ชื่อ ฟังดูอาจจะลาว เเต่มีคุณค่าทางวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ --- เว็บบอร์ดอีสานจุฬาฯ

คห.ที่400) [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]

ยอดปรมาจารย์

ภูมิลำเนา : ร้อยเอ็ด + ขอนแก่น
เข้าร่วม : 17 มี.ค. 2553
รวมโพสต์ : 787
ให้สาธุการ : 45
รับสาธุการ : 1758700
รวม: 1758745 สาธุการ

เว้ากะเว้าเถาะ .... มีผู้ได๋สนใจเลขวิ่งบ่ .... ถ้าสนใจให้ไปพ้อกันอยู่ปั้มน้ำมันเด้อ

สาธุการบทความนี้ : 428 ครั้ง
จากสมาชิก : 1 ครั้ง
จากขาจร : 427 ครั้ง

07 มิ.ย. 2553 เวลา 11:01:38

โพสต์โดย

คห.ที่411) [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]

ยอดปรมาจารย์

คุณปิ่นลม:

กระซ่างถ่อน เกิบหลงกันกับ ญาคู ต้องแล่ง แต่เหิง
อย่าแสดงอาการ ลักอาย ไท บ้าน ย่างเสย โลดเด้อ

จัวน้อยองค์นี่เฮ็ดดู๋ ตอนนั่งฉันข้าวนำกัน จะของเป็นผู้ตดแท้ ๆ หันหน้ามาแนมญาคูเสยเลยวะ

สาธุการบทความนี้ : 438 ครั้ง
จากสมาชิก : 0 ครั้ง
จากขาจร : 438 ครั้ง

09 มิ.ย. 2553 เวลา 04:35:11

โพสต์โดย

คห.ที่413) [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]

ยอดปรมาจารย์

คุณรุทธิ์ (อีเกียแดง):

คุณต้องแล่ง:

จัวน้อยองค์นี้บ่แม่นติอ้าย ที่ญาคูใช้คนส่งจดหมายให้ผู้สาว

ได้สิกตอนเฒ่าย้อนเลานี่ล่ะยังว่า

สาธุการบทความนี้ : 375 ครั้ง
จากสมาชิก : 0 ครั้ง
จากขาจร : 375 ครั้ง

09 มิ.ย. 2553 เวลา 08:43:32

โพสต์โดย

คห.ที่416) [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]

ยอดปรมาจารย์

เกือบสวดยะถา พุ้นแหล่ว

สาธุการบทความนี้ : 0 ครั้ง
จากสมาชิก : 0 ครั้ง
จากขาจร : 0 ครั้ง

09 มิ.ย. 2553 เวลา 11:44:17

โพสต์โดย

คห.ที่61) [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]

ยอดปรมาจารย์

กะที่นู่ แ่อ่วล้าน ปัวหวด

สาธุการบทความนี้ : 0 ครั้ง
จากสมาชิก : 0 ครั้ง
จากขาจร : 0 ครั้ง

17 พ.ค. 2553 เวลา 04:31:19

โพสต์โดย

คห.ที่65) [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]

ยอดปรมาจารย์

คุณสาวส่า เมืองยโส:

ถ้าเป็นจริงคือเพิ่นว่าอีหลี แสดงว่าอ้ายแต้งล่อง
เกิน 35 เด๊นิ แอ่วล้าน ปัวหวด นี่
บ่เคยน้องลือ แอ่วล้าน มึบตึน!! 55

แอ่วล้าน  ปัวหวด  สะดาแว่ง  กาสามเหิ่น
แอ่วล้าน  มึบตึน  สะดาแว่ง  กามห่าเสิน

สาธุการบทความนี้ : 133 ครั้ง
จากสมาชิก : 0 ครั้ง
จากขาจร : 133 ครั้ง

18 พ.ค. 2553 เวลา 14:56:56

โพสต์โดย

คห.ที่69) [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]

ยอดปรมาจารย์

คุณบ่าวหน่อ:
คานบ่อั่น หล่ะ

คานบ่อั่น กอยเริ้น

สาธุการบทความนี้ : 0 ครั้ง
จากสมาชิก : 0 ครั้ง
จากขาจร : 0 ครั้ง

20 พ.ค. 2553 เวลา 11:56:49

โพสต์โดย

คห.ที่73) [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]

ยอดปรมาจารย์

ทังหลี ติ้นกอง หมากขอมป้าม

สาธุการบทความนี้ : 0 ครั้ง
จากสมาชิก : 0 ครั้ง
จากขาจร : 0 ครั้ง

16 มิ.ย. 2553 เวลา 08:38:48

โพสต์โดย

คห.ที่76) [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]

ยอดปรมาจารย์

สำบีดาย แดวล้น บ่ได้เข่า กระที่นู่

สาธุการบทความนี้ : 0 ครั้ง
จากสมาชิก : 0 ครั้ง
จากขาจร : 0 ครั้ง

05 ก.ย. 2553 เวลา 05:13:20

143) ร้อยกรองกวีกานต์ ร้อยกลอนกวีกัน

โพสต์โดย

คห.ที่115) [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]

ยอดปรมาจารย์

ขอบคุณเจ้าจองภาพ

                    คืนวัน ณ จันทร์เสี้ยว             สถิตเปลี่ยว  ณ  เดือนเหงา
                    เย็นเยียบ ณ ใจเรา               สถิตเหงา  ณ  แดนไกล
                    แห่งใดล้วนในโลก                มิเท่าโศกเหมือนครรไล
                    คืนวันอันห่างไกล                 จักเหมือนใกล้หากชมจันทร์

                                                                               แต้งล่อง ....

สาธุการบทความนี้ : 203 ครั้ง
จากสมาชิก : 0 ครั้ง
จากขาจร : 203 ครั้ง

07 ก.ค. 2553 เวลา 03:50:30

143) ร้อยกรองกวีกานต์ ร้อยกลอนกวีกัน

โพสต์โดย

คห.ที่126) [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]

ยอดปรมาจารย์

                              ทหาร  ล้วนกอปรด้วย     เบญจขันธ์
                              พ่อ  ก็เฉกเช่นกัน           นรชาติ
                              ลูก  รักพ่อจักพลี            ชีพแทน  ภูมิเกิด
                              อ่อน  แต่คราอยู่บ้าน       ฮึกห้าวกลางสมร

สาธุการบทความนี้ : 345 ครั้ง
จากสมาชิก : 3 ครั้ง
จากขาจร : 342 ครั้ง

25 ธ.ค. 2553 เวลา 12:45:44

143) ร้อยกรองกวีกานต์ ร้อยกลอนกวีกัน

โพสต์โดย

คห.ที่129) [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]

ยอดปรมาจารย์

ต้นหญ้า ปลิวไสว ในข้างทาง
เลือนลาง ดังฝัน คืนจันทร์ฉาย
แสงทอง โลมต้อง ผ่องอำไพ
แสงใจ เฉิดฉัน แม้จันทร์มัว.. (มังกรเดียวดาย)

เมื่อมีแสง จึงมีเงา เฝ้าตามติด
อันความคิด มันฟุ้งซ่าน พล่านไปทั่ว
ความมืดมิด หรือสว่าง ทางหมองมัว
มองเห็นตัว แล้ววางไป อย่าใยดี.. (ชัชชัย)

หากวางได้ ไม่ยึดติด จิตอุเบกข์
กายวิเวก สงบใจ ไร้แสงสี
ไร้มืดมิด ไร้สว่าง ไร้ธุลี
ฟ้าธาตรี ธรรมชาติ ผงาดงาม.. (มังกรเดียวดาย)

ราตรี  ยุุคเข็ญ  เย็นเฉียบ
ลมเลียบ  ลู่นอน  อ่อนไหว
ภายนอก   ร้อนรุ่ม  สุมไฟ
ผ่อนกาย  นิ่งฟัง  วังเวง
โลกร้อน  แผดเผา  เรามอด
เมืองวอด  บ้านลับ  ดับสูญ
ดินน้ำ  อ่อนเปลี้ย  เสียดุลย์
เมื่อทุน  ครอบงำ  ลำเข็ญ  ...  (ต้องแล่ง)

สาธุการบทความนี้ : 296 ครั้ง
จากสมาชิก : 1 ครั้ง
จากขาจร : 295 ครั้ง

19 ม.ค. 2554 เวลา 18:53:08

165) การแสดงพื้นบ้าน ที่เปนเอกลักษลักษณ์ของร้อยเอ็ด

โพสต์โดย

คห.ที่32) [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]

ยอดปรมาจารย์

ชื่อกระทู้คือ : การแสดงพื้นบ้าน ที่เป็นเอกลักษลักษณ์ของร้อยเอ็ด

เริ่มต้นด้วย  : คห. 1  ฟ้อนโหวด   (เพราะอาจจะเห็นว่า  โหวด  เป็นสิ่งที่แสดงอัตลักษณ์ของร้อยเอ็ด)

คห. 3   ฟ้อนสาละวัน    ควรแสดงให้เห็นว่า   สาละวันมีความเกี่ยวข้องกับอัตลักษณ์ของร้อยเอ็ดอย่างไร   เช่น  ชาวร้อยเอ็ดบางท้องที่มาจากแขวงสาละวันของลาว  เป็นต้น

คห. 5   ฟ้อนสาวกาฬสินธุ์ลำเพลิน   ชื่อการแสดงไม่น่าเกี่ยวกับร้อยเอ็ด

คห. 6   ฟ้อนภูไทกาฬสินธุ์    เหมือน  คห. 5   หรือถ้าร้อยเอ็ดมีภูไท   ควรเปลี่ยนชื่อการแสดงเสียเลย

คห. 10     การแสดงรำเกี่ยวกับงานประเพณี  สมมาน้ำ  คืนเพ็ง  เส็งประทีบ(งานลอยกระทง)  ชัดเจนที่สุดว่า   ประยุกต์ขึ้นมาสำหรับตอบโจทย์ด้านการท่องเที่ยว   ฮีตสิบสองของคนอีสาน  ไม่มีประเพณีลอยกระทง  เดือนสิบเอ็ดออกพรรษา (ไต้ประทีบ)  เดือนสิบสองบุญกฐิน

คห. 15  ฟ้อนร้อยเอ็ดเพชรงาม  ชื่อไปกันได้   แต่ก็เป็นการแสดงที่พยายามจะสร้างอัตลักษณ์ (ขึ้นมาใหม่)

คห. 16  คห. 17  เหตุผลเหมือน  คห. 1  และ  3

คห. 18  ฟ้อนกั๊บแก๊บ - ลำเพลิน   การเล่นกั๊บแก๊บแบบดั้งเดิมก็ใช้เป็นเพียงเครื่องประกอบจังหวะเท่านั้น   ไม่ปรากฎว่านำมาใช้ฟ้อนเกี้ยว   ส่วนลำเพลินเห็นด้วยอย่างยิ่งว่าเป็นอัตลักษณ์ของร้อยเอ็ด

คห. 19  ฟ้อนกลองตุ้มแบบที่สอง คือการฟ้อนประกอบทำนองกาพย์เซิ้ง เพื่อขอเหล้าหรือปัจจัยไทยทาน ใช้ผู้ชายล้วนแต่แต่งหน้าตาเข้ม   แบบดั้งเดิมไม่ปรากฎมีเครื่องดนตรีหลาายชิ้น  มีเพียง  กะโหล่ง  ที่ผูกติดไว้ด้านหลัง  ให้เกิดเสียงดังเมื่อเคลื่อนย้ายร่างกายตามจังหวะกาพย์เซิ้งเท่านั้น

คห. 20   เซิ้งบั้งไฟ  ผมมีความเห็นคล้าย  คห. 19  แต่ไม่เคยปรากฎว่าผู้หญิงเซิ้ง  ถ้าแบบสวยงามก็เหมือน  คห. 19  ถ้าแบบเล่น ๆ ก็เซิ้ง 2-3  คน กาพย์ตลกโปกฮา  หยาบโลน (แต่ไม่ถือสา)

คห. 21  ฟ้อนมโนราห์   มาจากนิทานชาดก  เรื่อง  สีทนมะโนรา (เขียนตามเสียง)  เคยดูสวยงามและสร้างสรรค์   แต่ก็เป็นวรรณคดีอีสานทั่วไป  ไม่จำเพาะเจาะจง

คห. 22  คอนสะหวัน    ต้องแสดงให้เห็นความสัมพันธ์ทางวัฒนธรรมระหว่างร้อยเอ็ดกับคอนสะหวัน

คห. 23  เต้ยเกี้ยว    ไม่แน่ใจ    แต่เต้ยก็เป็นกลอนลำที่มีอยู่ทั่วไปในภาคอีสานหรือลาว

คห. 24  กะโป๋   ประยุกต์ขึ้นแน่นอน   และเห็นวิทยาลัยนาฏศิลป์หลายแห่งนำมาแสดง

คห. 25   ดึงครก - ดึงสาก  ไม่ปรากฎข้อมูลเชิงวิชาการว่าเป็นวิธีหนึ่งในการเสี่ยงทาย   วิธีการเสี่ยงทายฟ้าฝนในอุษาคเนย์  มีวิธีหนึ่งที่มีข้อมูลเชิงวิชาการชัดเจน   คือการเสี่ยงทายด้วยคางไก่  ในพิธีเลี้ยงผีปู่ตา

คห.  26  เก็บฝ้าย   เหมือน  คห. 24

คห. 29  ภูไท 3  เผ่า   ถ้าเป็นกาฬสินธุ์จะเหมาะที่สุด

สรุปความทั้งหมด    ยังไม่ชัดเจนว่า  การแสดงไหนที่แสดงความเป็นอัตลักษณ์ของร้อยเอ็ด   เพราะส่วนใหญ่  เป็นการแสดงที่ประยุกต์ที่มุ่งตอบโจทย์ด้านการท่องเที่ยว  เน้นความบันเทิง   ไม่สนใจข้อมูลเชิงวิชาการและการอนุรักษ์     ผมเป็นคนร้อยเอ็ด  ในความเห็นของผม  การเซิ้งบั้งไฟแบบสวยงามจากผู้ชายล้วน  มีกะโหล่งแขวนด้านหลัง  คือการแสดงที่เป็นอัตลักษณ์ของร้อยเอ็ด   ควรจัดประกวดแข่งขันเหมือนวงโปงลาง   ร้องสาละพัน (เขียนตามเสียง)  หรืออื่น ๆ

สาธุการบทความนี้ : 212 ครั้ง
จากสมาชิก : 0 ครั้ง
จากขาจร : 212 ครั้ง

15 พ.ค. 2553 เวลา 16:35:49

165) การแสดงพื้นบ้าน ที่เปนเอกลักษลักษณ์ของร้อยเอ็ด

โพสต์โดย

คห.ที่36) [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]

ยอดปรมาจารย์

ผมไม่ค่อยติดใจในเรื่องที่ว่า   อะไรควรเป็นอัตลักษณ์ของท้องถิ่นใดหรือไม่
แต่อัตลักษณ์ควรเป็นลักษณะเฉพาะตัว (ตามความหมายของคำว่า  อัตลักษณ์)
และอัตลักษณ์ควรเป็นตัวแทนของความเป็นตัวตนที่คนท้องถิ่นนั้นรับรู้ร่วมกัน  และเข้าใจได้ทันทีว่า  นี่แหละตัวตนของฉัน   สำหรับร้อยเอ็ด  ไม่มีใครไม่รู้จัก  ลำเพลิน  ดังนั้น  ลำเพลินอาจจัดเป็นอัตลักษณ์ได้ (แม้จะมีอยู่ในถิ่นอื่นก็ตาม  เพราะอัตลักษณ์ไม่ใช่สิ่งที่ฉันมีอยู่คนเดียว)  ส่วนการแสดงที่วิทยาลัยพยายามศึกษาข้อมูล  ประดิษฐ์ออกแบบการฟ้อนหรือการแสดง  แล้วนำเสนอต่อสาธารณชนนั้น   ถ้าเป็นอัตลักษณ์ก็เป็นอัตลักษณ์ที่พยายามสร้างขึ้นใหม่ (บนฐานทางวัฒนธรรมหรือรูปแบบเดิม) แต่ไม่อาจสื่อความหมายให้คนท้องถิ่นรับรู้ได้ทันทีว่า  นี่คือตัวตนของฉัน (หรือ)  อัตลักษณ์ไม่ควรเป็นสิ่งที่เข้าใจยากหรือต้องทำความรู้จักใหม่เหมือนคนแปลกหน้า   สิ่งสำคัญ  อัตลักษณ์ไม่ควรมุ่งตอบโจทย์ด้านการท่องเที่ยวเท่านั้น

ยกตัวอย่าง       ขอนแก่นมีคำขวัญบางส่วนว่า   สุดเท่ห์เหรียญทองมวยโอลิมปิก ...
แม้จะเป็นสิ่งที่เป็นทุกคนรับรู้ว่าสมรักษ์คือนักมวยเหรียญทองโอลิมปิก   แต่มันก็เป็นอัตลักษณ์ที่สร้างขึ้นเพื่อการท่องเที่ยวและประชาสัมพันธ์   หาใช่ตัวตนของขอนแก่นไม่   เพราะเมื่อหลายจังหวัดมีเหรียญทองโอลิมปิค   วลีนั้นก็ไม่ขลังอีกต่อไป

สาธุการบทความนี้ : 205 ครั้ง
จากสมาชิก : 0 ครั้ง
จากขาจร : 205 ครั้ง

15 พ.ค. 2553 เวลา 19:12:30

165) การแสดงพื้นบ้าน ที่เปนเอกลักษลักษณ์ของร้อยเอ็ด

โพสต์โดย

คห.ที่38) [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]

ยอดปรมาจารย์

พาดพิงขอนแก่นก็ไม่เป็นไรหรอกครับ เพราะผมก็คนร้อยเอ็ด และถึงแม้จะพาดพิงร้อยเอ็ดก็ไม่เป็นไร เพราะเราวิพากษ์เชิงสร้างสรรค์

ผมเห็นด้วยเรื่องการแสดงอันเป็นอัตลักษณ์ และผมก็เข้าใจด้วยว่า วัฒนธรรมดั้งเดิมแบบดิบ ๆ ขายยาก ก็คงต้องให้มีการประยุกต์ด้วยนั่นแหละ แต่สิ่งที่นักศึกษาด้านนี้ไม่ควรละทิ้งคือ รากเหง้า

สาธุการบทความนี้ : 206 ครั้ง
จากสมาชิก : 0 ครั้ง
จากขาจร : 206 ครั้ง

15 พ.ค. 2553 เวลา 19:57:19

165) การแสดงพื้นบ้าน ที่เปนเอกลักษลักษณ์ของร้อยเอ็ด

โพสต์โดย

คห.ที่40) [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]

ยอดปรมาจารย์

คุณเด็กน้อยร้อยเอ็ด:
ร้อยเอ็ดเพชรงาม ชื่อชัวร์มาก

ชื่อชัวร์มากก็จริง แต่ถ้ามีคนไปถามยายคนหนึ่งว่า : แม่ใหญ่ฮู้จักฟ้อนร้อยเอ็ดเพชรงามบ่ ?
เรา (ผู้พยายามสร้างอัตลักษณ์เสียเอง) ก็รู้คำตอบอยู่แล้ว

สาธุการบทความนี้ : 170 ครั้ง
จากสมาชิก : 0 ครั้ง
จากขาจร : 170 ครั้ง

16 พ.ค. 2553 เวลา 04:22:36

165) การแสดงพื้นบ้าน ที่เปนเอกลักษลักษณ์ของร้อยเอ็ด

โพสต์โดย

คห.ที่42) [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]

ยอดปรมาจารย์

คุณต้องแล่ง:

ผมเห็นด้วยเรื่องการแสดงอันเป็นอัตลักษณ์ และผมก็เข้าใจด้วยว่า วัฒนธรรมดั้งเดิมแบบดิบ ๆ ขายยาก ก็คงต้องให้มีการประยุกต์ด้วยนั่นแหละ แต่สิ่งที่นักศึกษาด้านนี้ไม่ควรละทิ้งคือ รากเหง้า

อ้างอิงจากความเห็นที่ 38 ผมก็ไม่ได้คัดค้านที่จะมีการประยุกต์

สาธุการบทความนี้ : 160 ครั้ง
จากสมาชิก : 0 ครั้ง
จากขาจร : 160 ครั้ง

16 พ.ค. 2553 เวลา 16:15:16

165) การแสดงพื้นบ้าน ที่เปนเอกลักษลักษณ์ของร้อยเอ็ด

โพสต์โดย

คห.ที่44) [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]

ยอดปรมาจารย์

ผมเห็นด้วยกับอาจารย์ ถ้าไม่ขัดข้องกรุณาโพสต์คลิปการแสดงชุดนี้ให้ดูด้วยครับ

สาธุการบทความนี้ : 0 ครั้ง
จากสมาชิก : 0 ครั้ง
จากขาจร : 0 ครั้ง

17 พ.ค. 2553 เวลา 09:16:31

287) เผยโฉมสัตว์ลึกลับ "เจอร์โบอา"

โพสต์โดย

คห.ที่200) [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]

ยอดปรมาจารย์

คอนตินิว....

ฮึฮึฮึ ฮุฮิ ฮิฮุฮุ   (บ่าวหน่อ...สุดยอดแห่งการแต่งกลอน)
งุงิงุ งิคริๆ อิๆ....เขิลลล!
พออ่านไป อ่านมา อยู่เพลินๆ
เกือบจะเดิน ตกท่อ...น้อ! แย๊จังงงง   (อ้ายโอ๊ต)

ภาษาไทยหากมักง่ายใช้ไม่ถูก
จวบรุ่นลูกคงสลดหมดความขลัง(ปังคุง)
เหลือเพียงแค่ตำนานให้นั่งฟัง (Civil Engineer)
นั่งเกาหลัง ทาเกลื้อน กลบเกลื่อนไป  ( ปิ่นลม)

ซุมฮิน้ำ  มักจะเป็น  เช่นปิ่นนี้ (ต้องแล่ง)

สาธุการบทความนี้ : 170 ครั้ง
จากสมาชิก : 1 ครั้ง
จากขาจร : 169 ครั้ง

09 ธ.ค. 2553 เวลา 12:50:01

287) เผยโฉมสัตว์ลึกลับ "เจอร์โบอา"

โพสต์โดย

คห.ที่203) [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]

ยอดปรมาจารย์

คุณบ่าวน้อย:

ภาษาไทยหากมักง่ายใช้ไม่ถูก
จวบรุ่นลูกคงสลดหมดความขลัง(ปังคุง)
เหลือเพียงแค่ตำนานให้นั่งฟัง (Civil Engineer)
นั่งเกาหลัง ทาเกลื้อน กลบเกลื่อนไป  ( ปิ่นลม)

ซุมฮิน้ำ  มักจะเป็น  เช่นปิ่นนี้  (ต้องแล่ง)
มีซีม่า เอามาทา ยาปัวปิ่น (บ่าวน้อย)

คุณบ่าวหน่อ:
นกบ่าวน้อยมาซางแต่งบ่เข้าพวกแท้ มาแต่งใหม่เดี๋ยวนี้

แต่งไว้แล้วไปอาดหลาด เบรคหมู่คักขนาด .. เน๊าะ

สาธุการบทความนี้ : 193 ครั้ง
จากสมาชิก : 0 ครั้ง
จากขาจร : 193 ครั้ง

14 ธ.ค. 2553 เวลา 04:54:22

287) เผยโฉมสัตว์ลึกลับ "เจอร์โบอา"

โพสต์โดย

คห.ที่210) [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]

ยอดปรมาจารย์

ฮึฮึฮึ ฮุฮิ ฮิฮุฮุ   (บ่าวหน่อ...สุดยอดแห่งการแต่งกลอน)
งุงิงุ งิคริๆ อิๆ....เขิลลล!
พออ่านไป อ่านมา อยู่เพลินๆ
เกือบจะเดิน ตกท่อ...น้อ! แย๊จังงงง   (อ้ายโอ๊ต)

ภาษาไทยหากมักง่ายใช้ไม่ถูก
จวบรุ่นลูกคงสลดหมดความขลัง(ปังคุง)
เหลือเพียงแค่ตำนานให้นั่งฟัง (Civil Engineer)
นั่งเกาหลัง ทาเกลื้อน กลบเกลื่อนไป  ( ปิ่นลม)

ซุมฮิน้ำ  มักจะเป็น  เช่นปิ่นนี้  (ต้องแล่ง)
ขอยาดี ซีม่า จากจารย์ใหญ่
ทาซีม่า กินข้าวหวาน สำราญใจ (มังกรเดียวดาย)
นั่งผิงไฟ กินข้าวจี่ ดีจริงจริง  (จารย์ใหญ่)

มีข้าวจี่ อ่อมเจอร์โบอาร์ เอ้่าเข้าท่า (บ่าวหน่อ)
มาเพื่อนมา กินอ่อมปู ต้มงูสิง (มังกรเดียวดาย)
แต่อั๊วว่า  รสแย่กว่า  หมากะลิง (ต้องแล่ง)

สาธุการบทความนี้ : 157 ครั้ง
จากสมาชิก : 0 ครั้ง
จากขาจร : 157 ครั้ง

15 ธ.ค. 2553 เวลา 05:03:14

295) อีสานจุฬาฯ ดอทคอม การละคร เรื่อง "สวรรค์บ้านนา"

โพสต์โดย

คห.ที่96) [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]

ยอดปรมาจารย์

คุณปิ่นลม:

ฮ้วย ตายอยู่พุเดียว ไผสิไป นิมนต์พระ

มนต์ล่วงหน้าไว้ก่อนตั๊วเนาะ

สาธุการบทความนี้ : 197 ครั้ง
จากสมาชิก : 0 ครั้ง
จากขาจร : 197 ครั้ง

09 ม.ค. 2554 เวลา 04:41:20

424) สังเกตเห็น ให้สาธุการ กับ รับสาธุการ อยู่ซ้ายมือ มันคืออะไรครับ? แล้วใช้งานอย่างไร?

โพสต์โดย

คห.ที่12) [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]

ยอดปรมาจารย์

คุณปิ่นลม:

เปลี่ยนจาก สาธุการ เป็น อามะ ภันเต ได้ บ่ฮึ..

กรุณาล็อกอินเข้าระบบ หรือสมัครสมาชิกก่อนครับ

สาธุการบทความนี้ : 0 ครั้ง
จากสมาชิก : 0 ครั้ง
จากขาจร : 0 ครั้ง

13 พ.ค. 2553 เวลา 17:59:31

536) เว่านัว หัวหม่วน ตามประสาคนบ้านเฮา

โพสต์โดย

คห.ที่4) [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]

ยอดปรมาจารย์

อยู่ดีมีแฮงคับ ประสาคนบ้านเดียวกัน

สาธุการบทความนี้ : 0 ครั้ง
จากสมาชิก : 0 ครั้ง
จากขาจร : 0 ครั้ง

22 มี.ค. 2553 เวลา 07:20:51

550) ภาพถ่ายอีสาน(และลาว)เมื่อร้อยกว่าปีก่อน

โพสต์โดย

คห.ที่201) [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]

ยอดปรมาจารย์

คุณโหวดฟ้า:
อืม คำว่า ช่างฟ้อนนี้ พ่อทรงศักดิ์ได้กล่าวว่า แต่เดิมไม่นิยมใช้ แต่จะใช้ความว่า หมอ แทน เช่น หมอลำ หมอเสพ หมอแคน ส่วน ช่าง จะนิยมใช้เรียกผู้มีความสามารถทางการฝีมือมากกว่า

ในความรู้สึกของผม คำว่า ช่างฟ้อน รู้สึกแปลก ๆ เมื่อได้ฟังครั้งแรก ในความคิดของผมสมัยก่อนคนลาวที่มีอาชีพหลักหรืออาชีพรองทางด้านนี้ (ศิลปะการแสดง) ที่จะต้องใช้การฟ้อนอย่างเดียวหายาก ส่วนใหญ่การฟ้อนจะใช้ประกอบการลำ เช่น หมอลำกลอน หมอลำหมู่ หมอลำทรง ล้วนต้องใช้การฟ้อนประกอบด้วยทั้งสิ้น ดังนั้นคำว่า ช่างฟ้อน จึงมีความรู้สึกแปลกสำหรับผม ส่วนจะใช้คำว่า หมอฟ้อน ก็ยังคงขัด ๆ อยู่ดี แต่อย่างไรก็ตาม การใช้คำว่า ช่าง ก็ยังคงมีให้เห็นอยู่บ้างแม้จะเป็นงานด้านศิลปะก็ตาม เช่น คำว่า ช่างแต้ม หมายถึง คนวาดรูป เช่น ช่างแต้มฝาผนังสิม เป็นต้น

สาธุการบทความนี้ : 434 ครั้ง
จากสมาชิก : 0 ครั้ง
จากขาจร : 434 ครั้ง

25 ธ.ค. 2553 เวลา 07:13:30

603) ขออนุญาตพูดหน่อยนะครับ กรุณาทนอ่านซักนิด

โพสต์โดย

คห.ที่19) [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]

ยอดปรมาจารย์

ขออนุญาตแสดงความคิดเห็น

      การ Post  ของสมาชิกมี 2 ลักษณะ  คือ
                  - Post  เป็นภาษาไทย (ภาษานะครับ  ไม่ใช่อักขระ)  กรณีนี้ผมเห็นด้วยอย่างยิ่งว่าต้องใช้ภาษาไทยให้ถูกต้อง
                  - Post  เป็นภาษาถิ่น (แต่ใช้อักษรไทยเขียน)  กรณีหลังนี้ถ้าใช้หลักภาษาไทยมาเป็นเกณฑ์ในการพิจารณา  จะกลายเป็นผิดหลักภาษา (ไทย)  ยกตัวอย่างภาษาลาว (ที่เราใช้อยู่ในภาคอีสาน) มีลักษณะที่น่าสนใจบางอบ่าง  เช่น สะกดคำตามมาตราตัวสะกด ไม่นิยมคำควบกล้ำ  ใช้พยัญชนะหรือสระคนละตัว (กับภาษาไทย)  โดยเฉพาะภาษาที่ปรากฎอยู่ในวรรณกรรมท้องถิ่น  เช่นคำต่อไปนี้
                         - เขียนกาบกอน  (เขียนกาพย์กลอน)
                         - มาแต่ในเมียง   (มาจากในเมือง)
                         - พะอิน (พระอินทร์)
                         - พะลักพะลาม  (พระลักษณ์พระราม)
                         - ผู้ข่าเป็นคนขอนแจ่น
                         - ฯลฯ
       การ Post กรณีนี้ ผู้ Post  ต้องการอนุรักษ์ภาษาถิ่่น  ถ้าเราเขียนในรูปแบบภาษาไทยเสียอีกที่จะถือว่าเพี้ยน  เช่น  เราเขียนคำว่า  "เมียง"  เป็น "เมือง" ดังนั้นการ Post กรณีนี้ควรได้รับการพิจารณายกเว้น

สาธุการบทความนี้ : 169 ครั้ง
จากสมาชิก : 0 ครั้ง
จากขาจร : 169 ครั้ง

21 ก.ค. 2553 เวลา 03:43:05

666) บั้งไฟสวยงาม ของคนอีสาน ลงภาพใหม่เพ่มเติมกว่า ๑๐๐ ภาพ

โพสต์โดย

คห.ที่33) [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]

ยอดปรมาจารย์

คุณอ้ายโอ๊ต:

หมวกกาบใบตาล

นี่ก็เป็นของหายากที่ไม่ค่อยเห็นในจังหวัดอื่นนอกจากร้อยเอ็ดนะครับ

นี่คือสิ่งที่ผมเคยนำเสนอความคิดว่า ควรเป็นการแสดงที่เป็นอัตลักษณ์ของร้อยเอ็ด

สาธุการบทความนี้ : 307 ครั้ง
จากสมาชิก : 0 ครั้ง
จากขาจร : 307 ครั้ง

16 มิ.ย. 2553 เวลา 08:56:36

โพสต์โดย

724) บ้านข้อน เมืองฮอม

คห.ที่9) [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]

ยอดปรมาจารย์

ในขณะที่เวียงจันทร์ถููกทัพสสยามทำลายย่อยยับ    จนสูญสิ้นสภาพบ้านเมืองในสมัยต้นรัชกาลที่  3   ในเหตุการณ์์กบฏเจ้าอนุุวงศ์  มีผญาบทหนึ่งว่า

เวียงจันทร์เศร้าสาวเอ้ยออย่่าได้ว่า    มันสิโป้บาดหล่า   หมากแตงซ้ายหน่วยปาย

ก็ได้แต่หวังว่า   ในความเลวร้ายเช่นนี้  จะนำความผาสุกมาให้ในภายหลััง

สาธุการบทความนี้ : 201 ครั้ง
จากสมาชิก : 0 ครั้ง
จากขาจร : 201 ครั้ง

20 พ.ค. 2553 เวลา 05:47:58

137) อาหารอีสานที่ผมทานไม่ลง -*-

โพสต์โดย

คห.ที่46) [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]

ยอดปรมาจารย์

ขออภัยครับ

ห้องโสกันฉันพี่น้อง สำหรับสมาชิก เท่านั้นครับ

กรุณาล็อกอินเข้าระบบ หรือสมัครสมาชิกก่อนครับ

สาธุการบทความนี้ : 0 ครั้ง
จากสมาชิก : 0 ครั้ง
จากขาจร : 0 ครั้ง

22 ต.ค. 2553 เวลา 20:46:33

โพสต์โดย

739) สโมสรฟุตบอลลูกอีสาน

คห.ที่5) [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]

ยอดปรมาจารย์

กรุณาล็อกอินเข้าระบบ หรือสมัครสมาชิกก่อนครับ

สาธุการบทความนี้ : 0 ครั้ง
จากสมาชิก : 0 ครั้ง
จากขาจร : 0 ครั้ง

30 ส.ค. 2553 เวลา 17:42:21

754) รวมภาพบรรยากาศ งานพาแลง จุฬาฯ

โพสต์โดย

คห.ที่62) [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]

ยอดปรมาจารย์

คุณบ่าวหน่อ:
มาเบิ่งกันจะๆเลยครับ ว่า Fomular Doctor เป็นไผ

Fomular Doctor ? = สูตร + หมอ = หมอสูตร
ปาดโธ้ ... ได้มาแต่ไสละคำนี่

สาธุการบทความนี้ : 193 ครั้ง
จากสมาชิก : 0 ครั้ง
จากขาจร : 193 ครั้ง

10 พ.ค. 2553 เวลา 10:20:00

โพสต์โดย

768) สถิติ (พี่น้อง)

คห.ที่166) [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]

ยอดปรมาจารย์

สำบายดีตอนบ่ายแก่ ๆ โต๊ะผู้ข่าฮกคักกั่วนี้อีก

สาธุการบทความนี้ : 0 ครั้ง
จากสมาชิก : 0 ครั้ง
จากขาจร : 0 ครั้ง

18 ก.ย. 2553 เวลา 16:05:42

โพสต์โดย

768) สถิติ (พี่น้อง)

คห.ที่176) [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]

ยอดปรมาจารย์

ปล่อยงูเถาะ มาถ่าอ่านดนแล้ว

ณ เวลา: 2010-09-30 13:44:01 ออนไลน์ทั้งหมด 26 คน
ผู้ใช้ที่ล็อกอิน 2 คน
ชื่อ กำลังดู
ลุ่มดอนไข่ บทบรรณาธิการ
ต้องแล่ง มุมสร้างสรรค์เว็บมาสเตอร์

สาธุการบทความนี้ : 182 ครั้ง
จากสมาชิก : 0 ครั้ง
จากขาจร : 182 ครั้ง

30 ก.ย. 2553 เวลา 13:44:32

โพสต์โดย

816) ป้อย

คห.ที่8) [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]

ยอดปรมาจารย์

ห่าถั่งไส้คนไคกั่วหมู่ ห่ากินซิ้นสาวโก้ฮูปงาม

สาธุการบทความนี้ : 297 ครั้ง
จากสมาชิก : 0 ครั้ง
จากขาจร : 297 ครั้ง

20 มิ.ย. 2553 เวลา 15:45:19

823) ชื่อ ฟังดูอาจจะลาว เเต่มีคุณค่าทางวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์

โพสต์โดย

คห.ที่10) [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]

ยอดปรมาจารย์

การดูถูกทางชาติพันธุ์ เป็นการเปลี่ยนแปลงที่ค่อยเป็นค่อยไป และมีภูมิหลังทางประวัติศาสตร์ที่ยาวนาน สยามดูถูกชนชาติอื่น ๆ เช่น ลาว เขมร แกว พม่า ฯลฯ ในขณะเดียวกันชนชาติอื่นก็ดูถูกสยามเช่นเดียวกัน เช่น เขมรดูถูกสยาม เห็นได้จากชื่อเมืองในเขมรบางเมือง เช่น เสียมเรียบ (สยามราบเรียบ) เป็นเมืองที่กองทัพสยามกรุงศรีอยุธยาพ่ายแพ้ (ราบเป็นหน้ากลอง) ให้แก่กองทัพของสมเด็จพระบรมราชาธิราชแห่งกรุงกัมพูชา ในสมัยหลังที่สยามครองดินแดนเขมรก็เปลี่ยนชื่อเมืองนี้ใหม่เป็น เสียมราฐ (แปลว่าเมืองของสยาม) อีกสถานที่หนึ่งคือ เสียมโบก แปลว่า สยามหลอกลวง อยู่ในจังหวัดสตึงแตรง ตอนเหนือของเขมรติดกับแก่งหลีผีของลาว เป็นชื่อที่ตั้งขึ้นเมื่อกองทัพไทยสมัยกรุงธนบุรีเกณฑ์แรงงานชาวเขมรขุดคลองอ้อมแก่งหลีผีเพื่อขึ้นไปตีเวียงจันทร์ ในการรับรู้ของคนเขมร คำว่า สยาม จึงมีความหมายในทางดูถูก และมีทัศนคติเชิงลบ แสดงความสัมพันธ์ทางชาติพันธุ์ ส่วนคำว่า ไทย ในการรับรู้ของคนเขมร มีความหมายในทางกลาง และเป็นความสัมพันธ์ในทางรัฐชาติ ในความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทยกับกัมพูชา เมื่อใดที่ความสัมพันธ์ทางการทูตห่างเหินหรือมีความขัดแย้ง เราจะพบว่านัการทูตหรือผู้นำกัมพูชาจะกล่าวถึงไทย ด้วยคำว่า สยาม อยู่บ่อยครั้ง

สาธุการบทความนี้ : 159 ครั้ง
จากสมาชิก : 0 ครั้ง
จากขาจร : 159 ครั้ง

15 พ.ค. 2553 เวลา 16:04:40