ผญา คติสอนใจประจำวันที่ 26 เมษายน 2568:: อ่านผญา 
อันว่าความตายม้างไกลกันเจียระจาก คันบ่ม้มโอฆกว้างสิเทียวพ้ออยู่เลิง แปลว่า แม้ตายพรากจากกัน หากยังหนีไม่พ้นโอฆะกิเลส ก็ยังมีโอกาสได้เกิดพบกันอีก หมายถึง ตราบใดที่ยังไม่สิ้นกิเลสทั้งปวง ย่อมเวียนว่ายตายเกิดไม่จบสิ้น


  ค้นหาสาธุการ กระดานสนทนาชมรมอีสานจุฬาฯ  

หน้า: 1  
  โพสต์โดย   409) วงโปงลางพ่อแล โรงเรียนชัยภูมิภักดีชุมพล  
  panu    คห.ที่859)       [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]  
  ศิษย์ใหม่ไร้วรยุทธ์

ภูมิลำเนา : นครพนม
เข้าร่วม : 17 ก.พ. 2555
รวมโพสต์ : 3
ให้สาธุการ : 0
รับสาธุการ : 5450
รวม: 5450 สาธุการ

 
คุณอ้ายโอ๊ต:
ผมว่าเริ่มตรงที่ความเข้าใจของคนในพื้นถิ่นเองเป็นสำคัญดีกว่าครับ ถ้าแก่นแท้อยู่ที่อ.เรณูนครก็ไม่มีใครมาทำลายได้

อย่างในภาพคือคนที่ฟ้อนและเป็นชาวภูไทและเป็นคนพื้นที่เป็นชาวภูไทเรณูนครเองก็ยังพลาด ทั้งดอกลีลาวดี ทั้งดอกลิลลี่ดอกใหญ่

เพราะที่อื่นหากไม่ใช่ชาวภูไทเรณูนครแล้ว อาจจะมีรายละเอียดที่ต่างก็เพราะไม่ใช่ของแท้ ซึ่งผมว่านั่นไม่ส่งผลต่ออัตลักษณ์ชาวเรณูฯได้ แต่ถ้าหากเป็นชาวเรณูฯแท้ๆก็น่าจะเก็บรายละเอียดได้มากกว่านะครับ

เพราะต่อให้ที่อื่นมีความผิดแผกแตกต่างไป แต่หากว่าเจ้าตำหรับยังรักษาไว้ได้เหนียวแน่นกว่า ก็น่าจะเป็นกำลังที่เข้มแข็งมากพอที่จะเป็นแหล่งอ้างอิงที่สำคัญที่สุดนะครับ

    
อีกอย่างก่อนจะเอารูปคนอื่นมา ขออนุญาตหรือยัง ไม่ใช่ว่าไปก๊อปตามเว็บมานะ เพราะรูปที่ลงรูปที่ 2 ไปขโมยมาแน่นอน

 
 
สาธุการบทความนี้ : 296 ครั้ง
จากสมาชิก : 0 ครั้ง
จากขาจร : 296 ครั้ง
 
 
  17 ก.พ. 2555 เวลา 10:47:11  
   ขึ้นบน ลงล่าง  
 
         

  โพสต์โดย   409) วงโปงลางพ่อแล โรงเรียนชัยภูมิภักดีชุมพล  
  panu    คห.ที่857)       [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]  
  ศิษย์ใหม่ไร้วรยุทธ์

ภูมิลำเนา : นครพนม
เข้าร่วม : 17 ก.พ. 2555
รวมโพสต์ : 3
ให้สาธุการ : 0
รับสาธุการ : 5450
รวม: 5450 สาธุการ

 
คุณอ้ายโอ๊ต:
ผมว่าเริ่มตรงที่ความเข้าใจของคนในพื้นถิ่นเองเป็นสำคัญดีกว่าครับ ถ้าแก่นแท้อยู่ที่อ.เรณูนครก็ไม่มีใครมาทำลายได้

อย่างในภาพคือคนที่ฟ้อนและเป็นชาวภูไทและเป็นคนพื้นที่เป็นชาวภูไทเรณูนครเองก็ยังพลาด ทั้งดอกลีลาวดี ทั้งดอกลิลลี่ดอกใหญ่

เพราะที่อื่นหากไม่ใช่ชาวภูไทเรณูนครแล้ว อาจจะมีรายละเอียดที่ต่างก็เพราะไม่ใช่ของแท้ ซึ่งผมว่านั่นไม่ส่งผลต่ออัตลักษณ์ชาวเรณูฯได้ แต่ถ้าหากเป็นชาวเรณูฯแท้ๆก็น่าจะเก็บรายละเอียดได้มากกว่านะครับ

เพราะต่อให้ที่อื่นมีความผิดแผกแตกต่างไป แต่หากว่าเจ้าตำหรับยังรักษาไว้ได้เหนียวแน่นกว่า ก็น่าจะเป็นกำลังที่เข้มแข็งมากพอที่จะเป็นแหล่งอ้างอิงที่สำคัญที่สุดนะครับ

    

     ถึงคนที่คอมเม้นท์ ทั้งสามคนนี้เป็นคนเรณูนครผมรู้จักทั้งสามคน การที่เค้าจะใช้ดอกไม้อะไรนั้น มันผิดพลาดตรงไหน ไม่ได้มีอะไรที่บัญญัติไว้ว่าให้คนเรณู ภูไทต้องใส่ดอกไม้นั้น ดอกไม้นี้ แล้วจะเป็นคนเรณู เป็น ภูไท เขาเอาความสะดวก มีอะไร ก็ใช้อันนั้น สาเหตุที่แต่ก่อนภูไทเรณุ อาจใช้ดอกไม้แดง ก็คงเพราะหาง่าย กว่าดอกลิลลี่ ที่ไม่ได้มีปลูกไว้แถวบ้านๆ การที่จะเก็บรายละเอียดอะไรนั้น คนที่เขียนมารู้เหรอครับว่ารายละเอียดที่แท้จริงคืออะไร เขาเอาวิถีชิวิตครับ อะไรมี ก็ใช้อันนั้น ถ้าสมัยก่อน มีลิลลี่ ก็คงใช้ไปแล้วครับ อีกอย่างรูปแรกน่าจะเป็นงานสงกรานต์เรณูนคร การที่เค้าใช้ดอกลีลาวดี ก็ไม่เห็นแปลก เพราะช่วงนั้นดอกลีลาวดีมีเยอะ ช่วงสงกรานต์ หาง่าย รูปที่สอง มีงานแห่ที่ แถวๆ ปทุมวัน กรุงเทพ ทั้งสองคนทำงานที่กรุงเทพ ชุดที่ใส่ ทางเรณูนครจัดมาให้ ดอกลิลลี่ที่ใส่ก็ด้วย เพราะสะดวกในการใช้ เป็นดอกไม้ปลอม มีอะไรใช้อันนั้น ที่รู้เพราะแฟนผมเป็นคนถ่ายคนถ่ายรูปนี้ ผมก็อยู่ในเหตุการนั้นด้วย นี่แหล่ะ ผมจึงบอกว่า รายละเอียดไม่จำเป็นเท่ากับวิถีชิวิต ก่อนที่จะเม้นท์ ต้องรู้ที่มาก่อนนะจ๊ะ

 
 
สาธุการบทความนี้ : 249 ครั้ง
จากสมาชิก : 0 ครั้ง
จากขาจร : 249 ครั้ง
 
 
  17 ก.พ. 2555 เวลา 10:31:05  
   ขึ้นบน ลงล่าง  
 
         

  หน้า: 1

   

Creative Commons License
วงโปงลางพ่อแล โรงเรียนชัยภูมิภักดีชุมพล --- เว็บบอร์ดอีสานจุฬาฯ