ผญา คติสอนใจประจำวันที่ 20 พฤษภาคม 2567:: อ่านผญา 
ให้ค่อยตักค่อยต้อนสิเห็นต่อนแกงปลา ให้ค่อยวิดค่อยสาอย่าเซาวางไว้ แปลว่า พยายามตัก พยายามคนหา จะเห็นชิ้นปลา พยายามวิดน้ำไปเรื่อยๆ อย่าได้ล้มเลิก น้ำก็จะแห้ง หมายถึง ความพยายาม ที่ไม่ท้อถอยล้มเลิก ย่อมนำความสำเร็จมาให้


  ล็อกอินเข้าระบบ  
ชื่อ ::
รหัสผ่าน::
*จำสถานะ
 
  วิถีชีวิตชาวอีสาน  
       ดินแดนอีสาน มีวัฒนธรรม ประเพณี เฉพาะตน มีวิถีชีวิตความเป็นอยู่ ที่เรียบง่าย ท่ามกลางความแร้นแค้น ชาวอีสาน มีความเป็นอยู่เช่นไร ใช้ชีวิตอยู่เช่นไร สร้างศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณีเช่นไรขึ้นมา

     แต่ละจังหวัด แต่ละสถานที่ อาจมีวิถีชิวิต ความเป็นอยู่ ที่แตกต่าง ตามลักษณะพื้นที่ หรือธรรมชาิติที่มีอยู่ แต่อย่างไรก็ตาม ทั้งหมด ล้วนคือวิถีชิวิตแห่งชาวอีสาน

     เชิญทุกๆท่าน ร่วมเขียนบทความ เรื่องสั้น เล่าวิถีชิวิต ความเป็นอยู่แห่งชาวอีสาน ได้แล้วครับ...



กระทู้ธรรมดา... มีข้อความโพสต์ใหม่

  หน้า: 1 2 ตอบกระทู้  
  โพสต์โดย   นิยายชีวิตอีสาน เรื่อง โสกฮัง - ตาดไฮ ( โดย บ่าวปิ่นลม พรหมจรรย์ ) ฉบับผญา  
  จารย์ใหญ่  
  อ้างอิงจังหวัด : -
 
  อนุเซียนผู้อมตะ

ภูมิลำเนา : มุกดาหาร
สมาชิกภาพ : สมาชิกทั่วไป
เข้าร่วม : 13 ก.ย. 2552
รวมโพสต์ : 5,168
ให้สาธุการ : 3,230
รับสาธุการ : 8,946,790
รวม: 8,950,020 สาธุการ

 
                                       เนื้อเรื่อง โดย จารย์ใหญ่

                            อันนี้กะมาจองที่ไว้ก่อนคือกัน โปรดติดตาม เร็วๆนี้

 
 
สาธุการบทความนี้ : 0 ครั้ง
ให้สาธุการบทความนี้
 
 
  24 เม.ย. 2553 เวลา 23:24:16  
        offline  ติดต่อหลังเวที  ติดต่อโดยเมล์ ตอบอ้างอิง  
 
  จารย์ใหญ่    คห.ที่4)  
  อนุเซียนผู้อมตะ

ภูมิลำเนา : มุกดาหาร
สมาชิกภาพ : สมาชิกทั่วไป
เข้าร่วม : 13 ก.ย. 2552
รวมโพสต์ : 5,168
ให้สาธุการ : 3,230
รับสาธุการ : 8,946,790
รวม: 8,950,020 สาธุการ

 
บัดนี้  ข้าจักพรรณาให้ ผญายาวสิได้หย่าว   ฟังเอาเด้อพี่น้องให้คอยจ้องอ่านเอา
อันนิทานสิได้เว้าเป็นมาจั่งได๋หน่อ             อดรอฟังผู้ข้าสิว่าเรื่องต่อกลอน
กล่าวเถิงบทตอนแรก ในเรื่องสั้นอีสาน   ขนานนามฉายา ว่าซ่อยกันเด้อพี่น้อง
ก็หากมีในห้องปลาแดกบ่มีไห                 ไทยอีสานจุฬาฯ เวปเฮาเผิ่นพาเว้า

เริ่มแรกเค้าผู้เขียนเติมแต้มแต่ง               กล่าวแสดงบอกไว้ ปิ่นลม นั้นให้จื่อจำ
คำวาทะหม่วนแม้งแยงดูคักแน่               เขียนได้ดีแท้แท้หัวร่ออยู่บ่เซา
สรรหาคำมาเว้าเรื่องเล่าแต่ก่อน              ออนซอนหลายคิดฮอดบ้าน อ่านแล้วอยู่บ่เป็น
มีบทหัวหยอกเล่นขำขันบางแห่ง            อ่านแล้วเพลินแข่วแห้ง  ทั้งยิ้มพ่องหัว

ตัวข้านี้ สินำมาจากล่าว                   เว้าต่อเรื่องในหัวข้อต่อนิทาน
เขียนไปอีกด้านเป็นผญาสิได้ว่า           หาเอาคำมาต้านหว่านซะออกคือปุ๋ย
ลางเทื่อหลุยเลิกเลิ่นเด๋อด๋าบ่เข้าท่า    ขออภัยผู้ข้าเผิ่นพาเว้ากล่าวขาน
เว้าถึงเมืองและบ้านแดนอีสานแต่เก่า   เว้าแล้วคิดค่ำค้อยคณิงบ้านเก่าหลัง

ฟังเด้อพวกพี่น้องฝูงหมู่ทั้งหลาย               ทั้งหญิงชายสู่คนให้ฟังบั้น
หันมาเข้าในนิทานสาก่อน                     กล่าวบ่อนบั้นหนาวหน้าท่งนา
เดือนธันวาลมพัดส่าวตอเฟืองอยู่ไหว่ไหว่    กอไผ่บ้านสีกันมีเสียงส่ง
ลมพัดท่งวื่นวื่นทรายปลิวขึ้นไหง่        มองไปไสคือดั่งพรายภูตล่อง ลอยข้ามท่งนา....

 
 
สาธุการบทความนี้ : 369 ครั้ง
ให้สาธุการบทความนี้
 
 
  25 เม.ย. 2553 เวลา 08:22:13  
        offline  ติดต่อหลังเวที  ติดต่อโดยเมล์ ตอบอ้างอิง  
 
  จารย์ใหญ่    คห.ที่7)  
  อนุเซียนผู้อมตะ

ภูมิลำเนา : มุกดาหาร
สมาชิกภาพ : สมาชิกทั่วไป
เข้าร่วม : 13 ก.ย. 2552
รวมโพสต์ : 5,168
ให้สาธุการ : 3,230
รับสาธุการ : 8,946,790
รวม: 8,950,020 สาธุการ

 
มาบัดนี้พัดแต่ข้าวขึ้นเล้า       เถียงนากะแปนเปล่า
คนเข้าบ้านห่างเถียงลาจาก   ฟากท่งพุ้นยังแน่งัวควาย
ยายกันไปเลาะเล็มกินหญ้า   จิกและฮังป่าไม้ก็ใบร่วงหล่นขู
นกหนูฮ้องก็จางหายมิดหมี่   ยามนี้อีสานแล้งคือนิยายถืกสาป พุ้นแหล่ว

ฟังยินเสียงไก่ผู้คอกขันออกหากัน         ฟังดีดีความมันอยู่ไปก็รกโลก
ไก่ผู้โอกโวกเวกฮ้องชมแซวชู้ ไก่         ต้มใส่หม้อแกล้มเหล้าคือสิแซบคักหลาย
กล่าวถึงเซียงน้อยอ้ายบ่าวแวงส่ำใหญ่   คนไค ต่อยหมากไม้ หมากตูมพุ้นอยู่โพน
ว่าจักเอาผลต้น ทากาวติดว่าว             ว่าแล้วฟ้าวเก็บได้หน่วยหมากตูม

อันว่าเฮ็ดว่าวนี้ปูนซิเมนต์กระดาษเก่า      เอาตราเสือท่อนั้นเหลือหั้นบ่ดี
ตราอินทรีบ่ได้ขาดไวบ่เป็นท่า              หาเฮ็ดหางแม่นผ้าครูบาคักแน่
สูตรสำเร็จแท้แท้จีวรผ้าเผิ่นคลุม            ผ้าที่เผิ่นห่มตุ้มคลุมแล้วหากดีหลาย
ฉีกเป็นสายเป็นเส้นยาวยาวผูกใส่          อ่านแล้วจำจื่อไว้หางว่าวบ่าวเซียง

มีว่าวแล้วบ่มีเสียงมันบ่ข่อง          ติด สะนู น้อพี่น้อง เสียงลมต้องค่อยฟัง
เสียงดังว่าดื้อดีดื่อ ดื้อแล้วดัง        ฟังแล้วหม่วนหู   อันสะนูลมต้องเฮ็ดมาจากไสแน่
ฟังเด้อข้าสิแก้แปลให้สู่ฟัง            เริ่มแรกตั้งเหลาไม้เฮ็ดคัน
คือดังคันธนูศรเตรียมหามาไว้         ใบหมากขามบ่ได้ เอาใบตาลให้จำจื่อ
นอกนั้นคือขี้สูดกับด้ายใส่กัน          ใบตาลนั้นเหลาบางๆไว้บ้างเสียงนั้นจั่งสิดี
เว้าเรื่องนี้เซียงน้อยชำนาญ           ปานว่าเทพเข้าขั้น ยังนั้นแต่เรื่องเดียว

 
 
สาธุการบทความนี้ : 399 ครั้ง
ให้สาธุการบทความนี้
 
 
  25 เม.ย. 2553 เวลา 10:11:05  
        offline  ติดต่อหลังเวที  ติดต่อโดยเมล์ ตอบอ้างอิง  
 
  จารย์ใหญ่    คห.ที่12)  
  อนุเซียนผู้อมตะ

ภูมิลำเนา : มุกดาหาร
สมาชิกภาพ : สมาชิกทั่วไป
เข้าร่วม : 13 ก.ย. 2552
รวมโพสต์ : 5,168
ให้สาธุการ : 3,230
รับสาธุการ : 8,946,790
รวม: 8,950,020 สาธุการ

 
เว้าว่าไปยังมีเว้นเซียงเห็นบ่สั่น    แม่นจันเพ็ญ น้องหล่าเชียงกล้าเข้าหา
ย้อนว่าอยู่ชิดใกล้เฮ็ดนาติดท่ง         เคยเข้าดงป่าไม้ขุดก่นหัวมัน
สองเคยไปนำกันแต่คราวยังน้อย     ไปขุดกลอยหัวสั้นขุดมันหัวใหญ่
ไปไต้กบก้านเขียดคราวพุ้นแต่หลัง    ทางโสกฮังฮ่องน้ำคุยเว้าหนุ่มสาว

มาคราวนี้เซียงตะเกียงมอด        ตกระหว่างความฮัก
จักสิทำฉันใดบ่ฮู้เมื่อคราวพอน้อย      ถึงแม่นคนคอยบอกบ่มีฮู้เมื่อคีง
ย้านแต่จริงคือเขาเว้าคือความเขาว่า   ฮู้ว่านางน้องหล่าเขาสิต้านกล่าวขอ
โอนอชีวิตฮ้างเซียงเอยเป็นตาหน่าย   ถ้าอ้ายขายข้าวได้ สายแล้วย้านบ่ทัน

โจ๋บทบั้น เซียงเอยตกฮ่อง            ตกหลุมรักฮอดก้นทนได้ย้านบ่ไหว
ย้อนหัวใจมันไห้สิทนทานจั่งได๋อยู่   อยู่กะบ่ได้ไห้กะบ่ออกคาคอแค้นจ่อหล่อ
เขาสิขอเอาน้องพี่นอนห้องพ่องน้ำตา   คิดเห็นความสาวหล่าอ้ายว่าเคยถาม
บ่าวมาขอน้องหล่า  อ้ายสิว่าแนวใด              อ้ายกะบอกบ่ได้หัวใจไห้อยู่ใน


 
 
สาธุการบทความนี้ : 403 ครั้ง
ให้สาธุการบทความนี้
 
 
  25 เม.ย. 2553 เวลา 11:45:44  
        offline  ติดต่อหลังเวที  ติดต่อโดยเมล์ ตอบอ้างอิง  
 
  จารย์ใหญ่    คห.ที่13)  
  อนุเซียนผู้อมตะ

ภูมิลำเนา : มุกดาหาร
สมาชิกภาพ : สมาชิกทั่วไป
เข้าร่วม : 13 ก.ย. 2552
รวมโพสต์ : 5,168
ให้สาธุการ : 3,230
รับสาธุการ : 8,946,790
รวม: 8,950,020 สาธุการ

 
บัดนี้  ข้าจักพรรณาให้ ผญายาวสิได้หย่าว   ฟังเอาเด้อพี่น้องให้คอยจ้องอ่านเอา
อันนิทานสิได้เว้าเป็นมาจั่งได๋หน่อ             อดรอฟังผู้ข้าสิว่าเรื่องต่อกลอน
ขอกล่าวย้อนตอนแรกกล่าวเเร่องสั้นอีสาน   ขนานนามว่า ซ่อยกันเด้อพี่น้อง
ก็หากมีในห้องปลาแดกบ่มีไห                 ไทยอีสานจุฬาฯ เวปเฮาเผิ่นพาเว้า

เริ่มแรกเค้าผู้เขียนเติมแต้มแต่ง               กล่าวแสดงบอกไว้ ปิ่นลม นั้นให้จื่อจำ
คำวาทะหม่วนแม้งแยงดูคักแน่               เขียนได้ดีแท้แท้หัวร่ออยู่บ่เซา
สรรหาคำมาเว้าเรื่องเล่าแต่ก่อน              ออนซอนหลายคิดฮอดบ้าน อ่านแล้วอยู่บ่เป็น
มีบทหัวหยอกเล่นขำขันบางแห่ง     อ่านแล้วเพลินแข่วแห้ง  ทั้งยิ้มพ่องหัว

ตัวข้านี้ สินำมาจากล่าว  เล่าต่อเรื่องสืบเนื่องต่อนิทาน
เขียนไปอีกด้านเป็นผญาสิได้ว่า    หาเอาคำเว้าต้านหว่านออกส่ำปุ๋ย
ลางเทื่อหลุยเลิกเลิ่นเด๋อด๋าบ่เข้าท่า    ขออภัยผู้ข้าเผิ่นพาเว้ากล่าวขาน
เว้าถึงเมืองและบ้านแดนอีสานแต่เก่า   เว้าแล้วคิดค่ำค้อยคณิงบ้านเก่าหลัง

ฟังเด้อพวกพี่น้องฝูงหมู่ทั้งหลาย  ทั้งหญิงชายสู่คนให้ฟังบั้น
หันมาเข้าในนิทานสาก่อน   กล่าวบ่อนบั้นหนาวหน้าท่งนา
เดือนธันวาลมพัดส่าวตอเฟืองอยู่ไหว่ไหว่    กอไผ่บ้านสีกันเสียงส่ง
ลมพัดท่งวื่นวื่นทรายปลิวขึ้นไหง่   แนมทางได๋คือดั่งพรายภูตล่อง ลอยข้ามท่งนา....

มาบัดนี้พัดแต่ข้าวขึ้นเล้า       เถียงนากะแปนเปล่า
คนเข้าบ้านห่างเถียงลาจาก   ฟากท่งพุ้นยังแน่งัวควาย
ยายกันไปเลาะเล็มกินหญ้า   จิกและฮังป่าไม้ก็ใบร่วงหล่นขู
นกหนูฮ้องก็จางหายมิดหมี่   ยามนี้อีสานแล้งคือนิยายถืกสาป พุ้นแหล่ว

ฟังยินเสียงไก่ผู้คอกขันออกหากัน         ฟังดีดีความมันอยู่ไปก็รกโลก
ไก่ผู้โอกโวกเวกฮ้องชมแซวชู้ ไก่         ต้มใส่หม้อแกล้มเหล้าคือสิแซบคักหลาย
กล่าวถึงเซียงน้อยอ้ายบ่าวแวงส่ำใหญ่   คนไค ต่อยหมากไม้ หมากตูมพุ้นอยู่โพน
ว่าจักเอาผลต้น ทากาวติดว่าว             ว่าแล้วฟ้าวเก็บได้หน่วยหมากตูม

อันว่าเฮ็ดว่าวนี้ปูนซิเมนต์กระดาษเก่า      เอาตราเสือท่อนั้นเหลือหั้นบ่ดี
ตราอินทรีบ่ได้ขาดไวบ่เป็นท่า              หาเฮ็ดหางแม่นผ้าครูบาคักแน่
สูตรสำเร็จแท้แท้จีวรผ้าเผิ่นคลุม            ผ้าที่เผิ่นห่มตุ้มคลุมแล้วหากดีหลาย
ฉีกเป็นสายเป็นเส้นยาวยาวผูกใส่          อ่านแล้วจำจื่อไว้หางว่าวบ่าวเซียง

มีว่าวแล้วบ่มีเสียงมันบ่ข่อง          ติด สะนู น้อพี่น้อง เสียงลมต้องค่อยฟัง
เสียงดังว่าดื้อดีดื่อ ดื้อแล้วดัง        ฟังแล้วหม่วนหู   อันสะนูลมต้องเฮ็ดมาจากไสแน่
ฟังเด้อข้าสิแก้แปลให้สู่ฟัง            เริ่มแรกตั้งเหลาไม้เฮ็ดคัน
คือดังคันธนูศรเตรียมหามาไว้         ใบหมากขามบ่ได้ เอาใบตาลให้จำจื่อ
นอกนั้นคือขี้สูดกับด้ายใส่กัน          ใบตาลนั้นเหลาบางๆไว้บ้างเสียงนั้นจั่งสิดี
เว้าเรื่องนี้เซียงน้อยชำนาญ           ปานว่าเทพเข้าขั้น ยังนั้นแต่เรื่องเดียว

เรื่องสิว่าเว้าเกี้ยวคุยสาวบ่เป็นท่า                     เห็นหน้าสาวปานว่าพ้อเสือสิคาบงับคอ
จำเป็นเลยต้องเป็นโสด อดเอาคือว่า                 เต็มฝ่ามือเหื่อย้อยคันเห็นหน้าผู้สาว
คุยสาวนำเขาแน่ล่ะท้าว คุยนำสาวแน่ละบ่าว        กลายคราวย้านค้างบ้านเมียซ้อนบ่มี
เต็มทีเด้ ย้านเกเด่ อยู่คนเดียว         สิบ่เหลียวมองไผแน่บ้อใจเจ้า            

เว้าว่าไปยังมีเว้นเซียงเห็นบ่สั่น     แม่นจันเพ็ญ น้องหล่าเชียงกล้าเข้าหา
ย้อนว่าอยู่ชิดใกล้เฮ็ดนาติดท่ง       เคยเข้าดงป่าไม้ขุดก่นหัวมัน
สองเคยไปนำกันแต่คราวยังน้อย    ไปขุดกลอยหัวสั้นขุดมันหัวใหญ่
ไปไต้กบก้านเขียดคราวพุ้นแต่หลัง   ทางโสกฮังฮ่องน้ำคุยเว้าหนุ่มสาว

มาคราวนี้เซียงตะเกียงมอด                ตกระหว่างความฮัก
จักสิทำฉันใดบ่ฮู้เมื่อคราวพอน้อย        ถึงแม่นคนคอยบอกบ่มีฮู้เมื่อคีง
ย้านแต่จริงคือเขาเว้าคือความเขาว่า     ฮู้ว่านางน้องหล่าเขาสิต้านกล่าวขอ
โอนอชีวิตฮ้างเซียงเอยเป็นตาหน่าย    ถ้าอ้ายขายข้าวได้ สายแล้วย้านบ่ทัน

โจ๋บทบั้น เซียงเอยตกฮ่อง              ตกหลุมรักฮอดก้นทนได้ย้านบ่ไหว
ย้อนหัวใจมันไห้สิทนทานจั่งได๋อยู่      อยู่กะบ่ได้ไห้กะบ่ออกคาคอแค้นจ่อหล่อ
เขาสิขอเอาน้องพี่นอนห้องพ่องน้ำตา   คิดเห็นความสาวหล่าอ้ายว่าเคยถาม
บ่าวมาขอน้องหล่า  อ้ายสิว่าแนวใด    อ้ายกะบอกบ่ได้หัวใจไห้อยู่ใน    

 
 
สาธุการบทความนี้ : 479 ครั้ง
ให้สาธุการบทความนี้
 
 
  25 เม.ย. 2553 เวลา 13:35:38  
        offline  ติดต่อหลังเวที  ติดต่อโดยเมล์ ตอบอ้างอิง  
 
  จารย์ใหญ่    คห.ที่24)  
  อนุเซียนผู้อมตะ

ภูมิลำเนา : มุกดาหาร
สมาชิกภาพ : สมาชิกทั่วไป
เข้าร่วม : 13 ก.ย. 2552
รวมโพสต์ : 5,168
ให้สาธุการ : 3,230
รับสาธุการ : 8,946,790
รวม: 8,950,020 สาธุการ

 

บัดนี้ เดิกกะเดิกมาแล้วไก่ขันวอนว่อน    ตอนนี้เย็นทั่วทีปเหมือยลงค้างอยู่
หญ้าแห้วหมูหน้าบ้านลานหน้าต่อเฮือน  ได้ยินเสียงแม่เอื้อนนึ่งข้าวเป่าไฟ
ควันในเตาลอยเข้าฮูดังสาวหล่า            แม่นว่าคลุมห่อหน้าผ้าขี้งาปกห่อ กะตามถ้อน
นอนลุกได้จันเพ็ญมาซ่อยแม่               นึ่งเข้าเหนียวแต่เช้าคนสิเต้าหลั่งโฮม

เขาสิมาโอมเอาน้องทาบทามส่งล่าม   ยามนี้พ่อใหญ่ค้ำนำปล้ำไก่ยอง
เอาไว้ฮับพี่น้องการกินไว้ถ้าสู่            เฒ่ากระต่าอยู่พุ้นสิมาต้านกล่าวขอ
ขอเอานางหน่อหล่าจันเพ็ญคือว่า        หำเอ้ยหล่าลุกเด้อฟ้าวแน่
แม่บอกให้เอิ้นอาวสอนผู้ใหญ่            พ่อลุงใสพร่ำพร้อมให้ไปเอิ้นกล่าวขาน    

 
 
สาธุการบทความนี้ : 384 ครั้ง
ให้สาธุการบทความนี้
 
 
  25 เม.ย. 2553 เวลา 22:27:01  
        offline  ติดต่อหลังเวที  ติดต่อโดยเมล์ ตอบอ้างอิง  
 
  จารย์ใหญ่    คห.ที่32) เรื่องสั้นอีสาน มาซ่อยกันเด้อ (ผญา)...บั้นแรก  
  อนุเซียนผู้อมตะ

ภูมิลำเนา : มุกดาหาร
สมาชิกภาพ : สมาชิกทั่วไป
เข้าร่วม : 13 ก.ย. 2552
รวมโพสต์ : 5,168
ให้สาธุการ : 3,230
รับสาธุการ : 8,946,790
รวม: 8,950,020 สาธุการ

 

บัดนี้  ข้าจักพรรณาให้ ผญายาวสิได้หย่าว    ฟังเด้อชาวพี่น้องให้คอยจ้องอ่านเอา
อันนิทานสิได้เว้าเป็นมาจั่งได๋หน่อ             อดรอฟังผู้ข้าสิว่าเรื่องต่อกลอน
ขอกล่าวย้อนตอนแรกชื่อเรื่องสั้นอีสาน        ขนานนามมา ว่าซ่อยกันเด้อพี่น้อง
ก็หากมีในห้องปลาแดกบ่มีไห                 ไทยอีสานจุฬาฯ เวปเฮาเผิ่นพาเว้า

เริ่มแรกเค้าผู้เขียนเติมแต้มแต่ง               กล่าวแสดงบอกไว้ ปิ่นลม นั้นให้จื่อจำ
คำวาทะหม่วนแม้งแยงดูคักแน่               เขียนได้ดีแท้แท้หัวร่ออยู่บ่เซา
สรรหาคำมาเล่าเว้าเรื่องแต่ก่อน              ออนซอนหลายคิดฮอดบ้าน อ่านแล้วอยู่บ่เป็น
มีบทหัวหยอกเล่นขำขันบางแห่ง             อ่านแล้วเพลินแข่วแห้ง  ทั้งยิ้มพ่องหัว

ตัวข้านี้ สินำมาจากล่าว                   เล่าต่อเรื่องสืบเนื่องต่อนิทาน
เขียนไปอีกด้านเป็นผญาสิได้ว่า          หาเอาคำมาต้าน หว่านออกคือปุ๋ย
ลางเทื่อหลุยเลิกเลิ่นเด๋อด๋าบ่เข้าท่า    ขออภัยผู้ข้าเผิ่นพาเว้ากล่าวขาน
เว้าถึงเมืองและบ้านแดนอีสานแต่เก่า    เว้าแล้วคิดค่ำค้อยคณิงบ้านเก่าหลัง

ฟังเด้อพวกพี่น้องฝูงหมู่ทั้งหลาย               ทั้งหญิงชายสู่คนให้ฟังบั้น
หันมาเข้าในนิทานสาก่อน                       กล่าวบ่อนบั้นหนาวหน้าท่งนา
เดือนธันวาลมพัดส่าวตอเฟืองอยู่ไหว่ไหว่     กอไผ่บ้านสีกันเสียงส่ง
ลมพัดท่งวื่นวื่นทรายปลิวขึ้นไหง่           แนมทางได๋คือดั่งพรายภูตล่อง ลอยข้ามท่งนา....

มาบัดนี้พัดแต่ข้าวขึ้นเล้า          เถียงนากะแปนเปล่า
คนเข้าบ้านห่างเถียงนาลาจาก   ฟากท่งพุ้นยังแน่งัวควาย
ยายกันไปเลาะนากินหญ้า        จิกทั้งฮังป่าไม้ก็ใบร่วงหล่นขู
นกหนูฮ้องก็จางหายมิดหมี่       ยามนี้อีสานแล้งคือนิยายถืกสาป พุ้นแหล่ว

ฟังยินเสียงไก่ผู้คอกขันออกหากัน          ฟังดีดีความมันอยู่ไปก็รกโลก
ไก่ผู้โอกโวกเวกฮ้องชมแซวชู้ไก่          ต้มใส่หม้อแกล้มเหล้าคือสิแซบคักหลาย
กล่าวถึงเซียงน้อยอ้ายบ่าวแวงส่ำใหญ่   คนไค ต่อยหมากไม้ หมากตูมพุ้นอยู่โพน
ว่าจักเอาผลต้น ทำกาวติดว่าว             ว่าแล้วฟ้าวเก็บได้หน่วยหมากตูม

อันว่าเฮ็ดว่าวนี้ปูนซิเมนต์กระดาษเก่า      เอาตราเสือท่อนั้นเหลือหั้นบ่ดี
ตราอินทรีบ่ได้ขาดไวบ่เป็นท่า              หาเฮ็ดหางหากแม่นผ้าครูบาคักแน่
สูตรสำเร็จแท้แท้จีวรผ้าเผิ่นคลุม            ผ้าที่เผิ่นห่มตุ้มคลุมแล้วหากดีหลาย
ฉีกเป็นสายเป็นเส้นยาวยาวผูกใส่           อ่านแล้วจำจื่อไว้หางว่าวบ่าวเซียง

มีว่าวแล้วบ่มีเสียงมันบ่ข่อง           ติด สะนู น้อพี่น้อง เสียงลมต้องค่อยฟัง
เสียงดังว่าดื้อดีดื่อ ดื้อแล้วดัง         ฟังแล้วหม่วนหู   อันสะนูลมต้องเฮ็ดมาจากไสแน่
ฟังเด้อข้าสิแก้แปลให้สู่ฟัง             เริ่มแรกตั้งเหลาไม้เฮ็ดคัน
คือดังคันธนูศรเตรียมหามาไว้         ใบหมากขามบ่ได้ เอาใบตาลให้จำจื่อ
นอกนั้นคือขี้สูดกับด้ายใส่กัน          ใบตาลนั้นเหลาบางๆไว้บ้างเสียงนั้นจั่งสิดี
เว้าเรื่องนี้เซียงน้อยชำนาญ           ปานว่าเทพเข้าขั้น ยังนั้นแต่เรื่องเดียว

เรื่องสิว่าเว้าเกี้ยวคุยสาวบ่เป็นท่า                     เห็นหน้าสาวปานว่าพ้อเสือสิคาบงับคอ
จำเป็นเลยต้องเป็นโสด อดเอาคือว่า                 เต็มฝ่ามือเหื่อย้อยคันเห็นหน้าผู้สาว
คุยสาวนำเขาแน่ล่ะท้าว คุยนำสาวแน่ละบ่าว        กลายคราวย้านค้างบ้านเมียซ้อนบ่มี
เต็มทีเด้ ย้านเกเด่ อยู่คนเดียว                 สิบ่เหลียวมองไผแน่บ่น้อใจเจ้า            

เว้าว่าไปยังมีเว้นเซียงเห็นบ่สั่น     แม่นจันเพ็ญ น้องหล่าเชียงกล้าเข้าหา
ย้อนว่าอยู่ชิดใกล้เฮ็ดนาติดท่ง       เคยเข้าดงป่าไม้ขุดก่นหัวมัน
สองเคยไปนำกันแต่คราวยังน้อย    ไปขุดกลอยหัวสั้นขุดมันหัวใหญ่
ไปไต้กบก้านเขียดคราวพุ้นแต่หลัง   ทางโสกฮังฮ่องน้ำเคยคุยเว้าหนุ่มสาว

มาคราวนี้ เต็มทีใจมันค้อยเหงี่ยง              เซียงตะเกียงมอดมืด ตกระหว่างความฮัก  
จักสิทำฉันใดแท้ บ่ฮู้เมื่อคราวพอน้อย        ถึงแม่นคนคอยบอกบ่มีฮู้เมื่อคีง
ย้านแต่จริงคือเขาเว้าคือความเขาว่า         ฮู้ว่านางน้องหล่าเขาสิต้านกล่าวขอ
โอนอชีวิตฮ้างเซียงเอยเป็นตาหน่าย        ถ้าอ้ายขายข้าวได้ สายแล้วย้านบ่ทัน

โจ๋บทบั้น เซียงเอยตกฮ่อง              ตกหลุมรักฮอดก้นทนได้ย้านบ่ไหว
ย้อนหัวใจมันไห้สิทนทานจั่งได๋อยู่      อยู่กะอยู่บ่ได้ไห้กะไห้บ่ออก มันคาคอแค้นจ่อหล่อ
เขาสิขอเอาน้อง พี่นอนห้องพ่องน้ำตา   คิดเห็นความสาวหล่าอ้ายว่าเคยถาม
ยามเขาขอน้องหล้า อ้ายสิว่าแนวใด    พี่กะบอกบ่ได้หัวใจไห้อยู่ใน    

สายลมเอยพัดห้องจันเพ็ญทางหน้าต่าง      พัดพ่างคีงเป็นช่วงช่วงเย็นห้วงทั่วอณู
มองดูลมพานพร้าวแสงจันทร์เงาพาดผ่าน    ส่องหน้าต่างบานน้อยเห็นด้าวหมู่ดาว
สะนูว่าวดังแว่ววีแวแว้วีแว่                      ตามแต่ลมพัดพุ้นใสเรื่อยเข้าใส่หู
สะนูเอ้ยเซียงน้อยบ่เคยหยุดเสียงส่ง          ดังจากท่งฟากพุ้นความหลังข้อยอ่อยใจ

ความหลังฝังในใจจี้มีกังวลหลายอย่าง   นางจันเพ็ญนาทหล่าไผเด้นาสิซ่อยผ่อน
คราวนี้อิดอ่อนแล้วย้านแต่สู้อยู่บ่ไหว     สายป่านในถือไว้ลมเอยพัดโบก
โชคชาตาบ่ให้แสนสิฝั้นกะเล่ามาย       เสียดายเด้อ้ายผู้ฮักสิบ่ได้อยู่แฝง
เสียแฮงเด้ผู้ข้อยแพงสิบ่ได้อยู่ซ้อน       สิลาป๋าไกลห่าง..นางเอยเสียใจเอย

บัดนี้ เดิกกะเดิกมาแล้วไก่ขันวอนว่อน     ตอนนี้เย็นทั่วทีปเหมือยลงค้างอยู่
หญ้าแห้วหมูหน้าบ้านลานหน้าต่อเฮือน   ได้ยินเสียงแม่เอื้อนนึ่งข้าวเป่าไฟ
ควันในเตาลอยใหลเข้าฮูดังคือว่า           แม่นว่าคลุมห่อหน้าผ้าขี้งาปกห่อ กะตามถ้อน
นอนลุกได้จันเพ็ญมาซ่อยแม่                นึ่งเข้าเหนียวแต่เช้าคนสิเต้าหลั่งโฮม

เขาสิมาโอมเอาน้องทาบทามส่งล่าม   ยามนี้พ่อใหญ่ค้ำนำปล้ำไก่ยอง
เอาไว้ฮับพี่น้องการกินไว้ถ้าสู่             เฒ่ากระต่าอยู่พุ้นสิมาต้านกล่าวขอ
ขอเอานางหน่อหล่าจันเพ็ญคือว่า        หำเอ้ยหล่าลุกเด้อฟ้าวแน่
แม่บอกให้เอิ้นอาวสอนผู้ใหญ่            พ่อลุงใสพร่ำพร้อมให้ไปเอิ้นกล่าวขาน

 
 
สาธุการบทความนี้ : 619 ครั้ง
ให้สาธุการบทความนี้
 
 
  27 เม.ย. 2553 เวลา 07:19:59  
        offline  ติดต่อหลังเวที  ติดต่อโดยเมล์ ตอบอ้างอิง  
 
  จารย์ใหญ่    คห.ที่54) จัดให้ตามคำเรียกร้อง (เรื่องสั้น ฉบับผญา ตอนที่ ๑)  
  อนุเซียนผู้อมตะ

ภูมิลำเนา : มุกดาหาร
สมาชิกภาพ : สมาชิกทั่วไป
เข้าร่วม : 13 ก.ย. 2552
รวมโพสต์ : 5,168
ให้สาธุการ : 3,230
รับสาธุการ : 8,946,790
รวม: 8,950,020 สาธุการ

 
บัดนี้.....
ข้าจักพรรณาให้ ผญายาวสิได้หย่าว           ฟังเด้อชาวพี่น้องให้คอยจ้องอ่านเอา
อันนิทานสิได้เว้าเป็นมาจั่งได๋หน่อ             อดรอฟังผู้ข้าสิว่าเรื่องต่อกลอน
ขอกล่าวย้อนตอนแรกชื่อเรื่องสั้นอีสาน        ขนานนามมา ว่าซ่อยกันเด้อพี่น้อง
ก็หากมีในห้องปลาแดกบ่มีไห                  ไทยอีสานจุฬาฯ เวปเฮาเผิ่นพาเว้า

เริ่มแรกเค้าผู้เขียนเติมแต้มแต่ง               กล่าวแสดงบอกไว้ ปิ่นลม นั้นให้จื่อจำ
คำวาทะหม่วนแม้งแยงดูคักแน่               เขียนได้ดีแท้แท้หัวร่ออยู่บ่เซา
สรรหาคำมาเล่าเว้าเรื่องแต่ก่อน              ออนซอนหลายคิดฮอดบ้าน อ่านแล้วอยู่บ่เป็น
มีบทหัวหยอกเล่นขำขันบางแห่ง             อ่านแล้วเพลินแข่วแห้ง  ทั้งยิ้มพ่องหัว

ตัวข้านี้ สินำมาจากล่าว                    เล่าต่อเรื่องสืบเนื่องต่อนิทาน
เขียนไปอีกด้านเป็นผญาสิได้ว่า          หาเอาคำมาต้าน หว่านออกคือปุ๋ย
ลางเทื่อหลุยเลิกเลิ่นเด๋อด๋าบ่เข้าท่า     ขออภัยผู้ข้าเผิ่นพาเว้ากล่าวขาน
เว้าถึงเมืองและบ้านแดนอีสานแต่เก่า    เว้าแล้วคิดค่ำค้อยคณิงบ้านเก่าหลัง

ฟังเด้อพวกพี่น้องฝูงหมู่ทั้งหลาย                ทั้งหญิงชายสู่คนให้ฟังบั้น
หันมาเข้าในนิทานสาก่อน                       กล่าวบ่อนบั้นหนาวหน้าท่งนา
เดือนธันวาลมพัดส่าวตอเฟืองอยู่ไหว่ไหว่      กอไผ่บ้านสีกันเสียงส่ง
ลมพัดท่งวื่นวื่นทรายปลิวขึ้นไหง่               แนมทางได๋คือดั่งพรายภูตล่อง ลอยข้ามท่งนา....

มาบัดนี้พัดแต่ข้าวขึ้นเล้า          เถียงนากะแปนเปล่า
คนเข้าบ้านห่างเถียงนาลาจาก   ฟากท่งพุ้นยังแน่งัวควาย
ยายกันไปเลาะนากินหญ้า        จิกทั้งฮังป่าไม้ก็ใบร่วงหล่นขู
นกหนูฮ้องก็จางหายมิดหมี่       ยามนี้อีสานแล้งคือนิยายถืกสาป พุ้นแหล่ว

ฟังยินเสียงไก่ผู้คอกขันออกหากัน          ฟังดีดีความมันอยู่ไปก็รกโลก
ไก่ผู้โอกโวกเวกฮ้องชมแซวชู้ไก่          ต้มใส่หม้อแกล้มเหล้าคือสิแซบคักหลาย
กล่าวถึงเซียงน้อยอ้ายบ่าวแวงส่ำใหญ่   คนไค ต่อยหมากไม้ หมากตูมพุ้นอยู่โพน
ว่าจักเอาผลต้น ทำกาวติดว่าว             ว่าแล้วฟ้าวเก็บได้หน่วยหมากตูม

อันว่าเฮ็ดว่าวนี้ปูนซิเมนต์กระดาษเก่า      เอาตราเสือท่อนั้นเหลือหั้นบ่ดี
ตราอินทรีบ่ได้ขาดไวบ่เป็นท่า              หาเฮ็ดหางหากแม่นผ้าครูบาคักแน่
สูตรสำเร็จแท้แท้จีวรผ้าเผิ่นคลุม            ผ้าที่เผิ่นห่มตุ้มคลุมแล้วหากดีหลาย
ฉีกเป็นสายเป็นเส้นยาวยาวผูกใส่           อ่านแล้วจำจื่อไว้หางว่าวบ่าวเซียง

มีว่าวแล้วบ่มีเสียงมันบ่ข่อง           ติด สะนู น้อพี่น้อง เสียงลมต้องค่อยฟัง
เสียงดังว่าดื้อดีดื่อ ดื้อแล้วดัง         ฟังแล้วหม่วนหู   อันสะนูลมต้องเฮ็ดมาจากไสแน่
ฟังเด้อข้าสิแก้แปลให้สู่ฟัง             เริ่มแรกตั้งเหลาไม้เฮ็ดคัน
คือดังคันธนูศรเตรียมหามาไว้         ใบหมากขามบ่ได้ เอาใบตาลให้จำจื่อ
นอกนั้นคือขี้สูดกับด้ายใส่กัน          ใบตาลนั้นเหลาบางๆไว้บ้างเสียงนั้นจั่งสิดี
เว้าเรื่องนี้เซียงน้อยชำนาญ           ปานว่าเทพเข้าขั้น ยังนั้นแต่เรื่องเดียว

เรื่องสิว่าเว้าเกี้ยวคุยสาวบ่เป็นท่า                     เห็นหน้าสาวปานว่าพ้อเสือสิคาบงับคอ
จำเป็นเลยต้องเป็นโสด อดเอาคือว่า                 เต็มฝ่ามือเหื่อย้อยคันเห็นหน้าผู้สาว
คุยสาวนำเขาแน่ล่ะท้าว คุยนำสาวแน่ละบ่าว        กลายคราวย้านค้างบ้านเมียซ้อนบ่มี
เต็มทีเด้ ย้านเกเด่ อยู่คนเดียว                        สิบ่เหลียวมองไผแน่บ่น้อใจเจ้า            

เว้าว่าไปยังมีเว้นเซียงเห็นบ่สั่น     แม่นจันเพ็ญ น้องหล่าเชียงกล้าเข้าหา
ย้อนว่าอยู่ชิดใกล้เฮ็ดนาติดท่ง       เคยเข้าดงป่าไม้ขุดก่นหัวมัน
สองเคยไปนำกันแต่คราวยังน้อย    ไปขุดกลอยหัวสั้นขุดมันหัวใหญ่
ไปไต้กบก้านเขียดคราวพุ้นแต่หลัง   ทางโสกฮังฮ่องน้ำเคยคุยเว้าหนุ่มสาว

มาคราวนี้ เต็มทีใจมันค้อยเหงี่ยง              เซียงตะเกียงมอดมืด ตกระหว่างความฮัก  
จักสิทำฉันใดแท้ บ่ฮู้เมื่อคราวพอน้อย        ถึงแม่นคนคอยบอกบ่มีฮู้เมื่อคีง
ย้านแต่จริงคือเขาเว้าคือความเขาว่า          ฮู้ว่านางน้องหล่าเขาสิต้านกล่าวขอ
โอนอชีวิตฮ้างเซียงเอยเป็นตาหน่าย         ถ้าอ้ายขายข้าวได้ สายแล้วย้านบ่ทัน

โจ๋บทบั้น เซียงเอยตกฮ่อง               ตกหลุมรักฮอดก้นทนได้ย้านบ่ไหว
ย้อนหัวใจมันไห้สิทนทานจั่งได๋อยู่       อยู่กะอยู่บ่ได้ไห้กะไห้บ่ออก มันคาคอแค้นจ่อหล่อ
เขาสิขอเอาน้อง พี่นอนห้องพ่องน้ำตา   คิดเห็นความสาวหล่าอ้ายว่าเคยถาม
ยามเขาขอน้องหล้า อ้ายสิว่าแนวใด     พี่กะบอกบ่ได้หัวใจไห้อยู่ใน    

สายลมเอยพัดห้องจันเพ็ญทางหน้าต่าง      พัดพ่างคีงเป็นช่วงช่วงเย็นห้วงทั่วอณู
มองดูลมพานพร้าวแสงจันทร์เงาพาดผ่าน    ส่องหน้าต่างบานน้อยเห็นด้าวหมู่ดาว
สะนูว่าวดังแว่ววีแวแว้วีแว่                      ตามแต่ลมพัดพุ้นใสเรื่อยเข้าใส่หู
สะนูเอ้ยเซียงน้อยบ่เคยหยุดเสียงส่ง          ดังจากท่งฟากพุ้นความหลังข้อยอ่อยใจ

ความหลังฝังในใจจี้มีกังวลหลายอย่าง   นางจันเพ็ญนาทหล่าไผเด้นาสิซ่อยผ่อน
คราวนี้อิดอ่อนแล้วย้านแต่สู้อยู่บ่ไหว     สายป่านในถือไว้ลมเอยพัดโบก
โชคชาตาบ่ให้แสนสิฝั้นกะเล่ามาย       เสียดายเด้อ้ายผู้ฮักสิบ่ได้อยู่แฝง
เสียแฮงเด้ผู้ข้อยแพงสิบ่ได้อยู่ซ้อน       สิลาป๋าไกลห่าง..นางเอยเสียใจเอย

บัดนี้ เดิกกะเดิกมาแล้วไก่ขันวอนว่อน     ตอนนี้เย็นทั่วทีปเหมือยลงค้างอยู่
หญ้าแห้วหมูหน้าบ้านลานหน้าต่อเฮือน   ได้ยินเสียงแม่เอื้อนนึ่งข้าวเป่าไฟ
ควันในเตาลอยใหลเข้าฮูดังคือว่า           แม่นว่าคลุมห่อหน้าผ้าขี้งาปกห่อ กะตามถ้อน
นอนลุกได้จันเพ็ญมาซ่อยแม่                นึ่งเข้าเหนียวแต่เช้าคนสิเต้าหลั่งโฮม

เขาสิมาโอมเอาน้องทาบทามส่งล่าม    ยามนี้พ่อใหญ่ค้ำนำปล้ำไก่ยอง
เอาไว้ฮับพี่น้องการกินไว้ถ้าสู่             เฒ่ากระต่าอยู่พุ้นสิมาต้านกล่าวขอ
ขอเอานางหน่อหล่าจันเพ็ญคือว่า        หำเอ้ยหล่าลุกเด้อฟ้าวแน่
แม่บอกให้เอิ้นอาวสอนผู้ใหญ่             พ่อลุงใสพร่ำพร้อมให้ไปเอิ้นกล่าวขาน

ลมพานโบกสังกะสีตีงสั่น                 ยามนั้นฟ้าฮุ่งแล้วเหมือยลงหมอกหม่น
คลุมขาวบนหง่าไม้มื้อใหม่ยามสิสาย  มองเห็นไฟทางเดิ่นบ้านเผิ่นเผาจูดไฟผิง
หลายคนยังนอนนิ่งบ่มีตีงใต้ผ้าห่ม     บางคนชมชู้ช้อนบ่อนนอนในบ่อน
ออนซอนเด้พี่น้องผู้มีชู้หมู่ผู้สาว         แหม่นว่าหนาวคักแท้ก็ปานได้อุ่นไฟ

มองหมู่มวลแมกไม้ในฤดูขูหล่น           คนก็ปัดกวาดไว้สุมจูดไล่หนาว
ฟังเสียงว่าวสะนูเงียบมิดลงทางท่ง       คงบ่นานชีวิตบ้านชาวอีสานพวมหย่าว
อันว่าชาวพี่น้องสาวจันเพ็ญมารวมกลุ่ม  มาชุมกันอยู่ใต้ผิงไฟอยู่ตาหล่าง
ต่างคนต่างได้เว้าโสกันอยู่ลานเดิ่น       เตินกันมามื้อนี้มีเรื่องเว้าเขาสิเข้าสู่ขอ

เว้าต่อเรื่องน้องเจ้าบ่าวรถจกสิมาสู่      แหม่นอยู่บ้อข้อยว่าแหม่นบอข้อยว่า
จันเพ็ญนางอีหล่าสาวปีเดียวสิเป็นท่า  ไผสิเฮ็ดนาซ่อยเจ้าอาวสอนเว้าว่ามา
จาความต่อผู้อ้ายลุงใสผู้เป็นพี่            มันสิดีอยู่บ้อความเว้ากล่าวถาม
ยามนั้นแม่ใหญ่หล้าเอาสากะผั้นว่า      ฐานะดีกะด้อเอาโลดบ่ว่าหยัง

ฟังเสียงลุงคำเว้าตัดบทเว้าต่อ           แล้วแต่พ่อแม่หล้าจันเพ็ญเขาสิว่า
กล่าวแล้วเด่ไปหน้าผิงไฟมืออุ่น         มองดูทางฝ่ายพุ้นบูรพาพวมส่อง
แดดอ่อนพวมสาดต้องส่องแสงลงใส่   อาศัยแสงไล่ให้หนาวนี้จั่งสิไค
เฮ็ดจั่งได๋ในใจเจ้าจันเพ็ญคิดหุ่ม         หนักมาเป็นปุ้มปุ้มคราวนี้อยู่บ่เป็น

มาบัดนี้ เห็นหลายคนพวมขึ้นเทิงเฮือนพวมสินั่ง  หลายคนหลั่งดุ่งดั้นพวมฟ้าวย่างมา
เขาก็หาไว้ถ้าพันกอกยาคำหมาก            พญานาคไม้ขีดหาไว้ต้อนหมูฝูง
ลุงใสเผิ่นแต่งไว้หน้าที่จัดแจง              ของมีแฮงหากหามาเผื่อถอนตอนเช้า
หากแม่นตราฮวงข้าวเหล้าขาวขวดใหญ่  ลุงคำห่ายเป็กน้อยลงไส้ไล่หนาว

ทางอาวสอนกำลังฟ้าวเข้าครัวต้มไก่    หาเฮ็ดกินเตรียมไว้ไทพี่น้องหลั่งโฮม
ก้มเอ้ย ก้มหน้าก้มตำพริกน้ำแจ่ว         ซอยหอมยังบ่แล้วจันแรมสาวฝ่า
อ่วยหน้าถามฝ่ายเอื้อยจันเพ็ญผู้พี่        เอาอีหลีตี้ล่ะเจ้าสิเอาผัวอีหลีบ่
ถามขึ้นมาจ้อจ้อจักสิเว้าว่าจั่งได๋         เอื้อยกะบอกบ่ได้อันใดแล้วแต่พ่อ  นางเอย

ทางน้องเลย มีความเว้าถามนำจาหน่ำ     ไผนอนนำอีพ่อตี้ กินดองแล้วกล่าวถาม
เว้าตามใจของข้อย เซียงน้อยเด้อข้อยว่า   แหม่นบ่จาปากต้านเลานั้นหากหมั่นเพียร
บ่มีคำจาเอื้อนปากเว้าความต่อ                   หัวใจน้อมันหากเต้น สิตายแล้วอยู่บ่เป็น
จันเพ็ญเอ้ย มันหากหลับบ่ได้หัวใจมันโอ้อ่าว   ยินแต่เสียงว่าวห่าว สะนูอ้ายบ่าวเซียง

เสียงเด้นอ ดังแว่วฝังในใจสาวส่า    ส่างมาทำเฮ็ดให้ ใจน้องอยู่บ่ไหว
เหงาในใน หัวใจให้ไผเด้นาสิมากล่าว   ไผสิซาวซ่อยซ้วนพะอวนน้องนั่งหมอง
ใจเอ้ยขัดเคืองข้อง หมองในใจหากทนอยู่   มีแต่ทนต่อสู้น้ำตาย้อยหย่าวใหล
อุกใจเด้ บ่าวผู้ฮัก มักบ่ได้ ย้านขัดใจแต่ทางพ่อ    ใกล้ล่ะนอมื้อนี้  เขาพุ้นสิสู่ขอ

พอแต่เสียงโปงก้องญาครูตีถั่ง      เสียงระฆังหน่วยไม้สัญญาณให้เฮ็ดบุญ
บุญยามเช้าให้ตักบาตรจังหัน       บุญกลางวันให้แต่งเพลคอยค้ำ
อันนี้คำเผิ่นเว้าจาบอกสอนมา       พ่อแม่พาเฮาทำแต่ปฐมคราวกี้
ศาสนาเฮานี้พระสัมมาเผิ่นสอนสั่ง   ให้ทำทานต่อตั้งบุญสิค้ำซ่อยชุ

มองดูไปทางพุ้นประตูโขงหลวงพ่อผ่าน      บริขารพร้อมแล้วก็ทำแถวตั้งท่า
ครูบาสายถือบาตรอุ้ม ญาคูปุ้มต่อตาม       สามองค์เณรจัวน้อยขัดท้ายคอยย่าง
เดินตามทางหว่างท้าง ภิกขาจารผายโผด  โปรดหมู่สัตว์ให้ล่วงพ้นขี้ตระหนีความเหนียว
ครองพระองค์พาเทียวเดียวนี้คือเก่า          ฮีตพระพุทธเจ้าผู้องค์ล้ำศาสนา

มาบัดนี้ แสงรังสียามเช้า ส่องหลังคาทาอาบ  ฉาบแสงลอดหง่าไม้ถืกไตรผ้าแห่งงาม
ยามนั้นอร่ามเหลืองผืนผ้า หลวงตานำย้ายย่าง  ทางเดินเย็นเยือกเยื้อน เดือนนี้จั่งแหม่นหนาว
ข้าวของผู้ข้า ขาวดีจ่อนผ่อน   ผู้ข้าป่อนใส่บาตรขอให้เป็นของทาน
ขอให้แคล้วหมู่มาร ขออย่าพานหมู่ฮ้าย   อันตรายบังเบียด
ขอให้ถึงทีแล้วนิพพานแก้วอยู่ดี  ในดิถีแห่งอนาคตกาล โน้นเทอญ

อันนี้เผิ่นเอิ้นอธิษฐานใส่บาตร        โบราณเผิ่นกล่าวไว้ แม่ใหญ่มูลเผิ่นจ่ม
ว่าแล้วก้มยอใส่หัวทานทอด          ขอให้เถิงฮอดพุ้นซุมพี่น้องผู้ล่วงลา
ถึงสัตว์สา ผู้ฮ่วมโลกาโลก            ขอให้หายทุกข์โศกพ้นจากเวรกรรม
ฝูงหมู่เวรจำจ้องจ่องจำให้หายผ่าน  ด้วยผลทานอันนี้จงนำยู้ซ่วยยอ

พอแต่เสร็จการได้              หากถามไปทางหลวงพ่อ
เสียงสะนูจั้นจ้อมื้อคืนลมปั่น  ย้านแต่ตกบ่อนบั้นความบ่ดีแหม่นบ่
หลวงพ่อจากล่าวต้าน         ว่าโยมเอ้ยลมพัดว่าว
คราวมันหงายก็หากหงาย คราวมันปิ้นก็หากปิ้น ธรรมดานี้ว่าวลม

ว่าท่อนั้นยกย่างย้าย  กลายไปเดินผ่าน
ลมพัดพานผืนผ้า       หลวงตางามยิ่ง
แม่ใหญ่มูลนั่งนิ่ง      เป็นจริงคือว่า
คือดั่งความว่าเว้า     เข้าใจแล้วส่วงใจ

ขอจากล่าวไปทางพุ้น   เฮือนจันเพ็ญแซวซว่า
เสียงกว่าหมู่ดังแท้       พ่อลุงคำคือว่า
สุราขาวฤทธ์เหล้า       พาให้ส่งเสียง
จี่ไตไก่แหนเปี๋ยงหล้า  จันแรมเอ้ยเอิ้นสั่ง
ฟังแต่เสียงคืนตอบ      ลุงเอ้ยบ่ได้ดอก
บอกพ่อลุงเทื่อนี้        แพงไว้เองปิ้งจี่  ลุงเอย

สีหน้างงทั้งมึนเหล้า  ลุงคำหากเว้าต่อ
กินหยังน้อบ่ได้        มันสิหยาบปึกหนา
ไผว่าแนวหญิงนี้      มันบ่ดีกินไตไก่
พ่อลุงขอบอกไว้      ให้ลุงแกล้มเหล้าขาว

ปากหากมีแต่เจ้า    ลุงเอ้ยกะผั้นว่า
จันแรมจาต่อเว้า     บ่มีแท้ว่าสิยอม
ลุงคำซอมดูแล้ว      บ่ยอมความคำหลื่น
มึนหลายน้ออีหล้า   บ่คือเอื้อยผู้ชื่อเพ็ญ

เว้าแล้วบ่ได้เว้น         น้ำรินกินห่าย
บายเหล้าขาวเข้าปาก  เลยเล่าต้านต่อความ
ยามนั้นหันมาเว้า        เอากันสากะดีอยู่
เขาหากมีหั่งแท้         คือสิแลหล่ำได้ จันเพ็ญหล้าให้อยู่ดี

อาวสอนมีความค้าน  ต้านต่อความมี
เผิ่นผู้มีโตทุกข์        อุกหลายแท้เขาสิหย่อว่าหยัน
ผู้ป้าลุนว่านั้น          ก็แทรกสอดความเห็น
สูทันถามอีเพ็ญ       แน่ล่ะบ้อความเว้า
กูย้านพากันเศร้า      คราวหลังย้านบ่แหม่น
เป็นแฟนชมอยู่ช้อน  ตอนหน้าย้านบ่ดี

ก็หากมีหลายเว้า        หลายความแต่ได้ว่า
จาไปหลายหากบ่แล้ว  หมดหลายแก้วแต่ได้ริน
เว้าไปหมดทุกสิ้น        ปรึกษากันทุกท่า
เลยให้นางนาถหล้า     จันเพ็ญเว้าว่าเอง

เสียงเว้าดังเป้งเป้ง  ลุงคำถามต่อ
จั่งใด๋น้ออีหล้า        โตสิว่าความใด
มีหยังในหัวใจ        ให้ว่าไวคราวนี้
ขอให้นางกล่าวเว้า  สิทธิ์เจ้าให้กล่าวจา

เสียงดังมาดังขึ้น    เบิดแฮงฮ้องว่า
บักห่าต้างซั้นบ้อ    เจิงแข้วข้อยบ่เอา
เสียงกล่าวเว้า       ผั้นจันแรมผู้จาตอบ
ทั้งบ่มักบ่ชอบ       นางว่าหากเว้าว่ามา

ลุงคำแนมมองหน้า    บ่ถามโตส่างมาบอก
หมากกอกน้อย        สิหล่นซ้ำหรอกใส่หัว
หลายคนหัวร่อร่า      ความจันแรมผู้น้องว่า
อีห่ามึงว่าซั้น           กูบ่ได้กล่าวถาม

นางเอ้ยหล้าจันเพ็ญหน้าหล่า   คลานเข้ามามิดหมี่
มีหลายคนคอยถ้าเจ้า           นางหล้าสิกล่าวจา
บ่จักคำสิว่าเว้า                  เอ้าอั่งในหัวใจ
เฮ็ดจั่งได๋เด้นอ                  ผู้กล่าวขอสิถึงแล้ว

คิดนำหลายแต่คุณแก้ว    มารดาพ่อแม่
ใจหนึ่งแหน่คิดฮอดอ้าย   เซียงน้อยว่าวสะนู
สาวนางผู้เลือกเส้น        หนทางสิเทียวไต่
คอยฟังไปเด้อพี่น้อง      นางสิเว้าว่าจั่งได๋........

 
 
สาธุการบทความนี้ : 173 ครั้ง
ให้สาธุการบทความนี้
 
 
  05 พ.ค. 2553 เวลา 11:01:53  
        offline  ติดต่อหลังเวที  ติดต่อโดยเมล์ ตอบอ้างอิง  
 
  จารย์ใหญ่    คห.ที่65) เรื่องยาว บ่าวปิ่น (ฉบับผญา) ตอนที่ ๒  
  อนุเซียนผู้อมตะ

ภูมิลำเนา : มุกดาหาร
สมาชิกภาพ : สมาชิกทั่วไป
เข้าร่วม : 13 ก.ย. 2552
รวมโพสต์ : 5,168
ให้สาธุการ : 3,230
รับสาธุการ : 8,946,790
รวม: 8,950,020 สาธุการ

 

ฟังต่อไปเด้อพี่น้อง     ฟังต่อกลอนสอง
หลายคนคองคอยถ้า   คือบ่มาจาต่อ
มื้อนี้มาพบพ้อ           สิขอเว้าต่อความ
งามเอ้ยงามหน้าน้อง  มองแล้วเบื่อบ่เป็น  

คราวนี้สิได้จาต่อเน้น    นิทานยาว บ่าวปิ่น
ศิลปินคิดค้น              ผู้ตั้งต้นแต่งนิทาน
เว้าไปหลายเรื่องด้าน   คนอีสานแต่กาลเก่า
ฟังเด้อพวกหมู่เจ้า        เฮียมข้าสิว่ากลอน

ตอนนี้ฟังเสียงฮ้องเอิ้น  บักบุญจันมันฮ้องแล่น
แม่นหยังน้อเทื่อนี้       มีหยังหล้าฟ้าวแล่นมา
ฟังเสียงฮ้องบักหล้า    ว่าอีพ้ออีพ่อ
หลายคนคอยถ้าเฝ้า    มันสิเว้ากล่าวจา

ความว่ามาจาต้าน   รถจกปิ้นมันว่า
อยู่ท่งนาฝ่ายพุ้น     คราวนี้แหม่นอีหลี
เกี่ยวหยังกันบาดนี้  เฮ็ดทรงคือมาบอก
ไปข้างนอกบักหล้า  มันสิปิ้นกะส่างมัน

ว่าท่อนั้น....
มันจาความเว้าต่อ  มาขอสาวมื้อนี้ โจ๋เอาไว้ก่อน
ตอนนี้รถอ้ายต้าง   ลงข้างท่งนา
เขาก็พากันอุ้ม      ไปโรงบาลนำส่ง
รถลงท่งเทื่อนี้      เต็มทีแท้อีหลี

สิได้เมียหากเพลาปิ้น  สาน้อบักห่า  
แม่ใหญ่หล้าจ่มเว้า     เอามือลูบหว่างทรวง
หายห่วงน้อบาดนี้      จัญเพ็ญก็หากส่วง
ดวงใจหน่วยน้อยน้อย  ก็ลอยล่องดั่งนุ่นปลิว  

ลมพัดพริ้วว่าวสะนูดังส่ง                   อยู่ทางท่งฟากพ้นเชียงน้อยปล่อยมือ
เสียงสะนูดังอื้อ อืออือดังอื่อ              ดังจั่งใดกะอื้อคือน้องบอกพี่ชาย
หลายกิโลดังได้เสียงไกลว่าวใหญ่       ความสั่งไปฮอดหล้าว่าถ้าอ้ายแน่
กระแสลมพัดให้หัวใจเซียงนำส่ง         ลงใส่ใจน้องน้อยให้คอยอ้ายค่อยคอง

 
 
สาธุการบทความนี้ : 226 ครั้ง
ให้สาธุการบทความนี้
 
 
  12 พ.ค. 2553 เวลา 03:21:38  
        offline  ติดต่อหลังเวที  ติดต่อโดยเมล์ ตอบอ้างอิง  
 
  จารย์ใหญ่    คห.ที่71) เรื่องยาว บ่าวปิ่น (ฉบับผญา) ตอนที่ ๒ ต่อ  
  อนุเซียนผู้อมตะ

ภูมิลำเนา : มุกดาหาร
สมาชิกภาพ : สมาชิกทั่วไป
เข้าร่วม : 13 ก.ย. 2552
รวมโพสต์ : 5,168
ให้สาธุการ : 3,230
รับสาธุการ : 8,946,790
รวม: 8,950,020 สาธุการ

 
มาบัดนี้......
ยายสองเตรียมกระต่าไว้ลำยาวไม้ส่าวไผ่        ปลาแดกห่อแต่งไว้ใส่ใบตองมัดตอก
ออกไปนาก่อนน่าไปหาแย้แหย่มดแดง           หาเอาแมงมดไม้อยู่นาโคกท่งไกล
ในคราวนั้น จันแรมนางหน่อหล้าขอไปนานำแน่ แม่ก็จาบอกห้ามทางไกลไปบ่ง่าย
ฮ้อนแดดหลายยามนี้บ่ไปนำกะตามส่าง    จันแรมจากล่าวอ้างทางแม่เจ้าก็อ่อนใจ
ไปกะไปลูกหล้ามาพายเอาถือกระต่า        ว่าแล้วขึ้นซ้อนท้ายรถถีบน้อยค่อยไป

เว้าให้ฟังบอกให้ฮู้     ผู้เผิ่นซื้อจักรยาน
นานผ่านมาหลายปี    แต่คราวหลังกี้
มีเงินขายงัวได้         จักรยานเผิ่นออกใหม่
พ่อใหญ่ค้ำเผิ่นซื้อไว้   ตราแข้เผิ่นมักหลาย

กลายมาแล้วหลายปีแต่ใช้ขี่                     ใช้หลายปีคักแล้วรถก็ฮ้างห่างลา
มาเต็มทีแต่มันเฒ่าจักรยานมันเก่า               เว้าถึงเบาะอยู่ก้นฟองน้ำกะบ่มี
อุกอีหลีหลายเด้เจ้าโซ่มันยานโต่งเหล่ง         สิแวะเค่งจอดซ่อมเฮือนฮ้านร้านเจ๊กอู๋
ฮ้านหากอยู่กลางบ้านทางไปนาสิกลายผ่าน    เป็นร้านใหญ่กลางบ้านเผิ่นขายค้าคู่สู่อัน

จันแรมจาบทบั้นถามความต่อแม่            เจ๊กหยังน้อเหลื้อมแมบดำแท้หากบ่ขาว
แม่ก็จาตอบเจ้าความลูกสาวเว้าต่อ          บ่แม่นเจ๊กหรอกหล้าก็คือเฮาดังว่า
มันรวยหลายทางการค้าคนเลยเอิ้นเจ๊กอู๋    อันนี้จาให้ฮู้เรื่องเจ๊กอู๋เขาส่า
ว่าแล้วย่างเข้าร้านถามหาน้ำมันเครื่อง       เคืองฝึดหลายยากแท้ถีบได้กะบ่ไป

อู๋เอ้ยเจ้าขอน้ำมันจักหน่อยแน่        คันบ่ทาย้านแต่แย่ไปนาพุ้นย้านบ่เถิง
หาเบิ่งเอาเด้อป้าหาเอาเองเด้อแม่   ข้อยยากหลายแท้แท้เบิ่งฮ้านเช็คของ
ลุงคำจ้องโผล่หน้าย่างมาเว้าว่า       มาหาย่างเลาะซื้อมอเตอร์ไซค์รุ่นใหม่
รุ่นได๋ดีให้บอกเว้าบักอู๋ให้จากล่าว    คราวนี้กูสิถ้าคอยมึงเว้าให้ชื่นใจ

มีท่อใดล่ะเงินเจ้า   เอาท่อได๋น้อคุณพ่อ
เจ๊กอู๋จาตอบต้าน   ถามลุงคำเอิ้นใส่
กูก็ขายข้าวได้       สองพันอยากได้ใหม่
อยู่ไสเด้บักหล้า    ให้จาต้านกล่าวมา

ฮอนด้าอิงมีอยู่แล้ว        พ่อลุงสิเอาบ่
มันหากจอดพ้อว้อ         อยู่ริมไม้ห่มหมากขาม
ลุงคำถามจั้นจ้อ            อยู่ไสน้อรุ่นใหม่
จัดให้บ่าวผู้เฒ่า            มีแฮงแท้แน่กะไค
ดีใจหลายความอยากได้  มองไปใต้ห่มหมากขาม


ถามหารถคือเว้าเอาไว้ไสบอกแน่  บอกมาแม้บักหล้าอย่ารอช้าอยู่นาน
เห็นแต่จักรยานฮ้างสีแดงพิงอยู่     อิงกกขามเอาไว้ไฟหน้าหากบ่มี
อันนี้ตี้บักบ้าฮอนด้าอิงมึงว่า         บักเจ๊กดำบักบ้าบักเซียงเมี่ยงห่ากิน
ยินแต่เสียงเลาเว้าลุงคำฮ้องด่า     รุ่นใหม่ไฟฮ้างฮ้างขาตั้งกะบ่มี

พอแต่เสร็จดีแล้ว        น้ำมันทาโซ่เค่ง
ยายสองเร่งอ่วยหน้า   ไปนาโคกย่างไว
ทางสิไปหากเป็นเส้น   หนทางขี้หินแห่
แลเบิ่งสีดินแล้ง          ยามนี้แห้งทั่วระแหง

แยงดูทางคดเคี้ยว  เหลียวแนมมองทางท่ง
มองดูลงล่ายล้อม   กกไม้ไขว่ขีน
กกไม้ถิ่นประจำนี้    มีกกฮังเชือกใหญ่
คูนขี้เหล็กบอกไว้    ทั้งบกพร้อมพร่ำกัน

มองมันยืนตระหง่านฟ้า   ตามท่งนาเป็นกลุ่ม
ซุมหมู่ควายหากินหญ้า   มองมาแหงนหน้าใส่
จันแรมผ่านเข้าใกล้        เอามือชี้ใส่มัน
ควายนั้นเลียดังแลบ       ทำล่อใส่อีนาง

ทางสิไปมันยาก        ลำบากยามขี่
ขี้หินแห่เป็นก้อน        ตามท้างหว่างทาง
พอมาถึงสะพานสร้าง    นายกคนเก่า
หม่อมคึกฤทธ์แต่เค้า    โครงการเว้าว่ากัน

เอิ้นเงินผันว่าซั้น     สมัยนั้นพัฒนา
เผิ่นหากมาสร้างไว้  ในคราวนั้นท้องบ่าวสัน
พอแต่ปั่นมาฮอด     จอดลงเซาก่อน
ตอนนี้เถิงตีนโคก     มันฮกเฮื้อกว่าท่งนา

มาเด้อหล้าหาฮังมดแดงก่อน          ตอนนี้แม่พ้อแล้วกกยอพุ้นอีหลี
คือสิมีทางได้หน่วยใหญ่หลายไข่ต่ง  ลงจากรถฟ้าวยื่นเอากระต่าส่งแม่
เผิ่นก็แหย่ใส่พุ้นฮังน้อยค่อยแยง       มดแดงไต่ลงไม้ไหลลงไปกระต่า
หยับไปนางอีหล้า มดตกมาสิขูใส่     ทั้งเล่าเคาะไม้ส่าวลำไม้ไล่มดแดง

เสียงจันแรมฮ้องขึ้น                   ว่ามดกัดเอิ้นหาแม่
เบิ่งเอาแหน่ลูกหล้า                   อย่าให้มุดเข้าซิ่นผืนผ้าค่อยระวัง
ทั้งกัดเจ็บทั้งแสบฮ้อนขาฮ้อนแข่ง  มดแดงโตน้อยน้อยกัดเจ็บแท้อีหลี
นี้ล่ะน้ออีหล้าของฟรีเผิ่นว่า           ในโลกาโลกนี้บ่มีแท้หรอกอีนาง

จันแรมนางกล่าวอ้าง  ไผหากมักของฟรี
มีแต่อย่างหนึ่งนั้น       ข้อยชังหลายเป็นตาหน่าย
ยายสองงึดลูกเว้า       ถามเอาเว้าต่อ
มีอยู่บ้อลูกหล้า          ของฟรีนั้นหากแม่นหยัง
ฟังเสียงลูกตอบเว้า     ยาวัคซีนเด้อแม่
ข้อยย้านหลายแท้แท้  มาแจกบ่อยากเอา.......

เซาลงไว้หิวนอนมาไล่ ตอนหน้าพุ้นสิมาจ้อต่อนิทาน.....
  

ปล. ขอตั้งชื่อเรื่องว่า "เรื่องยาว บ่าวปิ่น" เด้อ  

 
 
สาธุการบทความนี้ : 309 ครั้ง
ให้สาธุการบทความนี้
 
 
  14 พ.ค. 2553 เวลา 02:37:52  
        offline  ติดต่อหลังเวที  ติดต่อโดยเมล์ ตอบอ้างอิง  
 
  ปราร้านอกไห   ตอบเต็มรูปแบบ || Quick Reply  
  หน้า: 1 2

   

Creative Commons License
นิยายชีวิตอีสาน เรื่อง โสกฮัง - ตาดไฮ ( โดย บ่าวปิ่นลม พรหมจรรย์ ) ฉบับผญา --- วิถีชีวิตชาวอีสาน (ปลาร้านอกไห --- อีสานจุฬาฯ)