ผญา คติสอนใจประจำวันที่ 26 เมษายน 2568:: อ่านผญา 
เชื้อหมากต้องบ่ห่อนหล่นไกลกก แนวผมดกบ่ห่อนเป็นหัวล้าน แปลว่า ลูกกระท้อน ย่อมหล่นไม่ไกลต้น เชื้อสายคนผมดก หัวย่อมไม่ล้าน หมายถึง ผู้นำ ประพฤติตนเช่นใด ผู้ตาม มักจะประพฤติตนเช่นนั้น ผู้นำ พึงประพฤติตนเป็นตัวอย่างที่ดี


  ค้นหาสาธุการ กระดานสนทนาชมรมอีสานจุฬาฯ  

หน้า: 1  
  โพสต์โดย   564) เซไล เมืองเก่าของชาวไทเลย  
  เด็กเลยก๋อ    คห.ที่37) ตอบข้อคิดเห็น      [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]  
  ศิษย์น้องเล็ก

ภูมิลำเนา : เลย
เข้าร่วม : 05 มิ.ย. 2552
รวมโพสต์ : 25
ให้สาธุการ : 20
รับสาธุการ : 56290
รวม: 56310 สาธุการ

 
คุณโหวดฟ้า:
การแสดงชุด ฟ้อนเมืองเลยศรีนาฎนย
หมายถึงการ การที่หญิงสาวชาวเลยออกมาร่ายรำในลีลาที่อ่อนช้อยสวยงามและชี้ให้เห็นเอกลักษณ์ วัฒนธรม ประเพณี และสถานที่ท่องเที่ยวของชาวจังหวัดเลย

ใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใ

ไม่ชัดเจนครับว่าฟ้อน  เพื่ออะไร

............................................

ที่จริงแล้วนั้น การคอมเม้นในส่วนนี้ ผมต้องการที่จะบอกว่า ฟ้อนเมืองเลยศรีนาฎนย กับคอนเซบที่ว่า หมายถึงการ การที่หญิงสาวชาวเลยออกมาร่ายรำในลีลาที่อ่อนช้อยสวยงามและชี้ให้เห็นเอกลักษณ์ วัฒนธรม ประเพณี และสถานที่ท่องเที่ยวของชาวจังหวัดเลยนัน มันไม่เกี่ยวข้องกันเลยกับชื่อที่ตั้ง

เมืองเลย คือ จังหวัดเลย
ศรี คือดี งาม
นาฏนย คือการฟ้อนรำ

มันสัมพันธ์กันกับคอนเซบตรงไหน กับ เอกลัษณ์วัฒนธรรม สถานที่ท่องเที่ยว ดังว่า


ตัวอย่างเช่น ฟ้อนนารีศรีอีสาน ที่มีความหมายถึง ความงามของผู้หญิงอีสาน

การตั้งชื่อนั้น ไม่ใช่เน้นอลังการอย่างเดียว ต้องสื่อความหมายให้ได้ด้วย (แนะนำ)


..........................................................................

เหตุที่ไม่มีตีนซิ่นเนื่องจากผ้าลายโบราณของจังหวัดเลย เช่นลายน้ำเซ ลายมุกขิด รายมุกราชวัตร ไม่มีตีนซิ่น


ในสารระบบของซิ่นอีสานนั้น ซิ่นต้องมีตีน ครับ
ถ้าทอแล้วเป็นซิ่นลายเดียว คือ มีลวดลายแบบเดียวกันซ้ำๆนั้น ซึ่นต้องมีตีนอย่างแน่นอน เพราะเขาจะนำตีนซิ่นที่ทำอีกลวดลายหนึ่งนั้นมาต่อในภายหลัง เขาจึงเรียกว่าเป็น ซิ่นตีนต่อ

อีกแบบ คือพวกซิ่นที่มีลายของตีนซิ่นอยู่แล้ว เอิ้น ซิ่นตีนใน หรือซิ่นตีนแดง พวกนี้ไม่ต้องต่อตีน

และในวัฒนธรรมอีสานนั้น ซึ่นต้องมีตีนซิ่น มีหัว ทุกลาย
ๆม่เช่นนั้น เขาก็จะบอกว่า สาวบ้านนั้น ใช้ไม่ได้ และขะลำมากในวัฒนธรรมอีสานสำหรับเรื่องตีนซิ่นนี้

จนเพิ่นว่า ตีนผมให้ลำเกี้ยง ตีนซิ่นให้ลำเพียง



.............................................................


คนเลยเป็นคนลาวแน่นอนครับ ประวัตศาสตร์อีสานและประวัติศาสตร์ลาวนั้นก็กล่าวตรงกันว่า พวกโยนกนาคนคร ได้อพยพลงมาจากอาณาจักรโยนกล้านนา มาอาศัยอยู่ในบริเวณริมนำเซเลย และต่อมาก็กลายมาเป็นเมืองร้าง

คนลาวได้อพยพเข้ามาอีกครังในตอนต้นรัตนโกสินทร์ และได้ตั้งบ้านเมืองขึ่น จนเอ้นเป็น เมืองเลยดังปัจจุบัน คนเลยปัจจุบันนั้นจึงเป็นคนลาวเวียงแท้ๆ ไม่ใช่อีสานล้านนาดังกล่าว
และสำเนียงคนเลยนั้น ก็สำเนียงเดียวกันกับคนลาวเวียง ภาคเหนือจังหวัดไหนก็ไม่พูดสำเนียงนี้หรอกครับ


ผมคาดว่า อาจารย์น่าที่จะไปค้นเอกสารมาจาก พงศาวดารโยนกครับ (ถ้าผิดก็ขออภัย) ซึ่งประวัติก็ได้กล่าวไว้ถึงการตั้งเมืองที่เลยจริง แต่คนกลุ่มนั้น ไม่ใช่คนลยที่อาศัยอยู่ในปัจจุบันนี้

ต้องถามว่า อยากให้บรรพบุรุษของตนนั้นเป็นคนกลุ่มไหน ใชมุมมองอย่างไรถึงตัดสินใจเช่นนั้น หรืออาจเลือกประวัติศาสตร์ในช่วงหนึ่งช่วงใดมาก็อาจเป็นได้
แต่ควรดูที่ความถูกต้องเหมาะสม และความเป็นรากเหง้าที่เป็นแก่นแท้โบราณอย่างแท้จริงนั้นมาเป็นแนวทาง

ด้วยความปราถนาดี

    *ผมคาดว่า อาจารย์น่าที่จะไปค้นเอกสารมาจาก พงศาวดารโยนกครับ (ถ้าผิดก็ขออภัย) ซึ่งประวัติก็ได้กล่าวไว้ถึงการตั้งเมืองที่เลยจริง แต่คนกลุ่มนั้น ไม่ใช่คนลยที่อาศัยอยู่ในปัจจุบันนี้
*-*-จริงอยุ่ที่ชาวโยนกไม่ไช่คนเลยในปัจจุบัน ประวัติผมค้นมาจากสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดเลย ซึ่งมีหน้าที่ทางด้านนี้โดยตรง ซึ่งอาณาจักรเซไลก้อล่มสลายไปนานแล้ว ส่วนคนในปัจจุบันนั้นผมไม่เถียงครับว่ามาจากลาว โดยเฉพาะหลวงพระบางสังเกตุจากสำเนียงการพูด
*******************************
*การตั้งชื่อนั้น ไม่ใช่เน้นอลังการอย่างเดียว ต้องสื่อความหมายให้ได้ด้วย (แนะนำ)

ส่วนการแสดงชุดเมืองเลยศรีนาฏย นั้นมีความหมายดังนี้
เมืองเลย หมายถึง  จังหวัดเลย
คำว่า ศรี หมายถึง หญิงสาว
นาฏย หมายถึง การฟ้อนรำ
ดังนั้น จึงมีความหมายโดยรวมว่า หญิงสาวชาวจังหวัดเลยมาร่วมฟ้อนรำเพื่อเชิญชวนให้ทุกท่านมาเที่ยวและชื่นชมความงามของจังหวัดเลย ตามคำร้องดังกล่าว

 
 
สาธุการบทความนี้ : 570 ครั้ง
จากสมาชิก : 0 ครั้ง
จากขาจร : 570 ครั้ง
 
 
  27 มิ.ย. 2552 เวลา 23:48:57  
   ขึ้นบน ลงล่าง  
 
         

  โพสต์โดย   551) วงโปงลางเลยพิทยาคม โรงเรียนเลยพิทยาคม อำเภอเมือง จังหวัดเลย  
  เด็กเลยก๋อ    คห.ที่352)       [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]  
  ศิษย์น้องเล็ก

ภูมิลำเนา : เลย
เข้าร่วม : 05 มิ.ย. 2552
รวมโพสต์ : 25
ให้สาธุการ : 20
รับสาธุการ : 56290
รวม: 56310 สาธุการ

 
คุณวิจิตรแพรวา:
คห.ที่12)        

อีกหนึ่งชุด ชื่อว่าเซไลณคเรศ
เป็นการนำเอาประวัติเมืองเซไลซึ่งเป็นเมืองเก่าของจังหวัดเลยมาประดิษฐ์เป็นการแสดงโดยหยิบยกเอาตอนที่หญิงสาวชาวเมืองเซไลที่อพยพมาจากอนาจักรโยนกเชียงแสนมาตั้งรกรากที่บริเวณลุ่มแม่น้ำเซไลหรือแม่น้ำเลย หญิงสาวต่างดีใจและร่ายรำเฉลิมฉลองเมืองใหม่ ซึ่งการแสดงชุดนี้จะมีกลิ่นอายความเป็นเหนืออยุ่มากพอสมควรทั้งการแต่งกายและท่าร่ายรำ ดนตรีก้อมีกลิ่นอายความเป้นเหนืออยุ่เล้กน้อย  

   นี่ขอติงหน่อยนะครับ เมืองเซไลอพยพมาเมื่อ (ราวๆ สมัยกรุงสุโขทัย) คนดั้งเดิมเป็นคนอพยพมาจากเมืองหลวงพระบาง (ประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว) มาตั้งหลักแหล่งอยู่ในหมู่บ้านนี้  และมาตั้งเมืองใน พ.ศ.ใดไม่ปรากฏ  เดิมชื่อว่าเมืองเซไลหรือเซเลยเจ้าเมืองคนแรกชื่อว่า เจ้าฟ้าฮ่มขาว หรือเจ้าฟ้าฮ่มขาว  หรือเจ้าฟ้าร่มขาว  เป็นพระราชโอรสของเจ้าเมืองหลวงพระบาง  หรือกรุงศรีสัตนาคนหุต  มีราชโอรสทรงพระนามว่า  ท้าวหล้าน้ำ เมื่อเจ้าฟ้าร่มขาวสิ้นพระชนม์ลง  ท้าวหล้าน้ำราชโอรสขึ้นครองเมืองแทน  เมืองเซไลนี้ครั้งแรกขึ้นต่อเมืองหลวงพระบาง ต่อมาถูกจีนฮ่อยกกองทัพมาโจมตี  ชาวเมืองสู้ไม่ได้จึงแตกฉานช่างเซ็นไปอยู่ในที่ต่าง ๆ โดยมากอพยพไปอยู่เมืองราด เมืองหล่ม ในเขตจังหวัดเพชรบูรณ์) พวกจีนฮ่อนี้มีจิตใจเหี้ยมโหดมาก  พบใครไม่ได้ต้องฆ่าให้หมดไม่ว่าเด็กหรือผู้ใหญ่  ในคราวที่จีนฮ่อยกกองทัพมาตีเมืองเซไล มีเรื่องเล่าว่า  หญิงคนหนึ่งมีครรภ์แก่มาก  ไม่สามารถหนีจีนฮ่อได้ทัน  จึงวิ่งหนีเข้าไปในวัดและไปกอดคอพระพุทธรูปเอาไว้  เพื่อเป็นเกาะป้องกันไม่ให้จีนฮ่อฆ่า (โบราณถือว่าพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์)  อ้อนวอนร้องขอชีวิตจากจีนฮ่อ  จีนฮ่อก็ไม่ยอม  ใช้ดาบฟันคอขาด (วัดดังกล่าวนั้นชื่อว่าวัดเทิง คำว่า เทิง  เป็นภาษาท้องถิ่น  แปลว่า  บน  เพราะฉะนั้นวัดเทิงก็คือ วัดบนนั้นเอง)  ปัจจุบันพระพุทธรูปยังมีอยู่แต่ปรักหักพังมากแล้ว  เพราะไม่มีคนบูรณะซ่อมแซม  ชื่อวัดและที่ตั้งวัดในโบราณยังมีเหลืออยู่
    หลายปีต่อมา  เมืองนี้ก็กลายเป็นเมืองเล็กๆ มีขนาดเท่าหมู่บ้านนั้น  เพราะผู้คนอพยพไปอยู่ที่อื่นบ้าง (โดยมากอพยพไปอยู่เมืองราด เมืองหล่ม)  และล่มตายเพราะถูกจีนฮ่อฆ่าบ้าง  ชื่อเมืองเซไลก็เลยหายสาบสูญไปตั้งแต่ครั้งกระโน้น  ต่อมาเมืองนี้มีชื่อว่า  เมืองใช้ข่าว หรือส่งข่าว  ขึ้นต่อเมืองหล่ม (ช่วงนี้ คำว่าเมืองราดหายสาบสูญไป) เป็นเมืองส่งข่าวระหว่าง
เมืองหลวงพระบาง กับเมืองหล่ม  ถ้าหากมีข่าวสารอะไร  จากเมืองหลวงพระบางหรือเมืองหล่ม  จะมาส่งไว้ที่นี่ หัวหน้าของชาวเมืองก็จะให้ชาวเมืองใช้ข่าวนำส่งข่าวสารไปยังเมืองหลวงพระบางหรือเมืองหล่มต่อไป  พอถึงสิ้นปี เจ้าเมืองหล่ม จะมาเยี่ยม พร้อมกับเก็บส่วยจากชาวบ้านคือผ้าขาวเรือนละผืน (สถานที่ที่พักของเจ้าเมือง  ยังมีสถานที่อยู่ เรียกว่าเหล่าศาลา  ได้ปลูกศาลาโรงใหญ่เอาไว้  กลางคืนมีมหรสพคบงัน) ต่อมาเมืองใช้ข่าว เพี้ยนมาเป็น ชัยขาว  จากชัยขาว เพี้ยนมาเป็นทรายขาว  และเป็นหมู่บ้านทรายขาว จนกระทั่งปัจจุ


นี่จะถูกกว่านะครับ การแต่งตัวน่าจะออกทางลาวหลวงพระบางมากกว่านะครับ ไม่ใช่ออกเหนือครับ  ผมว่าการที่คิดท่ารำหรือเพลงอยากให้พิจารณา และค้นหาข้อมูลให้ชัดเจนก่อนที่จะทำนะครับ

    >>ผมขอพูดตรงนี้หน่อยนะครับ เพราะว่าผมเป็นคนคิดชุดการแสดงชุดนี้ขึ้น เนื่องจากว่าพงศาวดารเกี่ยวกับจังหวัดเลยมีหลายทาง มีทั้งพงศาวดารโยนก พงศาวดารลาว ซึ่งผมก้ออ่านมาหมดแล้ว แต่เท่าที่พิจารณาดูนะครับ ทางสภาวัฒนธรรมจังหวัดเลยจะอ้างอิงประวัติจังหวัดเลยมาจากพงศาวดารโยนก ซึ่งได้เดินทางจากอาณาจักรโยนกเชียงแสน มาก่อตั้งเป็นหมู่บ้านทางฝั่งซ้ายของแม่น้ำเลย เพราะฉนั้นแล้วผมจึงหยิบเอาประเด็นนี้มาใช้ ดังนั้นคนที่อพยพมาใหม่นั้นควรที่จะต้องแต่งกายอย่างไร ผมจึงได้อ้างอิงการแต่งกายบางอย่างมาจากระบำเชียงแสน เช่น การไส่เสื้อบางๆทับการสวมเกาะอก เหตุที่เลือกเกาะสีเขียวเนื่องจากมันแสดงถึงความอุดมสมบูรณ์ของจังหวัด ผ้าถุงที่ใช้ก้อใช้เส้นสีทองล้อลายผ้าทางผ้าเหนือและการต่อหัวผ้าถุงเป็นสีขาว เป็นต้น ในส่วนของด้านดนตรี ผมคิดว่าการที่มีผู้อพยพมาใหม่ยังไม่เกิดการกลายวัฒธรรมในช่วงแรกๆดังนั้น ดนตรีจึงมีกลิ่นอายความเป็นเหนืออยู่บ้าง รวมถึงท่ารำในบางส่วน แต่อย่างไรแล้วชาวเซไลก้อไม่ได้ถือว่าเป็นกลุ่มชนที่เป็นต้นกำเนิดของชาวจังหวัดเลยแต่อย่างใด แต่ผมเห็นว่าเป็นกลุ่มชนที่มีในประวัติศาสตร์และมีความน่าสนใจจึงได้หยิบยกมาทำชุดการแสดง กลุ่มชนที่ถือว่าเป็นต้นกำเนิดของชาวจังหวัดเลยคือ คนหลวงพระบางอย่างแน่นอนประเด็นนี้ผมไม่โต้เถียง จะสังเกตุได้จากสำเนียงภาษาที่ใช้ ดกังนั้นการแสดงชุด "เซไลนคเรศ" จึงออกมาเป็นชุดการแสดงด้วยเหตุผลดังกล่าวข้างต้น ขอบคุณนะครับสำหรับการติชม ชุดการแสดงก้อทำออกมาแล้ว การจะติชมประการใดนั้นเป็นเรื่องของปัจเจกบุคคลแต่ขอความกรุณาว่า "พิจารณาความหมายของคำว่า วิจารณ์ด้วยครับ" การวิจารณ์ หมายถึง การพูดในเชิงสร้างสรรค์ไม่พูดในเชิงทัศนคติส่วนบุคคล ขอบคุณครับ

 
 
สาธุการบทความนี้ : 435 ครั้ง
จากสมาชิก : 0 ครั้ง
จากขาจร : 435 ครั้ง
 
 
  11 มี.ค. 2553 เวลา 08:03:19  
   ขึ้นบน ลงล่าง  
 
         

  โพสต์โดย   564) เซไล เมืองเก่าของชาวไทเลย  
  เด็กเลยก๋อ    คห.ที่34) แนวความคิดในการประดิษฐ์ท่ารำ      [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]  
  ศิษย์น้องเล็ก

ภูมิลำเนา : เลย
เข้าร่วม : 05 มิ.ย. 2552
รวมโพสต์ : 25
ให้สาธุการ : 20
รับสาธุการ : 56290
รวม: 56310 สาธุการ

 
คุณโหวดฟ้า:
การแสดงชุด ฟ้อนเมืองเลยศรีนาฎนย
หมายถึงการ การที่หญิงสาวชาวเลยออกมาร่ายรำในลีลาที่อ่อนช้อยสวยงามและชี้ให้เห็นเอกลักษณ์ วัฒนธรม ประเพณี และสถานที่ท่องเที่ยวของชาวจังหวัดเลย

ใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใ

ไม่ชัดเจนครับว่าฟ้อน  เพื่ออะไร


เสื้อสีเหลืองทอด้วยผ้าฝ้ายทอมือโดยกลุ่มสตรีทอผ้าบ้านก้างปลา โดยนำแบบมาจากเสื้อของชาวลาว เพราะจังหวัดเลยสืบเชื้อสายมาจากอนาจักรโยนกและหลวงพระบาง


ใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใ


จริงอยู่คนเลยไม่ไช่คนเหนือ แต่ตามประวัติศาสตร์คนจังหวัดเลยสืบเชื้อสายมาจากทางเหนือ เพราะเหตุนี้ท่ารำ การแต่งกาย จึงมีความคล้ายคลึงอยู่บางส่วน ด้วยเหตุผลดังกล่าวข้างต้นจึงเป็นที่มาของชุดการแสดง โดยเฉพาะฟ้อนเซไล


เท่าที่ดูชุดนะครับ น่าจะเป็นอีสานซะมากกว่าลาวหรือโยนกนะครับ

เหตุที่ไม่มีตีนซิ่นเนื่องจากผ้าลายโบราณของจังหวัดเลย เช่นลายน้ำเซ ลายมุกขิด รายมุกราชวัตร ไม่มีตีนซิ่น

ใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใ

ผ้าซิ่นที่ไม่มีตีนไม่มีหัวหรือชายซิ่นนั้น ไม่น่าที่จะมีอยู่ในวัฒนธรรมของ ลาว ล้านนา หรืออีสานนะครับ เนื่องจากถือว่า ตำ่บ่แล้ว นะครับ โบราณถือว่า ผิดจารีตอย่างแรง
ผมเกรงว่า เมื่อเวลานำไปประกวดหรือนำไปแสดงต่อหน้าท่านผู้ที่รู้และรักในวัฒนธรรมที่งหลายนั้น การแสดงชุดนี้อาจถูกติติงได้ง่ายในเรืองตีนซิ่นนี้นะครับ

สมควรแก้ไข เพราะเท่าที่รู้ ซิ่นของเลยนั้นก็มีตีนครับ

สีเหลืองและม่วแบบนี้นั้น ตัดกันดีแล้วครับ แต่การติดดอกกล้วยไม้นั้น ควรลดปริมาณการติดลงอีกนิด จะไม่รกมากนะครับ


ธนิมพิมพาภรณ์ เนี่ย แปลว่า อะไรเหรอครับ เพราะในพจนานุกรมนั้น ไม่มีคำนี้อยู่

ใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใ



ท่ารำ ประดิษฐ์และเรียบเรียงโดยคุณครูอสวดี วิเศษสัตย์ ครูชำนาญการพิเศษโรงเรียนเลยพิทยาคม
โดยการนำเอาท่ารำแม่บทอีสาน


ใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใ

ตกลงว่า เป็นโยนก เป็นลาว หรือเป็นอีสานกันแน่ครับ

ผมว่า ฟ้อนชุดนี้นั้น มีข้อที่สมควรปรับปรุงดังนี้ครับ

1 หาเอกลักษณ์ของชุดฟ้อนให้เจอครับ แล้วจะได้ท่า และดนตรีที่มีความสัมพันธ์กัน

2 หาเอกลักษณ์ในด้านวัฒนธรรมของจังหวัดเลยให้ได้ครับ เพราะไม่เช่นนั้น เลยจะกลายเปฌนจังหวัดที่ไม่มีวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์และแบบแผนของตนเองเลย

3 การสืบค้นประวัติของชาวเลย พบว่า ตามพงศาวดารโยนกนั้นบอกว่า ชาวเลยนั้นเป็นชนที่อพยพเข้ามาในยุคสมัยสุโขทัย และกลุ่มชนกลุ่มนี้ก็ได้อพยพออกไปจนกลายเป็นเมืองร้างมาครั้งหนึ่งแล้ว ซึ่งอาจจะเกิดขึ้นเพราะโรคภัยและไข้ป่าที่ชุกชุมก็เป็นได้
หากแต่ ชาวเลย ที่พูดเหน่อ่สำเนียงเลยกันอยู่ในขณะนี้นั้น แท้จริงแล้ว ก็คือคนลาวหลวงพระบางครับ
จึงอยากให้มีการนำองค์วัฒนธรรมที่คล้ายคลึงกันนี้ มาเป็นแนวทางในการประดิษฐ์ชุดฟ้อนต่างๆ ครับ ความหมายของผมก็คือ คนเลย ไม่ใช่คนเหนือครับ


ขอให้ตั้งใจนะครับ วัฒนธรรมจะได้ไม่เพี้ยน (ผมคิดว่านะ)
จะเป็นกำลังใจให้

 
 
สาธุการบทความนี้ : 298 ครั้ง
จากสมาชิก : 0 ครั้ง
จากขาจร : 298 ครั้ง
 
 
  14 มิ.ย. 2552 เวลา 16:30:52  
   ขึ้นบน ลงล่าง  
 
         

  โพสต์โดย   551) วงโปงลางเลยพิทยาคม โรงเรียนเลยพิทยาคม อำเภอเมือง จังหวัดเลย  
  เด็กเลยก๋อ    คห.ที่220)       [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]  
  ศิษย์น้องเล็ก

ภูมิลำเนา : เลย
เข้าร่วม : 05 มิ.ย. 2552
รวมโพสต์ : 25
ให้สาธุการ : 20
รับสาธุการ : 56290
รวม: 56310 สาธุการ

 
จะได้ที่เท่าไหร่ก้อไม่มีผลอย่างไรกับการทำงานของเรา...เรายังก้าวเดินไปอย่างมั้นคงเพื่อสร้างสรรค์ผลงานต่อไน...พวกเรามหาพิษณุพงษ์โปงลาง

 
 
สาธุการบทความนี้ : 277 ครั้ง
จากสมาชิก : 0 ครั้ง
จากขาจร : 277 ครั้ง
 
 
  12 ม.ค. 2553 เวลา 01:17:46  
   ขึ้นบน ลงล่าง  
 
         

  โพสต์โดย   564) เซไล เมืองเก่าของชาวไทเลย  
  เด็กเลยก๋อ    คห.ที่33) เพลงเซไล      [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]  
  ศิษย์น้องเล็ก

ภูมิลำเนา : เลย
เข้าร่วม : 05 มิ.ย. 2552
รวมโพสต์ : 25
ให้สาธุการ : 20
รับสาธุการ : 56290
รวม: 56310 สาธุการ

 
คุณโหวดฟ้า:
เห็นด้วยกับมังกรเดียวดายครับ

นคร หมายถึงเมืองอยู่แล้วครับ
นคเรศ น่าจะหมายถึง เมือง หรือนครของพระอิศวรมากกว่าครับ ซึ่งอาจอนุมานได้ว่าเป็น นครแห่งสวรรค์ก็เป็นได้
แต่น่าจะเป็น เซไลนคร ครับ (แนะนำ)  เพราะจะตรงจุดที่สุด ซึ่งจะหมายถึง      มหานครแห่งลำนำ้เลย ครับ

ดนตรีนั้น เท่าที่ฟัง ควรที่จะปรับปรุงครับ
ท่อนแรก มาจากระบำนาคี ของจังหวัดหนองคายครับ ชัดเจน
ท่อนหลังๆ น่าจะมาจาก เอ้ดอกคูณครับ
ซึ่งขอบอกว่า การต่อดนตรีนั้น ไม่ถูกต้องตามหลักการของการแต่งลายเพลงพื้นบ้านอีสานครับ
เพราะ ดนตรีอีสานนั้น มีลักษณะของทั่วงทำนองอยู่สามแบบ คือ

แบบการพูดคุยกัน เป็นท่อนต่อท่อน (ไม่ขอเอ่ยเป็นศัพท์วิชาการครับ) เช่น ลายนกไซร เป็นต้น

แบบการไล่ระดับขั้นบันไดของโนต

แบบการด้นทำนอง


ซึ่ง ข้อบังคับหรือตัวบทกลอนของโนตอีสานนั้น จะเป็นแบบ การแต่งโคลงอีสานครับ เช่น วิชชุมาลีดั้น หรือมหาสินธุมาลี เป็นต้น

พูดง่ายๆก็คือ ลายเพลงนี้จัดอยู่ในกลอนประเภท กลอนดั้น ที่โนตนั้น ไม่สัมพันธุ์กันครับ
หลักง่ายๆ เช่น ขึ้น มี ต้องลง ลา ชึ้น เร  ต้องลง ซอล หรือขึ้น ลา ต้องลง โด
เป็นต้น นี่คือปัญหาอย่างหนึ่งของการแต่งโนตเพลงอีสานครับ


ส่วนการฟ้อนนั้น ได้รวบรวมท่าฟ้อนมาหลากหลายแบบ เช่น ล้านนา พม่า (ฟ้อนตั้งต่อศอก) และแบบอีสานเช่นท่า ภูไท เป็นต้น ซึ่งยังได้ปรากฏมีการประดิษฐ์ท่าฟ้อนขึ้นใหม่อีกประมาณ 4 ท่า ขอสนับสนุนครับ มาถูกทางแล้ว
แต่อยากให้ไปเรียบเรียงท่าฟ้อน เพื่อทำให้งายต่อการรับชมอีกสักนิด เพราะว่าท่านั้นมีความซับซ้อนอยู่บ้าง ซึ่งอาจทำให้ผู้ชมนั้น รู้สึก รกท่า ได้ครับ
การแปรแถวทำได้สวยงามดีครับ

การแต่งกาย ถ้าเป็นแบบฉบับของชาวเลยดั้งเดิมได้ จะดีที่สุดครับ
และถ้าจะใส่เครื่องเงิน หรือเครื่องทอง ก็ควรเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง เพื่อที่จะได้เข้ากันกับชุดที่มีลายดิ้นทองเดินอยู่นะครับ ผมว่า ใช้เคราืองทองไปเลยก็จะดี ซึ่งนอกจากจะสวยงามแล้ว ยังสอดคล้องกันกับ แนวคิดและที่มาของการแสดงครับ

ข้อสำคัญที่สุด คำว่า เซไลนั้น ได้สื่อออกมาในตอนใดบ้างของการแสดงในชุดนี้
ซึ่งนี่ก็คือ จุดไคลแม๊กของการแสดงครับ ซึ่งทุกชุดการแสดงนั้น จำเป็นต้องมี

ขอให้ตั้งใจต่อไปนะครับ พี่น้องไทเลย

ขอบคุณครับ สำหรับเพลงเพื่อนผมเจนวิทย์ ขุนทำนายเป็นคนแต่งซึ่งเค้าอาจจะเคยได้ยินจากตรงนั้น ตรงนี้มาแล้วนำปรับใหม่ ส่วนตัวผมเองเป็นคนให้กรอบแนวทางดนตรีไปเองว่าหัวเพลงอยากได้แบบเหนือๆ ส่วนท่อนกลางอยากได้แบบลูกผสม ส่วนท้ายเพลงอยากให้เป็นอีสาน แต่เนื่องจากเวลาอันสั้นดนตรีจึงยังไม่ลงตัวเนื่องจากการกรอบเวลาของการแข่งขันมหกรรมวิชาการในปีการศึกษาที่ผ่านมา ดังนั้นภายในปีนี้ทางเราอาจจะมีการแก้ไขดนตรีใหม่ทั้งหมดครับ

 
 
สาธุการบทความนี้ : 276 ครั้ง
จากสมาชิก : 0 ครั้ง
จากขาจร : 276 ครั้ง
 
 
  14 มิ.ย. 2552 เวลา 16:25:26  
   ขึ้นบน ลงล่าง  
 
         

  โพสต์โดย   564) เซไล เมืองเก่าของชาวไทเลย  
  เด็กเลยก๋อ    คห.ที่38)       [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]  
  ศิษย์น้องเล็ก

ภูมิลำเนา : เลย
เข้าร่วม : 05 มิ.ย. 2552
รวมโพสต์ : 25
ให้สาธุการ : 20
รับสาธุการ : 56290
รวม: 56310 สาธุการ

 
คุณโหวดฟ้า:
การแสดงชุด ฟ้อนเมืองเลยศรีนาฎนย
หมายถึงการ การที่หญิงสาวชาวเลยออกมาร่ายรำในลีลาที่อ่อนช้อยสวยงามและชี้ให้เห็นเอกลักษณ์ วัฒนธรม ประเพณี และสถานที่ท่องเที่ยวของชาวจังหวัดเลย

ใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใ

ไม่ชัดเจนครับว่าฟ้อน  เพื่ออะไร


เสื้อสีเหลืองทอด้วยผ้าฝ้ายทอมือโดยกลุ่มสตรีทอผ้าบ้านก้างปลา โดยนำแบบมาจากเสื้อของชาวลาว เพราะจังหวัดเลยสืบเชื้อสายมาจากอนาจักรโยนกและหลวงพระบาง


ใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใ

เท่าที่ดูชุดนะครับ น่าจะเป็นอีสานซะมากกว่าลาวหรือโยนกนะครับ

เหตุที่ไม่มีตีนซิ่นเนื่องจากผ้าลายโบราณของจังหวัดเลย เช่นลายน้ำเซ ลายมุกขิด รายมุกราชวัตร ไม่มีตีนซิ่น

ใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใ

ผ้าซิ่นที่ไม่มีตีนไม่มีหัวหรือชายซิ่นนั้น ไม่น่าที่จะมีอยู่ในวัฒนธรรมของ ลาว ล้านนา หรืออีสานนะครับ เนื่องจากถือว่า ตำ่บ่แล้ว นะครับ โบราณถือว่า ผิดจารีตอย่างแรง
ผมเกรงว่า เมื่อเวลานำไปประกวดหรือนำไปแสดงต่อหน้าท่านผู้ที่รู้และรักในวัฒนธรรมที่งหลายนั้น การแสดงชุดนี้อาจถูกติติงได้ง่ายในเรืองตีนซิ่นนี้นะครับ

สมควรแก้ไข เพราะเท่าที่รู้ ซิ่นของเลยนั้นก็มีตีนครับ

สีเหลืองและม่วแบบนี้นั้น ตัดกันดีแล้วครับ แต่การติดดอกกล้วยไม้นั้น ควรลดปริมาณการติดลงอีกนิด จะไม่รกมากนะครับ


ธนิมพิมพาภรณ์ เนี่ย แปลว่า อะไรเหรอครับ เพราะในพจนานุกรมนั้น ไม่มีคำนี้อยู่

ใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใ

ธนิมพิมพาภรณ์ คำนี้ไม่มีแน่ครับ เพราะต้องสะกด ดังนี้ ถนิมพิมพาภรณ์  แปลว่าเครื่องประดับร่างกาย เพิ่มเติมนะครับ อีกหนึงคำ ซึ่งหมายถึงเครื่องประดับเช่นกัน คือ ศิราภรณ์
ความหมาย

(ราชา) น. เครื่องประดับศีรษะ เช่น พระมาลา มงกุฎกรอบหน้า ผ้าโพกหัว.



ท่ารำ ประดิษฐ์และเรียบเรียงโดยคุณครูอสวดี วิเศษสัตย์ ครูชำนาญการพิเศษโรงเรียนเลยพิทยาคม
โดยการนำเอาท่ารำแม่บทอีสาน


ใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใ

ตกลงว่า เป็นโยนก เป็นลาว หรือเป็นอีสานกันแน่ครับ

ผมว่า ฟ้อนชุดนี้นั้น มีข้อที่สมควรปรับปรุงดังนี้ครับ

1 หาเอกลักษณ์ของชุดฟ้อนให้เจอครับ แล้วจะได้ท่า และดนตรีที่มีความสัมพันธ์กัน

2 หาเอกลักษณ์ในด้านวัฒนธรรมของจังหวัดเลยให้ได้ครับ เพราะไม่เช่นนั้น เลยจะกลายเปฌนจังหวัดที่ไม่มีวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์และแบบแผนของตนเองเลย

3 การสืบค้นประวัติของชาวเลย พบว่า ตามพงศาวดารโยนกนั้นบอกว่า ชาวเลยนั้นเป็นชนที่อพยพเข้ามาในยุคสมัยสุโขทัย และกลุ่มชนกลุ่มนี้ก็ได้อพยพออกไปจนกลายเป็นเมืองร้างมาครั้งหนึ่งแล้ว ซึ่งอาจจะเกิดขึ้นเพราะโรคภัยและไข้ป่าที่ชุกชุมก็เป็นได้
หากแต่ ชาวเลย ที่พูดเหน่อ่สำเนียงเลยกันอยู่ในขณะนี้นั้น แท้จริงแล้ว ก็คือคนลาวหลวงพระบางครับ
จึงอยากให้มีการนำองค์วัฒนธรรมที่คล้ายคลึงกันนี้ มาเป็นแนวทางในการประดิษฐ์ชุดฟ้อนต่างๆ ครับ ความหมายของผมก็คือ คนเลย ไม่ใช่คนเหนือครับ


ขอให้ตั้งใจนะครับ วัฒนธรรมจะได้ไม่เพี้ยน (ผมคิดว่านะ)
จะเป็นกำลังใจให้

 
 
สาธุการบทความนี้ : 274 ครั้ง
จากสมาชิก : 0 ครั้ง
จากขาจร : 274 ครั้ง
 
 
  27 มิ.ย. 2552 เวลา 23:57:17  
   ขึ้นบน ลงล่าง  
 
         

  โพสต์โดย   551) วงโปงลางเลยพิทยาคม โรงเรียนเลยพิทยาคม อำเภอเมือง จังหวัดเลย  
  เด็กเลยก๋อ    คห.ที่420)       [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]  
  ศิษย์น้องเล็ก

ภูมิลำเนา : เลย
เข้าร่วม : 05 มิ.ย. 2552
รวมโพสต์ : 25
ให้สาธุการ : 20
รับสาธุการ : 56290
รวม: 56310 สาธุการ

 
คุณอ้ายโอ๊ต:
อ่อ....นั่นเพราะซิ่นแบบนี้ต้องเอามาต่อหัวซิ่นและตีนซิ่นอีกทีนึงครับ ถึงจะสามารถยาวกรอมเท้าได้ ก็เป็นลักษณะของความกว้างของตัวซิ่นแบบโบราณทั่วไป

ผมว่าน่าจะลองเอาไปต่อหัวซิ่นและตีนซิ่นดูนะครับ จะได้ใช้งานได้หลากหลายขึ้นอีก


>>บังเอิญว่าทางผมแล้วก้อคณาจารย์ที่มีส่วนร่วมในการสร้างชุดการแสดง ได้ลงความเห็นว่าจะสร้างเครื่องแต่งกายเป็นลักษณะเฉพาะของแต่ละชุดการแสดง ผ้าถุงผืนนี้จึงไม่ได้นำไปใช้ในชุดการแสดงอื่น เพื่อง่ายต่อความเข้าใจจของนักเรียนเวลาที่จะออกงาน ในการจัดเครื่องแต่งกายจะได้ไม่สับสนครับ

 
 
สาธุการบทความนี้ : 263 ครั้ง
จากสมาชิก : 0 ครั้ง
จากขาจร : 263 ครั้ง
 
 
  01 มิ.ย. 2553 เวลา 23:08:23  
   ขึ้นบน ลงล่าง  
 
         

  โพสต์โดย   610) การสร้างสรรค์ชุดการแสดงใหม่  
  เด็กเลยก๋อ    คห.ที่6) ขอบคุณสำหรับความเห็น      [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]  
  ศิษย์น้องเล็ก

ภูมิลำเนา : เลย
เข้าร่วม : 05 มิ.ย. 2552
รวมโพสต์ : 25
ให้สาธุการ : 20
รับสาธุการ : 56290
รวม: 56310 สาธุการ

 
ผมขอขอบคุณ ความคิดเห็นทุความคิดเห็น..แต่ตัวปมเองต้องการแนวทางที่หลากหลายเพื่อประกอบการตัดสินใจ..เนื่องจากพี่สนิท..เจ้าตัวไม่ค่อยอยากจะยุ่งกะตำนานเท่าไหร่ครับ..เพราะกัวเรื่องไม่ตรงกับตำนานที่จะนำมาใช้

 
 
สาธุการบทความนี้ : 262 ครั้ง
จากสมาชิก : 0 ครั้ง
จากขาจร : 262 ครั้ง
 
 
  03 ก.ค. 2552 เวลา 23:32:17  
   ขึ้นบน ลงล่าง  
 
         

  โพสต์โดย   551) วงโปงลางเลยพิทยาคม โรงเรียนเลยพิทยาคม อำเภอเมือง จังหวัดเลย  
  เด็กเลยก๋อ    คห.ที่355) การวิจารณ์ผลงานนาฏศิลป์      [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]  
  ศิษย์น้องเล็ก

ภูมิลำเนา : เลย
เข้าร่วม : 05 มิ.ย. 2552
รวมโพสต์ : 25
ให้สาธุการ : 20
รับสาธุการ : 56290
รวม: 56310 สาธุการ

 

      นาฏศิลป์เป็นศิลปะการแสดงด้านวิจิตรศิลป์โดยรวมเอาศาสตร์แขนงต่างๆ ผสมกลมกลืนเข้าด้วยกัน นับว่าเป็นสารที่สื่อให้เห็นสุทรียะด้วยการมองและการได้ยินเสียงประเภทหนึ่ง


     ดังนั้น หากต้องการวิจารณ์ผลงานนาฏศิลป์ ผู้วิจารณ์จำเป็นต้องมีความรู้ในศิลปะสาขาที่วิจารณ์ มีประสบการณ์เกี่ยวกับศิลปะ และมีความสามารถในการสื่อสารเป็นอย่างดี จึงจะส่งผลให้การวิจารณ์ผลงานนาฏศิลป์ออกมาตรงวัตถุประสงค์และมีคุณค่า

     โดยขั้นตอนการวิจารณ์การแสดงนาฏศิลป์ตามทฤษฎีการวิจารณ์อย่างสุนทรีย์ของราล์ฟ  สมิธ มีดังนี้


    ๑. การบรรยาย


        ผู้วิจารณ์ต้องสามารถพูดหรือเขียนในสิ่งที่รับรู้ด้วยการฟัง ดู รู้สึก รวมทั้งการรับรู้คุณสมบัติต่างๆ ของการแสดง โดยสามารถบรรยายหรือแจกแจงส่วนประกอบต่างๆ ทั้งในลักษณะการเชื่อมโยงหลักเกณฑ์ศิลปะสาขาต่างๆ เข้าด้วยกัน หรือแยกแยะเป็นส่วนๆ

    ๒. การวิเคราะห์องค์ประกอบต่างๆ ในผลงานการแสดงนาฏศิลป์ของไทย ประกอบด้วย

๒.๑  รูปแบบของนาฏศิลป์ไทย เช่น ระบำ รำ ร้องและโขน เป็นต้น
๒.๒  ความเป็นเอกภาพของนาฏศิลป์ไทย โดยผู้แสดงต้องมีความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน
๒.๓  ความงดงามของการร่ายรำและองค์ประกอบอื่นๆ ได้แก่ ความถูกต้องของแบบแผน
        การรำ ความงดงามของลีลาท่ารำ ความงดงามด้านวรรณกรรม ความงามของตัวละคร
        ลักษณะพิเศษในท่วงท่าลีลา เทคนิคเฉพาะตัวผู้แสดง บทร้องและทำนองเพลง
        เป็นต้น

    ๓. การตีความและการประเมินผล

        ผู้วิจารณ์จะต้องพัฒนาความคิดเห็นส่วนตัวประกอบกับความรู้ หลักเกณฑ์ต่างๆ มารองรับสนับสนุนความคิดเห็นของตนในการตีความ  ผู้วิจารณ์ต้องกล่าวถึงผลงานนาฏศิลป์โดยรวมว่าผู้เสนอผลงานพยายามจะสื่อความหมายหรือเสนอแนะเรื่องใด โดยต้องตีความการแสดงผลงานนาฏศิลป์นั้นให้เข้าใจ

        ส่วนการประเมินนั้นเป็นการตีค่าของการแสดงโดยต้องครอบคลุมประเด็น ดังนี้ แสดงได้ถูกต้องตามแบบแผน ผู้แสดงมีทักษะ สุนทรียะ มีความสามารถ และมีเทคนิคต่างๆ นอกจากนี้ ต้องประเมินรูปแบบลักษณะของงานนาฏศิลป์ ความคิดสร้างสรรค์  เป็นต้น

 
 
สาธุการบทความนี้ : 261 ครั้ง
จากสมาชิก : 0 ครั้ง
จากขาจร : 261 ครั้ง
 
 
  11 มี.ค. 2553 เวลา 13:23:40  
   ขึ้นบน ลงล่าง  
 
         

  โพสต์โดย   564) เซไล เมืองเก่าของชาวไทเลย  
  เด็กเลยก๋อ    คห.ที่39)       [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]  
  ศิษย์น้องเล็ก

ภูมิลำเนา : เลย
เข้าร่วม : 05 มิ.ย. 2552
รวมโพสต์ : 25
ให้สาธุการ : 20
รับสาธุการ : 56290
รวม: 56310 สาธุการ

 
คุณโหวดฟ้า:
การแสดงชุด ฟ้อนเมืองเลยศรีนาฎนย
หมายถึงการ การที่หญิงสาวชาวเลยออกมาร่ายรำในลีลาที่อ่อนช้อยสวยงามและชี้ให้เห็นเอกลักษณ์ วัฒนธรม ประเพณี และสถานที่ท่องเที่ยวของชาวจังหวัดเลย

ใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใใ

ไม่ชัดเจนครับว่าฟ้อน  เพื่ออะไร
---------------------------------------------
**ตอบเพื่อ ฟื้นฟูเพลงมาร์ชของจังหวัดให้คนรุ่นใม่ได้ยินกัน และเชิญชวนต่างถิ่นร่วมกันมาเที่ยวและชื่นชมวัฒนธรรมของชาวเลย
--------------------------------------------------------------------

............................................

ที่จริงแล้วนั้น การคอมเม้นในส่วนนี้ ผมต้องการที่จะบอกว่า ฟ้อนเมืองเลยศรีนาฎนย กับคอนเซบที่ว่า หมายถึงการ การที่หญิงสาวชาวเลยออกมาร่ายรำในลีลาที่อ่อนช้อยสวยงามและชี้ให้เห็นเอกลักษณ์ วัฒนธรม ประเพณี และสถานที่ท่องเที่ยวของชาวจังหวัดเลยนัน มันไม่เกี่ยวข้องกันเลยกับชื่อที่ตั้ง

เมืองเลย คือ จังหวัดเลย
ศรี คือดี งาม
--คุณลองดู พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถานให้ดีนะครับ คำว่าศรี มี 2 ความหมาย ความหมายที่1ก้อเหมือนที่คณว่า คือความดีงาม ส่วนคงามหมายที่2 หมายถึงหยิงสาวครับ
----------------------------------------------------------------------------------------------
นาฏนย คือการฟ้อนรำ

มันสัมพันธ์กันกับคอนเซบตรงไหน กับ เอกลัษณ์วัฒนธรรม สถานที่ท่องเที่ยว ดังว่า


ตัวอย่างเช่น ฟ้อนนารีศรีอีสาน ที่มีความหมายถึง ความงามของผู้หญิงอีสาน

การตั้งชื่อนั้น ไม่ใช่เน้นอลังการอย่างเดียว ต้องสื่อความหมายให้ได้ด้วย (แนะนำ)
---------------------------------------------------------------
คุณลองรวมความหมายดูนะครับ แล้วช่วยตรึกตรองช่วยผมด้วยว่ามันสัมพันธ์กันหรือยัง การแสดงชุดนี้ ไม่ได้กล่าวถึงควมดีงามของจังวัดเลย หากแต่กล่าวถึงหญิงสาวที่ออกมาร่ายรำเชิญชวนทกท่านให้มาสัมผัสกับจังหวัดเลยของเราครับ

..........................................................................

เหตุที่ไม่มีตีนซิ่นเนื่องจากผ้าลายโบราณของจังหวัดเลย เช่นลายน้ำเซ ลายมุกขิด รายมุกราชวัตร ไม่มีตีนซิ่น


ในสารระบบของซิ่นอีสานนั้น ซิ่นต้องมีตีน ครับ
ถ้าทอแล้วเป็นซิ่นลายเดียว คือ มีลวดลายแบบเดียวกันซ้ำๆนั้น ซึ่นต้องมีตีนอย่างแน่นอน เพราะเขาจะนำตีนซิ่นที่ทำอีกลวดลายหนึ่งนั้นมาต่อในภายหลัง เขาจึงเรียกว่าเป็น ซิ่นตีนต่อ

อีกแบบ คือพวกซิ่นที่มีลายของตีนซิ่นอยู่แล้ว เอิ้น ซิ่นตีนใน หรือซิ่นตีนแดง พวกนี้ไม่ต้องต่อตีน

และในวัฒนธรรมอีสานนั้น ซึ่นต้องมีตีนซิ่น มีหัว ทุกลาย
ๆม่เช่นนั้น เขาก็จะบอกว่า สาวบ้านนั้น ใช้ไม่ได้ และขะลำมากในวัฒนธรรมอีสานสำหรับเรื่องตีนซิ่นนี้

จนเพิ่นว่า ตีนผมให้ลำเกี้ยง ตีนซิ่นให้ลำเพียง



.............................................................


คนเลยเป็นคนลาวแน่นอนครับ ประวัตศาสตร์อีสานและประวัติศาสตร์ลาวนั้นก็กล่าวตรงกันว่า พวกโยนกนาคนคร ได้อพยพลงมาจากอาณาจักรโยนกล้านนา มาอาศัยอยู่ในบริเวณริมนำเซเลย และต่อมาก็กลายมาเป็นเมืองร้าง

คนลาวได้อพยพเข้ามาอีกครังในตอนต้นรัตนโกสินทร์ และได้ตั้งบ้านเมืองขึ่น จนเอ้นเป็น เมืองเลยดังปัจจุบัน คนเลยปัจจุบันนั้นจึงเป็นคนลาวเวียงแท้ๆ ไม่ใช่อีสานล้านนาดังกล่าว
และสำเนียงคนเลยนั้น ก็สำเนียงเดียวกันกับคนลาวเวียง ภาคเหนือจังหวัดไหนก็ไม่พูดสำเนียงนี้หรอกครับ


ผมคาดว่า อาจารย์น่าที่จะไปค้นเอกสารมาจาก พงศาวดารโยนกครับ (ถ้าผิดก็ขออภัย) ซึ่งประวัติก็ได้กล่าวไว้ถึงการตั้งเมืองที่เลยจริง แต่คนกลุ่มนั้น ไม่ใช่คนลยที่อาศัยอยู่ในปัจจุบันนี้

ต้องถามว่า อยากให้บรรพบุรุษของตนนั้นเป็นคนกลุ่มไหน ใชมุมมองอย่างไรถึงตัดสินใจเช่นนั้น หรืออาจเลือกประวัติศาสตร์ในช่วงหนึ่งช่วงใดมาก็อาจเป็นได้
แต่ควรดูที่ความถูกต้องเหมาะสม และความเป็นรากเหง้าที่เป็นแก่นแท้โบราณอย่างแท้จริงนั้นมาเป็นแนวทาง

ด้วยความปราถนาดี

 
 
สาธุการบทความนี้ : 242 ครั้ง
จากสมาชิก : 0 ครั้ง
จากขาจร : 242 ครั้ง
 
 
  28 มิ.ย. 2552 เวลา 00:10:05  
   ขึ้นบน ลงล่าง  
 
         

  โพสต์โดย   551) วงโปงลางเลยพิทยาคม โรงเรียนเลยพิทยาคม อำเภอเมือง จังหวัดเลย  
  เด็กเลยก๋อ    คห.ที่436)       [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]  
  ศิษย์น้องเล็ก

ภูมิลำเนา : เลย
เข้าร่วม : 05 มิ.ย. 2552
รวมโพสต์ : 25
ให้สาธุการ : 20
รับสาธุการ : 56290
รวม: 56310 สาธุการ

 
คุณมหาพิษณุพงค์โปงลาง:
ทำไมมันเงียบแบบนี้น้อ

    
>>พี่เดี่ยวกับมาร้องเพลงให้วงสิ งานเกษียณ ผอ.นะ ครูจะรอจร้า ติดต่อได้ที่ครูตุ้ย ครูจุ๋ม ครูอิ๋วเด้อ

 
 
สาธุการบทความนี้ : 228 ครั้ง
จากสมาชิก : 0 ครั้ง
จากขาจร : 228 ครั้ง
 
 
  22 ก.ย. 2553 เวลา 19:10:17  
   ขึ้นบน ลงล่าง  
 
         

  โพสต์โดย   551) วงโปงลางเลยพิทยาคม โรงเรียนเลยพิทยาคม อำเภอเมือง จังหวัดเลย  
  เด็กเลยก๋อ    คห.ที่356)       [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]  
  ศิษย์น้องเล็ก

ภูมิลำเนา : เลย
เข้าร่วม : 05 มิ.ย. 2552
รวมโพสต์ : 25
ให้สาธุการ : 20
รับสาธุการ : 56290
รวม: 56310 สาธุการ

 
คุณอ้ายโอ๊ต:
รูปแบบของผ้าซิ่นไทยวน วัฒนธรรมล้านนา




"""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""


ผ้าซิ่นแบบไทเขิน เชียงตุง ประเทศพม่า


""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""


ผ้าซิ่นแบบไทลื้อ ประเทศลาว


    ขอบคุณนะครับ สำหรับคำแนะนำ ปัจจุบันนี้การแสดงชุดนี้อยุ่ในช่วงทำดนตรีใหม่ รวมถึงเครื่องแต่งกายบางส่วน ซึ่งชุดการแสดงชุดนี้ก้อไม่ได้ใชมากว่า 2ปีแล้วเพราะยังอยู่ในช่วงพัฒานา

 
 
สาธุการบทความนี้ : 227 ครั้ง
จากสมาชิก : 0 ครั้ง
จากขาจร : 227 ครั้ง
 
 
  11 มี.ค. 2553 เวลา 13:26:59  
   ขึ้นบน ลงล่าง  
 
         

  โพสต์โดย   551) วงโปงลางเลยพิทยาคม โรงเรียนเลยพิทยาคม อำเภอเมือง จังหวัดเลย  
  เด็กเลยก๋อ    คห.ที่290)       [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]  
  ศิษย์น้องเล็ก

ภูมิลำเนา : เลย
เข้าร่วม : 05 มิ.ย. 2552
รวมโพสต์ : 25
ให้สาธุการ : 20
รับสาธุการ : 56290
รวม: 56310 สาธุการ

 
อะไรที่ถือว่าเป็นกิจกรรมที่สามารถสร้างสุนทรียภาพให้กับนักเรียนก้อมีข้อดีทั้งนั้น...ทั้งหลายทั้งมวลก้อเป็นกิจกรรมที่ส่งเสริมศักยภาพของนักเรียน....ไม่ว่านักเรียนจะถ่ายภาพอย่างไร..สิ่งที่สำคัญที่สุดเขาทำอะไร...และเพื่ออะไรมากกว่า..การที่นักเรียนจะถ่ายภาพสนุกสนานก็เป็นไปตามวัยที่ต้องการเพียงความทรงจำที่งดงาม...เขาไม่ได้ต้องการอะไรนอกจากความชื่นชมของผู้ใหญ่..สิ่งที่เรากำลังถกเถึยงกันอยู่ตอนนี้มันไม่ไช่เรื่อง...และไม่ไช่ประเด็นสำคัญ....เมื่อเขาโตขึ้นแล้วสิ่งที่มีในวันนี้ต่างหากที่น่าจดจำ..เป็นสิ่งที่ติดตัวเขา..สิ่งที่เป็นความสามารถเฉพาะทางต่างหากที่ควรจะแนะแนวทาง..ในส่วนเรื่องที่เรากำลังถกเถึยงกันอยู่นั่น...อย่างคุณโอ๊ตแนะนำผมก้อเห็นว่าดี...แต่..เด็กก้อคือเด็ก...คุณอยู่สถาวะที่มีแต่เด็กโต..บรรลุนิติภาวะ...มันเป็นเรื่องมองต่างมุมมากกว่า...ผมอยู่ใกล้เด็กผมเลยเห็นเป็นเรื่องที่ไม่ใช่สาระสำคัญอะไร...แต่ก้อขุบคุณในคำแนะนำดีๆ....ถ้ามองย้อนกลับไปเมื่อเรามีวัยเดียวกันกับเขาเราก้อทำ...เพราะฉนั้นแล้ว..ผมเห็นว่าเปลี่ยนประเด็นดีกว่า

 
 
สาธุการบทความนี้ : 215 ครั้ง
จากสมาชิก : 0 ครั้ง
จากขาจร : 215 ครั้ง
 
 
  05 ก.พ. 2553 เวลา 00:27:15  
   ขึ้นบน ลงล่าง  
 
         

  โพสต์โดย   610) การสร้างสรรค์ชุดการแสดงใหม่  
  เด็กเลยก๋อ    คห.ที่0) การสร้างสรรค์ชุดการแสดงใหม่      [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]  
  ศิษย์น้องเล็ก

ภูมิลำเนา : เลย
เข้าร่วม : 05 มิ.ย. 2552
รวมโพสต์ : 25
ให้สาธุการ : 20
รับสาธุการ : 56290
รวม: 56310 สาธุการ

 
การสร้างสรรค์ชุดการแสดงหใม่ที่บอกล่าถึงเรื่องราวธรรมชาติ เช่นการกำเนิดรุ้ง ผมขอคำแนะนำหน่อยครับ ว่าต้องสื่อสารทางการแสดงอย่างไร ผู้ชมถึงจะเข้าจัย การกำเนิดรุ้งนั้นก้อมีอยู่หลายตำนาน ผมไม่รู้ว่าจะหยิบยกประเด็นไหนมาประดิษฐ์เป็นท่ารำและทำนองเพลงครับ iรวมถึงเรื่องเครื่องแต่งกายด้วยนะครับ ช่วยกรุณาแนะนำด้วยนะครับ

 
 
สาธุการบทความนี้ : 210 ครั้ง
จากสมาชิก : 0 ครั้ง
จากขาจร : 210 ครั้ง
 
 
  28 มิ.ย. 2552 เวลา 00:17:17  
   ขึ้นบน ลงล่าง  
 
         

  โพสต์โดย   564) เซไล เมืองเก่าของชาวไทเลย  
  เด็กเลยก๋อ    คห.ที่32) ฟ้อนเซไล      [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]  
  ศิษย์น้องเล็ก

ภูมิลำเนา : เลย
เข้าร่วม : 05 มิ.ย. 2552
รวมโพสต์ : 25
ให้สาธุการ : 20
รับสาธุการ : 56290
รวม: 56310 สาธุการ

 
คุณมังกรเดียวดาย:
ผมว่า ฟ้อนเซไลนคเรศ น่าจะทำดนตรีใหม่นะครับ คือ ดนตรีที่ใช้อยู่ตอนนี้ ยืมทำนองเขามา ทำให้ไม่สามารถประกาศศักดาได้เต็มปากว่า เป็นการแสดงชุดใหม่ แต่หากคิดดนตรีเองจริงๆ ก็สามารถจะนำไปแสดงได้อย่างภาคภูมิใจ ครับ

อีกนิดนึงครับ นคร กับ นคเรศ ความหมายเหมือนกันครับ คือเป็นเมืองใหญ่ โดยศักดิ์ศรีของคำแล้ว นคเรศ ฟังดูมีศักดิ์สูงกว่า คือให้ความรู้สึกทางจินตกวีมากกว่า
ที่มาจริงๆของนคเรศ คือ นคร + อิศวร เมื่อนำมาสนธิกัน ก็วิการ อิ เป็น เอ กลายเป็น นคเรศวร เมื่อนำมาใช้ในบทกลอน บางแห่งต้องการเสียงสัมผัส จึงใช้ทันตฆาตกำกับ เป็น นคเรศวร์ อ่านว่า นะคะเรด เขียนไปเขียนมา เพี้ยนสั้นไปเป็น นคเรศ

เหมือนพระนเรศวร แหละครับ ก็มาจาก นร + อิศวร สุดท้าย เรียกพระองค์ท่านสั้นๆ ว่าพระนเรศ

หรือ มาจาก นคร + อิสระ เมื่อนำมาสนธิกัน ก็วิการ อิ เป็น เอ กลายเป็น นคเรสร์ หรือ นคเรศร์ เขียนไปเขียนมา เพี้ยนสั้นไปเป็น นคเรศ

ที่เพี้ยนสั้น เป็น นคเรศ เนื่องจากว่า ผู้เขียนไม่ทราบว่า จะเขียนเป็น นคเรศวร์ หรือ นคเรศร์ ดี จึงหดเหลือเป็น นคเรศ แต่หากเป็นผู้ที่พอจะรู้ภาษาบาลี-สันสกฤต ก็จะแยกแยะได้ว่าตนเอง ต้องการให้สื่อความหมายว่าอย่างไร ต้องการให้ +อิศวร ก็จะเป็น นคเรศวร์ หรือ +อิสระ ก็จะเป็น นคเรศร์

ดังนั้น ฟ้อน เซไลนคเรศ ชื่อนี้ ยิ่งใหญ่ครับ

    ขอบคุณนะครับสำหรับคำแนะนำที่ดีซึ่งผมจะนำไปปรับปรุงส่วนเรื่องของดนตรีอาจจะมีการทำใหม่ปรับปรุงเร็วๆนี้ครับ

 
 
สาธุการบทความนี้ : 209 ครั้ง
จากสมาชิก : 0 ครั้ง
จากขาจร : 209 ครั้ง
 
 
  14 มิ.ย. 2552 เวลา 16:20:56  
   ขึ้นบน ลงล่าง  
 
         

  โพสต์โดย   409) วงโปงลางพ่อแล โรงเรียนชัยภูมิภักดีชุมพล  
  เด็กเลยก๋อ    คห.ที่640)       [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]  
  ศิษย์น้องเล็ก

ภูมิลำเนา : เลย
เข้าร่วม : 05 มิ.ย. 2552
รวมโพสต์ : 25
ให้สาธุการ : 20
รับสาธุการ : 56290
รวม: 56310 สาธุการ

 
คุณอ้ายโอ๊ต:
"ฟ้อนเต้ยเกี้ยว"

การแสดงของ วงโปงลางพ่อแล

ในงานมุฑิตาจิต ณ วิทยาลัยเทคนิคชัยภูมิ

28 กันยายน 2553

    
..เคยได้อ่านคอมเมนท์คุณโอ๊ตและยังจำได้อยู่เลยว่าติดดอกไม้และเอ้เครื่องบนหัวประมาณนี้อ่ะมันเยอะ ซึ่งตอนนี้เราเองก้อนำมาปรับใช้ให้มันน้อยจนพอเหมาะและชินตาแล้วแต่...ตอนนี้คนที่แนะนำเราดูท่าจะสับสนและงงๆ สรุปว่า คุณโอ๊ตจะยังไงดีครับ ..ผมจะได้มีแนวทางที่ถูกเสียที......

 
 
สาธุการบทความนี้ : 206 ครั้ง
จากสมาชิก : 0 ครั้ง
จากขาจร : 206 ครั้ง
 
 
  20 ต.ค. 2553 เวลา 11:36:50  
   ขึ้นบน ลงล่าง  
 
         

  โพสต์โดย   551) วงโปงลางเลยพิทยาคม โรงเรียนเลยพิทยาคม อำเภอเมือง จังหวัดเลย  
  เด็กเลยก๋อ    คห.ที่41) ขอแก้ไขข้อมูล      [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]  
  ศิษย์น้องเล็ก

ภูมิลำเนา : เลย
เข้าร่วม : 05 มิ.ย. 2552
รวมโพสต์ : 25
ให้สาธุการ : 20
รับสาธุการ : 56290
รวม: 56310 สาธุการ

 
คุณน้องใหม่ในวงการ:
คุณลูกน้ำเลย:
คุณลูกเลยพิทย์ ศิทย์มหาพิษณุพงศ์:
ชนะเลิศอันดับที่ 1 ในการแข่งขันวงโปงลางระดับจังหวัด
ในงานกาชาดดอกฝ้ายบาน มะขามหวานเมืองเลย ปี2552

    
ไม่ยักกะรู้นะว่ามีการแข่งขันด้วยในงานดอกฝ้าย

สงสัยจะแสดง 2 วันแรกมั่ง เลยไม่รุ็เรื่อง

ใช้มะ  แล้วชิงถ้วยไรหรอ
กาไก่กรอ

เออน่าาาาาาผ้ำไป



ช่าย ช่าย

ไม่ได้แข่งหนิ

โกหกชัดชัดเลย

นิสัยเสียที่สุด


แก้ไขนิดนึงนะครับอาจจะมีการเข้าจัยผิดเราไม่ได้แข่งขันครับแต่ทางโรงเรียนได้รับเชิญจากทางจังหวัดให้ไปแสดงโชว์เฉกเช่นกันโรงเรียนอื่นๆในจังหวัดเลยครับ

 
 
สาธุการบทความนี้ : 203 ครั้ง
จากสมาชิก : 2 ครั้ง
จากขาจร : 201 ครั้ง
 
 
  14 มิ.ย. 2552 เวลา 16:06:03  
   ขึ้นบน ลงล่าง  
 
         

  โพสต์โดย   551) วงโปงลางเลยพิทยาคม โรงเรียนเลยพิทยาคม อำเภอเมือง จังหวัดเลย  
  เด็กเลยก๋อ    คห.ที่389)       [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]  
  ศิษย์น้องเล็ก

ภูมิลำเนา : เลย
เข้าร่วม : 05 มิ.ย. 2552
รวมโพสต์ : 25
ให้สาธุการ : 20
รับสาธุการ : 56290
รวม: 56310 สาธุการ

 
คุณอ้ายโอ๊ต:
ผมว่าดอกกุหลาบแดงสีมันเข้มไปหน่อยทำให้ดอกไม้ประดับผมดูมืดนะครับ น่าจะเลือกใช้สีที่ดูสว่างมากกว่านี้หน่อยนะครับ

    มันเป็นผ้ากำมะหยี่ครับมันเลยดูมืดๆ ไปบ้างแล้วแต่มุมแสงด้วยครับ

 
 
สาธุการบทความนี้ : 203 ครั้ง
จากสมาชิก : 0 ครั้ง
จากขาจร : 203 ครั้ง
 
 
  07 พ.ค. 2553 เวลา 13:02:57  
   ขึ้นบน ลงล่าง  
 
         

  โพสต์โดย   551) วงโปงลางเลยพิทยาคม โรงเรียนเลยพิทยาคม อำเภอเมือง จังหวัดเลย  
  เด็กเลยก๋อ    คห.ที่393) ในปีการศึกษานี้ยังอีกยาวไกล      [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]  
  ศิษย์น้องเล็ก

ภูมิลำเนา : เลย
เข้าร่วม : 05 มิ.ย. 2552
รวมโพสต์ : 25
ให้สาธุการ : 20
รับสาธุการ : 56290
รวม: 56310 สาธุการ

 
ในปีการศึกษานี้เรายังคงจะยึดมั่นและพัฒนากันต่อไป..โปรดคอยติดจามชมผลงาน..เสนอแนะ ติชม ให้กำลังใจด้วยครับ

 
 
สาธุการบทความนี้ : 199 ครั้ง
จากสมาชิก : 0 ครั้ง
จากขาจร : 199 ครั้ง
 
 
  13 พ.ค. 2553 เวลา 13:41:07  
   ขึ้นบน ลงล่าง  
 
         

  โพสต์โดย   551) วงโปงลางเลยพิทยาคม โรงเรียนเลยพิทยาคม อำเภอเมือง จังหวัดเลย  
  เด็กเลยก๋อ    คห.ที่390)       [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]  
  ศิษย์น้องเล็ก

ภูมิลำเนา : เลย
เข้าร่วม : 05 มิ.ย. 2552
รวมโพสต์ : 25
ให้สาธุการ : 20
รับสาธุการ : 56290
รวม: 56310 สาธุการ

 
คุณน้อย...:
สวัสดีคะ....ป้าขอพูดไรหน่อยนะ
ตั้งเต่จบจากวิลัยมาก้อหลายปีและ
ก้อไม่ไช้ดอกรักพันผม
ติดผมด้วยนะจ๊ะ
ป้าเเนะนำกล้วยไม้ดีกว่านะ

    
ถ้าเป็นในสมัยก่อนก็มักจะใช้ดอกไม้เฉยๆประดับ.....ยิ่งในสมัยคุณครูจารุชา(ชูขาติ) จันทะสิโร นิยมใช้แต่ดอกกุกลาบสีต่างๆ กับฝ้ายสีต่างๆ เป็นต้น

 
 
สาธุการบทความนี้ : 189 ครั้ง
จากสมาชิก : 0 ครั้ง
จากขาจร : 189 ครั้ง
 
 
  07 พ.ค. 2553 เวลา 13:06:22  
   ขึ้นบน ลงล่าง  
 
         

  โพสต์โดย   633) ระบำที่เกี่ยวกับนางอัปสร  
  เด็กเลยก๋อ    คห.ที่59)       [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]  
  ศิษย์น้องเล็ก

ภูมิลำเนา : เลย
เข้าร่วม : 05 มิ.ย. 2552
รวมโพสต์ : 25
ให้สาธุการ : 20
รับสาธุการ : 56290
รวม: 56310 สาธุการ

 
คุณอ้ายโอ๊ต:
คุณวิท:
นาฏลีลาฟ้าหยาด วศ.กาฬสินธุ์


เป็นชุดการแสดงที่คิดค้นโดยวงโปงลางโรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่งในกาฬสินธุ์ ตอนประกวดวงโปงลางในงานกาชาด และเมื่อชนะเลิศ การแสดงชุดนี้ วิทยาลัยนาฏศิลปกาฬสินธุ์ จึงได้นำมาเก็บเป็นชุดการแสดงประจำจังหวัด

อันนี้เป็นระบำ(ที่จำลองแบบ)สมัยทวารวดีครับ ไม่ใช่เขมร ไม่ได้แย้งคุณโหวดฟ้านะครับ แค่อธิบายว่าชุดการแสดงนี้เขามีการสื่อความหมายถึงสมัยนี้เท่านั้นเอง

ส่วนเสื้อผ้าที่ตัดมาจากผ้าต่วนนี้ เต็ม 100 ผมให้ 10 คือคะแนนของเครื่องประดับครับกับการออกแบบ

ส่วนการเลือกใช้ผ้า ผมไม่ให้คะแนนครับ


ถ้าผมจำไม่ผิด ผมเรียนในวิทยาลัยนาฏศิลปกาฬสินธุ์ ซึ่งการแสดงชุดนี้ผมเห็นตั้งแต่มันยังเป็นเศษกระดาษ แล้วรูปภาพจำหลักเมืองฟ้าแดดสงยาง ผู้ที่คิดประดิษฐ์ท่ารำ คือคุณครูชูชาติ จันทสิโรประดิษฐ์ร่วมกับนักศึกษานาฏศิลป์ประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง ชั้นปีที่2 การแสดงชุดนี้แสดงครั้งแรกในพิธีเปิดงานกาชาดประจำจังหวัดกาฬสินธุ์ และครั้งต่อมาแสดงที่จังหวัดขอนแก่นในงานอเมซซิ่งอีสาน และอีกครั้งงานพิธีเปิดงานกีฬามหาวิทยาลัยที่สถาบันราชมงคลนครราชสีมา ซึ่งทุกครั้งผมก้อมีส่วนร่วมในการจัดการแสดงร่วมกับคุณครูทุกครั้ง เนื่องจากว่าคุณครูชูชาติ จันทสิโร เป็นครูประจำวิชาเอกนาฏศิลป์ไทย (โขนพระ) ของผม ในครั้งแรกเครื่องแต่งกายตัวรองจะมีลักษณะคล้ายกับตัวเอกในภาพ ต่างกันตรงที่ว่าในสมัยที่ผมเรียนที่นั่น ตัวเอกจะสวมเกาะอกสีชมพู และนุ่งผ้าไหมสีเขียว ซึ่งมีความยาวประมาณ 4 หลา ในยุดแรกมีความสวยงามกว่าในภาพมาก เนื่องจากในช่วงต่อมาการแสดงชุดนี้เสื่อมความนิยมลง จึงร้างราไปนานพอสมควรครับ ผมก้อเพิ่งกลับมาเห็นอีกครั้งนี่แหละครับ ตัวผมยังจำท่ารำได้อยู่เลยจนถึงทุกวันนี้ซึ่งก้อเรียนจบมานานพอสมควรครับ

 
 
สาธุการบทความนี้ : 189 ครั้ง
จากสมาชิก : 1 ครั้ง
จากขาจร : 188 ครั้ง
 
 
  14 ก.ย. 2552 เวลา 18:27:39  
   ขึ้นบน ลงล่าง  
 
         

  โพสต์โดย   559) งานกาชาดดอกฝ้ายบานมะขามหวานเมืองเลย ประจำปี2552  
  เด็กเลยก๋อ    คห.ที่99)       [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]  
  ศิษย์น้องเล็ก

ภูมิลำเนา : เลย
เข้าร่วม : 05 มิ.ย. 2552
รวมโพสต์ : 25
ให้สาธุการ : 20
รับสาธุการ : 56290
รวม: 56310 สาธุการ

 
คุณลูกพ่อหมื่นหาญเศิก:
ฝากถึงเครื่องแต่งกายของนางรำเซิ้งทำนานะ

คงไม่มีใครใส่เครื่องเพชร มงกุฏ 15 บาท และผ้าถุงสวยๆ  เสื้อสีฉูดฉาด

และเกาะอกไปทำนาหรอกครับ

นายใหญ่หลายท่านคงเห็นผลงานแต่ละปีแล้ว

จึงเปลี่ยนขบวนฟ้อนของปี 2553 เป็นโรงเรียนอื่น

คอยดูผลงานของโรงเรียนนี้ให้ดี

ว่าไม่เคยยอมแพ้ใคร

ทำดีแล้วไผบ่เห็นกะตามซ่าง

ทำซั่วแล้วไผสิย้องกะซ่างตาม


>>การแสดงก้อคือการแสดง..วิถีก้อคือวิถี...การจะเอาวิถีมาเสนอตรงๆมันไม่ค่อยน่าสนใจ...อีกอย่างการแสดงในขบวนขนาดนี้ก้อต้องการจุดสนใจ...ส่วนการแต่งกายของแม่เป้ง...มันก้อเป็นมติในชุมนุมกับอาจารย์ผู้ใหญ่หลายๆๆ ท่าน..การที่กล่าวล่วงขนาดนี้ก้อแสดงว่า ไม่เคารพการตัดสินใจของผู้ใหญ่...ผมก้อครูคนนึงที่คิดสร้างสรรค์ในงานนั้น...จะติทั้งทีก้อต้องหาแนวทาง..หรือแสนอแนะทางออกให้เค้าด้วย..ไม่ใช่ติไปส่งๆ...คนเรามันก้อมีพลาดกันได้..แต่จะคุณจะเป็นมือที่ฉุดเค้าขึ้นหรือเปล่าหละ...แต่เท่าที่ดูมีแต่จะกระทืบซ้ำนะ เหอๆๆ

 
 
สาธุการบทความนี้ : 170 ครั้ง
จากสมาชิก : 0 ครั้ง
จากขาจร : 170 ครั้ง
 
 
  13 พ.ค. 2553 เวลา 13:38:00  
   ขึ้นบน ลงล่าง  
 
         

  หน้า: 1

   

Creative Commons License
งานกาชาดดอกฝ้ายบานมะขามหวานเมืองเลย ประจำปี2552 --- เว็บบอร์ดอีสานจุฬาฯ