|
หน้าบ้าน
|
อีสานจุฬาฯ
|
มูนมังอีสาน
|
ม่วนซื่นโฮแซว
|
ปลาร้านอกไห
|
กระดานข่าว
|
แมลงแห่งอีสาน
|
อาหารแห่งอีสาน
|
สมุดเยี่ยม
|
ประวัติชมรม
ตราชมรม
วัตถุประสงค์ชมรม
วิสัยทัศน์ชมรม
ทำเนียบประธานชมรม
โครงสร้างการบริหาร
คณะกรรมการชมรม
กิจกรรมชมรม
ปฏิทินกิจกรรม
ข่าวสารจากชมรมฯ
Hot Short News
คลังภาพกิจกรรมชมรม
แผนที่ชมรมฯ
ชมรมอีสาน เพื่อนบ้าน
ฮีตสิบสองคองสิบสี่
เรือนสามน้ำสี่
ผญาอีสาน
ดนตรีอีสาน
ฟ้อนรำพื้นบ้านอีสาน
นิทาน
การละเล่น
คำทวย
กลอนอีสาน-ผญา
ประเพณีอีสาน
ฟังเพลงโปงลาง
ดูวีดีโอม่วนๆ
ฟังลายเแคนเฒ่าเก่า
ร้องคาราโอเกะ
ขอเพลงคาราโอเกะ
ภาษาอีสาน
จังหวัดในอีสาน
ของแซบอีสาน
วิถีอีสาน
นิทานพื้นบ้าน
นิทานก้อม
ห้องอักษรไทน้อย
ห้องอักษรธรรมอีสาน
โสเหล่สภาไนบักขามคั่ว
ห้องโสกันฉันพี่น้อง
ห้องลายเพลงพื้นบ้านอีสาน
ห้องอักษรไทน้อย
ห้องอักษรธรรมอีสาน
ผญา คติสอนใจประจำวันที่ 9 พฤษภาคม 2568
::
อ่านผญา
มณีโชติแก้วมหานิลดวงประเสริฐ บ่มีคำห่อหุ้มมณีแก้วก็เล่าจาง
แปลว่า
แก้วมณีโชติซึ่งเป็นดวงแก้วอันประเสริฐ หากไม่มีทองคำห่อหุ้ม ก็ดูเศร้าหมอง
หมายถึง
คนร่ำรวย สูงศักดิ์ หากไม่มีศีลธรรมประจำใจ ก็ไร้ความงาม
ค้นหาสาธุการ ปลาร้านอกไห
พบทั้งหมด 1 หัวข้อ
หน้า:
1
โพสต์โดย
13)
วิถีท้องนา ห่มฟ้าท้าตะวัน
หยู
คห.ที่25)
[
ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้
]
ศิษย์ใหม่ไร้วรยุทธ์
ภูมิลำเนา : มหาสารคาม
เข้าร่วม : 02 มิ.ย. 2551
รวมโพสต์ : 1
ให้สาธุการ : 0
รับสาธุการ : 2760
รวม: 2760 สาธุการ
คุณมังกรเดียวดาย:
เสียงกลองเพลจากวัดดังก้องไกลไปทั่วหมู่บ้านและท้องทุ่ง
กลองเพล หากตีตอนสิบเอ็ดโมงเช้า ด้วยจังหวะช้า และค่อยๆ เร็วขึ้น นั่นคือสัญญาณบอกเวลาฉันเพลของพระที่วัด ซึ่งญาติโยม จะนำอาหารไปถวายเพล หรือเรียกว่า ไปเพล
กลองเพล หากตีตอนใดก็ตาม ด้วยจังหวะเร็ว 1 - 2 - 345, 1 - 2 - 345, ไปเรื่อยๆ นั่นคือสัญญาณ บอกเหตุฉุกเฉิน ให้ชาวบ้านรีบมาที่วัดโดยด่วน
กลองเพล หากตีตอนแลงหรือกลางคืน หรือเวลากลางวันก็ตาม ด้วยจังหวะคงที่ ด้วยเสียง เบา 2 ครั้ง ดัง 3 ครั้ง สลับไปมา นั่นคือสัญญาณเรียกชาวบ้าน ให้มารวมกันที่วัด เพื่อทำกิจบางอย่างร่วมกัน หรือเรียกว่า ลงวัด
ตอนแลง บักป๋องกินข้าวแลงเสร็จแล้ว กำลังนอนฟังนิทานอยู่นอกชาน เสียงกลองจากวัด ดังด้วยจังหวะคงที่ เบา 2 ครั้ง ดัง3ครั้ง
เอื้อยฟองพูดขึ้นว่า
“น่าน หลวงพี่โต้ง ตีกลองเรียกหนุ่มสาวไปฝึกร้องสารภัญแล้ว”
บักป๋องก็โพล่งขึ้นว่า “
ข้อยไปด้วย
”
เอื้อยฟอง เป็นหนึ่งในผู้หญิง ๔ คน ที่ได้รับคัดเลือกให้ร้องสารภัญ เพื่อเตรียมสำหรับไปประชันขันแข่งระดับตำบล ในวันก่อนวันออกพรรษา ดังนั้น ช่วงในพรรษา ตอนกลางคืน ก็ต้องไปฝึกซ้อมร้องสารภัญที่วัด
เด็กๆ ทั้งหญิงและชาย หนุ่มสาววัยรุ่น รวมถึงคนเฒ่าคนแก่ที่สนใจอยากฟังการฝึกซ้อมสารภัญ ต่างพากันออกไปที่วัด ทำให้วัดดูครึกครื้นกว่าปกติ
เสียงฝึกร้องสารภัญ ดังเจื้อยแจ้ว...
มาลาดวงดอกไม้ มาลาดวงดอกไม้ มาตั้งไว้เพื่อบูชา
บูชาแด่พระพุทธ บูชาแด่พระพุทธ ผู้ได้ตรัสรู้มา
บูชาแด่พระธรรม บูชาแด่พระธรรม ผู้แนะนำพร่ำสั่งสอน
บูชาแด่พระสงฆ์ บูชาแด่พระสงฆ์ ผู้ดำรงพระวินัย....
เมื่อวันออกพรรษาใกล้เข้ามา วันหนึ่งที่ลงวัดเพื่อร้องสารภัญ พ่อใหญ่ทายก ก็แจ้งให้ทุกคนทราบว่า
“ใกล้ออกพรรษาแล้ว เช่นกับที่เราเคยทำกันทุกปีเสมอมา ก็ขอเชิญชวนหนุ่มสาวทุกคน มาช่วยกันทำดอกไม้ เตรียมไว้สำหรับใช้ในงานบุญออกพรรษานะ”
“
ดอกไม้
” ที่พ่อใหญ่ทายกพูดถึง คือดอกไม้ประดิษฐ์ ที่ทำจากกิ่งไม้สดเนื้ออ่อน ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณนิ้วหัวแม่มือ หรือประมาณ 1 นิ้ว ซึ่งไม้ที่นิยมตัดมาทำดอกไม้ คือไม้มะเหลื่อม(หนำเลี๊ยบ)
กิ่งไม้มะเหลื่อมที่ เหมาะสำหรับทำดอกไม้ จะต้องเป็นแขนงตรง ยาว
หนุ่มสาว แต่ละคน รู้หน้าที่ของตนดี วันรุ่งขึ้น ต่างก็ไปหาตัดกิ่งไม้มะเหลื่อม มาพอประมาณ แต่เมื่อนำมารวมกัน ก็มากโขอยู่
ถึงตอนเย็น หลังกินข้าวเย็นเสร็จ เมื่อเสียงกลองดังจบลง หนุ่มสาว และเด็กๆ ก็พากันลงวัด ไปทำดอกไม้ประดิษฐ์ ค่อยๆ ทำทุกๆ วัน จนได้ดอกไม้มากเพียงพอสำหรับประดับศาลา เสาศาลา และธรรมาสน์
สาธุการบทความนี้ : 245 ครั้ง
จากสมาชิก : 0 ครั้ง
จากขาจร : 245 ครั้ง
02 มิ.ย. 2551 เวลา 17:06:46
ขึ้นบน
ลงล่าง
หน้า:
1
ชมรมศิลปวัฒนธรรมอีสาน จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ใต้อัฒจันทร์สนามกีฬาจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ปทุมวัน กรุงเทพฯ :
ติดต่อชมรม
เนื้อหาใน
เว็บบอร์ด
และ
ปลาร้านอกไห
ในเว็บไซต์
www.isan.clubs.chula.ac.th
ใช้
สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกัน 3.0 ประเทศไทย
ห้ามนำเนื้อหาไปใช้เพื่อการค้า การนำไปเผยแพร่ต่อ ต้องอ้างอิงถึงที่มา
<
อ่านเงื่อนไข
>
วิถีท้องนา ห่มฟ้าท้าตะวัน --- เว็บบอร์ดอีสานจุฬาฯ