ผญา คติสอนใจประจำวันที่ 26 เมษายน 2568:: อ่านผญา 
อันว่าเชื้อเห่าห้อมโตใหญ่สารพิษ ไผจักทำเพียรสอนสั่งมันบ่มีได้ แปลว่า งูเห่า มีพิษร้ายแรง แม้คนจะพยายามฝึกหัดสั่งสอน ก็ไม่สามารถทำให้มันเชื่องได้ หมายถึง ไม่พึงเป็นคนดื้อรั้น ว่ายากสอนยาก อกตัญญู


  ค้นหาสาธุการ ปลาร้านอกไห  

หน้า: 1  
  โพสต์โดย   99) หาหน่อไม้ บ้านบ่าวปิ่น กินวอสก้า..  
  วาส    คห.ที่284) ภาพ      [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]  
  ศิษย์น้องเล็ก

ภูมิลำเนา : ลำพูน
เข้าร่วม : 15 ส.ค. 2553
รวมโพสต์ : 15
ให้สาธุการ : 0
รับสาธุการ : 20660
รวม: 20660 สาธุการ

 


คือว่าม่วนแท้ คับ ผมคนลำพูนคับ

 
 
สาธุการบทความนี้ : 379 ครั้ง
จากสมาชิก : 0 ครั้ง
จากขาจร : 379 ครั้ง
 
 
  15 ส.ค. 2553 เวลา 19:38:52  
   ขึ้นบน ลงล่าง  
 
         

  โพสต์โดย   13) วิถีท้องนา ห่มฟ้าท้าตะวัน  
  วาส    คห.ที่685)       [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]  
  ศิษย์น้องเล็ก

ภูมิลำเนา : ลำพูน
เข้าร่วม : 15 ส.ค. 2553
รวมโพสต์ : 15
ให้สาธุการ : 0
รับสาธุการ : 20660
รวม: 20660 สาธุการ

 
คุณบักต๊อก:
คิดพ้อ  ต้มส้มปลากะซิว ใส่ใบบักขามอ่อนแหม่อ้าย

โอ้ยเว่ามาแล้วน้ำลายไหล
ใส่ผักแยงนำแหม๋คับ มันเถิงหอมเถิงแซบคับ

 
 
สาธุการบทความนี้ : 288 ครั้ง
จากสมาชิก : 0 ครั้ง
จากขาจร : 288 ครั้ง
 
 
  28 ส.ค. 2554 เวลา 21:13:45  
   ขึ้นบน ลงล่าง  
 
         

  โพสต์โดย   95) นิยาย กรรมลิขิต  
  วาส    คห.ที่256)       [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]  
  ศิษย์น้องเล็ก

ภูมิลำเนา : ลำพูน
เข้าร่วม : 15 ส.ค. 2553
รวมโพสต์ : 15
ให้สาธุการ : 0
รับสาธุการ : 20660
รวม: 20660 สาธุการ

 
คุณวาส:
คุณรุทธิ์  (อีเกียแดง):
คุณปิ่นลม:

มาอ่านเป็น คนแรก  ถังซอด..
คักหลาย...อ่านแล้ว หมากหัวใจ ลอยไปอยู่กุฏิน้อย...ท่องหนังสือ เจ็ดตำนาน
ไต้ก๊อก..( ตะเกียงน้ำมันก๊าดหัวจุก )  นอนเหมบ ท่องจำ
เซียงรุทธิ์ เขียนได้ดีหลาย


ขอบคุณครับอ้าย
แต่ว่าไต้ตะเกียงท่องหนังสือมาเป็นตาขิวน้ำมันก๊าดฮ้ายเนาะ
คือบ่ไต้เทียนครับ


อยากเว่าผญา เป็นคือเพินแท้น้อ เฮ็ดจะได๋คับ จากคนลำพูน

สงสัยตะเกียงเจ้าพายุคับ คนลำพูน

 
 
สาธุการบทความนี้ : 269 ครั้ง
จากสมาชิก : 0 ครั้ง
จากขาจร : 269 ครั้ง
 
 
  27 ต.ค. 2553 เวลา 21:33:48  
   ขึ้นบน ลงล่าง  
 
         

  โพสต์โดย   95) นิยาย กรรมลิขิต  
  วาส    คห.ที่255)       [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]  
  ศิษย์น้องเล็ก

ภูมิลำเนา : ลำพูน
เข้าร่วม : 15 ส.ค. 2553
รวมโพสต์ : 15
ให้สาธุการ : 0
รับสาธุการ : 20660
รวม: 20660 สาธุการ

 
คุณรุทธิ์  (อีเกียแดง):
คุณปิ่นลม:

มาอ่านเป็น คนแรก  ถังซอด..
คักหลาย...อ่านแล้ว หมากหัวใจ ลอยไปอยู่กุฏิน้อย...ท่องหนังสือ เจ็ดตำนาน
ไต้ก๊อก..( ตะเกียงน้ำมันก๊าดหัวจุก )  นอนเหมบ ท่องจำ
เซียงรุทธิ์ เขียนได้ดีหลาย


ขอบคุณครับอ้าย
แต่ว่าไต้ตะเกียงท่องหนังสือมาเป็นตาขิวน้ำมันก๊าดฮ้ายเนาะ
คือบ่ไต้เทียนครับ


อยากเว่าผญา เป็นคือเพินแท้น้อ เฮ็ดจะได๋คับ จากคนลำพูน

 
 
สาธุการบทความนี้ : 261 ครั้ง
จากสมาชิก : 0 ครั้ง
จากขาจร : 261 ครั้ง
 
 
  27 ต.ค. 2553 เวลา 21:31:27  
   ขึ้นบน ลงล่าง  
 
         

  โพสต์โดย   95) นิยาย กรรมลิขิต  
  วาส    คห.ที่257)       [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]  
  ศิษย์น้องเล็ก

ภูมิลำเนา : ลำพูน
เข้าร่วม : 15 ส.ค. 2553
รวมโพสต์ : 15
ให้สาธุการ : 0
รับสาธุการ : 20660
รวม: 20660 สาธุการ

 
คุณรุทธิ์  (อีเกียแดง):
ไผ่ ขวัญ จักร  3สหายสายเลือดลูกอีสานที่สาบานร่วมทุกข์ร่วมสุข ร่วมเป็นร่วมตายคอยช่วยเหลือซึ่งกันและกัน สัญญาที่จะไม่ทอดทิ้งกัน  ติดตามชีวิตเรื่องราวของพวกเขาว่า แต่ละคนจะเลือกเส้นทางชีวิตของตัวเองดำเนินไปในทิศทางไหน และเส้นทางของชีวิตแต่ละคนจะจบลงอย่างไร
   ช่วยลุ้นช่วยติดตามเชียร์พวกเขาได้ในนวนิยายเรื่องยาว    กรรมลิขิต   ผ่านจินตนาการอันโลดแล่นอีกครั้งกับคนแดนไกลแต่หัวใจคงเดิม

                                               โดย   รุทธิ์  อีเกียแดง


ตัวอย่างบางตอน....

(บทบรรยาย)  ผู้เขียนใช้ภาคภาษาไทยครับ
(บทสนทนา)  ผู้เขียนใช้ภาคภาษาอีสานนะครับ


     " เอ้อ...แล้วพวกมึงสามคนซือจั่งได๋กันแนหล่ะ "  เสียงหลวงพ่อพระครูฯผู้มีอภิญญาเป็นเลิศในแทบทุกด้าน เอ่ยปากถามพร้อมกับจ้องมองไปยังเด็กทั้งสามคนที่กำลังนั่งก้มหน้าสงบเสงี่ยมอยู่ยังเบื้องหน้าของท่าน  

      " ผมซือขวัญครับ... ผู้นี้ซือไผ่ ส่วนถัดไปซือว่าจักรครับ พวกผมเป็นหมู่กันครับหลวงพ่อ "  เด็กชายตัวน้อยที่ชื่อขวัญเอ่ยปากบอกพร้อมกับพนมมือไหว้ แสดงให้เห็นว่าผ่านการอบรมบ่มนิสัยมาพอสมควร

      " เออ...ดีๆ  ซูมื้อนี้มันแฮ่งต๊ะหาเณรน้อยยากอยู่ บวชเข่ามากะดีแล้วหล่ะ สิได้เล่าเฮียนเขียนอ่านไปนำ วัดหลวงพ่อนี่กะเปิดสอนนักธรรมอยู่คือกัน คันตั้งใจเฮียนหลวงพ่อกะสิส่งให่ได้เฮียนจนได้ดิบได้ดีเป็นมหาพุ้นหล่ะ "  ท่านเอ่ยและยิ้มอย่างมีเมตตา  

      " จั่งซั่นกะถือว่าเป็นวาสนาของลูกๆมันหล่ะขอรับหลวงพ่อพระครูฯ กระผมกะหวังว่าพอสิให่พวกมันฮู้จักควมแน  เป็นคนดีต่อไปในข้างหน่าแค่นี้กะดีใจแล้วหล่ะขอรับ "  ทิดจวนพ่อของเจ้าขวัญที่นั่งอยู่ข้างหลังของลูกชายพูดพร้อมกับยิ้มปีติเมื่อได้ยินทางหลวงพ่อพระครูฯท่านบอก  

      " ฉันกะบ่มีปัญญาสิส่งลูกมันเฮียนคือคนอื่นเขาดอกจ้าหลวงพ่อใหญ่ พอดีลูกมันมาขอฉันว่าอยากสิบวชเฮียนเอา กะเลยพากันเห็นดีนำ "  เสียงป้าไหม แม่ของเจ้าไผ่พูดสนับสนุนทิดจวนอีกที  

     " เออ ..เออ..ดีแล้วหล่ะแต่ว่ามันเกิดปีได๋หล่ะสามคนหนิ "  หลวงพ่อพระครูฯเอ่ยถาม  

     " มันเกิดปีมะเมียขอรับ"   .........................


                เตรียมพบเต็มรูปแบบในตอนแรกได้ 13 กันยายน 2553

                        (ขอบพระคุณทุกๆท่านที่ติดตามอีกครั้งครับ)


                                       (รุทธิ์  อีเกียแดง)

              


แต่งเองแม่นก่อคับ ม่วนดีคับ จากคนลำพูน

 
 
สาธุการบทความนี้ : 241 ครั้ง
จากสมาชิก : 0 ครั้ง
จากขาจร : 241 ครั้ง
 
 
  27 ต.ค. 2553 เวลา 21:36:27  
   ขึ้นบน ลงล่าง  
 
         

  โพสต์โดย   74) เรื่องนี่ บ่ทันได้มีซื่อเรื่อง  
  วาส    คห.ที่28)       [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]  
  ศิษย์น้องเล็ก

ภูมิลำเนา : ลำพูน
เข้าร่วม : 15 ส.ค. 2553
รวมโพสต์ : 15
ให้สาธุการ : 0
รับสาธุการ : 20660
รวม: 20660 สาธุการ

 
คุณต้องแล่ง:
ลองเบิ่งเน๊าะ   เพิ่นบอกให้สานแหแปดศอก  จั๊กสิได้แหหือสิได้หวิง

ฝนตกรินอีมะล๊อกจ๊อกแจ๊กปานประปาหมู่บ้านกลางท่งกุลา   ย้อนว่าตกต่อกันมาตั้งแต่มื้อออกใหม่จนสิฮอดมื้อวันศีลน้อย   กะเลยพอมีน้ำมีไนเต็มท่งเต็มท่า   เหลียวไปทางได๋กะเหลี่ยมพาบ ๆ    เสียงสัตว์ยืนต้นทั้งหลายฮ้องเส็งกันกลบเสียงแม่เฒ่าจ่มให้เขยจารย์   ที่คาแต่นอนหม่นผ้าห่มใหม่ที่ซื้อมาตั้งแต่เดือนหกออกใหม่   ในราคาแปดหมื่นทอนบาทเดียวกับทองหนักอีกหกสลึง  
     "ผู้ได๋สิอยากไปน๊อบรรยากาศแบบนี่"   เลาฮ้องเสียงดังใส่แม่เฒ่าในใจ  
     "อีนาง  สูสินอนกินบ้านกินเมียงตี้"        แม่เฒ่าฮ้องขึ้นได้ยินเสียงอีหลี
จารย์ทำท่างัวเงียลุกขึ้นซาวหาแอบยาสูบ   ส่วนลูกสาวหล่านาข่อนโจมสิ่นตุ้มเอิกเข้าไปในครัวซาวหาข่องลอย   หน่อยบ่นานได้ยินเสียงอ้ายจารย์คูของอีหล่าคำแพงสูบลมตะเกียงจ้าวพายุดังอั๊ก ๆ ๆ   บ่ทันดนแสงนวลจ้าปานแสงหลอดหำงัวหน้าฮ้านหมอลำเคนฮุด   สมัยมาลำอยู่วัดตอนจารย์ถืกฮดเทื่อที่สองกะส่องปะทะใบหน้าเจ้าสาวออกใหม่เจ็ดค่ำ    เบิ่งคักแล้วกะว่าแม่นงามกว่าหมอลำบานเย็น ฮากแก่น  นางเอกหมอลำคณะรังสิมันส์    

   เขยน้อยจารย์คูควงเมียออกเดตหาใต้เขียดผ่าฝนริน    ท่ามกลางหมู่ดาวที่แนมเห็นตามช่องของก้อนขี้ฟ้าที่แนมบ่เห็น   แว็บหนึ่งคึดฮอดสมัยบ่ทันได้สิก   ยามมื้อเซ้าออกบินบาตพ้อแม่ออกน้อยมาแต่ไทตั้งแต่แลงวาน  กลับฮอดวัดฮอดยามจังหันกะได้สันต้มอึ่งเพ่าใส่ใบหมากขามอ่อน   กำลังใหย่กกขาอึ่งอยู่ดี ๆ ตาน้อยผั่นแนมไปเห็นแม่ออกน้อยผู่เก่าแนมเอ๊าแนมเอา   บ่คึดบ่ฝันว่ามื้อนี้สิได้พาแม่ออกมาหาใต้อึ่ง    มื้อนี้แห่งแม่นคัก   แนมไปทางได๋กะเห็นแต่อึ่ง  พุ้นกะอึ่งเพ่า   พี้กะอึ่งยาง ทางนั้นกะอึ่งบักแดง  
     "เขียดเสียไปไสเหมิด"  เลาคึดในใจ  
          เขยจารย์ซาวมาจับหูข่องถืกมือน้อย ๆ แต่กะบ่ตื่นยึ๊บ   จับข่องสั่นเบิ่งได้หลายเติบ  
     "เมียเถาะ"  เลาว่า  
          จารย์คูพาเมียดุ่งหน้าเมียเฮือน   พอไปฮอดตีนบ้านตาผัดแนมไปเห็นเขียดจะนาพี่กับน้องคู่หนึ่ง   ขี่หลังกันลอยน้ำมาเฮ็ดตาเหลี่ยมแม๊บ ๆ  
     "สัพเพสัตตา"  เลาบริกรรมในใจ  
          พอเบิ่งไปเบิ่งมา โอ๋  ห่ากินคนเอ้ย  บัดได๋แท้บ่แม่นพี่กับน้อง  
     "จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด"   เลาบริกรรมต่อ  
          มื้อหนึ่งจูงแขนเมียย่างลุยน้ำขี้ตมโพ่ไวปานนำหางัวเสีย    

ย่างฮอดเดิ่นบ้านเห็นแม่เฒ่านั่งเคี่ยวหมากมือหนึ่งเลือกบี้โตสิเอาไว้เฮ็ดแนว   จารย์คูมอดตะเกียงเจ้าพายุแล้วเอาไปแขนไว้หม่องเก่า  แล้วย่างหนีไปหาล้างตีนเปื้อนขี้ตมโพ่
        “ จั๊กสิฟ้าวไปหยัง   ไปไวมาไวโพดด๊อกก ... “   แม่เฒ่าจ่มให้บี้ฟัง
        “ กะจับข่องสั่นเบิ่งแน่เปี่ยง  คุณอีแม่ใหญ่สี ”  ลูกสาวหล่าเว้าใส่แม่  หัวผั่นดุดไปนอนตักแม่ปานเด็กน้อยเซานมใหม่
        “ มีลูกมีผัวแล้วอย่ามาหาเฮ็ดคือเด็กน้อย ไปหาเสี่ยผ้าให้จารย์เปลี่ยนพุ้น ”  ผู้เป็นแม่บอกลูกสาวหล่า  
        “ เบิ่งตี้นี่  ขี่ตมโพ่กะบ่ทันได้ล้างออก   ไป๊”  ผู้เป็นแม่ไล่ตื่ม   บ่ทันดนลูกสาวลุกปึ่งตึ่งขึ้น  ว่าแม่นสิไปล้างขี้ตมออกจากขา   มือหนึ่งซาวไปจับบี้น้อยโตหนึ่งขึ้นจากด้ง   ผั่นมีบี้โตใหญ่โตหนึ่งติดขึ้นมานำ  ลูกสาวหล่ายกขึ้นมาซอมเบิ่งตาแป๋วปานเด็กน้อยไปทัศนศึกษาสวนสัตว์   เห็นบี้สองโตหันดากจ้ำกันกะเลยเอามือดึงให้มันหลุดออกจากกัน
        “ เปี๊ยะ...”  ผู้เป็นแม่เอามือฟาดใส่ขาอ่อนลูกสาว
        “บ่แม่นแนว ..หนี ”  เลาว่า   ลูกสาวหล่าย่างไปฮ้านแอ่งน้ำ  ฮื้อสิ่นขึ้นจำกกขาเอาขันตักน้ำเทล้างขาเสียงดังโจ๊ก ๆ  ทางปากกะลำกลอนงิ้วต่องต้อนของเอื้อยบานเย็น ฮากแก่น  
        “ งิ๊วต่องต้นเขนอยู่แป๋ปาย ... งิ๊วต่องต้อน ... ”   เสียงลำดังเส็งกับเสียงไก่ขันกก
        “ยามกลางค่ำกลางคืนอย่าไปหาร้องหาลำ   มันคะลำ ”  แม่สอนลูกสาว
        “เอ๋า  บาดแม่ใหญ่นกน้อยคือลำตะยามกลางคืน ”  ลูกสาวหล่าว่าคืน  ผู้เป็นแม่เกือบสะมักคำหมาก
        “ อีแม่   มื้อวานนี้ข่อยเกียม้อนไห้เจ้าด้งหนึ่ง ยามมื้อแลงมาเปิดเบิ่งกะเหลียคือเก่า  ม้อนตกขะมะคนผู้ดีเลยกินหยังบ่ลงซะได๋บุ ”  ลูกสาวเว้ามาตั้งแต่ฮ้านแอ่งน้ำ
        “ เลี้ยงม่อนบ่ทันได้ฮู้โตลุกโตนอนน๊อ ... ”    แม่ใหญ่สีเว้าสู่บี้โตที่หลุดออกจากกันฟัง
เสียงไก่ขันฮ้องจั้นดังจ้อเข่ามากั่วเก่า   ลูกสาวหล่าเทอึ่งโฮมกันไว้โอ่งน้อยแล้วเอาเขียงปิดปากโอ่งไว้ แล้วย่างมาหาแม่   นั่งลงข้างแม่ดากบ่ทันได้อุ่นกะมีเสียงหนึ่งดังเอิ้นมาตะในเฮือน
         “ นาง...  แอบยาข่อยอยู่ไส ”    เสียงนี้คนคุ้นเหมิดบ้าน  โดยสะเพาะมัคทายก
         “ บ่เห็นละเน๊าะ   บ่ได้สูบนำ ”   ผู้เป็นเมียตอบลอดป่องแป้นขึ้นไป
         “ มาหาให้ข่อยดู๊ ”  จารย์เร่งรัด
         “ เซาสูบแน่กะดีดอก ถือซะว่าเข้าพรรษา ”  ผู้บ่เคยเข้าพรรษาบอกคนซาวพรรษา
         “ไว ๆ ”  ญาคูเก่าเร่งรัด   คันแม่นจัวน้อยถืกแส่แต่ดนแล้ว
         “หื่อ  ข่อยเก็บม้อนซ่อยอีแม่อยู่  อยากสูบกะหาเอาเอง”  ลูกสาวแม่ใหญ่สีเว้ากับม้อนสุก  เบิ่งท่าทางแล้วคือสิปกคองยากกั่วจัวน้อย
         “ มาหาจักคาวก่อน ”  วิริยะคือความเพียร  จารย์จำได้
         “ มื้ออื่นเซ้าเยี่ยวออกกะส่วงดอก จารย์เอ๊ย  ”   ควมเพียรของจารย์บ่เป็นผลย้อนเสียงนี่หล่ะ ส่วนลูกสาวหล่านาข่อนนั่งอมอิ้มเก็บม้อนสุกใส่จ่อเส๊ยย  ส่วนผู้อยู่เทิงเฮือนกะเกิดริษยาเขียดจะนาพี่กับน้องคู่นั้นขึ้นมาฮ่อม ๆ  บ่ทันพอคาวถืกกลิ่นยาสูบใบตองก้วยลอยมาหิ่น ๆ    


ก๊ากกก   หืยยยย อิฉาฮอดเขียดอิจานา  อานเอ้ย
ต่อเลยคับ

 
 
สาธุการบทความนี้ : 196 ครั้ง
จากสมาชิก : 0 ครั้ง
จากขาจร : 196 ครั้ง
 
 
  16 ส.ค. 2553 เวลา 20:00:48  
   ขึ้นบน ลงล่าง  
 
         

  โพสต์โดย   81) เรื่องเก่าเก่า ที่เฮาประทับใจ  
  วาส    คห.ที่234)       [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]  
  ศิษย์น้องเล็ก

ภูมิลำเนา : ลำพูน
เข้าร่วม : 15 ส.ค. 2553
รวมโพสต์ : 15
ให้สาธุการ : 0
รับสาธุการ : 20660
รวม: 20660 สาธุการ

 
คุณป้าหน่อย:
เรื่องเก่า พู้นน่ะ เว้าคือจั่งดนนานหลายเนาะ
ความแต่ล่ะคน พวมกะเป็นบ่าวแวง
แต่กะคือว่าฮั่นล่ะ เก่ามีหลายเก่า
เรื่องมื่อวานกะเป็นเรื่องเก่าถ้านับรวมกันนำมื้อนี้
เก่าบ่อหลายปี กะมี สิบปีคืนหลังกะมี
ไว้สิเรียบเรียงมาเว้าสู่ฟัง ซ้าแหน่ย้อนเขียนบ่อค่อยเป็น
เหล่าเรื่องได๋ ส่วนใหญ่สิเข้าใจผู้เดียว แต่ผู้เว้านี่ล่ะ
กะเลยต้องทบทวนนานจั๊กหน่อย
แนวได๋กะตามแต่ มื้อหน้าสิมาเว้าสู่ฟัง ล่ะกัน    


เว้าไห่ฟังแหน ผมเกิดทีหลัง บ่มีคำสิเว้าดอกอิอิ

 
 
สาธุการบทความนี้ : 194 ครั้ง
จากสมาชิก : 0 ครั้ง
จากขาจร : 194 ครั้ง
 
 
  16 ส.ค. 2553 เวลา 19:40:48  
   ขึ้นบน ลงล่าง  
 
         

  หน้า: 1

   

Creative Commons License
เรื่องเก่าเก่า ที่เฮาประทับใจ --- เว็บบอร์ดอีสานจุฬาฯ