ผญา คติสอนใจประจำวันที่ 26 เมษายน 2568:: อ่านผญา 
ตกกะเทินว่าได้สู้ บ่ถอยหลังให้เขาว่า นับแต่มื้อสิก้าว ไปหน้าบ่ถอย แปลว่า เมื่อได้ตกลงใจว่าสู้แล้ว ไม่ท้อถอย มีแต่จะเจริญก้าวหน้าไปเรื่อย หมายถึง เมื่อได้ลงมือทำแล้ว ให้เพียรพยายาม อย่าท้อถอย

สารานุกรมอาหารแห่งอีสาน  

แจ่วแมงแคง,ป่นแมงแคง...สารานุกรมอาหารแห่งอีสาน --- โดยอีสานจุฬาฯ
แจ่วแมงแคง,ป่นแมงแคง



ชื่อภาษาอังกฤษ   Stink Bugs pestle
ชื่อภาษาไทย       น้ำพริกฤๅษี  ( น้ำพริกมวนโล่)
ชื่ออีสาน             แจ่วแมงแคง  ,ป่นแมงแคง


ขึ้นชื่อว่า “แมงแคง”  แน่นอน มันย่อมไม่คว่ำหรือหงาย  เพราะมันแคง (ตะแคง) ว่าไปโน่น
เป็นแมลงตามฤดูกาล ทางภาคอีสาน บ้างก็เรียก แมงแคงค้อ เพราะชอบอยู่ตาม”ต้นค้อ”
ผลไม้ที่ให้รสจี๊ด..! สะใจ  ว่ากันว่า บักค้อ  ให้ความ “ ลึด” กว่าผลไม้ชนิดอื่น
เนื่องจากการกิน ต้อง “ลึด” ถึงจะได้รสชาติ  หาก กินแบบ “หล่อน” ก็จะเหลือแต่ “ไน”
หากแต่กินแบบ”ลึด”   เมื่อไปถ่าย ก็จะออกมา “หล่อน”  เช่นกัน   กองเอ้เล่..!  




ภาพ พวงบักค้อ  เห็นแล้ว ส้มปาก  

ส่วนประกอบของเมนูนี้
1 แมงแคง
2 พริก
3 หัวผักบั่ว (หัวหอม)
4 กระเทียม
5 ปลาร้า
6 ผักกะโดน
7 ดอกกระเจียว
8 คนตำน้ำพริก หน้าตาสวยๆ

ในหน้าแล้งทางภาคอีสาน อาหารการกิน ค่อนข้างหายาก  แหล่งโปรตีนอาจหาได้ไม่กี่ชนิด
แต่ชาวอีสานรู้จักธรรมชาติในถิ่นของตน จึงปรับตัวให้ รับประทานแมลงชนิดนี้ เพราะเป็นแหล่ง
โปรตีนตามฤดูกาล ทั้งยังมีกลิ่นหอม มีรสมัน เหมาะสำหรับเมนู สมถะ

มีหลายชนชาติที่นำแมลงมากินเป็นอาหาร  เพราะแมลงเป็นสัตว์ที่มีจำนวนมากที่สุดในโลกา
แค่มดคันไฟ “ขวย”เดียว อาจมีจำนวนมากกว่าคนทั้งอำเภอ  มนุษย์เป็นสัตว์ที่ได้เปรียบสัตว์โลกชนิดอื่น
เพราะบริโภคแทบทุกอย่างเป็นอาหาร จึงนำพาพงษ์พันธุ์ ลอดพ้น ครองโลกในยุคปัจจุบัน
มนุษย์ทุกวันนี้ เขาพัฒนาแล้ว เห็นว่าการบริโภคแมลง เป็นเรื่อง ล้าสมัย  ต้อยต่ำ โลว์คลาส
จึงหันมา บริโภค ถนน สะพาน ตึก หิน ปูนทราย  หรือแม้แต่ ประเทศชาติของตนเองเป็นอาหาร

การหาแมงแคง วัตถุดิบหลัก




1 อาจารย์ต้องแล่ง อธิบายให้นักเรียนฟังว่า การหาแมงแคง ต้องออกไปหาตั้งแต่ เช้าๆ
    เพราะ แมงแคง “บินไม่หอง” ในตอนเช้า  ปีกของมันยังมีความชื้นสัมพัทธ์ สูงอยู่ จึงบินลำบาก
หากปล่อยให้ “แดดงาย”   มันจะ “แคะ”   หรือ “ แห”   จับได้ลำบาก อาจต้องลงทุนไล่ให้มันบิน
เวินไปเวินมาตามท้องทุ่งหนาแล้ง จนต้อง “ตำคันแทนา” หัวปักกะเทียม

2 การจับแมงแคง อาจารย์มังกร ฯ  ชี้แจงว่า “ อย่าหันดาก มันมาใส่หน้าเรา”   เพราะแมลงชนิดนี้
   สามารถ พ่นสารประกอบของกรด ชนิดเข้มข้น  หากเข้าตา อาจทำให้ตาบอด และเจ็บแสบ
ทางแก้หากโดนมัน “เยี่ยว” ใส่ตา  อันดับแรก ให้ไปบอกยายก่อน
โอ๊ะ..ไม่ใช่ต้องไป “มืนตาใส่น้ำ”  ครับกระผม


ภาพตัวอ่อนแมงแคง แดดส่่องชามเช้า

หลังจากจับแมงแคงได้พอสมควรแล้ว ก็ งวกซ้าย งวกขวา มองหา ต้นผักกระโดน หรือ กระโดนโคก



“กระโดน"
ชื่อวิทยาศาสตร์ "CareyaSphaericaRoxb.""C.ArboreaRoxb."

“กระโดน” เป็นชื่อพื้นเมือง  ทางภาคอีสาน  ผักกระโดน มี 2 ชนิด กระโดนน้ำ กับ กระโดนนา หรือ กระโดนโคก
คนที่ชำนาญเรื่อง “กระโดน” มาที่สุด คือ “น้าหมู” เพราะท่านชื่อ พงษ์เทพ กระโดนชำนาญ  กวีศรีโคราช
จำได้สมัย เรียนหนังสือ ขะน้อยกับเพื่อน ลงทุน รับจ้างดำนา เกี่ยวข้าว ขนฝุ่น(ขนขี้วัว)  เพียงเพื่อเก็บเงินไว้ซื้อ
เพลงของ”น้าหมู” ทุกชุดที่คลอดลงแผง   ตกเย็นหลังจากทำการบ้านเสร็จ ก็จะเปิดเพลง “น้าหมู” ล้อมลงกันฟัง
คนอื่นๆ เขาไป เที่ยวคุยสาว แต่ พวกกระผม ประมาณว่า “หล่อเลือกได้” (ไม่มีใครเลือก)  อินเทรนกับเสียงเพลง
นั่งเกากีตาร์เพลง พงษ์เทพ ฯ  บ้างก็นั่งเกาไข่  ไม่นึกว่าจะกลายเป็นท่าเต้นโด่งดัง ของ “คุณอาไมเคิล”

ระหว่างเดินทางกลับ เลาะโคก ก็หาเก็บดอกกระเจียว เอาไว้ลวกกิน เป็นผักแกล้ม  เน้นดอกกระเจียวนะครับ
อย่ามือบอน “ซาวเอา” เคลือ “ อีลุมปุ๋มเป้า” ติดมือมา อันนั้นกินไม่ได้  มันคันคอ



ได้แล้วผักกินกับ  ใช้บักน้อยๆ หิ้วกะคุให้   ญ่างลัดท่งเข้าบ้าน


วิธีทำ


1 นำ แมงคง พริก กระเทียม หัวหอม มาคั่ว ให้ พอดี


2 ตำพริก กระเทียม หัวหอมให้ละเอียด



3 ตำแมงแคง ลงใส่
อย่าลืมเด็ดปีกแมงแคง ออกก่อน  เพราะประกอบไปด้วย ใยอาหาร ย่อยลำบาก  อีกอย่าง ตอนคั่ว อย่าใช้เด็กน้อย
ไปนั่งเผ้ากระทะ เพราะอาจจะ “หลอย” กินแมงแคงหมดก่อนก็ได้
4 เหยาะน้ำปลาแดก ลงไป  ปรุงรส  น้ำปลาร้าที่ดี ต้องมาจากไห   เพราะผ่านการเพาะบ่มจากไหหิน
   ข้อควรระวัง “ก่อนเหยาะ” น้ำปลาแดก ให้ สำรวจ “ขี้ไก่ขาง”ให้ดี เพราะผิดหลักอนามัย


5 เติมน้ำอุ่นพอ ประมาณ เพื่อง่ายต่อการ คลุกคล้ำ ตำ อย่าให้ “แหลว” จนเกินไป กะประมาณให้เป็นก้อนเหนียวๆ



อันนี้ ส่วนผสมพิเศษ  คนตำ  หากได้คนตำเช่นนี้ เมนูนี้ สิแซบขนาด
ลป.อันนี้ “หลอย” มาจาก เฟชบุ๊ค หลานสาวคุ้มดอนเจ้าปู่  บ้านขะน้อย  มาอ้างหมู่ซือๆ ดอก
จั๊กหน่อยสิเอาไปคืน


5 ลวกดอกกระเจียวที่เก็บมา และ ล้างผักกระโดนด้วยน้ำให้สะอาด
ข้อควรระวัง การเก็บผักกะโดน ให้เก็บยอดอ่อน ที่อยู่สูงสักหน่อย  หากเก็บเอายอดเตี้ยๆ
อาจเจอ “ผักกระโดนเยี่ยวหมาบักแดง” หรือ ผักกระโดนที่หมาเยี่ยวรดแล้วก็ได้



จากนั้นก็นั่งล้อมวง เปิบความอร่อยเหาะ   กินแล้วใช่กินเพียงอิ่ม อาหารที่ดีนั้น ให้ทั้งข้อคิดและความโอชะ
แมงแคง หรือคำว่า “แคง” คือการหันหน้าไปทางใดทางหนึ่ง นั่นคือ คนเราต้องมีคติในการดำเนินชีวิต
อย่าปล่อยชีวีให้ล่องลอยไร้จุดหมาย  อยู่ไปวันๆ ไม่ทำประโยชน์แก่ตนเองและคนอื่น

ดอกกระเจียว หรือคำว่า “เจียว” ในภาษาอีสาน หมายถึง  พันกันแน่นหนา หรือแปลว่า “พันผูก” เกี่ยวพัน
การเป็นพี่น้องกัน หรือ มีมิตรภาพต่อกัน  จำต้องสร้างความผูกพันแน่นแฟ้น  ช่วยเหลือเจือจุน
และปรารถนาดีต่อกันเสมอ  

กระโดน คำว่า “โดน”  ในภาษาอีสาน แปลว่า “ยาวนาน”  ยั่งยืน  




อาหารในมื้อนี้ สอนให้คนอีสานรู้ว่า แม้ในเวลาที่เราแร้นแค้นลำบาก  
จงวางตนดำเนินชีวิตในทางที่ถูกต้อง   มีมิตรภาพและผูกพันต่อกัน  ช่วยเหลือกัน และกัน  ทำให้เราสังคมเรา
เจริญก้าวหน้ายิ่งยืนนาน
พระฤาษี จึงคิดเมนูนี้ขึ้นมา  ใครได้ ร่วมวงกันกินอาหารเมนูนี้  ย่อมมิอาจลืมเลือนกันและกันจนวันสิ้นลม

จะมีอาหารกี่ชนิดในโลก ที่เปี่ยมปริ่มไปด้วยความหมาย  ปรัชญา และความโอชะ เช่นนี้



 
Creative Commons License

ชมรมอีสานจุฬาฯ... สารานุกรมอาหารแห่งอีสาน