ละครพื้นบ้านอีสาน เรื่อง "ท้าวกำพร้าไก่แก้ว" --- เว็บบอร์ดอีสานจุฬาฯ

คห.ที่0) ขอเชิญเที่ยวงานบุญเบิกฟ้า และงานกาชาด ประจำปี 2552 [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]

สุดยอดปรมาจารย์

ภูมิลำเนา : มหาสารคาม
เข้าร่วม : 21 ก.ค. 2551
รวมโพสต์ : 875
ให้สาธุการ : 10
รับสาธุการ : 2166420
รวม: 2166430 สาธุการ

ขอเชิญเที่ยวงาน ประเพณีบุญเบิกฟ้าและงานกาชาด ประจำปี 2552 ณ สนามหน้าที่ว่าการอำเภอเมืองมหาสารคาม วันที่ 23 มกราคม - 1 กุมภาพันธุ์ 2552

สาธุการบทความนี้ : 689 ครั้ง
จากสมาชิก : 0 ครั้ง
จากขาจร : 689 ครั้ง

23 ธ.ค. 2551 เวลา 16:33:07

465) มอน้ำชีเอ้กระทงงาม มหาสารคามเมืองศิลป์ ท้องถิ่นร้อยตำนาน มูนมังอีสานมั่นยืน

โพสต์โดย

คห.ที่0) มอน้ำชีเอ้กระทงงาม มหาสารคามเมืองศิลป์ ท้องถิ่นร้อยตำนาน มูนมังอีสานมั่นยืน [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]

สุดยอดปรมาจารย์

มหาวิทยาลัยมหาสารคาม โดยองค์การนิสิต ขอเชิญร่วมสืบสานประเพณีลอยกระทง
มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ประจำปี 2551
?มอน้ำชีเอ้กระทงงาม มหาสารคามเมืองศิลป์ ท้องถิ่นร้อยตำนาน มูนมังอีสานมั่นยืน?
ในวันจันทร์ที่ 10พฤศจิกายน 2551 เพื่ออนุรักษ์ประเพณีอันดีงาม เชื่อมความสัมพันธ์
บุคลากร นิสิต ชุมชน เพื่อส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ และส่งเสริมการท่องเที่ยว พร้อมชมการแสดงศิลปวัฒนธรรมสุดอลังการ

สาธุการบทความนี้ : 639 ครั้ง
จากสมาชิก : 2 ครั้ง
จากขาจร : 637 ครั้ง

17 พ.ย. 2551 เวลา 12:53:43

535) ขอเชิญเที่ยวงาน เทศกาลตักสิลามหาสงกรานต์

โพสต์โดย

สุดยอดปรมาจารย์

เด็กผมจุก

สาธุการบทความนี้ : 629 ครั้ง
จากสมาชิก : 0 ครั้ง
จากขาจร : 629 ครั้ง

10 เม.ย. 2552 เวลา 10:44:05

730) ขอเชิญเที่ยวงานลอยกระทง ม.มหาสารคาม ประจำปี 2552 วันที่ 31 พ.ย.52นี้

โพสต์โดย

คห.ที่0) ขอเชิญเที่ยวงานลอยกระทง ม.มหาสารคาม ประจำปี 2552 วันที่ 31 พ.ย.52นี้ [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]

สุดยอดปรมาจารย์

วันเสาร์ ที่ 31 เดือนตุลาคม พุทธศักราช 2552
12.00-13.00 น. ลงทะเบียนขบวนแห่รถกระทงใหญ่ ส่งเสริมศิลปวัฒนธรรมอัตลักษณ์ถิ่นพื้นเมืองอีสานและ ลงทะเบียนกระทงลอยขนาดใหญ่ ประเภทอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรม(ณ บริเวณสนามกีฬาชุมชนท่าขอนยาง ด้านข้างสถานีอนามัยท่าขอนยาง)

13.00-19.00 น. การแห่ริ้วขบวนรถกระทงใหญ่ส่งเสริมศิลปวัฒนธรรมอัตลักษณ์ถิ่นพื้นเมืองอีสานนําโดยขบวนต้นขององค์การนิสิตกับโรงเรียนสาธิตฯตามด้วย ขบวนของสํานักวิทยบริการเทศบาลตําบลขามเรียง เทศบาลตําบลท่าขอนยาง และสโมสรนิสิตทั้ง18คณะ

17.30-18.00 น. ลงทะเบียนผู้เข้าประกวดนารีศรีโรจนากร ณ กองอํานวยกลาง
(ตั้งอยู่ด้านข้างเวทีใหญ่) ลานศิลปวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยมหาสารคาม

18.00-19.00 น. การจัดแสดงซุ้มประเพณีแห่งสายน้ำ และการออกร้าน โดย กลุ่มนิสิต/ชมรมในมหาวิทยาลัยมหาสารคาม

19.00-19.30 น. การแสดงทางด้านศิลปวัฒนธรรมพื้นเมืองอีสาน โดย วิทยาลัยดุริยางคศิลป์

19.30 น. ประธานในพิธี (อธิการบดีมหาวิทยาลัยมหาสารคาม) เดินทางถึง ณ บริเวณลานศิลปวัฒนธรรม

19.45-20.00 น. พิธีเปิดงานประเพณีลอยกระทง
- โดย อธิการบดีมหาวิทยาลัยมหาสารคาม (ผศ.ดร.ศุภชัย สมัปปิโต) เป็นประธานในพิธี
- นายกองค์การนิสิต (นายอภิชิต พรมสีแก้ว) กล่าวรายงานการจัดงานประเพณีลอยกระทงและเบิกตัวผู้แทนสโมสรนิสิตเข้ารับโล่เกียรติยศ ,รางวัลริ้วขบวนแห่รถกระทงใหญ่และรางวัลกระทงลอยส่งเสริมศิลปวัฒนธรรมพื้นเมืองอีสานตามลําดับ

20.00-20.40 น. ประธานในพิธี กล่าวให้โอวาท และกล่าวเปิดงาน
- ประธานในพิธีลั่นฆ้องชัย เบิกฤกษ์อวยชัยมงคล (หลังจากนั้นจุดพลุ 5 นัด)
- พิธีกล่าวคําอาศิรวาทถวายพระพรชัย
โดย รองอธิการบดีฝ่ายพัฒนานิสิต มหาวิทยาลัยมหาสารคาม (ผศ.ดร.สุจิน บุตรดีสุวรรณ)
- ประธานในพิธีรับมอบกระทงต้นจากขบวนแห่กระทงต้น
- ประธานในพิธีจุดธูปเทียนบูชากระแสสินธุ์
- พราหมณ์เป็นผู้นํากล่าวคําบูชาพระรัตนตรัยและบูชากระแสสินธุ์
- ประธานในพิธี คณะกรรมการดําเนินงานและแขกผู้มีเกียรติ ร่วมถ่ายภาพบนเวที (พร้อมจุดพลุ 5 นัด)
- ประธานในพิธีนํากระทงพิธีร่วมลอยกระทงและพีธีปล่อยปลา (นําฤกษ์เบิกวิถี นพคุณนที ศรีตักสิลา)ณ ท่าสระน้ำหน้าคณะวิทยาศาสตร์;

20.40-21.00 น. การแสดงแสง สี เสียง ชุด “มหาสารคามวิจิตรพุทธศิลป์” โดย คณะศิลปกรรมศาสตร์

21.00-21.15 น. การประกวดนารีศรีโรจนากรรอบที่ 1 (เดินโชว์ตัว)

21.15-21.25 น. การแสดงดนตรีลูกทุ่ง โดยวิทยาลัยดุริยางคศิลป์/ประกาศผลการประกวดกระทงลอยฯ

21.25-21.45 น. ผู้เข้าประกวดขึ้นเวที/ประกาศผลผู้เข้ารอบการประกวดนารีศรีโรจนากร12 คนสุดท้าย

21.45-22.35 น. การประกวดนารีศรีโรจนากรรอบที่ 2 (การตอบคําถามจากซองคําถาม)

22.35-22.50 น. การแสดงศิลปวัฒนธรรม โดย คณะศิลปกรรมศาสตร์

22.50-23.45 น. ผู้เข้าประกวดขึ้นเวที/ประกาศผลผู้เข้ารอบการประกวดฯ(5 คนสุดท้าย)

23.25-23.45 น. ผู้เข้าประกวดขึ้นเวที/การประกาศตําแหน่งชนะเลิศนารีศรีโรจนากร

23.45-24.00 น. พิธีร้องเพลงสารคามแดนฝัน และเพลงมาร์ชมหาวิทยาลัยมหาสารคาม (หลังจากนั้นจุดพลุ 10 นัด)

-เสร็จกิจกรรม-

สาธุการบทความนี้ : 626 ครั้ง
จากสมาชิก : 0 ครั้ง
จากขาจร : 626 ครั้ง

26 ต.ค. 2552 เวลา 13:24:39

โพสต์โดย

คห.ที่2) [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]

สุดยอดปรมาจารย์

การแสดงละครพื้นบ้านอีสาน เรื่อง " ท้าวกำพร้าไก่แก้ว"

สาธุการบทความนี้ : 595 ครั้ง
จากสมาชิก : 0 ครั้ง
จากขาจร : 595 ครั้ง

27 ม.ค. 2552 เวลา 08:30:09

1092) ฟ้อนช่อหยาด คณะศิลปะกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ในงานบุญเบิกฟ้าและงานกาชาด ประจำปี ๒๕๕๓

โพสต์โดย

คห.ที่13) [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]

สุดยอดปรมาจารย์

เรือมตะแบง คณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ในงานบุญเบิกฟ้าและงานกาชาดประจำปี 2553 http://www.youtube.com/watch?v=R_g88oUOO_4

สาธุการบทความนี้ : 573 ครั้ง
จากสมาชิก : 0 ครั้ง
จากขาจร : 573 ครั้ง

22 ม.ค. 2554 เวลา 17:46:03

477) ขอเชิญเที่ยวงานบุญเบิกฟ้า และงานกาชาด ประจำปี 2552

โพสต์โดย

คห.ที่39) [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]

สุดยอดปรมาจารย์

พระธาตุนาดูนจำลอง

สาธุการบทความนี้ : 570 ครั้ง
จากสมาชิก : 0 ครั้ง
จากขาจร : 570 ครั้ง

27 ม.ค. 2552 เวลา 16:53:45

โพสต์โดย

คห.ที่4) [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]

สุดยอดปรมาจารย์

การแสดงละครพื้นบ้านอีสาน เรื่อง " ท้าวกำพร้าไก่แก้ว"

สาธุการบทความนี้ : 565 ครั้ง
จากสมาชิก : 0 ครั้ง
จากขาจร : 565 ครั้ง

27 ม.ค. 2552 เวลา 08:30:49

838) ขอเชิญเที่ยวงาน "มหัศจรรย์พนมรุ้ง" ประจำปี ๒๕๕๓

โพสต์โดย

คห.ที่0) ขอเชิญเที่ยวงาน "มหัศจรรย์พนมรุ้ง" ประจำปี ๒๕๕๓ [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]

สุดยอดปรมาจารย์

จังหวัดบุรีรัมย์ จัดงานประเพณีขึ้นเขาพนมรุ้งประจำปี 2553 ระหว่าง 6 มีนาคม – 4 เมษายนนี้ เชิญพิสูจน์ปรากฏการณ์มหัศจรรย์แสงอาทิตย์ส่องตรง 15 ช่องประตูปราสาทพนมรุ้ง พร้อมปรับบทเนื้อหาการแสดงแสง สี เสียง “พนมรุ้ง ศิวะนาฏราช” แสดง 2-3 เมษายน นี้
          นายพีระศักดิ์ หินเมืองเก่า ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ เปิดเผยว่า จังหวัดบุรีรัมย์ ร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และอุทยานประวัติศาสตร์พนมรุ้งจัดงานประเพณีขึ้นเขาพนมรุ้งประจำปี 2553 ระหว่างวันที่ 6 มีนาคม – 4 เมษายน 2553 เพื่อเป็นอนุรักษ์ส่งเสริมวัฒนธรรมประเพณีท้องถิ่นที่สืบทอดต่อกันมาอย่างต่อเนื่อง และเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดบุรีรัมย์
          ในปีนี้ จัดให้มีกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวทุกวันเสาร์-อาทิตย์ตลอดเดือนมีนาคม โดยจะเริ่มงานในวันเสาร์ที่ 6 มีนาคม 2553 มีพิธีบวงสรวงสิ่งศักดิ์สิทธิ การจัดแสดงดนตรีพื้นบ้าน ประกวดวาดภาพ ประกวดภาพถ่าย ประกวดรำอัปสรา แข่งขันวิ่งมินิมาราธอน แข่งขันจักรยานเสือภูเขา แข่งขันรถแรลลี่ ตลาดนัดโบราณจำหน่ายสินค้า OTOP และอื่นๆ อีกมากมาย
          วันที่ 2 เมษายน 2553 ชมการแสดงขบวนแห่ของพระนางภูปตีนทรลักษมีเทวี นางจริยากับเทพพาหนะทั้งสิบ การแสดงแสง สี เสียงชุดใหม่ “พนมรุ้งศิวะนาฏราช” และงานโฮปบายดินเนอร์
          สำหรับในวันที่ 3 เมษายน 2553 ช่วงเย็นจะมีพิธีเปิดงานโดยประธานรัฐสภาและประธานสภาผู้แทนราษฎร (ฯพณฯ นายชัย ชิดชอบ) การแสดงขบวนแห่พระนางภูปตินทรลักษมีเทวี นางจริยาและขบวนเทพพาหนะทั้งสิบ การแสดงแสง สี เสียงชุด “พนมรุ้งศิวะนาฏราช” อีกรอบซึ่งเป็นรอบสุดท้ายของงาน และงานโฮปบายดินเนอร์
          ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวต่อไปว่า ขอเชิญพิสูจน์ปรากฏการณ์มหัศจรรย์แสงอาทิตย์ส่องตรง 15 ช่องประตูปราสาทผ่านศิวลึงค์ซึ่งอยู่กลางปราสาทองค์ประธานเป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่เกิดขึ้นบนยอดเขาพนมรุ้งในวันที่ 5 – 7 มีนาคม เวลา 17.17 น. แสงอาทิตย์ตกตรง 15 ช่องประตู วันที่ 2 – 4 เมษายน เวลา 06.03 น. ชมแสงอาทิตย์ขึ้นตรง 15 ช่องประตูปราสาทพนมรุ้ง

สาธุการบทความนี้ : 557 ครั้ง
จากสมาชิก : 0 ครั้ง
จากขาจร : 557 ครั้ง

17 ก.พ. 2553 เวลา 13:09:45

โพสต์โดย

คห.ที่8) [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]

สุดยอดปรมาจารย์

การแสดงละครพื้นบ้านอีสาน เรื่อง " ท้าวกำพร้าไก่แก้ว"

สาธุการบทความนี้ : 548 ครั้ง
จากสมาชิก : 0 ครั้ง
จากขาจร : 548 ครั้ง

27 ม.ค. 2552 เวลา 08:32:28

โพสต์โดย

คห.ที่1) [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]

สุดยอดปรมาจารย์

ไก่แก้วหอมฮู (กำพร้าไก่แก้ว)
อักษรธรรม 12 ผูก วัดธัญญูตตมาราม อ.กุดข้าวปุ้น จ.อุบลราชธานี

มีเมืองแห่งหนึ่ง ครั้งหนึ่งชาวเมืองได้พบรูขนาดใหญ่ที่มีกลิ่นหอมออกมาจากรูนั้น ทำให้เป็นที่อยากรู้อยากเห็นของทุกคน
ดังนั้นพระราชาแห่งเมืองนั้นจึงประกาศหาอาสาสมัครที่จะลงไปในนั้นเพื่อจะดูว่ามีอะไร
อยู่ข้างใน แต่ก็ไม่มีใครอาสาไป
ในขณะนั้นมีหนุ่มน้อยคนหนึ่งชื่อ เทศจันทสมุทร์ อาศัยอยู่กับย่าจำสวน (คนสวนของพระราชา) ท้าวเทศจันทร์นี้เห็นว่า
ไม่มีใครไปจึงรับอาสาจะไป พระราชาจึงให้ทำอู่เหล็ก และทำโซ่เหล็กแทนเชือก แล้วให้ท้าวเทศจันทรสมุทร์นั่งอยู่ในอู่นั้น
แล้วหย่อนลงไปตามรูจนไปถึงเมืองแห่งหนึ่ง เมื่อลงไปถึงนั้นไปลงตรงเกาะพอดี ขณะที่ท้าวเทศจันทสมุทร์ขึ้นกินหมากเดื่ออยู่
ได้มีหมูตัวหนึ่งคาบแก้ววิเศษไต่น้ำมา ท้าวเทศจันทสมุทร์จึงโยนหมากเดื่อให้กินห่างออกไปเรื่อยๆ แล้วรีบมาขโมยเอาแก้วไป
เมื่อเดินต่อไปพบชายคนหนึ่ง ถือน้ำเต้าเหาะมาจึงขอเอาแก้วแลกกับน้ำเต้า เมื่อได้น้ำเต้าแล้วก็เดินต่อไป ส่วนแก้วได้เหาะ
กลับมาอยู่กับท้าวเทศจันทสมุทร์เหมือนเดิม เมื่อเดินต่อไปก็ได้พบกับคนถือขวาน ถือดาบ ถือขดหนังเหาะมาเช่นเดียวกัน
และท้าวเทศจันทสมุทร์ก็ขอแลกเอาเหมือนครั้งก่อนแล้วแก้วก็กลับมาเช่นเดียวกัน ดังนั้นท้าวเทศจันทสมุทร์จึงมีของดี 5 อย่าง
คือ แก้ว , น้ำเต้า, ขวาน, ดาบ และขดหนัง แล้วเดินทางไปอาศัยอยู่กับย่าจำสวนแล้วสืบดูนะว่าใครนะที่หอมๆ นั้น เมื่อรู้แล้ว
จึงขอร้องให้ย่าจำสวนไปสู่ขอให้ แต่ย่าจำสวนว่าท้าวเทศจันทสมุทร์ไม่หล่อเหลา จึงพาไปหล่อใหม่แล้วจึงไปสู่ขอให้
เมื่อนางผมหอมเห็นท้าวเทศจันทสมุทร์แล้วก็เกิดรักใคร่กัน แต่พระราชาพ่อของนางไม่ยอม เพราะมีลูกเจ้าพระยามหากษัตริย์
มาสู่ขอหลายคนแล้ว และบอกว่าถ้าอยากได้ให้มารบเอา ท้าวเทศจันทสมุทร์จึงไปรบชนะแล้วจึงได้อยู่กินกันเรื่อยมา
เมื่ออยู่มานานก็คิดจะกลับมาเยี่ยมบ้าน จึงพานางผมหอมมาที่เก่า พอขึ้นไปทั้งสองคนแล้วผ้าของนางผมหอมผืนหนึ่งตกลง
ท้าวเทศจันทสมุทร์จึงลงไปเอา ขณะเดียวกันนั้นคนที่อยู่ข้างบนก็ดึงเอานางขึ้นมาคนเดียว แล้วเอามาถวายพระราชา
แต่พระราชาก็ไม่สามารถเข้าใกล้นางได้ ส่วนท้าวเทศจันทสมุทร์ก็เดินทางต่อไปเพื่อจะหาทางขึ้น จนวันหนึ่งได้พบนกกระจอก
2 ตัวที่พระอินทร์แปลงกายลงมาเป็นนกกระจอก ได้ให้ท้าวขี่ขึ้นมาปล่อยไว้นอกเมืองใกล้แม่น้ำ ขณะนั้นมีพ่อค้านายสำเภา
มาพบเข้า ท้าวเทศจันทสมุทร์จึงขออาศัยไปด้วย แล้วไปอยู่กับย่าจำสวนเหมือนเดิม ส่วนนางผมหอมนั้นได้ยินว่าผัวของนาง
มาแล้วจึงออกมาอยู่ด้วย เมื่อพระราชารู้ดังนั้นจึงส่งคนมารับนางคืนไป แต่ท้าวเทศจันทสมุทร์ไม่ให้ พระราชาจึงส่งกองทัพ
มาชิงเอานางไป กองทัพก็แพ้เพราะของวิเศษเหล่านั้น พระราชาหมดปัญญาจึงยอมยกเมืองให้ครองครึ่งหนึ่ง แล้วท้าว
เทศจันทสมุทร์ก็อยู่กับนางผมหอมที่ได้มาจากรูนั้นต่อมา

สาธุการบทความนี้ : 536 ครั้ง
จากสมาชิก : 1 ครั้ง
จากขาจร : 535 ครั้ง

27 ม.ค. 2552 เวลา 08:29:30

799) ขอเชิญเที่ยวงานบุญเบิกฟ้าและกาชาดจังหวัดมหาสารคาม ประจำปี 2553

โพสต์โดย

คห.ที่17) [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]

สุดยอดปรมาจารย์

วันแถลงข่าวงานบุญเบิกฟ้า ปี 2553 ณ ปรางค์กู่คูมหาธาตุ ตำบลเขวา อำเภอเมืองมหาสารคาม จังหวัดมหาสารคาม วันที่ 8 มกราคม 2553

สาธุการบทความนี้ : 534 ครั้ง
จากสมาชิก : 0 ครั้ง
จากขาจร : 534 ครั้ง

12 ม.ค. 2553 เวลา 10:27:05

414) การฟ้อนรำประจำจังหวัดต่างๆ(แลกเปลี่ยนข้อมูลกันนะครับ)

โพสต์โดย

คห.ที่11) [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]

สุดยอดปรมาจารย์

อันนี้คือชุดการแสดงเพิ่มเติมนะครับ รายละเอียดคงต้องหามาเพิ่ม
1.  ฟ้อนบุญเบิกฟ้า
2.  ฟ้อนนารีศรีมหาสารคาม  (วงแกนอีสาน ม.ราชภัฎ)
3.  ฟ้อนทอเสือบ้านแพง  (อำเภอโกสุมพิสัย)
4.  ฟ้อนปั้นหม้อ  (บ้านหม้อ  อำเภอเมืองมหาสารคาม)
5.  ฟ้อนปูทูลกระหม่อม (โรงเรียนนาเชือกพิทยาสรรพ์)
6.  ฟ้อนเกี้ยวสาวคูณลาน  (นาฎยประดิษฐ์  มมส.)
7.  ฟ้อนตำนานกุดนางใย  (ม.ราชภัฎมหาสารคาม)
8.  ฟ้อนสิริสะ (ต้นพฤกษ์ ต้นไม้ประจำจังหวัดมหาสารคาม) (นาฏยประดิษฐ์  มมส.)
9.  ฟ้อนเมืองแมน  (ตามน้องกลับสารคาม  วงแกนอีสาน ม.ราชภัฎ)
10.เซื้งกรุบ ( ม.ราชภัฎ)
11.ระบำสันตรัตน์  (กู่สันตรัตน์)  (ม.ราชภัฎมหาสารคาม)
12.รำพระแม่โพสพ (ม.ราชภัฎมหาสารคาม)
13.ฟ้อนสาวผู้ดีศรีมหาสารคาม (ม.ราชภัฎมหาสารคาม)
ฯลฯ

สาธุการบทความนี้ : 520 ครั้ง
จากสมาชิก : 0 ครั้ง
จากขาจร : 520 ครั้ง

04 ก.ย. 2551 เวลา 08:43:55

โพสต์โดย

คห.ที่62) [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]

สุดยอดปรมาจารย์

การประกวด ธิดาสร้อยหมาก
สอร้ยดอกหมาก เป็นลายผ้าไหมประจำจังหวัดมหาสารคาม ซึ่งเมื่อปี 2540 ในขณะที่ท่านผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม นางศิริเลิศ เมฆไพบูลย์ ได้มาดำรงตำแหน่งที่จังหวัดมหาสารคาม ได้มีดำริให้มีการประกวดผ้าไหมลายประจำจังหวัดมหาสารคาม และกลุ่มสตรีขาวอำเภอกุดรัง (ขณะเป็นกิ่งอำเภอ) ได้นำผ้าไหมสุ่งเข้าประกวดและได้ถือว่าเป็นผ้าไหมประจำจังหวัดมหาสารคาม ถือ ลายสร้อยดอกหมาก เป็นลายผ้าไหมประยุกต์มาจากลายโคมห้า

สาธุการบทความนี้ : 517 ครั้ง
จากสมาชิก : 0 ครั้ง
จากขาจร : 517 ครั้ง

17 พ.ย. 2551 เวลา 14:31:00

โพสต์โดย

คห.ที่10) [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]

สุดยอดปรมาจารย์

การแสดงละครพื้นบ้านอีสาน เรื่อง " ท้าวกำพร้าไก่แก้ว"

สาธุการบทความนี้ : 488 ครั้ง
จากสมาชิก : 0 ครั้ง
จากขาจร : 488 ครั้ง

27 ม.ค. 2552 เวลา 08:33:08

477) ขอเชิญเที่ยวงานบุญเบิกฟ้า และงานกาชาด ประจำปี 2552

โพสต์โดย

คห.ที่2) [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]

สุดยอดปรมาจารย์

ประสาสน์ รัตนะปัญญา   ประธานชมรมภูมิปัญญาอีสาน จังหวัดมหาสารคาม  ได้กล่าวเกี่ยวกับตำนานบุญเบิกฟ้าไว้ว่า

บุญเบิกฟ้า เป็นชื่องานประเพณีที่จังหวัดมหาสารคาม จัดเป็นประจำทุก ๆ ปี ตั้งแต่ปี 2531 แล้ว

มีความเป็นมาของงาน ดังนี้
       คำว่า บุญเบิกฟ้า เป็นชื่องานประเพณีที่สืบเนื่องมาจากภูมิปัญญาดั้งเดิมของคนอีสาน ที่ชาวอีสานจัดขึ้นด้วยความเชื่อที่ว่าพื้นดินมีพระคุณต่อมนุษย์  เพราะนอกจากพื้นดินจะให้ที่อยู่อาศัยแก่มนุษย์แล้ว ดินยังมีบุญคุณต่อคนที่ให้อาหารเลี้ยงดูมนุษย์อีกด้วย ดังนั้น คนอีสานจึงจัดงานเพื่อทดแทนบุญคุณของแผ่นดินโดยมีสำนึกที่ว่าเมื่อดินเป็นผู้ให้อาหารหรือผลิตผลอาหารแก่มนุษย์ มนุษย์จึงต้องรู้จักทดแทนบุญคุณ โดยจัดการบำรุงดินด้วยการให้อาหารแก่ดินเป็นการตอบแทน อาหารของดิน คือ ปุ๋ย คนอีสานเห็นว่า ปุ๋ยคอกหรือขี้วัวขี้ควาย นั้นมีแร่ธาตุ ที่ดินต้องการเพื่อจะให้ความเจริญแก่พืชที่เกิดจากดิน ดังนั้น คนอีสาน จึงจัดให้มีวันเติมปุ๋ยให้แก่ดินขึ้น 3 ค่ำเดือน 3 ของทุกปี

     ทำไมคนอีสานจึงถือเอา วันขึ้น 3 ค่ำ เดือน 3 เป็นวันที่จะให้อาหารแก่ดิน
ทั้งนี้ เพราะชาวอีสานแต่อดีตเห็นว่าเดือน 3 เป็นเดือนที่ชาวอีสานจะเสร็จสิ้นจากการเพราะปลูกพืชพันธุ์ธัญญาหาร  ชาวอีสานจะเก็บเกี่ยวผลิตผลต่างๆเสร็จสิ้นสมบูรณ์ในเดือน 3
      “เดือน 3” จึงเป็นเดือนที่คนอีสานเห็นว่าเป็นเดือนที่ “มหัศจรรย์” หลายอย่าง นอกจากเป็นเดือนที่อุดมสมบูรณ์ในรอบปีแล้วยังยังเป็นเดือนที่ “ฟ้าร้อง” เป็นครั้งแรกของปีที่ฟ้าร้องครั้งแรกของปีนั้น คนอีสานจะสังเกตปฏิกิริยาว่าฟ้าจะร้องทางทิศใด การร้องของฟ้าในวันขึ้น 3 ค่ำ เดือน 3 นี้จะเป็นสัญญาที่บอกความอุดมสมบูรณ์ของฝนในปีนั้นๆ ด้วย จากการวิจัยของคนโบราณนั้น ได้พิสูจน์ความแม่นยำในการทำนายสถิติของฝนมาแล้ว และชาวอีสานได้บันทึกคำทำนายเป็นกลอน “โสลกฝน” ซึ่งบันทึกเอาไว้ ดังนี้
“พอเมื่อเดือน 3 ขึ้น ฤดูกาลแถมถ่ายมานั้น
อันว่า ดวงฤกษ์ฟ้า ไขทางป่องฝน
จึงได้ เค้าเงื่อนว่า ฟ้าฮ่องฮ่ำ เดือน 3
ออกใหม่สามค่ำขึ้น เงี่ยงหูฟังฟ้าฮ่ำ
เพื่อให้ ฮู่เหตุเบื้อง ประตูน้ำแห่งฝน
*คันแม่น ฟ้าฮ่ำฮ้อง หนแห่งบูรพา
ทางนั้น ปักตูอาโป ห่าฝนลินย้อย
คนจัก มีแฮงได้ ทำบุญบ่ได้ขาด
ฝูงข้าวกล้า นาฮ่างกะฮุ่งเฮือง

*ปีได๋ฟ้าลั่นก้อง ไขแห่งแกแมว(ทิศตะวันตกเฉียงใต้)
ทางนั้น ปักตูหิน ห่าฝนมีน้อย
คนจัก ตายลงท้อง ของกินขี่จวก
*สิอดอยากล้า ทั้งค่ายทั่วแดน

*ปีได๋ ฟ้าลั่นก้อง ไขแห่งทักษิณ
ทางนั้น ปักตูทอง ห่าฝนแถวเท้า
น้ำจัก ท่วมเข่ากล้า ยังแท้ส่วนสอง แท้แหล่ว
ปูปลาล้น ไหลนองอนันต์เนก
ฝูงเข้ากล้า ยังได้ส่วนสาม

*ปีได๋ ฟ้าลั่นก้อง ปักตูกั่วแกมซิน
ทางนั้น เป็นแกเสือ ห่าฝนงามย้อย
ผลผลา กล้วยอ้อย พร้าว ม่วง หมากขาม
เทิ่ง เว่อส้ม ตาลหมี่หมากผล
กับเทิง ปูปลาล้น เนืองนองคับทุ่ง
ไซใส่ไว้ ปลากุ้งหลั่งลง
ฝูงเข้ากล้า ในนาเขียวอ่อน
ประเสริฐแท้ ปีนั้นมั่งมี

*ปีได๋ ฟ้าลั่นก้อง ไขแห่งปัจฉิม
ทางนั้น ปักตูเหล็ก ห่าฝนมีน้อย
คนสิ บายเสียมได้ ไปดงคอนกะต่า
เที่ยวก่น มันอีมู่ มันอ้อนหมู่กอย
*สอยวอยหน้า ฝูงคนอึดอยาก
ฝูงเข้ากล้า ตายเสี่ยงง่องฝน

*ปีได๋ ฟ้าลั่นฮ้อง ไขแห่งแกหนู(ตะวันตกเฉียงเหนือ) 1
ทิศนั้น ปักตูหิน ห่าฝนมีแท้
คนจัก มีสุขย้อน หญิงชายหน้าชื่น
*ฝูงเข้ากล้า ในนาบานเบิก
ยังอีก ปูปลาน้อย เขินขาดเวิงวัง
อีกผลาผลสังกะ ขาดเสียเหลียน่อย
คนจัก เกิดพยาธิฮ้าย เทิงซ้ำป่วยตาย แท้แหล่ว

               *ปีได๋ฟ้าลั่นก้อง ไขแห่งนาโค (ทิศเหนือ)
แม่นเป็น ปักตูเงิน ห่าฝนหลายล้น
คนจักสุข   สำบายบ้าง บ่มีหยังบังเบียด
ฝูงเข้ากล้า ในนาเขียวอ่อน
พญาแถน    นั่งฟากฟ้า ปูนให้ห่าฝน แท้นา

*ปีได๋ ฟ้าฮ่ำฮ้อง ไขแห่งอีสาน
ทางนั้น ปักตูดิน ห่าฝนเลิงล้วน
*ตกแต่ต้น เถิงปลายบ่ได้ขาด
*ฝูงเข้ากล้า ในนาเต็มท่ง
คนสนุกม่วนล้ำ ปีนั้นอยู่กะเสิม แท้แหล่ว”
มหัศจรรย์แห่งเดือน 3
“เดือน สาม” ถือว่าเป็นเดือนพิเศษยิ่งของคนอีสาน คนอีสานถือเป็นเดือนแห่งความอุดมสมบูรณ์ที่สุดของปี เพราะคนอีสานจะเก็บเกี่ยวผลิตผลขึ้นยุ้งฉางเก็บตุนไว้เพรียบพร้อมจึงเป็นเดือนที่สมบูรณ์ที่สุดในรอบปี ดังคำอีสานที่ท่านบันทึกไว้ว่า

“ออกใหม่ขึ้น สามค่ำเดือนสาม
มื้อที่กบบ่มีปาก นาคบ่มีฮู้ขี่
หมากขามป้อม แสนส้มกะเหล่าหวาน”
ซึ่งหมายความว่าในวันขึ้น 3 ค่ำเดือน 3 มีความอิ่มเต็มโดยอัตโนมัติ ซึ่งแม้แต่กบไม่ได้กินอะไรเลย ก็จะอิ่มทิพย์อิ่มเองโดยไม่ต้องกินถ้าจะจับกบมาดูในวันนั้น(วันขึ้นสามค่ำเดือนสาม) จะเห็นว่า
ที่ปากของกบจะมีเยื่อบาง ๆ สีขาวปิดปากอยู่แสดงว่ากบนั้นไม่ต้องกินอะไรเลยก็อิ่มเองและหากใครเอามะขามป้อมมาเคี้ยวกินในวันนั้น มะขามป้อมซึ่งมีรสเปรี้ยว ก็จะมีรสหวานได้อย่างน่าอัศจรรย์
นอกจากนั้นในวันขึ้น 3 ค่ำเดือน 3 ชาวอีสานจะต้องขนปุ๋ยคอก คือขี้วัวขี้ควายไปใส่แปลงนาทุกคนทุกเรือน
และในวันดังกล่าวฟ้าจะร้องเป็นครั้งแรกในรอบปีอีกด้วย
ที่มาของบุญเบิกฟ้า
เมื่อปี พ.ศ. 2528 นายสาย โสรธร เกษตรอำเภอเชียงยืน ได้ชักชวนชาวบ้านแบก ตำบลนาทอง อำเภอเชียงยืน ฟื้นฟูประเพณีหาบฝุ่นปุ๋ยคอกไปใส่แปลงนาทุกครัวเรือนเพื่อเป็นการฟื้นฟูประเพณีบำรุงดินแบบอีสานและปรากฏว่า ชาวบ้านแบกได้ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี และผลปรากฏว่าผลิตผลข้าวปีนั้นเพิ่มจำนวนขึ้น 50 % ทำให้ชาวบ้านพอใจมาก ต่อมาเมื่อปีพ.ศ. 2529 เกษตรอำเภอเชียงยืนได้ย้ายแหล่งรณรงค์เพิ่มผลผลิตแบบอีสาน ไปจัดที่บ้านหนองซอน อำเภอเชียงยืน ในปีนี้นายนิคม มากดี เกษตรจังหวัดได้เชิญสื่อมวลชนไปทำข่าว เผยแพร่ด้วย ปีนั้นนอกจากจะปลุกชาวบ้านให้ช่วยหาบปุ๋ยคอกไปใส่แปลงนาแล้วยังทำพิธีบูชาเทพแม่ธรณีด้วย เครื่องสังเวยต่างๆ
มีเหล้า ไห ไก่ต้มทั้งตัว และของหวานกล้วยอ้อยพร้อมมูลตามแบบพิธีดั้งเดิมที่คนอีสานเคยทำกันมาแต่เลิกร้างการจัดไปหลายปีแล้วแต่ฟื้นขึ้นมาทำใหม่ งานนี้ถือเป็นการจัดประเพณีที่สมบูรณ์แบบของชาวอีสาน คณะสื่อมวลชนจังหวัดมหาสารคาม นำโดย นายประสาสน์ รัตนะปัญญา ประธานชมรมฯ เห็นว่าเป็นประเพณีที่ดีและน่าจะนำมาเป็นงานประจำปีของจังหวัดมหาสารคามด้วย จึงได้ทำโครงการ “งานบุญเบิกฟ้า” เสนอต่อนายไสว พราหมมณี ผู้ว่าราชการจังหวัดในสมัยนั้น เพื่อให้จัดร่วมกับงานกาชาดประจำปีจังหวัด ผู้ว่าราชการจังหวัดได้นำเรื่องนี้เข้าหารือในที่ประจำประจำเดือนของจังหวัดโดยได้นิมนต์ พระอริยานุวัติ เจ้าอาวาสวัดมหาชัย ซึ่งเป็นปราชญ์ที่ชาวอีสานยกย่องให้มาให้คำแนะนำและให้ความคิดเห็นด้วย ที่ประชุมได้อภิปรายในเรื่องนี้อย่างกว้างขวาง ที่สุดก็มีความเห็นสมควรที่จะจัดเป็นงานประจำปีควบกับงานกาชาด แต่ในปี 2530 นั้น นายไสว พราหมณี ได้รับคำสั่งให้ย้ายไปดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมาเสียก่อน เลยไม่มีการจัดงานบุญเบิกฟ้าในปีนั้น เมื่อ ดร.จินต์   วิภาตะกลัต ได้มารับตำแหน่งผู้ว่าราชการคนใหม่ นายประสาสน์ รัตนะปัญญา ได้นำเรื่องนี้เสนอผู้ว่าคนใหม่ ซึ่ง ดร. จินต์ ก็เห็นด้วยที่จะจัดงานนี้ให้เป็นงานประเพณีประจำปีของจังหวัดมหาสารคาม โดยการ
ร่วมกับงานกาชาดในปี 2531 เป็นปีแรก และจังหวัดมหาสารคามได้กำหนดจัดงานบุญเบิกฟ้าและงานกาชาดประจำปี 2531 รวม 7 วัน 7 คืน โดยเริ่มงานในวันขึ้น 3 ค่ำเดือน 3 เป็นต้นมา งานบุญเบิกฟ้าจึงเริ่มตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นไป
วัตถุประสงค์หลักของการจัดงานบุญเบิกฟ้าฯ
1.    เพื่ออนุรักษ์ภูมิปัญญาอีสานเกี่ยวกับการบำรุงดินให้คงไว้
2.     เพื่อกระตุ้นเตือนให้เกษตรกรรู้คุณค่าของการบำรุงดิน
3.      เพื่อให้ความรู้ด้านการเกษตรไร้สารเคมีเป็นพิษแก่ผู้บริโภค
4.     พื่อแสดงถึงวิทยาการก้าวหน้าของการผลิตเกษตรตามแนวเศรษฐกิจพอเพียงตามพระราชประสงค์
5.    เพื่อหารายได้ส่งเสริมกิจการการเกษตรแลละกาชาด
ดังนั้น การจัดงานบุญเบิกฟ้าและกาชาดของจังหวัดมหาสารคามจึงมีคุณค่าต่อการอยู่ดีกินดีของประชาชน ที่ควรค่าแก่การสืบทอด ซึ่งสมควรจัดให้ตรงตามวัตถุประสงค์ ซึ่งเป็นเป้าหมายหลักของงานให้มากที่สุดด้วย

สาธุการบทความนี้ : 487 ครั้ง
จากสมาชิก : 1 ครั้ง
จากขาจร : 486 ครั้ง

23 ธ.ค. 2551 เวลา 16:41:32

โพสต์โดย

คห.ที่5) [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]

สุดยอดปรมาจารย์

การแสดงละครพื้นบ้านอีสาน เรื่อง " ท้าวกำพร้าไก่แก้ว"

สาธุการบทความนี้ : 476 ครั้ง
จากสมาชิก : 0 ครั้ง
จากขาจร : 476 ครั้ง

27 ม.ค. 2552 เวลา 08:31:07

1260) การแสดงละคร วรรณกรรมอีสาน เรื่อง "ขูลู-นางอี้ว" ปี 2543 ณ มหาวิทยาลัยราชภัฎมหาสารคาม ครบร

โพสต์โดย

คห.ที่3) เมื่อ ขูลู และนางอั้วได้พบกัน และได้เสียกัน [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]

สุดยอดปรมาจารย์

http://www.youtube.com/watch?v=kG29TJg00_4&list=UU58OWiPQTK5XF8VyPY86wDA&index=6&feature=plcp

สาธุการบทความนี้ : 471 ครั้ง
จากสมาชิก : 0 ครั้ง
จากขาจร : 471 ครั้ง

07 ก.ค. 2555 เวลา 23:50:44

633) ระบำที่เกี่ยวกับนางอัปสร

โพสต์โดย

คห.ที่21) [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]

สุดยอดปรมาจารย์

ไปไปมามา แค่เรื่องการแสดงนาฎศิลป์พื้นบ้านได้กลายเป็นวงสนทนาเกี่ยวกับชาติพันธุ์ โบราณคดี การหาข้อเท็จจริง ดีมากมากครับ ได้ความรู้ดี

สาธุการบทความนี้ : 466 ครั้ง
จากสมาชิก : 0 ครั้ง
จากขาจร : 466 ครั้ง

18 ก.ค. 2552 เวลา 21:07:11

โพสต์โดย

คห.ที่0) ละครพื้นบ้านอีสาน เรื่อง "ท้าวกำพร้าไก่แก้ว" [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]

สุดยอดปรมาจารย์

รศ.ดร.สมเจตน์ ภูศรี อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฎมหาสารคาม และ อาจารย์พิษณุ เข็มพิลา ผู้อำนวยการสำนักศิลปะและวัฒนธรรม ได้จัดการแสดงละครพื้นบ้านอีสาน เรื่อง "กำพร้าไก่แก้ว" ซึ่งเป็นวรรณกรรมจากใบลาน ภายใต้โครงการสร้างละครพื้นบ้านอีสานจากวรรณกรรมในใบลาน ณ เวทีกลางแจ้ง มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม เมื่อวันที่ 21 มกราคม 2552

สาธุการบทความนี้ : 464 ครั้ง
จากสมาชิก : 0 ครั้ง
จากขาจร : 464 ครั้ง

27 ม.ค. 2552 เวลา 08:28:36

838) ขอเชิญเที่ยวงาน "มหัศจรรย์พนมรุ้ง" ประจำปี ๒๕๕๓

โพสต์โดย

คห.ที่1) กำหนดการ วันเสาร์อาทิตย์ ในช่วงการจัดงานมหัศจรรย์พนมรุ้ง [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]

สุดยอดปรมาจารย์

วันเสาร์ที่ 6 มีนาคม  2553
  -  พิธีบวงสรวงพนมรุ้ง  โดย ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์
  -  การรำบวงสรวงปราสาทหินพนมรุ้ง  1 ชุด
  -  การวาดภาพสีน้ำ  โดย  โกศล  พิณกุล  และคณะ ศิลปินชื่อดัง
  -  การประกวดภาพถ่าย
  -  ชมปรากฎการณ์ พระอาทิตย์ตกตรงช่อง  15  ประตู  เวลา  17.17  น.

สาธุการบทความนี้ : 460 ครั้ง
จากสมาชิก : 0 ครั้ง
จากขาจร : 460 ครั้ง

17 ก.พ. 2553 เวลา 13:17:38

โพสต์โดย

สุดยอดปรมาจารย์

แถวนางกำนัล

สาธุการบทความนี้ : 450 ครั้ง
จากสมาชิก : 0 ครั้ง
จากขาจร : 450 ครั้ง

04 เม.ย. 2554 เวลา 14:34:58

477) ขอเชิญเที่ยวงานบุญเบิกฟ้า และงานกาชาด ประจำปี 2552

โพสต์โดย

คห.ที่5) [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]

สุดยอดปรมาจารย์

ศาลเพียงตา  ตั้งตระหง่าน  ในชานทุ่ง
ริ้วธงตุง  จตุรทิศ  สถิตสถาน
ตอกไม้ไผ่  สานชลอม  พร้อมตั้งพาน
มาลัยมาลย์  ดอกตะแบง  จำแลงลง

ข้าวตอกตวง  พวงดอกไม้  ไว้รอบทิศ
ผ้าฝ้ายขาว  พราววิจิตร  สถิตสรง
พานบายศรี  สู่ขวัญ  อันดำรง
ตระหง่านตรง  กลางพิธี  ศรีขวัญนา

หมอพราหมณ์นำ  พร่ำคาถา  บาลีร่าย
แล้วถวาย  เครื่องบวงสรวง  บ่วงคาถา
พร้อมเหล้าไห  ไก่ตัวตั้ง  วางบูชา
ขอขมา  แม่โพสพ  ภพธรณี

หมู่ลูกหลาน  ขอขมา  พร้อมลาโทษ
ขอพระแม่  อย่าเคืองโกรธ  โทษลูกนี้
ที่เหยียบย่ำ  ดำหว่าน  นานนับปี
ให้แม่นี้  ระเคืองคาย  กายกายา

แต่บัดนี้  เขาลืมแล้ว  แววคุณข้าว
กินทิ้งขว้าง  อย่างกับราว  ข้าวไร้ค่า
ตำนานแห่ง  แม่โพสพ  กับลบลา
เทพธิดา  แห่งข้าว  เขาไม่จำ

ศาลเพียงตา  ตั้งตระหง่าน  ในชานทุ่ง
จะพังวัน  พังพรุ่ง  ในรุ่งค่ำ
วิมานสมมุติ  แม่โพสพ  จะลบลำ
คงหล่นนำ  ฝังวิมาน  ในชั้นดิน

สาธุการบทความนี้ : 449 ครั้ง
จากสมาชิก : 1 ครั้ง
จากขาจร : 448 ครั้ง

23 ธ.ค. 2551 เวลา 16:49:48

โพสต์โดย

สุดยอดปรมาจารย์

การแสดงละครพื้นบ้านอีสาน เรื่อง " ท้าวกำพร้าไก่แก้ว"

สาธุการบทความนี้ : 432 ครั้ง
จากสมาชิก : 0 ครั้ง
จากขาจร : 432 ครั้ง

27 ม.ค. 2552 เวลา 08:30:26

โพสต์โดย

คห.ที่7) [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]

สุดยอดปรมาจารย์

การแสดงละครพื้นบ้านอีสาน เรื่อง " ท้าวกำพร้าไก่แก้ว"

สาธุการบทความนี้ : 432 ครั้ง
จากสมาชิก : 0 ครั้ง
จากขาจร : 432 ครั้ง

27 ม.ค. 2552 เวลา 08:31:56

494) งานนมัสการพระธาตุนาดูน ประจำปี 2552

โพสต์โดย

สุดยอดปรมาจารย์

พระธาตุนาดูน

สาธุการบทความนี้ : 425 ครั้ง
จากสมาชิก : 0 ครั้ง
จากขาจร : 425 ครั้ง

28 ม.ค. 2552 เวลา 11:50:28

โพสต์โดย

คห.ที่7) [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]

สุดยอดปรมาจารย์

พิธีเปิดการปล่อยขบวนแห่ สลับกับการบรรเลงดนตรีพื้นเมืองอีสาน จาก วงแคน

สาธุการบทความนี้ : 419 ครั้ง
จากสมาชิก : 0 ครั้ง
จากขาจร : 419 ครั้ง

17 พ.ย. 2551 เวลา 13:18:43

โพสต์โดย

คห.ที่7) [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]

สุดยอดปรมาจารย์

ขบวนแห่เทพพาหนะ ทั้ง 10 และขบวนพระนางภูปตินทรลักษมี นางจริยา

สาธุการบทความนี้ : 414 ครั้ง
จากสมาชิก : 0 ครั้ง
จากขาจร : 414 ครั้ง

04 เม.ย. 2554 เวลา 14:32:10

477) ขอเชิญเที่ยวงานบุญเบิกฟ้า และงานกาชาด ประจำปี 2552

โพสต์โดย

สุดยอดปรมาจารย์

วิจิตรวาทะลักษณ์  ได้กล่าวเป็นกลอนเกี่ยวกับฟ้าร้องฟ้าลั่น ในงานบุญเบิกฟ้าไว้ว่า

     ครั้นเดือนสามขึ้นสามค่ำตามวิถี
ในวันนี้พระยาแถนแดนสวรรค์
เปิดประตูไขฝนฟ้าเทวาวรรณ
จากสวรรค์ให้ล่วงหล่นลงบนดิน

     โดยเอาเสียงและทิศาที่ฟ้าร้อง
มาเกี่ยวข้องหมายสัญญาณกาลฝนสิ้น
ปริมาณการที่ฝนจะหล่นริน
อยู่กับถิ่นและทิศาฟ้าคำราม

     บูรพามีครุฑาประจำทิศ
ผู้สถิตรักษาอยู่ประตูน้ำ
ถ้าฟ้าร้องบูรพากล้าจะงาม
ทั้งข้าวน้ำปลาอุดมจะสมบูรณ์

     อาคเนย์มีแมวอยู่เป็นคู่ทิศ
ผู้สถิตประตูลมคอยบ่มหนุน
หากฟ้าร้องทางทิศนี้มีขาดทุน
ไม่สมบูรณ์น้ำฝนน้อยพลอยแล้งนา

     ทิศทักษิณราชสีห์เป็นศรีทิศ
ผู้สถิตประตูทองครองฝนฟ้า
หากฟ้าร้องทิศทักษิณถิ่นท้องนา
ฝนหลากหล้านาลุ่มผ่อนนาดอนดี

     หรดีพยัคฆาประจำทิศ
ผู้สถิตประตูชินเป็นถิ่นศรี
หากฟ้าร้องก้องก่อหรดี
ให้ข้าวปลามากมีดีอุดม

     ทิศประจิมมีนาคาประจำทิศ
ผู้สถิตเหล็กประตูอยู่สั่งสม
หากฟ้าร้องทางทิศนี้มีตรอมตรม
ฝนแล้งลมข้าวล้มตายเสียหายพลัน

     ทิศพายัพมีหนูอยู่คู่ทิศ
ผู้สถิตประตูหินถิ่นสวรรค์
หากฟ้าร้องทิศพายัพนับสำคัญ
ข้าวกล้านั้นมีได้เสียเกลี่ยกันไป

     ทิศอุดรคชสารผู้ผ่านทิศ
ผู้สถิตประตูเงินย่อมเกินได้
หากฟ้าร้องทิศอุดรแต่ก่อนใด
ข้าวกล้าให้ผลงามความอุดม

     ทิศอิสานมีวัวอยู่เป็นคู่ทิศ
ผู้สถิตประตูดินถิ่นเสกสม
หากฟ้าร้องทิศอิสานงานอุดม
ฝนพร่างพรมข้าวกล้าพางดงาม

     ชาวมหาสารคามในนามถิ่น
คือแผ่นดินหนึ่งในไทยสยาม
ขอสืบทอดประเพณีอันดีงาม
ขนานนาม  “บุญเบิกฟ้า  ตักสิลานคร”

     ทำพิธีบูชาพระยาแถน
ณ  เมืองแมนผู้ให้ฝนหล่นเป็นศร
ได้ไขฟ้าเปิดฝนลงตรงดินตอน
ณ  นคร  เบืองทิศดีเป็นศรีดิน

สาธุการบทความนี้ : 410 ครั้ง
จากสมาชิก : 1 ครั้ง
จากขาจร : 409 ครั้ง

23 ธ.ค. 2551 เวลา 16:43:41

โพสต์โดย

สุดยอดปรมาจารย์

การแสดงละครพื้นบ้านอีสาน เรื่อง " ท้าวกำพร้าไก่แก้ว"

สาธุการบทความนี้ : 410 ครั้ง
จากสมาชิก : 0 ครั้ง
จากขาจร : 410 ครั้ง

27 ม.ค. 2552 เวลา 08:32:50

โพสต์โดย

สุดยอดปรมาจารย์

ปีนี้การจัดงาน ใช้เวลาดำเนินการน้อย ประกอบกับ ผู้บริหารระดับจังหวัดเปลี่ยนแปลง ทำให้การจัดงาน อาจจะเงียบเชียบไปหน่อย แต่พิธีเปิดเมื่อวานนี้ วันที่ 3 เมษายน 2554 ขบวนแห่เทพพาหนะทั้ง 10 และขบวนพระนางภูปตินทรลักษมีเทวี พระมารดาแห่งเจ้าชายนเรนทราทิศ ผู้สร้างปราสาทพนมรุ้งและ ขบวนนางจริยา นางสนองพระโอษฐ์ ก็ยังยิ่งใหญ่ดังเดิม เนื่องจาก 2 ปีที่ผ่านมาไม่มีการจัดขบวนแห่ดังกล่าว

สาธุการบทความนี้ : 409 ครั้ง
จากสมาชิก : 0 ครั้ง
จากขาจร : 409 ครั้ง

04 เม.ย. 2554 เวลา 08:16:03

838) ขอเชิญเที่ยวงาน "มหัศจรรย์พนมรุ้ง" ประจำปี ๒๕๕๓

โพสต์โดย

คห.ที่10) [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]

สุดยอดปรมาจารย์

วันเสาร์ที่  3  เมษายน  2553
  -  เวลา 06.03 น. ชมแสงอาทิตย์ขึ้นตรง 15 ช่องประตู
  -  นิทรรศการและกิจกรรมอื่น ๆ
  -  พิธีเปิดงาน โดย ฯพณฯ ชัย  ชิดชอบ ประธานรัฐสภา และประธานสภาผู้แทนราษฎร
  -  การแสดง  แสง  สี  เสียง  ชุด  พนมรุ้ง  ศิวะราฏราช
  -  รับประทานอาหาร "โฮปบายดินเนอร์"

สาธุการบทความนี้ : 408 ครั้ง
จากสมาชิก : 0 ครั้ง
จากขาจร : 408 ครั้ง

17 ก.พ. 2553 เวลา 13:28:56

838) ขอเชิญเที่ยวงาน "มหัศจรรย์พนมรุ้ง" ประจำปี ๒๕๕๓

โพสต์โดย

คห.ที่15) [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]

สุดยอดปรมาจารย์

ภาพจำหลักบนปราสาทหินพนมรุ้ง

สาธุการบทความนี้ : 406 ครั้ง
จากสมาชิก : 0 ครั้ง
จากขาจร : 406 ครั้ง

17 ก.พ. 2553 เวลา 13:33:07

477) ขอเชิญเที่ยวงานบุญเบิกฟ้า และงานกาชาด ประจำปี 2552

โพสต์โดย

คห.ที่37) [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]

สุดยอดปรมาจารย์

ขบวนต่อมา ของอาชีวศึกษาจังหวัดมหาสารคาม ประกอบด้วย
1.วิทยาลัยอาชีวศึกษามหาสารคาม
2.วิทยาลัยเทคินิคมหาสารคาม
3.วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีมหาสารคาม
4.วิทยาลัยการอาชีพพยัคฆภูมิพิสัย
5.วิทยาลัยการอาชีพวาปีปทุม
6.วิทยาลัยสารพัดช่างมหาสารคาม

สาธุการบทความนี้ : 380 ครั้ง
จากสมาชิก : 0 ครั้ง
จากขาจร : 380 ครั้ง

27 ม.ค. 2552 เวลา 16:52:39

โพสต์โดย

คห.ที่6) [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]

สุดยอดปรมาจารย์

ในปี 2552-2553 ทางจังหวัดใช้ชื่องานภายใต้ชื่อ มหัศจรรย์ พนมรุ้ง The Miracle of phnom Rung
สำหรับปี 2554 ทางจังหวัดได้เปลี่ยนฃื่อใหม่ว่า 1 มหัศจรรย์ 2 สักดิ์สิทธิ์ แห่ง วนํ รุง (อ่านว่า วะ-นำ-รุง) The Miracle & Sacred of Phnom Rung

สาธุการบทความนี้ : 375 ครั้ง
จากสมาชิก : 0 ครั้ง
จากขาจร : 375 ครั้ง

04 เม.ย. 2554 เวลา 08:33:10

1151) ฟ้อนกินรีเกียงคำ มหาวิทยาลัยราชภัฎมหาสารคาม

โพสต์โดย

คห.ที่14) [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]

สุดยอดปรมาจารย์

ผมเจอในยูทูปเป็นของเทศบาลนครขอนแก่น พอได้ฟังแล้วก็พอรู้ครับว่ากินรีเกียงคำ (เจียงคำ) คือใครเป็นยังไง ลองฟังดูนะครับเป็นกลอนลำนะครับ

http://www.youtube.com/watch?v=Fam-eR7_cHI&feature=related

สาธุการบทความนี้ : 374 ครั้ง
จากสมาชิก : 0 ครั้ง
จากขาจร : 374 ครั้ง

07 มิ.ย. 2554 เวลา 21:13:44

477) ขอเชิญเที่ยวงานบุญเบิกฟ้า และงานกาชาด ประจำปี 2552

โพสต์โดย

คห.ที่1) [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]

สุดยอดปรมาจารย์

จังหวัดมหาสารคาม ได้กำหนดให้มีการจัดงานบุญเบิกฟ้าและงานกาชาด ประจำปี ๒๕๕๒ ระหว่างวันที่ ๒๓ มกราคม - ๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๒

ความสำคัญ
ประเพณีบุญเบิกฟ้า เป็นประเพณีของชาวมหาสารคามที่ประกอบขึ้นตามความเชื่อว่า เมื่อถึงวันขึ้น ๓ ค่ำ เดือน ๓ ของทุกๆ ปี ฟ้าจะเริ่มไขประตูฝน โดยจะมีเสียงฟ้าร้อง และทิศที่ฟ้าร้องเป็นสัญญาณบ่งบอกตัวกำหนดปริมาณน้ำฝนที่จะตกลงมาหล่อเลี้ยงการเกษตรในปีนั้น ๆ
ตำนานโบราณกล่าวถึงทิศที่ฟ้าร้องว่า
๑. ทิศบูรพา มีครุฑเป็นสัตว์ประจำทิศ เป็นทิศประตูน้ำ ถ้าฟ้าร้องทิศนี้ฝนจะดี ข้าวกล้าในนาจะอุดมสมบูรณ์ คนทั้งปวงจะได้ทำบุญให้ทานอย่างเต็มที่
๒. ทิศอาคเนย์ มีแมวเป็นสัตว์ประจำทิศ เป็นทิศประตูลม ถ้าฟ้าร้องทางทิศนี้ฝนจะน้อย นาแล้ง คนจะอดอยาก และเกิดโรคระบาด
๓. ทิศทักษิณ มีราชสีห์เป็นสัตว์ประจำทิศ เป็นทิศประตูทอง ถ้าฟ้าร้องทางทิศนี้ฝนจะมาก น้ำจะท่วมข้าวกล้าในนาเสียหายถึงสองในห้าส่วน นาลุ่มเสีย นาดอนดี มีปูปลาอุดมสมบูรณ์
๔. ทิศหรดี มีเสือเป็นสัตว์ประจำทิศ เป็นทิศประตูตะกั่วหรือประตูชิน ถ้าฟ้าร้องทางทิศนี้ฝนจะดี น้ำงามพอเหมาะ ผลหมากรากไม้อุดม ปูปลามีมาก ข้าวกล้าบริบูรณ์ ผู้คนมีความสุข
๕. ทิศปัจจิม มีนาคเป็นสัตว์ประจำทิศ เป็นทิศประตูเหล็ก ถ้าฟ้าร้องทางทิศนี้ฝนจะแล้ง น้ำน้อย ข้าวกล้าในนาแห้งตาย เสียหายหนัก
๖. ทิศพายัพ มีหนูเป็นสัตว์ประจำทิศ เป็นทิศประตูหินถ้าฟ้าร้องทางทิศนี้ฝนจะตกปานกลาง ข้าวกล้าได้ผลกึ่งหนึ่ง เสียหายกึ่งหนึ่ง ปูปลามีน้อย คนจักป่วยไข้
๗. ทิศอุดร มีช้างเป็นสัตว์ประจำทิศ เป็นทิศประตูเงิน ถ้าฟ้าร้องทางทิศนี้ ฝนจะดี ข้าวกล้าในนางอกงามดี คนมีสุขทั่วหน้า
๘. ทิศอีสาน มีงัวเป็นสัตว์ประจำทิศ เป็นทิศประตูดิน ถ้าฟ้าร้องทางทิศนี้ ฝนจะดีตลอดปี ข้าวกล้าในนาจะงอกงามสมบูรณ์ดี คนจะมีความสุขเกษมตลอดปีอย่างถ้วนหน้า
ด้วยความเชื่อตามตำนานดังกล่าว ชาวมหาสารคามจึงมีประเพณีบุญเบิกฟ้า (เดิมเรียกว่าบุญเบิกบ้าน) เพื่อขอพรจากแถน (เทพผู้เป็นใหญ่) ให้ไขประตูฟ้าทางทิศที่เป็นมงคล

อนึ่งในวันขึ้น ๓ ค่ำ เดือน ๓ จะมีปรากฏการณ์มหัศจรรย์เกิดขึ้น ๓ อย่างคือ
๑. กบไม่มีปาก คือจะมีแผ่นเยื่อเกิดขึ้นปิดรูกบเป็นอันว่าวันนั้นกบจำศีล ไม่ฆ่าสัตว์อื่น ๆ เป็นอาหาร
๒. นากไม่มีรูทวาร คือมีแผ่นเยื่อเกิดขึ้นปิดทวารหนักของตัวนาก เป็นอันว่านากจะไม่ขับถ่ายในวันนั้น เพราะไม่ได้กินอาหาร
๓. มะขามป้อมจะมีรสหวาน

พิธีกรรม

พิธีกรรมบุญเบิกฟ้า มี ๔ อย่างคือ
๑. จัดพิธีสู่ขวัญข้าว ชาวอีสานเรียกว่าทำบุญตุ้มปากเล้า
๒. หาบปุ๋ยคอก (ชาวอีสานเรียกว่าฝุ่น)ไปใส่ผืนนา
๓. ทำบุญเฮือน (ทำร่วมกับทำบุญปากเล้า)
๔. นำข้าวเปลือกเต็มกระบุงไปถวายวัด
มีลำดับขั้นตอนการทำพิธีต่าง ๆ ดังนี้
๑. พิธีสู่ขวัญข้าว เพื่อแสดงความกตัญญูต่อพระแม่โพสพ เพื่อความสบายใจในการซื้อขายข้าว และเพื่อให้การแบ่งปันข้าวแก่ญาติมิตรผู้มาร่วมพิธี
เครื่องบูชาหรือเครื่องคายในพิธีสู่ขวัญข้าว
๑. ใบคูน ๙ ใบ
๒. ใบยอ ๙ ใบ
๓. ขันหมากเบ็ง (พานบายศรี)ห้าชั้น ๒ ขัน
๔. กระทงใหญ่เก้าห้อง ใส่เครื่องบัดพลีต่าง ๆ มีหมากพลู บุหรี่ ข้าวตอก ดอกสามปีบ่เหี่ยว (บานไม่รู้โรย) ดอกรัก ถั่วงา อาหารคาวหวาน หมากไม้ เหล้าไห ไก่ตัว ไข่ไก่ ข้าวต้มมัด เผือก มัน มันแข็ง มันอ่อน มันนก ข้าวต้มใส่น้ำอ้อย
๕. ต้นกล้วย
๖. ต้นอ้อย
๗. ขัน ๕ ขัน ๘ (พานใส่ดอกไม้และเทียนจำนวนอย่างละ ๕ คู่และ ๘ คู่ ตามลำดับ)
๘. เทียนกิ่ง
๙. ธูป
๑๐. ประทีป
๑๑. แป้งหอม
๑๒. น้ำหอม
๑๓. พานใส่แหวน หวี กระจก
๑๔. เครื่องนอน มีสาดอ่อน (เสื่อ) หมอนลาย หมอนพิง แป้งน้ำ
๑๕. ฟักแฟง ฟักทอง กล้วยตานี กล้วยอีออง (กล้วยน้ำว้า)
๑๖. เงินคาย ๑ บาทกับ ๑ เฟื้อง

พิธีกรรม

๑. จัดเครื่องบูชาวางไว้บนกองข้าว ในยุ้งฉางข้าวมีผ้าขาวปูรองรับ โยงด้ายสายสิญจน์ จากเครื่องบูชานั้น โยงไปรอบยุ้งและไปยังเรือนเจ้าของยุ้ง
๒. หมอสูตรหรือเจ้าพิธีจะนุ่งขาวห่มขาวแบบพราหมณ์ ถือหนังสือใบลานก้อมเรื่องคำสูตรขวัญข้าวขึ้นไปที่ยุ้ง นั่งลงตรงหน้าเครื่องบูชา หันหน้าไปทางทิศที่เป็นมงคลประจำวัน ไหว้พระรัตนตรัย ป่าวสัคเคชุมนุมเทวดาแล้วอ่านคำสูตรขวัญข้าวจากหนังสือก้อม
๓. ในขณะที่หมอสูตรกำลังร่ายคำอยู่นั้น จะมีคน ๒ คน ยืนระวังอยู่ ๒ ข้างประตูยุ้งฉาง คอยส่งเสียงร้องเรียกขวัญข้าวเป็นระยะ ๆ สอดคล้องกับคำสูตรของหมอสูตร
๔. เมื่อหมอสูตรว่าคำสูตรจบลงเป็นอันเสร็จพิธี แต่เครื่องบูชาทั้งหลายให้วางไว้ที่เดิมอีก ๗ วัน เว้นแต่มีสิ่งใดที่เน่าบูดก็เก็บออกได้
๕. ห้ามทำการตักข้าวออกจากยุ้งฉางก่อนจะครบ ๗ วัน หลังจากทำพิธีสู่ขวัญข้าวแล้ว
๒. พิธีหาบฝุ่น(ปุ๋ยคอก)ใส่ผืนนาเพื่อบำรุงดิน
พิธีการ
ในตอนเช้ามืดของวันขึ้น ๓ ค่ำ เดือน ๓ ชาวนาจะต้องหาบปุ๋ยคอกจากกองมูลวัว มูลควาย ซึ่งมักอยู่ใต้ถุนเรือนของตน ทยอยออกไปใส่ผืนนา จนกระทั่งถึงเที่ยงวัน จึงหยุด เป็นการเริ่มต้นเอาฝุ่น (ปุ๋ยคอก) ใส่นาในปีนั้น
๓. พิธีทำบุญเฮือนเพื่อนำสิริมงคลจากพระรัตนตรัยมาสู่ที่อยู่อาศัยพิธีการ
ตอนเย็นนิมนต์พระภิกษุจำนวน ๕ หรือ ๙ รูป มาสวดมนต์เย็นที่บ้าน ตอนเช้าของวันรุ่งขึ้นนิมนต์พระสงฆ์ชุดเดิมมาสวดมนต์เช้าที่บ้านแล้วทำบุญตักบาตรและถวายจังหันเช้า
๔. พิธีนำข้าวเปลือกเต็มกระบุงมาถวายวัดเพื่อแสดงความเคารพศรัทธาต่อพระสงฆ์ เนื่องจากคนอีสานโบราณนั้นมีศรัทธาแรงกล้าต่อพุทธศาสนา เมื่อได้สิ่งที่ดี ๆ ต้องนำไปถวายพระก่อน สมัยก่อนในวัดทุกวัดจะมียุ้งฉางข้าว (เล้าข้าว) ปลูกไว้ด้วย เมื่อญาติโยมบริจาคข้าวเปลือกก็นำมาเก็บไว้ในยุ้งฉาง เอาไว้แจกทานต่อผู้ยากไร้ในโอกาสต่อไป

พิธีการ

เมื่อถึงวันขึ้น ๓ ค่ำ เดือน ๓ ของทุกปี จะตรงกับช่วงที่ชาวนานำข้าวเปลือกมาสู่เล้าหรือยุ้งฉางเสร็จใหม่ ๆ ชาวอีสานมีข้อคะลำหรือขะลำ (ข้อควรระวังหรือข้อห้าม) เกี่ยวกับข้าวว่า
๑. ถ้ายังไม่ทำพิธีสู่ขวัญข้าวห้ามตักข้าวออกจากยุ้งฉาง ถ้าจำเป็นต้องใช้บริโภคต้องกันจำนวนหนึ่งไว้ต่างหาก
๒. ห้ามตักข้าวในยุ้งฉางในวันศีลน้อยใหญ่ (วัน ๗-๘ ค่ำ และวัน ๑๔-๑๕ ค่ำ ทั้งขึ้นและแรม)
๓. ก่อนตักข้าวทุกครั้ง ต้องนั่งลงยกมือขึ้นพนมแล้วกล่าวคาถาว่า “บุญข้าว บุญน้ำเอย กินอย่าให้บก จกอย่าให้ลง” แล้วจึงตักได้
ดังนั้น ในวันขึ้น ๓ ค่ำ เดือน ๓ ของทุกปี จึงมีพิธีสู่ขวัญข้าว พิธีต้มปากเล้า พิธีเอาบุญเฮือน และตอนบ่าย ๆ ของวันนั้นจะนำข้าวเปลือกเต็มกระบุงไปถวายวัด แล้วจึงใช้ข้าวในยุ้งฉางเป็นประโยชน์ได้ตามอัธยาศัย

สาระ

ประเพณีบุญเบิกฟ้า มีประโยชน์ต่อวิถีชีวิตและจิตใจของเกษตรกร คือ
๑. เป็นการเตรียมพร้อมที่จะลงมือทำการเกษตรได้ทันฤดูกาล เพราะเมื่อถึงเทศกาลบุญเบิกฟ้า พวกเขาย่อมได้ทำบุญให้เกิดขวัญและกำลังใจ ได้หาบปุ๋ยคอกบำรุงดิน แล้วเตรียมกาย เตรียมใจและเครื่องมือให้พร้อมที่จะทำนา
๒. เป็นผู้มีความเชื่อมั่นศรัทธาต่อพุทธศาสนา เพราะได้ทำบุญเป็นประจำทุกปี ทำให้รู้จักเสียสละไม่ตระหนี่ถี่เหนียว
๓. เป็นผู้มีความกตัญญูต่อผืนนา สิ่งแวดล้อม ดินฟ้าอากาศ ตลอดจนเทพต่าง ๆ ที่เชื่อว่าเป็นผู้บันดาลฝนและธัญญาหารเช่น พญาแถน และพระแม่โพสพ เป็นต้น
๔. เป็นผู้รู้จักประหยัดเช่น รู้จักเก็บข้าวไว้ในยุ้งฉางอย่างมีระเบียบ แม้แต่จะ ตักออกก็ยังมีพิธีกรรมอันศักดิ์สิทธิ์ ช่วยเตือนสติไม่ให้ใช้ข้าวอย่างสุรุ่ยสุร่าย ดังคำสอนของสมเด็จพระสัมมาพุทธเจ้าที่ว่า “นตฺถิ ธญฺญสม ธน” แปลว่า “ทรัพย์เสมอด้วยข้าวเปลือกไม่มี

สาธุการบทความนี้ : 373 ครั้ง
จากสมาชิก : 1 ครั้ง
จากขาจร : 372 ครั้ง

23 ธ.ค. 2551 เวลา 16:38:00

799) ขอเชิญเที่ยวงานบุญเบิกฟ้าและกาชาดจังหวัดมหาสารคาม ประจำปี 2553

โพสต์โดย

คห.ที่15) [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]

สุดยอดปรมาจารย์

สาธุการบทความนี้ : 373 ครั้ง
จากสมาชิก : 0 ครั้ง
จากขาจร : 373 ครั้ง

12 ม.ค. 2553 เวลา 10:25:30

477) ขอเชิญเที่ยวงานบุญเบิกฟ้า และงานกาชาด ประจำปี 2552

โพสต์โดย

คห.ที่118) [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]

สุดยอดปรมาจารย์

ผังการจัดการบุญเบิกฟ้า ปี 2552 อย่างไรให้ขยายดูเอานะครับ

สาธุการบทความนี้ : 367 ครั้ง
จากสมาชิก : 0 ครั้ง
จากขาจร : 367 ครั้ง

28 ม.ค. 2552 เวลา 11:40:17

838) ขอเชิญเที่ยวงาน "มหัศจรรย์พนมรุ้ง" ประจำปี ๒๕๕๓

โพสต์โดย

สุดยอดปรมาจารย์

วันศุกร์ที่  2  เมษายน  2553
  -  เวลา 06.03 น. ชมแสงอาทิตย์ขึ้นตรง 15 ช่องประตู
  -  นิทรรศการและกิจกรรม "วันอนุกรักษ์มรดกโลก"
  -  การแสดง  แสง  สี  เสียง  ชุด  พนมรุ้ง  ศิวะราฏราช
  -  รับประทานอาหาร "โฮปบายดินเนอร์"
  -  แข่งขันแรลลี่  "คนบุรีรัมย์ชวนเพื่อนเที่ยวพนมรุ้ง"  เส้นทาง กรุงเทพฯ -ปราสาทหินเมืองต่ำ

สาธุการบทความนี้ : 365 ครั้ง
จากสมาชิก : 0 ครั้ง
จากขาจร : 365 ครั้ง

17 ก.พ. 2553 เวลา 13:25:52

โพสต์โดย

79) วงแคน มมส.

คห.ที่14) [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]

สุดยอดปรมาจารย์

ดีครับ มีโค้วตาอย่างนี้ ทำให้เด็กที่มีพรสวรรค์ ด้านดนตรี ศิลปวัฒนธรรมอีสาน บ้านเราจะได้มีผู้สืบทอด ถือได้ว่าเป็นบุญที่เมืองมหาสารคาม มีมหาวิทยาลัยมหาสารคาม ที่ยังอนุรักษ์รักษาความเป็นอีสานได้อย่างยาวนานสืบไป

ผมมืคำถาม "นัวเนีย คืออะไรหรือครับ อยากรู้" ทำไมต้องบอกว่าทายาทนัวเนีย อยากรู้จริง ๆ อิอิอิอิอิ ผู้รู้ช่วยตอบด้วยครับ

สาธุการบทความนี้ : 363 ครั้ง
จากสมาชิก : 0 ครั้ง
จากขาจร : 363 ครั้ง

15 ธ.ค. 2551 เวลา 09:03:32

โพสต์โดย

คห.ที่11) [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]

สุดยอดปรมาจารย์

การแสดงละครพื้นบ้านอีสาน เรื่อง " ท้าวกำพร้าไก่แก้ว"

สาธุการบทความนี้ : 361 ครั้ง
จากสมาชิก : 0 ครั้ง
จากขาจร : 361 ครั้ง

27 ม.ค. 2552 เวลา 08:33:25

โพสต์โดย

สุดยอดปรมาจารย์

รถขบวนแห่ จาก ทต.ขามเรียง

สาธุการบทความนี้ : 358 ครั้ง
จากสมาชิก : 0 ครั้ง
จากขาจร : 358 ครั้ง

17 พ.ย. 2551 เวลา 13:21:03

โพสต์โดย

คห.ที่4) เมื่อรุ่งเช้า ขูลูได้ลานางอั้ว เพื่อที่จะกลับเมืองเพื่อเตรียมสู่ขอ [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]

สุดยอดปรมาจารย์

http://www.youtube.com/watch?v=XmrqEq7Zgxk&list=UU58OWiPQTK5XF8VyPY86wDA&index=1&feature=plcp

สาธุการบทความนี้ : 356 ครั้ง
จากสมาชิก : 0 ครั้ง
จากขาจร : 356 ครั้ง

07 ก.ค. 2555 เวลา 23:52:22

477) ขอเชิญเที่ยวงานบุญเบิกฟ้า และงานกาชาด ประจำปี 2552

โพสต์โดย

คห.ที่50) [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]

สุดยอดปรมาจารย์

รำกลองยาว คนเยอะมาก

สาธุการบทความนี้ : 350 ครั้ง
จากสมาชิก : 0 ครั้ง
จากขาจร : 350 ครั้ง

27 ม.ค. 2552 เวลา 17:00:39

409) วงโปงลางพ่อแล โรงเรียนชัยภูมิภักดีชุมพล

โพสต์โดย

คห.ที่42) [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]

สุดยอดปรมาจารย์

ดีใจกับไทอีสานครับ ที่ตอนนี้เฮามีเยาวชนคนรุ่นใหม่ออกมาสืบทอดวัฒนธรรมของดีชาวอีสาน ดีใจนำกับชาวอีสานครับ

สาธุการบทความนี้ : 342 ครั้ง
จากสมาชิก : 0 ครั้ง
จากขาจร : 342 ครั้ง

04 ก.ย. 2551 เวลา 09:12:23

535) ขอเชิญเที่ยวงาน เทศกาลตักสิลามหาสงกรานต์

โพสต์โดย

คห.ที่0) ขอเชิญเที่ยวงาน เทศกาลตักสิลามหาสงกรานต์ [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]

สุดยอดปรมาจารย์

จังหวัดมหาสารคาม ร่วมกับเทศบาลเมืองมหาสารคาม และสำนักงานส่งเสริมสุขภาพ (สสส.)ระหว่างวันที่ ๑๒-๑๕ เมษายน ๒๕๕๒ ณ ถนนวรบุตร และถนนนาควิชัย บริเวณหน้าสรรพากรพื้นที่มหาสารคาม

สาธุการบทความนี้ : 339 ครั้ง
จากสมาชิก : 0 ครั้ง
จากขาจร : 339 ครั้ง

27 มี.ค. 2552 เวลา 08:56:25