล้วจันแรมสาวฝ่า
อ่วยหน้าถามฝ่ายเอื้อยจันเพ็ญผู้พี่        เอาอีหลีตี้ล่ะเจ้าสิเอาผัวอีหลีบ่
ถามขึ้นมาจ้อจ้อจักสิเว้าว่าจั่งได๋         เอื้อยกะบอกบ่ได้อันใดแล้วแต่พ่อ  นางเอย

ทางน้องเลย มีความเว้าถามนำจาหน่ำ     ไผนอนนำอีพ่อตี้ กินดองแล้วกล่าวถาม
เว้าตามใจของข้อย เซียงน้อยเด้อข้อยว่า   แหม่นบ่จาปากต้านเลานั้นหากหมั่นเพียร
บ่มีคำจาเอื้อนปากเว้าความต่อ                   หัวใจน้อมันหากเต้น สิตายแล้วอยู่บ่เป็น
จันเพ็ญเอ้ย มันหากหลับบ่ได้หัวใจมันโอ้อ่าว   ยินแต่เสียงว่าวห่าว สะนูอ้ายบ่าวเซียง

เสียงเด้นอ ดังแว่วฝังในใจสาวส่า    ส่างมาทำเฮ็ดให้ ใจน้องอยู่บ่ไหว
เหงาในใน หัวใจให้ไผเด้นาสิมากล่าว   ไผสิซาวซ่อยซ้วนพะอวนน้องนั่งหมอง
ใจเอ้ยขัดเคืองข้อง หมองในใจหากทนอยู่   มีแต่ทนต่อสู้น้ำตาย้อยหย่าวใหล
อุกใจเด้ บ่าวผู้ฮัก มักบ่ได้ ย้านขัดใจแต่ทางพ่อ    ใกล้ล่ะนอมื้อนี้  เขาพุ้นสิสู่ขอ

พอแต่เสียงโปงก้องญาครูตีถั่ง      เสียงระฆังหน่วยไม้สัญญาณให้เฮ็ดบุญ
บุญยามเช้าให้ตักบาตรจังหัน       บุญกลางวันให้แต่งเพลคอยค้ำ
อันนี้คำเผิ่นเว้าจาบอกสอนมา       พ่อแม่พาเฮาทำแต่ปฐมคราวกี้
ศาสนาเฮานี้พระสัมมาเผิ่นสอนสั่ง   ให้ทำทานต่อตั้งบุญสิค้ำซ่อยชุ

มองดูไปทางพุ้นประตูโขงหลวงพ่อผ่าน      บริขารพร้อมแล้วก็ทำแถวตั้งท่า
ครูบาสายถือบาตรอุ้ม ญาคูปุ้มต่อตาม       สามองค์เณรจัวน้อยขัดท้ายคอยย่าง
เดินตามทางหว่างท้าง ภิกขาจารผายโผด  โปรดหมู่สัตว์ให้ล่วงพ้นขี้ตระหนีความเหนียว
ครองพระองค์พาเทียวเดียวนี้คือเก่า          ฮีตพระพุทธเจ้าผู้องค์ล้ำศาสนา

มาบัดนี้ แสงรังสียามเช้า ส่องหลังคาทาอาบ  ฉาบแสงลอดหง่าไม้ถืกไตรผ้าแห่งงาม
ยามนั้นอร่ามเหลืองผืนผ้า หลวงตานำย้ายย่าง  ทางเดินเย็นเยือกเยื้อน เดือนนี้จั่งแหม่นหนาว
ข้าวของผู้ข้า ขาวดีจ่อนผ่อน   ผู้ข้าป่อนใส่บาตรขอให้เป็นของทาน
ขอให้แคล้วหมู่มาร ขออย่าพานหมู่ฮ้าย   อันตรายบังเบียด
ขอให้ถึงทีแล้วนิพพานแก้วอยู่ดี  ในดิถีแห่งอนาคตกาล โน้นเทอญ

อันนี้เผิ่นเอิ้นอธิษฐานใส่บาตร        โบราณเผิ่นกล่าวไว้ แม่ใหญ่มูลเผิ่นจ่ม
ว่าแล้วก้มยอใส่หัวทานทอด          ขอให้เถิงฮอดพุ้นซุมพี่น้องผู้ล่วงลา
ถึงสัตว์สา ผู้ฮ่วมโลกาโลก            ขอให้หายทุกข์โศกพ้นจากเวรกรรม
ฝูงหมู่เวรจำจ้องจ่องจำให้หายผ่าน  ด้วยผลทานอันนี้จงนำยู้ซ่วยยอ

พอแต่เสร็จการได้              หากถามไปทางหลวงพ่อ
เสียงสะนูจั้นจ้อมื้อคืนลมปั่น  ย้านแต่ตกบ่อนบั้นความบ่ดีแหม่นบ่
หลวงพ่อจากล่าวต้าน         ว่าโยมเอ้ยลมพัดว่าว
คราวมันหงายก็หากหงาย คราวมันปิ้นก็หากปิ้น ธรรมดานี้ว่าวลม

ว่าท่อนั้นยกย่างย้าย  กลายไปเดินผ่าน
ลมพัดพานผืนผ้า       หลวงตางามยิ่ง
แม่ใหญ่มูลนั่งนิ่ง      เป็นจริงคือว่า
คือดั่งความว่าเว้า     เข้าใจแล้วส่วงใจ

ขอจากล่าวไปทางพุ้น   เฮือนจันเพ็ญแซวซว่า
เสียงกว่าหมู่ดังแท้       พ่อลุงคำคือว่า
สุราขาวฤทธ์เหล้า       พาให้ส่งเสียง
จี่ไตไก่แหนเปี๋ยงหล้า  จันแรมเอ้ยเอิ้นสั่ง
ฟังแต่เสียงคืนตอบ      ลุงเอ้ยบ่ได้ดอก
บอกพ่อลุงเทื่อนี้        แพงไว้เองปิ้งจี่  ลุงเอย

สีหน้างงทั้งมึนเหล้า  ลุงคำหากเว้าต่อ
กินหยังน้อบ่ได้        มันสิหยาบปึกหนา
ไผว่าแนวหญิงนี้      มันบ่ดีกินไตไก่
พ่อลุงขอบอกไว้      ให้ลุงแกล้มเหล้าขาว

ปากหากมีแต่เจ้า    ลุงเอ้ยกะผั้นว่า
จันแรมจาต่อเว้า     บ่มีแท้ว่าสิยอม
ลุงคำซอมดูแล้ว      บ่ยอมความคำหลื่น
มึนหลายน้ออีหล้า   บ่คือเอื้อยผู้ชื่อเพ็ญ

เว้าแล้วบ่ได้เว้น         น้ำรินกินห่าย
บายเหล้าขาวเข้าปาก  เลยเล่าต้านต่อความ
ยามนั้นหันมาเว้า        เอากันสากะดีอยู่
เขาหากมีหั่งแท้         คือสิแลหล่ำได้ จันเพ็ญหล้าให้อยู่ดี

อาวสอนมีความค้าน  ต้านต่อความมี
เผิ่นผู้มีโตทุกข์        อุกหลายแท้เขาสิหย่อว่าหยัน
ผู้ป้าลุนว่านั้น          ก็แทรกสอดความเห็น
สูทันถามอีเพ็ญ       แน่ล่ะบ้อความเว้า
กูย้านพากันเศร้า      คราวหลังย้านบ่แหม่น
เป็นแฟนชมอยู่ช้อน  ตอนหน้าย้านบ่ดี

ก็หากมีหลายเว้า        หลายความแต่ได้ว่า
จาไปหลายหากบ่แล้ว  หมดหลายแก้วแต่ได้ริน
เว้าไปหมดทุกสิ้น        ปรึกษากันทุกท่า
เลยให้นางนาถหล้า     จันเพ็ญเว้าว่าเอง

เสียงเว้าดังเป้งเป้ง  ลุงคำถามต่อ
จั่งใด๋น้ออีหล้า        โตสิว่าความใด
มีหยังในหัวใจ        ให้ว่าไวคราวนี้
ขอให้นางกล่าวเว้า  สิทธิ์เจ้าให้กล่าวจา

เสียงดังมาดังขึ้น    เบิดแฮงฮ้องว่า
บักห่าต้างซั้นบ้อ    เจิงแข้วข้อยบ่เอา
เสียงกล่าวเว้า       ผั้นจันแรมผู้จาตอบ
ทั้งบ่มักบ่ชอบ       นางว่าหากเว้าว่ามา

ลุงคำแนมมองหน้า    บ่ถามโตส่างมาบอก
หมากกอกน้อย        สิหล่นซ้ำหรอกใส่หัว
หลายคนหัวร่อร่า      ความจันแรมผู้น้องว่า
อีห่ามึงว่าซั้น           กูบ่ได้กล่าวถาม

นางเอ้ยหล้าจันเพ็ญหน้าหล่า   คลานเข้ามามิดหมี่
มีหลายคนคอยถ้าเจ้า           นางหล้าสิกล่าวจา
บ่จักคำสิว่าเว้า                  เอ้าอั่งในหัวใจ
เฮ็ดจั่งได๋เด้นอ                  ผู้กล่าวขอสิถึงแล้ว

คิดนำหลายแต่คุณแก้ว    มารดาพ่อแม่
ใจหนึ่งแหน่คิดฮอดอ้าย   เซียงน้อยว่าวสะนู
สาวนางผู้เลือกเส้น        หนทางสิเทียวไต่
คอยฟังไปเด้อพี่น้อง      นางสิเว้าว่าจั่งได๋........

 
 
สาธุการบทความนี้ : 173 ครั้ง
ให้สาธุการบทความนี้
 
 
  05 พ.ค. 2553 เวลา 11:01:53  
      offline ติดต่อหลังเวที ติดต่อโดยเมล์ ตอบอ้างอิง  
 
  อีเกียแดง {แห่งรัตติกาล}    คห.ที่55)  
  อนุเซียนผู้อมตะ

ภูมิลำเนา : บุรีรัมย์ @ขอนแก่น
สมาชิกภาพ : สมาชิกทั่วไป
เข้าร่วม : 07 เม.ย. 2552
รวมโพสต์ : 5,431
ให้สาธุการ : 4,145
รับสาธุการ : 11,376,170
รวม: 11,380,315 สาธุการ

 
คุณสาวส่า เมืองยโส:


แม่นเพิ่นหรือแม่นจะของกันแท้น๊อ อ้ายเซียง
เห็นสายรายงานมาว่าดึกดื่นบ่หลับบ่นอน
แม่นเฮ็ดหยังอยู่ ถ่าบ่แม่นส่องกบ
ฝนบ่ตกสิไปส่องกบจั่งใด๋น้ออาหมวย โอ๊ะ สาวยโสหยั๋งพอปานสาวเกาหลีบาดนี่

อ้ายบ่ได้เข้าดอกครับ เคยแว๊บไปเบิ่ง โอ๋ เป็นเว็บไซด์เชิงวิชาการอนุรักษ์พลังงาน ตั๊วะนี่ฮู้แล้วกะเลยบ่ได้เข้าไปอีก สั่นดอก

 
 
สาธุการบทความนี้ : 222 ครั้ง
ให้สาธุการบทความนี้
 
 
  05 พ.ค. 2553 เวลา 11:03:28  
    MySite  offline ติดต่อหลังเวที ติดต่อโดยเมล์ ตอบอ้างอิง  
 
  อีเกียแดง {แห่งรัตติกาล}    คห.ที่56)  
  อนุเซียนผู้อมตะ

ภูมิลำเนา : บุรีรัมย์ @ขอนแก่น
สมาชิกภาพ : สมาชิกทั่วไป
เข้าร่วม : 07 เม.ย. 2552
รวมโพสต์ : 5,431
ให้สาธุการ : 4,145
รับสาธุการ : 11,376,170
รวม: 11,380,315 สาธุการ

 
มาแล้วเรื่องสั้น ซวดๆบัดนี่ หลังจากถืกบ่าวปิ่นอูด

 
 
สาธุการบทความนี้ : 0 ครั้ง
ให้สาธุการบทความนี้
 
 
  05 พ.ค. 2553 เวลา 11:05:05  
    MySite  offline ติดต่อหลังเวที ติดต่อโดยเมล์ ตอบอ้างอิง  
 
  จารย์ใหญ่    คห.ที่57)  
  อนุเซียนผู้อมตะ

ภูมิลำเนา : มุกดาหาร
สมาชิกภาพ : สมาชิกทั่วไป
เข้าร่วม : 13 ก.ย. 2552
รวมโพสต์ : 5,168
ให้สาธุการ : 3,230
รับสาธุการ : 8,946,820
รวม: 8,950,050 สาธุการ

 
คุณรุทธิ์  (อีเกียแดง):
มาแล้วเรื่องสั้น ซวดๆบัดนี่ หลังจากถืกบ่าวปิ่นอูด


ทนบ่ได้ จำเป็นต้องออกมาพะนะ   ถืกอูดบ่เป็นตาอยู่  


โปรดติดตามตอนต่อไปพะนะ....

 
 
สาธุการบทความนี้ : 226 ครั้ง
ให้สาธุการบทความนี้
 
 
  05 พ.ค. 2553 เวลา 11:07:51  
      offline ติดต่อหลังเวที ติดต่อโดยเมล์ ตอบอ้างอิง  
 
  ปิ่นลม    คห.ที่58)  
  เซียน

ภูมิลำเนา : สกลนคร
สมาชิกภาพ : สมาชิกชมรมฯ
เข้าร่วม : 16 มี.ค. 2553
รวมโพสต์ : 2,213
ให้สาธุการ : 180
รับสาธุการ : 4,935,320
รวม: 4,935,500 สาธุการ

 

อ่านแล้ว  ได้อารมณ์คักขนาด  อ้ายจารย์  
สงสัย มี เวปเดียวนี่ละ  ทั้งอนุรักษ์  วรรณกรรมคำกลอน อีสานบ้านเฮา
ทั้ง ม่วน ทั้งซื่น โฮ แซว กัน..ฮิ้ว.....

ว่าแล้ว กะ ถอนคำสาบ " อูด " แล้วเด้อ..  เข้าได้แล้ว " ส่องกบ" นะ
ขอย้องอ้าย จะของ เกิ่น น๊า...
อ้ายจารย์นี่ เลา เป็น " เมธี " ( ขี้ใส่ส้วม )  อีหลี เด้ นิ


 
 
สาธุการบทความนี้ : 164 ครั้ง
ให้สาธุการบทความนี้
 
 
  05 พ.ค. 2553 เวลา 14:15:55  
      offline ติดต่อหลังเวที ติดต่อโดยเมล์ ตอบอ้างอิง  
 
  จารย์ใหญ่    คห.ที่59)  
  อนุเซียนผู้อมตะ

ภูมิลำเนา : มุกดาหาร
สมาชิกภาพ : สมาชิกทั่วไป
เข้าร่วม : 13 ก.ย. 2552
รวมโพสต์ : 5,168
ให้สาธุการ : 3,230
รับสาธุการ : 8,946,820
รวม: 8,950,050 สาธุการ

 
คุณปิ่นลม:

อ่านแล้ว  ได้อารมณ์คักขนาด  อ้ายจารย์  
สงสัย มี เวปเดียวนี่ละ  ทั้งอนุรักษ์  วรรณกรรมคำกลอน อีสานบ้านเฮา
ทั้ง ม่วน ทั้งซื่น โฮ แซว กัน..ฮิ้ว.....

ว่าแล้ว กะ ถอนคำสาบ " อูด " แล้วเด้อ..  เข้าได้แล้ว " ส่องกบ" นะ
ขอย้องอ้าย จะของ เกิ่น น๊า...
อ้ายจารย์นี่ เลา เป็น " เมธี " ( ขี้ใส่ส้วม )  อีหลี เด้ นิ



ขอขอบคุณอย่างสุดเอิกสุดใจ สำหรับคำย้องยอ ข้าน้อย  "เมธี" (ขี้ใส่ส้วม ) พะนะ งึดหลาย....

 
 
สาธุการบทความนี้ : 152 ครั้ง
ให้สาธุการบทความนี้
 
 
  06 พ.ค. 2553 เวลา 00:49:52  
      offline ติดต่อหลังเวที ติดต่อโดยเมล์ ตอบอ้างอิง  
 
  อีเกียแดง {แห่งรัตติกาล}    คห.ที่60)  
  อนุเซียนผู้อมตะ

ภูมิลำเนา : บุรีรัมย์ @ขอนแก่น
สมาชิกภาพ : สมาชิกทั่วไป
เข้าร่วม : 07 เม.ย. 2552
รวมโพสต์ : 5,431
ให้สาธุการ : 4,145
รับสาธุการ : 11,376,170
รวม: 11,380,315 สาธุการ

 
คุณจารย์ใหญ่:
คุณปิ่นลม:

อ่านแล้ว  ได้อารมณ์คักขนาด  อ้ายจารย์  
สงสัย มี เวปเดียวนี่ละ  ทั้งอนุรักษ์  วรรณกรรมคำกลอน อีสานบ้านเฮา
ทั้ง ม่วน ทั้งซื่น โฮ แซว กัน..ฮิ้ว.....

ว่าแล้ว กะ ถอนคำสาบ " อูด " แล้วเด้อ..  เข้าได้แล้ว " ส่องกบ" นะ
ขอย้องอ้าย จะของ เกิ่น น๊า...
อ้ายจารย์นี่ เลา เป็น " เมธี " ( ขี้ใส่ส้วม )  อีหลี เด้ นิ



ขอขอบคุณอย่างสุดเอิกสุดใจ สำหรับคำย้องยอ ข้าน้อย  "เมธี" (ขี้ใส่ส้วม ) พะนะ งึดหลาย....
อย่าฟ้าวงึด  บ่าวปิ่นมีแนวให่งึดคักกว่านี่ ระวัง

 
 
สาธุการบทความนี้ : 143 ครั้ง
ให้สาธุการบทความนี้
 
 
  06 พ.ค. 2553 เวลา 06:06:30  
    MySite  offline ติดต่อหลังเวที ติดต่อโดยเมล์ ตอบอ้างอิง  
 
  ปราร้านอกไห   ตอบเต็มรูปแบบ || Quick Reply  
  หน้า: 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16

   

Creative Commons License
นิยายชีวิตอีสาน เรื่อง โสกฮัง - ตาดไฮ ( โดย บ่าวปิ่นลม พรหมจรรย์ ) ฉบับผญา --- วิถีชีวิตชาวอีสาน (ปลาร้านอกไห --- อีสานจุฬาฯ)