|
หน้าบ้าน
|
อีสานจุฬาฯ
|
มูนมังอีสาน
|
ม่วนซื่นโฮแซว
|
ปลาร้านอกไห
|
กระดานข่าว
|
แมลงแห่งอีสาน
|
อาหารแห่งอีสาน
|
สมุดเยี่ยม
|
ประวัติชมรม
ตราชมรม
วัตถุประสงค์ชมรม
วิสัยทัศน์ชมรม
ทำเนียบประธานชมรม
โครงสร้างการบริหาร
คณะกรรมการชมรม
กิจกรรมชมรม
ปฏิทินกิจกรรม
ข่าวสารจากชมรมฯ
Hot Short News
คลังภาพกิจกรรมชมรม
แผนที่ชมรมฯ
ชมรมอีสาน เพื่อนบ้าน
ฮีตสิบสองคองสิบสี่
เรือนสามน้ำสี่
ผญาอีสาน
ดนตรีอีสาน
ฟ้อนรำพื้นบ้านอีสาน
นิทาน
การละเล่น
คำทวย
กลอนอีสาน-ผญา
ประเพณีอีสาน
ฟังเพลงโปงลาง
ดูวีดีโอม่วนๆ
ฟังลายเแคนเฒ่าเก่า
ร้องคาราโอเกะ
ขอเพลงคาราโอเกะ
ภาษาอีสาน
จังหวัดในอีสาน
ของแซบอีสาน
วิถีอีสาน
นิทานพื้นบ้าน
นิทานก้อม
ห้องอักษรไทน้อย
ห้องอักษรธรรมอีสาน
โสเหล่สภาไนบักขามคั่ว
ห้องโสกันฉันพี่น้อง
ห้องลายเพลงพื้นบ้านอีสาน
ห้องอักษรไทน้อย
ห้องอักษรธรรมอีสาน
ผญา คติสอนใจประจำวันที่ 26 เมษายน 2568
::
อ่านผญา
คันสิไปทางหน้าให้เหลียวหลังเบิ่งก่อน คันมะลูดทูดเท้าเซาถ่อนอย่าไป
แปลว่า
ถ้าจะไปข้างหน้า ให้เหลียวดูข้างหลังก่อน หากดูไม่เข้าท่า ก็อย่าได้ไป
หมายถึง
พึงตริตรองอย่างรอบคอบก่อนแล้วค่อยลงมือทำ
ค้นหาสาธุการ ปลาร้านอกไห
พบทั้งหมด 2 หัวข้อ
หน้า:
1
โพสต์โดย
9)
เห็ดยูคา
nee
คห.ที่6)
อยากไปเก็บเห็ดแท้ๆ ที่ไหนมีเห็ดบ้างซิไปเก็บ
[
ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้
]
ศิษย์ใหม่ไร้วรยุทธ์
ภูมิลำเนา : ร้อยเอ็ด
เข้าร่วม : 08 ก.พ. 2551
รวมโพสต์ : 2
ให้สาธุการ : 0
รับสาธุการ : 6190
รวม: 6190 สาธุการ
คุณมังกรเดียวดาย:
เว้าเรื่องเห็ด มันกะมีหลายอย่างหลายแนว เห็ดบางชนิด มีให้เห็น มีให้กินอยู่ตลอดปี (ขาเจ้าทำการเกษตรแผนใหม่ตั้วนั่น) บางชนิด กะมีเฉพาะฤดูกาล ซึ่งโดยมาก เห็ดสิออกหลาย ช่วงหน้าฝนพุ่นล่ะ.... ช่วงใกล้สิเหมิดหน้าฮ้อน หรือช่วงฝนลงใหม่ๆ นี้ กะสิมีเห็ดบางชนิด หลายชนิด เกิดให้คนเก็บไปกินคือกัน เห็ดบางชนิด กะเกิดมาให้เด็กน้อยเตะเล่น อย่างเช่นเห็ดขี้ควาย เป็นต้น
สมัยก่อน หรือว่าแต่กี้น้อ... ช่วงฝนลงใหม่ๆ กะสิมีเห็ดต้อป้อ เห็ดตู้ปู้ เห็นแทด เห็ดทา เกิดตามนาขาวงามสะพรั่ง บ่ต้องซื้อให้เสียสะตังค์ เก็บเลาะทาง เก็บนำท่งนา.... หรือถ้าอยู่นำตอไม้ กะสิมีเห็ดขอนขาว เห็ดบด เห็ดกะด้าง เด้เนาะ....
มาสมัยใหม่นี้... มีอยู่ช่วงหนึ่ง พากันฮิตปลูกต้นยูคาอย่างคัก เขาลือเขาซาว่า ต้นยูคาปลูกได้ใหญ่เร็ว ดินขาดความอุดมสมบูรณ์อย่างภาคอีสานกะปลูกได้ ปลูกแล้ว กะตัดขายได้เร็ว.. พะนะ พะน้า พะน้า พะนะ...ฮีเนี่ย... กะเลยพากันอาแบบเอาอย่างกัน หลายหมู่บ้านอยู่ตั้วล่ะ.... (แต่ว่าหลังๆ กะเริ่มปรากฏว่า ต้นยูคา มันกินหลายโพด ขนาดหญ้ายังเกิดใต้ต้นยูคาบ่ได้ พอมันกินหลายคัก ดินบริเวณที่ปลูกต้นยูคา กะเลยขาดความอุดมสมบูรณ์ไปกั่วเก่าก่อน กลายเป็นดินแข็งกระด้าง ปลูกหยังกะบ่งาม ซั่นแหล่ว)
ถึงแม้ว่า หญ้าสิเกิดใต้ต้นยูคาบ่ได้ แต่ว่า กะยังมีพืชชนิดหนึ่ง ที่สามารถอยู่ร่วมกับต้นยูคาได้ เกิดได้ในดงยูคา... นั่นกะคือ เห็ด ชนิดหนึ่ง
ใบยูคาที่ร่วงหล่นลงตามพื้นดิน สะสมหนาไปเรื่อย... พอฝนตกโฮยฮำ ขี้ดินฉ่ำชุ่ม อมน้ำอุ่นไอ... กะเป็นภาวะที่เหมาะสมให้สปอร์เห็ดเติบใหญ่ขึ้นมาสะล่ะละ
เห็ด ชนิดนี้ มีสีออกคล้ำๆ ดำๆ คล้ายๆเห็ดหอม เป็นมื่นๆ คล้ายๆ เห็ดดังงัวดังควาย แต่ว่ารสชาติมันหั่งขม คักปานเห็ดเผิ่งขม
ย่อนว่าเห็ดชนิดนี้ พบพ้อ ในป่าต้นยูคา กะเลยพากันเอิ้นว่า เห็ดยูคา... (บ่แม่นเห็ดยาคู อยู่วัดดอกเด้อ)
เห็ดยูคา มีรสขมอย่างขนาด... ขนาดมีรสขมปานนั้น กะยังพากันไปเก็บมากินอยู่น้อ คนเฮากะดาย... จักว่าแม่นผู้ได๋บุหวา เป็นคนลองกินคนแรก จนฮู้ว่า มันบ่เบื่อ... ผู้ลองกิน จักแม่นกล้าอย่างคักน้อ
วิธีเฮ็ดอยู่เฮ็ดกินนั่น กะเห็นพากันเอามาแกงกินนั่นล่ะ เอิ้นว่า แกงเห็ดยูคา.. พะนะ
แกงเห็ดยูคา เด็กน้อย กินบ่ค่อยได้ดอก เพราะเด็กน้อย บ่มักรสขม แต่กะเห็นเด็กน้อยผู้ลังคน ซดเอาซดเอา กะมีดอกหวา
สูตรในการแกงเห็ดยูคาบ่ให้ขม หรือว่า ให้เหลือรสขมน้อยที่สุดนั่น กะน่าสิมีวิธีหลากหลายอยู่ล่ะ
วิธีที่ง่ายที่สุด พื้นฐานที่สุด กะเลียนแบบมาจากแกงผักขี้เหล็ก... นั่นคือ ต้ม แล้วกะเทน้ำทิ้ง ต้มจักหลายๆ น้ำ จนเห็นว่า เหลือรสขมพอแซบพอดี กะเอาเห็ดไปแกงได้เลย
อีกวิธีหนึ่ง กะคือแบบผสมผสาน โดยใช้วิธีแรกสาก่อน แต่ว่าอาจสิต้มแค่น้ำสองน้ำ จากนั้นกะเอามาแกงแบบต้มส้ม... เป็นแกงเห็ดใส่ใบบักขามอ่อน นั่นหนา โดยคาดหวังว่า สิให้รสส้มมันกลบรสขมนั่นล่ะ
ส่วนวิธีการแกงเห็ดนั่น กะแกงแบบทั่วๆ ไป นั่นล่ะมั้ง... (บ่เคยเฮ็ดจักเทื่อ เคยแต่เป็นผู้หา เคยแต่เบิ่ง เคยแต่ซิม เคยแต่กิน)
แกงแล้วแล้ว กะหาใส่พาเบียน พร้อมซ้อนสำหรับซด... กินกับข้าวฮ้อนๆ กะพอแล้วคาบข้าว อยู่ตั้วล่ะ...
สาธุการบทความนี้ : 320 ครั้ง
จากสมาชิก : 0 ครั้ง
จากขาจร : 320 ครั้ง
10 ก.พ. 2551 เวลา 12:34:37
ขึ้นบน
ลงล่าง
โพสต์โดย
48)
ผักขี้เหล็ก
nee
คห.ที่0)
ผักขี้เหล็ก
[
ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้
]
ศิษย์ใหม่ไร้วรยุทธ์
ภูมิลำเนา : ร้อยเอ็ด
เข้าร่วม : 08 ก.พ. 2551
รวมโพสต์ : 2
ให้สาธุการ : 0
รับสาธุการ : 6190
รวม: 6190 สาธุการ
สมุนไพรไทยๆ ที่ซอยคลายเครียดได้นั่นคือ "ขี้เหล็ก"
หลายๆคนซิเคยกินแกงผักขี้เหล็กแล้ว เมนูเด็ดที่ปรุงด้วยปลาร้า มีรสชาติแซ่บซ่อนขมเล็กน้อย ซึ่งรสขมๆ ของขี้เหล็กนั้นช่วยทำให้เจริญอาหาร ส่วนใบอ่อนและดอกตูมของต้นขี้เหล็ก จะมีสารที่ชื่อว่า แอนไฮโดรบาราคอล (anhydrobarakol) ซึ่งมีสรรพคุณซอยในการคลายความเครียดและมีฤทธิ์เป็นยาระบายอ่อนๆ อีกนำ ส่วนสารอัลคาลอยด์ในใบขี้เหล็ก มีฤทธิ์กล่อมประสาททำให้นอนหลับสบายดี เห็นบ่อละผักขี้เหล็กมีประโยชน์แท้ๆ ผู้ใด่บ่อทันเคยกินกะไปกินเด้อ ซิได้เฮ็ดให้บ่อเครียด
เด้อค่าขอบอก
สาธุการบทความนี้ : 274 ครั้ง
จากสมาชิก : 0 ครั้ง
จากขาจร : 274 ครั้ง
10 ก.พ. 2551 เวลา 13:37:27
ขึ้นบน
ลงล่าง
หน้า:
1
ชมรมศิลปวัฒนธรรมอีสาน จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ใต้อัฒจันทร์สนามกีฬาจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ปทุมวัน กรุงเทพฯ :
ติดต่อชมรม
เนื้อหาใน
เว็บบอร์ด
และ
ปลาร้านอกไห
ในเว็บไซต์
www.isan.clubs.chula.ac.th
ใช้
สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกัน 3.0 ประเทศไทย
ห้ามนำเนื้อหาไปใช้เพื่อการค้า การนำไปเผยแพร่ต่อ ต้องอ้างอิงถึงที่มา
<
อ่านเงื่อนไข
>
ผักขี้เหล็ก --- เว็บบอร์ดอีสานจุฬาฯ