ผญา คติสอนใจประจำวันที่ 13 พฤษภาคม 2568:: อ่านผญา 
เห็นว่ากองฝอยน้อยอย่ากลอยใจฟ้าวนั่ง ลางเทื่องูอยู่ลี้ในหั้นสิตอดตาย แปลว่า เห็นว่าเป็นกองใบไม้แห้ง อย่าวางใจรีบนั่ง บางทีอาจมีงูแอบอยู่ จะโดนกัดได้ หมายถึง ควรไตร่ตรองอย่างถี่ถ้วน ละเอียด รอบคอบ


  ค้นหาสาธุการ กระดานสนทนาชมรมอีสานจุฬาฯ  

หน้า: 1 2  
  โพสต์โดย   20) ฟังนิทานก้อม หย่ำไนบักขามคั่ว  
  ปิ่นลม    คห.ที่491) แม่มด      [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]  
  เซียน

ภูมิลำเนา : สกลนคร
เข้าร่วม : 16 มี.ค. 2553
รวมโพสต์ : 2213
ให้สาธุการ : 180
รับสาธุการ : 5466320
รวม: 5466500 สาธุการ

 

ทิดสาย เป็นคนมักเล่นหวย มื้อหนึ่งฝันดีขนาด เห็นเลข โตแดง จึ่งคึ่ง ( ในฝัน )
ตื่นขึ้นมา รำพึงในใจ
" บาดห่านี่หละ เฮาสิรวยเป็นเศรษฐี คัก ๆ "
แล้วกะฟ้าว ขายไฮ่ขายนา ตุ๊บใส่เลข สามตัวตรง 123  เมียฮ้ายปานได๋กะ บ่ฟัง
ผลออกมา เลขออก 456  ทิดสายล้มทั้งยืน สูญไฮ่ สูญนา
เมียก็หอบลูกหนีปะ ย้อนทนพฤติกรรม ของแกบ่ไหว
ทิดสาย เมิดทางสิคิดแล้ว สูญเสียทุกอย่าง ย้อนว่า หลุบเลข  แกจึงคิดสั้น
เอา"ขี้หินนอนเว็น" ผูกใส่คอ ยืนอยู่ "ขัว" ทางเข้าหมู้บ้าน
หวังโดดน้ำตาย
...................................................
แนมซ้ายแนมขวา  เห็นหญิงชรา อายุ 50 ปลายๆ เนื้อหนังหย่อนยาน
แถมใส่หมวกปลายแหลมสีดำ ยืนยิ้มให้
" เป็นหยังจั่งคิดสั้น น้อ..คนเฮา "
หญิงชราถาม
" ข่อย หลุบเลข หลุยหวย เสียไฮ่ เสียนา ลูกเมีย กะหนีปะ "
ทิดสายตอบ
" เรื่องแค่นี้เอง จิ๊บจ้อย  ให้แม่ตู้ ซ่อยบ่ "   หญิงชราบอกพลางยิ้ม ๆ
" เจ้าเป็นไผ จั่งสิมาซ่อยข่อยได้ แม่ตู้ " ทิดสายสงสัย

" ฮ่า ฮ่า ฮ่า  บ่จัก ซะแล้ว ข่อยเป็นแม่มด เสกได้ทุกอย่าง "
  แม่ตู้ตอบ
" เสกให้ เงินทองที่เสียไป และลูกเมีย กลับคืนมา ได้ บ่ " ทิดสายขอร้อง
" ซำบาย..โอมเพี้ยง.."  แม่ตุ้ผู้ใส่หมวกแปลก ๆ ร่ายเวทย์มนต์
" เป็นได๋ "
" ตอนนี้ เงินทองที่เสียไป กลับมาอยู่ในธนาคาร เลขที่บัญชีเจ้าแล้ว
ลูกและเมีย ก็ กลับมานอนอยู่เฮือน รอเจ้ากลับไปหา ฮ๋า ๆ "
..............................
" โอย ขอบคุณ ท่านแม่มดหลาย ๆ  ต้องการสิ่งใด ตอบแทนน้อ " ทิดสาย ยอมือ

" อะแฮ่ม บ่ต้องการหยังดอก ขอเพียงเจ้า จัดให้แม่มด " จั๊กดอก " ก็พอ "
แม่มดเฒ่า บอกสิ่งที่ต้องการตอบแทน
ทิดสาย ฟ้าวจูงแขน แม่มดเฒ่าหนังยาน บังพุ่มไม้ จัดให้แม่มด ไป  2 ดอก
เพื่อเป็นการ สมนาคุณ   อดสาฝืนใจ เอาผู้เฒ่า นอนหมดแรง แอ้งแม่ง ใต้ฮ่มไม้
ส่วนแม่มดเฒ่า หลังจากเสร็จกิจแล้ว นั่งสูบยา อย่าอารมณ์ดี  พลางถามทิดสาย

" ปีนี้ เจ้าอายุเท่าใดแล้ว "

" 40 ปี ครับ ท่านแม่มด "

" อืมม....อายุปูนนี้แล้ว  ยังเชื่อเรื่อง แม่มด อยู่ติท้าว "


" ?????????"

 
 
สาธุการบทความนี้ : 652 ครั้ง
จากสมาชิก : 4 ครั้ง
จากขาจร : 648 ครั้ง
 
 
  15 พ.ย. 2553 เวลา 17:06:52  
   ขึ้นบน ลงล่าง  
 
         

  โพสต์โดย   20) ฟังนิทานก้อม หย่ำไนบักขามคั่ว  
  ปิ่นลม    คห.ที่436)       [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]  
  เซียน

ภูมิลำเนา : สกลนคร
เข้าร่วม : 16 มี.ค. 2553
รวมโพสต์ : 2213
ให้สาธุการ : 180
รับสาธุการ : 5466320
รวม: 5466500 สาธุการ

 


ฮ้วย...ไปอำเภอ เกิ่นดอกซั้น   เวลาพุสาวถาม  สิตอบว่าแนวได๋ฮึ
อยู่ บ่ อยู่  กะสิตอบว่า บริสุทธิ์ อยู่ ดอกเนาะ

 
 
สาธุการบทความนี้ : 517 ครั้ง
จากสมาชิก : 1 ครั้ง
จากขาจร : 516 ครั้ง
 
 
  21 มิ.ย. 2553 เวลา 13:16:00  
   ขึ้นบน ลงล่าง  
 
         

  โพสต์โดย   20) ฟังนิทานก้อม หย่ำไนบักขามคั่ว  
  ปิ่นลม    คห.ที่399)       [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]  
  เซียน

ภูมิลำเนา : สกลนคร
เข้าร่วม : 16 มี.ค. 2553
รวมโพสต์ : 2213
ให้สาธุการ : 180
รับสาธุการ : 5466320
รวม: 5466500 สาธุการ

 

อ้ายจารย์  อย่าเล่นหนักหลาย เลข ฮั่น
เป็นห่วงเด้อ  เก็บเงินเล่นเลขไว้ ซื้อ โน๊ตบุค
ปานนี้ ได้ เป็น สิบเครื่องแล้ว.. ( เว้าหยอกเด้อ)

 
 
สาธุการบทความนี้ : 496 ครั้ง
จากสมาชิก : 0 ครั้ง
จากขาจร : 496 ครั้ง
 
 
  07 มิ.ย. 2553 เวลา 09:40:08  
   ขึ้นบน ลงล่าง  
 
         

  โพสต์โดย   20) ฟังนิทานก้อม หย่ำไนบักขามคั่ว  
  ปิ่นลม    คห.ที่404) บ่าวปิ่น เข้าห้าง ครั้งแรก      [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]  
  เซียน

ภูมิลำเนา : สกลนคร
เข้าร่วม : 16 มี.ค. 2553
รวมโพสต์ : 2213
ให้สาธุการ : 180
รับสาธุการ : 5466320
รวม: 5466500 สาธุการ

 

บ่าวปิ่น  กับ บ่าวป่อง  พุบ่าวพวมแวง บ้านห้วยแฝก
พากันนั่งรถสองแถว เข้าจังหวัด ครั้งแรกในชีวิต
ตะกี้กะอยู่แต่นำ ชนบทเนาะ เลาะหาแต่กบเขียดปูปา นำท่งไฮ่ท่งนา
ข้าวขึ้นเล้า ขายข้าวได้เงิน ก็เลยชวนกันไปในเมือง  ไปหาเลาะซื้อ
"เกิบโบก"  ( รองเท้าผ้าใบ ) ในเมืองซั้นแหล่ว
......................................
นั่งรถมาฮอดในเมือง ย่างลิ่วๆ ขึ้นห้าง โรบินสัน  เลย
ย่างเลาะ ท้วงอันนั้น ท้วงอันนี่ อยู่ เหิงเติบ จนมาฮอด ชั้น 3
แวะร้านขาย "เกิบ"  
" คู่นี้ ราคาถ่อได๋ "  บ่าวป่อง ชี้มือ ใส่ รองเท้า คอนเวิร์ส
"  800 จ้า "  คนขายบอก
" บุยย..ปิ่น  หมู่ว่า คักบ่ คู่นี้ เอาบ่หละ "  งวกหน้ามาถาม บ่าวปิ่น
" เอาๆ   งามหลาย คักกว่าเกิบแต๊ะ คู่เก่าอยู่ดอก พะนะ "
บ่าวป่อง งวกมาเบิ่งเกิบ อีแตะ ตราดาวเทียม คู่เก่า ที่ใส่เลี้ยงงัวเลี้ยงควาย

" เอ๋า...เกิบโต  เด่ซั้น "
บ่าวป่องถามแบบ ตกใจ เพราะบ่เห็น บ่าวลม ใส่เกิบ

" เฮาถอดไว้ ทางเข้าห้าง ตั้งแต่อยู่ ชั้น 1  พู้นแหล่ว "

" ??????? "
....................................................................
( ย้อนบ่เคยขึ้นห้าง เนาะ   เคยขึ้นแต่ เฮือนคน )

 
 
สาธุการบทความนี้ : 464 ครั้ง
จากสมาชิก : 1 ครั้ง
จากขาจร : 463 ครั้ง
 
 
  08 มิ.ย. 2553 เวลา 12:36:53  
   ขึ้นบน ลงล่าง  
 
         

  โพสต์โดย   1276) วิธีการปลูกหม่อนเลี้ยงไหม  
  ปิ่นลม    คห.ที่2)       [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]  
  เซียน

ภูมิลำเนา : สกลนคร
เข้าร่วม : 16 มี.ค. 2553
รวมโพสต์ : 2213
ให้สาธุการ : 180
รับสาธุการ : 5466320
รวม: 5466500 สาธุการ

 


หาอ่านดูครับ ในปลาร้านอกไห วิถีชีวิตอีสาน

http://www.isan.clubs.chula.ac.th/para_norkhai/index.php?transaction=post_view.php&cat_main=2&id_main=347&star=20&pg=3

อันนี้ ทิดอีเกียแดง นำเสนอ เป็นควารู้ ภูมิปัญญาอีสาน ( ตามลิงค์ ) ครับผม

 
 
สาธุการบทความนี้ : 452 ครั้ง
จากสมาชิก : 1 ครั้ง
จากขาจร : 451 ครั้ง
 
 
  23 ส.ค. 2555 เวลา 09:04:53  
   ขึ้นบน ลงล่าง  
 
         

  โพสต์โดย   992) อีสานบ้านเรา......ในน้ำมีปลาในนามีข้าว  
  ปิ่นลม    คห.ที่6)       [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]  
  เซียน

ภูมิลำเนา : สกลนคร
เข้าร่วม : 16 มี.ค. 2553
รวมโพสต์ : 2213
ให้สาธุการ : 180
รับสาธุการ : 5466320
รวม: 5466500 สาธุการ

 

30 ปี ที่แล้ว อีสานยังมีพื้นที่สีเขียว เยอะกว่านี้  100 เท่า
หายไปไหนหนอ อีสานอันอุดม  มาดูแง่คิด ของคนผ่านรอยต่อ
แห่งโลกาวิวัฒน์ สู่เจ้าแห่งอุตหกรรมกัน

1 ( 30 ปีที่แล้ว ) ได้มีคนหัวใส สร้างคุณค่าในการปลูกพืชขึ้น
   ลูกเดือย ปลูกแล้วรวย แผ้วถางป่าปลูกกัน
   หาซื้อพันธุ์ได้ตาม พ่อค้าหน้าใส

2 ( 25 ปีที่แล้ว )  มาอีกแล้ว พืชชนิดใหม่ ปลูกแล้วรวย
   ข้าวฟ่าง แผ้วถางปลูกเข้าไป
   พันธุหาซื้อได้จาก พ่อค้าหน้าใส ( พอปลูกไปสักพัก ปลูกกันมาก
   ไม่รู้จะขายให้ใคร สรุปหลอกกันนี่นา )

3  ( 15 ปีที่แล้ว )ประกอบกันกับ ยุคนิค ( นิคมอุตสาหกรรม ) กำลังอยู่ในแผนพัฒนา
    เงินทุน( ภาษี ) ลงทุนกับ แวดวงอุตสาหกรรม เยอะมาก หวัง
   ให้เป็นเจ้าอุตสาหกรรม ซึ่งเป็นพื้นฐานของสังคมไทย (??? )
     อ้อย จึงเป็นพืชที่ปลูกกันอย่าง ไร้การวางแผน
    ไร้การควบคุม ปลูกแล้วรวย เอ้า ถางป่า ถางทาม ปลูกกัน
    อ้อยพันธุ์ หาซื้อได้จาก พ่อค้าหน้าใส เช่นเดิม

4 ( 10  ปีมานี่เอง ) ยูคา ปลูกแล้วรวย  ใครมีที่ดิน
   หรือ นส.3 ก  ถาง ๆ   ไถ ๆ   ปลูก  ๆ ต้นกล้า หาซื้อได้ตาม ร้านค้าหน้าใส

5  ( 8 ปีมานี่เอง ) ต้นยางพารา มีคนบอกว่า
    อีสานปลูกยางพาราแล้ว รวย ๆ เหมือนภาคใต้  ป่าเต็งรัง ป่าเบญจพรรณ รกร้าง
    ตัด ๆ  เผา ๆ  ถาง ๆ  ไถ ๆ  ซื้อต้นกล้ายางพารา มาปลูก
    ซื้อได้จากพ่อค้าหน้า ใส ( ไม่มีทุน ก็กู้มา จ้างเอาไถ ป่าออก ปลูกต้นยาง
    ปลูกแค่ไร่เดียวหรือจะเห็นผล ต้อง 10 ไร่อัพ )

6  ( 4 ปีมานี่เอง )  น้ำมันขาดแคลนนี่นา   ต้นปาล์มน้ำมัน
    ปลูกแล้วรวยๆ    ถางเข้าไป ต้นกล้าหาซื้อตามร้าน และ เอเย่น พ่อค้าหน้าใส

แงะมาดู อ้าว ป่าหมดแล้ว  หันไปดู ซีกโลกฝั่งโน้น ตรงเส้นแวงเดียวกัน
อ้าว ทะเลทราย นี่หว่า อีสานก็อยู่ เส้นแวงเดียวกัน ( หมุนรูปโลกจำลองดู )

หากคำว่าเจริญ หมายถึง สิ้นสูญ พืชพันธุ์ท้องถิ่นอันอุดม ไร้ต้นไม้แล้วไซร้
นับว่า เราทำสำเร็จแล้ว เหมือน ตะวันออกกลาง เปี๊ยบเลย
ลองเจาะดู อาจะมีน้ำมันก็ได้  ใครจะรู้


มองคำว่าพัฒนาใหม่เถิดครับ อย่ารังแก วิถีอีสาน จน ลืบ ถ่อน

 
 
สาธุการบทความนี้ : 407 ครั้ง
จากสมาชิก : 3 ครั้ง
จากขาจร : 404 ครั้ง
 
 
  27 ส.ค. 2553 เวลา 15:59:25  
   ขึ้นบน ลงล่าง  
 
         

  โพสต์โดย   20) ฟังนิทานก้อม หย่ำไนบักขามคั่ว  
  ปิ่นลม    คห.ที่376)       [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]  
  เซียน

ภูมิลำเนา : สกลนคร
เข้าร่วม : 16 มี.ค. 2553
รวมโพสต์ : 2213
ให้สาธุการ : 180
รับสาธุการ : 5466320
รวม: 5466500 สาธุการ

 

เว้าเรื่อง ไปคุยสาวต่อเนาะ

บ่าวปิ่น พุบ่าวงามแห่งบ้านโคกแปน  ไปหาเลาะคุยสาว
มื้อนี่ถึงคิว สาวส่านุ้ย ว่าซั้น  ( ย้อนหล่อ มีพุสาวหลายคน)
กินข้าวแลงแล้ว กะดุ่ยๆ  ไปบ้านสาวนุ้ย แหล่ว


บ้านสาวนุ้ย เพิ่งเฮ็ดเฮือนใหม่พะนะ  ยังปูแป้นพื้นเฮือนบ่ทันแล้วเบิ๊ด
ยังเหลือ เป็นป่องใหญ่ๆ อยู่เด้ ......
สาวนุ้ยได้ยินข่าวว่า บ่าวปิ่น สิมาคุย  ลักอาย แหล่ว เฮือนบ่ทันแล้ว
พุสาวกะฟ้าวเอาสาด ( เสื่อลำแพน)  มาปูทับป่อง หรือช่องโหว่งพื้นเฮือนเอาไว้
ย้อนว่า อยากอายพุบ่าว


บ่าวปิ่น ย่างขึ้นเฮือนพุสาวได้ บ่ทันได้ถามพุได๋  เหลียวเห็น สาดปูไว้
นึกว่า สาวนุ้ยเตรียมไว้ต้อนรับพุบ่าว ( พะนะ )
ฟ้าวย่างไปนั่งลง บักแฮงหนึ่ง.....
ฟิ้วว.....  
ตุ๊บ.....!

หมูบ เอดเลด  อยู่ตาล่างเฮือน พุ้นแหล่ว..บ่าวปิ่น คนโก้
เห็นแต่ กองก้นกูดจูดอยู่.....( เทิงเจ็บ เทิงแค้น ) ฮิ้วว......

 
 
สาธุการบทความนี้ : 406 ครั้ง
จากสมาชิก : 2 ครั้ง
จากขาจร : 404 ครั้ง
 
 
  03 มิ.ย. 2553 เวลา 16:16:37  
   ขึ้นบน ลงล่าง  
 
         

  โพสต์โดย   928) นิยายของปังคุง~  
  ปิ่นลม    คห.ที่19)       [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]  
  เซียน

ภูมิลำเนา : สกลนคร
เข้าร่วม : 16 มี.ค. 2553
รวมโพสต์ : 2213
ให้สาธุการ : 180
รับสาธุการ : 5466320
รวม: 5466500 สาธุการ

 

เรื่องย้อนยุค  มันเขียนยากอยู่เด้อ..ทางในมิติ ความคิด ความเชื่อ วิถี
ทั้งในทางการสื่อสารของสังคมแบบสัมพัทธ์
บางครั้งต้องแยก ระหว่างภาษาพูด และ ภาษาเขียน ภาษานิยายอีกต่างหาก
หากหัดเล่าเรื่อง โดยผู้อ่านไม่คิดว่าเป็นเรื่องเล่าได้  นั่นหละครับ นักเขียน
สู้ต่อไป  นารูโตะคุง
ดำรงไว้ " เจตจำนงแห่งไฟ ของบ้านโนนทัน " เหอๆๆ    
เป็นกำลังใจให้เสมอ
ปล.ไปเยี่ยมกันทาง วิถีอีสาน แนเด้อ...สำนักนั้น  นินจา อิง๊ะ  หลาย  จ๊วดดด
      แถมท้าย  ตัวหนังสือใหญ่กว่านี้กะดี  สิ่งตาน้อยอ่าน  มันเจ็บโบกตา น้อ

 
 
สาธุการบทความนี้ : 390 ครั้ง
จากสมาชิก : 0 ครั้ง
จากขาจร : 390 ครั้ง
 
 
  12 ก.ค. 2553 เวลา 21:47:40  
   ขึ้นบน ลงล่าง  
 
         

  โพสต์โดย   528) วิจิตรแพรวาที่บ้านโพน อำเภอคำม่วง จังหวัดกาฬสินธุ์  
  ปิ่นลม    คห.ที่28)       [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]  
  เซียน

ภูมิลำเนา : สกลนคร
เข้าร่วม : 16 มี.ค. 2553
รวมโพสต์ : 2213
ให้สาธุการ : 180
รับสาธุการ : 5466320
รวม: 5466500 สาธุการ

 

เรียน อ้ายโอ๊ต  การทอผ้าแพรวา แบบนี้ เป็นภูมิปัญญาชาวบ้าน
อยากรู้ว่า  ใช้เครื่องหูก ทอ แบบใหนทำครับ  ลายวิจิตร แท้
อันนี้ก็ น่าศึกษา เป็นความรู้ไว้ครับ

 
 
สาธุการบทความนี้ : 381 ครั้ง
จากสมาชิก : 0 ครั้ง
จากขาจร : 381 ครั้ง
 
 
  10 ต.ค. 2553 เวลา 22:54:38  
   ขึ้นบน ลงล่าง  
 
         

  โพสต์โดย   20) ฟังนิทานก้อม หย่ำไนบักขามคั่ว  
  ปิ่นลม    คห.ที่395)       [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]  
  เซียน

ภูมิลำเนา : สกลนคร
เข้าร่วม : 16 มี.ค. 2553
รวมโพสต์ : 2213
ให้สาธุการ : 180
รับสาธุการ : 5466320
รวม: 5466500 สาธุการ

 

โอย....นิทานเรื่องแรก  ถามว่าไผเร็วกว่า  พะนะ
แต่ เบิ๊ดคืน กะยังได้ เทื่อเดียว    นี่แค่ตบยุง ได้ตั้ง 3 เทื่อ
เร็วอีหลี  น้อ...
หัวจนเจ็บท้องน้อย พุข่า
หามาเว้าอีกเด้อ  ผู้กอง

 
 
สาธุการบทความนี้ : 366 ครั้ง
จากสมาชิก : 0 ครั้ง
จากขาจร : 366 ครั้ง
 
 
  06 มิ.ย. 2553 เวลา 18:05:40  
   ขึ้นบน ลงล่าง  
 
         

  โพสต์โดย   20) ฟังนิทานก้อม หย่ำไนบักขามคั่ว  
  ปิ่นลม    คห.ที่371)       [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]  
  เซียน

ภูมิลำเนา : สกลนคร
เข้าร่วม : 16 มี.ค. 2553
รวมโพสต์ : 2213
ให้สาธุการ : 180
รับสาธุการ : 5466320
รวม: 5466500 สาธุการ

 

บ่าวต้าง พุบ่าวขึ้นใหม่พวมแวง  มักสาวจ่อยหลาย แต่บ่กล้าคุย
มื้อหนึ่งตัดสินใจ ตายเป็นตาย  ต้องไปคุยสาวจ่อยให้ได้
ตกยามแลง เพิ่นกะไปหาสาวจ่อยอยู่เฮือน
พ่อเฒ่า แม่เฒ่า กะเข้านอนแต่เว็น เปิดโอกาสให้ พุบ่าวพุสาวคุยกัน

  แต่บ่าวต้าง กะบ่เคยไปคุยสาวเนาะ เว้าบ่เป็น
ได้แต่นั่ง โจโล อยู่ บ่ปากบ่ติง ( คิดหาแนวสิคุยบ่ได้ )
......................................................................

นานเติบ กะยังบ่เว้า  จนพุสาวท้วงว่า
" อ้าย เจ้าบ่เว้าหยัง  ข่อยเข้าเมือนอนเด้อ.."
( ฮึ บาดนิ  ถืกกดดัน ให้ปากให้เว้าแล้ว  เฮ็ดแนวได๋น้อ คิดบ่ออก )

บ่าวต้าง เหลียวไปเห็น "เกิบ" พ่อสาวจ่อย วางอยู่
ก็เลย เว้าไปว่า
" เจ้าว่า ข่อยกล้า แก่งเกิบพ่อเจ้าลงตาล่าง บ่ "

" เอาแม้..คันเจ้ากล้า " ( พะนะ ) สาวจ่อยว่า

บ่าวต้างจับเกิบได้ กะ เจิด ลงล่าง ทันที  ฟิ้ว.ววว.. !
..................................................................

ยามมื้อเซ้า เฒ่าพ่อตื่นนอนขึ้นมา ซาวหาเกิบ สิลงไปเข้าห้องน้ำ
" นางๆ   เห็นเกิบพ่อ บ่ "
ลูกสาวตอบเสียงดัง มาจากเฮือนครัว
" อ้ายต้าง เจิดลงล่าง แต่มื้อคืนแล้ว " ( พะนะ )
" หึย..xxxxxx xx  "

 
 
สาธุการบทความนี้ : 344 ครั้ง
จากสมาชิก : 1 ครั้ง
จากขาจร : 343 ครั้ง
 
 
  02 มิ.ย. 2553 เวลา 15:03:11  
   ขึ้นบน ลงล่าง  
 
         

  โพสต์โดย   1022) ฮี้น...และ แมงขี้นาก  
  ปิ่นลม    คห.ที่0) ฮี้น...และ แมงขี้นาก      [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]  
  เซียน

ภูมิลำเนา : สกลนคร
เข้าร่วม : 16 มี.ค. 2553
รวมโพสต์ : 2213
ให้สาธุการ : 180
รับสาธุการ : 5466320
รวม: 5466500 สาธุการ

 



เรารู้ว่าท่านเจ๋ง  แต่ขอความกรุณา อย่าทำร้าย พวกเราเลย
เก่งจริง ลองนั่งในกระด้งยกจะของขึ้นเบิ่งดุ๋

 
 
สาธุการบทความนี้ : 337 ครั้ง
จากสมาชิก : 2 ครั้ง
จากขาจร : 335 ครั้ง
 
 
  21 ก.ย. 2553 เวลา 19:13:23  
   ขึ้นบน ลงล่าง  
 
         

  โพสต์โดย   847) ชาติพันธุ์และชนเผ่าต่างๆใน 19 จังหวัดอีสาน  
  ปิ่นลม    คห.ที่46)       [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]  
  เซียน

ภูมิลำเนา : สกลนคร
เข้าร่วม : 16 มี.ค. 2553
รวมโพสต์ : 2213
ให้สาธุการ : 180
รับสาธุการ : 5466320
รวม: 5466500 สาธุการ

 

เห็นด้วยกับ อ้ายต้องแล่ง ครับ  
พิธีกรรม  คำสอน  และอัตตลักษณ์  มีรูปแบบมาจาก ธรรมชาติและสภาพแวดล้อม
ของชาติพันธุ์ที่อาศัยในภูมิภาค  สมัยก่อน การสืบทอดอัตตลักษณ์ ทำได้โดย
สถาบันครอบครัวสอนสั่ง
สถาบันทางสังคม อบรม ได้แก่ วัดวา  พิธีกรรมทางสังคม
องค์ประกอบอื่นๆ   เรื่องเล่าข้างกองไฟ  ผู้นำชุมชน  และการสื่อสารในชุมชน
แต่องค์ประกอบโดยรวม คือธรรมชาติครับ

 
 
สาธุการบทความนี้ : 334 ครั้ง
จากสมาชิก : 0 ครั้ง
จากขาจร : 334 ครั้ง
 
 
  22 มิ.ย. 2553 เวลา 00:16:26  
   ขึ้นบน ลงล่าง  
 
         

  โพสต์โดย   941) มีภาพสาวภูไทมาฝากครับ  
  ปิ่นลม    คห.ที่7)       [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]  
  เซียน

ภูมิลำเนา : สกลนคร
เข้าร่วม : 16 มี.ค. 2553
รวมโพสต์ : 2213
ให้สาธุการ : 180
รับสาธุการ : 5466320
รวม: 5466500 สาธุการ

 
คุณจารย์ใหญ่:
ซุมผู้อาวุโส ถืกตั๋วง่ายเนาะ...อิอิ


ไค กว่าผู้ ถืก ต้ม อยู่....จั๊กไผ บุ

 
 
สาธุการบทความนี้ : 321 ครั้ง
จากสมาชิก : 0 ครั้ง
จากขาจร : 321 ครั้ง
 
 
  20 ก.ค. 2553 เวลา 20:00:13  
   ขึ้นบน ลงล่าง  
 
         

  โพสต์โดย   1300) เป็นร้อนในเจ็บปากชะมัด..ช่วยแนะนำวิธีรักษาทีซิค่ะ  
  ปิ่นลม    คห.ที่2)       [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]  
  เซียน

ภูมิลำเนา : สกลนคร
เข้าร่วม : 16 มี.ค. 2553
รวมโพสต์ : 2213
ให้สาธุการ : 180
รับสาธุการ : 5466320
รวม: 5466500 สาธุการ

 

ถากเอา เปลือกต้นกะโดน หรือ เปลือกต้นประดู่  (เปลือกด้านใน )
แล้วอม นาน 15 นาที    3 เวลา เช้า เที่ยง เย็น    หายเป็นปลิดทิ้ง ครับ

 
 
สาธุการบทความนี้ : 321 ครั้ง
จากสมาชิก : 0 ครั้ง
จากขาจร : 321 ครั้ง
 
 
  16 ก.พ. 2556 เวลา 14:45:54  
   ขึ้นบน ลงล่าง  
 
         

  โพสต์โดย   20) ฟังนิทานก้อม หย่ำไนบักขามคั่ว  
  ปิ่นลม    คห.ที่368)       [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]  
  เซียน

ภูมิลำเนา : สกลนคร
เข้าร่วม : 16 มี.ค. 2553
รวมโพสต์ : 2213
ให้สาธุการ : 180
รับสาธุการ : 5466320
รวม: 5466500 สาธุการ

 

สาวจ่อย  ไปตรวจภายในครั้งแรกในชีวิต
พอถึงแผนกสูตินารี  หมอก็ให้ถอด ผ้าถุงออก นอนเอาผ้าคลุมไว้
หมอสาละวนอยู่ อันนั้น อันนี้ อยู่ จั๊กคราวก็เดินออกไป นอกห้อง
สาวจ่อย กะนอนถ้าให้หมอตรวจ
  
บ่นาน ก็มีคนหนึ่งเดินเข้ามา ซ่อมไฟ ซ่อมเครื่องมือตรวจ สงสิเป็นหมอ
เพิ่นคนนั้น เทียวเปิดผ้าสาวจ่อย เบิ่งอันนั้น   เทียวเปิด เทียวปิดอยู่หลายรอบ
สาวจ่อยรำคาญเลยบอกว่า
" สิตรวจกะตรวจโลด คุณหมอ  เทียวแต่เบิ่งหลาย  รำคาญ "
คนคนนั้น หน้าตาซีด ตอบมาทันควัน
" ผมตรวจบ่เป็นดอกครับ   ผมเป็นช่างไฟ "

............................................. ฮิ้ว.....ว......

 
 
สาธุการบทความนี้ : 315 ครั้ง
จากสมาชิก : 1 ครั้ง
จากขาจร : 314 ครั้ง
 
 
  27 พ.ค. 2553 เวลา 14:03:39  
   ขึ้นบน ลงล่าง  
 
         

  โพสต์โดย   528) วิจิตรแพรวาที่บ้านโพน อำเภอคำม่วง จังหวัดกาฬสินธุ์  
  ปิ่นลม    คห.ที่31)       [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]  
  เซียน

ภูมิลำเนา : สกลนคร
เข้าร่วม : 16 มี.ค. 2553
รวมโพสต์ : 2213
ให้สาธุการ : 180
รับสาธุการ : 5466320
รวม: 5466500 สาธุการ

 

ขอบคุณ อ้ายโอ๊ต หลายๆ  สำหรับ ความรู้เบื้องต้นในการ ทอผ้าแบบนี้
แต่ละแห่งในอีสาน ก็มี เอกลักษณ์ ในการทอผ้า แตกต่างกันไป แต่ก็คล้ายๆกัน

ที่สำคัญงานหัตถกรรมแบบนี้ หากพวกเฮาบ่ ส่งเสริมหรือ สืบทอดไว้
ลูกหลานภายภาคหน้า อาจจะหลงลืม สูญหายไป

การศึกษาภูมิปัญญาชาวบ้าน ปัจจุบัน  จัดเข้าในรูปแบบ การศึกษาตามอัธยาสัย
หน่วยงานที่มีหน้าที่ส่งเสริมสืบทอดให้ดำรง มีไม่แน่ชัด อย่างไรก็ตาม พวกเฮา
สามารถ ช่วยกันอนุรักษ์สืบสานไว้ได้ ดังนี้
1 ช่วยกันอุดหนุนงานฝีมือแบบนี้ จากแหล่งที่มา
2 ในการแสดงดนตรี นาฏศิลป์ ต่างๆ นำเอาผลิตภัณฑ์ เหล่านี้ ประยุกต์ใช้
3  หน่วยงานท้องถิ่น ส่งเสริมอาชีพ ทั้งทางนโยบาย และ งบประมาณอุดหนนุน
4 ชุมชนมีการฝึกสอน ให้เยาวชนได้สืบสาน ศาสตร์แขนงนี้ไว้กับถิ่น

ในความเห็นของผมแล้ว ผ้าแพรวา ที่มีลักษณะเฉพาะแต่ละถิ่น บ่งบอกอัตตลักษณ์
ของชาวอีสานได้ชัดเจน  เหมื่อนทรงผมตั้ง ๆ  ของวัยรุ่นเกาหลี

 
 
สาธุการบทความนี้ : 311 ครั้ง
จากสมาชิก : 0 ครั้ง
จากขาจร : 311 ครั้ง
 
 
  11 ต.ค. 2553 เวลา 06:28:14  
   ขึ้นบน ลงล่าง  
 
         

  โพสต์โดย   986) สับศัพท์.. คำที่เราใช้มีที่มาอย่างไร??  
  ปิ่นลม    คห.ที่12)       [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]  
  เซียน

ภูมิลำเนา : สกลนคร
เข้าร่วม : 16 มี.ค. 2553
รวมโพสต์ : 2213
ให้สาธุการ : 180
รับสาธุการ : 5466320
รวม: 5466500 สาธุการ

 

บางคน ศึกษามาแล้ว อาจสิสงสัย ว่า
มีรากศัพท์แล้ว  เอา อันนั้นอันนี้ มาลง แนวได๋
ฮู้จั่งได๋ อันนี้เป็น อุปสรรค  เป็น ปัจจัย  เป็น นิบาต

ขอขยายความ ตามความรู้พอหางอึ่ง ให้ฟังเด้อ ผิดพลาด ประการใด
ท่านผู้รู้ ช่วยท้วงติงแน  ขะน้อยเรียนมาด่นแล้ว จำบ่ค่อยแม่นปานได๋

ที่อ้ายมังกรเดียวดาย เอาอันนั้นอันนี้ มาลงใส่รากศัพท์
ที่เอามาบวกเข้ากับคำศัพท์ อันเป็นธาตุ ต้นตอรากศัพท์นั้น
เรียกว่า"อัพยยศัพท์"  คือ ศัพท์ที่แจกด้วยวิภัตติ  เหมือนนามนามไม่ได้
คงรูปอยู่อย่างเดิม   แบ่งเป็น 3 คือ

อุปสัค
นิบาต
ปัจจัย


อุปสัค
อุปสัค แปลว่า ขัดข้อง

อุปสัค ใช้นำหน้านามและกิริยาให้วิเศษขึ้น เมื่อนำหน้านาม มีอาการคล้ายคุณศัพท์  เมื่อนำหน้ากิริยา มีอาการคล้ายกิริยาวิเสสนะ  

อุปสัคมี 3 ชนิด คือ

1อุปสัคสังหารธาตุ ใช้นำหน้าธาตุแล้ว ทำให้ความหมายของธาตุเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง
   ได้แก่   อนุ   อภิ   และ  ป ( ปะ)
2 อุปสัคเบียนธาตุ  เมื่อใช้นำหน้าธาตุแล้ว ทำให้ความหมายของธาตุ เปลี่ยนไปเล็กน้อยบ้าง
แต่ยังพอสังเกตความหมายของธาตุเดิมได้อยู่บ้าง
ได้แก่  อา ปรา  ปฏิ

3 นิ อุปสัค   ( ลืมไปแล้วเขาเรียกว่าอะไร )
  
นิ  มีอยู่ 2 ศัพท์ คือ
นิ  ที่แปลว่า  เข้า  ลง
นิ  ที่แปลว่า  ไม่มี  ออก

ให้คิดจั๊กคราวก่อน เดี่ยวสิเว้าเรื่อง นิบาต  กับ ปัจจัยให้ฟัง
โอย...ฮ้างแล้ว...ความรู้ ครูบาอาจารย์ เอ้ย...

 
 
สาธุการบทความนี้ : 310 ครั้ง
จากสมาชิก : 1 ครั้ง
จากขาจร : 309 ครั้ง
 
 
  19 ส.ค. 2553 เวลา 20:34:38  
   ขึ้นบน ลงล่าง  
 
         

  โพสต์โดย   892) งานพบปะสังสรรค์อีสานจุฬาแฟนคลับ 2553 (กำหนดใหม่)  
  ปิ่นลม    คห.ที่150)       [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]  
  เซียน

ภูมิลำเนา : สกลนคร
เข้าร่วม : 16 มี.ค. 2553
รวมโพสต์ : 2213
ให้สาธุการ : 180
รับสาธุการ : 5466320
รวม: 5466500 สาธุการ

 
คุณบ่าวหน่อ:
บ่าว kenjimanu เปลี่ยนรูปสา บ่ต้องย้านเขาเห็นความหล่อดอก คนขอนแจ่นมีตะคนหล่อๆดอก เอารูปใบไม้ใบหญ้ากะได้ หรือว่า รูปนี้เป็นรูปก่อนไปทำศัลยกรรม ซะใด๋ดอก เห็นภูมิใจขนาด


yess    อ้ายหน่อ     คันหาฮูปลง บ่ได้ แนะนำให้หา รูปคนถือแส่ ไล่งัว
คือกันกับอ้ายมังกรเดียวดายกะได้  ฮู้อยู่ดอกว่าทางขอนแก่น  หน้าตาดี
อันนี้กะมั่นใจเต็มร้อย  เรื่องจริง ขอนแก่นมีแต่คนหล่อ ๆ
    

 
 
สาธุการบทความนี้ : 293 ครั้ง
จากสมาชิก : 0 ครั้ง
จากขาจร : 293 ครั้ง
 
 
  18 มิ.ย. 2553 เวลา 20:40:14  
   ขึ้นบน ลงล่าง  
 
         

  โพสต์โดย   857) รับสมัครสมาชิก "บ้านเฮา"บ้านรับน้องของชมรมอีสานจุฬาฯ ด่วน ! เพื่อร่วมกิจกรรมรับน้องก้าวใหม่จุฬาฯ 53  
  ปิ่นลม    คห.ที่51)       [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]  
  เซียน

ภูมิลำเนา : สกลนคร
เข้าร่วม : 16 มี.ค. 2553
รวมโพสต์ : 2213
ให้สาธุการ : 180
รับสาธุการ : 5466320
รวม: 5466500 สาธุการ

 
คุณรุทธิ์  (อีเกียแดง):
คุณบ่าวหน่อ:
โอ้ววววววววว...
คนบ้านเฮา.... คนบ้านเดียวกัน


อยากให้เพลงประจำบ้านมีเพลงนี้ด้วย
คนบ้านเดียวกัน แค่หลงเกิบกันก็เข้าใจอยู่ รู้ว่าเหนื่อยแค่ไหน
ว่าหนักแค่ไหน  หาบน้ำขึ้นภู อยากมีคำปลอบโยน อยากมีคำ
ปลอบใจ มีคำว่า หลงส้นกัน เสมอ เด้อ "คนบ้านเฮา"

คนบ้านเดียวกัน

     เห็นนำครับ แสดงซึ่งความฮักความสามัคคีกัน



    

 
 
สาธุการบทความนี้ : 289 ครั้ง
จากสมาชิก : 0 ครั้ง
จากขาจร : 289 ครั้ง
 
 
  08 พ.ค. 2553 เวลา 11:49:20  
   ขึ้นบน ลงล่าง  
 
         

  โพสต์โดย   143) ร้อยกรองกวีกานต์ ร้อยกลอนกวีกัน  
  ปิ่นลม    คห.ที่118)       [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]  
  เซียน

ภูมิลำเนา : สกลนคร
เข้าร่วม : 16 มี.ค. 2553
รวมโพสต์ : 2213
ให้สาธุการ : 180
รับสาธุการ : 5466320
รวม: 5466500 สาธุการ

 


ขอบคุณ ภาพจาก google

ดังใบไม้แกว่งเพียงครู่.....      ลมพัดลู่ยอดหญ้าหวามไหว
พายับแดดขจร ขจายไป...   แดดรำไรยิ้มกลิ่ม อวดแสงลำ
เหลือบแลเห็นอยู่ อกเอ๋ย..  หรีดหริ่งลำเพย..เพ้อพร่ำ
ลำเนาถิ่นฐานในทรงจำ...    เหมือนถ้อยคำ คนึงอยู่ทุกทิวา

รอยยิ้มละอองฝนในสายรุ้ง        มุ่งหมายท้องนภา ดังฝันหนอ
แมลงหลาก ภู่ภมรบินเคลียคลอ  ดอกช่อบุษบาริมบึงชล
ดังใจผูกป่าน สัมพันธ์เจ้า        ราตรีเผ้าเชยชมหิ่งห้อยแสง
เมื่อครากองไฟมอดสิ้นแรง       แมลงน้อยโดดเด่น...ในแนวไพร                                      
                                                                    
                                                               ปิ่นลม        

 
 
สาธุการบทความนี้ : 288 ครั้ง
จากสมาชิก : 0 ครั้ง
จากขาจร : 288 ครั้ง
 
 
  08 ก.ค. 2553 เวลา 15:47:57  
   ขึ้นบน ลงล่าง  
 
         

  โพสต์โดย   909) ตำนานบั้งไฟผาแดงนางไอ่กับหนองหานกุมภวาปี จังหวัดอุดรธานี  
  ปิ่นลม    คห.ที่8)       [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]  
  เซียน

ภูมิลำเนา : สกลนคร
เข้าร่วม : 16 มี.ค. 2553
รวมโพสต์ : 2213
ให้สาธุการ : 180
รับสาธุการ : 5466320
รวม: 5466500 สาธุการ

 

หนังสือ  เล่มเดียว  สรุปแล้วติ ครับ  คนในพื้นที่ ที่ฟังจากปากต่อปาก
เว้าให้ฟัง บ่เซือแล้วแม่น บ่  
หนังสือ กะฟังจากคนเล่า  เป็นมุขปาถะ  แล้วก็เอาไปเขียน ลงชื่อเจ้าของซะ
นี่มีลายลักษณ์อักษร น่าเชื่อถือ  แล้วก็บอกว่า มุขปาถะ ไม่น่าเชื่อถือ

ถามหน่อยครับ  ฮู้จัก วังฆ้อง  วังกลอง  น้ำก่ำ  น้ำงืม ไป๋  ภูน้ำลอด อยู่ใส
อ่านหนังสือแล้ว เคยถาม คนสกล อยู่บ่

 
 
สาธุการบทความนี้ : 277 ครั้ง
จากสมาชิก : 0 ครั้ง
จากขาจร : 277 ครั้ง
 
 
  22 มิ.ย. 2553 เวลา 14:27:23  
   ขึ้นบน ลงล่าง  
 
         

  โพสต์โดย   20) ฟังนิทานก้อม หย่ำไนบักขามคั่ว  
  ปิ่นลม    คห.ที่433)       [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]  
  เซียน

ภูมิลำเนา : สกลนคร
เข้าร่วม : 16 มี.ค. 2553
รวมโพสต์ : 2213
ให้สาธุการ : 180
รับสาธุการ : 5466320
รวม: 5466500 สาธุการ

 




คันแม่น แพร  เป็นพยาบาล  กะสิยาวต่อไปอีก เติบ เด้นิ
แนะนำให้ ป้าหน่อย เปลี่ยนชื่อเล่น เป็น  "เอสโซ่ "  รับรอง
ซื่อบ่คือไผ
ตัวอย่าง
ต้นสาย       สวัสดี จ้า
ปลายสาย   หน่อยบ่นิ
ต้นสาย       บ่แม่น   เอสโซ่  เว้า
ปลายสาย   เอสโซ่ได๋ บัดเทื่อนิ
ต้นสาย      เอสโซ่ นอกจากปั๊มน้ำมันแล้ว  กะสิมีผู้เดียวในประเทศนี่หละ
จบการสนทนา

 
 
สาธุการบทความนี้ : 276 ครั้ง
จากสมาชิก : 1 ครั้ง
จากขาจร : 275 ครั้ง
 
 
  20 มิ.ย. 2553 เวลา 16:17:37  
   ขึ้นบน ลงล่าง  
 
         

  โพสต์โดย   909) ตำนานบั้งไฟผาแดงนางไอ่กับหนองหานกุมภวาปี จังหวัดอุดรธานี  
  ปิ่นลม    คห.ที่2)       [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]  
  เซียน

ภูมิลำเนา : สกลนคร
เข้าร่วม : 16 มี.ค. 2553
รวมโพสต์ : 2213
ให้สาธุการ : 180
รับสาธุการ : 5466320
รวม: 5466500 สาธุการ

 

ผาแดงนางไอ่  ตำนาน หนองหาน  จ.สกลนคร ครับ
กินเนื้อกะฮอกด่อน แล้ว เมืองหล่ม  

ส่วนหนองหานกุมวาปี จ.อุดร
กิน ปลาไหลเผือก  แล้ว เมืองหล่ม ( คล้ายๆกัน ) แต่บ่แม่นตำนาน ผาแดง

 
 
สาธุการบทความนี้ : 268 ครั้ง
จากสมาชิก : 0 ครั้ง
จากขาจร : 268 ครั้ง
 
 
  22 มิ.ย. 2553 เวลา 01:11:40  
   ขึ้นบน ลงล่าง  
 
         

  โพสต์โดย   816) ป้อย  
  ปิ่นลม    คห.ที่6)       [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]  
  เซียน

ภูมิลำเนา : สกลนคร
เข้าร่วม : 16 มี.ค. 2553
รวมโพสต์ : 2213
ให้สาธุการ : 180
รับสาธุการ : 5466320
รวม: 5466500 สาธุการ

 
คุณบ่าวหน่อ:
ทางนี้วิชาการอีหลี


หม่องมันเนาะ     เจตนาเดิม ตั้งแต่ สร้างเวปไซต์ บ่แม่นติ



 
 
สาธุการบทความนี้ : 266 ครั้ง
จากสมาชิก : 0 ครั้ง
จากขาจร : 266 ครั้ง
 
 
  19 มิ.ย. 2553 เวลา 13:43:34  
   ขึ้นบน ลงล่าง  
 
         

  โพสต์โดย   914) ชุดอิสาน.....เอามาให้ติชมครับ....  
  ปิ่นลม    คห.ที่32)       [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]  
  เซียน

ภูมิลำเนา : สกลนคร
เข้าร่วม : 16 มี.ค. 2553
รวมโพสต์ : 2213
ให้สาธุการ : 180
รับสาธุการ : 5466320
รวม: 5466500 สาธุการ

 


งามอรชร ดัง ดอกจานงอนต้น
งามโอ้นโต้น  คือดอกงิ้วบ่งมา
งามเสื้อผ้า  คือดั่งท่งนาข้าวถอก
กกกอกเอิ้น โสจ้นๆ  ใส่ส้มลม...

 
 
สาธุการบทความนี้ : 262 ครั้ง
จากสมาชิก : 0 ครั้ง
จากขาจร : 262 ครั้ง
 
 
  06 ก.ค. 2553 เวลา 10:51:03  
   ขึ้นบน ลงล่าง  
 
         

  โพสต์โดย   918) ขอแนวความคิดทางของดนตรีพื้นบ้านสมัยใหม่กับสมัยเก่า  
  ปิ่นลม    คห.ที่4)       [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]  
  เซียน

ภูมิลำเนา : สกลนคร
เข้าร่วม : 16 มี.ค. 2553
รวมโพสต์ : 2213
ให้สาธุการ : 180
รับสาธุการ : 5466320
รวม: 5466500 สาธุการ

 

ขะน้อย เล่นดนตรี บ่เป็น  แต่ฟังเป็น
ฟังเป็น หมายถึง เวลาศิลปิน จับเครื่องดนตรีมาชิ้นหนึ่ง บรรเลง
น้ำหนักเสียง ลายตนตรี และความละเมียดในการสัมผัสให้เกิดเสียง
ศิลปินเพิ่นต้องการให้ผู้ฟัง รู้สึกแนวได๋จากใจ ขะน้อยฟังฮู้ แล้วกะคล้อยตาม
ปานตกในภวังค์  นั่นคือศิลปะของศิลปิน

อนุมาน


ความไพเราะเหมือนสายลม คือบังคับไม่ได้  แต่มีทิศทาง  
พัดเลยผ่านรวยริน คือลมหัวท่ง แต่บ่ลืมหอบเอากลิ่นอายสิ่งที่พัดผ่านมาผสมนำ
นั้นคือ ศิลปินสมัยเก่า

ความไพเราะ คือ แอร์เย็นๆ ตามห้าง กระจายทั่วถึง  รวดเร็วและตรงจุด
แต่บ่เคยผ่านพัดใบไม้ให้ไหวติง  ไฟดับก็หยุดพัด ไม่แคร์ เย็นเร็ว ๆ ยิ่งดี
ยิ่งมีระบบกำจัดแบททีเรีย  ยิ่งนิยม
นี่คือ สมัยไหม่    

ตัวอย่างเสียงซอ ศิลปินรุ่นเก่า  ที่ไพเราะหลาย ฟังแล้ว รู้สึก อ้อน ติงพ้อ น้อยใจ
และสนุกสนาน บ่ถึงกับเศร้าโศก แต่กลับรู้สึก มีกำลังใจ
เป็นเพลงที่ ขะน้อยมักหลาย  ฟังเสียงซอ เด้อขะน้อย


 
 
สาธุการบทความนี้ : 262 ครั้ง
จากสมาชิก : 1 ครั้ง
จากขาจร : 261 ครั้ง
 
 
  01 ก.ค. 2553 เวลา 20:42:08  
   ขึ้นบน ลงล่าง  
 
         

  โพสต์โดย   143) ร้อยกรองกวีกานต์ ร้อยกลอนกวีกัน  
  ปิ่นลม    คห.ที่125)       [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]  
  เซียน

ภูมิลำเนา : สกลนคร
เข้าร่วม : 16 มี.ค. 2553
รวมโพสต์ : 2213
ให้สาธุการ : 180
รับสาธุการ : 5466320
รวม: 5466500 สาธุการ

 




ดอกบัวบาน เต็มหนองน้ำ  เจ้าเอย
ภายนอก      หรือละเลย    เย็นย่ำ
ดอกบัวบาน   เช้ารุ่ง         ยอแสง
ภายใน        แต่งสีแดง     เกสรร่อน
                                      ( วายุติ้ว)

 
 
สาธุการบทความนี้ : 260 ครั้ง
จากสมาชิก : 1 ครั้ง
จากขาจร : 259 ครั้ง
 
 
  24 ธ.ค. 2553 เวลา 13:32:57  
   ขึ้นบน ลงล่าง  
 
         

  โพสต์โดย   143) ร้อยกรองกวีกานต์ ร้อยกลอนกวีกัน  
  ปิ่นลม    คห.ที่127)       [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]  
  เซียน

ภูมิลำเนา : สกลนคร
เข้าร่วม : 16 มี.ค. 2553
รวมโพสต์ : 2213
ให้สาธุการ : 180
รับสาธุการ : 5466320
รวม: 5466500 สาธุการ

 



ครู   มีความหมาย ว่าแน่นหนัก
ต้อง สมัครใจพลี เป็นแบบอย่าง
แล่ง แลรักษ์  สอนสั่ง เป็นแนวทาง
กล้อง ขยายใหญ่บ้าง ให้ศิษย์มอง
ฮ้าง   ทั้งผอง ดีชั่ว  ครูชี้นำ    

 
 
สาธุการบทความนี้ : 249 ครั้ง
จากสมาชิก : 2 ครั้ง
จากขาจร : 247 ครั้ง
 
 
  26 ธ.ค. 2553 เวลา 14:18:27  
   ขึ้นบน ลงล่าง  
 
         

  โพสต์โดย   1265) ซั่นดอกว้า --->  
  ปิ่นลม    คห.ที่1)       [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]  
  เซียน

ภูมิลำเนา : สกลนคร
เข้าร่วม : 16 มี.ค. 2553
รวมโพสต์ : 2213
ให้สาธุการ : 180
รับสาธุการ : 5466320
รวม: 5466500 สาธุการ

 
คุณสาวขอนแจ่น:
อยากฮู้ว่า คำว่า "ซั่นดอกกว้า" ในความหมายจริง ๆ แล้วมันคืออีหยังคะเมื่อแปลเป็นไทย

    
"ซั่นดอกหวา"  เป็นวลี ปิดประโยค ในภาษาอีสานแปลว่า  " ด้วยประการฉะนี้แล "
หากจะแปลเป็น ภาษาพูด ในภาษาไทยก็คือ  "มันก็เป็นอย่างนี้แหละ"
หากยังไม่เข้าใจ ให้ไปฟังเพลง "ก็มันเป็นอยางนั้น"  ของ บิลลี่โอแกน     เอวัง เจ้าข้าเอ้ย....

 
 
สาธุการบทความนี้ : 245 ครั้ง
จากสมาชิก : 1 ครั้ง
จากขาจร : 244 ครั้ง
 
 
  18 ก.ค. 2555 เวลา 16:56:06  
   ขึ้นบน ลงล่าง  
 
         

  โพสต์โดย   1258) น้องปิ่นลม  
  ปิ่นลม    คห.ที่1)       [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]  
  เซียน

ภูมิลำเนา : สกลนคร
เข้าร่วม : 16 มี.ค. 2553
รวมโพสต์ : 2213
ให้สาธุการ : 180
รับสาธุการ : 5466320
รวม: 5466500 สาธุการ

 

อ้างที่มาของข้อมูลแน  "บักหล่า"
เดี๋ยวเพิ่นสิว่า ละเมิด ทรัพย์สินทางปัญญา

บ่ต้องบรรยาย การสืบพันธุ์ได้บ่     " เดาออก" ฮั่นน๊า...ดุกอุย

 
 
สาธุการบทความนี้ : 239 ครั้ง
จากสมาชิก : 0 ครั้ง
จากขาจร : 239 ครั้ง
 
 
  04 ก.ค. 2555 เวลา 16:11:21  
   ขึ้นบน ลงล่าง  
 
         

  โพสต์โดย   983) แด่ผองเพื่อน วิญญูชน  
  ปิ่นลม    คห.ที่0) แด่ผองเพื่อน วิญญูชน      [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]  
  เซียน

ภูมิลำเนา : สกลนคร
เข้าร่วม : 16 มี.ค. 2553
รวมโพสต์ : 2213
ให้สาธุการ : 180
รับสาธุการ : 5466320
รวม: 5466500 สาธุการ

 


ขอบคุณเจ้าของภาพ



พุทธองค์ ตรัสไว้ว่า จักวาล ประกอบด้วย รูปธรรม ( ความมีทรวดทรง รูปร่างและมีมิติ สภาวะมีอยู่ )
กับ อรูปธรรม(ความไม่มีตัวตัวตน รูปทรง มิติ แต่มีสภาวะว่ามีอยู่ เช่นเดียวกับ รูปนาม )

วิญญูชน เอย..  อย่าเพิ่งเชื่อ เพราะเคยได้ฟังมา  หรือตำราใดกล่าวอ้าง  อย่าเพิ่งเชื่อเพราะถ่ายทอดความเชื่อสู่รุ่น
ขอให้ คิดใคร่ครวญให้แยบยล  ดังพุทธองค์ตรัสไว้ คิดแบบปริโยสาทะมสิการ เทอญ

จักรวาล คือ รูปทรงมหึมาประกอบด้วย กาแลกซีต่างๆ นับแสนล้านกาแลกซี  ทางช้างเผือก เป็นส่วนประกอบย่อยเล็กๆ อันหนึ่งในกาแลกซีเหล่านั้น แต่เมื่อเทียบกับโลกแล้วกาแลกซีจะโตกว่ามากมายแสนคณานับ  

หากเอาแกลแกซี เทียบกับ จักวาลแล้ว  เหมือนทรายเม็ดหนึ่ง  ในทะเลทราย ซาฮาร่า
หากเอามนุษย์คนหนึ่ง เทียบกับ จักวาลเล่า ........ยังคิดว่าตัวเอง..ยิ่งใหญ่อยู่หรือ   ยังคิดว่าตัวเองเป็นศูนย์กลาง อยู่หรือ


เข้าใจแล้วหนอ...รูปธรรม  เห็นได้  จับต้องได้ สัมผัสได้ มีมิติ รูปทรง  ลึก ตื้น หนา บาง  นี่เอง

แล้วอรูปธรรม หละ

ไม่มีใครทราบว่า จักรวาลมีขอบเขตหรือจะไปได้ไม่สิ้นสุด นอกจากมวลสารที่กล่าวมาแล้ว
องค์ประกอบส่วนใหญ่ของจักวาลเป็นที่ว่างหรือ ที่เรียกว่า อวกาศ  ( ปัจจุบันค้นพบแล้วว่า ที่ว่างนั้น มันไม่ว่าง
ที่ว่าว่าง เพราะมองไม่เห็นอะไร จับต้องอะไรไม่ได้ ไม่มีรูปทรง ที่ว่าไม่ว่างคือ ตรงนั้นมีพลังงานอยู่ เรียกว่า สสารมืด )
อ้อ..นี่เอง อรูปธรรม..หนอ  อวกาศ หรือ สสารมืด นี่เอง

 
 
สาธุการบทความนี้ : 234 ครั้ง
จากสมาชิก : 0 ครั้ง
จากขาจร : 234 ครั้ง
 
 
  17 ส.ค. 2553 เวลา 12:03:00  
   ขึ้นบน ลงล่าง  
 
         

  โพสต์โดย   892) งานพบปะสังสรรค์อีสานจุฬาแฟนคลับ 2553 (กำหนดใหม่)  
  ปิ่นลม    คห.ที่32)       [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]  
  เซียน

ภูมิลำเนา : สกลนคร
เข้าร่วม : 16 มี.ค. 2553
รวมโพสต์ : 2213
ให้สาธุการ : 180
รับสาธุการ : 5466320
รวม: 5466500 สาธุการ

 

อยากไป พ้อหน้า  อ้ายใหญ่ กับ สาวส่า แฮงอยู่ ครับ
แต่ว่า ภารกิจ กะคือหลายแถะ น้อ..ปีหน้า สิมีวาสนาบ่น้อ
แนวได๋ ปีหน้า กะจัดสถานที่ ทาง สระบุรี เด้อ. สิจองภูเขาเป็นหน่วยไว้ให้
พอได้ ม่วนซื่นกัน

แต่ว่าปีนี้กะนัดกันกับอ้ายจารย์ มากินแกงหน่อไม้ สระบุรี นำกันอยู่
ประมาณเดือน ก.ค. - ส.ค. ไผอยากมาหาบ่าวปิ่นนำอ้ายจารย์ กะยินดีเด้อ
โดยเฉพาะอ้ายหน่อ..บ่าวปิ่นลม อยากร่ำสุรานำ พะนะ

 
 
สาธุการบทความนี้ : 232 ครั้ง
จากสมาชิก : 0 ครั้ง
จากขาจร : 232 ครั้ง
 
 
  10 มิ.ย. 2553 เวลา 19:37:08  
   ขึ้นบน ลงล่าง  
 
         

  โพสต์โดย   1271) ผญา คติสอนใจ วัฒนธรรมถิ่นอีสาน สิ่งที่คนรุ่นใหม่ควรสืบทอดรักษาไว้ ใช่เพียงพูดได้ ต้องเข้าใจ ปฏิบัติ  
  ปิ่นลม    คห.ที่5)       [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]  
  เซียน

ภูมิลำเนา : สกลนคร
เข้าร่วม : 16 มี.ค. 2553
รวมโพสต์ : 2213
ให้สาธุการ : 180
รับสาธุการ : 5466320
รวม: 5466500 สาธุการ

 


ประเด็นนี้  หาอ่าน ผญาแบบต่างๆ ที่เขียนโดย สมาชิกอีสานจุฬา ได้ที่ ปลาร้านอกไห
ตามลิงค์เลยครับ เผื่อบางคนเข้ามาใหม่ ยังบ่รู้ หม่องหาอ่าน

http://www.isan.clubs.chula.ac.th/para_norkhai/index.php?transaction=post_view.php&cat_main=2&id_main=39&star=0#top

นำเสนอโดย ท่าน อ.มหา  สมบัติ   (ปธ.7)  และสมาชิกหลายท่าน

 
 
สาธุการบทความนี้ : 230 ครั้ง
จากสมาชิก : 0 ครั้ง
จากขาจร : 230 ครั้ง
 
 
  23 ส.ค. 2555 เวลา 09:12:31  
   ขึ้นบน ลงล่าง  
 
         

  โพสต์โดย   986) สับศัพท์.. คำที่เราใช้มีที่มาอย่างไร??  
  ปิ่นลม    คห.ที่14)       [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]  
  เซียน

ภูมิลำเนา : สกลนคร
เข้าร่วม : 16 มี.ค. 2553
รวมโพสต์ : 2213
ให้สาธุการ : 180
รับสาธุการ : 5466320
รวม: 5466500 สาธุการ

 
หมูมี มือ อยู่ บ้อ..
หมูบ่มีมือ เด้อ

คำว่ามือ ต้องมีห้า นิ้ว  หรือไม่ ก็ นิ้วเดียวไปเลย

ส่วนหมู เพิ่นเรียก  เท้าหมู ครับ ไม่เรียก มือหมู  

สุกร  = สุ แปล ว่า ดี , งาม ,ง่าย
          กระ ธาตุ  แห่ง การกระทำ

รวมกันแล้ว  แปลว่า ทำง่าย  ครับ
สังเกตุ เรื่องอะไร เรา ได้ทำง่ายๆ  เขาเรียกว่า เรื่อง หมู ๆ

 
 
สาธุการบทความนี้ : 229 ครั้ง
จากสมาชิก : 0 ครั้ง
จากขาจร : 229 ครั้ง
 
 
  20 ส.ค. 2553 เวลา 07:48:30  
   ขึ้นบน ลงล่าง  
 
         

  โพสต์โดย   983) แด่ผองเพื่อน วิญญูชน  
  ปิ่นลม    คห.ที่62)       [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]  
  เซียน

ภูมิลำเนา : สกลนคร
เข้าร่วม : 16 มี.ค. 2553
รวมโพสต์ : 2213
ให้สาธุการ : 180
รับสาธุการ : 5466320
รวม: 5466500 สาธุการ

 


ภาพจาก google

อ้างอิงที่มาจาก  พระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๐ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑๒ อังคุตตรนิกาย
เอก-ทุก-ติกนิบาต เกสปุตตสูตร (กาลามสูตร)

กาลามสูตร
แปลว่า พระสูตรที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงแก่ชาวกาลามะ หมู่บ้านเกสปุตติยนิคม
แคว้นโกศล (เรียกว่า เกสปุตสูตร ก็มี) กาลามสูตรเป็นหลักแห่งความเชื่อที่พระพุทธองค์ทรงวางไว้ให้แก่พุทธศาสนิกชน ไม่ให้เชื่อสิ่งใด ๆ อย่างงมงายโดยไม่ใช้ปัญญาพิจารณาให้เห็นจริงถึงคุณโทษหรือดีไม่ดีก่อนเชื่อ มีอยู่ 10 ประการคือ

1. อย่าเพิ่งเชื่อตามที่ฟังๆ กันมา
2. อย่าเพิ่งเชื่อตามที่ทำต่อๆ กันมา
3. อย่าเพิ่งเชื่อตามคำเล่าลือ
4. อย่าเพิ่งเชื่อโดยอ้างตำรา
5. อย่าเพิ่งเชื่อโดยนึกเดา
6. อย่าเพิ่งเชื่อโดยคาดคะเนเอา
7. อย่าเพิ่งเชื่อโดยนึกคิดตามแนวเหตุผล
8. อย่าเพิ่งเชื่อเพราะถูกกับทฤษฎีของตน
9. อย่าเพิ่งเชื่อเพราะมีรูปลักษณ์ที่ควรเชื่อได้
10. อย่าเพิ่งเชื่อเพราะผู้พูดเป็นครูบาอาจารย์ของตน

เมื่อใด ท่านทั้งหลายพึงรู้ด้วยตนเองว่า ธรรมเหล่านี้เป็นกุศล
ธรรมเหล่านี้ไม่มีโทษ ธรรมเหล่านี้ท่านผู้รู้สรรเสริญ
ธรรมเหล่านี้ใครสมาทานให้บริบูรณ์แล้ว เป็นไปเพื่อประโยชน์เกื้อกูล เพื่อความสุข
เมื่อนั้น ท่านทั้งหลายควรเข้าถึงธรรมเหล่านั้นอยู่
"""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""

ปัจจุบันแนวคิดและหลักสูตรที่สอนให้คนมีเหตุผลไม่หลงเชื่องมงาย ในทำนองเดียวกับคำสอนของพระพุทธองค์เมื่อ 2500 ปีก่อนได้รับการบรรจุเป็นวิชาบังคับว่าด้วยการสร้างทักษะการคิดหรือที่เรียกว่า "การคิดเชิงวิจารณ์" (Critical thinking) ไว้ในกระบวนการเรียนรู้ในมหาวิทยาลัยของประเทศพัฒนาแล้ว


การคิดเชิงวิจารณญาณ (Critical thinking) เป็นกระบวนการทางจิตสำนึกเพื่อวิเคราะห์ หรือ ประเมินข้อมูล ในคำแถลง หรือ ข้อเสนอที่มีผู้แถลงหรืออ้างว่าเป็นความจริง การคิดเชิงวิจารณญาณเป็นรูปแบบของกระบวนการที่สะท้อนให้เห็นความหมายของคำแถลง (Statement) และการตรวจสอบหลักฐานที่ได้รับการไต่ตรองด้วยเหตุและผล แล้วจึงทำการตัดสินคำแถลงหรือข้อเสนอที่ถูกอ้างว่าเป็นความจริงนั้น


การคิดเชิงวิจารณญาณอาจทำได้จาก
1การรวบรวมข้อมูล
2 การสังเกตการณ์
3 ประสบการณ์  ทดลองปฏิบัติ
4 หลักแห่งเหตุและผล หรือการสื่อความ การคิดเชิงวิจารณญาณ

แนวความคิดที่พุทธองค์ทรงแนะแนวทางให้ ทุกคนในโลก  ทุกเผ่าพันธุ์ ทุกศาสนา คิด คือ
ต้องมีพื้นฐานของคุณค่าเชิงปัญญา ที่สูงเลยไปจาก การแบ่งเนื้อหาที่รวมไปถึง ความกระจ่างชัด
ความแม่นยำ ความต้องตรงเนื้อหา หลักฐาน ความครบถ้วนและความยุติธรรม

ความหมายหรือนิยามการคิดเชิงวิจารณญาณมีมากมายและหลากหลาย แต่ส่วนใหญ่ไปในแนวเดียวกันคือการใช้เหตุผล หลักฐานและตรรกะมาวิเคราะห์ให้แน่ชัดก่อนลงความเห็นหรือตัดสิน

พระพุทธเจ้าได้ใช้วิธีการสอนที่อาจนับเป็นการคิดเชิงวิจารณญาณที่เรียกว่า "ปุจฉาวิสัชนา" ด้วยการให้พระสงฆ์ใช้ "วิจารณญาณ" ถามตอบซักไซ้ไล่เลียงค้านกันไปมาจนได้คำตอบซึ่งอาจถือได้ว่าเป็นการคิดเชิงวิจารณญาณ โดยทรงให้หลักแห่งความเชื่อที่ไม่งมงายไว้ในพระสูตรชื่อ กาลามสูตร

แนวทางที่ ประเทศพัฒนาแล้ว บรรจุเป็นวิชาบังคับ ให้นักเรียนนักศึกษาได้มีองค์แนวคิดแบบ การคิดเชิงวิจารณญาณ  พุทธองค์ทรง ตรัสรู้, ค้นพบ และนำมาเผยแพร่ มาก่อนนับ 2500 ปีแล้ว

แล้วประเทศเราหล่ะ  ปลูกฝังให้คิดแบบพุทธองค์ทรงชี้ทางให้ เหมือน ประเทศที่เขาพัฒนาแล้วหรือเปล่า
คิดแล้ว ขนลุก  พุทธองค์ทรงรู้แนวความคิดนี้ เมื่อ 2500 ปีก่อนได้อย่างไร

 
 
สาธุการบทความนี้ : 228 ครั้ง
จากสมาชิก : 1 ครั้ง
จากขาจร : 227 ครั้ง
 
 
  19 ส.ค. 2553 เวลา 10:00:25  
   ขึ้นบน ลงล่าง  
 
         

  โพสต์โดย   870) งานพบปะสังสรรค์อีสานจุฬาแฟนคลับ 2553  
  ปิ่นลม    คห.ที่76)       [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]  
  เซียน

ภูมิลำเนา : สกลนคร
เข้าร่วม : 16 มี.ค. 2553
รวมโพสต์ : 2213
ให้สาธุการ : 180
รับสาธุการ : 5466320
รวม: 5466500 สาธุการ

 
อยากไป เด้.... เป็นตา จุ้มกัน ปานหมากผีผ่วน เนาะ
แต่ ยากเวียกหลาย    ( ลาออกจากงาน สาบ่หึ )
ไว้โอกาสหน้า เด้อ..
บ่าวปิ่นสิ ต่อท่อ ไปเปิดก๊อก หม่องหน้าเวทีโลด สาโทหวาน มีวิตามิน แอลล์

 
 
สาธุการบทความนี้ : 226 ครั้ง
จากสมาชิก : 0 ครั้ง
จากขาจร : 226 ครั้ง
 
 
  04 พ.ค. 2553 เวลา 20:30:37  
   ขึ้นบน ลงล่าง  
 
         

  โพสต์โดย   928) นิยายของปังคุง~  
  ปิ่นลม    คห.ที่23)       [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]  
  เซียน

ภูมิลำเนา : สกลนคร
เข้าร่วม : 16 มี.ค. 2553
รวมโพสต์ : 2213
ให้สาธุการ : 180
รับสาธุการ : 5466320
รวม: 5466500 สาธุการ

 

ได้ เกลือแร่ ของ อ้ายหน่อ   ก้อนบักใหญ่  เซา ขี้ซุแล้ว พะนะ
เหลือแต่  ไวท์หมากผีพ่วน  แก้เจ็บโบกตา  มีอยู่บ้อ.ญาอ้าย

 
 
สาธุการบทความนี้ : 225 ครั้ง
จากสมาชิก : 0 ครั้ง
จากขาจร : 225 ครั้ง
 
 
  13 ก.ค. 2553 เวลา 14:16:32  
   ขึ้นบน ลงล่าง  
 
         

  โพสต์โดย   983) แด่ผองเพื่อน วิญญูชน  
  ปิ่นลม    คห.ที่1)       [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]  
  เซียน

ภูมิลำเนา : สกลนคร
เข้าร่วม : 16 มี.ค. 2553
รวมโพสต์ : 2213
ให้สาธุการ : 180
รับสาธุการ : 5466320
รวม: 5466500 สาธุการ

 


ขอบคุณเจ้าของภาพ

จักรวาลเมื่อ 14,000 ล้านปีก่อน ยังไม่มีอะไรเลย เป็นที่ว่าง ( แต่ไม่ว่าง ) สัญนิษฐานว่า
อยู่ดีๆ ก็มีพลังงานมากมายทำปฏิกิริยากัน จึงการระเบิดครั้งยิ่งใหญ่ ( Big bang )
มิติของสถานที่และเวลาได้เกิดขึ้น ในบัดนั้น

ครานั้นได้มีรังสีคอสมิก (Cosmic Rays) กระจายออกไป มวลสารและพลังงานมหาศาลที่เกิดขึ้น( จากการระเบิด)ได้พุ่งออกจากจุดเดียวกัน ต่อมาเมื่อ อุณหภูมิเย็นลงเหลือ 3300 เซลเซียส มวลสารค่อยจับตัวเป็นอะตอม มีการจับตัวของมวลสาร
กลายสภาพ แปรเปลี่ยน จนเป็นดาวเคราะห์ และดาวฤกษ์ที่มีแสงสว่างส่องออกมา และเกิดเทหวัตถุท้องฟ้า อีกหลายชนิด
อ้อนี่เอง จุดกำเนิดโลกหนอ  
มาจาก อรูปธรรม  แปรสภาพผันแปร( ความไม่เที่ยงแท้ ) มาเป็น  รูปธรรม


จักรวาลมีการขยายตัวอย่างรวดเร็ว เมื่อเวลาผ่านไปยิ่งมากอัตราการขยายตัวก็ยิ่งสูงขึ้นเป็นลำดับ
และจักรวาลก็จะเย็นตัวลงตามลำดับ  ในที่สุดจะไม่มีดาวฤกษ์ดวงใดสามารถส่องแสงได้อีก
นานไป ทุกอย่างก็สลาย ไร้ซึ่งลักษณะของ  รูปธรรม

หากรู้ความเป็นมาเช่นนี้แล้ว จะอธิบาย ให้คนอินเดียสมัยโบราณ สมัย 2500 ปีก่อน เข้าใจถึงองค์ประกอบจักวาล และกำเนิดโลกเช่นใดหนอ  เอาอย่างนี้ก็แล้ว กัน   รูปธรรม  กับ อรูปธรรม  
โลกใบนี้กำเนิดมาจากความว่างเปล่า   ทุกอะตอมล้วนมาจากความว่าง   เมื่อสำรวจลงไปถึงหน่วยวัดที่เล็กลงไปอีก
จะพบแต่คลื่นความสั่นของพลังงาน ( จากการระเบิดของ Bigbang ) เหมือนกันทุกสรรพสิ่ง

เราจะมัวยึดมั่น ถือมั่น ก่อเวร สร้างสิ่งไม่ดี เพื่อสนองอาการสั่นนั้นอยู่ทำไม  ปล่อยวางเถิด

ละความชั่ว  ทำกรรมดี   ทำจิตให้ผ่องแผ้ว  เทอญ ผองเพื่อนแห่งกลุ่มก้อนสสาร ในสากลโลก

 
 
สาธุการบทความนี้ : 225 ครั้ง
จากสมาชิก : 0 ครั้ง
จากขาจร : 225 ครั้ง
 
 
  17 ส.ค. 2553 เวลา 12:08:46  
   ขึ้นบน ลงล่าง  
 
         

  โพสต์โดย   143) ร้อยกรองกวีกานต์ ร้อยกลอนกวีกัน  
  ปิ่นลม    คห.ที่137)       [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]  
  เซียน

ภูมิลำเนา : สกลนคร
เข้าร่วม : 16 มี.ค. 2553
รวมโพสต์ : 2213
ให้สาธุการ : 180
รับสาธุการ : 5466320
รวม: 5466500 สาธุการ

 

ดอกบัวสวรรค์ ช่อผลิ        บนบก
ไร้สายบัวลอยปรก           นำใส
สายพันธุ์ข้ามฟาก             ขจรแดนมังกรใหญ่
กลีบอรชร พิศมัย             นางใน  องค์..อมรินทร์

 
 
สาธุการบทความนี้ : 223 ครั้ง
จากสมาชิก : 0 ครั้ง
จากขาจร : 223 ครั้ง
 
 
  09 ส.ค. 2554 เวลา 15:16:31  
   ขึ้นบน ลงล่าง  
 
         

  โพสต์โดย   847) ชาติพันธุ์และชนเผ่าต่างๆใน 19 จังหวัดอีสาน  
  ปิ่นลม    คห.ที่38)       [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]  
  เซียน

ภูมิลำเนา : สกลนคร
เข้าร่วม : 16 มี.ค. 2553
รวมโพสต์ : 2213
ให้สาธุการ : 180
รับสาธุการ : 5466320
รวม: 5466500 สาธุการ

 
คุณต้องแล่ง:
เท่าที่สังเกตเบิ่ง  หลายคนเป็นชน  "เผ่าเก็งกอง" ยกเว้นข่อยผู้เดียว    



  รอดป่องขาด แต่จะของ น้อ...เผ่านาคา   บ้อ.อาจารย์

 
 
สาธุการบทความนี้ : 221 ครั้ง
จากสมาชิก : 0 ครั้ง
จากขาจร : 221 ครั้ง
 
 
  17 มิ.ย. 2553 เวลา 18:31:53  
   ขึ้นบน ลงล่าง  
 
         

  โพสต์โดย   143) ร้อยกรองกวีกานต์ ร้อยกลอนกวีกัน  
  ปิ่นลม    คห.ที่114)       [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]  
  เซียน

ภูมิลำเนา : สกลนคร
เข้าร่วม : 16 มี.ค. 2553
รวมโพสต์ : 2213
ให้สาธุการ : 180
รับสาธุการ : 5466320
รวม: 5466500 สาธุการ

 


ขอบคุณเจ้าของภาพ

หอมกลิ่นใบข้าวกรุ่น  ลมละมุนพัดสั่นไหว
กอเขียวโอนเอนไป   หัวใจเอนอ่อนตาม
  นิยามคำว่านิ่ง        คือทุกสิ่งที่ไถ่ถาม
คิดถึงทุกโมงยาม      ฝากคำถามมากับลม

น้ำค้างบนใบข้าว      แลพร่างพราวแสนสุขสม
ละเหิดเหยใจข้าตรม   แลหาย..มลาย..เลือน...

                                      วายุติ้ว  ( ปิ่นลม )

 
 
สาธุการบทความนี้ : 219 ครั้ง
จากสมาชิก : 0 ครั้ง
จากขาจร : 219 ครั้ง
 
 
  07 ก.ค. 2553 เวลา 00:58:40  
   ขึ้นบน ลงล่าง  
 
         

  โพสต์โดย   143) ร้อยกรองกวีกานต์ ร้อยกลอนกวีกัน  
  ปิ่นลม    คห.ที่120)       [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]  
  เซียน

ภูมิลำเนา : สกลนคร
เข้าร่วม : 16 มี.ค. 2553
รวมโพสต์ : 2213
ให้สาธุการ : 180
รับสาธุการ : 5466320
รวม: 5466500 สาธุการ

 


ขอบคุณเจ้าของภาพ


ถึงโลกแยกแตกดับ...จันทร์ลับฟ้า
ถึงชีวาตักษัย...........ใช่แหนงหนี
ถึงจะร้างห่างกัน........ชั่วนานปี
ถึงร่างนี้ถูกฝัง........ยังรักนาง ฯ


                                      ปิ่นลม  

 
 
สาธุการบทความนี้ : 216 ครั้ง
จากสมาชิก : 0 ครั้ง
จากขาจร : 216 ครั้ง
 
 
  08 ก.ค. 2553 เวลา 17:02:39  
   ขึ้นบน ลงล่าง  
 
         

  โพสต์โดย   933) อยากทราบประวัติโส้ทั่งบั้งโยละเอียดครับ  
  ปิ่นลม    คห.ที่1)       [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]  
  เซียน

ภูมิลำเนา : สกลนคร
เข้าร่วม : 16 มี.ค. 2553
รวมโพสต์ : 2213
ให้สาธุการ : 180
รับสาธุการ : 5466320
รวม: 5466500 สาธุการ

 

สามารถ หาข้อมูลได้ ตามกระทู้ ลิงค์ด้านล่าง ครับ
รายละเอียด อ้ายโอ๊ต เพิ่นอธิบายไว้ชัดเจน

นี่ลิ้งนะครับ
http://www.isan.clubs.chula.ac.th/webboard/index.php?transaction=post_view.php&room_no=0&id_main=1311&star=10

 
 
สาธุการบทความนี้ : 216 ครั้ง
จากสมาชิก : 0 ครั้ง
จากขาจร : 216 ครั้ง
 
 
  13 ก.ค. 2553 เวลา 14:23:52  
   ขึ้นบน ลงล่าง  
 
         

  โพสต์โดย   865) รวมคำทำนายโลก...จะแตกสลายหรือไม่  
  ปิ่นลม    คห.ที่1)       [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]  
  เซียน

ภูมิลำเนา : สกลนคร
เข้าร่วม : 16 มี.ค. 2553
รวมโพสต์ : 2213
ให้สาธุการ : 180
รับสาธุการ : 5466320
รวม: 5466500 สาธุการ

 
ทุกสิ่งทุกอย่าง ในจักวาล ล้วนมีลักษณะ สามประการ ตามพุทธองค์กล่าว
1. เกิดขึ้น ,อุบัติขึ้น
2 ตั้งอยู่  , ดำรงอยู่ เจริญอยู่
3 ดับไป  , สูญสิ้นไป

แล้วมันก็จะ วนมาอีกเหมือนเดิม  นี่คือธรรมชาติ หรือกฏ ที่ไม่อาจหลีกเลี่ยง
ทรงทำนายไว้ว่า โลกจะเสื่อมโทรม พินาศ เมื่อปรากฎ ดวงอาทิตย์เจ็ดดวง
หมายความว่า เมื่อใดที่โลกร้อนขึ้นกว่า 2000 ปีที่แล้ว 7 องศา
มนุษย์จะพบกับหายนะ  ปัจจุบัน โลกร้อนขึ้นกว่า 2000 ปีที่แล้ว 3 องศา
และมีแนวโน้มจะร้อนขึ้นเรื่อย ๆ
เราชาวพุทธ ควรมองโลกให้เป็น  หายนะเกิดขึ้นแน่ เพราะมันเป็นธรรมดา
ระหว่างที่มีชีวิตอยู่ ควรประกอบแต่กรรมดี ละเว้นกรรมชั่ว  ทำใจให้ผ่องแผ้ว

เหตุการณ์ที่ เจ้าของกระทู้กล่าวมา พุทธองค์ทรงเห็นมาก่อนแล้ว 2500 ปี
อย่าเพิ่งเชื่อ คำที่ผมกล่าว จนกว่าจะศึกษา ว่าผมพูดความจริง
อย่าเพิ่งเชื่อสิ่งใด จนกว่าจะ พิจราณาและใคร่ครวญแล้ว พุทธองค์ทรงตรัสไว้

 
 
สาธุการบทความนี้ : 215 ครั้ง
จากสมาชิก : 0 ครั้ง
จากขาจร : 215 ครั้ง
 
 
  19 เม.ย. 2553 เวลา 10:03:04  
   ขึ้นบน ลงล่าง  
 
         

  โพสต์โดย   986) สับศัพท์.. คำที่เราใช้มีที่มาอย่างไร??  
  ปิ่นลม    คห.ที่5)       [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]  
  เซียน

ภูมิลำเนา : สกลนคร
เข้าร่วม : 16 มี.ค. 2553
รวมโพสต์ : 2213
ให้สาธุการ : 180
รับสาธุการ : 5466320
รวม: 5466500 สาธุการ

 





ภาษาบาลี นับว่าเป็นศาสตร์ แห่งภาษาครับ หากเข้าใจแล้ว
การจัดเรียงรูปประโยค ต่างๆ  หากเอาภาษาอังกฤษ มาวาง
เขียนความสัมพันธ์  คล้ายภาษา บาลี (มคธ ) มาก
คำทุกคำ ศัพท์ ทุกศัพท์  มีทีมาที่ไป สาเหตุ แสดงถึงต้นตอ ของการออกเสียงพร้อม

สำหรับผู้เริ่มใหม่ คือขะน้อย กะสิ เริ่มท่อง สระและ พยัญชนะ ในภาษามคธ เกิ่นดอก

ภาษาไทยมีภาษาบาลีและสันสกฤตเข้ามาปะปนอยู่มากมายจนกลายเป็นภาษาหลักของภาษาไทย   ไทยรับภาษาบาลีเข้ามาทางพระพุทธศาสนา และภาษาสันสกฤตเข้ามาทางศาสนาพราหมณ์  

สระและพยัญชนะในภาษาบาลีและสันสกฤต

        ภาษาบาลี  มีสระ 8 ตัว คือ อะ อา อิ อี อุ อู เอ โอ  


พยัญชนะบาลี  มี 33 ตัว แบ่งเป็น 5 วรรค ๆ ละ 5 ตัวตามฐานที่เกิด
กับเศษวรรคอีก 8 ตัว

วรรคกะ - ฐานคอ(กัณฐชะ)  หมายถึง เสียงกำเนิดจากคอ ได้แก่
            ก ข ค ฆ ง ( ท่อง  กะ ขะ คะ ฆะ งะ )

ฮิ้ว...รู้แล้ว ว่า ฆ.(คอระฆัง) ในภาษาไทย มาจากไหน  แล้วทำไมไม่ใช้

เท่านี้ก่อน นะครับ ให้ทบทวนก่อน เรียนมาด่นแล้ว  เกือบแม่น เข้าหม้อ
ดีที่ได้ ท่าน มหามังกรเดียวดาย อ้ายใหญ่ ทบทวนให้

 
 
สาธุการบทความนี้ : 214 ครั้ง
จากสมาชิก : 0 ครั้ง
จากขาจร : 214 ครั้ง
 
 
  19 ส.ค. 2553 เวลา 15:40:55  
   ขึ้นบน ลงล่าง  
 
         

  โพสต์โดย   983) แด่ผองเพื่อน วิญญูชน  
  ปิ่นลม    คห.ที่31)       [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]  
  เซียน

ภูมิลำเนา : สกลนคร
เข้าร่วม : 16 มี.ค. 2553
รวมโพสต์ : 2213
ให้สาธุการ : 180
รับสาธุการ : 5466320
รวม: 5466500 สาธุการ

 

จอมยุทธทุกท่าน ชมกระบวนท่า วาโยสาโทริน ของข้าน้อยเกินไปแล้ว
ถึงกับทำให้ ผู้เยี่ยมยุทธจาก ถิ่นสุวรรณภูมิ ใช้ท่าไม้ตาย "ลมปราณหกกลับ"
ขับพิษ ทั้งราตรี  ถึงโคจรลมปราณเป็นปกติ

เสียดาย ปรมาจารย์ บาล มิอาจเยี่ยมกลายมาได้
จึงมิได้ชมท่า " กระบี่จางจืด " ที่สยบ พิษสาโทรินได้ แม้กระทั่งตอนตำจอก

ส่วนท่านจอมยุทธ ชาญแดนพนม มีวิชา ภาพมายา พิษสาโทริน มิอาจกลายกล้ำ

ท่าน กระฮอกด่อน นั้นเล่า  มีวิชา " ไร้กระดูกไร้เอ็น " อาศัยเสามั่ง ม้านั่งมั่ง
พิงไปเรื่อย  จนรอดพ้น วิกฤต

ทาง ท่านใต้ซือ หนุ่มลำน้ำมูล  งัดวรยุทธ "ลมปราณหน้าหยก " ใช้ความหล่อ
หลอกล่อ จนพิษสาโท  กลายเป็นน้ำเปล่า

หลักแหลมที่สุด เห็นจะเป็น "เทพสี่ตา "  ท่าน หน่อ
"ใช้กลยุทธ ไม่ว่าง คือ ว่าง "
ที่ว่าไม่ว่างคือปาก  ร้องลำตังหวาย  เพื่อให้ท้องว่างจากสาโท
นับว่าเฉียบคมยิงนัก

นับถือ  นับถือ

 
 
สาธุการบทความนี้ : 213 ครั้ง
จากสมาชิก : 0 ครั้ง
จากขาจร : 213 ครั้ง
 
 
  17 ส.ค. 2553 เวลา 17:28:22  
   ขึ้นบน ลงล่าง  
 
         

  โพสต์โดย   143) ร้อยกรองกวีกานต์ ร้อยกลอนกวีกัน  
  ปิ่นลม    คห.ที่116)       [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]  
  เซียน

ภูมิลำเนา : สกลนคร
เข้าร่วม : 16 มี.ค. 2553
รวมโพสต์ : 2213
ให้สาธุการ : 180
รับสาธุการ : 5466320
รวม: 5466500 สาธุการ

 


ขอบคุณเจ้าของภาพ

ถึงอ้ายครูต้องแล่ง     ทางสองแพร่งช่วยชี้ขาน
อบรมในสันดาน       สอนลูกหลานบ้านของเฮา
หนึ่งนั้นซึ้งใจอยู่       ด้วยคุณครูดังขุนเขา
หนักแน่นและหวิวเบา ด้วยจังหวะของเรือพาย
เคยบวชมาหลายปี   มาบัดนี้ "สิก" หนีหาย
สอนศิษย์ไม่ทิ้งลาย  หวังให้ก้าวเป็นคนดี


                             เป็นกำลังใจให้อ้ายญาคู จาก  วายุติ้ว ( ปิ่นลม)

 
 
สาธุการบทความนี้ : 209 ครั้ง
จากสมาชิก : 0 ครั้ง
จากขาจร : 209 ครั้ง
 
 
  07 ก.ค. 2553 เวลา 07:47:12  
   ขึ้นบน ลงล่าง  
 
         

  โพสต์โดย   909) ตำนานบั้งไฟผาแดงนางไอ่กับหนองหานกุมภวาปี จังหวัดอุดรธานี  
  ปิ่นลม    คห.ที่15)       [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]  
  เซียน

ภูมิลำเนา : สกลนคร
เข้าร่วม : 16 มี.ค. 2553
รวมโพสต์ : 2213
ให้สาธุการ : 180
รับสาธุการ : 5466320
รวม: 5466500 สาธุการ

 

ผมว่า ลองไปสืบค้นตำนาน นางฝั่งขวาเบิ่ง น้อ..มันสิเกี่ยวข้อง หรือแตกต่าง บ่
เนื่องจากต่างคนก็ต่างบันทึก  และที่สำคัญ  
ประวัติศาสตร์ไทย ผู้ชนะเท่านั้น ที่มีสิทธิ์บันทึก

ส่วนใหญ่แล้ว ชนชาติใน จ.สกลนคร มีหลายชนชาติ ล้วนถูกกวาดต้อน
มาตอนตีเวียงจันทร์  หรือย้ายมาทีหลัง หลังจากการปกครอง ถูกจัดระเบียบแล้ว
มันเป็นการบันทึกประวัติศาสตร์  ส่วนตำนาน เป็นเรื่องของคนที่อยู่ในพื้นที่

คนทางบ้าน บอกว่า น้ำก่ำ  คือทางหลบหนีของผาแดง ขี่ม้าบักก่ำ หนีพังคี
( ฮู้ฮอดสีม้าที่ขี่ )  วังฆ้อง  คือ นางไอ่ทิ้ง สิ่งของเหล่านั้นลงเพราะ ขาหลังของม้า
หล่มอยู่ตลอด ย้านหนัก  ทิ้งฮอดแหวนอยู่นิ้ว  เอิ้นว่า วังแหวน
ลำน้ำกำจากหนองหาน ทอดผ่านยาวไปหาน้ำโขง ทางหนีไปทาง อาณาจักรศรีโคตร เมืองผาแดง  แต่บ่ฮอดน้ำโขง ครับ  น้ำก่ำสุดก่อน เพราะนางไอ่ตกก่อน
ส่วนเรื่องตำนานนาค อันนั้นอันนี้  คือบ่เคยได้ยินผู้เฒ่าเพิ่นเว้า เคยได้อ่าน
แต่ในหนังสือ อย่างที่อ้ายเน็ก อ้างมานั้นหละ  ฟานด่อน  อันนั้นหละครับ

อนึ่ง นางไอ่เป็น ธิดาขอม  แสดงว่าตรงหนองหานหล่ม ต้องเป็นหัวเมืองขอม
ที่เจริญรุ่งเรือง ขนาดที่จัดงานชุมนุมใหญ่ได้ ( อันนี้ต้องหาหลักฐาน สนับสนุน
ว่ามี หลักฐานสิ่งก่อสร้าง หรือ อื่นๆ ที่เป็นแบบขอม  ว่ามีอยู่ใกล้ๆ หนองหานบ่ )

แต่ว่าทาง จังหวัดอื่น ก็ มีตำนานเกี่ยวข้องหลายๆ อัน คล้ายๆ กัน
หนองหาน ก็มีหลายหม่อง  หรือ หนองหาร  กับ หนองหาน   หนองหาย์น
บันทึกบ่คือกัน  ตามที่ผมสรุป คือ สรุปบ่ได้ ว่าเรื่องนี้ เกิดขึ้นตรงที่ใด
ตำนาน ผาแดงนางไอ่ อาจเป็น ตำนานของชาวอีสาน ทั้งหมด ก็ได้
แต่ข้ามไปทางฝั่งขวา ประเทศลาว  ก็ได้ยินมาแบบนี้ คล้ายๆ ทางบ้านผม

บ่ได้ตั้งใจให้ กระทู้เปลี่ยนความหมายเด้อ ครับ  เพียงแต่ แสดงความเห็นที่แตกต่าง
อ้างอิงกันไปตามที่ได้ยินได้ฟังมา  ผิดหรือถูก กะบ่รู้  กะลองหาหลายๆ ฉบับเบิ่ง
ว่ามีอันไดเกี่ยวข้องกัน  แต่ถามคนส่วนมาก สิได้คำตอบว่า สรุปบ่ได้แน่ชัด
ว่าหนองหาน ตำนานผาแดง-นางไอ่คำ  หนองหาน อันไดกันแน่
ไผกะว่าของไผ  
เพราะว่ามันเป็นตำนาน บ่มีไผเกิดได้ใหญ่ทัน และมันก็บ่แม่นของไผ เพราะเป็นนิทาน
คนแต่ง แม่นไผกะบ่รู้...น้อ...อย่าสุเครียดถ่อน

 
 
สาธุการบทความนี้ : 205 ครั้ง
จากสมาชิก : 0 ครั้ง
จากขาจร : 205 ครั้ง
 
 
  23 มิ.ย. 2553 เวลา 12:14:37  
   ขึ้นบน ลงล่าง  
 
         

  โพสต์โดย   983) แด่ผองเพื่อน วิญญูชน  
  ปิ่นลม    คห.ที่16)       [ไปที่ความเห็นนี้ ในกระทู้นี้]  
  เซียน

ภูมิลำเนา : สกลนคร
เข้าร่วม : 16 มี.ค. 2553
รวมโพสต์ : 2213
ให้สาธุการ : 180
รับสาธุการ : 5466320
รวม: 5466500 สาธุการ

 
คุณจารย์ใหญ่:
คุณปิ่นลม:

สำหรับ จารย์ใหญ่  ต้องเอิ้น  วิน ยู สระบุรี


สรุปว่า จารย์ใหญ่ บ่ได้เป็น วิน ยู ชล นำเผิ่นเนาะครับ



มีแต่ อีเกียแดง  กับ บ่าวแก่นนคร  นั่นหละ วิน ยู ชล

 
 
สาธุการบทความนี้ : 205 ครั้ง
จากสมาชิก : 0 ครั้ง
จากขาจร : 205 ครั้ง
 
 
  17 ส.ค. 2553 เวลา 14:41:17  
   ขึ้นบน ลงล่าง  
 
         

  หน้า: 1 2

   

Creative Commons License
แด่ผองเพื่อน วิญญูชน --- เว็บบอร์ดอีสานจุฬาฯ