ผญา คติสอนใจประจำวันที่ 26 เมษายน 2568:: อ่านผญา 
คันได้กินปลาแล้วอย่าลืมปูปะปล่อย ลางเทื่อปลาขาดข้องยังสิได้ป่นปู แปลว่า หากได้กินปลาแล้ว ก็อย่าลืมปู ทิ้งปู เผื่อวันที่ปลาหมด จะได้นำปูมาทำอาหารแทนปลา หมายถึง พึงเป็นคนกตัญญู อย่าลืมคุณคน

ประเพณีอีสาน  

บุญบั้งไฟ...ประเพณีอีสาน --- โดยอีสานจุฬาฯ
  หน้าก่อน หน้าถัดไป
บุญบั้งไฟ



เซิ้งบั้งไฟ

เซิ้ง คือการขับบทกลอนประเภทกาพย์ ด้วยจังหวะและทำนองเฉพาะตัว โดยมีผู้นำขับกาพย์เซิ้ง 1 คน ร้องนำไปทีละวรรค คนที่เหลือก็ร้องตามไปทีละวรรค

เซิ้งบั้งไฟ เป็นการฉลองบั้งไฟที่ทำเสร็จเรียบร้อยแล้ว และเสมือนเป็นการโฆษณาบั้งไฟของตนไปในตัว โดยนำบั้งไฟไปแห่ตามบ้านเรือน มีการร้องบทเซิ้งบั้งไฟไปด้วย เมื่อถึงหน้าบ้าน ก็หยุดขบวน และร้องบทเซิ้งกระเซ้าเหย้าแหย่ไปเรื่อยๆ เมื่อเห็นว่าสมควรแล้ว ก็เคลื่อนขบวนไปบ้านต่อๆ ไป


ตัวอย่างกาพย์เซิ้งบั้งไฟ(1)

กาพย์พระเวสสันดร

โอ้ โฮ้ โอ โฮ้ โอ้ โฮ้ โอ

โอมพุทโธ นโมเป็นเค้า
ข้อยสิเว้า เรื่องพระเวสสันดร
พระภูธร ให้ทานซ้างม้า
ใจแก่กล้า ทานลูกทานเมีย

สละเสีย มัทรีนางแก้ว
ทานให้แล้ว แก่เฒ่าตาพราหมณ์
สองนงค์งาม บุตตาแก้วกิ่ง
ฮักยอดยิ่ง กัณหาชาลี

พระมุนี ให้ทานบ่อไว้
พราหมณ์ขี้ไฮ้ ชื่อชูชะโก
ใจโลโภ ขอสองอ่อนน้อย
ไปเป็นข้อย อมิตตะตา

ภรรยา ของตาพราหมณ์เฒ่า
พระบาทเจ้า ยอให้บ่ขิน
ชูชะโก ได้สองอ่อนน้อย
หน้าแช่มช้อย ควรฮักควรแพง

พราหมณ์ใจแข็ง ตีไปต่อหน้า
พราหมณ์ใจกล้า ผูกศอกตีไป
นางศรีไว กัณหาลูกแก้ว
ฮ้องแจ้วๆ ขอโทษดอมพราหมณ์

สองนงค์งาม หลุดมือพราหมณ์เฒ่า
ฮีบไปเฝ้า พระเวสบิดา
จงกูร์ณา สองข้าลูกน้อย
พราหมณ์มันป้อย มันด่ามันตี

มันบ่มี กูร์ณาจักหยาด
หลังข้าน้อย เป็นบาดเลือดไหล
พระจอมไท้ เอ็นดูลูกน้อย
ปานเป็นข้อย พราหมณ์ฆ่าให้ตาย

บ่เสียดาย ชีวิตจักหยาด
ยังอนาถ นำแม่มัทรี
แม่ยังหนี ไปดงไปป่า
ขอเห็นหน้าเสียแล้วจั่งไป

ตามนิสัย ใจดำใจหยาบ
มันกำราบ ฮ้องด่าสองรา
พระบิดา แลเห็นฮ้องไห้
พระบาทไท้ อดเคียดอดเคือง

อดจนเหลือง น้ำตาเป็นเลือด
ทุกข์บ่เหือด นำลูกทั้งสอง
พระยังปอง ให้ทานบ่ไว้
พระจึงได้ ตรัสส่องโพธิญาณ

สร้างวิมาน สมภารแสนยาก
แสนลำบาก จึ่งได้นิพพาน
....



เอกสารอ้างอิง : สุจิตต์ วงษ์เทศ, ประเพณีการเซิ้งบั้งไฟ
  หน้าก่อน หน้าถัดไป

 
Creative Commons License

ชมรมอีสานจุฬาฯ... ประเพณีอีสาน