ผญา คติสอนใจประจำวันที่ 26 เมษายน 2568:: อ่านผญา 
คันได้ขึ้นเฮือแล้ว อย่าลืมแพป้องไม้ไผ่ คันได้เป็นใหญ่แล้ว อย่าลืมข้าผู้พลอย แปลว่า ได้ขึ้นเรือแล้ว อย่าลืมแพไม้ไผ่ ถ้าได้เป็นใหญ่แล้ว อย่าลืมข้าทาสบริวาร หมายถึง ได้ดีแล้วอย่าลืมตัว อย่าลืมผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จ


  ค้นหาสาธุการ ปลาร้านอกไห  

หน้า: 1 2  
  โพสต์โดย   12) ศรีสะเกษ  
  หนหวย    คห.ที่150)       [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]  
  ศิษย์พี่

ภูมิลำเนา : ศรีสะเกษ
เข้าร่วม : 28 พ.ค. 2552
รวมโพสต์ : 77
ให้สาธุการ : 25
รับสาธุการ : 188750
รวม: 188775 สาธุการ

 


ดอกนมแมวเก็บตอนเย็นจะหอมมากยิ่งหาใบไม้ชื่อใบตองเลือดมาหอแบบทำเป็นรูปกรวยจะหอมยิ่งขึ้

 
 
สาธุการบทความนี้ : 822 ครั้ง
จากสมาชิก : 0 ครั้ง
จากขาจร : 822 ครั้ง
 
 
  05 ส.ค. 2552 เวลา 13:50:13  
   ขึ้นบน ลงล่าง  
 
         

  โพสต์โดย   12) ศรีสะเกษ  
  หนหวย    คห.ที่111)       [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]  
  ศิษย์พี่

ภูมิลำเนา : ศรีสะเกษ
เข้าร่วม : 28 พ.ค. 2552
รวมโพสต์ : 77
ให้สาธุการ : 25
รับสาธุการ : 188750
รวม: 188775 สาธุการ

 


หมากเล็บแมว ภาคกลางเอินเล็บเหยี่ยว สุกสีดำๆนี้กะแซปเป็นยาระบายดีคัก

 
 
สาธุการบทความนี้ : 650 ครั้ง
จากสมาชิก : 0 ครั้ง
จากขาจร : 650 ครั้ง
 
 
  29 พ.ค. 2552 เวลา 12:09:06  
   ขึ้นบน ลงล่าง  
 
         

  โพสต์โดย   5) นครราชสีมา  
  หนหวย    คห.ที่15)       [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]  
  ศิษย์พี่

ภูมิลำเนา : ศรีสะเกษ
เข้าร่วม : 28 พ.ค. 2552
รวมโพสต์ : 77
ให้สาธุการ : 25
รับสาธุการ : 188750
รวม: 188775 สาธุการ

 
ไป๋เที่ยวบ้านฉันเดิ้งเด้อ  จิเจอของดี9อย่าง
ฉันฉิว่าให้ฟัง
หนึ่งอย่างคือ(1)อ้อยคันร่ม
อีกอย่างก็(2)ส้มขี้ม้า
มี(3)ผ้าหางกระรอก
(4)แมวดีศรีแมวโคราช
ผุดผาดเป็น(5)เมืองหญิงกล้า
(6)ผ้าไหมเมืองปักเนื้อดี
แวะไปกิน(7)หมี่กระโทก
แล้วไป๋เที่ยว(8)ปราสาทหิน
แวะไปปั้น(9)ดินด่านเกวียน

โคราชา โคราชา ราชาของโคทั้งปวง
โคราชา โคราชา ราชาของโคทั้งปวง......



"วาสนาเฮาบ่สมสาวกรุง
เธอตัวสูงฉันเตี้ย
เรามันไม่ใช่อาเสี่ย
เลยต้องกลับโคราชบ้านเอง
ไปพ้อสาวโคปลากั๊ก
ไปรักสาวกุดปลาเข็ง
ถูกตาแทะอีนางคนเก่ง
อดใจไม่ไหวอยากต้อย
เลยปลูกมะนาวหน่วยโหน่ง
ให้กิ่งมันโน้มมาหน่อย
อิแม่มะนาวหน่วยน้อย
จะเคล้าแทนโนมหน้านวล.....

โคราชา โคราชา ราชาของโคทั้งปวง
โคราชา โคราชา ราชาของโคทั้งปวง......

 
 
สาธุการบทความนี้ : 612 ครั้ง
จากสมาชิก : 0 ครั้ง
จากขาจร : 612 ครั้ง
 
 
  29 พ.ค. 2552 เวลา 22:48:21  
   ขึ้นบน ลงล่าง  
 
         

  โพสต์โดย   6) มาเว้าผญากันเด้อพี่น้องเด้อ  
  หนหวย    คห.ที่1081) พึ่งพาอาศัย      [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]  
  ศิษย์พี่

ภูมิลำเนา : ศรีสะเกษ
เข้าร่วม : 28 พ.ค. 2552
รวมโพสต์ : 77
ให้สาธุการ : 25
รับสาธุการ : 188750
รวม: 188775 สาธุการ

 
บัวอาศัยเซิงน้ำ       ปลาเพิ่งวังตม
ไพร่กับนาย            ก็เพิ่งกันโดยด้าม
อันว่าเสือสางช้าง    กวางฟานอาศัยป่า
ป่าก็อาศัยสิ่งฮ้าย    จึ่งหนาแน่นมืดมุ้ง
เฮาอาศับเซิงบ้าน    บ้านก็เพิ่มบุญ้ฮา
ครันหากเฮาหนีเสีย  สิเกิดเป็นดงไม้
ครันเฮาหนีไกลบ้าน  เฮือนชานสิเป็นป่า
บ้านสิเป็นเหล่าเฮื้อ   เครือสิเกี้ยวมืดมุง
เฮาอาศัยพวกพ้อง    น้องนุ่งสหายเกลอ
เขากะอาศัยเฮา       จั่งสิเป็นเมืองบ้าน
คนหากอาศัยอยู่ด้วย  ต้อนคนให้เป็นหมู่
บ่มีไผ๋อยู่ยั้ง            ท่อนท้อแต่ผู้เดียง ได้แหล้ว...

 
 
สาธุการบทความนี้ : 594 ครั้ง
จากสมาชิก : 1 ครั้ง
จากขาจร : 593 ครั้ง
 
 
  21 ส.ค. 2552 เวลา 08:49:29  
   ขึ้นบน ลงล่าง  
 
         

  โพสต์โดย   12) ศรีสะเกษ  
  หนหวย    คห.ที่107)       [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]  
  ศิษย์พี่

ภูมิลำเนา : ศรีสะเกษ
เข้าร่วม : 28 พ.ค. 2552
รวมโพสต์ : 77
ให้สาธุการ : 25
รับสาธุการ : 188750
รวม: 188775 สาธุการ

 


หมากตองแลง หน่วยสุกออกหวานแต่เนื้อมันน้อย

 
 
สาธุการบทความนี้ : 581 ครั้ง
จากสมาชิก : 0 ครั้ง
จากขาจร : 581 ครั้ง
 
 
  29 พ.ค. 2552 เวลา 12:04:51  
   ขึ้นบน ลงล่าง  
 
         

  โพสต์โดย   12) ศรีสะเกษ  
  หนหวย    คห.ที่104)       [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]  
  ศิษย์พี่

ภูมิลำเนา : ศรีสะเกษ
เข้าร่วม : 28 พ.ค. 2552
รวมโพสต์ : 77
ให้สาธุการ : 25
รับสาธุการ : 188750
รวม: 188775 สาธุการ

 


หมากบก เอางัวไปเลี้ยงท่ง หรือโคกปล่อยให้มันกินหน่วยสุกหมากบกกะไล่เข้าคอพอมันขี้ออกกะไปเก็บเอาหมากบกหลอนในขี้งัวแห้ง ผ่าง่าย

 
 
สาธุการบทความนี้ : 534 ครั้ง
จากสมาชิก : 0 ครั้ง
จากขาจร : 534 ครั้ง
 
 
  29 พ.ค. 2552 เวลา 12:00:53  
   ขึ้นบน ลงล่าง  
 
         

  โพสต์โดย   12) ศรีสะเกษ  
  หนหวย    คห.ที่100)       [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]  
  ศิษย์พี่

ภูมิลำเนา : ศรีสะเกษ
เข้าร่วม : 28 พ.ค. 2552
รวมโพสต์ : 77
ให้สาธุการ : 25
รับสาธุการ : 188750
รวม: 188775 สาธุการ

 


หมากอีโก่ยดำอีโก่ยเขียวคล้ายๆกับองุ่นที่เฮาฮูจัก

 
 
สาธุการบทความนี้ : 504 ครั้ง
จากสมาชิก : 0 ครั้ง
จากขาจร : 504 ครั้ง
 
 
  29 พ.ค. 2552 เวลา 11:49:35  
   ขึ้นบน ลงล่าง  
 
         

  โพสต์โดย   12) ศรีสะเกษ  
  หนหวย    คห.ที่103)       [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]  
  ศิษย์พี่

ภูมิลำเนา : ศรีสะเกษ
เข้าร่วม : 28 พ.ค. 2552
รวมโพสต์ : 77
ให้สาธุการ : 25
รับสาธุการ : 188750
รวม: 188775 สาธุการ

 


หมาเม่าเอามาตำมกะแซปหน่วยสุกเอามาเฮ็ดไวท์กะแซปวิตามิน Cสูง

 
 
สาธุการบทความนี้ : 503 ครั้ง
จากสมาชิก : 0 ครั้ง
จากขาจร : 503 ครั้ง
 
 
  29 พ.ค. 2552 เวลา 11:58:27  
   ขึ้นบน ลงล่าง  
 
         

  โพสต์โดย   12) ศรีสะเกษ  
  หนหวย    คห.ที่96)       [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]  
  ศิษย์พี่

ภูมิลำเนา : ศรีสะเกษ
เข้าร่วม : 28 พ.ค. 2552
รวมโพสต์ : 77
ให้สาธุการ : 25
รับสาธุการ : 188750
รวม: 188775 สาธุการ

 


สบายดีพี่น้องศรีสะเกษ บ่ได้เมื่อบ้านโดนแล้ว  คึดฮอดบ้าน
  
"ผู้ได๋ว่าอีสานแล้งอยากจูงแขนมันไปเบิ่ง วัฒนธรรมยังโจ้โกมันสิแล้งได้จั่งได๋"

 
 
สาธุการบทความนี้ : 497 ครั้ง
จากสมาชิก : 0 ครั้ง
จากขาจร : 497 ครั้ง
 
 
  29 พ.ค. 2552 เวลา 11:19:42  
   ขึ้นบน ลงล่าง  
 
         

  โพสต์โดย   12) ศรีสะเกษ  
  หนหวย    คห.ที่109)       [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]  
  ศิษย์พี่

ภูมิลำเนา : ศรีสะเกษ
เข้าร่วม : 28 พ.ค. 2552
รวมโพสต์ : 77
ให้สาธุการ : 25
รับสาธุการ : 188750
รวม: 188775 สาธุการ

 


หมากเบนผ่าออก

 
 
สาธุการบทความนี้ : 461 ครั้ง
จากสมาชิก : 0 ครั้ง
จากขาจร : 461 ครั้ง
 
 
  29 พ.ค. 2552 เวลา 12:06:12  
   ขึ้นบน ลงล่าง  
 
         

  โพสต์โดย   12) ศรีสะเกษ  
  หนหวย    คห.ที่110)       [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]  
  ศิษย์พี่

ภูมิลำเนา : ศรีสะเกษ
เข้าร่วม : 28 พ.ค. 2552
รวมโพสต์ : 77
ให้สาธุการ : 25
รับสาธุการ : 188750
รวม: 188775 สาธุการ

 


หมากหว้านี้นก บางต้นกะหวานบางต้นกะฝาด ต่างกันกับบักฮวดฆ่าบางคนกะเอินสลับกัน

 
 
สาธุการบทความนี้ : 450 ครั้ง
จากสมาชิก : 0 ครั้ง
จากขาจร : 450 ครั้ง
 
 
  29 พ.ค. 2552 เวลา 12:07:39  
   ขึ้นบน ลงล่าง  
 
         

  โพสต์โดย   12) ศรีสะเกษ  
  หนหวย    คห.ที่106)       [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]  
  ศิษย์พี่

ภูมิลำเนา : ศรีสะเกษ
เข้าร่วม : 28 พ.ค. 2552
รวมโพสต์ : 77
ให้สาธุการ : 25
รับสาธุการ : 188750
รวม: 188775 สาธุการ

 


หมากคายข้าวคล้ายๆหมากผีผ่วนแต่หน่วยสิน้อยกว่า บ่ค่อยมักกินกับบ่อแซป

 
 
สาธุการบทความนี้ : 438 ครั้ง
จากสมาชิก : 0 ครั้ง
จากขาจร : 438 ครั้ง
 
 
  29 พ.ค. 2552 เวลา 12:04:01  
   ขึ้นบน ลงล่าง  
 
         

  โพสต์โดย   12) ศรีสะเกษ  
  หนหวย    คห.ที่105)       [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]  
  ศิษย์พี่

ภูมิลำเนา : ศรีสะเกษ
เข้าร่วม : 28 พ.ค. 2552
รวมโพสต์ : 77
ให้สาธุการ : 25
รับสาธุการ : 188750
รวม: 188775 สาธุการ

 


หมากฮวดฆ่า ต้นนี้สิมีแมงแคนนำระหวังเงี่ยวมันสิเข้าตา แมงแคนเอามาคั่วกะแซป

 
 
สาธุการบทความนี้ : 413 ครั้ง
จากสมาชิก : 0 ครั้ง
จากขาจร : 413 ครั้ง
 
 
  29 พ.ค. 2552 เวลา 12:02:49  
   ขึ้นบน ลงล่าง  
 
         

  โพสต์โดย   12) ศรีสะเกษ  
  หนหวย    คห.ที่102)       [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]  
  ศิษย์พี่

ภูมิลำเนา : ศรีสะเกษ
เข้าร่วม : 28 พ.ค. 2552
รวมโพสต์ : 77
ให้สาธุการ : 25
รับสาธุการ : 188750
รวม: 188775 สาธุการ

 


หมากเม็ก เก็บใบอ่อนมากินแกล้มกุ้งเต้นหรือว่าก้อยหัวหอยกะแซป

 
 
สาธุการบทความนี้ : 411 ครั้ง
จากสมาชิก : 0 ครั้ง
จากขาจร : 411 ครั้ง
 
 
  29 พ.ค. 2552 เวลา 11:56:39  
   ขึ้นบน ลงล่าง  
 
         

  โพสต์โดย   6) มาเว้าผญากันเด้อพี่น้องเด้อ  
  หนหวย    คห.ที่980) กะยังว่า (ผู้เฒ่า)      [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]  
  ศิษย์พี่

ภูมิลำเนา : ศรีสะเกษ
เข้าร่วม : 28 พ.ค. 2552
รวมโพสต์ : 77
ให้สาธุการ : 25
รับสาธุการ : 188750
รวม: 188775 สาธุการ

 
เฒ่าแก่แล้วกะคืออยากแกงหนัง
หัวใจยังคึดอยากสาวส่ำน้อย
เฒ่ากะเฒ่าแต่หัวตัวตนกะยังหนุ่ม
เฒ่ากะเฒ่าแต่แข่วแนวนั้นแฮงไว

 
 
สาธุการบทความนี้ : 407 ครั้ง
จากสมาชิก : 2 ครั้ง
จากขาจร : 405 ครั้ง
 
 
  29 พ.ค. 2552 เวลา 16:25:31  
   ขึ้นบน ลงล่าง  
 
         

  โพสต์โดย   12) ศรีสะเกษ  
  หนหวย    คห.ที่128) บุคคลสำคัญในอดีต      [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]  
  ศิษย์พี่

ภูมิลำเนา : ศรีสะเกษ
เข้าร่วม : 28 พ.ค. 2552
รวมโพสต์ : 77
ให้สาธุการ : 25
รับสาธุการ : 188750
รวม: 188775 สาธุการ

 


   - ขออนุญาติเผ่ยแพร่บุคลสำคัญในอดีตของจังหวัดศรีสะเกษเผื่อหลายๆท่านที่ยังไม่ได้อ่าน ที่มาจาก :
http://intranet.m-culture.go.th/sisaket/somkunb.htm


หลวงคงคณานุการ (แฉล้ม สมิตะมาน)
     หลวงคงคณานุการ อดีตนายอำเภอราษีไศล เมื่อ พ.ศ. ๒๔๖๑ - ๒๔๖๔ ครั้งที่ ๒ เมื่อ พ.ศ. ๒๔๖๖ – ๒๔๗๘ ท่านเกิดเมื่อวันที่ ๒๒ เมษายน ๒๔๓๘
ภรรยาท่านคือ นางรำพัน สมิตะมาน สำเร็จการศึกษาโรงเรียนข้าราชการพลเรือน (ต่อมาเป็นจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย) และโรงเรียนกฎหมาย กระทรวงยุติธรรม  
ระหว่าง พ.ศ. ๒๔๕๓ – ๒๔๕๘ เริ่มรับราชการมหาดเล็กรายงานมณฑลอุบลราชธานี พ.ศ. ๒๔๕๘ และเป็นนายอำเภอคง จังหวัดขุขันธ์ เมื่อวันที่ ๑ กรกฎาคม ๒๔๖๑
ต่อมาได้ย้ายไปเป็นนายอำเภอเมืองร้อยเอ็ด นายอำเภอบางกะปิ จังหวัดพระนคร และปลัดจังหวัดกระบี่ในที่สุด
ผลงานในการพัฒนาท้องถิ่นในจังหวัดศรีสะเกษ คือ การจัดรูปผังเมือง การตัดถนนให้เชื่อมกับหมู่บ้าน
ผลงานด้านการปกครอง เช่น ออกตรวจท้องที่ปราบปรามโจรผู้ร้าย ให้บำเหน็จความชอบตอบแทนแก่กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ที่ทำงานปฏิบัติงานดี การประชุมกำนัน
ผู้ใหญ่บ้าน วิธีจับโจรผู้ร้าย ในเขตอำเภอ การตั้งและแก้นามสกุล การปักเขตแดนที่สาธารณะประจำตำบลในหมู่บ้าน การริเริ่มให้มี ตัวแทนแม่บ้านและผู้ช่วยแม่บ้าน
ผลงานด้านการศึกษา เช่น ขยายการศึกษา การจับจองที่ดินไว้ใช้ประโยชน์ทางการศึกษา ณ บริเวณโรงเรียนบ้านท่าโพธิ์ฯ โรงเรียนราษีไศล ประมาณ ๓๐๐ ไร่
การพัฒนาตัวครู การจัดให้โรงเรียนร่วมกับวัดและหมู่บ้าน จัดห้องสมุดให้ชาวบ้านอ่านหนังสือและการลูกเสือ การออกตรวจโรงเรียน
ผลงานด้านศาสนา เช่น บูรณะปฏิสังขรพระพุทธศาสนา พระพุทธบาทจำลองที่ตำบลส้มป่อย ปฏิสังขรณ์วัดต่าง ๆ สร้างพระไตรปิฏก จัดทำบุญ  ตามประเพณีท้องถิ่น
ผลงานด้านศิลปะการดนตรี ตั้งวงแคน ส่งเสริมศิลปะพื้นบ้าน
ผลงานด้านอื่น ๆ เช่น สร้างบ้านพักข้าราชการ จัดเมล์ตำบล การเก็บหนังสือราชการ
ลักษณะเด่นประจำตัว เช่น ซื่อสัตย์ ประหยัด ยกย่องครู มีความกตัญญูกตเวที

หลวงคงคุณานุการ นับเป็นบุคคลสำคัญที่เป็นแบบอย่างในการพัฒนาท้องถิ่นในฐานะผู้ริเริ่มและวางแนวทางปฏิบัติหลายอย่างแก่ทางราชการ และ ได้นำมาใช้
จนถึงปัจจุบันนี้

 
 
สาธุการบทความนี้ : 387 ครั้ง
จากสมาชิก : 0 ครั้ง
จากขาจร : 387 ครั้ง
 
 
  15 มิ.ย. 2552 เวลา 16:22:36  
   ขึ้นบน ลงล่าง  
 
         

  โพสต์โดย   12) ศรีสะเกษ  
  หนหวย    คห.ที่145) บรรยากาศแบบบ้านๆ      [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]  
  ศิษย์พี่

ภูมิลำเนา : ศรีสะเกษ
เข้าร่วม : 28 พ.ค. 2552
รวมโพสต์ : 77
ให้สาธุการ : 25
รับสาธุการ : 188750
รวม: 188775 สาธุการ

 


ส่วนี้ดอกลำดวนแดง พบเมื่อปี2537 โ

 
 
สาธุการบทความนี้ : 346 ครั้ง
จากสมาชิก : 1 ครั้ง
จากขาจร : 345 ครั้ง
 
 
  05 ส.ค. 2552 เวลา 13:39:04  
   ขึ้นบน ลงล่าง  
 
         

  โพสต์โดย   12) ศรีสะเกษ  
  หนหวย    คห.ที่146) บรรยากาศแบบบ้านๆ      [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]  
  ศิษย์พี่

ภูมิลำเนา : ศรีสะเกษ
เข้าร่วม : 28 พ.ค. 2552
รวมโพสต์ : 77
ให้สาธุการ : 25
รับสาธุการ : 188750
รวม: 188775 สาธุการ

 


ต้นลำดวนโดยปกติจะมีสีเหลืองนวล แต่ปัจจุบันพบว่ามีต้นที่ให้ดอกสีแดง ซึ่งเกิดจากกลายกลายพันธุ์ รายละเอียดข้อมูลต้นลำดวนและลำดวนแดง มีดังนี้ครับ
ลำดวน
ชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Melodorum fruticosum Lour. วงศ์ Annonaceae
ชื่อพื้นเมือง อื่นๆ เช่น หอมนวล (เหนือ) ลำดวนดง (จันทบุรี) และ หามโจน (อีสาน)
ลำดวน เป็นพันธุ์ไม้พื้นเมืองที่ร่มรื่น เขียวชะอุ่มตลอดปี ชอบขึ้นในที่ดอน ตามธรรมชาติ และมีน้ำล้อมรอบ มีรูปทรงทั้งต้นและใบเป็นพุ่มที่สวยงาม สูงประมาณ 3-8 เมตร
ใบสีเขียวคล้ำ ผิวลำต้นเกลี้ยงไม่มีขน กิ่งอ่อน ที่แตกใหม่มีสีเขียวอ่อนใบคล้ายใบนมแมว โคนใบและปลายใบแหลม ผิวใบเรียบเกลี้ยง ปลายใบม้วนเข้าหากันเล็กน้อย
ดอกเป็นดอกเดี่ยว สีเหลืองนวล กลีบนอกสามกลีบล้อมกลีบในสามกลีบ ขนาดโตกว่าดอกนมแมวเล็กน้อย (ยกเว้นต้นที่ค้นพบใหม่) กลิ่นหอมยามเย็น จะเริ่มบานปลายเดือนกุมภาพันธ์ถึงเดือนเมษายน ผลมีรสหวานอมเปรี้ยว เด็ก ๆ ชอบรับประทาน
การขยายพันธุ์ด้วยเมล็ด จึงมักจะพบ ต้นอ่อนงอกตามโคนต้น หรือแตกหน่อจากราก แต่ไม่ควรเก็บเมล็ดไว้นานเพราะเปอร์เซ็นต์ความงอกจะต่ำ หรืออาจขยายพันธุ์โดยการตอนกิ่ง ทาบกิ่ง หรือ เปลี่ยนยอด
ลำดวนเป็นไม้ประดับและไม้หอม มีสรรพคุณทางสมุนไพรคือเกสรใช้เป็นยาบำรุงหัวใจ บำรุงกำลัง และบำรุงโลหิต ดอกลำดวนเป็นสัญลักษณ์ของผู้สูงอายุสากล และยังใช้เป็นสัญลักษณ์ของผู้สูงอายุแห่งชาติอีกด้วย
การค้นพบดอกลำดวนสีแดง
จากรายงานของ หนังสือ กสิกร (2537) กล่าวว่า "เมื่อกลางเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2536 คมกริช ยอดแก้ว รับราชการครูอยู่ที่โรงเรียนประชาพัฒนศึกษา ตำบลอีหล่ำ อำเภอเมืองอุทุมพรพิสัย จังหวัดศรีสะเกษ ประสงค์จะถ่ายภาพดอกลำดวนอันเป็นดอกไม้ประจำจังหวัดศรีสะเกษ เพื่อทำบัตรอวยพรในปี พ.ศ. 2537 จึงเดินค้นหาดอกลำดวนที่มีรูปทรงสวยงามสมบูรณ์ และอยู่ไม่สูงจากพื้นเท่าใดนักจากสวนป่าภายในบริเวณโรงเรียน"
"จากการค้นหาต้นลำดวนในสวนป่าเกือบสองร้อยต้น ปรากฎว่ามีอยู่เพียงต้นเดียวเท่านั้นที่มีดอกสีแดง ต้นลำดวนต้นนี้สูงประมาณ 5 เมตร เส้นผ่าศูนย์กลางลำต้นประมาณ 5 เซนติเมตร และขึ้นแทรกอยู่ระหว่างต้นลำดวนสีเหลืองต้นอื่น ๆ จึงได้ถ่ายภาพไว้ในระยะใกล้ (เฉพาะดอกและใบ) กิ่งที่มีดอก และทั้งต้น"
"เมื่อล้างฟิลม์และขยายภาพเสร็จแล้ว นำภาพดอกลำดวนสีแดงรายงานผู้บังคับบัญชา คือ นายโกสิน พลศักดิ์ อาจารย์ใหญ่ (ตำแหน่งในขณะนั้น) ท่านจึงสั่งให้นักการภารโรงขยายพันธุ์โดยวิธีตอนกิ่ง แต่ก็ยังไม่ได้ผล เพราะกิ่งนั้นเน่าและกำลังหาวิธีขยายพันธุ์วิธีอื่นอยู่"
"ต้นปี 2537 คมกริช ยอดแก้ว ได้ออกสำรวจหาต้นลำดวนที่มีดอกสีแดงตามสวนสมเด็จศรีนครินทร์ศรีสะเกษ ซึ่งเป็นสถานที่ที่มีต้นลำดวนมากที่สุดในโลก (ประมาณ 40,000 ต้น) แต่ก็ไม่พบ คงพบแต่สีเหลืองนวลเท่านั้น"

 
 
สาธุการบทความนี้ : 345 ครั้ง
จากสมาชิก : 1 ครั้ง
จากขาจร : 344 ครั้ง
 
 
  05 ส.ค. 2552 เวลา 13:40:14  
   ขึ้นบน ลงล่าง  
 
         

  โพสต์โดย   6) มาเว้าผญากันเด้อพี่น้องเด้อ  
  หนหวย    คห.ที่1072) เบื่อการเมือง      [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]  
  ศิษย์พี่

ภูมิลำเนา : ศรีสะเกษ
เข้าร่วม : 28 พ.ค. 2552
รวมโพสต์ : 77
ให้สาธุการ : 25
รับสาธุการ : 188750
รวม: 188775 สาธุการ

 
   นักการเมืองทุกมื้อนี้ไกลห่างคุณธรรม
เข้าไปนั่งในสภาหวังแต่กินเมืองบ้าน
บ่มีกลัวเกรงย้านปวงประชาสิเห็นเงื่อน
พากันเวียนเปลี่ยนเข้าถ่าเป็นเจ้านั่งกิน
   พวกที่ใส่เสื้อนอกมีนามท่าน ส.ส.
นั่งชูคอในสภาถ่าเอาแต่เงินล้าน
บ่คิดอ่านการสร้างแปรงเมื่องให้เฮืองฮุ้ง
เพราะใจเขามาดมุ่งหาเงินล้านใส่กระเป๋า
   เป็นตาชังตั้งแต่พวกเยื้อแย่งรัฐมนตรี
กัดกันเองในสภาปานกันกับหมาว้อ
บ้างพอมีเงินทุ่ม บ้างกะลุ่มคือหมาหมู่
เบิ่งเอาดูพี่น้องบ่สนปากท้องของหมู่เฮา
   บ้านเมืองเกิดเดือดฮ้อนหย้อนคนห่างศีลธรรม
ใจบ่อนำคำสอนพุทธองค์มาใช้
มีแต่พาโลฮ้ายเห็นแก่โตใจต่ำ
คำพุทธองค์บอกไว้บ่น้อมไว้ใส่มะโน

 
 
สาธุการบทความนี้ : 343 ครั้ง
จากสมาชิก : 1 ครั้ง
จากขาจร : 342 ครั้ง
 
 
  06 ส.ค. 2552 เวลา 00:26:33  
   ขึ้นบน ลงล่าง  
 
         

  โพสต์โดย   12) ศรีสะเกษ  
  หนหวย    คห.ที่144) บรรยากาศแบบบ้านๆ      [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]  
  ศิษย์พี่

ภูมิลำเนา : ศรีสะเกษ
เข้าร่วม : 28 พ.ค. 2552
รวมโพสต์ : 77
ให้สาธุการ : 25
รับสาธุการ : 188750
รวม: 188775 สาธุการ

 


นำมาร้อยพวงมาลัยหอมสวย สมัยก่อนปีนไปเก็บดอกลำดวนมาให้แม่กับยายร้อยพวงมาลัย

 
 
สาธุการบทความนี้ : 340 ครั้ง
จากสมาชิก : 1 ครั้ง
จากขาจร : 339 ครั้ง
 
 
  05 ส.ค. 2552 เวลา 13:37:48  
   ขึ้นบน ลงล่าง  
 
         

  โพสต์โดย   12) ศรีสะเกษ  
  หนหวย    คห.ที่133) บุคคลสำคัญในอดีต      [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]  
  ศิษย์พี่

ภูมิลำเนา : ศรีสะเกษ
เข้าร่วม : 28 พ.ค. 2552
รวมโพสต์ : 77
ให้สาธุการ : 25
รับสาธุการ : 188750
รวม: 188775 สาธุการ

 
  - ขออนุญาติเผ่ยแพร่บุคลสำคัญในอดีตของจังหวัดศรีสะเกษเผื่อหลายๆท่านที่ยังไม่ได้อ่าน ที่มาจาก :
http://intranet.m-culture.go.th/sisaket/somkunb.htm


นายสวัสดิ์ มหาผล
     นายสวัสดิ์  มหาผล  เกิดเมื่อปี พ.ศ. ๒๔๕๔ เป็นบุตรคนแรกของนายผึ้ง – นางพวง มหาผล มีพี่น้องร่วมบิดามารดา ๙ คน เริ่มการศึกษาเบื้องต้น ที่จังหวัดศรีสะเกษ
และได้เดินทางไปศึกษาที่กรุงเทพมหานคร เมื่ออายุ ๑๐ ขวบ โดยต้องเดินทางด้วยเกวียนจากจังหวัดศรีสะเกษ ถึงจังหวัดนครราชสีมา ใช้เวลาเดินทาง ๑๒ วัน จึงขึ้นรถไฟ
ต่อไปยังกรุงเทพมหานคร เข้าเป็นนักเรียนประจำของโรงเรียนอัสสัมชัญ ๓ ปี แล้วย้ายไปเรียนที่  โรงเรียนแซนต์คราเบรียล จนจบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๘ คุณพ่อต้องการให้
เรียนแพทย์เพื่อกลับมาช่วยชาวศรีสะเกษ สามารถสอบเข้าศึกษาแพทย์ และสอบชิงทุนไปศึกษาวิชาวนศาสตร์ที่ประเทศพม่าได้พร้อมกัน จึงตัดสินใจเรียนวนศาสตร์
จนกระทั่งสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี และกลับมารับราชการในกรมป่าไม้ โดยใช้ชีวิตราชการอยู่ในเขตภาคเหนือทั้งหมด ตำแหน่งสุดท้ายในชีวิตราชการ เป็นป่าไม้
เขตภาคเหนือ แล้วลาออกมา ทำงานที่องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ในตำแหน่งผู้อำนวยการองค์การป่าไม้ภาคเหนือ ได้รับการโปรดเกล้าฯ ให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการ
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในสมัยของจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ เป็นนายกรัฐมนตรี ปี พ.ศ. ๒๕๐๑ ผลงานเด่น คือ โครงการพิทักษ์สิ่งแวดล้อม โดยได้เริ่มพระราชบัญญัติ
อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่เป็นแห่งแรก และขยายงานด้านป่าสงวนออกไปทั่วประเทศ เป็นผลให้สามารถรักษาเนื้อที่ป่าของประเทศไทยส่วนหนึ่งไว้ได้จนถึงปัจจุบัน

 
 
สาธุการบทความนี้ : 331 ครั้ง
จากสมาชิก : 0 ครั้ง
จากขาจร : 331 ครั้ง
 
 
  15 มิ.ย. 2552 เวลา 16:30:11  
   ขึ้นบน ลงล่าง  
 
         

  โพสต์โดย   12) ศรีสะเกษ  
  หนหวย    คห.ที่139) เทศกาล เงาะ ทุเรียนฯ วันสุดท้าย      [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]  
  ศิษย์พี่

ภูมิลำเนา : ศรีสะเกษ
เข้าร่วม : 28 พ.ค. 2552
รวมโพสต์ : 77
ให้สาธุการ : 25
รับสาธุการ : 188750
รวม: 188775 สาธุการ

 


เทศกาลเงาะ ทุเรียน และของดีศรีสะเกษ วันนี้เป็นวันสุดท้ายใครได้ไปดูกด็เก็บบรรยากาศมาฝากด้วยครับ

 
 
สาธุการบทความนี้ : 330 ครั้ง
จากสมาชิก : 0 ครั้ง
จากขาจร : 330 ครั้ง
 
 
  09 ก.ค. 2552 เวลา 14:46:44  
   ขึ้นบน ลงล่าง  
 
         

  โพสต์โดย   12) ศรีสะเกษ  
  หนหวย    คห.ที่130) บุคคลสำคัญในอดีต      [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]  
  ศิษย์พี่

ภูมิลำเนา : ศรีสะเกษ
เข้าร่วม : 28 พ.ค. 2552
รวมโพสต์ : 77
ให้สาธุการ : 25
รับสาธุการ : 188750
รวม: 188775 สาธุการ

 


  - ขออนุญาติเผ่ยแพร่บุคลสำคัญในอดีตของจังหวัดศรีสะเกษเผื่อหลายๆท่านที่ยังไม่ได้อ่าน ที่มาจาก :
http://intranet.m-culture.go.th/sisaket/somkunb.htm





ขุนพิเคราะห์คดี (อินทร์ อินตะนัย)
      สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรคนแรกของจังหวัดศรีสะเกษ ที่ผ่านการเลือกตั้งโดยทางอ้อม เมื่อวันที่ ๑ ธันวาคม ๒๔๗๖ และเป็นนักอภิปรายเป็นที่ยอมรับในสภาผู้แทนราษฎร

 
 
สาธุการบทความนี้ : 326 ครั้ง
จากสมาชิก : 1 ครั้ง
จากขาจร : 325 ครั้ง
 
 
  15 มิ.ย. 2552 เวลา 16:25:26  
   ขึ้นบน ลงล่าง  
 
         

  โพสต์โดย   12) ศรีสะเกษ  
  หนหวย    คห.ที่114)       [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]  
  ศิษย์พี่

ภูมิลำเนา : ศรีสะเกษ
เข้าร่วม : 28 พ.ค. 2552
รวมโพสต์ : 77
ให้สาธุการ : 25
รับสาธุการ : 188750
รวม: 188775 สาธุการ

 


หมากตากบ(ตะขบภากกลาง)มีอยู่ทั่วไป เอาไว้เทื่อหน้าสิหามาฝากใหม่

 
 
สาธุการบทความนี้ : 323 ครั้ง
จากสมาชิก : 0 ครั้ง
จากขาจร : 323 ครั้ง
 
 
  29 พ.ค. 2552 เวลา 12:12:12  
   ขึ้นบน ลงล่าง  
 
         

  โพสต์โดย   12) ศรีสะเกษ  
  หนหวย    คห.ที่108)       [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]  
  ศิษย์พี่

ภูมิลำเนา : ศรีสะเกษ
เข้าร่วม : 28 พ.ค. 2552
รวมโพสต์ : 77
ให้สาธุการ : 25
รับสาธุการ : 188750
รวม: 188775 สาธุการ

 


หมากเบน กินกับพริกเกลือกะแซปแกล้มเหล้าขาว

 
 
สาธุการบทความนี้ : 315 ครั้ง
จากสมาชิก : 0 ครั้ง
จากขาจร : 315 ครั้ง
 
 
  29 พ.ค. 2552 เวลา 12:05:42  
   ขึ้นบน ลงล่าง  
 
         

  โพสต์โดย   12) ศรีสะเกษ  
  หนหวย    คห.ที่125) บุคคลสำคัญในอดีตเมืองขุขันธ์      [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]  
  ศิษย์พี่

ภูมิลำเนา : ศรีสะเกษ
เข้าร่วม : 28 พ.ค. 2552
รวมโพสต์ : 77
ให้สาธุการ : 25
รับสาธุการ : 188750
รวม: 188775 สาธุการ

 


   - ขออนุญาติเผ่ยแพร่บุคลสำคัญในอดีตของจังหวัดศรสะเกษเผื่อหลายๆท่านที่ยังไม่ได้อ่าน ที่มาจาก :
http://intranet.m-culture.go.th/sisaket/somkunb.htm





พระยาขุขันธ์ภักดีศรีนครลำดวน (ท้าวกิ่ง) เจ้าเมืองขุขันธ์ คนที่ ๗
     พระยาขุขันธ์ภักดีศรีนครลำดวน (ท้าวกิ่ง) เจ้าเมืองขุขันธ์คนที่ ๗ เดิมชื่อ ท้าวกิ่ง เป็นบุตรพระยาขุขันธ์ฯ (เชียงขันธ์) ได้รับโปรดเกล้าฯ
ให้เลื่อนบรรดาศักดิ์ เป็นพระยาขุขันธ์ภักดีศรีนครลำดวน เจ้าเมืองขุขันธ์ คนที่ ๗ แล้วโปรดเกล้าฯ ให้เลื่อนพระยกบัตร (ท้าวศรีเมือง)
เป็นพระยาภักดีภูธรสงครามปลัดเมือง ให้พระวิเศษ (ท้าวพิมพ์) เป็นพระแก้วมนตรี ยกบัตรเมืองขุขันธ์
     พระยาขุขันธ์ภักดีศรีนครลำดวน (ท้าวกิ่ง) ถึงแก่อนิจกรรมอยู่ในตำแหน่ง ๒ ปี (เนื่องจากเข้ารับตำแหน่งเมื่ออายุมากแล้ว)

 
 
สาธุการบทความนี้ : 315 ครั้ง
จากสมาชิก : 1 ครั้ง
จากขาจร : 314 ครั้ง
 
 
  15 มิ.ย. 2552 เวลา 16:15:00  
   ขึ้นบน ลงล่าง  
 
         

  โพสต์โดย   12) ศรีสะเกษ  
  หนหวย    คห.ที่112)       [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]  
  ศิษย์พี่

ภูมิลำเนา : ศรีสะเกษ
เข้าร่วม : 28 พ.ค. 2552
รวมโพสต์ : 77
ให้สาธุการ : 25
รับสาธุการ : 188750
รวม: 188775 สาธุการ

 


หมากดัน ตาห้วยหลาย

 
 
สาธุการบทความนี้ : 311 ครั้ง
จากสมาชิก : 0 ครั้ง
จากขาจร : 311 ครั้ง
 
 
  29 พ.ค. 2552 เวลา 12:09:58  
   ขึ้นบน ลงล่าง  
 
         

  โพสต์โดย   12) ศรีสะเกษ  
  หนหวย    คห.ที่121) บุคคลสำคัญในอดีตเมืองขุขันธ์      [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]  
  ศิษย์พี่

ภูมิลำเนา : ศรีสะเกษ
เข้าร่วม : 28 พ.ค. 2552
รวมโพสต์ : 77
ให้สาธุการ : 25
รับสาธุการ : 188750
รวม: 188775 สาธุการ

 


-ขออนุญาติเผ่ยแพร่บุคลสำคัญในอดีตของจังหวัดศรสะเกษเผื่อหลายๆท่านที่ยังไม่ได้อ่าน ที่มาจาก
http://intranet.m-culture.go.th/sisaket/somkunb.htm
พระยาขุขันธ์ภักดีศรีนครลำดวน (ท้าวบุญจันทร์) เจ้าเมืองขุขันธ์ คนที่ ๓
     พระยาขุขันธ์ภักดีศรีนครลำดวน คนที่ ๓ เดิมชื่อ ท้าวบุญจันทร์ เป็นบุตรเลี้ยงของพระยาขุขันธ์คนที่ ๒ (เชียงขันธ์) มารดาชื่อ นางคำเวียง
หญิงหม้าย ตระกูลสูงจากเวียงจันทร์  ได้รับโปรดเกล้าฯ เป็น "พระไกร"  ช่วยราชการเมือง หลังจากพระยาขุขันธ์ (เชียงขันธ์) ถูกจำคุกแล้ว
ทรงโปรดเกล้าฯ  เป็นพระยาขุขันธ์ภักดีศรีนครลำดวนเจ้าเมืองขุขันธ์ คนที่ ๓ สืบแทน พ.ศ. ๒๓๒๗
     ปี พ.ศ. ๒๓๔๙ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ทรงดำริว่า เมืองขุขันธ์ ได้ตามเสด็จทำศึกสงครามหลายครั้งมีความชอบ
ให้เมืองขุขันธ์  ขึ้นต่อกรุงเทพฯ โดยไม่ต้อง ขึ้นต่อเมืองพิมายอีกต่อไป  (ยกฐานะเมือง)
     ปี พ.ศ. ๒๓๖๙ ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๓ เกิดกบฏเจ้าอนุวงศ์กษัตริย์แห่งนครเวียงจันทน์ เป็นกบฏ
ยกทัพเข้าตีเมืองนครราชสีมา เจ้าโว้ (โอรสเจ้าอนุวงศ์) เจ้านครจำปาศักดิ์ยึดเมืองขุขันธ์ เมืองสังขะ เมืองสุรินทร์ จับพระยาขุขันธ์ (บุญจันทร์)
และกรมการเมือง ระดับผู้ใหญ่ เมืองขุขันธ์ประหารชีวิตหมดสิ้น ส่วนเจ้าเมืองสังขะ เจ้าเมืองสุรินทร์ พร้อมกรมการเมืองหนีไปได้  ต่อมา
กองทัพจากกรุงเทพฯ ยกขึ้นมาปราบกบฏได้สำเร็จ  จึงทำให้พระยาขุขันธ์ คนที่ ๓ ท้าวบุญจันทร์อยู่ในตำแหน่งเจ้าเมืองขุขันธ์ ๔๓ ปี  ทำให้
เมืองขุขันธ์ขาดเจ้าเมืองปกครองอยู่ระยะหนึ่ง

 
 
สาธุการบทความนี้ : 308 ครั้ง
จากสมาชิก : 0 ครั้ง
จากขาจร : 308 ครั้ง
 
 
  15 มิ.ย. 2552 เวลา 16:06:54  
   ขึ้นบน ลงล่าง  
 
         

  โพสต์โดย   12) ศรีสะเกษ  
  หนหวย    คห.ที่132) บุคคลสำคัญในอดีต      [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]  
  ศิษย์พี่

ภูมิลำเนา : ศรีสะเกษ
เข้าร่วม : 28 พ.ค. 2552
รวมโพสต์ : 77
ให้สาธุการ : 25
รับสาธุการ : 188750
รวม: 188775 สาธุการ

 


  - ขออนุญาติเผ่ยแพร่บุคลสำคัญในอดีตของจังหวัดศรีสะเกษเผื่อหลายๆท่านที่ยังไม่ได้อ่าน ที่มาจาก :
http://intranet.m-culture.go.th/sisaket/somkunb.htm




นายเทพ โชตินุชิต
     นายเทพ  โชตินุชิต   เกิดเมื่อวันที่ ๒๗ มกราคม ๒๔๕๐ ที่จังหวัดนครปฐม สำเร็จการศึกษาธรรมศาสตร์บัณฑิต จากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์และการเมือง และจบ
เนติบัณฑิตไทย (น.บ.ท.) เมื่อ พ.ศ. ๒๔๗๕ ประกอบอาชีพทนายความ จ่าศาลจังหวัด ผู้พิพากษา และลาออกสมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่จังหวัดศรีสะเกษ เมื่อ พ.ศ.
๒๔๘๐ นับเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรคนแรกของจังหวัดศรีสะเกษ ที่มาจากการเลือกตั้งโดยตรง และได้รับการเลือกตั้งต่อมาอีก ๓ สมัย ใน พ.ศ. ๒๔๙๒ เป็นรัฐมนตรีลอย
เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เมื่อ พ.ศ. ๒๔๙๓ เคยเป็นเลขาธิการพรรค ประชาธิปัตย์ เป็นหัวหน้าพรรคเศรษฐกร และหัวหน้าพรรคแนวร่วมเศรษฐกร
ซึ่งเป็นพรรคการเมืองที่มีนโยบายในการแก้ไขปัญหาคนจนตลอดมา นายเทพ โชตินุชิต เป็นนักการเมืองแนวหน้า ที่เป็นที่ยอมรับในประวัติศาสตร์การเมืองไทย
ว่าเป็นผู้มีอุดมการณ์ที่ยืนหยัดมั่งคง แม้ว่าจะประสบเคราะห์กรรมและความทุกข์ยากในการต่อสู้ทางการเมืองเพื่อประชาชน เป็นผู้ที่ไม่เคยมีประวัติด่างพร้อย ยึดมั่น
ในการต่อสู้ด้วยสันติวิธี ด้วยความเสียสละตลอดมา ซึ่งการพิสูจน์ความเด็ดเดี่ยวมั่นคงของจิตใจ ทำให้นายเทพ โชตินุชิต ยังคงอยู่ในจิตใจของประชาชนผู้รักความเป็นธรรม
และเป็นตำนานอันสูงส่งดีงามของมนุษยธรรมที่ชาวศรีสะเกษภาคภูมิใจตลอดไป นายเทพ โชตินุชิต เป็นนักการเมืองที่มีอุดมการณ์ มีความตั้งใจจะเข้ามา แก้ไขปัญหา
ความทุกข์ยากของประชาชน มีจิตใจมั่นคง เห็นคุณค่าของการศึกษา โดยตั้งโรงเรียนราษฎร์ให้บุตรหลานชาวศรีสะเกษ ผู้อยู่ห่างไกลจากเมืองหลวงได้ศึกษาเล่าเรียน
คือโรงเรียนสตรีเทพวิทยา (ตั้งอยู่บริเวณหน้าสถานีรถไฟศรีสะเกษ – ล้มเลิกไปแล้ว) โรงเรียนเทพวิทยาใต้ (ตั้งอยู่ที่วัดหลวงสุมังคลาราม) และโรงเรียนเทพวิทยาเหนือ
(ตั้งอยู่ที่วัดพระโต) โรงเรียนที่มีที่ตั้งในวัดดังกล่าว ได้ตกเป็นของวัดหลังจากที่นายเทพ โชตินุชิต ถูกจับกุม เมื่อวันที่ ๑๖ มกราคม ๒๕๐๒ เนื่องจากเดินทางไปประชุมกับ
องค์การระหว่างประเทศ คือ การประชุมเอเชียอาฟริกา ที่กรุงไคโร ประเทศอียิปต์ และเป็นผู้เสนอให้ยกเลิกกฎหมายป้องกันการกระทำอันเป็นคอมมิวนิสต์ พ.ศ. ๒๔๙๕
นายเทพ โชตินุชิต ถูกปล่อยตัวจากคุกลาดยาวพร้อมกับนายทองใบ ทองเปาด์ นายเปลื้อง วรรณศรี และนายพรชัย แสงชัจจ์ ในเดือนกรกฎาคม ๒๕๐๙ แม้การดำเนินการ
ทางการเมืองของนายเทพ โชตินุชิต จะมีอุปสรรค ถูกกล่าวหากระทั่งถูกจับกุมคุมขังในข้อหากบฏและมีการกระทำอันเป็นคอมมิวนิสต์ แต่จิตใจนักต่อสู้ของประชาชนก็มิได้
ย่อท้อ ได้เป็นแกนนำในการต่อสู้ทางกฎหมายและปลุกปลอบให้ขวัญกำลังใจแก่เพื่อนร่วมคุกในการต่อสู้คดีจนกระทั่งพ้นโทษในที่สุดหลังจากนั้น นายเทพ โชตินุชิต
ได้เข้าร่วมกับการเคลื่อนไหวของพี่น้องประชาชนผู้รักชาติรักประชาธิปไตยตลอดมา และมีความตั้งใจที่จะทำงานรับใช้ประชาชนจนวาระสุดท้าย ของชีวิต จนกระทั่ง
ถึงแก่กรรม เมื่อวันที่ ๖ เมษายน ๒๕๑๗ ที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ รวมอายุ ๖๗ ปี นายเทพ โชตินุชิต นับเป็นแบบอย่าง ของนักการเมืองที่มีความซื่อสัตย์ สุจริต และเห็น
ความสำคัญในการจัดการศึกษาแก่เยาวชนศรีสะเกษในอดีต

 
 
สาธุการบทความนี้ : 305 ครั้ง
จากสมาชิก : 2 ครั้ง
จากขาจร : 303 ครั้ง
 
 
  15 มิ.ย. 2552 เวลา 16:29:05  
   ขึ้นบน ลงล่าง  
 
         

  โพสต์โดย   12) ศรีสะเกษ  
  หนหวย    คห.ที่123) บุคคลสำคัญในอดีตเมืองขุขันธ์      [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]  
  ศิษย์พี่

ภูมิลำเนา : ศรีสะเกษ
เข้าร่วม : 28 พ.ค. 2552
รวมโพสต์ : 77
ให้สาธุการ : 25
รับสาธุการ : 188750
รวม: 188775 สาธุการ

 


   -ขออนุญาติเผ่ยแพร่บุคลสำคัญในอดีตของจังหวัดศรสะเกษเผื่อหลายๆท่านที่ยังไม่ได้อ่าน ที่มาจาก
http://intranet.m-culture.go.th/sisaket/somkunb.htm

พระยาขุขันธ์ภักดีศรีนครลำดวน (ท้าวใน) เจ้าเมืองขุขันธ์ คนที่ ๕
     พระยาขุขันธ์ภักดีศรีนครลำดวน (ท้าวใน) เดิมชื่อ ท้าวในเป็นบุตรพระยาไกรภักดี (ตากะจะ) ต่อมาได้บรรดาศักดิ์เป็น "พระไชย" เป็นพระภักดี
ภูธรสงคราม ปลัดเมืองขุขันธ์ พระบาทสมเด็๋จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เป็น "พระยาขุขันธ์ภักดี ศรีนครลำดวน"  เจ้าเมือง
ขุขันธ์ คนที่ ๕ เลื่อนพระมหาดไทย (ท้าวหล้า) เป็นพระภักดีภูธรสงครามแทนปลัดเมือง ต่อมาถึงแก่กรรม จึงโปรดเกล้าฯ ให้ท้าวกิ่ง บุตรพระยาขุขันธ์
(เชียงขันธ์) เป็นพระภูธรสงครามปลัดเมือง ให้ท้าวศรีเมืองเป็นพระมหาดไทย พระยาขุขันธ์ภักดี  ศรีนครลำดวน (ท้าวใน) ถึงแก่ อนิจกรรมในปี
พ.ศ. ๒๓๙๓ อยู่ในตำแหน่งราว ๑ ปี (เนื่องจากได้รับตำแหน่งเมื่ออายุมากแล้ว)

 
 
สาธุการบทความนี้ : 302 ครั้ง
จากสมาชิก : 1 ครั้ง
จากขาจร : 301 ครั้ง
 
 
  15 มิ.ย. 2552 เวลา 16:10:49  
   ขึ้นบน ลงล่าง  
 
         

  โพสต์โดย   12) ศรีสะเกษ  
  หนหวย    คห.ที่120) บุคคลสำคัญในอดีตเมืองขุขันธ์      [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]  
  ศิษย์พี่

ภูมิลำเนา : ศรีสะเกษ
เข้าร่วม : 28 พ.ค. 2552
รวมโพสต์ : 77
ให้สาธุการ : 25
รับสาธุการ : 188750
รวม: 188775 สาธุการ

 


-ขออนุญาติเผ่ยแพร่บุคลสำคัญในอดีตของจังหวัดศรสะเกษเผื่อหลยๆท่านที่ยังไม่ได้อ่าน ที่มาจาก
http://intranet.m-culture.go.th/sisaket/somkunb.htm

พระยาขุขันธ์ภักดีศรีนครลำดวน (เชียงขันธ์) เจ้าเมืองขุขันธ์คนที่ ๒
     พระยาขุขันธ์ภักดีศรีนครลำดวน เจ้าเมืองขุขันธ์คนที่ ๒เดิมชื่อ ขันธ์หรือเชียงขันธ์ เป็นน้องชายตากะจะ (เจ้าเมืองคนที่ ๑) เป็นหัวหน้า
เขมรส่วยป่าดง คู่บารมีพี่ชาย คือตากะจะ ได้ร่วมจับพญาช้างเผือก ครั้งแตกโรงจากกรุงศรีอยุธยา ปี พ.ศ. ๒๓๐๒ พร้อมคณะทั้ง ๕ คน ได้ความชอบ
จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ได้รับบรรดาศักดิ์เป็น "หลวงปราบ" ช่วยราชการเมืองขุขันธ์
     เมื่อเมืองขุขันธ์ได้ร่วมยกทัพไปตีเมืองเวียงจันทร์ พ.ศ. ๒๓๑๙ นั้นหลวงปราบได้แสดงฝีมือให้กองทัพประจักษ์จนได้รับชมว่าเป็นทหารเอกของ
เมืองขุขันธ์ ทำศึกจนชนะ เมื่อยกทัพกลับ ได้นางคำเวียงหญิงหม้ายตระกูลใหญ่ จากประเทศลาวเป็นภรรยาและได้อพยพครอบครัวนางคำเวียง
พร้อมด้วยบ่าวไพร่มาตั้งบ้านเรือนอยู่ที่บ้านบก (บ้านบก หมู่ ๑๓ ต.ห้วยเหนือ อ.ขุขันธ์ จ.ศรีสะเกษ) และยังได้ท้าวบุญจันทร์บุตรชายของนางคำเวียง  
มาเป็นบุตรเลี้ยงด้วย
     ปี พ.ศ. ๒๓๒๒ สมัยกรุงธนบุรีเป็นราชธานี พระยาไกรภักดีศรีนครลำดวน (ตากะจะ) ถึงแก่อนิจกรรมจึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้หลวงปราบ
เป็นพระยาขุขันธ์ภักดีศรีนครลำดวน เจ้าเมืองคนที่ ๒ และได้ย้ายเมืองขุขันธ์จากบ้านปราสาทสี่เหลี่ยมโคกลำดวนหรือ บ้านดวนใหญ่ไปตั้งที่เมือง
ขุขันธ์ในปัจจุบัน ตามที่พระยาขุขันธ์คนที่ 1 คือ  ตากะจะได้วางแผนเอาไว้แล้วในการย้ายเมืองขุขันธ์มาตั้ง ณ ที่แห่งใหม่ในครั้งนี้ ได้มีหลักฐาน
คือการฝังหลักเมือง ณ มุมวัดกลางอมรินทราวาส (ด้านตะวันตกเฉียงใต้)
     ในปี พ.ศ. ๒๓๒๕ ในรัชสมัยสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช พระยาขุขันธ์ภักดีศรีนครลำดวน (เชียงขันธ์) ได้มีใบบอกขอตั้งท้าวบุญจันทร์  
บุตรเลี้ยงเป็น "พระไกร"  ตำแหน่งผู้ช่วยราชการเมือง และทรงโปรดเกล้าให้เปลี่ยนพระนามเจ้าเมืองขุขันธ์จากนามเดิมพระยาไกรภักดีศรีนคร-
ลำดวน เป็น "พระยาขุขันธ์ภักดีศรีนครลำดวน"  จึงทำให้เจ้าเมืองขุขันธ์ต่อๆ มาใช้นามในฐานะ เจ้าเมืองขุขันธ์ ว่า "พระยาขุขันธ์ภักดีศรีนครลำดวน"  
ตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา
     ต่อมา "พระไกร" ไม่พอใจพระยาขุขันธ์ฯ ที่มักเรียกพระไกรว่าลูกเชลย เมื่อมีโอกาสจึงกล่าวโทษไปยังกรุงเทพฯว่า พระยาขุขันธ์ฯ (เชียงขันธ์)
คิดคบกับญวนต่างประเทศ  จะเป็นกบฏ  เพื่อพิจารณาคดีที่กรุงเทพฯ พระยาขุขันธ์ฯ (เชียงขันธ์) ถูกจำคุกอยู่กรุงเทพฯ ๓ ปี ถือว่าเป็นเจ้าเมืองขุขันธ์  
คนที่ ๒ ที่สร้างคุณประโยชน์อย่างยิ่ง แม้จะอยู่ในตำแหน่งเจ้าเมืองได้ ๔ ปี

 
 
สาธุการบทความนี้ : 299 ครั้ง
จากสมาชิก : 1 ครั้ง
จากขาจร : 298 ครั้ง
 
 
  15 มิ.ย. 2552 เวลา 16:04:16  
   ขึ้นบน ลงล่าง  
 
         

  โพสต์โดย   12) ศรีสะเกษ  
  หนหวย    คห.ที่147) บรรยากาศแบบบ้านๆ      [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]  
  ศิษย์พี่

ภูมิลำเนา : ศรีสะเกษ
เข้าร่วม : 28 พ.ค. 2552
รวมโพสต์ : 77
ให้สาธุการ : 25
รับสาธุการ : 188750
รวม: 188775 สาธุการ

 


สมัยก่อนผมเรียนที่โรงเรียนประชาพัฒนศึกษา รุ่นที่4ช่วงนั้นกำลังบุกเบิกโรงเรียน สร้างสนามฟุตบอลต้นลำดวนเยอะมากตัดทิ้งกันก็เยอะเลยไม่ได้สังเกตุว่ามีต้นลำดวนแดงบ้างหรือเปล่า  แต่ก็ดีศรีสะเกษเป็นเมืองดอกลำดวนอยู่แล้วที่เจอดอกลำดวนสีแดงที่ศรีสะเกษ

 
 
สาธุการบทความนี้ : 287 ครั้ง
จากสมาชิก : 0 ครั้ง
จากขาจร : 287 ครั้ง
 
 
  05 ส.ค. 2552 เวลา 13:43:32  
   ขึ้นบน ลงล่าง  
 
         

  โพสต์โดย   12) ศรีสะเกษ  
  หนหวย    คห.ที่97)       [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]  
  ศิษย์พี่

ภูมิลำเนา : ศรีสะเกษ
เข้าร่วม : 28 พ.ค. 2552
รวมโพสต์ : 77
ให้สาธุการ : 25
รับสาธุการ : 188750
รวม: 188775 สาธุการ

 


คิดฮอดบ้านอยากินหมากผีผ่วน

 
 
สาธุการบทความนี้ : 284 ครั้ง
จากสมาชิก : 0 ครั้ง
จากขาจร : 284 ครั้ง
 
 
  29 พ.ค. 2552 เวลา 11:46:02  
   ขึ้นบน ลงล่าง  
 
         

  โพสต์โดย   12) ศรีสะเกษ  
  หนหวย    คห.ที่126) บุคคลสำคัญในอดีตเมืองขุขันธ์      [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]  
  ศิษย์พี่

ภูมิลำเนา : ศรีสะเกษ
เข้าร่วม : 28 พ.ค. 2552
รวมโพสต์ : 77
ให้สาธุการ : 25
รับสาธุการ : 188750
รวม: 188775 สาธุการ

 


   - ขออนุญาติเผ่ยแพร่บุคลสำคัญในอดีตของจังหวัดศรสะเกษเผื่อหลายๆท่านที่ยังไม่ได้อ่าน ที่มาจาก :
http://intranet.m-culture.go.th/sisaket/somkunb.htm

พระยาขุขันธ์ภักดีศรีนครลำดวน (ท้าววัง) เจ้าเมืองขุขันธ์ คนที่ ๘
     พระยาขุขันธ์ภักดีศรีนครลำดวน (ท้าววัง) เจ้าเมืองขุขันธ์คนที่ ๘ เดิมชื่อท้าววัง เป็นบุตรพระยาขุขันธ์ฯ (เชียงขันธ์) น้องชายพระยาขุขันธ์
คนที่ ๗ (ท้าวกิ่ง) และเป็นบิดาท้าวปัญญา เจ้าเมืองขุขันธ์คนที่ ๙ เคยได้รับโปรดเกล้าฯ ให้เป็น "พระวิไชย" ตำแหน่งยกบัตรเมืองขุขันธ์ ต่อมา
พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๔ ทรงโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งให้เป็น เจ้าเมืองขุขันธ์ ปี พ.ศ. ๒๓๙๕
     ปี พ.ศ. ๒๔๑๐ ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระยาขุขันธ์ฯ (ท้าววัง) มีใบบอกกราบบังคมทูลพระมหากรุณาโปรดเกล้าฯ
ให้ยกบ้านกันตวด ตำบลห้วยอุทุมพร เป็นเมืองอุทุมพรพิสัย ให้ท้าวบุตรดี บุตรพระยาขุขันธ์ฯ (ท้าววัง) เจ้าเมืองคนที่ ๘ เป็นพระอุทุมพร
เทศาภิบาล เป็นเจ้าเมืองและยกบ้านห้วยลำแสนไพอาบาล ขึ้นเป็นเมืองกันทรลักษ์ ให้พระแก้วมนตรี (พิมพ์) เป็นพระกันทรลักษ์ เจ้าเมือง
โดยให้เมืองทั้งสองขึ้นต่อเมืองขุขันธ์
     ปี พ.ศ. ๒๔๑๑ ในสมัยรัชกาลที่ ๕ โปรดเกล้าฯ ให้ย้ายเมืองกันทรลักษ์ ไปตั้งที่บ้านลาวเดิม และย้ายเมืองอุทุมพรพิสัยไปตั้งที่บ้านปรือ
(บ้านผือ) พระยาขุขันธ์ภักดีศรีนครลำดวน (ท้าววัง) ถึงแก่อนิจกรรมปี พ.ศ. ๒๔๒๖ ตำแหน่งเจ้าเมือง ๓๐ ปี

 
 
สาธุการบทความนี้ : 277 ครั้ง
จากสมาชิก : 0 ครั้ง
จากขาจร : 277 ครั้ง
 
 
  15 มิ.ย. 2552 เวลา 16:16:22  
   ขึ้นบน ลงล่าง  
 
         

  โพสต์โดย   12) ศรีสะเกษ  
  หนหวย    คห.ที่98)       [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]  
  ศิษย์พี่

ภูมิลำเนา : ศรีสะเกษ
เข้าร่วม : 28 พ.ค. 2552
รวมโพสต์ : 77
ให้สาธุการ : 25
รับสาธุการ : 188750
รวม: 188775 สาธุการ

 


หมากยางกำลังสุก

 
 
สาธุการบทความนี้ : 276 ครั้ง
จากสมาชิก : 0 ครั้ง
จากขาจร : 276 ครั้ง
 
 
  29 พ.ค. 2552 เวลา 11:46:37  
   ขึ้นบน ลงล่าง  
 
         

  โพสต์โดย   12) ศรีสะเกษ  
  หนหวย    คห.ที่127) บุคคลสำคัญในอดีตเมืองขุขันธ์      [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]  
  ศิษย์พี่

ภูมิลำเนา : ศรีสะเกษ
เข้าร่วม : 28 พ.ค. 2552
รวมโพสต์ : 77
ให้สาธุการ : 25
รับสาธุการ : 188750
รวม: 188775 สาธุการ

 


   - ขออนุญาติเผ่ยแพร่บุคลสำคัญในอดีตของจังหวัดศรีสะเกษเผื่อหลายๆท่านที่ยังไม่ได้อ่าน ที่มาจาก :
http://intranet.m-culture.go.th/sisaket/somkunb.htm


พระยาขุขันธ์ภักดีศรีนครลำดวน (ปัญญา  ขุขันธิน)  เจ้าเมืองขุขันธ์ คนที่ ๙
     พระยาขุขันธ์ภักดีศรีนครลำดวน (ปัญญา ขุขันธิน) เจ้าเมืองขุขันธ์ คนที่ ๙ เดิมชื่อ ท้าวปาน เป็นบุตรของพระยาขุขันธ์ฯ คนที่ ๘ (ท้าววัง)
เป็นหลานพระยาขุขันธ์ฯ (เชียงขันธ์) และเป็นพี่ชายของท้าวบุญจันทร์ (ผู้ถูกกล่าวหาว่าเป็นกบฏผีบุญ) ปี พ.ศ ๒๔๒๖   ท้าวปานกับ
พระรัตนวงษา(จันดี) ได้นำช้างพังสีประหลาดและช้างพังตาดำนำทูลเกล้าฯ ถวาย ณ กรุงเทพมหานคร การแสดงถึงความจงรักภักดีครั้งนี้
จึงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งท้าวปานเป็น "พระยาขุขันธ์ภักดีศรีนครลำดวน" เจ้าเมืองขุขันธ์คนที่ ๙  และโปรดเกล้าฯ ให้พระรัตนวงษา
เป็นปลัดเมืองขุขันธ์ บริหารราชการเมืองต่อไป
     ปี พ.ศ. ๒๔๒๘ รัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงโปรดเกล้าฯ ให้ตัดทางโทรเลข จากนครจำปาศักดิ์ไปเมืองขุขันธ์
จากเมืองขุขันธ์ไปเมืองเสียมราช โดยเกณฑ์ เมืองขุขันธ์ เมืองสังขะ ตรวจตัดทางโทรเลขอยู่ ณ เมืองขุขันธ์ อุทุมพรพิสัยและมโนไพร
     ปี พ.ศ. ๒๔๓๓ ได้มีการเปลี่ยนแปลงราชการบริหารแผ่นดินมากมายเพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ ข้าหลวงใหญ่ที่มีอำนาจเต็ม
ในภาคอิสาน ให้ทำการแทนพระเนตร พระกรรณ โปรดให้พระเจ้าน้องยาเธอกรมหลวงพิชิตปรีชากร เป็นข้าหลวงใหญ่ ประทับ ณ
เมืองอุบลราชธานี เรียกหัวเมืองลาวกาว    
      ปี พ.ศ. ๒๔๓๘ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พระศรีพิทักษ์ (หว่าง) เป็นข้าหลวงเมืองขุขันธ์ ปี พ.ศ.๒๔๓๖ ฝรั่งเศสยกกองทัพขึ้นทาง
เมืองเชียงแตง  สีทันดร สามโคก ซึ่งเป็นอาณาจักรไทย เมือขุขันธ์ เมืองสุรินทร์ เมืองศรีสะเกษ เมืองมหาสารคาม และเมืองร้อยเอ็ด
เมืองละ ๘๐๐ และเมืองสุวรรณภูมิ เมืองยโสธร เมืองละ ๕๐๐ คน ให้ฝึกการรบดีแล้ว ให้ส่งกำลังเข้าตรึงการรุกรานของฝรั่งเศสและใน
เดือนตุลาคม เหตุการณ์จึงสงบโดยต่างฝ่ายต่างถอนกำลังทหารออก
     ปี พ.ศ. ๒๔๓๖ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พระเจ้าน้องยาเธอกรมหลวงสรรพสิทธิประสงค์ไปอำลาตำแหน่งข้าหลวงต่างพระองค์แทน
     ปี พ.ศ. ๒๔๓๗  ทรงโปรดเกล้าฯ ให้เปลี่ยนมณฑลเทศาภิบาลมณฑลลาวกาวเดิมเป็นมณฑลอิสาน
     ปี พ.ศ. ๒๔๔๓ ทางราชการได้ยุบเมืองเล็กลงเป็นอำเภอ และแบ่งเมืองใหญ่ออกเป็นหลายอำเภอ พร้อมกับแต่งตั้งตำแหน่งผู้ปกครองเมือง
และผู้ปกครองอำเภอขึ้นใหม่และในปีนี้เองที่ ท้าวบุญจันทร์ ท้าวทัน และหลวงรัตนกรมการเมืองที่หมดอำนาจ ไม่ได้รับแต่งตั้งใดๆ เกิดความ
ไม่พอใจ ได้มีปฏิกิริยาต่อต้านทางการจนถูกกล่าวหาว่าเป็นกบฏผีบุญ จึงถูกปราบและเหตุการณ์ได้สงบลง ปี พ.ศ. ๒๔๔๗ ได้ย้ายที่ทำการ
เมืองขุขันธ์  มาตั้งที่อำเภอเมืองศรีสะเกษ ในปัจจุบัน และยังคงใช้ชื่อเดิมว่า "เมืองขุขันธ์" และต่อมาเปลี่ยนอำเภอขุขันธ์ เป็นอำเภอ
"ห้วยเหนือ" ปี พ.ศ. ๒๔๕๐ มณฑลอิสาน แบ่งออกเป็น ๒ บริเวณ คือ บริเวณอุบลราชธานี บริเวณร้อยเอ็ด บริเวณสุรินทร์ บริเวณขุขันธ์
และบริเวณ ขุขันธ์แบ่งออกเป็น ๓ เมือง คือ
    ๑.  เมืองขุขันธ์ พระยาขุขันธ์ภักดีศรีนครลำดวน (ปัญญา ขุขันธิน) เป็นผู้ว่าราชการเมือง มี ๓ อำเภอ คือ อำเภอเมืองขุขันธ์ อำเภออุทุมพรพิสัย
อำเภอเมืองกันทรลักษ์
     ๒.  เมืองศรีสะเกษ พระยาภักดีศรีนครลำดวน (เหง้า) เป็นผู้ว่าราชการเมือง มี ๔ อำเภอ
     ๓.  เมืองเดชอุดม พระสุรเดช อุตมาภิรักษ์ (ทองปัญญา) เป็นผู้ว่าราชการเมือง มี ๓ เมือง
     ปี พ.ศ. ๒๔๕๕ ในรัชการที่ ๖ แยกมณฑลอิสานออกเป็น ๒ มณฑล คือ มณฑลร้อยเอ็ด และมณฑลอุทุมพรพิสัย มณฑลอุบลราชธานีมีเมืองใน
สังกัด ๓ เมือง คือ
     ๑.  เมืองอุบลราชธานี
     ๒.  เมืองขุขันธ์
     ๓.  เมืองสุรินทร์
     ปี พ.ศ. ๒๔๕๙ รัชสมัยรัชกาลที่ ๖ กระทรวงมหาดไทยประกาศเปลี่ยนชื่อเมืองทุกเมืองเป็นจังหวัด ผู้ว่าราชการเมือง เป็น ผู้ว่าราชการจังหวัด  
เมืองขุขันธ์เปลี่ยนเป็น จังหวัดขุขันธ์ เมื่อวันที่ ๑๙ พฤษภาคม ๒๔๕๙
     ปี พ.ศ. ๒๔๘๑ รัชสมัยรัชกาลที่ ๗ มีพระราชกฤษฎีกาเปลี่ยนชื่อจังหวัดขุขันธ์เป็นจังหวัดศรีสะเกษ และเปลี่ยนชื่อเมืองขุขันธ์เป็นอำเภอห้วยเหนือ  มีหลวงสุรรัตนมัย (บุญมี ขุขันธิน) เป็นนายอำเภอคนแรก เมืองขุขันธ์จึงเป็นอำเภอหนึ่งของจังหวัดศรีสะเกษ
     เนื่องจากพระยาขุขันธ์ภักดีศรีนครลำดวน (ปัญญา ขุขันธิน) เริ่มรับตำแหน่งเจ้าเมืองเมื่ออายุ ๒๖ ปี พ.ศ. ๒๔๒๖ ถึงปีที่มีการเปลี่ยนแปลงตำแหน่ง
ในปี พ.ศ. ๒๔๕๕ ได้แสดงความรับผิดชอบในโดยไม่ขอรับตำแหน่งใดๆ แต่ได้สนับสนุนให้พระยาบำรุงบุระประจันต์ (จันดี) ผู้ซึ่งมีฐานะเป็นพ่อตา
ให้ได้รับแต่งตั้งเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษคนแรก และสนับสนุนหลวงสุระรัตนมัย (บุญมี ขุขันธิน) ผู้ซึ่งมีฐานะเป็นบุตรเขยให้ได้รับแต่งตั้ง
เป็นนายอำเภอคนแรกของอำเภอขุขันธ์ รวมอยู่ในตำแหน่งราชการ ๒๙ ปี และถึงแก่อนิจกรรมปี พ.ศ. ๒๔๗๐ รวมอายุได้ ๗๐ ปี นับเป็นเจ้าเมือง
คนที่ ๙  (คนสุดท้าย) ของตำแหน่งเจ้าเมืองขุขันธ์

 
 
สาธุการบทความนี้ : 275 ครั้ง
จากสมาชิก : 2 ครั้ง
จากขาจร : 273 ครั้ง
 
 
  15 มิ.ย. 2552 เวลา 16:18:33  
   ขึ้นบน ลงล่าง  
 
         

  โพสต์โดย   12) ศรีสะเกษ  
  หนหวย    คห.ที่99)       [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]  
  ศิษย์พี่

ภูมิลำเนา : ศรีสะเกษ
เข้าร่วม : 28 พ.ค. 2552
รวมโพสต์ : 77
ให้สาธุการ : 25
รับสาธุการ : 188750
รวม: 188775 สาธุการ

 


หมากแงว(หมากคอแลน) กำลังสุกพร้อมกับลิ้นจี่ของภาคตะวันออก

 
 
สาธุการบทความนี้ : 273 ครั้ง
จากสมาชิก : 0 ครั้ง
จากขาจร : 273 ครั้ง
 
 
  29 พ.ค. 2552 เวลา 11:48:25  
   ขึ้นบน ลงล่าง  
 
         

  โพสต์โดย   12) ศรีสะเกษ  
  หนหวย    คห.ที่101)       [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]  
  ศิษย์พี่

ภูมิลำเนา : ศรีสะเกษ
เข้าร่วม : 28 พ.ค. 2552
รวมโพสต์ : 77
ให้สาธุการ : 25
รับสาธุการ : 188750
รวม: 188775 สาธุการ

 


หมากตากวางเก็บเห็ดพร้อมเก็บมากตากวาง ดงบ้านซ้ำหลายแฮง

 
 
สาธุการบทความนี้ : 272 ครั้ง
จากสมาชิก : 0 ครั้ง
จากขาจร : 272 ครั้ง
 
 
  29 พ.ค. 2552 เวลา 11:54:33  
   ขึ้นบน ลงล่าง  
 
         

  โพสต์โดย   12) ศรีสะเกษ  
  หนหวย    คห.ที่113)       [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]  
  ศิษย์พี่

ภูมิลำเนา : ศรีสะเกษ
เข้าร่วม : 28 พ.ค. 2552
รวมโพสต์ : 77
ให้สาธุการ : 25
รับสาธุการ : 188750
รวม: 188775 สาธุการ

 


หมากค้อ หน่วยใหญ่เวลากินแล้วแกะเม็ดออกเอามาเฮ็ดกะด๊อก(ตุ้มหู)

 
 
สาธุการบทความนี้ : 268 ครั้ง
จากสมาชิก : 1 ครั้ง
จากขาจร : 267 ครั้ง
 
 
  29 พ.ค. 2552 เวลา 12:11:01  
   ขึ้นบน ลงล่าง  
 
         

  โพสต์โดย   12) ศรีสะเกษ  
  หนหวย    คห.ที่131) บุคคลสำคัญในอดีต      [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]  
  ศิษย์พี่

ภูมิลำเนา : ศรีสะเกษ
เข้าร่วม : 28 พ.ค. 2552
รวมโพสต์ : 77
ให้สาธุการ : 25
รับสาธุการ : 188750
รวม: 188775 สาธุการ

 
  - ขออนุญาติเผ่ยแพร่บุคลสำคัญในอดีตของจังหวัดศรีสะเกษเผื่อหลายๆท่านที่ยังไม่ได้อ่าน ที่มาจาก :
http://intranet.m-culture.go.th/sisaket/somkunb.htm



นายพุฒเทพ กาญจเสริม
      สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดศรีสะเกษ ชุดแรกที่มาจาการเลือกตั้งโดยตรง และเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ถึง ๒ สมัย เมื่อวันที่ ๗ พฤศจิกายน ๒๔๘๐ และ
วันที่ ๑๒ พฤศจิกายน ๒๔๘๑ นายพุฒเทพ กาญจนเสริม ถึงแก่กรรมเมื่อ พ.ศ. ๒๔๙๙ รวมอายุได้ ๕๐ ปี

 
 
สาธุการบทความนี้ : 267 ครั้ง
จากสมาชิก : 0 ครั้ง
จากขาจร : 267 ครั้ง
 
 
  15 มิ.ย. 2552 เวลา 16:27:42  
   ขึ้นบน ลงล่าง  
 
         

  โพสต์โดย   12) ศรีสะเกษ  
  หนหวย    คห.ที่115)       [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]  
  ศิษย์พี่

ภูมิลำเนา : ศรีสะเกษ
เข้าร่วม : 28 พ.ค. 2552
รวมโพสต์ : 77
ให้สาธุการ : 25
รับสาธุการ : 188750
รวม: 188775 สาธุการ

 
ศรีสะเกษกันเอง
เฉลิมพล มาลาคำ
โอ่ย...น้องนาง..น้อนาง ฟังเด้อท่าน ฟังเด้อท่าน ..
ศรีสะเกษกันเองเลงน้อยเลงใหญ่
อยู่บ่ไกลบ่ไกล้ลองไปเที่ยวเบิ่งเด้อ
ย่านแต่เก้อเห็นเขาเห่อของของกิน
บักถั่วดินหอมแดงถั่วแตงเต็มร้าน
เลยเมืองช้างสุรินท์ไปเติบหนึ่ง
เลยเมืองช้างสุรินท์ไปเติบหนึ่ง
จังสิถึงว่าฮู้เจริญรุ่งใหญ่โต
สาวกะโก้หนุ่มกะหล่อสวยดีล้วนไมตรีสัมพันธุ์ฮักกันดีด้วย
...คนสวยอย่าลืมเด้อหล่า
ถ้าว่างเชิญมาอ้ายนี้ขอชวน
ไปเที่ยวเมืองดอกลำดวนจะพาเที่ยวสวนสมเด็จฯรื่นรมย์
เอวกลมไปเที่ยวชมเมืองบ้าน
น้ำตกห้วยจันทร์หลายชั้นลำธาร
พาขึ้นเขาพระวิหารเที่ยวเมืองโบราญปราสาทขอมมีมา
เชิญเด้อหล่าเชิญกันไปหล่ำ
เชิญเด้อท่านเชิญกันไปหล่ำ
เมืองขุขันธ์เกี่ยวกล่ำเขมรด้วยซ่วยเยอ
คิดสะเย้อปรางกู่คนไค
อยากขอไปเป็นแฟนเกี่ยวแขนนางน้อง
ปลาในหนองมีแต่โตฮาวช้างยางชุ่มกะพอย่อม
หัวหอมสะก้นนำโพนน้อยคอยดู
สาวผู้ฮู้กันทรลักษ์ไพรบึงดังไปถึงราษีฯว่าหล่อนมีใจซื่อ
ถือควมเว้าเอาความจริงเป็นใหญ่
ถือควมเว้าเอาความจริงเป็นใหญ่
มีน้ำใจเอื้อเฟื่อจุลเจือให้บ่ลวง
ปลาแดกข่วงโตใหญ่โตกลมกันทรมย์ไพรบึงด่วนชิงทางอ้อม(ไม่แน่ใจ)
เนื้อทองเคยไปหรือบ่กินต้มปลาข่อเมืองอุทุมพร
ผุ้สาวหุ่นดีงามงอน ผู้บ่าวหล่อดีสะออนสาวอุทุมพรฯสองแก้มจู้นผู้น
มูลไหลเชื่อมลำชีไหลส่ง
มูลไหลเชื่อมลำชีไหลส่ง
ศรีสะเกษมาก๊งมากินกะเหล้าแข่งกัน
มีแต่ชั้นเซียนใหญ่เซียนโตกินเหล้าโทเมิดไหบ่ได้มาคุยโอ้
บ่าวสาวโก้ในจังหวัดอำเภอบ่มีเว่อร์มีโอ่ง
คนบ่โกงบ่ค้าตีปล้นลักกัน
อาชีพนั้นเวียกไห่ไถนาฟังไปๆมาๆผุ้เผิ่นมีเสียงเว้า
เชิญเด้อเจ้าเชิญกันไปเที่ยว
เชิญเด้อเจ้าเชิญกันไปเที่ยว
นั่งรถไฟคืนเดียวตั้งแต่ค่ำฮอดแจ้งบ่มีพ้อนักเลง
เสียงเป้งๆนั้นบ่แม่นเสียงปืน เสียงเป้งๆนั้นบ่แม่นเสียงปืน
บ่ต้องยืนเกรงใจ แม่นบัง้ไฟผุ้เด้อเจ้า แม่นบัง้ไฟผุ้เด้อเจ้า.โอ๋ ....โอ้...


http://www.imeem.com/people/eFWIRJc/music/8Dy8C-zp/aa-sreesaketmp3/

 
 
สาธุการบทความนี้ : 266 ครั้ง
จากสมาชิก : 2 ครั้ง
จากขาจร : 264 ครั้ง
 
 
  29 พ.ค. 2552 เวลา 23:49:04  
   ขึ้นบน ลงล่าง  
 
         

  โพสต์โดย   12) ศรีสะเกษ  
  หนหวย    คห.ที่129) บุคคลสำคัญในอดีต      [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]  
  ศิษย์พี่

ภูมิลำเนา : ศรีสะเกษ
เข้าร่วม : 28 พ.ค. 2552
รวมโพสต์ : 77
ให้สาธุการ : 25
รับสาธุการ : 188750
รวม: 188775 สาธุการ

 
  - ขออนุญาติเผ่ยแพร่บุคลสำคัญในอดีตของจังหวัดศรีสะเกษเผื่อหลายๆท่านที่ยังไม่ได้อ่าน ที่มาจาก :
http://intranet.m-culture.go.th/sisaket/somkunb.htm




พระยาบุรประจันต์ (จันดี กาญจนเสริม)
      พระยาบุรประจันต์ (จันดี  กาญจนเสริม)  ข้าหลวงคนแรกของเมืองขุขันธ์ ผู้ย้ายศาลากลางเมืองขุขันธ์ มาตั้งที่ศาลากลางจังหวัดปัจจุบันนี้ เป็นผู้มีบทบาทสำคัญในการ
ปราบกบฏเสือยก และกบฏผีบุญบุญจันทร์ ที่เป็นน้องชายของพระยาขุขันธ์ภักดีศรีนครลำดวน (ปัญญา) เจ้าเมืองคนสุดท้าย พระยาบำรุงบุรประจันต์ (จันดี) เป็นข้าราชการ
ส่วนกลางที่ได้รับความไว้วางใจจากส่วนกลาง ไปกำกับดูแลหัวเมืองในยุคปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน เดิมมีตำแหน่งเป็นพระรัตนโกศา (จันดี) พ.ศ. ๒๔๓๓ เลื่อนตำแหน่ง
เป็นพระยาบำรุงบุรประจันต์ (จันดี) ข้าหลวงกำกับเมืองขุขันธ์ สังกัด หัวเมืองลาวฝ่ายตะวันออก ต่อมา เมื่อ พ.ศ. ๒๔๓๕ เปลี่ยนเป็น มณฑลลาวกาว ปี พ.ศ. ๒๕๓๗ ได้รับ
การขอร้องจากเมืองศรีสะเกษให้ปราบเสือยง ได้สำเร็จ ปี พ.ศ. ๒๕๔๓ ปราบกบฏ ผีบุญบุญจันทร์ ที่หุบเขาซำปีกา และได้ย้ายศาลากลางเมืองขุขันธ์มาตั้งในที่ตั้งปัจจุบัน
เมื่อ พ.ศ. ๒๔๔๗ และเป็นข้าหลวงบริเวณขุขันธ์ อันประกอบด้วยเมืองขุขันธ์ เมืองศรีสะเกษ และเมืองเดชอุดม เมื่อ พ.ศ. ๒๔๕๐ จนถึง พ.ศ. ๒๔๕๒ นอกจากเป็น
ข้าหลวงคนแรกของเมืองขุขันธ์แล้ว ยังเป็นผู้นำการเล่นโขนมาเผยแพร่ในเมืองขุขันธ์อีกด้วย

 
 
สาธุการบทความนี้ : 266 ครั้ง
จากสมาชิก : 0 ครั้ง
จากขาจร : 266 ครั้ง
 
 
  15 มิ.ย. 2552 เวลา 16:23:51  
   ขึ้นบน ลงล่าง  
 
         

  โพสต์โดย   12) ศรีสะเกษ  
  หนหวย    คห.ที่149)       [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]  
  ศิษย์พี่

ภูมิลำเนา : ศรีสะเกษ
เข้าร่วม : 28 พ.ค. 2552
รวมโพสต์ : 77
ให้สาธุการ : 25
รับสาธุการ : 188750
รวม: 188775 สาธุการ

 


ต้นนมแมว มีชื่อวิทยาศาสตร์ Melodorum siamense (Scheff.) Ban มีชื่อพ้องคือ(Rauwenhoffia siamensis J. Sincl.) ซึ่งในฐานข้อมูลในintrenet หรือบางตำราจะใช้ชื่อพ้องนี้เป็นชื่อวิทย์อยู่ ส่วนชื่อสามัญ(Comon name) ไม่มีครับ ซึ่งในบางตำราหรือ ในอินเตอร์เน็ต ใช้ชื่อสามัญว่า : Nom maeo ซึ่งไม่ถูกต้องครับ
ลักษณะทรงพุ่ม : ไม้พุ่มรอเลื้อยขนาดเล็กแต่ส่วนใหญ่ไม่เลื้อย
วงศ์ : ANNONACEAE
ถิ่นกำเนิด : เอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ลักษณะทั่วไป : ไม้พุ่มรอเลื้อย
ฤดูการออกดอก : ช่วงฤดูฝน (มิ.ย. - ก.ย.)
เวลาที่ดอกหอม : ตอนเย็นถึงเช้า
การขยายพันธุ์ : เพาะเมล็ด และตอนกิ่ง
ข้อดีของพันธุ์ไม้ : เป็นพันธุ์ไม้หอมขนาดเล็กเหมาะกับผู้ที่มีพื้นที่ปลูกน้อย
ดอกมีกลิ่นหอมแรงมาก
ราคาต้นพันธุ์ไม่แพง
ผลรับประทานได้
นมแมวเป็นไม้ดอกหอม เจริญเติบโตได้ดีทั้งในที่แดดเต็มวันและแดดครึ่งวันเช้า
หากมีความประสงค์ที่จะปลูกหลายต้นควรซื้อมาปลูกในคราวเดียวกัน เพราะว่าการเจริญเติบโตค่อนข้างช้า และราคาไม่แพง
นมแมวเป็นพันธุ์ไม้หอมที่มีความไวต่อดินเค็ม โดยจะแสดงอาการปลายใบไหม้ให้เห็น แนวทางแก้ไขเมื่อปลูกลงในพื้นที่แล้วก็คือ ต้องคอยควบคุมความชื้นของดิน ให้ดินชื้นอยู่ตลอดเวลาจะช่วยได้ในระดับหนึ่ง
เนื่องจากเป็นพันธุ์ไม้หอมที่มีถิ่นกำเนิดทางภาคใต้ของประเทศไทยซึ่งสภาพภูมิอากาศค่อนข้างชื้น จึงควรปลูกนมแมวในพื้นที่ชื้นจะทำให้การเจริญเติบโตดี
ข้อมูลอื่นๆ : ดอก มีน้ำมันหอมระเหยมีกลิ่นหอมใช้แต่งกลิ่น
เนื้อไม้และราก ต้มรับประทานแก้ไข้กลับ ไข้ซ้ำ
ราก เป็นยาแก้โรคผอมแห้งของสตรีเนื่องจากคลอดบุตรอยู่ไฟไม่ได้

 
 
สาธุการบทความนี้ : 266 ครั้ง
จากสมาชิก : 0 ครั้ง
จากขาจร : 266 ครั้ง
 
 
  05 ส.ค. 2552 เวลา 13:48:44  
   ขึ้นบน ลงล่าง  
 
         

  โพสต์โดย   12) ศรีสะเกษ  
  หนหวย    คห.ที่134) บุคคลสำคัญในอดีต      [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]  
  ศิษย์พี่

ภูมิลำเนา : ศรีสะเกษ
เข้าร่วม : 28 พ.ค. 2552
รวมโพสต์ : 77
ให้สาธุการ : 25
รับสาธุการ : 188750
รวม: 188775 สาธุการ

 


  เนื้อหาสาระทั้งหมดที่นำมาเผยแพร่มาจาก
  http://intranet.m-culture.go.th/sisaket/somkunc.htm
  เพื่อเผยแพร่สำหรับท่านที่อยากจะศึกษาหาความรู้ บุคคลสำคัญในอดีตของจังหวัดศรีสะเกษ  ผิดพลาดประการใดก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยครับ

 
 
สาธุการบทความนี้ : 265 ครั้ง
จากสมาชิก : 1 ครั้ง
จากขาจร : 264 ครั้ง
 
 
  15 มิ.ย. 2552 เวลา 16:35:35  
   ขึ้นบน ลงล่าง  
 
         

  โพสต์โดย   12) ศรีสะเกษ  
  หนหวย    คห.ที่122) บุคคลสำคัญในอดีตเมืองขุขันธ์      [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]  
  ศิษย์พี่

ภูมิลำเนา : ศรีสะเกษ
เข้าร่วม : 28 พ.ค. 2552
รวมโพสต์ : 77
ให้สาธุการ : 25
รับสาธุการ : 188750
รวม: 188775 สาธุการ

 


   -ขออนุญาติเผ่ยแพร่บุคลสำคัญในอดีตของจังหวัดศรสะเกษเผื่อหลายๆท่านที่ยังไม่ได้อ่าน ที่มาจาก
http://intranet.m-culture.go.th/sisaket/somkunb.htm


พระยาขุขันธ์ภักดี ศ รีนครลำดวน (เชียงฆะ)  เจ้าเมืองขุขันธ ์คนที่ ๔
     พระยาขุขันธ์ภักดีศรีนครลำดวนเชียงฆะหรือเชียงเตา) เจ้าเมืองขุขันธ์คนที่ ๔ เดิมชื่อ เชียงฆะหรือเชียงเตา เป็นหัวหน้าเขมรป่าดงร่วมคณะผู้นำ
จับพญาช้างเผือก ส่งกลับกรุงศรีอยุธยา ปี ๒๓๐๒ เมื่อตากะจะได้รับการทรงโปรดเกล้าฯ ให้รับบรรดาศักดิ์เป็น "หลวงแก้วสุวรรณ" เชียงฆะได้รับ
โปรดเกล้าฯ บรรดาศักดิ์เป็น "หลวงเพชร" หัวหน้านายกอง ว่าราชการดูแลบ้านอัจจะบะนึง (สังฆะ) ภายหลังยกฐานะเป็น เมืองสังขะ ทรงโปรดเกล้าฯ  
ให้หลวงเพชรเป็น "พระสังฆะบุรีนครอัจจะเจ้าเมืองสังขะ"
     หลังจากที่กองทัพกรุงเทพฯ ปราบกบฏเจ้าอนุวงศ์เรียบร้อยแล้ว เมืองขุขันธ์ขาดเจ้าเมืองปกครอง จึงโปรดเกล้าฯ ให้พระยาสังฆะบุรีศรีนครอัจจะ
(เชียงฆะ) มาเป็นเจ้าเมืองขุขันธ์  โปรดเกล้าฯ ให้พระใน (ท้าวใน) เป็นพระภักดีภูธรสงครามปลัดเมือง โปรดเกล้าฯ ให้พระสุเพี้ยน (ท้าวนวน)  เป็น
พระมนตรี ยกบัตรเมือง หลังทรงโปรดเกล้าฯให้ท้าวหล้า (บุตรพระยาขุขันธ์(เชียงขันธ์)) เป็นพระมหาดไทย และให้ท้าวอินทร์ บุตรพระยาสังฆะบุรี
ศรีนครอัจจะ (เชียงฆะ) เป็น "พระยาสังฆะบุรีศรีนครอัจจะ" เจ้าเมืองสังขะ แทนบิดา
     พระยาขุขันธ์ฯ (เชียงฆะ) ได้สร้างความเจริญความเป็นปึกแผ่น มั่นคงให้แก่เมืองขุขันธ์เป็นอย่างมาก โดยเฉพาะได้ทำศึกสงครามกับเขมร
และญวน ในปี พ.ศ. ๒๓๗๖และพ.ศ. ๒๓๘๓ ได้ขอพระบรมราชานุญาตตั้งบ้านไพรตระหนักหรือบ้านสีดาขึ้นเป็นเมืองโดยได้นามเมืองว่า
"เมืองมโนไพร" และ โปรดเกล้าฯ ให้หลวงภักดีคำนาหรือทิดพรหม  เสมียนตราเมืองขุขันธ์ เป็นเจ้าเมืองนโนไพรพระยาภักดีศรีนครลำดวน
(เชียงฆะ) ถึงแก่อนิจกรรม ในปี พ.ศ. ๒๓๙๓ ได้อยู่ในตำแหน่งเจ้าเมืองขุขันธ์ได้ ๒๒ ปี

 
 
สาธุการบทความนี้ : 264 ครั้ง
จากสมาชิก : 1 ครั้ง
จากขาจร : 263 ครั้ง
 
 
  15 มิ.ย. 2552 เวลา 16:09:08  
   ขึ้นบน ลงล่าง  
 
         

  โพสต์โดย   12) ศรีสะเกษ  
  หนหวย    คห.ที่143) บรรยากาศแบบบ้านๆ      [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]  
  ศิษย์พี่

ภูมิลำเนา : ศรีสะเกษ
เข้าร่วม : 28 พ.ค. 2552
รวมโพสต์ : 77
ให้สาธุการ : 25
รับสาธุการ : 188750
รวม: 188775 สาธุการ

 


เห็นดอกลำดวนแล้วนึกถึงบ้าน

 
 
สาธุการบทความนี้ : 261 ครั้ง
จากสมาชิก : 2 ครั้ง
จากขาจร : 259 ครั้ง
 
 
  05 ส.ค. 2552 เวลา 13:36:27  
   ขึ้นบน ลงล่าง  
 
         

  โพสต์โดย   12) ศรีสะเกษ  
  หนหวย    คห.ที่158) ข่าวฝาก AMAZING SISAKET      [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]  
  ศิษย์พี่

ภูมิลำเนา : ศรีสะเกษ
เข้าร่วม : 28 พ.ค. 2552
รวมโพสต์ : 77
ให้สาธุการ : 25
รับสาธุการ : 188750
รวม: 188775 สาธุการ

 
ศรีสะเกษ   ดินแดนมหัศจรรย์
( AMAZING  SISAKET )
แหล่งรวมไม้ผลทั่วเมืองไทย
รายงานโดย :  วัลลภ  อุ่นจิตรพันธุ์
นักวิชาการส่งเสริมการเกษตรชำนาญการ  สำนักงานเกษตรจังหวัดศรีสะเกษ
                   ถ้าพูดถึงศรีสะเกษ    เชื่อว่าทุกคนที่ไม่เคยมา   คงคิดถึงความแห้งแล้ง รอยแตกระแหงของพื้นแผ่นดิน ดินแดนที่เต็มไปด้วยความยากจน ไม่ผิดหรอกถ้าหลาย ๆ คน จะคิดอย่างนั้นเพราะภาพที่สื่อต่าง ๆ   เคยนำเสนอถึง   จังหวัดที่ยากจนที่สุดของประเทศไทยจนขณะที่ว่าเด็ก ๆ ต้องเก็บดินกิน   คนในชนบทมีคุณภาพชีวิตที่ต่ำกว่ามาตรฐาน นั้นคือภาพที่คนที่ยังไม่ได้สัมผัสจังหวัดศรีสะเกษ    จะนึกถึงเสมอแต่ภาพแห่งความเป็นจริงสำหรับคนที่เคยมาเยือนศรีสะเกษ    คงเคยเก็บเกี่ยวภาพแห่งความประทับใจจากดินแดนแห่งอารยธรรมโบราณ  อดีตของอาณาจักรฟูนันอันยิ่งใหญ่        ความหลากหลายของขนบธรรมเนียม และประเพณี ที่สืบทอดกันมาอย่างยาวนาน เพราะศรีสะเกษนั้นประกอบไปด้วยชนพื้นเมืองดังเดิม  ถึง  4   เผ่าไทย     ได้แก่ เผ่าลาว / เผ่าเขมร / เผ่าส่วย หรือกูย / และเผ่าเยอ   ได้จำลองถึงความรุ่งเรืองในอดีตของ “นครลำดวน” ผ่านทางการแสดงแสงสี  “ศรีพฤทเธศวร”   โดยจะจัดขึ้นในช่วงกลางเดือนมีนาคม ของทุกปี     ศรีสะเกษ ดินแดนมหัศจรรย์ (AMAZING  SISAKET )  คำเรียกนี้คงไม่ผิดไปจากความเป็นจริง  และสามารถเรียกได้อย่างเต็มภาคภูมิของชาวศรีสะเกษทุกคน เพราะดินแดนที่หลาย ๆ คนเชื่อว่าประกอบไปด้วยคนที่ยากจนที่สุดของประเทศไทย ปัจจุบันนี้ กลับกลายเป็นดินแดนที่อุดมสมบูรณ์  เป็นแผ่นดินทองของอีสานใต้   กลายเป็นแหล่งผลิตไม้ผลเพื่อการส่งออกที่สำคัญอีกแห่งของ ประเทศไทย และที่เรียกว่าดินแดนมหัศจรรย์นั้น ก็เพราะว่า เป็นแหล่งรวมการผลิตพืชชนิดต่าง ๆ จากทั่วทุกภูมิภาคของประเทศไทย ซึ่งผลิตได้ดีจนกลุ่มผู้ส่งออก  และผู้บริโภคมั่นใจ ไม่ว่าจะเป็น

เงาะ ทุเรียน มังคุด จากภาคตะวันออก
สะตอ ลองกอง ยางพารา จากภาคใต้  
ลำไย ลิ้นจี่     จากภาคเหนือ…-
มะปรางหวาน กระท้อน ส้มโอ มะม่วงจากภาคกลาง  


นอกจากนั้นยังมีพืชผลชนิดอื่น ๆ    อีกมากมาย ซึ่งทำให้มีผลผลิตออกตลอดทั้งปี    โดยเฉพาะ  การผลิตเงาะและทุเรียนนั้น      ถือเป็นแหล่งผลิตแห่งแรก          และเป็นแหล่งใหญ่ที่สุดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ     ถือเป็นพืชความหวังใหม่สำหรับเกษตรกร   เงาะที่ผลิตนั้นจะเป็นพันธุ์โรงเรียน   ส่วนทุเรียนจะเป็นพันธุ์หมอนทอง ปัจจุบันมีพื้นที่การผลิตเงาะ  ประมาณ 3,963 ไร่ พื้นที่การผลิตทุเรียน  ประมาณ  2,832  ไร่  มีมูลค่าการผลิตเฉพาะ  2  ชนิด พืชนี้ ไม่น้อยกว่าปีละ 130  ล้านบาท ยังไม่นับรวมถึงมูลค่าการผลิตของพืชชนิดอื่นๆ ที่กล่าวถึง   ซึ่งถือเป็นตัวเลขที่ไม่น้อยสำหรับการทำรายได้เข้าสู่จังหวัด    ยังงี้ยังจะเรียกว่าดินแดนแห่งความยากจนอยู่อีกหรือ
              ในส่วนของการพัฒนาคุณภาพการผลิตนั้น       สำนักงานเกษตรจังหวัด-ศรีสะเกษ    หน่วยงานที่ดูแลในเรื่องการผลิตของเกษตรกร ได้เข้ามาส่งเสริมตั้งแต่การเปลี่ยนจากไร่ข้าวโพดและไร่มันสำปะหลังให้เปลี่ยนมาเป็นสวนเงาะ และทุเรียน   โดยจะเน้นเรื่องของการพัฒนาคนเป็นปัจจัยหลักเสมอ เพราะถ้าเกษตรกรมีความเข้าใจที่ถูกต้อง ก็จะนำมาซึ่งคุณภาพที่ดีของผลผลิตทางการเกษตร        นอกจากนั้นยังมีการรวมกลุ่มเกษตรกร เพื่อให้ควบคุมกันเองระหว่างสมาชิกภายในกลุ่ม     โดยมีนักวิชาการส่งเสริม-การเกษตรและเกษตรตำบลเป็นพี่เลี้ยง     เพื่อดูแลขบวนการผลิตทุกขั้นตอนโดยเน้นในเรื่องของคุณภาพผลผลิตเป็นหลัก     การนำระบบสติ๊กเกอร์ติดที่ผลผลิต เพื่อให้รู้ว่าเป็นผลผลิตจากสวนไหน ซึ่งจะมีรหัสควบคุมทำให้เชื่อได้ว่า เงาะ-ทุเรียน ศรีสะเกษ คุณภาพดีแน่นอน
   นายระพี   ผ่องบุพกิจ     ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ    ได้ให้ความสำคัญกับการพัฒนาทางการเกษตรเป็นนโยบายสำคัญอันดับแรกของจังหวัด    ซึ่งเป็นหนึ่งในยุทธศาสตร์การพัฒนาจังหวัด     เพื่อจะปรับเปลี่ยนพื้นที่ทางการเกษตรจำนวน  3.5  ล้านไร่  ให้เป็นแหล่งผลิตอาหารปลอดสารพิษ เพื่อตอบสนองต่อนโยบายของรัฐบาล ในการประกาศตัวเป็นครัวของโลก การแก้ไขวิกฤติด้านอาหาร  และพลังงาน
          
- 3 -
“ผลผลิตทางการเกษตรทุกชนิด ที่ผลิตในจังหวัดศรีสะเกษนั้นนอกจากจะคุณภาพดีแล้ว ที่สำคัญจะต้องปลอดจากการใช้สารเคมี ปุ๋ยเคมี ก่อน ที่จะทำเกษตรอินทรีย์ จะต้องทำให้คนเป็นอินทรีย์ก่อน   คือ   เข้าใจในขบวนการผลิต    และเต็มใจที่จะเปลี่ยนแปลงวิธีการผลิต ยอมรับความเปลี่ยนแปลงในช่วงแรก เกษตรกรจะต้องอดทน ช่วยกันพลิกฟื้นพระแม่ธรณี
ที่กำลังจะตาย ให้กลับมาอุดมสมบูรณ์ใหม่ ด้วยการใช้อินทรีย์วัตถุ ไม่ว่าจะเป็นปุ๋ยคอก ปุ๋ยหมัก ปุ๋ยพืชสด ฯลฯ นำเอาวิถีชีวิตดั้งเดิมในอดีตของบรรพบุรุษกลับมาใช้”  เพราะฉะนั้นจึงเชื่อได้แน่ว่า ไม่ว่าจะเป็นเงาะ ทุเรียน มังคุด ข้าวหอมมะลิ หอมแดง กระเทียม ฯลฯ ที่ผลิตได้จากศรีสะเกษในอนาคตย่อมปลอดจากสารพิษแน่นอน”
   ในช่วงระหว่างวันที่  3 – 9  กรกฎาคม  2552 ของทุกปีจังหวัดศรีสะเกษได้กำหนดจัดงาน    “เทศกาลเงาะ-ทุเรียน และของดีศรีสะเกษ” ขึ้น ซึ่งจะจัด ณ สนามศูนย์การท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดศรีสะเกษ   ในงานจะประกอบด้วยการจำหน่ายผลผลิตทางการเกษตร        โดยเฉพาะผลไม้หลากหลายชนิดจำหน่ายโดยเกษตรกร  / การจำหน่ายสินค้า   OTOP ของกลุ่มจังหวัดอีสานใต้    และจากทุกภูมิภาคทั่วประเทศ   การประกวดผลผลิตทางการเกษตร   และการประกวดสินค้า  OTOP / และที่สำคัญ  คือการประกวดขบวนแห่รถตกแต่งด้วยผลไม้ ซึ่งแต่ละอำเภอต่างก็ขนผลไม้ชนิดต่าง ๆ   มาประดับตกแต่งรถให้สวยงามเพื่อแข่งขันกัน  และยังประกอบไปด้วยขบวนวัฒนธรรม  4  เผ่าไทย ที่สวยงามตระการตา  นอกจากนั้นยังมีการประกวดธิดาชาวสวน  /  แรลลี่ทัวร์สวนเกษตร  /  กิจกรรมภาคบันเทิง     ได้แก่การประกวดวงดนตรี   ประเภทนักเรียน/นักศึกษา      การประกวดร้องเพลงไทยสากล     การประกวดร้องเพลงไทยลูกทุ่ง  ซึ่งเป็นการส่งเสริมให้เยาวชนแสดงออกในทางที่ถูกต้อง      และยังกำหนดให้เป็นกิจกรรมต่อต้านยาเสพติดอีกด้วย  
                อีกกิจกรรมหนึ่งที่สำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน  ที่ได้รับการสนับสนุนจากกรมส่งเสริมการเกษตร  และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.)  เป็นอย่างดีในทุกๆ  ปี คือ  การจัดกิจกรรมทัวร์สวนเกษตร “50 บาท อร่อยทุกไร่ ชิมไปชมไปทุกสวน” ซึ่งปีที่ผ่านมานักท่องเที่ยวชอบมาก เสียเงินเพียง 50 บาทแต่ก็เลือกชิมผลไม้ชนิดต่าง ๆ ในสวน แบบเต็มที่ และเต็มอิ่ม ไม่จำกัดจำนวน เพียงแต่ห้ามห่อกลับบ้าน ถ้าอยากได้ให้ซื้อกลับ
       ได้รับข้อมูลเพียง...
ปีหน้าอย่าพลาดมางานของดีศรีสะเกษละจ้า....

"ไผ๋ว่าอีสานแล้งอยากจูงแขนมันไปเบิ๋ง วัฒนธรรมยังโจ้โก(ยิ่งใหญ่)มันสิแล้งได้จั่งได๋"

 
 
สาธุการบทความนี้ : 256 ครั้ง
จากสมาชิก : 1 ครั้ง
จากขาจร : 255 ครั้ง
 
 
  06 ส.ค. 2552 เวลา 09:38:44  
   ขึ้นบน ลงล่าง  
 
         

  โพสต์โดย   33) เว้าเรื่องเหล้า  
  หนหวย    คห.ที่12) ชายกำจอก      [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]  
  ศิษย์พี่

ภูมิลำเนา : ศรีสะเกษ
เข้าร่วม : 28 พ.ค. 2552
รวมโพสต์ : 77
ให้สาธุการ : 25
รับสาธุการ : 188750
รวม: 188775 สาธุการ

 
"ถ้าโลกนี้ไม่เคยมึนเมา
ก็แค่ดาวหนึ่งดวงในจักรวาล
แต่ที่โลกเต็มไปด้วยสีสัน
เพราะพรสวรรค์เติมแอลกอฮอล์
   ในโลกของศิลปิน
ผู้บำเพ็ญเพียรศิลปะ
มีไม่น้อยจุดเทียนปัญญา
เจริญสุราสมาธิวิญญาณ
   ถ้าโลกนี้ไม่มีขี้เมา
ก็เท่าแจกันแต่ขาดดอกไม้
ผู้คนเป็นอยู่ซังกะตาย
ตกเย็นเลิกงานกลับบ้าน
   จึงร้องเพลง เพลงนี้เตือนใจ
อันสุราเมรัยใช่น้ำหวาน
ถ้ารักดื่มควรรู้ประมาณ
และจงดื่มมันเพื่อไปทำการใหญ่"

ที่มา: ส่วนหนึ่งในบทเพลงชายกำจอ แอ๊ด คาราบาว ชุดขี้เมากระเพาะแตะ

 
 
สาธุการบทความนี้ : 256 ครั้ง
จากสมาชิก : 0 ครั้ง
จากขาจร : 256 ครั้ง
 
 
  01 มิ.ย. 2552 เวลา 16:14:20  
   ขึ้นบน ลงล่าง  
 
         

  โพสต์โดย   33) เว้าเรื่องเหล้า  
  หนหวย    คห.ที่11) เรื่องเหล้า      [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]  
  ศิษย์พี่

ภูมิลำเนา : ศรีสะเกษ
เข้าร่วม : 28 พ.ค. 2552
รวมโพสต์ : 77
ให้สาธุการ : 25
รับสาธุการ : 188750
รวม: 188775 สาธุการ

 
ถ้าประเภทจอก....
จอกหนึ่งหูซันซองล่อง
จอกสองหูซั่นพี่รี่
จอกสามเห็นหนูเป็นแมงวี่
จอกสีจอกห้าเห็นป้านึกว่าเมีย
จอกหกฝนตกนึกว่าแดด
จอกเจ็ดจอกแปดเห็นแดนนึกว่าฝน
จอกเก้าตาลายพิกล
จอกสิบวกวนเห็นคนนึกว่าควาย......

หรือสิเป็นก๊ง....
หนึ่งก๊งนุช
สองก๊งพุทธวาจา
สามก๊งกำลังดี
สี่ก๊งเริ่มบ้า
ห้าก๊งเริ่มเมา....    

ดั่งที่ท่านขงเบ้งว่า
"ข้าไม่ได้ชอบรสของสุราแต่ชอบในบรรยากาศในการลิ้มสุรา"

 
 
สาธุการบทความนี้ : 250 ครั้ง
จากสมาชิก : 0 ครั้ง
จากขาจร : 250 ครั้ง
 
 
  30 พ.ค. 2552 เวลา 12:58:52  
   ขึ้นบน ลงล่าง  
 
         

  โพสต์โดย   56) อาหารประเภทตำ  
  หนหวย    คห.ที่0) อาหารประเภทตำ      [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]  
  ศิษย์พี่

ภูมิลำเนา : ศรีสะเกษ
เข้าร่วม : 28 พ.ค. 2552
รวมโพสต์ : 77
ให้สาธุการ : 25
รับสาธุการ : 188750
รวม: 188775 สาธุการ

 
ตำครกแรกคือตำเปลือแค(สูตรศรีสะเกษเขตอุทุทพรฯ)
เปลือแครที่เฮากินดอกนั่นละ
1.เอามีดไปหาถากเปลืแคหาต้นใหญ่ๆแน่ถากเอาเปลืดออกแล้วกะ
เอาดินโป๊ะไว้ให้แผลมันแห้ง
2.ขูดเปลือกด้านนอกออกแล้วกะฟัก(สับ)ให้มุ่น(ละเอียด)แล้วแต่มัก
3.ตำพริกคือกันกับตำบักหุ่ง(ส้มตำ)นันละใสบักนาวหลายๆตัดฝาดเพาะเปลืกแคสิฝาดใสปลาแดกนั่วๆ
สรรพคุณแก้ท้องเสียแก้บิดในลำไส้


ตำครกสองคือเมี่ยงตะไค้ข่าอ่อน
1.หาหัวสิงไค(ตะไค้)มาจนพอนั่นละมักหลายกะเอาหลายกับข่าน้อย(ข่ามีสองแบบข่าน้อยกับข่าใหญ่)ถ้าเอาข่าใหญ่กะเอาอ่อนๆแน่ฟักละเอียดทั้งสองอย่างนั่นละ
2.เครื่องปรุงประเภทตำต่างๆกะคล้ายๆกันปรุงรสชาดตามความพอใจใส่กุ้งแห้งแซบ
สรรพคุณแก้ธาติพิการขับลม


เดี๋ยวมื้อหน้าสิมาเสนออีก

 
 
สาธุการบทความนี้ : 250 ครั้ง
จากสมาชิก : 1 ครั้ง
จากขาจร : 249 ครั้ง
 
 
  30 พ.ค. 2552 เวลา 13:16:04  
   ขึ้นบน ลงล่าง  
 
         

  หน้า: 1 2

   

Creative Commons License
อาหารประเภทตำ --- เว็บบอร์ดอีสานจุฬาฯ