ผญา คติสอนใจประจำวันที่ 26 เมษายน 2568:: อ่านผญา 
เห็นหางยาวพ่วงพ้อย อย่าฟ่าวว่าปลาไหล ห่าเถื่อเป็นแนวงู สิตอดตายบ่ทันฮู้ แปลว่า แค่เห็นเพียงตัวกลมหางยาว อย่าเพิ่งว่าเป็นปลาไหล เพราะหากเป็นงูแล้วไซร้ มันจะขบกัดเอาได้ หมายถึง อย่าทำอะไรด้วยความผลีผลาม พลาดพลั้งไปจะแก้ไขไม่ทันการณ์

สารานุกรมอาหารแห่งอีสาน  

ปิ้งเอี่ยน...สารานุกรมอาหารแห่งอีสาน --- โดยอีสานจุฬาฯ
ปิ้งเอี่ยน





ดังที่กล่าวไว้ข้างต้น ว่าปื้งเอี่ยนธรรมดา กลายเป็นอาหารภัตตาคาร 5 ดาว ชื่อเสียงกระฉ่อน เช่นไร
ขอนำเสนอข้อมูลให้ทราบดังนี้ ขะน้อย
ช่วงเดือนมิถุนายนถึงเดือนกรกฎาคมญี่ปุ่นในช่วงฤดูนี้
ชาวญี่ปุ่นจะมีประเพณีกินปลาไหลย่างกัน ( ปิ้งเอี่ยน )
ในวันที่ร้อนที่สุดของปี เรียกว่าวัน Doyou No Ushi No Hi ถือเป็นประเพณีที่สืบทอดกันมายาวนาน
ตั้งแต่ในสมัยเอโดะ ฤดูร้อนถือเป็นช่วงฤดูที่ปลาไหลจะมีรสชาติหอมมันเป็นที่สุด

     ในสมัยก่อนนิยมนำปลาไหลมาย่างกินกันเท่านั้น สำหรับเมนูข้าวหน้าปลาไหลเพิ่งจะนิยมกินกันในช่วงสมัยเมจินี่เอง
ในช่วงฤดูนี้มักจะได้กลิ่นปลาไหลย่างราดซอส ตลบอบอวลอยู่ตามร้านอาหารทั่วไปในเมืองใหญ่
แต่ถ้าอยากกินปลาไหลให้ถึงถิ่นปลาไหลจริงๆ แนะนำให้ไปที่เมืองฮามานาโกะ ในจังหวัดชิสุโอกะ
เค้าว่าปลาไหลที่นั่นอร่อยที่สุดในญี่ปุ่นแล้ว

ตามหลักการที่ "ครูสุย " ( สุย แปลว่าเกือบถูก )  สอนกระผมแต่ยังน้อย ถึงการอ่านจับใจความ
จึงพอสรุปให้พี่น้องฟังได้ดังนี้ พะนะ

ช่วงออกพรรษ  ลาพระเจ้า ชาวญี่ปุ่นจะมีประเพณี กิน "ปื้งเอี่ยน " เพราะช่วงนี้ปลาจะสะสมไขมัน
ทางบ้านเฮาเรียกว่า " ข้าวใหม่ ปลามัน "  สรุปง่ายๆ คือช่วงเกี่ยว "ข้าวดอ" บ้านเฮานี่หละ
สมัยก่อนนิยม นำเอา "เอี่ยน" ( ปลาไหล ) มาปิ้ง (ย่าง) กินกันเฉยๆ  ปันสู่กันกินนี่หละพี่น้อง
สมัยต่อมา ชาวญี่ปุ่น ก็นำมากินกับข้าว เพราะว่ากินปิ้งเอี่ยนเฉยๆ "มันบ่อุ่นท้อง"  พะนะ
จากนั้นก็ พัฒนาการเข้าสู่ภัตตาคาร  โปรโมท ฯ กัน จนโด่งดังและครับพี่น้องเอ๋ย



"รู้เขารู้เรา รบร้อยครั้ง ชนะร้อยครั้ง " ตำราพิชัยเผิ่นว่า ย้อนกลับมาศึกษา " ปิ้งเอี่ยน"
ในเชิงวัฒนธรรม กับความเจริญของการพัฒนาที่ยั่งยืน  ของไทยแลนด์  เฮาดีกว่า

อันดับแรก ค้นหาใน พญา Google เบิ่ง  ค้นหาคำว่า " ปิ้งเอี่ยน"   จ๊วดดด....
มาบบบ....ขึ้นมา ฮ่วย! ...มีแต่บ่าวปิ่นลม นี้เด้...  ส่งเสริมอาหาร ปิ้งเอี่ยน เข้าสู่อาเซี่ยน

ฮ้วย..วิเคราะห์ ปัญหา , อุปสรรค , วิภัตติ และปัจจัย ก่อนน๊า.. ( ตามสูตรบาลีเปรียญธรรม )
คำโบราณ ผู้เฒ่าผู้แก่ กล่าวไว้ว่า "  ยอดซี้น อยู่นำหมา ยอดปลาอยู่นำเอี่ยน "
แปลว่า " สุดยอดเนื้อ คือเนื้อหมา  สุดยอดเนื้อปลาคือ ปลาไหล "
มิน่า..ชาวเวียดนาม ไต้หวัน เกาะไหหลำ จึงสั่งนำเข้า สุนัขจากประเทศไทยมากนัก
ในขณะที่ ญี่ปุ่นก็ ยกย่องเนื้อปลาไหลว่าแสน อร่อยเหาะ



ชื่อพื้นบ้าน ปลาไหล , เอี่ยน
ชื่อวิทยาศาสตร์  Monopterus albus
ชื่อสามัญ Common swamp eel
ลักษณะทั่วไป
ส่วนหัวค่อนข้างกลม และค่อยๆแบนไปทางหาง ลำตัวคล้ายงู สีน้ำตาล ไม่มีเกล็ด ไม่มีครีบอก
และครีบท้อง จะงอยปากแหลม ขนาดลำตัวยาวประมาณ ๖๐ เซนติเมตร  ลำตัวมีเมือกลื่น
แหล่งที่พบ
เอี่ยนทุ่งหรือเอี่ยนนา พบตามทุ่งนา ริมหนองน้ำ ลำตัวเรียวยาว เอี่ยนดง พบตามป่าติดทุ่งนา
อาศัยอยู่ใต้กองใบไม้   ใต้ตม
ความสัมพันธ์กับชุมชน
ชาวบ้านนิยมนำมาใช้ประกอบอาหารจานเด็ด เช่น ต้มเปรต แกงเผ็ด ผัดเผ็ด ย่าง อ่อม เป็นต้น
ถือว่าเป็นอาหารที่มีคุณค่าทางยา ในบรรดาอาหารอีสานอีกประเภทหนึ่ง
ความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจ
ปลาไหลนี้นอกจากจะนำไปบริโภคแล้ว ยังขายให้แก่ผู้ที่เชื่อเรื่องโชคลาง
ซื้อปลาไหลไปปล่อยเพื่อเป็นกุศลแก่ตนเองด้วย

เมื่อพิจารณาแล้ว ปลาไหล หรือ เอี่ยน มีความสำพันธุ์กันชนชาติไทย มานานกาล
ดังจะเห็น ปรากฏใน คำพังเพยสุภาษิต ต่าง ๆ เช่น
"เกลียดตัวกินไข่  เกลียดปลาไหลกิน้ำแกง"
"ลื่นยังกับปลาไหล"
"พ่อปลาไหล แม่พังพอน " เป็นต้น

นอกจากนี้ ปัจุบัน ทางจ.สุรินทร์ จ.ศรีสะเกษ ยังมีการจัดงาน จับปลาไหล เป็นการเล่นสนุกสนาน
เป็นที่ชื่นชอบของขาวต่างชาติ จน อบต.ต่างๆ เอาอย่าง เมื่อจัดงานชุมชนอะไรๆ ต้องมี
"เกมส์จับปลาไหล"  จนออกทีวี ให้เห็น ในรายการ "สะเก็ดข่าว"  เป็นประจำ
ปฏิเสธไม่ได้หรอกว่า ปลาไหล เกี่ยวพันกับวิถีชาวไทย ยิ่งยวด
"แม้แต่นักการเมือง หรือ ข้าราชการบางคน ยังทำตัวเป็นปลาไหล"  แม่นบ่พี่น้อง

พี่น้อยเอ๋ย.เห็นทางร่ำไร ประดุจแสงสว่างปลายอุโมงค์ แล้ว  
ในประเทศญี่ปุ่น ขนาดเขากิน "เอี่ยน" แค่บางจังหวัด ยังจัดให้เป็นอาหารขึ้นชื่อได้
ในประเทศเรา กินเอี่ยน กันทุกจังหวัด  แทรกซึมไปทุกอณูความเป็นไทย
จนพาลนึกไปว่า " ไทยแลนด์   เอี่ยนแห่งเอเชีย "  พะนะ
เรามานำเสนออาหารบ้านเราให้เลื่องลือกันเถอะ




ชื่อเมนู   ปิ้งเอี่ยน
ชื่ออังกฤษ  Wonder Of Cretaceous
ภาษาไทย  บุตรนาคี นารีสะดุ้ง


Cretaceous  คือ ยุค 65 ล้านปีก่อน  บรรพบุรุษของปลาไหล ( เอี่ยน ) เอาตัวรอดจาก มหาวิปโยคครานั้น
คงเหลือ เพียง 19 ตระกูล 110 นามสกุล    ดำรงอยู่จนถึงปัจจุบัน   ไร้มือ ไร้เท้า ไร้ รยางค์
แต่กลับเอาตัวรอดจากการทำลายล้างสิ่งมีชีวิต จนไดโนเสาสูญพันธุ์  น่าอัศจรรย์ยิ่ง
แถมยังเป็นอาหาร รสชาติวิเศษในโลก

ปลาไหลนา หรือ "เอี่ยน" ที่นำเสนอนี้  พบมากที่สุดในประเทศไทย เพราะมีที่ราบลุ่มทำนาได้ทั้งปี
เป็นปลาไหล ที่อยู่ในดินแดนที่ไม่เคยสูญเสียอริสะภาพ แม้ผู้มีอำนาจ จนโลกสะเทือนก็ไม่อาจยึดครองได้
"เอี่ยน" คือ ปลาไหลที่มี อัตลักษณ์สูง  พบได้ในแถบศูนย์สูตร และประเทศเขตร้อนชื้น
ไม่ปรากฏว่าพบ " เอี่ยน" บนดาวอังคาร ดวงเดียวกันกับที่ นาซ่า กำลังสำรวจอยู่  ณ ขณะนี้



ประเทศไทย เป็นประเทศที่อุดมสมบูรณ์ มีวัฒนธรรมที่งดงามน่ายกย่อง และ "เอี่ยน"
ก็อยู่คู่กับสังคมไทยมานาน นับตั้งแต่สร้างวัฒนธรรม จนปรากฏเป็น คำพังเพย สุภาษิต
หรือแม้กระทั่งตำนาน ปรากฏให้ลูกหลานได้ศึกษา และปนเปอยู่กับวิถีของคนทุกภาค

การมาเยือนเมืองไทย หากไม่ได้ ชิมลิ้มลอง "ปิ้งเอี่ยน"  ถือว่ามาแบบ ผ่าน ๆ  
มาแบบกอบโกยประโยชน์ มาแบบแอบแฝงจุดประสงค์ หรือมาแค่ฟอกเงิน

"หากมาสยามแล้วไซร้  ฉะไหนไม่ชิมปิ้งเอี่ยน สุดยอดแห่งเนื้อปลา "


ประเทศไทยมีปลาน้ำจืด หลากหลายชนิด  แต่การกิน "เอี่ยน" หรือปลาไหลนา  คือความแตกต่าง
อาหารอื่นเพียงแค่อิ่มอร่อย แต่การกิน "ปิ้งเอี่ยน"  คือ"หนทางทั้งหมดแห่งการแสวงหารสเลิศในชีวิต"


ปิ้งเอี่ยน คืออาหารของ "คนเถื่อนใจธรรม" (Noble savage)
ที่ดำรงชีวิตอย่างไร้มลทิน ไม่ประณีตซับซ้อนและไม่วิบัติจากระบบชนชั้นนายทุนของโลกตะวันตก





กรรมวิธีในการทำเมนูนี้ ขอสงวนไว้ให้เป็นความลับของ (Noble savage)
และให้เป็น นวัตกรรมใหม่ ของผู้มีใจรัก " วัฒนธรรมการกินแบบไทย ๆ "
อุปสรรคอย่างเดียวในการนำเสนอ ให้เป็นเมนูสู่อาเซี่ยน คือ "การดูถูกหนทางแห่งตนเอง"


( ตัวอย่างการ สร้างนวัตกรรม อาหารธรรมดา สู่สายตาโลก )

ข้อมูลบางอย่างจาก www.siamfishing.com
www.daco.co.th/
www.dailynews.co.th


 
Creative Commons License

ชมรมอีสานจุฬาฯ... สารานุกรมอาหารแห่งอีสาน