ผญา คติสอนใจประจำวันที่ 26 เมษายน 2568:: อ่านผญา 
ถึงสิมีความฮู้ เต็มพุงเพียงปาก โตสอนโตบ่ได้ ไผสิย่องว่าดี แปลว่า ถึงจะมีความรู้เต็มท้องถึงปาก หากสอนตัวเองไม่ได้ ก็ไม่มีใครชื่นชม หมายถึง รู้แต่ไม่นำมาใช้ ก็ไม่ดี รู้แต่ทำไม่เป็น ก็ไม่ดี


  ค้นหากระทู้ ปลาร้านอกไห  

หน้า: 1 2 3  
  โพสต์โดย   6) มาเว้าผญากันเด้อพี่น้องเด้อ  
  ลูกขุนหาญ    คห.ที่924) ขุนหาญ      [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]  
  ศิษย์พี่ใหญ่

ภูมิลำเนา : ศรีสะเกษ
เข้าร่วม : 07 มี.ค. 2552
รวมโพสต์ : 196
ให้สาธุการ : 130
รับสาธุการ : 554140
รวม: 554270 สาธุการ

 
แนวบักตั๊ก คนโก้ รูปบ่หล่อพอปานได๋
คนกะไคพอแยง แถนบ่เต็มใจปั้น
ศรีสะเกษนั้นบ้านเกิด หอมกะเทียมคนเขาส่า
บ้านเกิดของผู้ข้า ขุนหาญนั้น เขตเมืองขอม
พี่น้องเอ้ย..อย่าสูไลลืมเค้า ผักกระเดาทวนเก่า
ยามให้ซดลาบก้อย อย่าลืมค่อยใส่กระทิงแดง
ผัดได้บายเงินล้าน อย่าไลคุณเงินบาท
บัดยามเงินขาดร้อย คุณแนวน้อยผัดฮ่างมี..
หล่านางเอ้ย..แดดฮ้อนๆ อ้ายสิคอนกะตามาหาเจ้า
สิเอาน้ำแข็งท่อก้อนเส่า มาป้อนเจ้าผู้มักกิน ตั้วหล่ะนาง        

 
 
สาธุการบทความนี้ : 339 ครั้ง
จากสมาชิก : 1 ครั้ง
จากขาจร : 338 ครั้ง
 
 
  07 มี.ค. 2552 เวลา 21:57:32  
   ขึ้นบน ลงล่าง  
 
         

  โพสต์โดย   6) มาเว้าผญากันเด้อพี่น้องเด้อ  
  ลูกขุนหาญ    คห.ที่925) เมืองขุนหาญ      [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]  
  ศิษย์พี่ใหญ่

ภูมิลำเนา : ศรีสะเกษ
เข้าร่วม : 07 มี.ค. 2552
รวมโพสต์ : 196
ให้สาธุการ : 130
รับสาธุการ : 554140
รวม: 554270 สาธุการ

 


พี่น้องเอย เพิ่นว่าเมืองขุนหาญนี่ดินดำน้ำซุ่ม
ปลากุ่มบ้อนคือแข้แกว่งหาง
ปลานางบ้อนคือขางฟ้าลั่น
จั๊กจั่นฮ้องคือฆ้องลั่นยาม
คนมีศีล ดินมีน้ำ บ่ห่อนขาดเขินบก
ฝูงหมู่สกุณานก บินซวนซมปลายไม้
คนเมืองไกล เมืองใกล้ ไปมาได้จอดแว้
น้ำใจหลายดีแท้ หมู่เฮาซาวขุนหาญซั่นแล้ว

 
 
สาธุการบทความนี้ : 971 ครั้ง
จากสมาชิก : 1 ครั้ง
จากขาจร : 970 ครั้ง
 
 
  07 มี.ค. 2552 เวลา 22:11:28  
   ขึ้นบน ลงล่าง  
 
         

  โพสต์โดย   6) มาเว้าผญากันเด้อพี่น้องเด้อ  
  ลูกขุนหาญ    คห.ที่927) ซัวสเดย(สวัสดี)      [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]  
  ศิษย์พี่ใหญ่

ภูมิลำเนา : ศรีสะเกษ
เข้าร่วม : 07 มี.ค. 2552
รวมโพสต์ : 196
ให้สาธุการ : 130
รับสาธุการ : 554140
รวม: 554270 สาธุการ

 


.พอได่ยินคำเว้า เพิ่นโสผญาสามาม่วน
เห็นแล้วด่วนมาเว้า แม่นกล่าวต้าน ดอกหวานหู
ข๋อยนี้เป็นผู้น้อย ต่อยต่ำในคำจา
อย่าถือซาลูกหลานผู้เป็นจารย์เก่งกล้า
พอเห็น ผญาเจ้า หัวใจข๋อยเป็นบ่หดฮู
อด บ่ รน ทน บ่ ได้ สิต้าน ตอบจ่ายผญา ก่อน แหล่ว
ลูกขุนหาญฟังเบิ่งเมิดแล้ว เผยสำเนาออกมาว่า
บ่ได๋ไกลจากหน้า พวกพ้องมิตรสหาย
เพินว่า..สี่เท้าย่อมพลาดพั้ง ปากกะดังคือเดียว..
ทางเคยเที่ยวพัดลืมหลง ผ่านดงซิตำไม้..
ให้หมู่เจ้ามาขานไซ้ เป็นแสงไฟตะบองตื้ม
หากผมลืมไปบ้าง ขอเซียงอ้ายค่อยค่อยสอน
อย่าซิฟ่าวเดือดฮ้อน ตอนสิลงข่วงผญา
มันบ่คือภูผาเทวดาซิกายฮ้อน....
ไผ..ว่าคั่งอยู่ต้นซิกลับกลายเป็นขี้ซี
ปีกะคงเป็นปีบ่ห่อนกลายเป็นกล้วย
ผู้ได๋ว่าเขาควายซิกลายเป็นงาซ้าง
นกกระยางซิกลายเป็นนกเจ่า
แหนงตุ้มเอาลูกขุนหาญน้อย เป็นสายสร้อยหากค่ามี
ลูกผุ้ใหญ่ มามื้อนี้ มาโดดเดี่ยว เดียวดาย
ซำกับฝายดินทราย บ่อยู่ยงคงน้ำ
โตข๋อยนี่..ร่อนเร่พเนจร มาอาศัยดินดอนอยู่เมืองหลวงกว้าง
อาศัยน้ำ อาศัยข้าว อาศัยเฮียน อาศัยเพียรนำหมู่
บ่ทันมีหม่อมซู้ มาซ้อนบ่อนเขนย
แต่งกะแต่งบ่ได้หาหม่องไปผัดบ่ล่วงอายเชียงเอ้ย
มาต่อให้น้องแน่เด้อครับ 5555

 
 
สาธุการบทความนี้ : 538 ครั้ง
จากสมาชิก : 1 ครั้ง
จากขาจร : 537 ครั้ง
 
 
  08 มี.ค. 2552 เวลา 14:06:42  
   ขึ้นบน ลงล่าง  
 
         

  โพสต์โดย   6) มาเว้าผญากันเด้อพี่น้องเด้อ  
  ลูกขุนหาญ    คห.ที่929) อ้ายเซียง      [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]  
  ศิษย์พี่ใหญ่

ภูมิลำเนา : ศรีสะเกษ
เข้าร่วม : 07 มี.ค. 2552
รวมโพสต์ : 196
ให้สาธุการ : 130
รับสาธุการ : 554140
รวม: 554270 สาธุการ

 


อ้ายเชียงเอ้ย

ฟังความเว้าเบามาคือบักนุ่น แท้น้อ

บ่แมนนุ่นบักงิ้วสิปิวขึ้นก่อนลม บ่น้ออ้าย

บ่แม้นตีแถลงล้มลมบ่มีเอาวีแกวงเอาบ้อ

บ่แมนตี้แถลงค่อยหวานจ้อยไห้คึดนำบ่น้ออ้าย

มาย้องกันจ้อๆๆๆแท้อ้ายเชียงเอ้ย

 
 
สาธุการบทความนี้ : 373 ครั้ง
จากสมาชิก : 1 ครั้ง
จากขาจร : 372 ครั้ง
 
 
  08 มี.ค. 2552 เวลา 18:41:15  
   ขึ้นบน ลงล่าง  
 
         

  โพสต์โดย   6) มาเว้าผญากันเด้อพี่น้องเด้อ  
  ลูกขุนหาญ    คห.ที่934) ผญาเขมร      [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]  
  ศิษย์พี่ใหญ่

ภูมิลำเนา : ศรีสะเกษ
เข้าร่วม : 07 มี.ค. 2552
รวมโพสต์ : 196
ให้สาธุการ : 130
รับสาธุการ : 554140
รวม: 554270 สาธุการ

 
"เบอ ทา รีน รีน ออย แจะ ออย เด่ง เบอ ทา มันเด่ง คะไมรีน เจีย เจียง"

 
 
สาธุการบทความนี้ : 11 ครั้ง
จากสมาชิก : 1 ครั้ง
จากขาจร : 10 ครั้ง
 
 
  16 มี.ค. 2552 เวลา 22:16:05  
   ขึ้นบน ลงล่าง  
 
         

  โพสต์โดย   6) มาเว้าผญากันเด้อพี่น้องเด้อ  
  ลูกขุนหาญ    คห.ที่1068) มูลมัง      [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]  
  ศิษย์พี่ใหญ่

ภูมิลำเนา : ศรีสะเกษ
เข้าร่วม : 07 มี.ค. 2552
รวมโพสต์ : 196
ให้สาธุการ : 130
รับสาธุการ : 554140
รวม: 554270 สาธุการ

 
ลูกขุนหาญมาเผยผ่านกลอนผญา
กาลเวลาค่ำโค้งลงแต้ม
แกมกลอนต้านคำขานให้คุ้มข่วง
ท่านทั้งปวงอ่านแล้วได้เห็นพ้อซ่อยต่อเติม
พอได้เสริมสอนสร้างวิถีทางอีสานเก่า
มรดกแต่เค้าโบราณเถ่าเพิ่นว่ามา
ฮอดภาคหน้าคนได้ส่าลือไกล
แดนอีสานของไทยได้ส่องใสเสมอแก้ว
แนวดีนั้นเอามาปันน้องพี่
ผู้มีดีอย่าเซื่องส่นพาไปซ้นเซื่องอำ
อีกฝ่ายก้ำทุกท่านผู้เทียวทาง
อย่าได้วางคำเสยเพิกเลยคันผิดเพี้ยน
ให้เจ้าเวียนมาท้วงหาแนวปรุงมาเติมต่อ
นัวบ่อพอแซบซ้อยเอาเกลือต้อยตื่มตาม
เปรียบคือดังเข้าน้ำภาชโภชน์อาหาร
หากมีหวานเค็มขมส่มจางจริงแท้
พากันแปรแปลงสร้างหาทางเติมตื่ม
อย่าฟ้าวลืมละไว้ไลม้างห่างกัน แท้แหลว

 
 
สาธุการบทความนี้ : 350 ครั้ง
จากสมาชิก : 3 ครั้ง
จากขาจร : 347 ครั้ง
 
 
  05 ส.ค. 2552 เวลา 19:07:25  
   ขึ้นบน ลงล่าง  
 
         

  โพสต์โดย   6) มาเว้าผญากันเด้อพี่น้องเด้อ  
  ลูกขุนหาญ    คห.ที่1069) ของฝาก      [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]  
  ศิษย์พี่ใหญ่

ภูมิลำเนา : ศรีสะเกษ
เข้าร่วม : 07 มี.ค. 2552
รวมโพสต์ : 196
ให้สาธุการ : 130
รับสาธุการ : 554140
รวม: 554270 สาธุการ

 
มาแล้วเด้อ พี่น้อง ข่อยเอาของมาฝาก.
มีหลายหลากอั่งล้น เต็มเป้ ไถ่ถง
หมากไฟดงหมากขามป้อม สีหอมหอมดอกสะมั่ง
ขากั่งจั่งแมนอึ่งย่าง เห็ดกระด้างดอกจั่งหู
นำขอนผู๋ข้อยเก็บได้ เห็ดไคเทิงละโงก
กายป่าโคกหมากหว่าเก็บมาต้อนหมู่สาว
สีขาวขาวเอามาเอ้ สะเลเตดอกหอมอ่อน
พีพ่วนแดงอ้อนต้อน เอามาพร้อมพร่ำกัน
นอกจากหั่นมีหมกส่มปลาขาวนา ปลาแดก  
เทิงพ่องแตกใส่ส่ง เหม็นตึ้มทั่วกาย
เอามายายมวลเจ้า ผักกะเดายอดอ่อนอ่อน
เทิงส้มต่อนกะพ่องนั้นหัวเกาะคั้น ว่างเมื่อวาน
เทิงผักหวาน ผักเสี่ยน เต็มกระเบียนพาถาด
มาแม้ป๊าด..พี่น้อง มาเอาไว้ถ่าใส่แลง..โอยยเมื่อยยยย..ฮึ

 
 
สาธุการบทความนี้ : 386 ครั้ง
จากสมาชิก : 2 ครั้ง
จากขาจร : 384 ครั้ง
 
 
  05 ส.ค. 2552 เวลา 19:13:47  
   ขึ้นบน ลงล่าง  
 
         

  โพสต์โดย   6) มาเว้าผญากันเด้อพี่น้องเด้อ  
  ลูกขุนหาญ    คห.ที่1079)       [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]  
  ศิษย์พี่ใหญ่

ภูมิลำเนา : ศรีสะเกษ
เข้าร่วม : 07 มี.ค. 2552
รวมโพสต์ : 196
ให้สาธุการ : 130
รับสาธุการ : 554140
รวม: 554270 สาธุการ

 
พี่น้องเอ้ย

มีดหว่าคม คมบ่ท่อปากคม

ของหว่าขม ขมบ่ท่อปากคน

 
 
สาธุการบทความนี้ : 0 ครั้ง
จากสมาชิก : 0 ครั้ง
จากขาจร : 0 ครั้ง
 
 
  20 ส.ค. 2552 เวลา 22:23:29  
   ขึ้นบน ลงล่าง  
 
         

  โพสต์โดย   6) มาเว้าผญากันเด้อพี่น้องเด้อ  
  ลูกขุนหาญ    คห.ที่1102) ลูกขุนหาญ      [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]  
  ศิษย์พี่ใหญ่

ภูมิลำเนา : ศรีสะเกษ
เข้าร่วม : 07 มี.ค. 2552
รวมโพสต์ : 196
ให้สาธุการ : 130
รับสาธุการ : 554140
รวม: 554270 สาธุการ

 
ข่อยนี้เซื้อไก่ขาว หางญาวซาบลาบ บ่แม่นเชื้อไก้กุ้ม หางสั้นบ่ห่อนญาว

 
 
สาธุการบทความนี้ : 0 ครั้ง
จากสมาชิก : 0 ครั้ง
จากขาจร : 0 ครั้ง
 
 
  02 ต.ค. 2552 เวลา 18:29:09  
   ขึ้นบน ลงล่าง  
 
         

  โพสต์โดย   6) มาเว้าผญากันเด้อพี่น้องเด้อ  
  ลูกขุนหาญ    คห.ที่1106) อาจารย์ใหญ่      [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]  
  ศิษย์พี่ใหญ่

ภูมิลำเนา : ศรีสะเกษ
เข้าร่วม : 07 มี.ค. 2552
รวมโพสต์ : 196
ให้สาธุการ : 130
รับสาธุการ : 554140
รวม: 554270 สาธุการ

 
ซ้นกะซ้นโลดอ้าย  เซาหม๋องใด๋กะบ่หว่า

คำผญาญังกุ้ม ใต้หลุ่มตะล่างเฮือน

ไผ๋อยากเข้ามาเยือน ให้ขนผญาเอามาแก้

ไผ๋ผู้เก่งแท้ๆ ยกผญาขึ้นมาก่าย อ้ายเอ่ย

 
 
สาธุการบทความนี้ : 318 ครั้ง
จากสมาชิก : 0 ครั้ง
จากขาจร : 318 ครั้ง
 
 
  04 ต.ค. 2552 เวลา 13:48:33  
   ขึ้นบน ลงล่าง  
 
         

  โพสต์โดย   6) มาเว้าผญากันเด้อพี่น้องเด้อ  
  ลูกขุนหาญ    คห.ที่1108) หนุ่มเมืองแปะ      [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]  
  ศิษย์พี่ใหญ่

ภูมิลำเนา : ศรีสะเกษ
เข้าร่วม : 07 มี.ค. 2552
รวมโพสต์ : 196
ให้สาธุการ : 130
รับสาธุการ : 554140
รวม: 554270 สาธุการ

 
แนวหว่าคำผญานี้ หญามา กะหญาใส่  

บ่แหม่นเซื่อหมากหญ้า หญาได้กะบ่คา แหล่ว

อ้ายเอ้ย

น้องนี้ทุกข์ญากฮ้าย กายก่ำผอมโซ

ญากนำโตบ่มีเงิน เผิ่นบ่ถามเถิงจ่อย

ข่อยนี้ แนวนามน้อย หมากหอยนาตาต่ำ

คำบ่มีอั่งล้น ไผ๋แหล่วสิอ่าวหา

 
 
สาธุการบทความนี้ : 312 ครั้ง
จากสมาชิก : 0 ครั้ง
จากขาจร : 312 ครั้ง
 
 
  05 ต.ค. 2552 เวลา 13:27:58  
   ขึ้นบน ลงล่าง  
 
         

  โพสต์โดย   6) มาเว้าผญากันเด้อพี่น้องเด้อ  
  ลูกขุนหาญ    คห.ที่1113)       [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]  
  ศิษย์พี่ใหญ่

ภูมิลำเนา : ศรีสะเกษ
เข้าร่วม : 07 มี.ค. 2552
รวมโพสต์ : 196
ให้สาธุการ : 130
รับสาธุการ : 554140
รวม: 554270 สาธุการ

 
ไกลมื้อนี้ มื้ออื่นสิมาหา
คันแม้นซีวายัง สิด่วนมาหาเจ้า
ไกลกันยามมื้อเซ้า ไกลกันท่อข้อมือ
ไกลกันยามมื้อฮือ ไกลกันท่อนิ้วก้อย
ไกลมื้อเล็กมื้อน้อยกะเลยซ้ำล่ำบ่เห็น
บ่อยากพลัดพรากเว้น เวรหากจ่องจำหนี
บ่อยากไกลสายคอ แม่เวรหากพาเว้น
อยากเห็นโตแม่เวรเด้ สิเป็นโตจังใด๋หนอ
คันเป็นโตคือจังหอย คันมีฮอยคือจังซ้าง
อ้ายสิไปว่าจ้าง พรานหลวงเพิ่นไล่ฆ่า
อ้ายสิไปว่าจ้าง พรานนาเพิ่นไล่ยิง
แม้นสิสิงอยู่ต้นไม้ สิเอาไฟอูดเผา

 
 
สาธุการบทความนี้ : 343 ครั้ง
จากสมาชิก : 0 ครั้ง
จากขาจร : 343 ครั้ง
 
 
  08 ต.ค. 2552 เวลา 20:50:54  
   ขึ้นบน ลงล่าง  
 
         

  โพสต์โดย   6) มาเว้าผญากันเด้อพี่น้องเด้อ  
  ลูกขุนหาญ    คห.ที่1118)       [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]  
  ศิษย์พี่ใหญ่

ภูมิลำเนา : ศรีสะเกษ
เข้าร่วม : 07 มี.ค. 2552
รวมโพสต์ : 196
ให้สาธุการ : 130
รับสาธุการ : 554140
รวม: 554270 สาธุการ

 
เจ้าผู้ทางหลวงกว้าง สั่งมาเทียวแต่ทางข่อง

หมกปลาแดกมีบ่แพ้  เลาะหาจ้ำแต่ตอง

แปงขัวข้าม นัทีทอง สั่งบ่ไต่

สั่งเล่าหม่นป่าไม้ ไปหน้าแต่ผู้เดียว แท้น้อ

จำปาเอ้ย คันเจ้าไกลไปหน้า อย่าคืนมาของเก่า

เว้าผิดกะแหม่นเจ้า เว้าบ่ฟังกะแหม่นเจ้า

อยากเห็นอ้าย ให้เบิ่งหมอน  นั้นแหล่ว

 
 
สาธุการบทความนี้ : 724 ครั้ง
จากสมาชิก : 1 ครั้ง
จากขาจร : 723 ครั้ง
 
 
  09 ต.ค. 2552 เวลา 12:56:45  
   ขึ้นบน ลงล่าง  
 
         

  โพสต์โดย   6) มาเว้าผญากันเด้อพี่น้องเด้อ  
  ลูกขุนหาญ    คห.ที่1159)       [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]  
  ศิษย์พี่ใหญ่

ภูมิลำเนา : ศรีสะเกษ
เข้าร่วม : 07 มี.ค. 2552
รวมโพสต์ : 196
ให้สาธุการ : 130
รับสาธุการ : 554140
รวม: 554270 สาธุการ

 
สัจจะ ผู้หญิงนี้ คือกวยกะต่าห่าง ทิ้งใส่น้ำไหลเข้า คุตา
สัจจะ ผู้ชายนั้น คือหินหนักหมื่น ทิ้งใส่น้ำ จมบิ่ง บ่ ฟู
สัจจะ ผู้หญิงนั่น คือหางหมาแม่ ได้กลิ่น ขี้ แว เข้า พุ่มแก
…คันเจ้าฟังคำเว้า เอาความเก่ามาจา
มันสิพาเฮาเสีย สิ่งสงวน ตั้วน้อง
บูฮานเว้า ไขคำเว้าว่า
นุ่งผ้าลาย หมาเห่า เว้าความเก่า เลาผิดกัน
มันแม่น จริง อยู่เด้ น้อง
.....ไผสิ เล็งเห็นใส้ ตับไตนก ขี้ถี่
ปากมันฮ้องจ้อย จ้อย ตาเสี่ยง เบิ่งกะปู พุ้น เด
อย่าสุมาหาเว้า คำ บ่แม่น มันผิดกัน
คำ บ่ มีมาแถลง แม่น บ่ควร สิมาเว้า
.......คำว่าชายฮักน้อง เป็นความจริง สัตย์ซื่อ
คำ บ่ จริงพี่ บ่ เว้า มันเสียชั้นชาติชาย
ชาย นี่ เป็นชายจริงแท้ บ่ มีแห่ มาปน
บ่ แม่นชายเทียมหญิง รักจริง บ่ ลวงล่อ
......ย่านแต่ทางตัวน้อง มีคำลวงเว้าหล่าย
ตั๋วให้ชาย นี้ล้มเดือน ห้าก่อนฝน
เห็นแต่ สีขาวจ้า ว่าน้ำแก่ง ในเลิง
พี่กะโจนลงไป ผัดแม่น เลิง บ่ มีน้ำ
......คันเป็นจริง คือน้องเว้า เป็นความจริง คือน้องว่า
ออกพรรษาแล้ว อ้าย สิเอาเฒ่า ไปจ่าวขอ
ว่าแต่ทางตัวน้อง สิหลบหลีกไปทางใด๋ บุ๋
บาดว่า ชายไปถึง สิ ว่ามีแฟนแล้ว หึยยยย
...แนว บ่ เป็นคือคำเว้า มาตั๋วหลอก ให้บืนตาย
ตั๋วให้ปลาตกหลุม หมู่มดแดง มาก้อย
ตั๋ว ตายแขวนห้อน เทิงปลาย คือหมากบวบ
แขวนอยู่ปลายอ้อนต้อน คาค้างดากโกน อิอิอิ

 
 
สาธุการบทความนี้ : 600 ครั้ง
จากสมาชิก : 1 ครั้ง
จากขาจร : 599 ครั้ง
 
 
  29 ต.ค. 2552 เวลา 17:01:25  
   ขึ้นบน ลงล่าง  
 
         

  โพสต์โดย   6) มาเว้าผญากันเด้อพี่น้องเด้อ  
  ลูกขุนหาญ    คห.ที่1162)       [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]  
  ศิษย์พี่ใหญ่

ภูมิลำเนา : ศรีสะเกษ
เข้าร่วม : 07 มี.ค. 2552
รวมโพสต์ : 196
ให้สาธุการ : 130
รับสาธุการ : 554140
รวม: 554270 สาธุการ

 
อ้ายเอ่ย

แนวหว่าคำผญานี้ หญามากะหญาใส่

บ่แหม่นเซื่อหมากหญ้า หญาได๋กะบ่คา แหล่ว

บ่ได้กินแกงแข้คางกะแจปากบ่หลั่น

บ่ได้กินแกงซ้างคางกระด่างปากบ่เป็น  ซันดอกหว่า

 
 
สาธุการบทความนี้ : 419 ครั้ง
จากสมาชิก : 0 ครั้ง
จากขาจร : 419 ครั้ง
 
 
  30 ต.ค. 2552 เวลา 20:41:18  
   ขึ้นบน ลงล่าง  
 
         

  โพสต์โดย   6) มาเว้าผญากันเด้อพี่น้องเด้อ  
  ลูกขุนหาญ    คห.ที่1479)       [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]  
  ศิษย์พี่ใหญ่

ภูมิลำเนา : ศรีสะเกษ
เข้าร่วม : 07 มี.ค. 2552
รวมโพสต์ : 196
ให้สาธุการ : 130
รับสาธุการ : 554140
รวม: 554270 สาธุการ

 
พี่น้องเอ่ย ความฮักมาแล่นกุ้นปานหว่าสุ่มงุมหัว

ความฮักมาพอๆดังกะทองุมฮัว

ตัวของอ้ายคือกันกับกะต่าย

หมายด้วงจันทร์อยู่ฟ้า ผะหลาอ้ายแหม่นบ่เถิ่ง

สวยเลิ่งๆๆ

 
 
สาธุการบทความนี้ : 411 ครั้ง
จากสมาชิก : 0 ครั้ง
จากขาจร : 411 ครั้ง
 
 
  08 เม.ย. 2553 เวลา 13:21:22  
   ขึ้นบน ลงล่าง  
 
         

  โพสต์โดย   6) มาเว้าผญากันเด้อพี่น้องเด้อ  
  ลูกขุนหาญ    คห.ที่1480)       [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]  
  ศิษย์พี่ใหญ่

ภูมิลำเนา : ศรีสะเกษ
เข้าร่วม : 07 มี.ค. 2552
รวมโพสต์ : 196
ให้สาธุการ : 130
รับสาธุการ : 554140
รวม: 554270 สาธุการ

 
แหม่นสิสิบแม้น้ำซาวแม่น้ำกะสิท่องเฮือหา

สิบญานภูซาวญานผากะสิถางทางดั่น

สิบผาขั่นหินตันกะสิสิ่ว  

คั่นแหม่นสิวบ่ได้สิแต่งขันห้าไว้เชิญฟ้าผ่าลง

บ่ได้ติเตียนเว้ามีหรือจนกะบ่หว่า

เป็นข้าเผิ่นฮ้อยชั้นสินำชื้อไถ่เอา

ย่านแต่น้ำบ่สมปลา  นาบ่สมเข้า

เสาฮือนบ่สมคื่อ  ผือบ่สมสาดเหี้ยน

งัวเกวียนบ่สมแอก   ตาแฮกบ่สมไก่ต้ม

งมเส่นแหม่นบ่กิน  แด้น้อๆๆๆๆล่ะนาๆๆๆๆ

 
 
สาธุการบทความนี้ : 703 ครั้ง
จากสมาชิก : 1 ครั้ง
จากขาจร : 702 ครั้ง
 
 
  08 เม.ย. 2553 เวลา 13:32:38  
   ขึ้นบน ลงล่าง  
 
         

  โพสต์โดย   6) มาเว้าผญากันเด้อพี่น้องเด้อ  
  ลูกขุนหาญ    คห.ที่1489) ลา      [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]  
  ศิษย์พี่ใหญ่

ภูมิลำเนา : ศรีสะเกษ
เข้าร่วม : 07 มี.ค. 2552
รวมโพสต์ : 196
ให้สาธุการ : 130
รับสาธุการ : 554140
รวม: 554270 สาธุการ

 
ปลาสิไลลาน้ำคำเอยสิเอิ้นสั่ง   ชั่งสิไกลลูกโต้นคนสิไห้แอ่วนำ
คำสิไกลสายสร้อยกลอยมันสิลาป่า   หมาสิลาเข้าปั้นกระสันให้แอ่วนำ
ปูปลาสิลาน้ำเข้าก่ำสิลาหนอง   บัวทองสิลาบึงบ่าวพี่ชายสิลาน้อง
หนองสิลาน้ำนาทามสิลาท่ง   ผมป่งลากระโด้นหวีสิซันบ่อนใด
นับมื้อไกลกันแล้วหัวเฮือสิลาฝั่ง   ดอกสมั่งลาจากต้นฟานเอยสิลาหน่าง
หมากข่างไกลหมากกลิ้งซิงสิไห้ต่อนกทา   กาสิไลไก่น้อยอ้อยสิห่างฮามสวน
ดวนดันหอมสิห่างกอไกลต้น   ฝนสิลาฟ้าปูปลาสิลาบวก
ฮวกสิลาแม่น้ำนางน้อยค่อยอยู่ดี   ปลีสิลากล้วยควายบักเลสิลาท่ง
ด้งสิลาม้อนสวนมอนสิลาจ่อ   ปอสิลาเชือกอ้อง ควายนั้นค่อยอยู่ดี
สีสิลาหน้า บาทาสิลาเกิบ   เสิบสิลาปี่แอ้ แคนไค้ขลุ่ยซอ
นอสิลาช้าง เสือสางสิลาป่า   สาสิลาหญ้ากวยยาสิลาข้วน
ทวนสิลาหญ้าฝาเฮือนทังดวด   ติบนวดลากะเช้าบอกปูนนั้นค่อยอยู่ดี

 
 
สาธุการบทความนี้ : 271 ครั้ง
จากสมาชิก : 2 ครั้ง
จากขาจร : 269 ครั้ง
 
 
  21 เม.ย. 2553 เวลา 15:16:34  
   ขึ้นบน ลงล่าง  
 
         

  โพสต์โดย   6) มาเว้าผญากันเด้อพี่น้องเด้อ  
  ลูกขุนหาญ    คห.ที่1490)       [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]  
  ศิษย์พี่ใหญ่

ภูมิลำเนา : ศรีสะเกษ
เข้าร่วม : 07 มี.ค. 2552
รวมโพสต์ : 196
ให้สาธุการ : 130
รับสาธุการ : 554140
รวม: 554270 สาธุการ

 
อ้ายนี่ทุกข์อยากฮ้าย ย่อนกินไก่ KFC

น้ำบ่มีให้เห็น สั่งเป็นแต่แป๊ปซี่

ซ่างมาเบื่อเอาฮ้าย เซ็งหลายพิชซ่าใหญ่

ทั้งเฟรนฟลาย กะได้ เสว็นเซ่น แม่นไอติม

มาลองซีมดูบ้าง ซามมูไร บิ๊กแมค ของร้านแมคโดนัล พอสิเว้าสู่ฟัง

จักอีหยังของข่อย ฝอยหลายมันสิลื่น

มาหลงตื่นก่อนแจ้ง บาดได๋แท้แม่นว่าฝัน......หน่ายเด๊...

 
 
สาธุการบทความนี้ : 554 ครั้ง
จากสมาชิก : 2 ครั้ง
จากขาจร : 552 ครั้ง
 
 
  21 เม.ย. 2553 เวลา 15:24:55  
   ขึ้นบน ลงล่าง  
 
         

  โพสต์โดย   6) มาเว้าผญากันเด้อพี่น้องเด้อ  
  ลูกขุนหาญ    คห.ที่1524) 11      [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]  
  ศิษย์พี่ใหญ่

ภูมิลำเนา : ศรีสะเกษ
เข้าร่วม : 07 มี.ค. 2552
รวมโพสต์ : 196
ให้สาธุการ : 130
รับสาธุการ : 554140
รวม: 554270 สาธุการ

 
พอได้ยินคำเว้าผญาเจ้าสังมาม่วน

เห็นแล้วด่วนอยากเว้าแต่กล่าวต้านบ่หวานหู

ข้านี้เป็นผู้น้อยต่อยต่ำในคำจา

อย่าถือซาลูกหลานผู้เป็นจารย์เก่งกล้า

แนวหว่าคำผญาข่อยคือบักหอยนาตำคาด

บ่ได้สมสำเจ้าผู้รวยล่ำคำผญา

เปรียบจังไก่โอกน้อยพอมแต่แก่เฮียนขัน

ตบปีกขึ้นตนโตกะยังอ่อน ปากบ่ทันแก่กล้าจาเว้าบ่คอยเป็น

ตกมื้อนี้ได้สู้เรียนอยู่เมืองหลวงใหญ่

แต่หัวใจเต็มร้อยอิสานแท้แน่นอน

 
 
สาธุการบทความนี้ : 358 ครั้ง
จากสมาชิก : 1 ครั้ง
จากขาจร : 357 ครั้ง
 
 
  13 พ.ค. 2553 เวลา 09:18:53  
   ขึ้นบน ลงล่าง  
 
         

  โพสต์โดย   6) มาเว้าผญากันเด้อพี่น้องเด้อ  
  ลูกขุนหาญ    คห.ที่1841)       [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]  
  ศิษย์พี่ใหญ่

ภูมิลำเนา : ศรีสะเกษ
เข้าร่วม : 07 มี.ค. 2552
รวมโพสต์ : 196
ให้สาธุการ : 130
รับสาธุการ : 554140
รวม: 554270 สาธุการ

 
ลูกขุนหาญขอเอ่ยเว้าถามเจ้าเป็นผญา  พี่น้องเอ้ย

บุญผะหลาพอมีจั่งแวะเวียนได่มาพ้อ

เป็นจังได่น้ออ้ายอาจารย์ใหญ่ผู้เผิ่นกล้า

ความผญาลื่นล้นสัมบายมั่นอยู่บ่น้อ

อ่วยถามต่อทางเอื้อยดอกคูณเมืองมหา

บุญผะหลาเอื้อยกุ้มสุขขีมั่นบ่น้อ เอื้อย

แนวหว่าความผญาน้องเว้าบ่ค่องคือจังเผิ่น

พอได่ถามได่เอิ้นเป็นกลอนต้านค่องบ่เป็น อ้ายเอ้ย

ไผ๋ผู่เจ้าเก่งกล้ากลอนผญาสอนน้องแน่

ไผ๋ผู้เก่งแท้แท้ให้สอนน้องค่องผญาแน่เด้อ

 
 
สาธุการบทความนี้ : 350 ครั้ง
จากสมาชิก : 1 ครั้ง
จากขาจร : 349 ครั้ง
 
 
  15 พ.ย. 2553 เวลา 11:52:57  
   ขึ้นบน ลงล่าง  
 
         

  โพสต์โดย   6) มาเว้าผญากันเด้อพี่น้องเด้อ  
  ลูกขุนหาญ    คห.ที่1932)       [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]  
  ศิษย์พี่ใหญ่

ภูมิลำเนา : ศรีสะเกษ
เข้าร่วม : 07 มี.ค. 2552
รวมโพสต์ : 196
ให้สาธุการ : 130
รับสาธุการ : 554140
รวม: 554270 สาธุการ

 
   ลาเจ้าแล้วเมืองกรุงนครใหญ่
ลาไปเมืองขุนหาญก่ำหนำใจแล้วสิอ่วยคืน
น้องนี้คึดฮอดบ้านสิลาต่าวคืนเมือ  ก่อนแล้ว  
ลาทังขันหมากแก้วเทิงบอกปูนทอง  
ลาเทิงซองพลูเงินค่อยอยู่ดีเด้อเจ้า  
ลาเทิงเสาเฮือนดั้ง  มีฝาบังอยู่อ่องต่อง
ลาเทิงเฮือนห้าห้องปักตูทองแป้นไม้ใหญ่  
ทั้งคันไดก่ายขึ้นเสาค้ำค่อยอยู่ดี

 
 
สาธุการบทความนี้ : 284 ครั้ง
จากสมาชิก : 0 ครั้ง
จากขาจร : 284 ครั้ง
 
 
  27 ธ.ค. 2553 เวลา 14:28:25  
   ขึ้นบน ลงล่าง  
 
         

  โพสต์โดย   11) ผีแห่งอีสาน ตำนานแห่งความเร้นลับ  
  ลูกขุนหาญ    คห.ที่38) ผี      [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]  
  ศิษย์พี่ใหญ่

ภูมิลำเนา : ศรีสะเกษ
เข้าร่วม : 07 มี.ค. 2552
รวมโพสต์ : 196
ให้สาธุการ : 130
รับสาธุการ : 554140
รวม: 554270 สาธุการ

 
ผมเคยเห็นแต่ผีโพง

ตอนไปใส่เบ็ด

แล่นจนเกิบเสีย

อ้ายเอ้ยยามเบ็ดไปในกันแทนา

เงยขึ้นเห็นแสงสีม่วงสีเขียวสีแดง

วาบๆๆอยู่ต่อหน้า

แล่นจนเข้าล้มเบิด

 
 
สาธุการบทความนี้ : 248 ครั้ง
จากสมาชิก : 0 ครั้ง
จากขาจร : 248 ครั้ง
 
 
  24 เม.ย. 2553 เวลา 21:44:38  
   ขึ้นบน ลงล่าง  
 
         

  โพสต์โดย   39) บักลิ้นฟ้า ครับ บักลิ้นฟ้า  
  ลูกขุนหาญ    คห.ที่35) ก้อยบักลิ้นฟ้า      [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]  
  ศิษย์พี่ใหญ่

ภูมิลำเนา : ศรีสะเกษ
เข้าร่วม : 07 มี.ค. 2552
รวมโพสต์ : 196
ให้สาธุการ : 130
รับสาธุการ : 554140
รวม: 554270 สาธุการ

 


บักลิ้นฟ้า ปิ้งไฟ ล้างน้ำ ลอกเปลือกให้สะอาด หั่น(ซอย)เป็นชิ้นเล็ก บีบมะนาว หั่นหัวหอมแดง ใส่ข้าวคั่ว พริกป่น น้ำปลา ผงนัว(ชูรส) ใส่ผัก ต้นหอมสด ผักชี สะระแหน่ สิ่งที่ลืมไม่ได้ คือ น้ำปาแดกจักหน่อย......แซ็บหลายเด้อพี่น้อง.....ลองเบิ่ง

 
 
สาธุการบทความนี้ : 406 ครั้ง
จากสมาชิก : 0 ครั้ง
จากขาจร : 406 ครั้ง
 
 
  06 พ.ย. 2552 เวลา 14:14:44  
   ขึ้นบน ลงล่าง  
 
         

  โพสต์โดย   45) ป่นกบ  
  ลูกขุนหาญ    คห.ที่17) ป่นกบ      [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]  
  ศิษย์พี่ใหญ่

ภูมิลำเนา : ศรีสะเกษ
เข้าร่วม : 07 มี.ค. 2552
รวมโพสต์ : 196
ให้สาธุการ : 130
รับสาธุการ : 554140
รวม: 554270 สาธุการ

 


มาเด้ออ้าย มาเด้อเอื้อย

กินเข้าแลงป่นกบ

 
 
สาธุการบทความนี้ : 277 ครั้ง
จากสมาชิก : 0 ครั้ง
จากขาจร : 277 ครั้ง
 
 
  04 พ.ย. 2552 เวลา 21:18:31  
   ขึ้นบน ลงล่าง  
 
         

  โพสต์โดย   45) ป่นกบ  
  ลูกขุนหาญ    คห.ที่18) อ๋อฮวก      [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]  
  ศิษย์พี่ใหญ่

ภูมิลำเนา : ศรีสะเกษ
เข้าร่วม : 07 มี.ค. 2552
รวมโพสต์ : 196
ให้สาธุการ : 130
รับสาธุการ : 554140
รวม: 554270 สาธุการ

 


อ๋อฮวกกะมีคัฟฟ

แซบๆๆขนาดเลย

 
 
สาธุการบทความนี้ : 260 ครั้ง
จากสมาชิก : 0 ครั้ง
จากขาจร : 260 ครั้ง
 
 
  04 พ.ย. 2552 เวลา 21:23:08  
   ขึ้นบน ลงล่าง  
 
         

  โพสต์โดย   45) ป่นกบ  
  ลูกขุนหาญ    คห.ที่24)       [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]  
  ศิษย์พี่ใหญ่

ภูมิลำเนา : ศรีสะเกษ
เข้าร่วม : 07 มี.ค. 2552
รวมโพสต์ : 196
ให้สาธุการ : 130
รับสาธุการ : 554140
รวม: 554270 สาธุการ

 
5555
บ่ต่องคึดหลายดอกอ้ายรุทธิ์
กบกับฮวกกะเป็นแม่กับลูกล่ะ
ฮวกมื้อนี้เป็นกบที่ดีในอนาคต

 
 
สาธุการบทความนี้ : 0 ครั้ง
จากสมาชิก : 0 ครั้ง
จากขาจร : 0 ครั้ง
 
 
  05 พ.ย. 2552 เวลา 22:25:18  
   ขึ้นบน ลงล่าง  
 
         

  โพสต์โดย   12) ศรีสะเกษ  
  ลูกขุนหาญ    คห.ที่54) รำแม่มด หรือ เรือมมม็วด (ภาษาเขมร)      [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]  
  ศิษย์พี่ใหญ่

ภูมิลำเนา : ศรีสะเกษ
เข้าร่วม : 07 มี.ค. 2552
รวมโพสต์ : 196
ให้สาธุการ : 130
รับสาธุการ : 554140
รวม: 554270 สาธุการ

 


ประเพณีพิธีกรรม-เขมร จ.ศรีสะเกษ

รำแม่มด หรือ เรือมมม็วด (ภาษาเขมร)
เป็นพิธีกรรมของคนเชื้อสายเขมร โดยมีความเชื่อว่าบรรพบุรุษที่ตายไปแล้ววิญญาณยังคงวนเวียนอยู่ เพื่อคอยช่วยเหลือลูกหลาน  และหากลูกหลานคนใดประพฤติผิดจารีตประเพณี หรือทำไม่ดี  ก็จะได้รับการลงโทษจากบรรพบุรุษให้ได้รับความเดือดร้อน เจ็บไข้ได้ป่วย เป็นต้น  เมื่อลูกหลานเจ็บป่วยจะบนบาน  และหากหายก็จะแก้บนด้วยการเล่นแม่มด  โดยจะประกอบพิธีในช่วงเดือน 3-4 หลังจากฤดูเก็บเกี่ยวแล้ว  ในพิธีจะเชิญครูมม็วด  ซ็องเมิง (ผู้เป็นหลักเมือง) เชิญผู้นำชุมชน เชิญแขกมาร่วม  เครื่องดนตรีที่ใช้ในการเล่น เลือกตามแต่ฐานะของเจ้าภาพ  หากเป็นผู้มีฐานะดีจะเลือกวงดนตรีวงใหญ่ ประกอบด้วย กลองโทน 3 ใบ ซอด้วง 1 สาย ฆ้องขนาด 24 นิ้ว 1 ใบ กรับ 1 คู่ ขลุ่ยปีออร์(เปย) 1 เลา คนเจรียง (คนร้อง) 1-2 คน  หากมีฐานะไม่ค่อยดีจะเลือกวงเล็ก ประกอบด้วย แคน 1 เต้า กรับ 1 คู่ คนเจรียง 1-2 คน (ข้อมูลจากนายอุทัย สุภาพ เลขที่ 1 หมู่ 15 บ้านสำโรงพลัน ต.สำโรงพลัน อ.ไพรบึง จ.ศรีสะเกษ)  

โดยมากรำแม่มดจะทำเมื่อมีคนป่วยรักษาด้วยยาแผนปัจจุบันไม่หาย การรำแม่มดจึงทำเพื่อหาสาเหตุของการเจ็บป่วย และวิธีการรักษา (คณะกรรมการฝ่ายประมวลเอกสารและจดหมายเหตุ, 2544 : หน้า 234)

 
 
สาธุการบทความนี้ : 363 ครั้ง
จากสมาชิก : 2 ครั้ง
จากขาจร : 361 ครั้ง
 
 
  08 มี.ค. 2552 เวลา 17:01:35  
   ขึ้นบน ลงล่าง  
 
         

  โพสต์โดย   12) ศรีสะเกษ  
  ลูกขุนหาญ    คห.ที่55) รำแม่มด      [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]  
  ศิษย์พี่ใหญ่

ภูมิลำเนา : ศรีสะเกษ
เข้าร่วม : 07 มี.ค. 2552
รวมโพสต์ : 196
ให้สาธุการ : 130
รับสาธุการ : 554140
รวม: 554270 สาธุการ

 


รำแม่มด   เรือมมม็วด (ภาษาเขมร)
สะเอง หรือ อ้อ(ภาษาลาว)
แกลมอ(ภาษาส่วย)

แต่ที่ขุนหาญบ้านผมเรียกว่าเล่นอ้อครับ

 
 
สาธุการบทความนี้ : 530 ครั้ง
จากสมาชิก : 2 ครั้ง
จากขาจร : 528 ครั้ง
 
 
  08 มี.ค. 2552 เวลา 17:12:21  
   ขึ้นบน ลงล่าง  
 
         

  โพสต์โดย   12) ศรีสะเกษ  
  ลูกขุนหาญ    คห.ที่56) รำแม่มด เรือมมม็วด (ภาษาเขมร)      [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]  
  ศิษย์พี่ใหญ่

ภูมิลำเนา : ศรีสะเกษ
เข้าร่วม : 07 มี.ค. 2552
รวมโพสต์ : 196
ให้สาธุการ : 130
รับสาธุการ : 554140
รวม: 554270 สาธุการ

 


การเล่นอ้อที่บ้านดู่  อำเภอขุนหาญจะใช้หเครื่องดนตรีเพียงอย่างเดียวคือ แคน

จะเล่นกันตั้งแต่18.00-08.00เลยที่เดียว

 
 
สาธุการบทความนี้ : 429 ครั้ง
จากสมาชิก : 1 ครั้ง
จากขาจร : 428 ครั้ง
 
 
  08 มี.ค. 2552 เวลา 17:41:31  
   ขึ้นบน ลงล่าง  
 
         

  โพสต์โดย   12) ศรีสะเกษ  
  ลูกขุนหาญ    คห.ที่57) รำแม่มด เรือมมม็วด (ภาษาเขมร)      [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]  
  ศิษย์พี่ใหญ่

ภูมิลำเนา : ศรีสะเกษ
เข้าร่วม : 07 มี.ค. 2552
รวมโพสต์ : 196
ให้สาธุการ : 130
รับสาธุการ : 554140
รวม: 554270 สาธุการ

 


ดอกไม้ที่ใช้ในการประกอบพิธีคือ ดอกจำปา

หากขาดดอกจำปาพิธีนี้จะเริ่มขึ้นไม่ได้ เพราะห้ามใช้ดอกไม้ชนิดอื่นแทน

 
 
สาธุการบทความนี้ : 334 ครั้ง
จากสมาชิก : 0 ครั้ง
จากขาจร : 334 ครั้ง
 
 
  08 มี.ค. 2552 เวลา 18:09:44  
   ขึ้นบน ลงล่าง  
 
         

  โพสต์โดย   12) ศรีสะเกษ  
  ลูกขุนหาญ    คห.ที่58) เมืองขุนหาญ      [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]  
  ศิษย์พี่ใหญ่

ภูมิลำเนา : ศรีสะเกษ
เข้าร่วม : 07 มี.ค. 2552
รวมโพสต์ : 196
ให้สาธุการ : 130
รับสาธุการ : 554140
รวม: 554270 สาธุการ

 


พี่น้องเอย เพิ่นว่าเมืองขุนหาญนี่ดินดำน้ำซุ่ม
ปลากุ่มบ้อนคือแข้แกว่งหาง
ปลานางบ้อนคือขางฟ้าลั่น
จั๊กจั่นฮ้องคือฆ้องลั่นยาม
คนมีศีล ดินมีน้ำ บ่ห่อนขาดเขินบก
ฝูงหมู่สกุณานก บินซวนซมปลายไม้
คนเมืองไกล เมืองใกล้ ไปมาได้จอดแว้
น้ำใจหลายดีแท้ หมู่เฮาซาวขุนหาญซั่นแล้ว

 
 
สาธุการบทความนี้ : 577 ครั้ง
จากสมาชิก : 1 ครั้ง
จากขาจร : 576 ครั้ง
 
 
  08 มี.ค. 2552 เวลา 18:55:06  
   ขึ้นบน ลงล่าง  
 
         

  โพสต์โดย   12) ศรีสะเกษ  
  ลูกขุนหาญ    คห.ที่59) วัดมหาเจดีย์แก้ว (วัดล้านขวด)      [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]  
  ศิษย์พี่ใหญ่

ภูมิลำเนา : ศรีสะเกษ
เข้าร่วม : 07 มี.ค. 2552
รวมโพสต์ : 196
ให้สาธุการ : 130
รับสาธุการ : 554140
รวม: 554270 สาธุการ

 


วัดมหาเจดีย์แก้ว (วัดล้านขวด)



วัดล้านขวด เป็นวัดที่มีสิ่งก่อสร้างที่ประดับด้วยขวดจำนวนนับล้านใบ

ไม่ว่าจะเป็นอุโบสถกลางน้ำ ศาลา เมรุเผาศพ กุฎิ

ไม่เว้นแม้กระทั่งห้องน้ำ ก็ประดับประดาจากขวดทั้งสิ้น

วัดล้านขวดตั้งอยู่ที่อำเภอขุนหาญ จังหวัดศรีสะเกษ

เดินทางจากอุบลฯโดยเริ่มจากวาริน วิ่งไปยังเส้น วาริน-สำโรง-กันทรลักษ์

จากวารินผ่านสำโรง ถึงสามแยกหนองงูเหลือมเลี้ยวซ้ายเพื่อเข้ากันทรลักษ์

ก่อนถึงตัวกันทรลักษ์นิดหน่อยจะเจอแยกบ้านจานเลี้ยวขวาเพื่อวิ่งไปตามทางหลวงหมาเลข24

หลังจากนั้นจะเจอแยกใหญ่ๆหนึ่งแยกจำไม่ได้ครับว่าชื่อแยกอะไร ไม่ต้องเลี้ยวครับ

ตรงต่อไปเรื่อยๆจนเจอแยกหัวช้าง แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าสู่อำเภอขุนหาญ(ประมาณ 10 กิโลเมตร)

จากนั้นก็ถามชาวบ้านที่ตัวอำเภอได้ครับว่าไปทางใหน ไปไม่ยากครับแต่อธิบายไม่ถูก(ซะงั้น)

 
 
สาธุการบทความนี้ : 265 ครั้ง
จากสมาชิก : 3 ครั้ง
จากขาจร : 262 ครั้ง
 
 
  09 มี.ค. 2552 เวลา 13:10:35  
   ขึ้นบน ลงล่าง  
 
         

  โพสต์โดย   12) ศรีสะเกษ  
  ลูกขุนหาญ    คห.ที่60) วัดมหาเจดีย์แก้ว (วัดล้านขวด)      [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]  
  ศิษย์พี่ใหญ่

ภูมิลำเนา : ศรีสะเกษ
เข้าร่วม : 07 มี.ค. 2552
รวมโพสต์ : 196
ให้สาธุการ : 130
รับสาธุการ : 554140
รวม: 554270 สาธุการ

 


วัดมหาเจดีย์แก้ว (วัดล้านขวด)

สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ.1984 หรือ พ.ศ.2527ตั้งอยู่ในอำเภอขุนหาญ การเดินทางจากศรีสะเกษไปอำเภอขุนหาญสามารถใช้เส้นทาง หมายเลข211และ2111ผ่านอำเภอพายุอำเภอไพรบึงไปขุนหาญระยะทางประมาณ70กม. สิ่งปลูกสร้างภายในตกแต่งด้วยขวดแก้วหลากสีนับล้านใบที่ชาวบ้าน่วยกันบริจาค นับเป็นวัดที่มีลักษณะงามแปลกตา โดยเฉพาะอย่างยิ่งศาลาใหญ่ที่เรียกว่า ศาลาฐานสโมสรมหาเจดีย์แก้วซึ่งมีความงดงามมาก

 
 
สาธุการบทความนี้ : 351 ครั้ง
จากสมาชิก : 2 ครั้ง
จากขาจร : 349 ครั้ง
 
 
  09 มี.ค. 2552 เวลา 13:13:36  
   ขึ้นบน ลงล่าง  
 
         

  โพสต์โดย   12) ศรีสะเกษ  
  ลูกขุนหาญ    คห.ที่61) วัดมหาเจดีย์แก้ว (วัดล้านขวด)      [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]  
  ศิษย์พี่ใหญ่

ภูมิลำเนา : ศรีสะเกษ
เข้าร่วม : 07 มี.ค. 2552
รวมโพสต์ : 196
ให้สาธุการ : 130
รับสาธุการ : 554140
รวม: 554270 สาธุการ

 


เอารูปมาฝากอ่ะ

 
 
สาธุการบทความนี้ : 792 ครั้ง
จากสมาชิก : 2 ครั้ง
จากขาจร : 790 ครั้ง
 
 
  09 มี.ค. 2552 เวลา 13:16:18  
   ขึ้นบน ลงล่าง  
 
         

  โพสต์โดย   12) ศรีสะเกษ  
  ลูกขุนหาญ    คห.ที่62) วัดมหาเจดีย์แก้ว (วัดล้านขวด)      [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]  
  ศิษย์พี่ใหญ่

ภูมิลำเนา : ศรีสะเกษ
เข้าร่วม : 07 มี.ค. 2552
รวมโพสต์ : 196
ให้สาธุการ : 130
รับสาธุการ : 554140
รวม: 554270 สาธุการ

 


อีกมุมคัฟ

 
 
สาธุการบทความนี้ : 361 ครั้ง
จากสมาชิก : 2 ครั้ง
จากขาจร : 359 ครั้ง
 
 
  09 มี.ค. 2552 เวลา 13:19:42  
   ขึ้นบน ลงล่าง  
 
         

  โพสต์โดย   12) ศรีสะเกษ  
  ลูกขุนหาญ    คห.ที่63) วัดมหาเจดีย์แก้ว (วัดล้านขวด)      [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]  
  ศิษย์พี่ใหญ่

ภูมิลำเนา : ศรีสะเกษ
เข้าร่วม : 07 มี.ค. 2552
รวมโพสต์ : 196
ให้สาธุการ : 130
รับสาธุการ : 554140
รวม: 554270 สาธุการ

 


ฝีมือป่าวอ่ะ

 
 
สาธุการบทความนี้ : 272 ครั้ง
จากสมาชิก : 2 ครั้ง
จากขาจร : 270 ครั้ง
 
 
  09 มี.ค. 2552 เวลา 13:21:13  
   ขึ้นบน ลงล่าง  
 
         

  โพสต์โดย   12) ศรีสะเกษ  
  ลูกขุนหาญ    คห.ที่64) วัดมหาเจดีย์แก้ว (วัดล้านขวด)      [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]  
  ศิษย์พี่ใหญ่

ภูมิลำเนา : ศรีสะเกษ
เข้าร่วม : 07 มี.ค. 2552
รวมโพสต์ : 196
ให้สาธุการ : 130
รับสาธุการ : 554140
รวม: 554270 สาธุการ

 


ขวดทั้งนั้นคัฟฟ

 
 
สาธุการบทความนี้ : 383 ครั้ง
จากสมาชิก : 0 ครั้ง
จากขาจร : 383 ครั้ง
 
 
  09 มี.ค. 2552 เวลา 13:23:01  
   ขึ้นบน ลงล่าง  
 
         

  โพสต์โดย   12) ศรีสะเกษ  
  ลูกขุนหาญ    คห.ที่65) วัดมหาเจดีย์แก้ว (วัดล้านขวด)      [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]  
  ศิษย์พี่ใหญ่

ภูมิลำเนา : ศรีสะเกษ
เข้าร่วม : 07 มี.ค. 2552
รวมโพสต์ : 196
ให้สาธุการ : 130
รับสาธุการ : 554140
รวม: 554270 สาธุการ

 


หลังคาโบสถ์อ่ะสวยป่าวคัฟฟ

 
 
สาธุการบทความนี้ : 320 ครั้ง
จากสมาชิก : 0 ครั้ง
จากขาจร : 320 ครั้ง
 
 
  09 มี.ค. 2552 เวลา 13:25:31  
   ขึ้นบน ลงล่าง  
 
         

  โพสต์โดย   12) ศรีสะเกษ  
  ลูกขุนหาญ    คห.ที่66) วัดมหาเจดีย์แก้ว (วัดล้านขวด)      [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]  
  ศิษย์พี่ใหญ่

ภูมิลำเนา : ศรีสะเกษ
เข้าร่วม : 07 มี.ค. 2552
รวมโพสต์ : 196
ให้สาธุการ : 130
รับสาธุการ : 554140
รวม: 554270 สาธุการ

 


ฝาขวดหลากหลายชนิดอ่ะ

 
 
สาธุการบทความนี้ : 289 ครั้ง
จากสมาชิก : 0 ครั้ง
จากขาจร : 289 ครั้ง
 
 
  09 มี.ค. 2552 เวลา 13:27:51  
   ขึ้นบน ลงล่าง  
 
         

  โพสต์โดย   12) ศรีสะเกษ  
  ลูกขุนหาญ    คห.ที่67) วัดมหาเจดีย์แก้ว (วัดล้านขวด)      [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]  
  ศิษย์พี่ใหญ่

ภูมิลำเนา : ศรีสะเกษ
เข้าร่วม : 07 มี.ค. 2552
รวมโพสต์ : 196
ให้สาธุการ : 130
รับสาธุการ : 554140
รวม: 554270 สาธุการ

 


เมรุก็สร้างด้วยขวดอ่ะ

 
 
สาธุการบทความนี้ : 258 ครั้ง
จากสมาชิก : 1 ครั้ง
จากขาจร : 257 ครั้ง
 
 
  09 มี.ค. 2552 เวลา 13:30:12  
   ขึ้นบน ลงล่าง  
 
         

  โพสต์โดย   12) ศรีสะเกษ  
  ลูกขุนหาญ    คห.ที่70) น้ำตกห้วยจันทร์      [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]  
  ศิษย์พี่ใหญ่

ภูมิลำเนา : ศรีสะเกษ
เข้าร่วม : 07 มี.ค. 2552
รวมโพสต์ : 196
ให้สาธุการ : 130
รับสาธุการ : 554140
รวม: 554270 สาธุการ

 


น้ำตกห้วยจันทร์ อยู่ในเขตอำเภอขุนหาญ จ.ศรีสะเกษ
จะมีน้ำมากเฉพาะหน้าฝน เป็นน้ำตกที่ชาวบ้านใกล้เคียงรู้จักกันดีครับ
ดังนั้นช่วงที่มีน้ำมาก จะเต็มไปด้วยชาวบ้านและลูกหลานที่พากันมาเล่นน้ำ
ในบริเวณน้ำตกมีร้านอาหารประเภทส้มตำ น้ำตก ลาบ ประมาณนั้นขายด้วยครับ...

 
 
สาธุการบทความนี้ : 281 ครั้ง
จากสมาชิก : 2 ครั้ง
จากขาจร : 279 ครั้ง
 
 
  09 มี.ค. 2552 เวลา 17:12:25  
   ขึ้นบน ลงล่าง  
 
         

  โพสต์โดย   12) ศรีสะเกษ  
  ลูกขุนหาญ    คห.ที่71) น้ำตกห้วยจันทร์      [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]  
  ศิษย์พี่ใหญ่

ภูมิลำเนา : ศรีสะเกษ
เข้าร่วม : 07 มี.ค. 2552
รวมโพสต์ : 196
ให้สาธุการ : 130
รับสาธุการ : 554140
รวม: 554270 สาธุการ

 


การเดินทาง
จากจังหวัดศรีสะเกษใช้ทางหลวง 221 และ 2111 ไปอำเภอขุนหาญ
จากนั้นใช้ทางหลวง 2127 และ 2341 ซึ่งจะมีป้ายบอกเส้นทางเป็นระยะ
จนถึงตัวน้ำตก ถ้าไปถึงขุนหาญแล้วหาทางไปไม่เจอ ก็ถามชาวบ้านได้ครับ
เพราะน้ำตกนี้เป็นที่รู้จักกันดีครับ...

 
 
สาธุการบทความนี้ : 235 ครั้ง
จากสมาชิก : 1 ครั้ง
จากขาจร : 234 ครั้ง
 
 
  09 มี.ค. 2552 เวลา 17:18:09  
   ขึ้นบน ลงล่าง  
 
         

  โพสต์โดย   12) ศรีสะเกษ  
  ลูกขุนหาญ    คห.ที่72) ปราสาทตำหนักไทร      [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]  
  ศิษย์พี่ใหญ่

ภูมิลำเนา : ศรีสะเกษ
เข้าร่วม : 07 มี.ค. 2552
รวมโพสต์ : 196
ให้สาธุการ : 130
รับสาธุการ : 554140
รวม: 554270 สาธุการ

 


ตั้งอยู่ที่บ้านตำหนักไทร ตำบลบักดอง จากอำเภอขุนหาญใช้เส้นทาง 2127 ไปอีกประมาณ 19 กม.ปราสาทตำหนักไทรมีลักษณะเป็นปรางค์เดี่ยวรูปสี่เหลี่ยมย่อมุม หันหน้าไปทางทิศตะวันออก ตัวปรางค์ก่อด้วยอิฐ ส่วนกรอบประตูและทับหลังทำด้วยหินทราย บริเวณทางเข้ามีสิงห์จำหลักสองตัวเหนือประตูทางเข้ามีทับหลังรูปนารายณ์บรรทมสินธุ์ อายุราวพุทธศตวรรษที่ 16

ปรางค์ปราสาทเป็นปรางค์เดียวก่อด้วยศิลาแลง หันหน้าไปทางทิศตะวันออก มีผังเป็นรูปสี่เหลี่ยมย่อเก็จ มีมุขยื่นออกไปเล็กน้อย ทางด้านตะวันออก ซึ่งจะเป็นด้านหน้าและเป็นประตูทางเข้าไปในตัวปราสาท ส่วนอีกสามด้านทำเป็นประตูหลอก กรอบประตูและทับหลังทำด้วยหินทรายสลักลวดลาย ทับหลังด้านหน้าหายไป ทับหลังบนกรอบประตูทางทิศใต้สลักแล้วเสร็จเพียงครึ่งเดียว เป็นรูปหน้ากาลกำลังคายท่อนพวงมาลัยโดยใช้ มือยึดจับพวงมาลัย ซึ่งสลักเป็นลายใบไม้ม้วน เหนือหน้ามีรูปบุคคลนั่งขัดสมาธิลักษณะเป็นพระพุทธรูปมีบุคคลสองคนนั่งพนมมืออยู่ พระพุทธรูปดังกล่าวอาจจะเป็นพระพุทธไภสัชยคุรุพระพุทธเจ้าผู้รักษาโรค เพราะรูปแบบ และแผนผังของปราสาท

 
 
สาธุการบทความนี้ : 290 ครั้ง
จากสมาชิก : 3 ครั้ง
จากขาจร : 287 ครั้ง
 
 
  09 มี.ค. 2552 เวลา 17:37:44  
   ขึ้นบน ลงล่าง  
 
         

  โพสต์โดย   12) ศรีสะเกษ  
  ลูกขุนหาญ    คห.ที่73) หลวงพ่อตาตน      [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]  
  ศิษย์พี่ใหญ่

ภูมิลำเนา : ศรีสะเกษ
เข้าร่วม : 07 มี.ค. 2552
รวมโพสต์ : 196
ให้สาธุการ : 130
รับสาธุการ : 554140
รวม: 554270 สาธุการ

 


วัดสำโรงเกียรติ  ตำบลบักดอง อำเภอขุนหาญ  ศรีสะเกษ  

เรื่องก็เริ่มจากที่ นายตาตน ได้ออกไปหาปลาโดยการใช้ไซในการดักปลาเป็นประจำทุกวันในการเลี้ยงครอบครัว

จนมาวันหนึ่งนายตาตนก็ได้ไปกู้ไซที่ดักในตอนเช้า ปรากฏว่าได้มีวัตถุก้อนกลม ๆ เข้ามาติดในไซดักปลา และไม่มีปลาติดใน

ไซเลยซักตัว นายตาตนหงุดหงิดเป็นอย่างมาก จึงหยิบวัตถุก้อนกลม ๆ ดังกล่าวมาขว้างทิ้งไป ในทิศทางปลายน้ำ

และก็ได้นำไซไว้ไปดักปลาที่เดิมตามปกติ

พอวันรุ่งขึ้นนายตาตนก็ได้ไปกู้ไซที่ได้ดักปลาไว้ตั้งแต่เมื่อวาน ปรากฏว่าได้มีวัตถุก้อนกลม ๆ เข้ามาติดในไซดักปลา และ

ไม่มีปลาติดในไซเลยซักตัว นายตาตนหงุดหงิดเป็นอย่างมาก จึงหยิบวัตถุก้อนกลม ๆ ดังกล่าวมาขว้างทิ้งไป เป็นครั้งที่ 2

พอวันที่ 3 ก็เกิดเหตุการณ์อัศจรรย์เกิดขึ้นแบบนี้อีกเป็นครั้งที่ 3 นายตาตนจึงสังเหตุก้อนวัตถุดังกล่าว ก็เลยนึก

ได้ว่า เมื่อวานเราเราได้โยนก้อนวัตถุดังกล่าวไปทางปลายน้ำแล้ว ทำไมจึงลอยทวนน้ำมาติดที่ไซเป็นครั้งที่ 3 จึงได้ขูดคราบ

ตะไคร้น้ำและคราบโคลนที่ติดออก แล้วปรากฏว่าเป็บพระพุทธรูป เมื่อนายตาตนเห็นดังนั้นจึงนำมาบูชาที่บ้าน

เมื่อสิ้นบุญ นายตาตนได้เกิดเสียชีวิตลง ญาติพี่น้องเห็นว่าที่บ้านไม่มีใครสวดมนต์ กราบไหว้และปฏิบัติธรรมถวายองค์ท่าน

ได้แล้ว จึงได้นำพระพุทธรูปนั้นไปถวายวัดบ้านสำโรงเกียรติ จึงได้เป็นที่มาว่า พระตาตน


ชาวบ้านในละแวกนั้นต่างได้รับประสบการณ์ที่หลวงพ่อตาตนได้แสดงอภินิหารให้ประจักแก่สายตามานักต่อนักแล้ว

ครั้งเจ้าเมืองขุขันธ์ (ซึ่งแต่ก่อนยังไม่ได้แบ่งเป็นจังหวัดศรีสะเกษ) ได้ทราบถึงความศักดิ์สิทธิ์ของหลวงพ่อตาตน จึงได้อันเชิญ

หลวงพ่อตาตนไปที่ศาลากลางจังหวัด โดยตั้งขบวนอย่างสมเกียรติและยิ่งใหญ่มากโดยใช้ช้างในการอัญเชิญหลวงพ่อตาตน

ในการอัญเชิญ....ขณะเดินทาง...พอเมื่อช้างได้เดินทางมาถึงปราสาทตำหนักไทร ปรากฏว่ามีพายุมาจากไหนไม่รู้

ได้พัดกระหนำขบวนแห่องค์หลวงพ่อตาตน แม้แต่ช้างเองต้องนั่งลงหมอบ ไม่เคลื่อนไหวเลย แม้ควาญช้างจะบังคับและใช้

เคี่ยวแทงไปที่หัวช้าง เจ้าช้างก็ได้แต้หมอบ ไม่เคลื่อนไหวเลย

จนเดือดร้อนท่านเจ้าเมืองขุขันธ์ จุดธูปบอกกล่าว ใจความว่า หากพายุได้สงบลง จะอัญเชิญหลวงพ่อกลับวัด พอสิ้นเสียง

เจ้าเมือง ลมพายุก็ได้หยุดลง แล้วช้างก็เดินมุ่งหน้ากับวัด โดยที่ควาญช้างไม่ต้องบังคับเลย

 
 
สาธุการบทความนี้ : 292 ครั้ง
จากสมาชิก : 3 ครั้ง
จากขาจร : 289 ครั้ง
 
 
  09 มี.ค. 2552 เวลา 17:52:18  
   ขึ้นบน ลงล่าง  
 
         

  โพสต์โดย   12) ศรีสะเกษ  
  ลูกขุนหาญ    คห.ที่76) ปราสาทสระกำแพงใหญ่      [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]  
  ศิษย์พี่ใหญ่

ภูมิลำเนา : ศรีสะเกษ
เข้าร่วม : 07 มี.ค. 2552
รวมโพสต์ : 196
ให้สาธุการ : 130
รับสาธุการ : 554140
รวม: 554270 สาธุการ

 


ปราสาทสระกำแพงใหญ่
ตั้งอยู่ที่บ้านกำแพง หมู่ 1 ตำบลกำแพง
ห่างจากที่ว่าการอำเภออุทุมพรพิสัย 1 กิโลเมตร

การเดินทางจากจังหวัดศรีษะเกษ
ใช้เส้นทางหลวงสาย 2084 และ 226 ระยะทางประมาณ 18 กิโลเมตร
มีทางเลี้ยวซ้ายไปอีกประมาณ 50 เมตร ถนนราดยาง ตลอดสาย

ปราสาทหินสีไวโอเร็ตหรือปราสาทหินสีม่วง  ก็คือ “ปราสาทหินสระกำแพงใหญ่” ครับ จัดเป็นปราสาทหินในศิลปะร่วมแบบเขมรที่ใหญ่เป็นอันดับที่สามของประเทศไทย ตั้งอยู่ในอำเภออุทุมพรพิสัยของจังหวัดศรีสะเกษครับ

        ที่ว่ามีสีม่วง ถ้าใครเคยไปเยือนจะเห็นว่า ปราสาทหินสระกำแพงใหญ่ เป็นปราสาทหินที่มีการผสมวัสดุในการสร้างปราสาทสามส่วนคืออิฐ หินศิลาแลง และหินทราย ส่วนที่มีการแกะสลักลวดลายศิลปกรรมและเรื่องราวแห่งเทพเจ้าที่สวยงามนั้นจะเป็นส่วนของหินทรายที่ล้วนแต่มี "สีม่วง" กันทั้งหมด  ผมจึงยกให้ปราสาทสระกำแพงใหญ่นี้เป็นปราสาทศิลาที่มี "สีม่วง" แข่งขันกับปราสาทสีชมพูและปราสาทหินสีขาวของจังหวัดอื่น ๆ

       ปราสาทสระกำแพงใหญ่ ปัจจุบันเป็นปราสาท 3 หลัง ก่อด้วยอิฐบนฐานหินทรายเดียวกัน เป็นการก่ออิฐแบบไม่สอปูน ใช้ยางไม้เป็นตัวเชื่อมประสานระหว่างแผ่นอิฐ แล้วใช้การเผาอิฐที่ก่อขึ้นไปแล้วด้วยความร้อนในตอนแรกสร้าง เพื่อให้กาวยางไม้เชื่อมอิฐเข้าหากัน แล้วขัดอิญให้เป็นรูปทรงเสมอกันให้เป็นโกลนเพื่อฉาบปูนทั้งองค์ แล้วแต่งปูนปั้นประดับเป็นลวดลายต่าง ๆ

กลุ่มปราสาทหันหน้าไปทางทิศตะวันออก ปราสาทประธานทั้ง 3 หลังเรียงในแนวทิศเหนือ - ใต้ มีปราสาทแยกฐานทางด้านหลังของปราสาททิศใต้หลังหนึ่ง
ปราสาททั้งสี่หลัง มีประตูทางเข้าทางด้านหน้าเพียงด้านเดียว อีกสามด้านก่อผนังอิฐไว้เป็นรูปประตู เรียกว่า “ประตูหลอก”

       ผมไปนำชมปราสาทหินสีม่วงนี้หลายครั้งแล้วครับ ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะโชคดี เจอแดดร้อนเป็นส่วนใหญ่ แต่ครั้งที่ประทับใจที่สุด ก็เห็นจะเป็นครั้งหนึ่งที่มีฝนตก ไปกับคณะไม่ใหญ่มาก และต้องวิ่งหลบฝนกันในบริเวณปราสาทเป็นที่สนุกสนาน

       ปราสาทสระกำแพงใหญ่ มีระเบียงคดหรืออาคารล้อมรูปสี่เหลี่ยมเป็นห้องโถงยาวขนาดใหญ่ล้อมรอบกลุ่มปราสาทประธาน สร้างขึ้นจากหินศิลาแลง ในสมัยโบราณใช้สำหรับให้ผู้คนที่ติดตามใช้พักและสามารถมองเข้าไปในศาสนสถานอันศักดิ์สิทธิ์แต่ห้ามมิให้เข้าไปด้านใน ที่เข้าไปได้ก็มีแต่กษัตริย์ นักบวช และเชื้อพระวงศ์เท่านั้น

ระเบียงคดมีทางเข้าออกที่เรียกว่า “โคปุระ” ทั้งสี่ทิศ แต่สามารถเดินเข้าออกได้เฉพาะทิศตะวันออกและทิศตะวันตก  ส่วนหนึ่งของระเบียงคดทางทิศตะวันตกถูกรื้อหายไป สันนิษฐานว่านำหินไปสร้างปราสาทสระกำแพงน้อย ที่อยู่ใกล้เคียงกัน เป็นอโรคยศาลาในสมัยพุทธศตวรรษที่ 18 ครับ
  ในปัจจุบันระเบียงคดไม่มีหลังคาเหลือ ถ้าฝนตกมาก็จะต้องเปียก ผมจึงรีบแนะนำสาวบางคนของคณะ บางคนที่สนใจเรื่อราวของปราสาทสระกำแพงใหญ่มากจริง ๆ ให้หลบออกไปจากระเบียงคด ข้ามไปยังปราสาทประธานหลังใหญ่จะดีกว่า ส่วนพวกที่เหลือก็ช่างเขา เพราะต่างคนก็หาที่หลบฝนกันได้เอง ฝนก็เริ่มละอองลงมาแล้ว !!!
หลังคาของระเบียงคดน่าจะสร้างด้วยโครงไม้มุมด้วยกระเบื้องดินเผาครับ มีกรอบหน้าต่างช่องลมลายมะหวดและเชิงชายหลังคาเป็นกลีบบัว ทั้งหมดสลักขึ้นจากหินทราย เป็นการลดภาระและเวลาที่จะต้องไปหาหินศิลาแลงมามุงเป็นหลังคา ซึ่งจะทำให้การก่อสร้างไม่สำเร็จลุล่วงทันอายุไขของผู้สถาปนาปราสาท แต่จนแล้วจนรอด ปราสาทนี้ก็มีแววว่าจะสร้างไม่เสร็จเช่นปราสาทหินทั่ว ๆ ไป
ปราสาทสระกำแพงใหญ่ ในครั้งแรกสร้างน่าจะตั้งใจสร้างให้เป็นปราสาทอิฐทั้งหมด  5 หลัง เช่นที่ปราสาทกระวานในประเทศกัมพูชา ซึ่งน่าจะสร้างเป็นปราสาทอิฐ ศิลปะแบบเกาะแกร์มาถึงสมัยคลัง ราวปลายพุทธศตวรรษที่ 15

      ในพุทธศตวรรษที่ 16 คติความเชื่อของผู้ปกครองเน้นไปที่พระศิวะในลัทธิไศวนิกาย จึงน่าจะมีการเปลี่ยนแปลงปราสาทอิฐและสร้างระเบียงคดล้อมรอบขึ้นใหม่ แล้วนำหินทรายมาสร้างต่อเติมมุขและนำทับหลังเดิมในคติพระกฤษณะย้ายไปไว้ที่อาคารบรรณาลัย

        ปราสาทประธานสามหลังบนฐานเดียวกัน จึงถูกดัดแปลงมาจากคติไวษณพนิกายหรือลัทธิบูชาพระนารายณ์มาเป็นคติของลัทธิไศวะนิกายอย่างสมบูรณ์

      ปราสาทลูกหลังหนึ่งทางทิศเหนือทางด้านหลังหายไปทั้งองค์ครับ จึงเหลืออยู่แค่ 4 หลังในปัจจุบัน คติความเชื่อของการสร้างเทวาลัยจะไม่สร้างเลขคู่ จึงเชื่อได้ว่าปราสาทด้านหลังทางทิศเหนือองค์หนึ่งน่าจะถูกรื้อไปในคราวเดียวกับการรื้อระเบียงคดในราวพุทธศตวรรษที่ 18 เพื่อนำหินไปสร้างสุคตาลัยประจำอโรคยศาลาที่สระกำแพงน้อย

 
 
สาธุการบทความนี้ : 268 ครั้ง
จากสมาชิก : 2 ครั้ง
จากขาจร : 266 ครั้ง
 
 
  12 มี.ค. 2552 เวลา 16:15:20  
   ขึ้นบน ลงล่าง  
 
         

  โพสต์โดย   12) ศรีสะเกษ  
  ลูกขุนหาญ    คห.ที่77) ปราสาทสระกำแพงใหญ่      [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]  
  ศิษย์พี่ใหญ่

ภูมิลำเนา : ศรีสะเกษ
เข้าร่วม : 07 มี.ค. 2552
รวมโพสต์ : 196
ให้สาธุการ : 130
รับสาธุการ : 554140
รวม: 554270 สาธุการ

 


ทับหลังเหนือประตูมุขด้านในสลักเป็นภาพพระอินทร์ทรงช้างเอราวัณอยู่บนแท่นเหนือเกียรติมุข มือทั้งสองของเกียรติมุขกำลังจับขาสิงห์ คายท่อนพวงมาลัยออกจากปาก

 
 
สาธุการบทความนี้ : 268 ครั้ง
จากสมาชิก : 3 ครั้ง
จากขาจร : 265 ครั้ง
 
 
  12 มี.ค. 2552 เวลา 16:19:14  
   ขึ้นบน ลงล่าง  
 
         

  โพสต์โดย   12) ศรีสะเกษ  
  ลูกขุนหาญ    คห.ที่78) ปราสาทสระกำแพงใหญ่      [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]  
  ศิษย์พี่ใหญ่

ภูมิลำเนา : ศรีสะเกษ
เข้าร่วม : 07 มี.ค. 2552
รวมโพสต์ : 196
ให้สาธุการ : 130
รับสาธุการ : 554140
รวม: 554270 สาธุการ

 


ส่วนทับหลังด้านทิศใต้ของปราสาทประธานสลักเป็นเรื่อราวในมหากาพย์รามายณะ ตอนหนุมานถวายแหวน มีเรื่องราวโดยย่อว่า พระรามได้ยกทัพติดตามนางสีดาที่ถูกทศกัณฐ์ลักพาไป และมีรับสั่งให้หนุมานเหาะไปยังกรุงลงกา เพื่อดูว่านางสีดาอยู่ที่ไหน  หนุมานไปพบจึงเข้าไปทูลนางสีดาว่า พระรามใช้ให้มารับนางสีดากลับ พร้อมกับถวายแหวนที่พระรามมอบให้มาแก่นางสีดาเพื่อเป็นหลักฐาน พระนางก็ทรงจำแหวนของพระรามได้แต่ก็ไม่ยอมเสด็จกลับมาพร้อมกับหนุมาน เพราะเกรงจะถูกครหาจากทั้งสามภพว่า “ยักษ์พามาแล้วลิงพากลับไป”
.

       ด้านทิศตะวันตกเป็นประตูหลอก หน้าบันยังไม่ได้สลักเรื่องราวใด ๆ ครับ แต่ทับหลังมีการสลักเรื่องราวรามายณะ แต่ก็ลบเลือนไปมากจนไม่สามารถอธิบายได้ว่าเป็นเรื่องในตอนใด

 
 
สาธุการบทความนี้ : 272 ครั้ง
จากสมาชิก : 2 ครั้ง
จากขาจร : 270 ครั้ง
 
 
  12 มี.ค. 2552 เวลา 16:23:32  
   ขึ้นบน ลงล่าง  
 
         

  โพสต์โดย   12) ศรีสะเกษ  
  ลูกขุนหาญ    คห.ที่79) ปราสาทสระกำแพงใหญ่      [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]  
  ศิษย์พี่ใหญ่

ภูมิลำเนา : ศรีสะเกษ
เข้าร่วม : 07 มี.ค. 2552
รวมโพสต์ : 196
ให้สาธุการ : 130
รับสาธุการ : 554140
รวม: 554270 สาธุการ

 


ทับหลังนี้เล่ากันขำขันว่า พระนารายณ์เอาพระบาทข้างหนึ่งไปยันปทุมถันของชายาองค์หนึ่งที่กำลังนวดเฟ้นพระองค์อยู่จนอูม”ตูม”ขึ้นมา ช่างท้องถิ่นแกะสลักได้อย่าง"แอบ"มีอารมณ์ขันมาตั้งแต่สมัยโบราณ

       บรรณาลัยด้านทิศใต้ ทับหลังเหนือกรอบประตูชั้นนอกสลักเป็นรูป “อภิเษกพระศรี” ศักติหรือพลังของพระนารายณ์ เป็นรูปพระชายานางลักษมีประทับในซุ้มเรือนแก้วโดยมีช้างสองตัวยื่นงวงเข้าหากันอยู่เหนือซุ้ม และมีเทวดาร่ายรำอยู่ทั้งสองข้าง

 
 
สาธุการบทความนี้ : 273 ครั้ง
จากสมาชิก : 2 ครั้ง
จากขาจร : 271 ครั้ง
 
 
  12 มี.ค. 2552 เวลา 16:28:12  
   ขึ้นบน ลงล่าง  
 
         

  โพสต์โดย   12) ศรีสะเกษ  
  ลูกขุนหาญ    คห.ที่80) ปราสาทสระกำแพงใหญ่      [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]  
  ศิษย์พี่ใหญ่

ภูมิลำเนา : ศรีสะเกษ
เข้าร่วม : 07 มี.ค. 2552
รวมโพสต์ : 196
ให้สาธุการ : 130
รับสาธุการ : 554140
รวม: 554270 สาธุการ

 


ในปี 2532 ได้มีการค้นพบรูปประติมากรรมบุคคลประทับยืนทำจากสำริดขนาดใหญ่ ศิลปะแบบบาปวนคลาสลิคในพุทธศตวรรษที่ 16 บริเวณด้านหน้าทางขึ้นซุ้มโคปุระทางทิศใต้ ประติมากรรมยืนตรง มือข้างซ้ายจับอยู่ที่เอว ส่วนที่เป็นข้อศอกหักหายไปเหลือแต่ท่อนแขนช่วงบน มีความสูงทั้งสิ้น 180 เซนติเมตร ยืนอยู่บนฐานสี่เหลี่ยมมีเดือยอยู่ใต้ฐาน นุ่งผ้าเว้าที่บั้นเอว ผ้านุ่งมีขนาดสั้นเหนือหัวเข่า ชายผ้าเว้าลง ทางด้านข้างของขามีเข็มขัดรัดอยู่ ค่อนข้างต่ำลงมาจากขอบผ้าที่บั้นเอวที่เข็มขัดทำเป็นอุบะปลายเรียวแหลมห้อยติดอยู่ข้างใต้ผ้าที่ใช้นุ่งจับเป็นริ้วยาวลงมาในแนวตั้งสวมกรองศอ กำไล แหวนข้อเท้า เบ้าตาของประติมากรรมเจาะลึกลงไป เพื่อใช้ใส่อัญมณี
ศาสตราจารย์ บวสเซอลีเย่ ให้ความเห็นว่า รูปสำริดดังกล่าวน่าจะเป็นรูปของ “นันทิเกศวร หรือนันทีเกศวร” ซึ่งเป็นประติมากรรมที่มีเป็นคู่ มีลักษณะที่ดุร้ายกว่าคือ มหากาล โดยปกติจะประจำอยู่กับเทวาลัยของพระอิศวร เป็นสำริดชุบทองและหล่อด้วยเทคโนโลยีชั้นสูง มีความประณีตมาก ซึ่งเดิมคงตั้งอยู่หน้าปราสาทหลังกลาง

         รูปหล่อสำริดที่สวยงามในศิลปะเขมรมีหลงเหลืออยู่ไม่มากครับ ที่มีชื่อเสียงที่สุดก็เห็นจะเป็นรูปหล่อสำริดพระนารายณ์บรรทมสินธุ์ที่ปราสาทแม่บุญตะวันตกในประเทศกัมพูชา และรูปนันทีเกศวรที่ปราสาทกำแพงใหญ่นี่แหละ ปัจจุบันรูปสำริดอันสวยงามนี้ เป็นโบราณวัตถุชิ้นเอกที่จัดแสดงอยู่หน้าโถงทางเข้าพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติพิมาย จังหวัดนครราชสีมาครับ

 
 
สาธุการบทความนี้ : 361 ครั้ง
จากสมาชิก : 2 ครั้ง
จากขาจร : 359 ครั้ง
 
 
  12 มี.ค. 2552 เวลา 16:31:16  
   ขึ้นบน ลงล่าง  
 
         

  หน้า: 1 2 3

   

Creative Commons License
ศรีสะเกษ --- เว็บบอร์ดอีสานจุฬาฯ